จุฬาฯโต้เป็นไปไม่ได้กรุงเทพฯจมบาดาล

ผู้ที่ออกข่าว(ว่าน้ำจะท่วมกรุงเทพฯ)เขาก็ยังคงอยู่ในกรุงเทพฯ หรือเปล่าครับ

 

แค่น้ำเจ้าพระยาสูงขึ้น 20 ซม. แล้ว กทม.มันจะเป็นยังไง พวกนักวิชากลวงตอบหน่อยสิ ดร.เค้ามีวิชาการมาแสดง แต่พวกคุณมันมีแต่ปาก กับมือคอยรับจ๊อบนักการเมืองสร้างข่าว กับกลบข่าว มันน่าเชื่อตรงไหนกัน แล้วมันจะไม่ท่วมตรงไหน ที่ก กทม.มันอยู่ได้ทุกวันนี้เพราะท่อระบายน้ำหรอก ถ้าท่อมันจมน้ำมันจะระบายยังไง เอาเครื่องสูบน้ำตามนาข้าวมาดูดออกหรือไง คิดว่าประชาชนมันโง่มากเหรอ เอาเชื่อจุฬามาหากินอีก.
ไอ่คำว่าเป็นไปไม่ได้เนี้ย สึนามิก็ทีหนึ่งแล้ว คำว่าเป็นไปไม่ได้เนี้ยมันพาประชาชนออิ๊บอ๋ายมากี่ครั้งแล้วในประวิติศาสตร์ของประเทศน่ะ นักวิชากรวง.

 

เรื่องของจุฬา .......... งานนี้ ตัวใครตัวเผือก ......... ไม่มีใครบังคับ
555555+ + +

 

ถูกต้อง ครับผมว่า มันคนละข้อมูลกันนะครับ

 

กันไว้ดีกว่าแก้ครับ ดีที่สุด

 

ผมสงสาร ทางทีมงานพลังจิต ทุก ๆ ท่านที่ได้จัดงานอันมีคุณค่าทางความรู้ขึ้นมา ให้ทุก ๆ ท่านได้รับทราบ เป็นงานเชิงวิชาการ เพื่อให้ทุกท่านตระหนักถึงภัยพิบัติ ใกล้ตัว การเตรียมการ ป้องกันไม่ควรให้เกิด

ผมไม่ทราบว่า อำนาจทางการเมือง และอำนาจต่าง ๆ จะเข้ามากดดันทางทีมงานและเวป ให้เดือดร้อนบ้างหรือเปล่า

เป็นกำลังใจช่วยต่อไปครับ
ขอบคุณครับ

 

เป็นธรรมดาที่ความเห็นแตกต่างกัน

เพราะขึ้นชื่อว่า นักวิชาการ ก็ต้องอ้างอิงข้อมูล

แตกต่างกันมาก เพราะระดับของสมมุติฐานแตกต่างกันมากเกินไป

 

วิทยาศาสตร์อย่างเดียวมองไม่เห็นทั้งหมด

ความจริงผมอยู่ในแวดวงวิชาการจะเห็นว่าทางวิชาการเขาดูแต่สถิติอย่างเดียว+การคำนวณโดยไม่เชื่อมโยงศาสตร์อื่นๆเหมือนที่ท่านวิทยากรภัยพิบัติบางคนพยายามสื่อในงานนี้( ท่านผู้รู้บางคนที่มาในงานมี วิทยาศาสตร์ทางวัตถุ+วิทยาศาสต์ทางจิต)ทำให้"ตา"ที่นักวิทยาศาสตร์ทางวัตถุอย่างเดียวมองเห็นจะสั้นๆถึงแม้เขาจะคิดว่ายาวแล้ว เพราะเขาไม่ใช้หลักธรรมอื่นมาประกอบด้วยซึ่งก็เข้าใจในความสุดโต่งทางวิทยาศาสตร์ทางวัตถุที่เขาเชื่อจากสิ่งที่เขาเห็นอย่างเดียวซึ่งนี่ก็คือ"โลกธรรม"ที่เป็นเรื่องที่ปัจจุบันมันมีหลากหลายความเชื่อนักซึ่งผมก็คิดอยู่แล้วว่ากลุ่มทางมูลนิธิฯต้องโดนวิจารณ์แต่ผมก็ขอให้กำลังใจครับ....เพราะใครจะไม่เชื่อแล้วประมาทก็จะได้รับกรรมไปตามวิถีแต่ผมหวังผลกับผู้รู้ทั้งหลายที่มีปัญญา"ตาใน"จะเข้าใจเรื่องทั้งหมดได้ดีและเตรียมพร้อมไม่ประมาทเพื่อที่ตนเองจะได้รอดและพร้อมที่จะช่วยผู้อื่นต่อไป....เพราะผมยังรู้สึกว่าการประมาทในเรื่องภัยพิบัติทั้งหลายนั้นยังมีคนเกินค่อนโลกที่ไม่สนใจอะไรนักแต่พอโดนจริงๆก็จะร้องโอดครวญซึ่งมันอาจจะเป็นกรรมของเขา....แต่ส่วนน้อยเท่านั้นที่จะตื่นตัว(ไม่ใช่ตื่นตูม)และเตรียมพร้อมซึ่งเรื่องภัยพิบัตินี้ถ้าไม่เชื่อมโยงกับเรื่องทางจิตก็จะไม่สามารถเข้าใจการเกิดในสิ่งต่างๆได้เลย....มีสัญญาณหรือการบอกผ่านธรรมชาติต่างๆหรือผู้ที่เขาอยากสื่อบอกแล้วแต่มนุษย์ยังไม่ยอมรับมันก็ต้องปล่อยไปแบบ"อุเบกขา"แล้ว....เพราะจากคำกล่าวถึงจำนวนมนุษย์ที่มาก 6-7 พันล้านคนนั้นจะเหลืออยู่ไม่มากนักหลังเกิดภัยพิบัติซึ่งมีความเป็นไปได้สูง...พวกเราก็ต้องช่วยผู้ที่ช่วยได้ต่อไปครับอย่าท้อ...ขอให้กำลังใจทุกๆคนที่มีความมุ่งมั่นครับและขอขอบคุณทีมงานทุกคนที่จัดงานภัยพิบัติในครั้งนี้ถึงแม้ว่าแรงเสียดทานจะมากครับ...<!-- google_ad_section_end -->

 

นานาจิตตัง ครับ

เรื่องแบบนี้มีผลกระทบหลายอย่าง ที่ทำให้ใครหลายคนเสียประโยชย์

อีกอย่างเราก็ตอบยืนยังไม่ได้100% ว่าเกิดขึ้นแน่นอนใช่ไหมครับ

อันที่จริงใครจะไปยืนยันได้ใช่ไหมครับ แต่มีแนวโม้มเป็นเช่นนั้น

มีท่านผู้บรรยายท่านหนึ่งบอกว่า ถ้าเราเตรียมตัว ว่ามันจะเกิด

มันจะไม่เกิด ถ้าเราคิดว่ามันไม่เกิดมันจะเกิด ตรงนี้นะครับน่ากลัวมาก

ถึงเวลาพวกเราก็จะโดนด่าจนหูชาเลยละ และมันก็จะเกิดภัยร้ายแรงตามมาอย่าง

รุนแรงคลาดไม่ถึงเลยละ

 

ทุกๆอย่างเกิดขึ้นมามีสองด้านเสมอนะครับ ขาวดำ ล่างบน เหนือใต้ หญิงชาย มีและไม่มี ถ้าจะยกตัวอย่างคงไม่หมด ไม่มีอะไรยิ่งใหญ่ไปกว่าธรรมชาติ ถ้ามันจะเกิดก็ต้องเกิด ถ้ามันไม่เกิดก็ไม่เกิด ไม่มีใครทายอนาคตได้อย่างแม่นยำ ถูกต้องไปหมดทุกอย่างได้ คงจะห้ามอะไรไม่ได้แล้วตอนนี้ ทำดีเข้าไว้ ไม่เบียดเบียนกัน ใช้ชีวิตอย่างพอเพียง มีความสุขกับปัจจุบัน น่าจะเพียงพอแล้วนะครับ

 

ไปลองเปิดดูรายชื่อ ใหญ่ๆ โตๆ ตามเขาสูง หัวเมืองใหญ่ สิครับ รับรองจะรู้วาคนพวกนี้พูดกันท่าคนอื่น แต่ตัวเองไปตั้งหลักไว้ก่อนแล้ว เห็นแก่ตัวจะจะ อ้อ
แถว แม่ริม ก็มีชาวต่างชาติไปทำมาหาไร่กันเป็น ตำบลเลย แต่เขาปิดกันให้ ไม่รู้ว่าซื้อที่กันได้อย่างไร โดยเฉพาะพวกญี่ปุ่น ก็ได้นักการเมืองสามารน์ คอยเปิดกฏหมายเลาะตะเข็บให้เขานะครับ พวกนี้ก็กลัวตายเป็นเหมือนกัน

 

ให้กำลังใจเช่นกัน คนหวังดีต่อคนของโลกมีเยอะ แต่ก็สู้หมู่มารมีอำนาจการเมืองไม่ได้ ต้องอาศัยพลังประชาชนเรียกร้อง เกมนี้วัดกันที่พลังความดีและความชั่ว ความถูกต้องและความถูกใจ ก็ต้องระดมเสียงเรียกร้องให้รัฐหันมามองกันได้แล้ว ว่า นโยบายต่อไปเอาใจซื้อไปวัน ๆ ไม่เอา เอาระยะยาวถาวรพรรคไหนทำได้ก็ส่งเสริมให้ พรรคแทงกั๊ก ก็คิดเอาว่าจะเอาเข้าไปทำไร จะขึ้นเงินเดือนมาเข็กหัวเราเล่นอีกเท่าไหร่ถึงจะสำนึก เสียงประชาชนเท่านั้น อยากเสนอ facebook เป็นช่องทางระดมเสียงประชาชนว่าจะให้รัฐหาทางแก้ไขเรื่องเขื่อนกั้นน้ำ ไม่ใช่ผนังกั้นน้ำ และมาตรการป้องกัน หนึ่ง สอง สามกันอย่างไรดีกว่า ผมไม่เก่งเรื่อง facebook ก็ต้องขอแรงคนเก่งซะแล้วครับ ตั้งกระทู้โดนๆ จะได้เสียงดังถึงรัฐบาลหน้าได้ จะช่วยกันไม๊ครับ

 

เห็นด้วยกับคุณ เซี่ยมหล่อนั๊ง ด้วยคน พอดีเป็นคนปากช่องมาเมินแล้ว จนอายุ
เกินครึ่งร้อย จากถนนธนรัตน์จนถึงศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่ มีนักการเมือง ผู้มีอันจะกิน รวมถึง เจ้าพ่ออมตะนคร อีกคน วิ่งรถไปทางโป่งตาลอง มีวัดดังทางปทุมธานี จับจองที่ไว้เกือบ ร้อยไร่ ทางเข้ามียามเฝ้ายี่สิบสี่ชั่วโมง เหตุรู้เพราะเคยเข้าไป ราคาไร่หนึ่งล้านบาทขึ้นไป และไม่มีขายด้วยครับ จนเดี่ยวนี้ คนที่อยากมีที่ที่ ปากช่อง ต้องข้ามมาซื้อ แถวบันไดม้า เพราะพอสู้ราคาไหว บ้านอยู่แถวกองวัคซีน น้ำท่วมเหมือนกัน เหตุเพราะน้ำลำตะคองตัดโค้งมา ซึ่งเคยท่วมเมื่อปี 2516 สมัยผมเรียนอยู่มัธยม 3 ปัจจุบันพ่ออาศัยอยู่ ส่วนผมอยู่เหนือจังหวัดเชียงใหม่ 40 กม.

 

เตรียมตัวไว้ ไม่เกิดก็ดีไป ไม่เห็นเสียหายอะไรนิ จะมาแย้งกันทำไม :boo:

 

ผมเห็นด้วยกับแนวคิดของ ดร.ก้องภพ เกี่ยวกับน้ำท่วม กทม.อีก 10 ปีข้างหน้า เพราะท่านทำงานในองค์การนาซ่า ซึ่งมีทีมงานที่สำรวจทางด้านวิทยาศาสตร์ด้านต่าง ๆ เครื่องมือที่ทันสมัย และมีข้อมูลสภาวะการเปลี่ยนแปลงของโลกและอวกาศมากมาย

 

เรื่องนี้พูดยากในเรื่องความเป็นไปได้ที่จะเกิดภัยพิบัติขึ้น ซึ่งไม่มีใครยืนยันได้ 100% จริงๆ นี่ครับ และก็บอกกันไม่ได้ด้วยว่าจะเกิดความรุนแรงระดับไหนแค่ไหน

รัฐบาลคงไม่อยากสูญเสียงบประมาณด้านนี้ เพราะยิ่งทำให้ฐานเสียงมีปัญหาอีก เพราะประชาชนส่วนใหญ่ยังไม่เชื่อเรื่องการเกิดภัยพิบัติที่ร้ายแรง

ปล.ผมเองก็ไม่อยากไปคำนึงถึงสิ่งที่จะมีความไม่แน่นอนในอนาคตหรอกครับ ทำสิ่งปัจจุบันให้ดีที่สุดก็พอ ทำหน้าที่ภาระของตัวเอง สร้างความดีเข้าไว้ เตรียมพร้อมกับอนาคตไว้บ้างแต่ไม่ถึงกับจะต้องตามกระแสทุกเรื่องเสมอไป เมื่อถึงเวลาแล้วอะไรจะเกิดก็ต้องให้เกิดไปครับ ตามกรรมที่สะสมกันไว้ในแต่ละคน

 

ไม่เห็นหนังสือพิมพ์เขาลงว่า เป็นจุฬาฯออกมานี่ครับ
ข้อมูลบอกว่าเป็นการจัดเสวนาที่คณะวิทยาศาสตร์ และอาจารย์คณะวิทยาศาสตร์ ผู้นำเสนอข้อมูล และตามหลักวิชา

จะเหมารวมทั้งหมดก็คงไม่ถูกต้องนะครับ
แม้วิทยากร ที่ไปบรรยายในงานวันที่19 ก็จบจุฬาฯ ตั้งสองท่าน หรืออาจจะมากกว่า

แบบนี้จะเหมารวมทั้งหมด ก็คงไม่ถูกต้องนะครับ

 

ทุกท่านจำตอนที่ ดร.สมิทธิ ธรรมสโรช อธิบดีกรมอุตุฯตอนนั้น เคยเตือนว่าจ.ภูเก็ตอาจจะโดน Tsunami ก่อนปี 2547 ได้หรือไม่ พอทราบเรื่อง ผู้ว่าฯ ภูเก็ต (ไม่ขอเอ่ยนาม) ก็ต่อว่าดร.สมิทธิ ใหญ่ว่า ไม่มีทางเป็นไปได้ เหลวไหล พูดแบบนี้ทำลายเศรษฐกิจของภูเก็ต พอ Tsunami มาเต็มๆไม่รู้แกอยู่ไหน ผมว่า case ก็คล้ายๆตอนนี้แหละครับ <(^_^)>

 

เพราะ ผลประโยชน์ สินะ - -น่าเบื่อจิงๆ