NEW ! NEW AGE PLUS+ พลังงานใหม่ พลังงานอิสระ.. GRAND NATURE ..

วันนี้แวะมาคุยค่ะ เมื่อเดือนพฤศจิกายน ข้าพเจ้าได้รับสื่อสารแปลกๆอย่างหนึ่ง ซึ่งทำให้ข้าพเจ้าตัดสินใจเดินทางไปลำพูนด้วยขบวนรถด่วน อ่านดูเบอร์เลขที่นั่งตู้รถวันเวลาแล้ว ตั๋วรถด่วนสื่อรหัสแปลกๆออกมาเหมือนจะบอกอะไรบางอย่างแก่ข้าพเจ้า เมื่อโพสต์ถาม คุณ Little Duck กรุณาเข้ามาเฉลยคำตอบให้ เมื่อกลับมากรุงเทพ ข้าพเจ้าพบความอัศจรรย์ที่ไม่คาดคิดมาก่อน เกี่ยวกับอดีตวีรกษัตรีย์ผู้เกรียงไกร กล้าหาญปรีชาเฉลียวฉลาด ทรงราชคุณธรรมสูงส่ง ผู้ปลูกฝังมรดกศาสนาพุทธให้ชาวเหนือหรือชาวล้านนาจนบัดนี้ ใช่.. ข้าพเจ้ากำลังพูดถึง พระนางจามเทวี ของนครหริภุญชัย ข้าพเจ้าพบปริศนาบางอย่างที่ข้าพเจ้าต้องกลับไปที่นั่นอีีกครั้งหนึ่ง เพื่อหาคำตอบนี้ในวันที่ 20 นี้ แต่คราวนี้ตั๋วรถไฟเต็ม สุดท้ายตั๋วเดินทางมาจากสายการบิน นกแอร์ เที่ยวบิน DD8310 รหัสตั๋ว 9551915 เหตุการณ์นี้มันช่างประจวบเหมาะกับช่วงที่ข้าพเจ้าจะต้องเปลี่ยน JD (Job description)ที่ข้าพเจ้าใช้มาเป็นเวลานานในสิ้นปีนี้ เป็น JD อันใหม่ของชีวิตที่จะต้องเปลี่ยนสิ่งแวดล้อมโดยสิ้นเชิง

 

MAGIC & MIRACLE

​

 

BLESS YOU..

 

หากรักนี้นิรันดร
จิตใจอาทรท่วมท้น
น้ำตาใครล้นค้นหา
ดวงตาข้านี้เฝ้ามอง

........................

 

ชีวิตก็ไปเรื่อยๆ เหนื่อยก็พัก ล่ะครับ คุณ กบ สาม ตัว

ผมก็ยังไม่เข้าใจชีวิตที่เกิดมาอยู่ดีล่ะครับ คุณ กบ สาม ตัว

ผมเคยมีการงานที่ดีล่ะครับ
แต่ชะตาฟ้าลิขิต พลิกผันต้องกลายมาเป็นคนมีเงินไปวันๆ

ไม่มีเงินแม้กะทั้งจะเติมเงินเล่นเน็ต
น่าสงสารมั้ยล่ะครับ ท่านกบ

หรือนี่เป็นลิขิตสวรรค์ให้ผมทำงานไม่ได้

แล้วสวรรค์ลิขิตให้ผมเป็นอะไรล่ะ...........

 

สัจจะ แห่งโลกุตตระ
อจิณไตยวิมุตติ
NO COMMENT

ข้าพเจ้าเด็กน้อยจินตวดี มีความรู้สึกชื่นชอบในบรรยากาศ 22.22 ช่วงนี้มากมายเป็นพิเศษ เพราะมีความรู้สึกว่ามีโอกาสอันดีมาก และเป็นบุญตามากกับสาระธรรมในช่วงนี้ เหมือนกำลังนั่งดูการปุจฉา วิสัชณาของเหล่าครูบาอาจารย์ทั้งหลายอยู่

ข้าพเจ้ามีความรู้สึกเหมือนดังต้นอ่อนของต้นไม้ ที่กำลังถูกฟูมฟักรดน้ำโดยครูบาอาจารย์ทุกท่านในที่นี้ในการสนับสนุนความรู้ ด้วยข้าพเจ้าปรารถนาจะเป็นต้นไม้ใหญ่ที่มีความมั่นคง เพียงแต่ตอนนี้ยังคงเป็นต้นกล้าเล็ก ๆ อยู่เพียงเท่านั้น

ช่วงนี้ข้าพเจ้ากำลังให้ความสนใจกับเรื่องของ จุดตัด หรือ ปัจจุบันขณะ เป็นพิเศษ เพราะปัจจุบันขณะ คือจุดสำคัญที่เราสามารถจะกำหนดทิศทาง หรือ อนาคตให้กับตนเอง

มนุษย์ทุกคนล้วนมีอดีตทั้งดี และไม่ดีมาทั้งนั้น เราทุกคนล้วนย่อมมีความผิดพลาดกันมาบ้างไม่มากก็น้อย แต่อดีตเป็นเพียงกาลเวลาที่ผ่านมาแล้ว และกลับไปแก้ไขไม่ได้ แต่กาลเวลาที่เราสามารถแก้ไขได้ นั่นคือ ปัจจุบันขณะต่างหาก เพราะปัจจุบันเป็นจุดตัดที่สำคัญในการเปลี่ยนแปลงอนาคต (แสงหักเหได้เพราะจุดตัด)

ณ จุดตัดของปัจจุบันขณะ มีเส้นทางความเป็นไปได้ในอนาคตอันเป็นอนันต์ (หลากหลาย)รอเราอยู่ ขึ้นอยู่กับว่า เรากำลังประพฤติตน หรือกระทำตนสอดคล้องกับเส้นทางความเป็นไปได้เส้นใดในอนาคต

อดีตที่ไม่ดี (เหตุ) ย่อมมีอนาคตที่ไม่ดีรออยู่ (ผล) แต่หากเรารู้เท่าทันว่าสิ่งที่เคยทำมานั้นไม่ดี และแน่นอนผลในอนาคตที่ไม่ดีย่อมรอเราอยู่ แต่หากเราอยากเปลี่ยนผลในอนาคตเราก็ย่อมทำได้เสมอโดยอาศัยหลักการของจุดตัด หรือ ป้จจุบันขณะ และ หลักการของสัจจะ (หนุมาน ผู้นำสาร)

สัจจะ นับเป็นสิ่งสำคัญมากหากเราต้องการหักเหเส้นทาง หรือผลลัพท์ของอนาคตให้ดีกว่าเดิม เพราะสัจจะคือ หลักการของตัวกระทำ ตัวกระทำไม่มีวันตาย ตัวกระทำมีผลตอบแทนเสมอ

หากปัจจุบันขณะของเรายึดหลักของการกระทำอันมีผลตอบแทนเสมอ เราย่อมพยายามประพฤติตนโดยการเปลี่ยนนิสัยความเคยชินแบบเก่า ๆ ที่ไม่ดี หรือ ไม่สร้างสรรค์เหล่านั้น ไปในทิศทางใหม่ที่ดีขึ้นกว่าเดิม ซึ่งเปรียบเสมือนกับการเลือกเลี้ยวซ้าย หรือ เลี้ยวขวา เพราะ สถานที่ที่กำลังรออยู่ที่ปลายทางนั้น ย่อมไม่ใช่สถานที่เดิมของเส้นทางเก่า แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นการที่จะเปลี่ยนเส้นทางในอนาคตได้ หรือ ผลลัพท์ในอนาคตได้ทุกอย่างก็ขึ้นอยู่กับเราเองว่ามีการกระทำเที่ยง หรือ มีสัจจะในการกระทำในทิศทางใหม่นั้นแค่ไหน

นอกจากหลักการของสัจจะ จะเกี่ยวข้องกับการกระทำเที่ยง หรือ ผลของการกระทำแล้ว "สัจจะ" ก็ยังเกี่ยวข้องกับหลักการของการไม่เห็นตนเองถูก และ ไม่เห็นผู้อื่นผิดด้วย(หนุมาน ผู้นำสาร)

การไม่เห็นตนเองถูก และ ไม่เห็นผู้อื่นผิด (หนุมาน ผู้นำสาร) ถือว่าเป็น ข้อมูลพื้นฐานของการอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุขบนโลกใบนี้ (HUMAN BASIC DATA) หรือ เป็นพื้นฐานของมนุษย์ทุกคนในยุคใหม่ หรือ ยุคศรีวิไลซ์ ที่มนุษย์มีพื้นฐานทางจิตอันศรีวิไลซ์อย่างแท้จริง

การไม่เห็นตนเองถูก และ ไม่เห็นผู้อื่นผิด ย่อมทำให้มนุษย์ผู้นั้น เต็มไปด้วยความสุภาพ อ่อนโยน และ อ่อนน้อมถ่อมตนเป็นอันมาก ซึ่งสิ่งนี้เกี่ยวข้องกับการลดอัตตา หรือ ลดความก้าวร้าวอันเป็นผลจากการพองของอัตตาได้เป็นเป็นอย่างดี

มนุษย์ผู้ที่เข้าสู่ยุคศรีวิไลซ์ได้ จำเป็นต้องเป็นผู้ที่มีความประพฤติตนสอดคล้อง หรือมีพลังงานสอดคล้องกับยุคศรีวิไลซ์พลังงานใหม่ เพราะยุคนี้เป็นยุคแห่งดุลยภาพอันแท้จริง โดยปราศจากการแบ่งแยก และ สงคราม

การแบ่งแยก และสงครามล้วนมีพื้นฐานมาจากการเข้าไปตัดสินถูก ผิดให้กับคนอื่นโดยวัดจากความชอบใจหรือไม่ชอบใจของตนเองเป็นที่ตั้ง ดังนั้นพื้นฐานที่สำคัญที่สุดของมนุษย์ที่มีพลังงานเหมาะสมกับยุคใหม่ ย่อมต้องมีสัจจะของหนุมานผู้นำสาร คือ ไม่ตัดสินความถูกผิด ให้กับผู้อื่น และต้องมีการกระทำเที่ยง คือ ทำเรื่อย ๆ ทำจนเคยชิน ทำจนเป็นนิสัย จนในที่สุด ทำจนเป็นเรื่องธรรมชาติ ไม่ต้องมีการบังคับ

หากเราตัองการให้เส้นทางในอนาคตของเราสอดคล้องกับยุคศรีวิไลซ์ที่หลายท่านกำลังรอคอย หรือต้องการปรากฏอยู่ในยุคนั้น สิ่งที่สำคัญที่สุดขั้นพื้นฐานคือ ทำจุดตัดให้กับตัวท่านเองในขณะนี้ คือ ทำปัจจุบันขณะของท่านให้เต็มไปด้วย "สัจจะของการไม่เห็นผู้อื่นผิด ไม่ตัดสินถูกผิดให้ผู้อื่น"

"สัจจะ" คือ การกระทำ และ การกระทำย่อมมีผลตอบแทน หากการกระทำของเราตั้งอยู่บนพื้นฐานเช่นนี้แล้ว เส้นทางในอนาคตอันสอดคล้องกับการกระทำนั้นย่อมปรากฏขึ้นแก่ผู้ปฏิบัติได้ (ผู้ทำได้)เช่นกัน

ดังนั้นสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับมนุษย์ในขณะที่โลกกำลังเดินทางก้าวเข้าสู่ยุคพลังใหม่ คือ การสร้างจุดตัด หรือ กำหนดรู้ในปัจจุบันขณะ เมือมีสิ่งใดเข้ามากระทบกระทั่ง ก่อนที่เราจะโกรธ หรือ ตัดสินถูกผิด ให้กับผู้อื่น ก็พยายามรู้เท่าทัน และใช้ NO COMMENT คือ ไม่คิดเห็นต่อ เพราะการคิดเห็นต่อ ก็ไม่ต่างจากการปรุงแต่งเท่านั้นเอง

เมื่อทำได้บ่อย ๆ กำหนดรู้ในปัจจุบันขณะได้บ่อย ๆ จนเป็นนิสัย จนเป็นเรื่องธรรมชาติ ระดับสติสัมปชัญญะของมนุษย์ผู้นั้นจะพัฒนาสูงขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อถึงจุด ๆ หนึ่ง ปัญญาหรือตัวรู้ทั้งหลายก็จะเกิดขึ้นจนทำให้เราเข้าใจในสภาพของธรรมชาติ การเกิดดับ เมื่อนั้น ความเข้าใจในเรื่องของ "อจิณไตยวิมุตติ" จะเกิดขึ้นกับเราเองโดยธรรมชาติ เพราะทุกอย่างจะรู้ได้เฉพาะตน เป็นปัจจัตตัง โดยไม่จำเป็นต้องอาศัยการปรุงแต่ง หรือ จินตนาการเอาเองโดยที่ไม่รู้ ดังนั้น คีย์ NO COMMENT ของคุณวสุธรรม จึงมาย้ำเตือนข้าพเจ้าได้ดีมากก่อนที่ข้าพเจ้าจะจินตนาการไปไกลกว่านี้ เพราะการจินตนาการเอาเองโดยไม่รู้ หรือ ปราศจากการปฏิบัติเพื่อให้เข้าถึงความรู้ สิ่งนั้นย่อมเป็น อจิณไตย ดังนั้นอจิณไตย จึงเป็นสิ่งที่ไม่พึงคิด (NO COMMENT)เมื่อยังไม่ถึงเวลา(ไม่พึงคิดเมื่อระดับการพัฒนายังไม่ถึง)

ธูรรมชาติ บอกจินตวดีว่า ขณะนี้จงทำจุดตัด ณ ปัจจุบันขณะของท่านให้ดีที่สุด เพราะการกระทำมีผลตอนแทน การกระทำใหม่ที่เที่ยง ย่อมมีผลทำให้เกิดการหักเหของแสงได้ การพัฒนาระดับจิตของมนุษย์จะถูกพัฒนาขึ้นอย่างเป็นขั้นตอน โดยทุกอย่างอาศัยผลจากการกระทำ คือ จากการประพฤติปฏิบัติด้วยตนเอง เพราะ ธรรมคือ การกระทำ หรือ ปฏิบัติได้ด้วยตนเอง

ด้วยรักและเคารพ

จินตวดี

 

โอ คิดถึงจริง ๆ CRYSTAL DNA

 

บทเรียนชีวิต ลิขิตสวรรค์

อดีต
มีหน้าที่การงานที่ดี ทำบาปเพราะ มีเงินทำ บุญไม่ค่อยได้ทำ
เหล้ากินเพราะปัญหาชีวิตส่วนตัว สรุปแล้วเดินทางผิดมาเป็นปี
รับคำสั่งเจ้านายถึงแม้เห็นว่ามันเอาเปรียบลูกน้อง แล้วก็ให้ลูกน้องทำไปแต่บอกลูกน้องไปว่าพี่ก็ไม่เห็นด้วยกับคำสั่งแต่เราต้องทำเพื่อบริษัท ต้องเสียสละ
เจ้านายไม่รู้เรื่องอะไร แล้วก็มาสั่งเรา เราก็ไม่ชอบ ทำให้เกิดวงจรแห่งความไม่ชอบขึ้นมา เพราะเอาดีเข้าตัว เอาชั่วใส่เรา เราไม่ชอบความไม่เป็นธรรมอยู่แล้น ตัดสินใจไม่ทำงานเป็นลูกน้องใครอีกต่อไป เพราะจิตเราโดนครอบงำ

ปัจจุบัน
ไม่มีงานทำ ทำในสิ่งที่ไม่จำกัดความรับผิดชอบ ทำในสิ่งที่อยากทำ
ทำในสิ่งที่ตนเองพอใจ ทำในสิ่งที่เกิดความสุข อยู่ไปวันๆ มองแต่สิ่งที่ดี
ในตัวคนที่ทำไม่ดีกับเรา
ไม่ทำบาปเลย เพราะสำนึกตนแล้ว และตั้งสัจจะจะไม่กินสุราตลอดชีวี
ในเรื่องของศาสนา คริตก็อ่าน พุทธก็เอา อิสลามก็ดู
เพื่อต้องการหาความจริงแห่งชีวิต ทุกศาสนาจะรวมเป็นหนึ่ง สัญชาตญาณบอก

 

*** ตัวกระทำ ของใครก็ของมัน ****

ในตัวเราทุกคน ล้วนมีตัวตน...คือ ตัวกระทำ
สิ่งที่เราเคยทำบ่อยๆ สิ่งที่เราชอบทำ....เป็นนิสัยสันดานติดตัวไป
เราตายไปแล้วเกิดใหม่ ก็ยังตามเรามาได้...คือ ตัวกระทำ
นิสัยสันดานเรานี่แหละ....คือ ตัวกระทำ
นิสัยตัวเรา...จะพาให้เราพบกับสิ่งต่างๆเหตุการณ์ต่างๆในชีวิต
เหมือนเป็น....ลิขิต ที่ลากเส้นไว้ให้เดิน
เดินไปพบกับ...กรรมสุขทุกข์ ที่วนเวียน
ซ้ำไปซ้ำมา บนโลกนี้ไม่จบสิ้น
ถ้าเป็นศัตรู คู่อาฆาตกัน....ตายแล้วเกิดใหม่ ก็ต้องมาเจอกันอีก
อาจเป็นเพื่อนรักกัน ในตอนแรก...แต่เมื่อ ยังคงเดินด้วยนิสัยเดิมๆ
สุดท้าย....มันก็ต้องผิดใจกัน มีเรื่องขึ้นเสียง ลงไม้ลงมือกัน
หนีไม่พ้น ไม่มีทางหนีไปได้...ถ้าไม่แก้ไขที่ตนเอง
นี่ถ้าชาตินี้ ไม่แก้ไขตนเอง....มันก็ต้องพินาศไปข้าง
แล้วอนาคตต่อไป ตายไปแล้ว ก็ต้องเกิดมาเจอกันอีก
ไม่เบื่อบ้างเลยหรือ !!!

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

*** สากลโลก ****

ทุกศาสนา ล้วนมีข้อปฏิบัติ
แต่ ทำได้ ทำไม่ได้...มันอยู่ที่ตัวเอง อยู่ที่ "สัจจะ"
คุณ จะวิเศษยิ่งใหญ่แค่ไหน
ถ้าไม่มีสัจจะ...ก็คือ ทำไม่ได้
เมื่อทำไม่ได้ ก็ต้องรับผลของการทำไม่ได้
เป็น สัจจะธรรม....คือ ตัวกระทำไม่ตาย ตัวกระทำมีผลตอบแทน

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

*** ข้อสัจจะ...พิจารณาวันละ ๑ชั่วโมง ****

ไม่เห็นผู้อื่นผิด ไม่เห็นผู้อื่นถูก
ไม่ตกเป็นทาสผู้อื่น ด้วยประการทั้งปวง
เห็นการกระทำของตนเองเป็นที่พึ่งแท้จริง
ไม่เห็นผู้อื่นเป็นที่พึ่ง จะพยายามพึ่งตนเองเสมอไป

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

*** สัจจะ มีผลตอบแทน ****

"สัจจะ จะไม่กินสุราตลอดชีวี"
ดินฟ้าอากาศ คือ สักขีพยานการกระทำทุกย่างก้าวของท่าน

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

*** คนทำลายธรรม ****

ใครบ้าง...จะเถียงสัจจะธรรม
ไปเถียงกับความจริง ไปเถียงกับธรรมชาติ แล้วมันจะเจริญได้อย่างไร !!!!
สุดท้าย...ก็ไปไม่รอด

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

ความวิกลจริตของโลกใบนี้

บุหรี่รู้ว่าไม่ดี ก็มีขาย
สุรารู้ว่าไม่ดี ก็มีขาย
ยาเสพติดรู้ว่าไม่ดี ก็มีขาย
ขายตัวรู้ว่าไม่ดี ก็มีขาย
ขายจิตวิญญาณรู้ว่าไม่ดี ก็มีขาย
รู้ว่าขึ้นเงินเดือนให้ตนเองจะโดนด่า ก็ยังทำ

สัตว์โลกหนอ สงสัยเราต้องยอมให้มันเกิดเสียแล้ว จะได้ล้างไพ่ ซะที

 

"อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา"
เป็นคำพูดจากความเชื่อ ที่ไม่ใช่ความจริงในธรรมชาติ
คือ พูดไม่ตรงกับสัจจะธรรม สิ่งที่เกิดขึ้นจริง

เมื่อพูดบ่อยๆพูดจนติดปาก นานๆเข้าก็คิดว่าเป็นความจริง
แต่ยิ่งพูดก็ยิ่งขัดกับความจริงในโลก
พอเอาไปเขียนเป็นตำราดูดีขึ้นมา ก็ยิ่งคิดว่าเป็นความจริง

ถ้าไม่มีตัวตน ก็จะไม่มีกรรม ทำอะไรไว้ก็ไม่ต้องกลัวกรรม
แล้วพระพุทธเจ้าจะสอนให้เลิกทำความชั่วทำไม !!!

ถ้าไม่มีตัวไม่มีตน ทำอะไรไปก็สูญไปหมด
แล้วจะมีบารมีได้อย่างไร แล้วจะเป็นพระพุทธเจ้าได้อย่างไร !!!!

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

ทุกอย่างมีตัวตนอยู่

ทุกอย่างมีตัวตนอยู่
กรรมก็มีตัวตน มีรหัสเป็นของตัวเอง

 

เมื่อมีการกระทำ... ก็เกิดเป็น ตัวตนของการกระทำ ขึ้นมา
โลกุตตระ พระพุทธเจ้า ใช้คำโบราณ เรียกว่า... "ตัวกระทำ"
ตัวกระทำ เป็นตัวตนที่มองไม่เห็น มองไม่เห็นด้วยตา
ทุกคนมีตัวกระทำเป็นของตนเอง จะติดตามตัวเราไปตลอด เหมือนเงาตามตัว
ในสัจจะธรรมชาติ...ตัวกระทำไม่ตาย
คือ ไม่สูญสลายหายไป และมีผลตอบแทนย้อนกลับมาที่ตนเอง

ที่พระพุทธเจ้าสอนให้อยู่ด้วย หลักตนพึ่งตน
คือ ให้คนเราพึ่งตัวกระทำของตนเอง
พยายามสร้างการกระทำที่เป็นที่พึ่งได้จริง
คือ ใช้ข้อสัจจะ มาเป็นผู้นำ นำให้เกิดการกระทำเที่ยงขึ้นมาในชีวิต
ผลตอบแทนจากตัวกระทำเที่ยง ก็จะได้ย้อนกลับมาเป็นที่พึ่ง
คือ สามารถพาให้ก้าวเลี่ยงกรรมที่จะปรากฏได้จริง

ตนพึ่งตน
ตนตัวแรก หมายถึง ตัวเราในปัจจุบัน
ตนตัวหลัง หมายถึง ตัวกระทำจากการกระทำที่ทำไปแล้ว

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

ตายแล้วเกิดใหม่
เพราะ ยังมีอารมณ์ติดอยู่กับสิ่งต่างๆในโลก

พอตายแล้ว
แต่ตัวกระทำไม่ตาย และมีผลตอบแทน
ตัวกระทำ จึงจัดสรรการเกิดใหม่มีกายบนโลกนี้อีก
ด้วย ผลการกระทำที่ได้ทำไปแล้ว

สัตว์โลกจะสามารถ หลุดพ้นจากโลก ไปได้
เมื่อ หมดสิ้นพันธะผูกพันธ์กับทุกสิ่งในโลก

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

"ทุกสรรพสิ่ง ไม่มีตัว ไม่มีตน"
จึงเป็นคำพูดที่ขัดกับความจริง ขัดกับสัจจะธรรม
ถ้าเอาไปสอน ก็ส่งผลเสียตามมามากมาย

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

*** เรื่องสัจจะธรรม ****

"ตัวกระทำมีจริง ตัวกระทำไม่ตาย ตัวกระทำมีผลตอบแทน"

เป็นเรื่อง ที่มีเหตุผลอยู่ในตัว
ถ้าเราได้พิจารณาด้วยเหตุด้วยผล เราก็จะผลความจริง

แต่ถ้าเราเชื่อตำราตั้งแต่แรก โดยขาดการพิจารณา
เราก็จะปิดกั้นตนเอง เชื่อในความเห็นที่ไม่ใช่ความจริง
แล้วจะทำให้การดำเนินชีวิตของตนเอง ผิดพลาดสร้างกรรมมากมาย
ทั้งที่เจตนา และไม่เจตนา
เรียกว่า...ใช้ความเชื่อมานำชีวิต

พระพุทธเจ้า....ใช้ความจริงมานำชีวิต
เพราะ ใช้สัจจะธรรมความจริงมานำชีวิต
ใช้สัจจะมาประยุกต์ เพื่อให้เกิดการกระทำใหม่ที่เป็นที่พึ่งได้ต่อไป

- " หนุมาน ผู้นำสาร "