พอใจรูม

นู่พิมพ์เกิดปีอาราย....ปีวอกเหรอคะ

[AUDIOPLUS=http://palungjit.org/attachments/doafan2017r-mp3.4098586/][/AUDIOPLUS]

[AUDIOPLUS=http://palungjit.org/attachments/doafancvef-mp3.4098587/][/AUDIOPLUS]

[AUDIOPLUS=http://palungjit.org/attachments/doafan-mp3.4098588/][/AUDIOPLUS]

 

(k) ขอบคุณค่ะ ขอให้น้องน่าน มีความสุขมาก ๆ นะจ้า ๆ ๆ ๆ ๆ จุฟ จุฟ น่ารักจัง (k)

 

พี่ใจ๋..เสียงเพลงอะ เสียงเพลง
ใส่ลงมาด้วยค่ะ ด่วน...555

 

ppojai

 

จากคอลัมน์ ศาลาคนเศร้า...ลุงหมานปลอบ...

คุณ ยุ เปลี่ยนอารมณ์ใหม่ซะ ลองเปลี่ยนอารมณ์ใหม่ดู อารมณ์ที่ดีชอบใจมีถมเถไป ไปหาอารมณ์ให้จิตอาศัยกับอารมณ์ใหม่ที่ดีมีประโยชน์ คุณยุตอนนี้ให้รู้ว่าจิตได้อาศัยอารมณ์อันเป็นที่ไม่น่ารักไม่น่าพอใจ ขอให้รู้เท่าทัน(จิต+อารมณ์)และยังจะเป็นการได้ฝึกหัดเจริญสติให้แข็งแรงเท่าทันกับทุกข์ที่กำลังเกิด ถ้าจิตฝึกไว้ดีแล้วอารมณ์ที่มากระทบจะดีหรือไม่ดีก็แล้วแต่ จะไม่สามารถทำให้จิตเป็นทุกข์ได้ แต่ถ้าจิตยังฝึกไม่ดีก็จำเป็นที่จะต้องแสวงหาอารมณ์ดีมาให้จิตอยู่ร่ำไป จิตถึงจะไม่ทุกข์ใช่ไหม ที่เราเป็นกันทุกวันนี้เพราะเราแสวงหาอารมณ์ดีเพื่อจะมาบำบัดทุกข์ให้จิตเป็นสุขกันไม่มีที่จบสิ้น (ต้องยกตัวอย่างสักหน่อยเดี๋ยวเพื่อไม่เข้าใจ เช่นว่า - รูปเป็นอารมณ์ที่กระทบทางตาก็แสวงหารูปที่ดีๆที่ชอบใจ เพื่อให้จิตที่รับอารมณ์ทางตาจะได้เป็นสุข - เสียงเป็นอารมณ์ที่กระทบทางหูก็ต้องแสวงหาเสียงดีๆที่ชอบใจ เพื่อให้จิตรับอารมณ์ทางหูนั้นเป็นสุข - กลิ่นเป็นอารมณ์ที่มากระทบทางจมูก ก็ต้องแสวงหากลิ่นดีๆที่ชอบใจ เพื่อที่ให้จิตที่รับอารมณ์ทางจมูกนั้นเป็นสุข - รส เป็นอารมณ์ที่มากระทบทางลิ้น ก็ต้องแสวงหารสดีๆที่ชอบใจ เพื่อที่ให้จิตที่รับอารมณ์ทางลิ้นนั้นเป็นสุข - สัมผัสเป็นอารมณ์ที่มากระทบทางกาย ก็ต้องแสวงหาสัมผัส เย็น ร้อน อ่อนแข็ง นุ่มนี่ม ที่ดีๆที่ชอบใจ เพื่อที่ให้จิตที่รับอารมณ์ทางกายนั้นเป็นสุข - และจิตจะเป็นสุขได้ต้องอาศัยอารมณ์ที่ผ่านมาทางทวารทั้ง 5 ที่ดีนั่นแหละจึงจะเป็นสุขได้ ฉะนั้นทางทวารทั้ง 5 นั้นจะเป็นอารมณ์ดีหรือไม่ไม่ดีที่ผ่านมาทางทวารต่างๆนั้นถ้าจิตเราฝึกไว้ดีแล้วจะไม่ทุกข์เลยเพราะเรารู้เท่าทันสภาพธรรมะ และสภาพของอารมณ์นั้นมันจะมีผ่านเข้ามาทั้งดีและไม่ดีมีอยู่ตลอด นี่คือสภาพของจิตที่ต้องเสวยอารมณ์ ย้อนกลับไปใหม่ -ทางตา รูปสวยๆน่ารักจิตชอบ จิตเป็นสุข- ทางหู เสียงดีๆไพเราะน่าฟัง จิตชอบจิตเป็นสุข - ทางจมูก กลิ่นหอมชื่นใจ จิตชอบ จิตเป็นสุข- ทางลิ้น รสดีๆ อร่อย ๆ จิตชอบจิตเป็นสุข - ทางกาย สัมผัสดีๆจิตชอบจิตเป็นสุข ที่นี้ที่เราแสวงหาสุขทางทวารทั้ง 5 นั้นมันไม่เที่ยงเมื่อมันไม่เที่ยงมันก็เป็นทุกข์ เรียกว่าแสวงหาสุขไม่ถูกที่หรือถูกจุด ทีนี้เราเข้าใจแล้วว่าสภาพธรรมะเป็นอย่างนี้เราก็ต้องมาดูที่จิตซะเลยว่าตัวจิตนั้นทำไมเป็นทุกข์ ก็เห็นว่าที่ทุกข์นั้นเป็นสภาพของกิเลสที่เป็นสังขารปรุงแต่งจิต ถ้าปรุงแต่งดีชอบใจก็เป็นสุข ถ้าปรุงแต่งไม่ดีไม่ชอบใจก็เป็นทุกข์ พอจะเห็นสภาพของจิตหรือยัง ถ้าเห็นสภาพของว่ามันเป็นของมันอย่างนี้มันเปลี่ยนแปลงไปตามสภาพของกิเลสเป็นผู้ปรุงแต่ง ทีนี้เรารู้อย่างนี้แล้วเราก็ไม่ควรเข้าไปยึดถือที่กิเลสที่ปรุงแต่งว่าเราชอบเราไม่ชอบ เมื่อไม่ยึดถือจิตเราก็เป็นสุข 555 พอก่อนนะเมื่อยมือ พูดน้อยกลัวไม่เข้าใจ พูดมากกลัวเบรอเดี๋ยวอ่านไม่จบ ไม่เข้าใจถามใหม่ได้ ( ฝากแปะไว้สักสองสามวันเน้อ ท่าน จขกท.)


อ้างอิง:
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ Mantalay
โอ๋ๆๆ..สู้นะจ้ะ น้องยุ ตอนที่พี่ยังทำงานอยู่
พี่ก็โดนด่าประจำแหละ ช่างหัวมันเถอะนะจ้ะ
มีแรงด่าก็ด่าไปให้เพลิน เดี๋ยวเหนื่อยก็หยุดไปเองแหละจ้ะ


</TD></TR></TBODY></TABLE>


ถ้าช่างหัวมันก็ต้องไปเอาหัวเผือกน่ะซิ นู๋จั่น<!-- google_ad_section_end -->

 

ว๊าว ว๊าว ว๊าว นี่ล่ะคำตอบที่พอใจหามานาน...ค่ะคุณลุงหมาน
ขอทำสำเนาลิขสิทธิ์ถูกต้องไว้ฝึกปฏิบัตินะคะ..
จริง ๆ เราก็พอทราบ แต่บางทีด้วยปัญญาน้อย คิดไม่ทัน..จิตมันก็ปรุงแต่งไปแย๊วค่ะ
กว่าจะชักกลับทัน..โน่น จิตตกไปอยู่ฟากกระโน้น...

มนุษย์ก็เป็นอย่างนี้ล่ะค่ะ ตอนนี้พอใจพอจะเีรียบเรียงทีลุงหมานสอนแล้วนะคะ
เรื่อง ขันธ์ 5
1. รูป - ก้อนทุกข์
2. เวทนา - ความสุข ความทุกข์
3. สัญญา - จดจำสิ่งสารพัด อดีต ปัจจุบัน อนาคต
4. สังขาร - คิดปรุงแต่ง
5. วิญญาน - ความรู้ที่เกิดขึ้นเบื้องต้นของผัสสะ(สิ่งที่มากระทบ)
อุเบกขาเวทนา - จิตไม่ส่งส่าย ใจเป็นกลาง ไม่ทุกข์ ไม่สุข

(k) ลองปิดแบบไม่จด ยังจำ...สับข้อกันไปมา..อยู่ค่ะลุงหมาน ใกล้จะจำได้แม่นแล้วคะ
ท่องไว้เป็นอาขยาน

 

เปลี่ยนอารมณ์ใหม่ซะ ลองเปลี่ยนอารมณ์ใหม่ดู อารมณ์ที่ดีชอบใจมีถมเถไป
ไปหาอารมณ์ให้จิตอาศัยกับอารมณ์ใหม่ที่ดีมีประโยชน์

คุณยุตอนนี้ให้รู้ว่าจิตได้อาศัยอารมณ์อันเป็นที่ไม่น่ารักไม่น่าพอใจ ขอให้รู้เท่าทัน(จิต+อารมณ์)
และยังจะเป็นการได้ฝึกหัดเจริญสติให้แข็งแรงเท่าทันกับทุกข์ที่กำลังเกิด

ถ้าจิตฝึกไว้ดีแล้วอารมณ์ที่มากระทบจะดีหรือไม่ดีก็แล้วแต่ จะไม่สามารถทำให้จิตเป็นทุกข์ได้
แต่ถ้าจิตยังฝึกไม่ดีก็จำเป็นที่จะต้องแสวงหาอารมณ์ดีมาให้จิตอยู่ร่ำไป จิตถึงจะไม่ทุกข์ใช่ไหม ?

ที่เราเป็นกันทุกวันนี้เพราะเราแสวงหาอารมณ์ดีเพื่อจะมาบำบัดทุกข์ให้จิตเป็นสุขกันไม่มีที่จบสิ้น


ต้องยกตัวอย่างสักหน่อยเดี๋ยวเพื่อไม่เข้าใจ เช่นว่า


รูป เป็นอารมณ์ที่กระทบทางตาก็แสวงหารูปที่ดีๆที่ชอบใจ เพื่อให้จิตที่รับอารมณ์ทางตาจะได้เป็นสุข


เสียง เป็นอารมณ์ที่กระทบทางหูก็ต้องแสวงหาเสียงดีๆที่ชอบใจ เพื่อให้จิตรับอารมณ์ทางหูนั้นเป็นสุข


กลิ่น เป็นอารมณ์ที่มากระทบทางจมูก ก็ต้องแสวงหากลิ่นดีๆที่ชอบใจ เพื่อที่ให้จิตที่รับอารมณ์ทางจมูกนั้นเป็นสุข


รส เป็นอารมณ์ที่มากระทบทางลิ้น ก็ต้องแสวงหารสดีๆที่ชอบใจ เพื่อที่ให้จิตที่รับอารมณ์ทางลิ้นนั้นเป็นสุข


สัมผัสเป็นอารมณ์ที่มากระทบทางกาย ก็ต้องแสวงหาสัมผัส เย็น ร้อน อ่อนแข็ง นุ่มนี่ม ที่ดีๆที่ชอบใจ เพื่อที่ให้จิตที่รับอารมณ์ทางกายนั้นเป็นสุข

และจิตจะเป็นสุขได้ต้องอาศัยอารมณ์ที่ผ่านมาทางทวารทั้ง 5 ที่ดีนั่นแหละจึงจะเป็นสุขได้ ฉะนั้นทางทวารทั้ง 5 นั้น

จะเป็นอารมณ์ดีหรือไม่ไม่ดีที่ผ่านมาทางทวารต่างๆนั้นถ้าจิตเราฝึกไว้ดีแล้วจะไม่ทุกข์เลยเพราะเรารู้เท่าทันสภาพธรรมะ

และสภาพของอารมณ์นั้นมันจะมีผ่านเข้ามาทั้งดีและไม่ดีมีอยู่ตลอด นี่คือสภาพของจิตที่ต้องเสวยอารมณ์


ย้อนกลับไปใหม่

ทางตา รูปสวยๆน่ารักจิตชอบ จิตเป็นสุข


ทางหู เสียงดีๆไพเราะน่าฟัง จิตชอบจิตเป็นสุข


ทางจมูก กลิ่นหอมชื่นใจ จิตชอบ จิตเป็นสุข


ทางลิ้น รสดีๆ อร่อย ๆ จิตชอบจิตเป็นสุข


ทางกาย สัมผัสดีๆจิตชอบจิตเป็นสุข


ที่นี้ที่เราแสวงหาสุขทางทวารทั้ง 5


นั้นมันไม่เที่ยงเมื่อมันไม่เที่ยงมันก็เป็นทุกข์ เรียกว่าแสวงหาสุขไม่ถูกที่หรือถูกจุด

ทีนี้เราเข้าใจแล้วว่าสภาพธรรมะเป็นอย่างนี้เราก็ต้องมาดูที่จิตซะเลยว่าตัวจิตนั้นทำไมเป็นทุกข์
ก็เห็นว่าที่ทุกข์นั้นเป็นสภาพของกิเลสที่เป็นสังขารปรุงแต่งจิต ถ้าปรุงแต่งดีชอบใจก็เป็นสุข ถ้าปรุงแต่งไม่ดีไม่ชอบใจก็เป็นทุกข์

พอจะเห็นสภาพของจิตหรือยัง ถ้าเห็นสภาพของว่ามันเป็นของมันอย่างนี้มันเปลี่ยนแปลงไปตามสภาพของกิเลสเป็นผู้ปรุงแต่ง
ทีนี้เรารู้อย่างนี้แล้วเราก็ไม่ควรเข้าไปยึดถือที่กิเลสที่ปรุงแต่งว่าเราชอบเราไม่ชอบ เมื่อไม่ยึดถือจิตเราก็เป็นสุข 555

พอก่อนนะเมื่อยมือ กว่าจะได้ที่ละตัวจิ้มอย่างนกกระยาง พูดน้อยกลัวไม่เข้าใจ พูดมากกลัวเบรอเดี๋ยวอ่านไม่จบ ไม่เข้าใจถามใหม่ได้


( ฝากแปะไว้สักสองสามวันเน้อ ท่าน จขกท.)

 

(k) ห้องนี้ ปลอดเสียงเพลง โฆษณาเพลงอย่างเดียว หูแชแหม๋ปายหมดแล้ว ฟังท้างวานนนนนนนนนนนนน เมื่อกี้อ่านของลุงหมานยังต้องปิดเพลงเลย ไม่งั้นอ่านม่ายรู้เรื่อง ว่าเขียนว่าอารายน่ะ น้องจั่นเอ๊ย แซววววววววว เหรอเด็กคนนี้ เด่วววววว ตีตายยยยยยยยยยยยยยยยย เยยยยยยยยยยยยยยยยย อิอิอิ (k)

 

นั่งไม่เรียบร้อยเยย...

 

นู่พิมพ์นั่งดี ๆ หน่อยคะ หนุ่มตูบจ้องมองตาไม่กระพริบเลยคะ
เอ๋ หรือพี่ใจนั่งหวอคะนี่ อิอิอิิ ขำ ๆ ๆ ๆ เจง เอามาอีกนะนู่พิมพ์ พี่ใจชอบจ๊ะ

 

ไม่ทุกข์ค่ะแต่...เบื่อกับเซ็งรวมกันแล้วก็ไม่รู้ว่ามัน

เป็นทุกข์หรืออย่างไร...เรียบเรียงเป็นคำพูดก็อธิบายไม่ถูก

ไม่มีอะไรให้ทุกข์แต่มองทางใหนเบื่อไปหมด

(สงสัยท่าจะบ้า555)<!-- google_ad_section_end -->

 

​

 

เจ๋งเป้งมาก ๆ น้องน่าน ต้องก๊อปปี้ไว้เตือนใจคะ

 

ปายซื้อ โน๊ตบุคส์มาใหม่ เขามีเวปแคม เลยทดลองส่งรูปกับเสียงขึ้น ยูทู้ปง่ะ

<object width="425" height="344"><param name="movie" value="http://www.youtube.com/v/7EM5RcNYr0w?hl=en&fs=1"></param><param name="allowFullScreen" value="true"></param><param name="allowscriptaccess" value="always"></param><embed src="http://www.youtube.com/v/7EM5RcNYr0w?hl=en&fs=1" type="application/x-shockwave-flash" allowscriptaccess="always" allowfullscreen="true" width="425" height="344"></embed></object>

 

วงดนตรี พอใจ
รับงานทั่วราชอาณาจักร​

คิดค่าตัวตามระยะทางเป็นกิโล(น้ำหนักตัวค่ะ อิอิอิ)

เพลงลูกกรุง - เพลงลูกทุ่ง - เพลงสากล - เพลงคู่ - เพลงจีน
สุนทราภรณ์-ถนัดมาก ลูกกรุงอื่น ๆ พอได้
ลูกทุ่งได้บางเพลง เพราะที่สุดเพลงแต๋วจ๋า
เพลงสากลร้องได้ 5 เพลง
เพลงคู่ถ้าคู่ว่างก็ร้องได้ ไ่ม่ว่างก็เหมาร้องคนเดียว
เพลงจีนร้องได้เพลงเดียวววว..เท่านั้น
โปรด...ติดต่อด่วนที่ผู้จัดการวง ขณะนี้คิวว่างแค่ 365 วัน


ผู้ควบคุมวง-ทุกอย่าง /โฆษก /ตลก - Mantalay(น้องจั่น)​

 

อุ่นไอรัก
อิ่มอุ่น ( C )
ศุ บุญเลี้ยง
C
.... ...... SOLO
...อุ่นใดใดโลกนี้ไม่มีเทียบเทียม
อุ่นอกอ้อมแขน อ้อมกอดแม่ตระกอง
รักเจ้าจึงปลูก รักลูกแม่ย่อมห่วงใย
ไม่อยากจากไปไกล แม้เพียงครึ่งวัน
...ให้กายเราใกล้กัน
ให้ดวงตาใกล้ตา
ให้ดวงใจเราสองเชื่อมโยงผูกพัน
อิ่มใดใด โลกนี้มีเทียบเทียม
อิ่มอกอิ่มใจ อิ่มรักลูกหลับนอน
น้ำนมจากอก อาหารของความอาทร
แม่พร่ำเตือน พร่ำสอน สอนสั่ง
ให้เจ้าเป็นเด็กดี ให้เจ้ามีพลัง
ให้เจ้าเป็น ความหวังของแม่ต่อไป
ใช่เพียงอิ่มท้อง ที่โลกร่ำร้อง
เพราะต้องการไออุ่น
อุ่นไอรัก อุ่นละมุน ขอน้ำนมอุ่น
จากอกให้ลูกดื่มกิน
.... ...... SOLO !!
...ให้กายเราใกล้กัน
ให้ดวงตาใกล้ตา
ให้ดวงใจเราสองเชื่อมโยงผูกพัน
ให้เจ้าเป็นเด็กดี ให้เจ้ามีพลัง
ให้เจ้าเป็น ความหวังของแม่ต่อไป
..ใช่เพียงอิ่มท้อง ที่โลกร่ำร้อง
เพราะต้องการไออุ่น
อุ่นไอรัก อุ่นละมุน ขอน้ำนมอุ่น
จากอกให้ลูกดื่มกิน
..........END
คลิกฟังเพลงที่นี่ค่ะ

 

อุ่นอกอ้อมแขน อ้อมกอดแม่ตระกอง

 

วันนี้...วันพระ