NEW ! NEW AGE PLUS+ พลังงานใหม่ พลังงานอิสระ.. GRAND NATURE ..

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย Little Duck, 25 กุมภาพันธ์ 2010.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. Crystal DNA

    Crystal DNA เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    586
    ค่าพลัง:
    +530
    ทาง 3 แพ่ง

    เราจะไปทางไหนดี

    1 ออกนอกโลก
    2 ลงใต้ดิน
    3 ไปนิพพาน


    The SEALING of the TRIBULATION SAINTS
    [​IMG]





    การประทับตรากางเขนที่หน้าผากของธรรมิกชน (มาคกางเขนของพระเจ้าในระยะช่วงเวลาประกาศของธรรมิกชนขอบจะเป็นสีแดงข้างในจะเป็นสีออร่าฉายแสง)

    ธรรมิกชน 144,000 คน จะทำการเทศนาพระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์ และเพื่อที่จะเปลี่ยนแปลงความเชื่อ (ความคิดของ) พวกเขาผู้ซึ่งเรียกว่า แขกรับเชิญมางานเลี้ยงบนสวรรค์ ผู้ซึ่งยังคงอยู่บนโลก เพราะจำนวนคนที่ได้เรบเจอร์รอบแรกจากคนทั้งโลก น้อยมาก จะมีผู้ใหญ่ประมาณ 800,000 คนที่มีอายุมากกว่า ยี่สิบ ปี และจำนวนเด็ก 9,600,000 ที่ต่ำกว่า ยี่สิบ ปี ผู้ซึ่งได้รับเรบเจอร์รอบแรก พวกเขาจะถูกรับไปกลางอากาศท่ามกลางคนที่หลงเหลืออยู่บนโลกเพื่อไปอยู่ในสถานที่ป้องกันและหลีกเลี่ยงจากภัยพิบัติ พวกเขาผู้ซึ่งยังคงเหลือหลงอยู่บนโลกที่จะประสบกับความยากลำบากในช่วงเวลาของวันแห่งความทุกข์ยากที่ไม่เคยมีมาก่อนบนแผ่นดินโลก ที่ซึ่งเกิดขึ้นหลังจากเสียงแตรครั้งที่หนึ่งได้เป่าเสียงสัญญาณออกไป *****
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 ธันวาคม 2010
  2. Crystal DNA

    Crystal DNA เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    586
    ค่าพลัง:
    +530
    ปริศนาตัวเลข กำลังจะเฉลยออกมาแล้ว

    พระเจ้าได้ตรัสไว้แล้วว่า เราเป็นเบื้องต้นและเบื้องปลาย
    เป็นอัลฟ่าและโอเมก้า
    พระเจ้ากำลังบอกเราว่าพระองค์เป็น word ตั้งแต่ A-Z
    นั่นคือ A=1 B=2 .....Z=26
    คำว่า God = 7+15+4 = 26 (นั่นแสดงว่าพระเจ้าเป็นตัวอักษรทั้ง26 ตัว)


    ต่อมาเรามาดูผู้นำสานส์แล้วกัน Deleverer ผู้นำสาส์นนี้มาจากคำว่า
    Seven spirits of god นั้นคือจิตวิญญาณทั้งเจ็ดของพระเจ้า
    นั่นก็คือ 7*26=182
    และผลรวมของชื่อผู้นำสาส์นสามคนแรกอันได้แก่
    noah=38
    joseph=73
    moses=71
    38+73+71=182



    ต่อไปเรามาดูผลรวมของ คำว่า Seven spirits of god
    seven=65
    spirits=110
    of=21
    god=26
    ผลรวมทั้งหมด = 222
    ต่อไปมาดูคำว่า Trinity หรือพระตรีเอกานุภาพ อันหมายถึงพระผู้เป็นเจ้า
    ในศาสนาคริสต์ซึ่งแบ่งเป็นสาม คือ พระบิดา พระโอรสและพระวิญญาณ, สามองค์
    พระบิดา yahweh=70
    พระจิต ixote=73
    พระบุตร yeshua=79
    ผลรวมทั้งหมด = 222


    ต่อไปมาูดูคำว่า jesus christ
    jesus=74
    christ=77
    74+77=151
    เมื่อนำ 151 นี้ไปบวกกับตัวเลขของผู้นำสาส์น182 จะได้ว่า
    151+182=333


    ต่อไปมาดูคำว่า four son of god หรือ four seraphim อันได้แก่
    ทิศเหนือหน้าสิงโต david=40
    ทิศใต้หน้าวัว solomon elijah=148
    ทิศตะวันออกหน้ามนุษย์ jesus=74
    ทิศตะวันตกหน้าเหยี่ยว ผู้นำสาส์น=182
    ผลรวมทั้งหมด = 444

    เลขตองทั้งหมดที่เราพบเจออยู่บ่อยครั้งเหล่านี้เป็นสัญญาณจากพระเจ้าทั้งสิ้น
    บ่งบอกถึงการมาอย่างเป็นทางการ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 ธันวาคม 2010
  3. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,682
    ค่าพลัง:
    +51,931
    <TABLE id=post901203 class=tborder border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid" class=thead>05-01-2008, 07:03 PM </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=thead align=right>#236</TD></TR><TR vAlign=top><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=alt2 width=175><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->หนุมาน ผู้นำสาร<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_901203", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    วันที่สมัคร: Jul 2006
    ข้อความ: 10,754
    พลังการให้คะแนน: 4983 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]



    </TD><TD style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" id=td_post_901203 class=alt1><!-- google_ad_section_start -->*** หลักโลกุตตระธรรม ****<!-- google_ad_section_end -->

    <CENTER></CENTER>
    <CENTER></CENTER><HR style="BACKGROUND-COLOR: #ffffff; COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- google_ad_section_start -->[​IMG]

    ภาพที่ ๑...ภาพ "หลักโลกุตตระธรรม" ที่สื่อจากโลกุตตระ ผ่านจิตผู้หนึ่ง


    [​IMG]

    ภาพที่ ๒...ภาพวาด "หลักโลกุตตระธรรม"
    จะสถิตอยู่ ณ ใจกลางของภาพที่ ๑


    - " หนุมาน ผู้นำสาร "<!-- google_ad_section_end -->


    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  4. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,682
    ค่าพลัง:
    +51,931
  5. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,682
    ค่าพลัง:
    +51,931
  6. Little Duck

    Little Duck เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    1,020
    ค่าพลัง:
    +1,981
    <table id="post4153652" class="tborder" align="center" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td class="thead" style="font-weight: normal; border-width: 1px 0px 1px 1px; border-style: solid none solid solid; border-color: rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255);">[​IMG] 16-12-2010, 08:36 AM </td> <td class="thead" style="font-weight: normal; border-width: 1px 1px 1px 0px; border-style: solid solid solid none; border-color: rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color;" align="right"> #1667 </td> </tr> <tr valign="top"> <td class="alt2" style="border-width: 0px 1px; border-style: none solid; border-color: -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255);" width="175"> แก้วทิพย์ [​IMG]
    ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัคร: Aug 2007
    ข้อความ: 264
    พลังการให้คะแนน: 155 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </td> <td class="alt1" id="td_post_4153652" style="border-right: 1px solid rgb(255, 255, 255);"> วันนี้ แวะมาคุยค่ะ เมื่อเดือนพฤศจิกายน ข้าพเจ้าได้รับสื่อสารแปลกๆอย่างหนึ่ง ซึ่งทำให้ข้าพเจ้าตัดสินใจเดินทางไปลำพูนด้วยขบวนรถด่วน อ่านดูเบอร์เลขที่นั่งตู้รถวันเวลาแล้ว ตั๋วรถด่วนสื่อรหัสแปลกๆออกมาเหมือนจะบอกอะไรบางอย่างแก่ข้าพเจ้า เมื่อโพสต์ถาม คุณ Little Duck กรุณาเข้ามาเฉลยคำตอบให้ เมื่อกลับมากรุงเทพ ข้าพเจ้าพบความอัศจรรย์ที่ไม่คาดคิดมาก่อน เกี่ยวกับอดีตวีรกษัตรีย์ผู้เกรียงไกร กล้าหาญปรีชาเฉลียวฉลาด ทรงราชคุณธรรมสูงส่ง ผู้ปลูกฝังมรดกศาสนาพุทธให้ชาวเหนือหรือชาวล้านนาจนบัดนี้ ใช่.. ข้าพเจ้ากำลังพูดถึง พระนางจามเทวี ของนครหริภุญชัย ข้าพเจ้าพบปริศนาบางอย่างที่ข้าพเจ้าต้องกลับไปที่นั่นอีีกครั้งหนึ่ง เพื่อหาคำตอบนี้ในวันที่ 20 นี้ แต่คราวนี้ตั๋วรถไฟเต็ม สุดท้ายตั๋วเดินทางมาจากสายการบิน นกแอร์ เที่ยวบิน DD8310 รหัสตั๋ว 9551915เหตุการณ์นี้มันช่างประจวบเหมาะกับช่วงที่ข้าพเจ้าจะต้องเปลี่ยน JD (Job description)ที่ข้าพเจ้าใช้มาเป็นเวลานานในสิ้นปีนี้ เป็น JD อันใหม่ของชีวิตที่จะต้องเปลี่ยนสิ่งแวดล้อมโดยสิ้นเชิง
    </td></tr></tbody></table><table id="post4031178" class="tborder" align="center" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td class="thead" style="font-weight: normal; border-width: 1px 0px 1px 1px; border-style: solid none solid solid; border-color: rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255);">[​IMG] 12-11-2010, 01:12 PM </td> <td class="thead" style="font-weight: normal; border-width: 1px 1px 1px 0px; border-style: solid solid solid none; border-color: rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color;" align="right"> #1244 </td> </tr> <tr valign="top"> <td class="alt2" style="border-width: 0px 1px; border-style: none solid; border-color: -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255);" width="175"> Little Duck
    สมาชิก

    [​IMG]

    วันที่สมัคร: May 2008
    ข้อความ: 718
    พลังการให้คะแนน: 185 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </td> <td class="alt1" id="td_post_4031178" style="border-right: 1px solid rgb(255, 255, 255);"> อ้างอิง:
    <table border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td class="alt2" style="border: 1px inset;"> ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ แก้วทิพย์ [​IMG]
    วันนี้แวะเวียนมาก็เจอเลข 13 ของ คุณ Little Duck พอดี คงไม่บังเอิญหนะ เย็นนี้จะไปเหนือทางรถไฟ ตั๋วที่จองไว้ล่วงหน้า คือ รถไฟ(SPECIAL EXPRESS TRAIN)ขบวนที่ 13 คันที่ 11 ถึงจุดหมายปลายทางวันที่ 13

    มองไปซ้ายมือ ข้อความ 139 พลังการให้คะแนน 130

    วานคุณ Little Duck เข้ามาเฉลยอีกทีค่ะ
    </td> </tr> </tbody></table>
    <table id="post3998967" class="tborder" align="center" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td class="thead" style="font-weight: normal; border-width: 1px 0px 1px 1px; border-style: solid none solid solid; border-color: rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255);">[​IMG] 04-11-2010, 08:19 PM </td> <td class="thead" style="font-weight: normal; border-width: 1px 1px 1px 0px; border-style: solid solid solid none; border-color: rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color;" align="right"> #1236 </td> </tr> <tr valign="top"> <td class="alt2" style="border-width: 0px 1px; border-style: none solid; border-color: -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255);" width="175"> แก้วทิพย์ [​IMG]
    ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัคร: Aug 2007
    ข้อความ: 141
    Groans: 3
    Groaned at 0 Times in 0 Posts
    ได้ให้อนุโมทนา: 154
    ได้รับอนุโมทนา 1,139 ครั้ง ใน 125 โพส
    พลังการให้คะแนน: 132 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </td> <td class="alt1" id="td_post_3998967" style="border-right: 1px solid rgb(255, 255, 255);"> วันนี้ ไปธนาคารเพื่อโอนเงินสำหรับการสร้างพระพุทธรูปสมเด็จองค์ปฐม องค์ที่ 22 หน้าตัก 6 เมตร สูง 13 เมตร ปางสมาธิ เรามาบอกข่าวเพื่อเอาบุญมาฝากสมาชิกห้องนี้ทุกๆคนค่ะ แต่มันมีอะไรสะดุดตาสะดุดใจอยู่อย่างหนึ่ง คือเราได้คิวรอเลขที่ 555 (ปกติ ก็ไม่ค่อยสนใจเพราะทุกธนาคารเขาก็ใช้ิวิธีรอคิวแบบเดียวกัน)คราว นี้เกิดจำได้ขึ้นมา ตอนค่ำเลิกงานขับรถกลับบ้าน ระยะทางก็ไม่ได้ไกลมากมาย แต่เจอรถทะเบียนลงท้ายด้วย 555 มั่ง 55 มั่ง ทั้งหมดนับ ร่วม 10 คัน หรือมากกว่า มันน่าจะมีความหมายอะไรสักอย่างนะ
    <hr style="color: rgb(255, 255, 255); background-color: rgb(255, 255, 255);" size="1"> แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย แก้วทิพย์ : 04-11-2010 เมื่อ 08:21 PM
    </td></tr></tbody></table>

    สวัสดีค่ะ คุณแก้วทิพย์

    SPECIAL EXPRESS TRAIN = ด่วนพิเศษ
    19+16+5+3+9+1+12+5+24+16+18+19+19+20+18+1+9+14 = 233 = BCC

    11 = K = Key
    BCC = BUDDHA CONCERN = เกี่ยวข้องด้านศาสนา , พระธรรม หรือ เกี่ยวกับพระ ดูรายละเอียดประกอบของ องค์พระปฐมฯ องค์ที่ 22 ขนาดหน้าตัก 6 นิ้ว สูง 13 เมตร
    22+6+13 = 41 =DA = DATA AVAILABLE
    22 = V = Victory
    6 = F = FULL = สมบูรณ์แบบ เต็มที่
    13 = M = MIRACLE ปาฏิหารย์

    55 = NEW AGE = 14+5+23+1+7+5 = 55 = 10 = J
    10 = J = JUSTIFY ดุลยภาพ ความถูกต้อง
    555 = 5+5+5 =15 = O = OMEN นิมิต ลางบอกเหตุ

    13 = M = MAGIC & MIRACLE
    139 = 1+39 = 40 = D = DATE ดูวันที่โพสต์
    130 = 1+30 = 31 = CA = CONFIRM ARTICLE ดูหมายเลขกระทู้ที่โพสต์ #1236

    12+36 = 48 = 12 = DHL = ด่วนพิเศษ จัดส่งให้ตรงเวลา


    ดัง นั้น จะเห็นได้ว่าข้อความทุกข้อความที่โพสต์เข้ามาล้วนคือกุญแจสำคัญ และมีึความหมายในตัวเอง ซึ่งผู้ถือกุญแจดอกนั้น จะเป็นผู้ไขปริศนาจากรหัสของท่านเอง เพื่อให้การจัดส่งตรงเวลา หรือ ด่วนพิเศษ

    ขออนุโมทนากับคุณแก้วทิพย์ และขอให้การขับเคลื่อนกงล้อแห่งธรรม เพื่อนำทางสู่ยุคใหม่ ยุคแห่งดุลยภาพ
    MAGIC & MIRACLE

    NEW UNIVERSE..

    </td></tr></tbody></table>


    ตั๋วรถด่วนสื่อรหัส = BCC =BUDDHA CONCERN เกี่ยวกับศาสนา หรือ เกี่ยวกับพระ
    ตั๋วรถไฟเต็ม = FULL เต็มที่ ,สมบูรณ์แบบ

    สายการบิน นกแอร์
    AIR LINE
    =1+9+18+12+9+14+5=68 = FH = FUNCTION HUMANITY รูปแบบของมนุษยชาติ , หลักการปฏิบัติของมนุษยชาติ
    NOK AIR = 14+15+11+1+9+18 = 68 = FH = FUNCTION HUMANITY
    68+68 = 136 = MF = MEDITATION FUNCTION การทำสมาธิ , การปฏิบัติธรรม
    1+3+6 = 10 = J = JUSTIFY
    เที่ยวบิน DD8310=448310 = 20 =TIME
    รหัสตั๋ว 9551915
    = 9+5+5+1+9+1+5 = 35 = CE = CONFIRM EXPRESS
    9 = I = INTELLEGENCE
    55 = NEW AGE
    19 = S = SUN ศูนย์รวม
    15 = O = OMEN นิมิต ปรากฎการณ์

    136+20+35 = 191 = ด่วนพิเศษ , ด่วนที่สุด

    JD = JUSTIFY DATA
    JD = เจดีย์

    ดูจากข้อมูลอ้างอิงจะเห็นได้ว่ารถด่วนสื่อรหัสจากคราวที่แล้วคือ BCC และตั๋วรถเต็มคือ FULL จึงหมายถึง งานที่เกี่ยวข้องกับศาสนาที่ดำเนินการอยู่นั้นเต็มที่และสมบูรณ์แบบ สายการบิน คือ 68 = FH = FUNCTION HUMANITY และนกแอร์ 68 = FH = FUNCTION HUMANITY โปรดสังเกุตุผลลัพธ์เท่ากัน และเมื่อนำผลลัพธ์ทั้งสองมารวมกันเท่ากับ 136 = MF =MEDITATION FUNCTION หมายถึงการทำสมาธิ การปฏิบัติธรรม ผลลัพธ์ของเที่ยวบินเท่ากับวันที่คือ 20 = TIME หมายถึงเวลาที่เหมาะสม รหัสตั่วคือ 35= CE=CONFIRM EXPRESS ซึ้งหมายถึงยืนยันข้อมูลทุกข้อความสนับสนุนกันอย่างเห็นได้ชัด

    ดังนั้น สิ้นปีที่จะเปลี่ยน JD JoB Description'จึงแปลความได้ว่า การเกี่ยวข้องกับสถา่นธรรม วิปัสสนา ปฏิบัติธรรม หรือหมายถึง งานก่อสร้างสถานปฏิบัติธรรม เพื่อสืบทอดพุทธศาสนา
    ดังพระนางจามเทวี ผู้ปลูกฝังมรดกศาสนาพุทธ


    LOVE U..
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 ธันวาคม 2010
  7. Little Mermaid

    Little Mermaid เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    718
    ค่าพลัง:
    +1,768
    การปฏิบัติธรรม

    หลายคนคงเคยได้ยินคำว่า "การปฏิบัติธรรม" มาจนชินหู หลายคนก็คงเคยลงมือปฏิบัติธรรมมาบ้างแล้ว เคยถามนักปฏิบัติหลายท่านจึงจุดประสงค์และวิธีการปฏิบัติก็ได้รับคำตอบแตกต่างกัน พูดถึงจุดประสงค์ บ้างก็ว่าทำเพื่อให้จิตสงบ ให้มีความสุข บ้างก็ทำเพื่อให้หายกลุ้มใจ บ้างก็ทำเพราะอยากจะมีฤทธิ์ เช่น ไปเที่ยวนรกสวรรค์ได้ บ้างก็ปรารถนาจะได้มรรคผลนิพพาน บ้างก็ทำเพราะรู้ว่าเป็นบุญ บ้างก็ทำเพราะกลัวน้อยหน้าคนอื่น เมื่อถามถึงวิธีการปฏิบัติ บ้างก็ว่าการปฏิบัติธรรมคือการนั่งหลับตาทำจิตให้สงบตั้งมั่นเป็นสมาธิ หรือที่เราเรียกกันติดปากว่า นั่งสมาธิ บ้างก็ว่าคือการเจริญสติ บ้างก็ว่าคือการรักษาศีลให้บริสุทธิ์ แต่ละคนก็เข้าใจแตกต่างกันออกไป การปฏิบัติธรรมก็คือการปฏิบัติเพื่อให้ได้มรรคผลนิพพาน การทำอะไรก็ตามที่เป็นไปเพื่อให้ได้มรรคผลนิพพานล้วนเป็นการปฏิบัติธรรมทั้งสิ้น ในพุทธศาสนาแบ่งการปฏิบัติธรรมออกเป็น 2 วิธีใหญ่ ๆ คือวิปัสสนากรรมฐานและสมถกรรมฐาน วิปัสสนากรรมฐาน หมายถึงวิธีปฏิบัติให้เกิดปัญญา คือ รู้สภาวธรรมตามความเป็นจริง ซึ่งจะเป็นเหตุปัจจัยโดยตรงที่ทำให้ได้มรรคผลนิพพาน ส่วน สมถกรรมฐาน หมายถึง วิธีทำให้จิตสงบไม่ฟุ้งซ่าน สมถกรรมฐานไม่ใช่เหตุปัจจัยโดยตรงที่ทำให้ได้มรรคผลนิพพาน แต่เป็นวิธีที่ช่วยลดอุปสรรคในการปฏิบัติธรรม ทำให้การปฏิบัติได้ผลเร็วขึ้น ลักษณะของการปฏิบัติธรรมแต่ละวิธีมีดังนี้
    [SIZE=+2]1. วิปัสสนากรรมฐาน[/SIZE]
    ในการรับรู้อารมณ์ของคนเรานั้น ไม่ว่าจะเป็นการรับรู้อารมณ์ทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ก็ดี จะมีความรู้สึก 3 อย่างเกิดขึ้นเรียงกันเสมอ คือความรู้สึกในปรมัตถ์ เกิดขึ้นเองก่อน มีความรู้สึกในสมมุติ ติดตามมา แล้วจึงมีความรู้สึกในกิเลส เกิดขึ้นอีกต่อหนึ่ง เช่นขณะที่เรามองเห็นดอกกุหลาบ ปรมัตถ์คือความรู้สึกในรูปทรงสีสันของภาพเกิดขึ้นก่อน แล้วจึงมีการนำรูปทรงสีสันที่เห็นมาตีความว่าเป็นดอกไม้ ดอกกุหลาบ ความรู้สึกว่าเป็นดอกไม้ ดอกกุหลาบนี้ เป็นสมมุติ ความรู้สึกของเราจะไม่หยุดเพียงเท่านี้ แต่เราจะอาศัยสมมุติเป็นสื่อให้กิเลสเกิดขึ้นอีกต่อหนึ่ง เราอาจจะรู้สึกว่าสวย ชอบ อยากได้ ก็เป็น โลภะ ถ้าเรารู้สึกไม่ชอบ น่าเกลียด ก็เป็น โทสะ หรือรู้สึกเฉย ๆ ก็เป็น โมหะ เพราะถ้ารู้สึกเฉย ๆ เราก็จะไม่ใส่ใจทำให้เกิดความฟุ้งซ่าน การไม่ใส่ใจ ใจลอย เหม่อ ฟุ้งซ่าน จัดเป็นโมหะ
    ขณะที่มองหน้าคนที่เราเกลียด ปรมัตถ์คือความรู้สึกในรูปทรงสีสันของภาพเกิดขึ้นก่อน สมมุติคือความรู้ว่าเป็นภาพของคนที่เราเกลียดจึงเกิดขึ้นติดตามมา แล้วโทสะคือความไม่พอใจก็เกิดขึ้นอีกต่อหนึ่ง
    จะเห็นว่าในการรับรู้อารมณ์ของคนเรานั้นจะมีปรมัตถ์สมมุติ-กิเลส เกิดขึ้นเรียงกันเสมอ
    [SIZE=+1]ปรมัตถ์ [/SIZE] คือความจริงที่มีอยู่ในธรรมชาติ เช่น รูปทรง สีสันของภาพ เป็นปรมัตถ์ หรือเป็นความจริงในการเห็น
    [SIZE=+1]สมมุติ[/SIZE] คือ การตีความจากปรมัตถ์ เช่นตีความจากภาพที่เห็นว่าเป็นภาพดอกไม้ ภาพคน ภาพรถ
    [SIZE=+1]กิเลส[/SIZE] คือความยินดียินร้ายในสมมุติ หรือการติดในสมมุติ ซึ่งเรียกว่า อุปาทาน
    คนทั่วไปได้ชื่อว่า ปุถุชน ซึ่งหมายถึงผู้หนาแน่นด้วยกิเลส ก็เพราะว่าในการรับรู้อารมณ์ ไม่ว่าจะเป็นทางทวารใดก็ตาม ย่อมถูกกิเลสปรุงแต่งจิตอยู่เสมอ การปฏิบัติธรรมก็คือการฝึกรับรู้อารมณ์ด้วยสภาพจิตที่ปราศจากกิเลส ซึ่งทำได้ 2 วิธีใหญ่ ๆ คือ
    1). การปฏิบัติธรรมชนิดอยู่กับสมมุติ การปฏิบัติธรรมวิธีนี้เป็นการฝึกมีสติ อยู่กับปรมัตถ์และสมมุติ แต่พยายามละกิเลส เช่นขณะที่เรามองดอกกุหลาบ ก็ให้สนใจในรูปทรงสีสันของมัน และตีความได้ว่าเป็นดอกกุหลาบ แต่อย่าให้มีความรู้สึกสวย ชอบ เกิดขึ้น ถ้ามองแล้วรู้สึกว่าสวย เราก็ตั้งใจมองใหม่ให้รู้แต่ว่าเป็นดอกกุหลาบ ๆๆๆ แล้วพยายามให้ใจรับรู้อยู่อย่างนั้นต่อเนื่องไปเรื่อย ๆ ถ้าการปฏิบัติธรรมได้ผล ขณะที่เรารับรู้ในอารมณ์ที่มากระทบ เราก็จะรู้ทั้งในปรมัตถ์ และรู้ในสมมุติ แต่จะมีใจเป็นกลางไม่ยินดียินร้ายในอารมณ์ที่มากระทบนั้น

    [​IMG]
    2). การปฏิบัติธรรมชนิดอยู่กับปรมัตถ์ การปฏิบัติธรรมวิธีนี้เป็นการฝึกมีสติอยู่แต่กับปรมัตถ์เท่านั้น พยายามละสมมุติ เมื่อไม่รู้ในสมมุติ กิเลสก็ไม่เกิด เพราะกิเลสเกิดตามหลังสมมุติ ยกตัวอย่างเช่นขณะที่เรามองดอกกุหลาบ ก็ให้สนใจในรูปทรงสีสันของภาพที่ปรากฏเพียงอย่างเดียว ไม่ตีความว่าเป็นดอกกุหลาบ ถ้าเรามองแล้วตีความว่าเป็นดอกกุหลาบก็ให้ตั้งใจมองใหม่ โดยสนใจแต่รูปทรงสีสันเพียงอย่างเดียว ไม่นึกคิดตีความว่าภาพนั้นคืออะไร แล้วพยายามให้ใจรับรู้อย่างนั้นต่อไปเรื่อย ๆ ถ้าการปฏิบัติธรรมได้ผล ขณะที่เรารับรู้ในอารมณ์ที่มากระทบ เราก็จะรู้แต่ปรมัตถ์ ไม่รู้ในสมมุติ และจะมีใจเป็นกลาง ไม่ยินดียินร้ายในอารมณ์ที่มากระทบนั้น
    การปฏิบัติธรรมทั้งสองวิธีนี้เรียกว่า การปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน เป็นการปฎิบัติเพื่อให้ได้มรรคผลนิพพาน อันเป็นคำสอนหลัก เป็นแก่นแท้ในพระพุทธศาสนา
    จะเห็นว่าการปฏิบัติวิปัสสนาทำได้ 2 วิธี คือ การมีสติอยู่กับปรมัตถ์ วิธีหนึ่ง และการมีสติอยู่กับสมมุติ แต่ละความยินดียินร้ายในสมมุติ อีกวิธีหนึ่ง สำหรับผู้ทีเคยศึกษาธรรมมาก่อนก็คงจะทราบว่าพระพุทธองค์ได้ทรงวางแนวทางการปฏิบัติวิปัสสนาไว้ 4 แบบ เรียกว่า สติปัฏฐาน 4 อันได้แก่

    การมีสติอยู่กับ กาย
    การมีสติอยู่กับ เวทนา
    การมีสติอยู่กับ จิต
    การมีสติอยู่กับ ธรรม

    ซึ่งการปฏิบัติทั้ง 4 แบบ จัดเป็นการมีสติอยู่กับปรมัตถ์ทั้งสิ้น เพราะ กาย เวทนา จิต ธรรม เหล่านี้ล้วนเป็นปรมัตถ์ นักปฏิบัติธรรมบางท่านอาจจะแย้งว่า ถ้าอย่างนั้นการปฏิบัติธรรมชนิดที่อยู่กับสมมุติก็ไม่น่าจะเป็นวิปัสสนา อันที่จริงการมีสติอยู่กับสมมุติ แต่ละความยินดียินร้ายในสมมุตินั้นจัดเป็น การมีสติอยู่กับธรรมคืออริยสัจ 4 เพียงแต่ว่าเราอาศัยสมมุติมาเป็นสื่อให้จิตหวั่นไหวไปตามอำนาจกิเลส คือเกิดอุปทานมีความยินดียินร้ายในสมมุตินั้น งานของเราก็คือการฝึกละอุปาทาน เมื่อละอุปาทานอยู่เสมอก็จะทำให้เรามีปัญญารู้แจ้งในธรรมคืออริยสัจ 4 ได้
    ฉะนั้นการมีสติจดจ่ออยู่กับสมมุติเพียงอย่างเดียว จึงเป็นเพียงสมาธิ เป็นเพียงสมถะเท่านั้น แต่ถ้ามีการละความยินดียินร้ายในสมมุตินั้นด้วยก็เป็นวิปัสสนา
    ตามปรกติ ชีวิตทุกชีวิตไม่ว่าจะเป็นคนหรือสัตว์ทั้งหลาย ย่อมถูกอวิชชาปรุงแต่งจิตอยู่เสมอ ไม่ว่าในการเห็น การได้ยิน การได้กลิ่น การรู้รส การสัมผัส หรือการนึกคิดก็ตาม จึงทำให้เราเข้าใจสภาวธรรมผิดไปจากความเป็นจริง เช่น ขณะที่เราเห็นดอกไม้ ก็มีความรู้สึกว่าดอกไม้นั้นสวย ขณะที่กินอาหารรสดี ก็รู้สึกว่าอาหารอร่อย ขณะที่ได้ยินเสียงเพลง ก็รู้สึกว่าไพเราะ ความรู้สึกสวย อร่อย ไพเราะ เหล่านี้เรียกว่า อุปาทาน เป็นการนึกคิดปรุงแต่งขึ้นมาเอง เพราะอำนาจของอวิชชา อันที่จริงแล้วความสวยไม่ได้มีอยู่ในภาพ ในภาพมีแต่รูปทรงสีสันเท่านั้น ความอร่อยไม่ได้มีอยู่ในอาหาร ในอาหารมีแต่รสชาติเท่านั้น ความไพเราะก้ไม่ได้มีอยู่ในเสียงเพลง ในเสียงเพลงมีแต่เสียงสูง-ต่ำ ดัง-ค่อย เท่านั้น
    การปฏิบัติวิปัสสนาก็เพื่อให้มีปัญญา คือรู้สภาวธรรมตามความเป็นจริง เช่น ขณะเห็นดอกไม้ ก็รู้ในรูปทรงสีสันของมัน แต่ไม่มีความรู้สึกสวยหรือชอบเจือปนอยู่ในการเห็นนั้น ที่เรียกกันว่า เห็นก็สักแต่ว่าเห็น ขณะกินอาหารรสดี ก็รู้แต่เพียงรสชาติของอาหาร ไม่มีความรู้สึกอร่อยเจือปนอยู่ในการกินอาหารนั้น ขณะที่เห็นเฉย ๆ อย่างนี้ หรือรู้รสเฉย ๆ อย่างนี้ เรียกว่า มีสติสัมปชัญญะ หรือมีปัญญาเกิดขึ้น ปัญญาที่รู้เห็นความจริงนี้แหละ คือ ธรรมะที่เป็นคู่ปรับหรือเป็นฝ่ายตรงข้ามกับอวิชชา เมื่อทำสติสัมปชัญญะให้เกิดขึ้นบ่อย ๆ ก็เท่ากับเป็นการสะสมปัญญาให้เพิ่มพูนให้มีกำลังมากขึ้น อวิชชาก็จะอ่อนกำลังลง เปรียบเสมือนความเย็นกับความร้อน ซึ่งเป็นธรรมชาติที่อยู่ตรงกันข้าม ที่ใดมีความเย็นเพิ่มขึ้น ความร้อนก็ย่อมลดลงเป็นธรรมดา
    จะเห็นว่าในทางพุทธศาสนา คำว่า ปัญญา ไม่ได้หมายถึง ความรู้ทั่วไป เช่น การมีความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์ การรอบรู้ทางกฎหมาย มีความเชี่ยวชาญในการวาดรูป เล่นฟุตบอลเก่ง เรียนจบปริญญาเอก อย่างนี้ไม่เรียกว่ามีปัญญา แต่เรียกว่า มีความรู้ความสามารถทางด้านนั้น ๆ เท่านั้น คำว่าปัญญา ในทางพุทธศาสนาแบ่งออกได้เป็น 3 ระดับ คือ สุตามยปัญญา ปัญญาที่เกิดจากการฟังธรรม จินตมยปัญญา ปัญญาที่เกิดจากการนึกคิดพิจารณา และภาวนามยปัญญา ปัญญาที่เป็นผลของการปฏิบัติธรรม ซึ่งเรียกว่า วิปัสสนาญาณ
    ([SIZE=+1]1) สุตามยปัญญา [/SIZE] เป็นปัญญาขั้นต้น เกิดจากการฟังธรรมที่ถูกต้องจากผู้รู้ธรรม คำว่า ธรรมที่ถูกต้อง หมายถึง ปรมัตถธรรม หรือ ปรมัตถสัจจะ อันเป็นธรรมที่กล่าวถึงความจริงของชีวิต ซึ่งได้แก่เรื่องของกาย เรื่องของจิต เรื่องของเวทนา มีการเห็น การได้ยิน เป็นต้น ส่วนเรื่องราวต่าง ๆ ที่ไม่เกี่ยวกับความจริงของชีวิต เรียกว่า สมมุติ หรือ สมมุติสัจจะ เมื่อศึกษาทำความเข้าใจเกี่ยวกับชีวิตได้ถูกต้องก็เรียกว่า มีปัญญาในขั้นต้น เช่น ศึกษาว่าในอาหารมีแต่รสชาติ เปรี้ยว หวาน เค็ม จืด เท่านั้น ไม่มีความอร่อยหรือไม่อร่อยเจือปนอยู่ ที่รู้สึกอร่อยหรือไม่อร่อยนั้นเป็นเพียงอุปทาน อันเกิดจากการที่อวิชชาปรุงแต่จิตและศึกษาอีกว่า ในการปฏิบัติธรรม ขณะที่กินอาหาร เราจะต้องเอาสติอยู่ที่รสชาติเพียงอย่างเดียว ไม่สนใจในความอร่อยหรือไม่อร่อยของอาหารนั้น การศึกษาอย่างนี้ได้ชื่อว่าฟังธรรมที่ถูกต้อง
    (2) [SIZE=+1]จินตามยปัญญา [/SIZE]เป็นปัญญาที่เกิดจากการคิดพิจารณาธรรมในขณะที่ลงมือปฏิบัติซึ่งก็คือ กาพยายามวางใจหรือทำความรู้สึกให้ถูกต้องตามความเป็นจริง เนื่องจากความรู้สึกของเราแต่ก่อนมา เป็นไปตามอำนาจของอวิชชา เราจึงต้องทำความรู้สึกในการเห็น การได้ยิน ฯลฯ เสียใหม่ เช่น ขณะกินอาหาร ก็พยายามสนใจรสชาติของอาหารเพียงอย่างเดียว ไม่สนใจในความอร่อยหรือไม่อร่อยของอาหาร อาหารมีรสอย่างไรก็ทำความรู้สึกไปตามนั้น ปัญญาในขั้นนี้เป็นขั้นที่ได้ลงมือปฏิบัติแล้ว แต่ยังไม่ได้ผล แม้จะพยายามรับรู้รสอย่างเดียว แต่ความอร่อยหรือความไม่อร่อยก็ยังปรากฏอยู่ในความรู้สึก
    (3) ภาวนามยปัญญา เป็นปัญญาซึ่งเกิดจากการปฏิบัติธรรมที่ได้ผลแล้ว เช่น ขณะที่กินอาหาร ก็รู้ชัดในรสชาติของอาหารเท่านั้น ไม่มีความรู้สึกอร่อยหรือไม่อร่อยเกิดขึ้นในขณะที่กินนั้นเลย ถ้ารู้สภาวธรรมตามความเป็นจริงอย่างนี้ได้ก็เรียกว่า มีสติสัมปชัญญะ หรือมีปัญญาเกิดขึ้น หรือกล่าวเป็นอย่างอื่นได้อีกว่า มีวิปัสสนาญาณเกิดขึ้น หรือ มีนิโรธเกิดขึ้น หรืออาจกล่าวว่า ขณะนั้นผู้ปฏิบัติได้เดินทางตามมรรคอันมีองค์ 8 หรือเรียกว่า ผู้ปฏิบัติศีล สมาธิ ปัญญาเกิดขึ้นพร้อม ก็สุดแล้วแต่ว่าใครจะถนัดเรียกอย่างไร แต่ทั้งหมดนี้ก็ล้วนมีความหมายเดียวกันทั้งสิ้น
    ขณะที่ผู้ปฏิบัติกินอาหารรสดีแล้วก็รู้รสเฉย ๆ ไม่มีความรู้สึกอร่อยเจือปนอยู่ ขณะนั้นได้ชื่อว่ามีศีล เพราะกายสงบ วาจาสงบเป็นปรกติ ที่ว่ามีสมาธิเพราะสติตั้งมั่นอยู่กับรสของอาหารเพียงอย่างเดียว ที่ว่ามีปัญญา เพราะรู้สภาวธรรมตามความเป็นจริงว่า ในอาหารมีแต่รสชาติเท่านั้น ไม่มีความอร่อยเจือปนอยู่จริง จะเห็นว่าศีลในวิปัสสนาไม่ใช่ศีล 5 ศีล 8 หรือศีล 227 ข้อ อย่างที่คนทั้งหลายเข้าใจ ศีล 5 ศีล 8 ศีล 227 เหล่านี้เป็นเพียง ศีลสมมุติ เป็นเพียงอุบายให้บุคคลใช้เป็นหลักปฏิบัติ เพื่อให้การปฏิบัติธรรมได้ผลเร็วขึ้นเท่านั้น สมาธิในวิปัสสนาก็ไม่ใช่การนั่งหลับตาแล้วนึกถึงนิมิตต่าง ๆ เช่น นึกถึงดวงแก้วหรือไม่ใช่การเพ่งกสิณ เช่น เพ่งน้ำ เพ่งแสงสว่าง สมาธิเหล่านี้เป็นเพียงสมถกรรมฐาน เป็นเพียงอุบายทำให้จิตสงบไม่ฟุ้งซ่านเท่านั้น ปัญญาในวิปัสสนาก็ไม่ใช่ปัญญาที่เกิดขึ้น จากการคิดพิจารณาถึงความแก่ ความตาย หรือพิจารณาถึงความสกปรกโสโครกของร่างกาย ปัญญาเหล่านี้เป็นเพียงสมถกรรมฐาน เป็นอุบายให้ตัณหาสงบระงับ ไม่กำเริบ เท่านั้น
    พระพุทธองค์ได้ทรงวางแนวทางการปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานออกเป็น 4 แบบ เรียกว่า สติปัฏฐาน 4 ซึ่งจะได้กล่าวอย่างละเอียดในบทที่ 4
    ตามที่กล่าวแล้วนั้น การปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานเป็นการทำปัญญาให้เกิดขึ้น เมื่อมีปัญญาเพิ่มมากขึ้น อวิชชาก็ย่อมอ่อนกำลังลง ช่วงเวลาของการปฏิบัติธรรม อวิชชาและปัญญาก็จะผลัดกับปรุงแต่งจิต แข่งกันปรุงแต่งจิตบางครั้งอวิชชามีกำลังมาก ก็ทำให้เกิดความพอใจหรือไม่พอใจในอารมณ์มากระทบ บางครั้งปัญญามีกำลังมากก็สามารถทำสติสัมปชัญญะให้เกิดขึ้นได้ คือ มีใจเป็นกลางไม่ยินดียินร้ายในอารมณ์ที่มากระทบ คำว่า อารมณ์ หมายถึง ความรู้สึกที่เกิดขึ้นกับจิต หรือสิ่งที่จิตได้รับรู้ เช่น ความโกรธ ความดีใจ ความสงบ เหล่านี้เป็นอารมณ์ รูป รส กลิ่น เสียง สิ่งที่สัมผัสทางกาย ความคิด เหล่านี้ก็เป็นอารมณ์ เมื่อเราปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน ได้รู้เห็นความจิรงมากขึ้น อวิชชาก็จะอ่อนกำลังตามลำดับ ตัณหาคือความอยากได้ อารมณ์ดี ๆ ก็จะลดลงตามลำดับ และถ้าตัณหาอ่อนกำลังลงมากพอ ผู้ปฏิบัติก็จะบรรลุมรรคผลได้ในที่สุด คำว่า มรรคผล เป็นชื่อของปัญญาชั้นสูง มรรค เป็นชื่อของอารมณ์ที่ทำหน้าที่ประหารกิเลส เรียกว่า มรรคญาณ ผล เรียกว่า ผลญาณ ส่วนคำว่า มรรค ใน อริสัจ 4 หมายถึงวิธีปฏิบัติธรรมเพื่อการบรรลุมรรคผล ซึ่งหมายถึงการฝึกมีสติสัมปชัญญะนั่นเอง สำหรับผู้ที่ปฏิบัติธรรมจนได้มรรคผลแล้ว เรียกว่า อริยบุคคล มี 4 ระดับ คือ
    1. พระโสดาบัน เป็นผู้ที่ได้มรรคผลครั้งแรก เรียกว่าได้โสดาปัตติมรรค โสดาปัตติผล เปลี่ยนจากความเป็น ปุถุชน คือผู้หนาแน่นด้วยกิเลส มาเป็น อริยบุคคล คือผู้ประเสริฐ คนทั้งหลายได้ชื่อว่าเป็นปุถุชนเพราะมีกิเลสอยู่ในขันธสันดาน 100% ส่วนพระโสดาบันเป็นผู้ที่สามารถประหารกิเลสให้เบาบางลงเหลือ 75% (ตัวเลขสมมุติเพื่อให้เข้าใจง่าย) เรียกว่า ได้กระแสพระนิพพาน
    2. พระสกิทาคามี เป็นผู้ที่ได้มรรคผลครั้งที่ 2 เรียกว่า ได้สกิทาคามีมรรค สกิทาคามีผล สามารถประหารกิเลสในขันธสันดานให้เบาบางลงเหลือ 50% (ตัวเลขสมมุติ)
    3. พระอนาคามี เป็นผู้ที่ได้มรรคผลครั้งที่ 3 เรียกกว่าได้อนาคามีมรรค อนาคามีผล สามารถประหารกิเลสในขันธสันดานให้เบาบางลงเหลือ 25% (ตัวเลขสมมุติ)
    4. พระอรหันต์ เป็นผู้ที่ได้มรรคผลครั้งที่ 4 เรียกว่าได้อรหัตมรรค อรหัตผล สามารถประหารกิเลสได้หมดเหลือ 0% (ตัวเลขจริง) คือไม่มีกิเลสเหลืออยู่ในขันธสันดานเลย เรียกว่าได้นิพพานเป็นอารมณ์ จะไม่มีกิเลสเข้าร่วมในการเห็น การได้ยิน ฯลฯ อีกต่อไป ชีวิตจะมีแต่ความสุข ไม่มีความโกรธ ความฟุ้งซ่าน ความหงุดหงิด ความรำคาญ ความกลัว ความกลุ้มใจ ความหดหู่ใจ อีกเลยแม้เสี้ยววินาทีเดียว ได้ชื่อว่าปฏิบัติธรรมสำเร็จแล้ว ไม่มีกิจใด ๆ ที่จะต้องทำอีกต่อไป ไม่ว่าจะใช้ชีวิตอย่างไร มีอาชีพการงานอย่างไรก็เป็นสุขตลอด พระพุทธองค์จึงตรัสว่า นิพพานเป็นสุขอย่างยิ่ง
    จะเห็นได้ว่างานในการปฏิบัติธรรมมีอยู่เพียงอย่างเดียวคือ การทำสติสัมปชัญญะหรือการทำปัญญาให้เกิดขึ้น เราจะต้องพยายามทำให้เกิดขึ้นบ่อย ๆ ให้เกิดขึ้นนาน ๆ งานของเรามีเพียงเท่านี้เอง เมื่อเราทำกรรมที่เป็นเหตุให้ได้มรรคผลเราก็ต้องได้มรรคผลเป็นธรรมดา เมื่อบรรลุมรรคผลครั้งแรกเป็นโสดาบันแล้ว งานของเราต่อไปก็ยังคงเหมือนเดิม คือพยายามทำสติสัมปชัญญะให้เกิดขึ้นบ่อย ๆ ให้เกิดขึ้นนาน ๆ ไม่ช้าก็จะบรรลุมรรคผลขั้นที่สูงขึ้นไปอีก เราต้องทำให้ได้มรรคผลถึง 4 ครั้ง จึงสำเร็จกิจ คือได้นิพพานอันเป็นจุดหมายสูงสุดของการปฏิบัติธรรม

    [​IMG]

    ฉะนั้นผู้ปฏิบัติธรรมจะต้องศึกษาแนวทางการปฏิบัติให้ดีเสียก่อนว่า ทางใดถูก ทางใดผิด เพราะถ้าเดินทางผิดแล้ว ก็ไม่มีโอกาสที่จะประสบความสำเร็จได้เลย เปรียบเสมือนคนที่ปรารถนาจะว่ายน้ำเป็น มีคนมาบอกว่า ถ้าวิ่งออกกำลังทุกวันจนร่างกายแข็งแรงดีแล้ว จะว่ายน้ำเป็น คนผู้นั้นก็หัดวิ่งด้วยความตั้งใจ โดยหวังว่าสักวันหนึ่งตนจะว่ายน้ำเป็น ท่านลองคิดดูเถิดว่าเขาจะฝึกวิ่งสักกี่ปีจึงจะว่ายน้ำเป็น อย่าว่าแต่ 10 ปีเลย แม้ 100 ปีก็ไม่มีทางว่ายน้ำเป็น ที่ว่ายไม่เป็นก็เพราะไม่สร้างเหตุคือการหัดว่ายน้ำ ท่านที่กำลังปฏิบัติธรรมอยู่จงพิจารณาดูเถิดว่า ท่านสร้างเหตุที่ทำให้ได้มรรคผลนิพพานแล้วหรือยัง พระพุทธองค์ตรัสยืนยันว่า บุคคลที่ไม่ทำกรรมชั่วหนักถึงขั้นอนันตริยกรรม (กรรมหนัก เช่น ฆ่าบิดา มารดา หรือทำร้ายพระพุทธเจ้า) มีความปรารถนาจะได้มรรคผลนิพพานได้ลงมือปฏิบัติธรรมทำความเพียรไม่ย่อหย่อน อย่างช้าไม่เกิน 9 ปี จะต้องได้เป็นพระอนาคามี หรือไม่ก็เป็นพระอรหันต์แน่นอน แต่ถ้าเป็นคนที่มีบุญบารมีมาก ก็สามารถสำเร็จได้ภายใน 7 วัน


    [​IMG]


    [SIZE=+2]2. สมถกรรมฐาน[/SIZE]
    โดยปรกติการทำงานย่อมมีอุปสรรคเสมอ ถ้าเราเป็นคนมีเหตุผล ก็อาจจะหาสาเหตุและแก้ไขอุปสรรคต่าง ๆ เหล่านั้นได้ ในการปฏิบัติธรรมก็เช่นกัน บางครั้งจิตของเราไม่สงบ มีความฟุ้งซ่านมาก ไม่สามารถทำสติสัมปชัญญะให้เกิดขึ้นได้ เราต้องหาวิธีทำจิตให้สงบเสียก่อน วิธีทำจิตให้สงบเรียกว่า สมรถกรรมฐาน แบ่งออกได้เป็น 2 วิธีใหญ่ ๆ คือ การทำสมาธิ และการพิจารณาธรรม
    2.1 การทำสมาธิ
    ใช้ในกรณีที่จิตมีความฟุ้งซ่าน รำคาญใจ มีความโกรธ ความหงุดหงิดเกิดขึ้น การทำสมาธิแบ่งออกได้เป็นสองวิธีคือ การนั่งสมาธิ และการเจริญสติ
    1). การนั่งสมาธิ เป็นการทำสมาธิในขณะที่ร่างกายนิ่งอยู่กับที่ ไม่เคลื่อนไหว อาจจะใช้วิธีนั่งหลับตา แล้วกำหนดให้สติอยู่กับอารมณ์ใดอารมณ์หนึ่งเพียงอารมณ์เดียว เช่น นึกถึงองค์พระพุทธรูป ก็ให้ใจอยู่ที่องค์พระ นึกให้เห็นองค์พระอยู่เบื้องหน้า ไม่ให้ใจรับรู้อารมณ์อื่นเลย ถ้าเผลอคิดถึงเรื่องอื่น พอนึกได้ก็ให้ดึงจิตมานึกถึงองค์พระอึก นึกให้เหมือนว่ามีองค์พระมาปรากฏอยู่เบื้องหน้าจริง ๆ ถ้านึกจนเห็นเป็นภาพองค์พระปรากฏชัดเจนอยู่เบื้องหน้า ก็เรียกว่าจิตตั้งมั่นเป็นสมาธิ ภาพที่ปรากฏชัดอยู่ในความรู้สึกนี้เรียกว่า นิมิต การที่เราจะกำหนดเอาอะไรมาเป็นอารมณ์ก็แล้วแต่ความชอบ หรือความถนัดของเรา นึกอะไรได้ง่ายได้ชัด ก็ให้เอาสิ่งนั้นมาเป็นอารมณ์ เช่น ชอบสีแดง ก็นั่งหลับตาแล้วนึกถึงสีแดง เพ่งให้เห็นว่ามีสีแดงอยู่เบื้องหน้า นึกให้เหมือนกับว่ามีสีแดงปรากฏอยู่ต่อหน้าจริง ๆ เราอาจจะนึกเพ่งลูกแก้ว แสงสว่าง ความสุข ความว่างเปล่า หรืออย่างอื่นก็ได้ ถ้านั่งหลับตาแล้วนึกภาพไม่ออกก็อาจจะลืมตามองดูสิ่งที่เราต้องการเพ่งก็ได้ เช่น เอาลูกแก้วมาวางไว้ข้างหน้า เพ่งมองให้ติดตาติดใจเสียก่อนแล้วจึงหลับตานึกให้เห็นลูกแก้วปรากฏอยู่เบื้องหน้า ถ้านึกไม่ออกก็ลืมตามองดูลูกแก้วแล้วหลับตาใหม่อีก ถ้าสมาธิดีเราก็จะเห็นนิมิตเป็นลูกแก้วปรากฏชัดเจนอยู่เบื้องหน้า
    2). การเจริญสติ เป็นการทำสมาธิในขณะที่ร่างกายเคลื่อนไหวอยู่ในอิริยาบถต่าง ๆ ทำได้โดยการให้มีสติอยู่กับงานที่ทำในปัจจุบัน คือปัจจุบันทำอะไรอยู่ก็ให้รู้ว่ากำลังทำอย่างนั้น เช่น ขณะที่ยืนอยู่ก็ให้รู้สึกว่ากำลังยืนอยู่ นั่งอยู่ก็ให้รู้ว่ากำลังนั่งอยู่ เดินอยู่ก็ให้รู้ว่ากำลังเดินอยู่ เคี้ยวอาหารอยู่ก็ให้รู้ว่ากำลังเคี้ยว กลืนอาหารก็ให้รู้ว่ากำลังกลืน ยิ้มก็ให้รู้ว่ากำลังยิ้ม พูดก็ให้รู้ว่ากำลังพูด ไอก็ให้รู้ว่ากำลังไอ หยิบปากกาก็ให้รู้ว่ากำลังหยิบปากกา เขียนหนังสือก็ให้รู้ว่ากำลังเขียน ถ้ามีสติรู้อยู่ในอิริยาบถ
    ต่าง ๆ ได้อย่างต่อเนื่อง จิตก็จะตั้งมั่นเป็นสมาธิ
    การทำสมาธิทั้งสองวิธีจะให้ผลเหมือนกันคือ ทำให้จิตสงบ ตั้งมั่นเป็นสมาธิ โดยธรรมชาติแล้ว เมื่อจิตสงบเป็นสมาธิก็จะมีอารมณ์ฌาน เช่น มีปีติ (ความอิ่มใจ) มีสุขเกิดขึ้น จะมากหรือน้อยก็แล้วแต่กำลังของสมาธิ ยิ่งสมาธิมีกำลังมาก ความสุขในฌานก็ยิ่งมีมาก ความสุขอันเกิดจากสมาธินี้แหละที่เป็นธรรมะ ฝ่ายตรงข้ามกับ นิวรณ์ 5 อันได้แก่ ความพอใจในกาม ความพยาบาท ความง่วงซึม ความฟุ้งซ่านรำคาญใจ และความลังเลสงสัย เมื่อมีอารมณ์ฌานเกิดขึ้น นิวรณ์ 5 ก็ย่อมดับไปเป็นธรรมดา จิตย่อมมีความสดชื่น เบิกบาน ผ่องใน กระปรี้กระเปร่า สามารถที่จะปฏิบัติธรรมต่อไปได้โดยง่าย
    การทำสมาธินี้ ถ้าสมาธิอยู่ในขั้นสูงก็จะสามารถทำอิทธิปาฏิหาริย์ต่าง ๆ ได้ เช่น สามารถแสดงฤทธิ์ ล่องหน หายตัวได้ มีตาทิพย์ หูทิพย์ อ่านใจผู้อื่นได้ ระลึกชาติได้ เป็นต้น เนื่องจากผลของสมาธิทำให้ผู้ปฏิบัติได้รับความสุข จึงอาจจะเข้าใจผิดได้ว่า เป็นทางที่จะบรรลุมรรคผล ผมเองก็เคยทะสมาธิจนมีปีติ สุข เกิดขึ้น และเข้าใจว่าเป็นทางที่ถูก ภายหลังจึงได้พบว่า การทำสมาธิไม่ใช่เหตุที่จะทำให้ได้มรรคผลนิพพาน เพียงแต่เป็นเครื่องช่วยให้การปฏิบัติธรรมได้ผลเร็วขึ้นเท่านั้น
    2.2 การพิจารณาธรรม
    ใช้ในกรณีที่จิตมีตัณหามาก เช่น อยากไปเที่ยว อยากดูหนังละคร อยากฟังเพลง อยากกินอาหารอร่อย ๆ อยากสวยอยากงาม อยากร่ำรวย อยากเป็นผู้ยิ่งใหญ่ อยากเป็นโน่นเป็นนี่ ไม่อาจที่จะมีสติตั้งมั่นอยู่กับปรมัตถธรรมได้ จึงต้องมีการพิจารณาธรรม เพื่อให้จิตคลายกำหนัดจากอารมณ์ต่าง ๆ เหล่านั้น
    การพิจารณาธรรมก็คือการนึกคิดพิจารณาถึงความจริงของชีวิต อาจจะพิจารณาได้หลายลักษณะ เช่น พิจารณาถึงความเจ็บป่วย ความแก่ ความตาย พิจารณาไตรลักษณ์คือความไม่เที่ยง เป็นทุกข์ และความไม่มีตัวตนของชีวิต อาจจะใช้วิธีนึกคิดขึ้นมาเองเฉย ๆ หรืออาจจะมองภาพไปด้วยนึกคิดไปด้วยก็ได้ เช่น ดูคนแก่แล้วก็พิจารณาว่า อีกหน่อยเราก็ต้องอยู่ในสภาพที่น่าสมเพชเช่นนี้ ชีวิตนี้ไม่น่ายินดีเลย อย่ายินดีในชีวิตนี้เลย ดูไปด้วยพิจารณาไปด้วย พิจารณากลับไปกลับมาหลาย ๆ หน ไม่ช้าเราก็จะรู้สึกสลดหดหู่ใจ ตัณหาคือความทะยานอยากในสิ่งต่าง ๆ ก็จะสงบลง เราก็สามารถที่จะปฏิบัติธรรมต่อไปได้
    เพราะเหตุที่การพิจารณาธรรม ทำให้จิตคลายกำหนัดจากอารมณ์ที่น่ายินดีรู้สึกเบื่อหน่ายในชีวิต ผู้ปฏิบัติจึงอาจจะเข้าใจผิดได้ว่า การพิจารณาธรรมอยู่เนือง ๆ จะทำให้สามารถบรรลุมรรคผล ตัวผมเองก็เคยพิจารณาธรรมเช่นนี้จนจิตใจมีความหดหู่ มีความสงบ ระงับ ตัณหาไม่กำเริบ ก็คิดว่าเป็นทางที่ถูก ภายหลังจึงได้พบว่าการพิจารณาธรรมไม่ใช่เหตุที่จะทำให้ได้มรรคผลนิพพาน เพียงแต่เป็นเครื่องช่วยให้การปฏิบัติธรรมได้ผลเร็วขึ้นเท่านั้น
    ถ้าจะเปรียบการปฏิบัติธรรมเป็นการหัดว่ายน้ำ
    - สุตามยปัญญา ปัญญาที่เกิดจากการฟังธรรมเปรียบเสมือนการเรียนวิธีว่ายน้ำจากครูฝึก
    - จินตามยปัญญา ปัญญาที่เกิดจากการคิดพิจารณา เปรียบเสมือนการได้ลงไปหัดว่ายน้ำ ทำท่าทำทางเหมือนกับคนว่ายน้ำเป็น แต่ยังว่ายไม่เป็น
    - ภาวนามยปัญญา ปัญญาที่ได้เห็นธรรม อันเกิดจากการมีสติสัมปชัญญะ เปรียบเสมือนการว่ายน้ำเป็นแล้ว
    - การทำสติสัมปชัญญะให้เกิดขึ้นบ่อย ๆ เกิดขึ้นนาน ๆ เปรียบเสมือนการหัดว่ายน้ำให้เก่งขึ้น
    - การบรรลุมรรคผลเปรียบเสมือนการว่ายน้ำข้ามคลองได้สำเร็จ
    - การทำสมาธิเปรียบเสมือนการฝึกออกกำลัง กายช่วยให้ร่างกายแข็งแรง แม้ร่างกายแข็งแรงอย่างเดียว แต่ไม่หัดว่ายน้ำให้เก่ง ก็ยังว่ายข้ามคลองไม่ได้
    - การพิจารณาธรรมเปรียบเสมือนการอ่านตำราว่ายน้ำ หรือการฝึกทำท่าทำทางอยู่บนบก แม้จะช่วยให้ว่ายน้ำได้ดีขึ้น แต่ถ้าไม่ลงไปหัดว่ายน้ำในคลองให้เก่งก็ว่ายข้ามคลองไม่ได้อยู่ดี​
    แม้ว่าในทางทฤษฎีการปฏิบัติธรรม จะแยกออกเป็นสองวิธีก็ตาม แต่ในทางปฏิบัติทั้งวิปัสสนากรรมฐานและสมถกรรมฐานจะมีวิธีทำเหมือนกัน จะต่างกันก็เฉพาะอารมณ์ที่เราเอามาใช้ในการกำหนดเท่านั้น ถ้าใช้สมมุติเป็นอารมณ์ก็เป็นสมถะ แต่ถ้าใช้สมมุติเป็นอารมณ์และมีการละความยินดียินร้ายในสมมุตินั้นด้วยก็เป็นวิปัสสนา เช่น ถ้าเรานั่งสมาธิโดยการเพ่งมองพระพุทธรูป แต่สนใจเฉพาะรูปทรง สีสันเท่านั้น ไม่สนใจในความเป็นพระพุทธรูป อย่างนี้ก็เป็นวิปัสสนา เพราะรูปทรงสีสันของภาพเป็นปรมัตถ์ แต่ถ้าเราเพ่งมองพระพุทธรูป โดยมีความรู้สึกว่าเป็นพระพุทธรูปอย่างนี้ก็เป็นสมถะเพราะพระพุทธรูปเป็นสมมุติ และถ้าเราเพ่งมองพระพุทธรูป โดยมีความรู้สึกว่าเป็นพระพุทธรูป แต่เราไม่ยินดีติดใจในพระพุทธรูป อย่างนี้ก็เป็นวิปัสสนา <center> [​IMG]
    </center> ​
    [​IMG] <noscript>[​IMG]</noscript> [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 ธันวาคม 2010
  8. Crystal DNA

    Crystal DNA เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    586
    ค่าพลัง:
    +530
    Holy bible number = word of god

    bible ไม่ใช่ศาสนาน่ะครับ
    bible เป็นบันทึกที่พระเจ้าดลจิตให้บุคคลเขียนขึ้นมา
    holy bible number ชุดนี้จะเป็นพื้นฐานของเลขตองทั้งหมดครับท่าน

    power = 77
    riches = 62
    wisdom = 83
    strength = 111
    honor = 70
    glory = 77
    blessing = 87
    lamb = 28
    182 =182=ผุ้นำสาส์น

    444=70+77+87+28+182
    222=77+62+83
    333=77+62+83+111
    555=70+77+87+28+182+111
    777=77+62+83+111+70+77+87+28+182
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 ธันวาคม 2010
  9. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,682
    ค่าพลัง:
    +51,931
    <TABLE id=post3093763 class=tborder border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid" class=thead>19-03-2010, 04:39 PM </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=thead align=right> #114 </TD></TR><TR vAlign=top><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=alt2 width=175><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->Little Duck<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_3093763", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    [​IMG]

    วันที่สมัคร: May 2008
    ข้อความ: 719
    พลังการให้คะแนน: 185 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </TD><TD style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" id=td_post_3093763 class=alt1><!-- google_ad_section_start -->อ้างอิง:
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%"><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-RIGHT: 1px inset" class=alt2>ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ Little Duck [​IMG]
    Sujja.. = สัจจะ
    Sujja.. = 19+21+10+10+1 = 61 = 7
    7 = GRAND = ครอบคลุม , สำคัญที่สุด, รวบยอด

    GRAND = 7+18+1+14+4 = 44
    44 = DD = Doctor of Divinity = ปริญญาเอกทางศาสนศาตร์
    หมายถึง ธรรมชั้นสูง, ธรรมชั้นเอก หรือ พระศาสดาเอกของโลก

    จะห็นว่าข้อมูลทั้งหมดจะสนับสนุนซึ่งกัน ..

    Little Duck _heart+love_-love mode-_heart+love_

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE id=post3092272 class=tborder border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: 1px solid; BORDER-LEFT: 1px solid; BORDER-TOP: 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: 0px" class=thead>[​IMG] วันนี้, 11:34 AM </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: 1px solid; BORDER-LEFT: 0px; BORDER-TOP: 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: 1px solid" class=thead align=right>#111 </TD></TR><TR vAlign=top><TD style="BORDER-BOTTOM: 0px; BORDER-LEFT: 1px solid; BORDER-TOP: 0px; BORDER-RIGHT: 1px solid" class=alt2 width=175><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->หนุมาน ผู้นำสาร<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_3092272", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    วันที่สมัคร: Jul 2006
    ข้อความ: 8,555
    Groans: 1
    Groaned at 394 Times in 282 Posts
    ได้ให้อนุโมทนา: 93
    ได้รับอนุโมทนา 57,416 ครั้ง ใน 7,749 โพส
    พลังการให้คะแนน: 4117 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </TD><TD style="BORDER-RIGHT: rgb(255,255,255) 1px solid" id=td_post_3092272 class=alt1><!-- google_ad_section_start -->
    *** สัจจะ หนึ่งไม่มีสอง ****

    [​IMG]


    ๑๑
    ๑๑๑๑


    - " หนุมาน ผู้นำสาร "<!-- google_ad_section_end -->
    </TD></TR><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: 1px solid; BORDER-LEFT: 1px solid; BORDER-TOP: 0px; BORDER-RIGHT: 1px solid" class=alt2>[​IMG] [​IMG]<SCRIPT type=text/javascript> vbrep_register("3092272")</SCRIPT> [​IMG] </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: 1px solid; BORDER-LEFT: 0px; BORDER-TOP: 0px; BORDER-RIGHT: 1px solid" class=alt1 align=right>[​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE>

    สวัสดีค่ะ คุณ หนุมาน ผู้นำสาร
    ๑ = A
    ๑๑ = AA
    ๑๑๑๑ = AAAA

    A = อันดับหนึ่ง , คุณภาพ หรือ ชั้นดีที่สุด

    นับเลข ๑ ได้ ๗ ตัว เท่ากับ ๗

    ๗ = G = GRAND = Sujja


    Little Duck .._heart+love_-love mode-_heart+love_
    <!-- google_ad_section_end -->
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  10. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,682
    ค่าพลัง:
    +51,931
    [​IMG]

    *** มรรค ****

    สัจจะปฏิบัติ...คือ วิธีปฏิบัติธรรม ....คือ วิธีทำลายประหารเผาผลาญกิเลส
    ข้อสัจจะ...ปลดลดนิสัยตัญหาทิฐิมานะตนเอง....ก็คือ มรรคผลนิพพาน
    เป็นทางตรง...ไม่ได้หวังผลเลิศของอื่น

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  11. Crystal DNA

    Crystal DNA เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    586
    ค่าพลัง:
    +530
    ผู้ที่ถูกรับไปกลางอากาศรอบแรก และคนที่หลงอยู่บนโลก

    พระเจ้าได้บอกข้าพเจ้าว่า ทุกคนได้มองหาหมายสำคัญว่าเป็นยุคสุดท้าย แต่สิ่งเหล่านี้ได้อยู่ข้างหน้าเจ้าทุกคน แต่พวกท่านได้ตาบอดเป็นอย่างมาก จะสังเกตเห็นได้อย่างไร พระเยซูคริสต์ได้พูดพยากรณ์ เกี่ยวกับ แผ่นดินไหวทั่วทุกแห่ง และสงครามและภัยพิบัติจากสงคราม และสิ่งเหล่านี้ได้กลายเป็นอดีตผ่านไป พวกท่านยังปฎิเสธไม่รู้อีกหรือว่า เวลายุคสุดท้ายเริ่มต้นตั้งแต่บัดนี้ (ตอนนี้ได้แกะตราดวงที่สามแล้วในวิวรณ์)
    [​IMG]
    หนังสือเล่มนี้จะพูดถึง เกี่ยวกับ THE DELIVERER (พระวิญญาณบริสุทธิ์ 182 ที่จะเคลื่อนไหวคนของพระเจ้าไปในกลางอากาศ )และ DELIVERANCE(พระวิญญาณบริสุทธิ์ในลักษณะของบุคคลการทำการปลดปล่อย) แต่อย่างไรก็ตามคนที่อ่านหนังสือเล่มนี้ 1st RAPTURE ผู้ที่ถูกรับไปกลางอากาศรอบแรกได้เตรียมพร้อม ทำการยืนยันที่จะเกิดขึ้นได้ทุกเวลาแล้ว และพวกท่านทุกคนต้องตื่นตัวว่า จะเป็นคนหนึ่งในที่ไม่ได้ถูกรับไปกลางอากาศคือหลงอยู่บนโลก เพราะ THE DELIVERER (พระวิญญาณบริสุทธิ์ 182 ที่จะเคลื่อนไหวคนของพระเจ้าไปในกลางอากาศ ) ได้ออกไปจากโลกนี้แล้วพร้อมกับเจ้าสาวของพระคริสต์ และซาตานได้ถูกไล่ลงมาสู่โลกเพื่อปกครองโลก สี่สิบสองเดือน และจากนั้นอีกในไม่ช้าจะทำการ ฝังชิพ เครื่องหมายของสัตว์ร้าย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 ธันวาคม 2010
  12. Crystal DNA

    Crystal DNA เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    586
    ค่าพลัง:
    +530
    อธิบายการถูกรับไปกลางอากาศในอนาคตที่จะมาถึง
    การถูกรับขึ้นไปกลางอากาศที่ในไบเบิ้ลได้ บันทึก ยังไม่ได้เกิดขึ้นทั้งหมด อย่างสมบูรณ์ แต่ผมเชื่อว่า เจ้าสาวของพระคริสต์ จะถูกรับตัวไปได้ทุกขณะในเวลาปัจจุบันนี้ ซึ่งเจ้าสาวของพระคริสต์จะถูกรับขึ้นไปจากเสียงแตรครั้งที่หนึ่ง เพราะว่าเจ้าสาวจะถูกรับขึ้นไปและไปอยู่ในสถานที่ป้องกันอย่างปลอดภัย ในแนวขนานกับโลก ซึ่งเป็นสถานที่ เป็นเมืองใหญ่ที่สร้างขึ้นด้วยภูเขาหิน ในอีกระดับจากโลก ให้พ้นจากสงคราม( วิวรณ์ 12:7 ) และได้อ้างถึงในพระคำภีร์ เรียกว่า ที่ว่างเปล่าที่ๆไม่มีคนอาศัยอยู่ ( wilderness ) เจ้าสาวจะรออยู่ที่นั้น ประมาณ สามปีครึ่ง ระหว่างวันแห่งความทุกข์ยากบนโลกเกิดขึ้น
    วิวรณ์ 12:6 และหญิงนั้นก็หนีเข้าไปใน ว่างเปล่าที่ๆไม่มีคนอาศัยอยู่มาก่อน ( wilderness ) ที่นางมีสถานที่ซึ่งพระเจ้าได้ทรงจัดเตรียมไว้ให้ เพื่อนางจะได้รับการเลี้ยงดูอยู่ที่นั่นตลอดพันสองร้อยหกสิบวัน
    มีคาเอลและทูตสวรรค์ของท่านต่อสู้กับซาตาน
    เสริม 12:7 และมีสงครามเกิดขึ้นในสวรรค์ มีคาเอลและพวกทูตสวรรค์ของท่านได้ต่อสู้กับพญานาค และพญานาคกับพวกทูตของมันก็ต่อสู้
    หลังจากเจ้าสาวถูกรับไปอยู่ที่นั้น สิบแปดเดือน เสียงแตรครั้งที่สาม ดังขึ้น พยานทั้งสอง ซึ่งเป็นจิตวิญญาณของกษัตริย์ ดาวิดและกษัตริย์ซาโลมอน ก็จะได้ ถูกรับขึ้นไป ซึ่งเรียกว่า การถูกรับไปกลางอากาศขณะในวันทุกข์ยากบนโลก พวกเขาซึ่งได้รับความรอดด้วยการกลับใจต่อพระเจ้าด้วยพยานทั้งสองนี้ คือ แขกรับเชิญที่มางานเลี้ยงที่เหลืออยู่บนโลก (ที่ได้กลับใจจากพยานทั้งสอง) คนเหล่านี้จะได้รับเครื่องหมายปกป้องที่หน้าฝากจากพระเจ้า เหมือนกับ 144,000 ธรรมมิกชน สามารถอ่าน เอเสเคียล บทที่ 9 มีบันทึก อธิบายว่า เครื่องหมายที่หน้าฝาก ของ 144,000 ธรรมมิกชนและแขกรับเชิญมางานเลี้ยง(ที่ถูกเลือก)
    อ่านเสริม คำพยากรณ์ของพยานทั้งสอง
    11:3 และเราจะให้ฤทธิ์อำนาจแก่พยานทั้งสองของเรา และเขาจะพยากรณ์ตลอดพันสองร้อยหกสิบวัน นุ่งห่มด้วยผ้ากระสอบ 11:4 พยานทั้งสองนั้นคือต้นมะกอกเทศสองต้น และคันประทีปสองคันที่ตั้งอยู่เบื้องพระพักตร์พระเจ้า ผู้ทรงเป็นเจ้าแห่งแผ่นดินโลก 11:5 ถ้าผู้ใดประสงค์จะทำร้ายพยานทั้งสองนั้น ไฟก็จะพลุ่งออกจากปากเขาเผาผลาญศัตรูผู้นั้น ถ้าผู้ใดจะทำร้ายพยานทั้งสอง ผู้นั้นก็จะต้องตายในลักษณะนี้ 11:6 พยานทั้งสองมีฤทธิ์ปิดท้องฟ้าได้ เพื่อไม่ให้ฝนตกในระหว่างวันเหล่านั้นที่เขากำลังพยากรณ์ และมีฤทธิ์อำนาจเหนือน้ำทำให้กลายเป็นเลือดได้ และมีฤทธิ์บันดาลให้ภัยพิบัติต่างๆกระหน่ำโลก กี่ครั้งก็ได้ตามความปรารถนาของเขา
    11:7 และเมื่อเสร็จสิ้นการเป็นพยานแล้ว สัตว์ร้ายที่ขึ้นมาจากเหวที่ไม่มีก้นเหวก็จะสู้รบกับเขา จะชนะเขาและจะฆ่าเขาเสีย 11:8 และศพของเขาจะอยู่ที่ถนนในเมืองใหญ่นั้น ซึ่งตามฝ่ายจิตวิญญาณเรียกว่า เมืองโสโดมและอียิปต์ อันเป็นเมืองซึ่งองค์พระผู้เป็นเจ้าของเราถูกตรึงด้วย
    11:9 คนหลายชาติ หลายตระกูล หลายภาษา หลายประชาชาติ จะเพ่งดูศพเขาตลอดสามวันครึ่ง และจะไม่ยอมให้เอาศพนั้นใส่อุโมงค์เลย 11:10 คนทั้งหลายซึ่งอยู่ในแผ่นดินโลกจะยินดีเพราะเขา และจะสนุกสนานรื่นเริง จะให้ของขวัญแก่กัน เพราะว่าผู้พยากรณ์ทั้งสองนี้ได้ทรมานคนเหล่านั้นที่อาศัยอยู่ในโลก"

    11:11 เมื่อเวลาผ่านไปสามวันครึ่งแล้ว ลมปราณแห่งชีวิตจากพระเจ้าก็เข้าสู่ศพของเขาอีก และเขาก็ลุกขึ้นยืน คนทั้งหลายที่ได้เห็นเขาก็มีความหวาดกลัวเป็นอันมาก
    11:11 And after three days and an half the Spirit of life from God entered into them, and they stood upon their feet; and great fear fell upon them which saw them.

    11:12 คนทั้งหลายได้ยินพระสุรเสียงดังมาจากสวรรค์ ตรัสแก่เขาว่า "จงขึ้นมาที่สูงที่นี่เถิด" และพวกศัตรูก็เห็นเขาขึ้นไปในหมู่เมฆสู่สวรรค์
    11:12 And they heard a great voice from heaven saying unto them, Come up hither. And they ascended up to heaven in a cloud; and their enemies beheld them. แผ่นดินไหวครั้งใหญ่
    11:13 และในเวลานั้นก็เกิดแผ่นดินไหวใหญ่ และเมืองนั้นก็ถล่มลงเสียหนึ่งในสิบส่วน มีคนตายเพราะแผ่นดินไหวเจ็ดพันคน และคนที่เหลืออยู่นั้นมีความหวาดกลัวยิ่ง และได้ถวายพระเกียรติแด่พระเจ้าแห่งสวรรค์

    สามเดือนหลังจาก การถูกรับไปกลางอากาศของพยานทั้งสอง เหตุการณ์ พระพิโรธของพระเจ้าจะมาถึง การถูกรับไปกลางอากาศรอบที่สาม จะมีปรากฏการณ์ของ พระเยซูคริสต์ ได้เสด็จกลับมา เหนือเมฆ และสำหรับการถูกรับไปกลางอากาศครั้งนี้ เกิดขึ้น ทุกคนทุกสายตาจะได้เห็นและจะได้เป็นพยานเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้ ( 1 เธสะโลนิกา 4:17 ) ในครั้งนี้ 144,000 ธรรมมิกชนถูกรับขึ้นไปและ พร้อมกับแขกรับเชิญมางานเลี้ยง(ที่ถูกเลือก) จำนวน 389 ล้าน หกแสนคน ถูกรับขึ้นไปสถานที่เดียวที่เจ้าสาวของพระคริสต์อยู่ ในระดับไดเมนชั่น( Dimention ) ที่หกเป็น ความรัก (ซึ่งอยู่ สูง กว้าง ยาว และเหนือกาลเวลา ของโลกนี้)
    วิวรณ์ 12:14 แต่ทรงประทานปีกนกอินทรีใหญ่สองปีกแก่หญิงนั้น เพื่อให้นางบินหนีหน้างูเข้าไปใน ว่างเปล่าที่ๆไม่มีคนอาศัยอยู่มาก่อน( wilderness )ในสถานที่ของนาง จนถึงที่ซึ่งนางจะได้รับการเลี้ยงดู ตลอดวาระหนึ่งและสองวาระและครึ่งวาระ
    12:14 And to the woman were given two wings of a great eagle, that she might fly into the wilderness, into her place, where she is nourished for a time, and times, and half a time, from the face of the serpent.

    คนที่หลงอยู่บนโลกและรวมกับผู้ที่เชื่อเรื่องการถูกรับไปกลางอากาศ ได้รู้แจ้งว่าเขาได้ถูกโกหกจากที่โบสถ์ ( และจากสิ่งที่ตัวเองเลือกที่จะไม่เชื่อเรื่องนี้ ถึงไม่ได้เตรียมตัว ทำบริสุทธิ์ตัวเอง) พวกเขามีเพียงตัวเลือกเดียวคือปฎิเสธ เครื่องหมาย 666 (หก หก หก )ที่หน้าฝาก ในพระนามของพระเจ้าและปรากฏการณ์ที่ได้เห็นพระเยซูคริสต์ คนเหล่านี้ที่ถูกตัดคอ จะเข้าสู่การครองราชย์กับพระคริสต์ หนึ่งพันปี พวกที่เต็มใจยอมถูกตัดคอ นี้จะไม่ได้รับ ชีวิตนิรันดร์( ชีวิตอมตะ) และจะได้รับโอกาศเป็นแขกรับเชิญในโลกถัดไป และโอกาศที่ให้เป็นแขกรับเชิญ(จากการเป็นขึ้นมาจากความตาย) พวกเขาไม่ต้องเผชิญกับความตายครั้งที่สอง หมายถึงพวกเขาไม่ต้องตกนรก
     
  13. แก้วทิพย์

    แก้วทิพย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    450
    ค่าพลัง:
    +2,435
    อ่านคำเฉลยตั้งแต่บรรทัดแรกถึงบรรทัดสุดท้าย เรียนตามตรงว่า ถึงกับนิ่งอึ้งไปตั้งนาน คุณ Little Duck ยิงคันศร เชื่อมโยง เกี่ยวคล้อง รหัสทุกตัวออกมา พุ่งเข้าเป้าทั้งชัดเจน ทั้งแม่นราวกับจับวาง ขอขอบคุณพร้อมกับก้มคารวะต่อความสามารถในวิชานี้ (เราเป็นคนชอบอ่านหนังสือตำรามากต่อมาก แต่เราไม่เคยเห็นตำราการถอดรหัสแบบที่คุณ Little Duck และ คุณ Jintavadee นำมาใช้ในกระทู้นี้)

    ความเป็นจริงก็คือ ปีที่แล้ว ได้ทำ(สร้างสถานปฏิบัติธรรม)ไปแล้ว 1 แห่ง มันแปลกตรงที่ว่า ไม่เคยตั้งใจหรือคิดมาก่อนจริงๆ เพราะมันเป็นงานใหญ่ที่ฐานะการเงินของเราและความสามารถไม่น่าจะอยู่เป็นผู้เริ่มต้นได้ (คือไม่ตั้งใจ = ตั้งใจ) แต่สุดท้ายก็เป็นรูปธรรมของสถานธรรมได้สำเร็จ มีพระภิกษุหนุ่มองค์หนึ่งที่เอาจริงเอาจังกับการปฏิบัติหลายปีตั้งแต่สมัยเป็นฆราวาส มุ่งหวังหลุดพ้นในชาตินี้ให้จงได้ พำนักอยู่ ซึ่ง)รอวันที่จะเติบโตต่อไป ก็คิดว่าพอเพียงแล้วสำหรับงานใหญ่(เฉพาะความเห็นของเรานะ บางคนอาจคิดว่าไม่ยาก ) แต่ตอนนี้สัญญาณถี่ๆเริ่มส่งเข้ามาแล้วในผัสสะให้เรารับทราบว่า สัญญาที่เราถือนำมาเกิดยังมีอีก ยังไม่จบ ยังเป็นสัญญาที่เราจะต้องเหน็ดเหนื่อยใช้ความเพียรมากกว่าที่ผ่านๆมา ก็ต้อง WAIT & SEE

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 ธันวาคม 2010
  14. Crystal DNA

    Crystal DNA เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    586
    ค่าพลัง:
    +530
    WE ARE ONE NOT SEPERATE

    WE ARE ONE NOT SEPERATE
    ทุกคนเข้าใจรึยัง

    สิ่งศักดิ์สิทธิ์สูงสุด ส่งเหล่าบรรดา ศาดาต่างๆมา
    ศาสดาต่างๆที่มาไม่เคยแตกแยกกัน

    มีแต่คนรุ่นหลังที่มาแบ่งแยกศาสนากันเอง
    เพราะคิดกันไปเองว่าของตัวดี ของคนอื่นไม่ดี
    ทั้งๆที่ทุกสิ่ง มาจากสิ่งเดียวกัน นั่นคือ God
    เรามาที่นี่เพื่อรวมทุกสิ่งเป็นสิ่งเดียวกัน
    แต่ไม่รู้ว่าจะทำได้หรือป่าว
    ถ้าทำไม่ได้ก็ถึงคราวของโลกใบนี้
    [​IMG]

    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 ธันวาคม 2010
  15. Little Duck

    Little Duck เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    1,020
    ค่าพลัง:
    +1,981
    ฉันดีใจที่มีเธอ..

    <object width="480" height="385"><param name="movie" value="http://www.youtube.com/v/zmYLNNxNnQ8?fs=1&amp;hl=en_US"></param><param name="allowFullScreen" value="true"></param><param name="allowscriptaccess" value="always"></param><embed src="http://www.youtube.com/v/zmYLNNxNnQ8?fs=1&amp;hl=en_US" type="application/x-shockwave-flash" allowscriptaccess="always" allowfullscreen="true" width="480" height="385"></embed></object>



    welcome3;aa58_heart+love_-Forever + U--Happy Smile_
     
  16. Little Duck

    Little Duck เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    1,020
    ค่าพลัง:
    +1,981
    ยินดีต้อนรับ คุณ Little Duck.
    คุณมาครั้งล่าสุดเมื่อ วันนี้ เวลา
    12:55 PM

    Little Duck = 12+9+20+20+12+5+4+21+3+11 = 117

    18/12/2010 = 18+12+20+10 = 60 =6= FULL
    18 = ROTARY
    12 = DECEMBER = 55
    2010 = TJ = TIME JUSTIFY

    12 = LOVE
    55 = NEW AGE


    117+12+55 = 184 = RD = ROTARY DATA การขับเคลื่อนข้อมูล , ภารกิจ
    184 = 18+4 = 22 = V
    184 = 1+8+4=13 = M & M = M

    ทุกท่านคือผู้ขับเคลื่อนภารกิจ NEW AGE พลังงานใหม่สู่ศิวิไลซ์ ยุคแห่งดุลยภาพ MAGIC & MIRACLE ย่อมมาคู่กันเสมอเพื่อสนับสนุนและส่งเสริมกันในทางสร้างสรรค์ โดยมีจุดตัดคือ ความพอดี MIDDLE ..

    LOVE U
     
  17. where?

    where? เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    299
    ค่าพลัง:
    +883
    ข้อสังเกตุ ข้อมูล DNA มี 2 ด้าน
    - สิ่งศักดิ์สิทธิ์สูงสุด
    - ภัยพิบัติ
    ธรรมชาติของจิตมนุษย์จะเชื่อสิ่งไหน?

    เธอสร้างโลกแห่งความจริงด้วยความเชื่อของตนเอง
     
  18. Crystal DNA

    Crystal DNA เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    586
    ค่าพลัง:
    +530
    ถ้าเราเป็นหนึ่งเรื่องทั้งหมดก็จะไม่เกิด

    ถ้าเราเป็นหนึ่งเดียวกันเรื่องทั้งหมดก็จะไม่เกิด
    แต่ถ้าเมื่อไหร่เราแตกแยก สิ่งร้ายๆก็จะเกิด

    มันมาถึงทางแยกที่ต้องมีการคัดเลือกแล้วก็แค่นั้นเอง
    พระเจ้าจะเป็นคนคัดแยก สิ่งดี ออกจาก สิ่งไม่ดี


    ผู้ซึ๋งได้เสด็จลงมาจากสวรรค์สู่บรรยากาศของโลก เคลื่อนผ่านท้องฟ้าอยู่เหนือ Teman ทาเมน (อยู่เหนือประเทศเยเมนและซาอุดิอาระเบียในปัจจุบัน) ที่เขามีประสบการณ์นี้ตรง กับพระคำภีร์ได้จดบันทึกไว้นั้นความเป็นจริง ว่าถูกรับไปกลางอากาศ ไปอยู่กับองค์พระเยซูคริสต์เจ้านั้นเป็นอย่างไร (เสริม เรบเจอร์รอบแรกเจ้าสาวของพระเยซูคริสต์ เป็นผู้ใหญ่ประมาณแปดแสนคนและเด็กเก้าล้านหกแสนคน นั้นได้รออยู่ในพลับพลา สถานที่ป้องกันเพื่อการซ่อนตัว ฮาบากุก 3:4 the hiding place (Tabernacle) ประมาณ สาม ปีครึ่ง ) และกลับมาด้วยความพร้อมเพียงกัน ณ วันที่พระองค์เสด็จกลับมา ปรากฏอยู่กลางอากาศ ผมจะพยายามที่จะแบ่งปันประสบการณ์นี้กับท่านผู้อ่าน ข้อความที่พระองค์เจ้าได้มอบให้แก่ผม เท่าที่เป็นไปได้ที่สามารถจะแบ่งปัน (การเป็นพยานนั้นไม่สามารถที่จะแบ่งปันความรู้สึก ประสบการณ์เหล่านี้ได้ทั้งหมด ท่านต้องมีประสบการณ์เองส่วนตัว ถึงจะเข้าใจ รับรู้ ได้ทั้งหมด)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 ธันวาคม 2010
  19. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,682
    ค่าพลัง:
    +51,931
    *** พระเจ้าของท่าน ก็คือ ตัวกระทำ ****

    ตัวกระทำมีจริง ตัวกระทำไม่ตาย ตัวกระทำมีผลตอบแทน
    คือ สัจจะธรรม

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  20. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,682
    ค่าพลัง:
    +51,931
    *** พระไตรปิฎก ****

    ตัวกระทำทั้งหมดของพระพุทธเจ้าทุกพระองค์...รวมเป็น พระไตรปิฎก
    เป็นตัวกระทำที่มีอยู่จริงรอบๆตัวเรา รอบครอบจักรวาล
    เป็นตัวกระทำที่ไม่ตาย ไม่สูญสลาย
    คือ ตัวกระทำในเรื่องราวของศาสนศาสตร์

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...