ฆราวาส เมื่อถึงนิพพานทำไมต้องตายหากไม่บวช !?

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย Mr.Boy_jakkrit, 10 ตุลาคม 2010.

  1. Mr.Boy_jakkrit

    Mr.Boy_jakkrit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    2,063
    ค่าพลัง:
    +2,676
    เรื่องนี้ได้อ่านในกระทู้ท่านผู้หนึ่งจึงเกิดความสงสัยอยากฟังจากนักปฏิบัติที่เชี่ยวชาญด้านปริยัติ หากผมจะหาข้อมูลกลัวจะผิดพลาดขอความกรุณาชี้แนะด้วยครับ
     
  2. Phanudet

    Phanudet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    8,434
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +15,647
    หามาก่อนเลยท่านบอย....จะขึ้นเลยใครเขาก็ไม่ว่า.....

    เดี๋ยวมะพร้าวห้าวขายสวน......
     
  3. Mr.Boy_jakkrit

    Mr.Boy_jakkrit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    2,063
    ค่าพลัง:
    +2,676
    ก่อนอื่นขออภัยคำว่า "นิพพาร" ที่สะกดผิดข้างบนก่อนนะครับ ต้องเป็นคำว่า "นิพพาน"

    **********************************************************+

    จากเห็นหลายๆที่ครับว่ากันว่าดังนี้








    เบื้องต้น ได้ข้อมูลมาอย่างนี้ครับ อยากทราบว่าในพระไตรปิฏกอ้างไว้อย่างนี้หรือเปล่าครับ ?
     
  4. Mr.Boy_jakkrit

    Mr.Boy_jakkrit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    2,063
    ค่าพลัง:
    +2,676

    :cool: ฮาครับท่านภานุเดช

    เรียนตามตรงเลยนะครับ
    เรื่องปริยัตินี่หากไปสอบ ตกตั้งแต่จับปากกา กุมหัวตั้งแต่เปิดกระดาษคำถาม
    ฉนั้นจึงได้ขอความอนุเคราะห์เรื่องที่ท่านทั้งหลายรู้เรียนมาเพื่อความกระจ่างครับ

    จิตเป็นกุศลครับไม่ขุดหลุมผูกบ่วงดักแน่นอน สาธุ
     
  5. Phanudet

    Phanudet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    8,434
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +15,647
    นี่ไงได้แล้วคำตอบที่กระจ่าง......

    ผมเชื่อแน่ว่าท่านทำได้.....

    ผมจึงถามไป......

    โมทนาสาธุธรรมครับ....
     
  6. Mr.Boy_jakkrit

    Mr.Boy_jakkrit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    2,063
    ค่าพลัง:
    +2,676
    แสดงว่าที่เขากล่าวมานี้ มีอยู่ในพระไตรปิฏกจริงเหรอครับ ?

    ฮา..รอบสองจริงๆพอได้อ่านหัวข้อแรกของคุณภานุเดชผมก็อายแล้วครับเพราะรู้ว่ามันจะออกมาแนวนี้ 555+
     
  7. Phanudet

    Phanudet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    8,434
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +15,647
    ตามที่เขากล่าวมามีแหล่งชัดนะ....ผมก็รู้มาอย่างนั้นหละครับ......รู้มาจากครูบาอาจารย์ท่านเคยตอบไว้หลายท่าน เช่น หลวงพ่อฤาษี หลวงพ่อสมชาติ วัดป่าวังศิลา และหลวงพ่อปราโมทย์......ก็ทราบว่าน่าจะมาจากมิลินทปัญหาและประสบการณ์ของท่าน....

    อยู่ที่นี่ก็อยู่มานาน....พอรู้บ้างใครเป็นอย่างไร.....

    โมทนาสาธุธรรมกับท่านนะครับ.....
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 ตุลาคม 2010
  8. งูขาว

    งูขาว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มกราคม 2008
    โพสต์:
    945
    ค่าพลัง:
    +1,824
    เพราะฉะนั้น คำตอบมันเหมือนปฏิกิริยาเคมีทางธรรมชาติ น้ำไม่สามารถเข้ากับน้ำมันฉันใด น้ำที่กลิ้งบนใบบัวไม่ซึมลงใบบัวฉันใด .....ขันธ์กับจิตของพระอรหันต์ก็ฉันนั้น.....ต่างอันต่างอยู่ ต่างอันต่างจริง จิตไม่ติดขันธ์ ขันธ์ไม่ติดจิต ...แต่ก็ยังคงมีอยู่ เหมือนน้ำกับน้ำมันที่เข้ากันไม่ได้ แต่ก็ไม่มีฝ่ายไหนทำลายซึ่งกันและกัน ยังคงอยู่เพื่อรอวันดับตามธรรมชาติ เมื่อน้ำระเหยออกไปก่อนน้ำมันจึงระเหยตามโดยธรรมชาติ.......เมื่อขันธ์ของพระอรหันต์ถูกทำลายด้วยความแก่ เจ็บ ตาย ไปก่อน จิตจึงเสวยความเป็นนิพพานอย่างแท้จริง เป็นธรรมชาติและสัจธรรมความจริงของผู้ได้วิมุติเช่นกัน......ไม่เกี่ยวกับเพศและเครื่องแต่งกาย.....

    ตรงนี้แหละ ถูกต้อง ยุติ หมดสิ้นเหตุสงสัยกันสักที
     
  9. คิดดีจัง

    คิดดีจัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มกราคม 2010
    โพสต์:
    1,626
    ค่าพลัง:
    +5,354
    อนุโมทนาบุญกับเจ้าของกระทู้ด้วยครับ

    ผมได้อ่านคำถามและคำตอบมากมาย ได้ความรู้มากเลยครับ

    สุดยอดเลยครับ แต่ละท่านมีความรู้ทางธรรมกันเพียบเลย

    ผมเลยพรอยได้เก็บเกียวความรู้จากทุกคนไปด้วยเลย

    ขอบคุณครับ
     
  10. ผู้มีสติ1

    ผู้มีสติ1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    750
    ค่าพลัง:
    +3,637
    ที่เล่ามาไกลถึง 2500กว่าปี

    แต่ถ้าเอายุคใกล้ๆกับเรา ก็ต้องไปอ่านเรื่องจริงอิงนิทาน

    เล่มหนึ่งนะ ถ้าผมจำไม่ผิด ลูกศิษย์หลวงพ่อพระราชพรหมยานท่านหนึ่ง

    ชื่อท่านคือ มจ.วิภาวดี รังสิต เป็นท่านหนึ่งอยู่ในลักษณะเช่นนี้

    แนวการดำเนินชีวิต วิธีปฏบัติตน ก่อนที่ท่านจะสิ้นพระชน

    อย่างข้าวเย็นไม่อยากเสวยโดยอันโนมัติ ไม่ไช่ตั้งจะถือศีลนะ

    แต่ไม่เอาเลย การละเล่น การบรรเทิงต่างๆ ใจปฎิเสธหมด

    ใจจะเอาธรรมะท่าเดียว ก็คือไม่ต้องบังคับใจ หรือทำความรู้สึกว่า
    ฉันจะไม่กินข้าวเย็นนะ ฉันจะไม่ตกแต่งเครื่องหอม ดูการละเล่นแบบนี้นะครับ
    แล้วท่านก็ทำของท่านเรื่อยๆ

    ไม่ได้ยั้งตัวนะ ไม่ได้พอใจแค่นั้น

    ลองหาอ่านดูนะครับ ถ้ามีใครสนใจ

    เรื่องท่านยาวพอสมควรครับ

    แลกเปลี่ยนกันครับ

    อนุโมทนาครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 11 ตุลาคม 2010
  11. รัก_D

    รัก_D เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กันยายน 2008
    โพสต์:
    290
    ค่าพลัง:
    +1,096
    คงจะเหมือนกับว่า อยากรู้อะไรก็รู้ ครองความเป็นฆราวาสอยู่ไม่ได้ หัวจะระเบิด เหมือนความรู้มันเข้ามากระทบอย่างแรง รู้แจ้งเห็นจริงเกิดความเบื่อหน่าย เหมือนเอาหินก้อนใหญ่วางบนหญ้าอ่อน เหมือนที่ท่านหาข้อมูลมานั่นเลย
     
  12. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    หลวงตามหาบัว เคยกล่าวว่า ภูมิพระอรหันต์ ไม่ใช่ภูมิเพชรฆาต ถึงจะต้องตาย
     
  13. jinny95

    jinny95 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    6,074
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +9,666
    ความเห็นส่วนตัวผมมองอย่างนี้ครับ

    กิจที่ต้องทำ กิจที่ควรทำ ในเมื่อทำเสร็จแล้ว จะอยู่ไปเพื่ออะไร ในเมื่อได้บรมสุขแล้ว ไม่มีเหตุให้อยู่ ไม่มีเหตุให้ต้องครองธาตุขันธ์ จะอยู่ไปทำอะไร

    ชาติสิ้นแล้ว พรหมจรรย์จบแล้ว ถ้าท่านนั้นไม่ประสงค์จะอยู่สงเคราะห์โลก ผมมองว่าท่านเลือกที่จะดับขันธ์ครับ
     
  14. Phanudet

    Phanudet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    8,434
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +15,647
    มิลินทปัญหา

    ถามถึงความเป็นพระอรหันต์แห่งคฤหัสถ์

    พระเจ้ามิลินท์ตรัสถามว่า

    “ข้าแต่พระนาคเสนมีคำกล่าวไว้ว่าคฤหัสถ์ผู้สำเร็จอรหันต์แล้วย่อมมีคติ๒ประการคือ
    บรรพชาในวันนั้น๑ ปรินิพพานในวันนั้น๑ ไม่อาจเลยวันนั้นไปได้” ดังนี้

    ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้าถ้าในวันนั้นไม่ได้อาจารย์หรืออุปัชฌาย์หรือบารตจีวรผู้สำเร็จอรหันต์แล้วนั้นจะบรรพชาเองหรือเลยวันนั้นไปหรือมีพระอรหันต์ผู้มีฤทธิ์องค์ใดองค์หนึ่งมาให้บรรพชาจะได้หรือไม่หรือต้องปรินิพพานไป?”

    พระนาคเสนตอบว่า

    “ขอถวายพระพรพระอรหันต์นั้นบรรพชาเองไม่ได้ถ้าบรรพชาเองก็ชื่อว่า“ไถยสังวาส” (ลักเพศคือปลอมบวช) และเลยวันนั้นไปก็ไม้ได้จะมีพระอรหันต์องค์อื่นมาหรือไม่มีก็ตามก็ต้องปรินิพพานในวันนั้น”

    “ข้าแต่พระนาคเสนถ้าอย่างนั้นความเป็นพระอรหันต์ก็ทำให้สิ้นชีวิตน่ะชิ”

    “ขอถวายพระพรคฤหัสถ์ถึงสำเร็จอรหันต์แล้วก็ต้องบรรพชาหรือปรินิพพานในวันนั้นเพราะเพศคฤหัสถ์ไม่มีกำลังพอ

    ขอถวายพระพรธรรมดาโภชนาหารย่อมรักษาอายุรักษาชีวิตของสัตว์ทั้งหลายไว้แต่ว่าโภชนาหารนั้นย่อมทำให้สิ้นชีวิตได้ด้วยไฟย่อยอาหารไม่พอย่อมทำให้สิ้นชีวิตนั้นไม่ใช่เป็นโทษแห่งอาหารนั้นเป็นโทษแห่งไฟย่อยอาหารไม่พอฉันใด


    การที่คฤหัสถ์ผู้เสำเร็จพระอรหันต์แล้วต้องบรรพชาหรือปรินิพพานในวันนั้นข้อนั้นไม่ใช่เป็นโทษแห่งความเป็นพระอรหันต์เป็นโทษแห่งเพศคฤหัสถ์มีกำลังไม่พอฉันนั้น

    อีกประการหนึ่งเหมือนกับบุคคลยกเอาก้อนหินหนักๆวางบนฟ้อนหญ้าเล็กๆฟ้อนหญ้าเล็กๆนั้นก็ต้องจมลงไปเพราะกำลังไม่พอฉันใดข้อนี้ก็มีอุปมาฉันนั้น

    อีกอย่างหนึ่งเหมือนบุรุษผู้มีบุญน้อยเมื่อได้ราชสมบัติอันใหญ่แล้วก็ไม่อาจรักษาความเป็นอิสระไว้ได้ฉันใดคฤหัสถ์ผู้ได้สำเร็จพระอรหันต์แล้วก็ไม่อาจรับรองความเป็นอรหันต์ไว้ได้ฉันนั้นเพราะฉะนั้นจึงต้องบรรพชาหรือปรินิพพานในวันนั้นขอถวายพระพร”

    “ถูกต้องดีแล้วพระนาคเสน”
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 ตุลาคม 2010
  15. Phanudet

    Phanudet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    8,434
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +15,647
    มิลินทปัญหา รจนาโดย พระติปิฎกจุฬาภัยมหาเถระ พระอรรถกถาจารย์ เมื่อประมาณพุทธศักราช ๕๐๐
    เป็นคัมภีร์สำคัญชั้นอรรถกถา รองจากพระไตรปิฏก........

    ถือว่าใกล้กับยุคพระพุทธเจ้า กว่าปัจจุบัน ๒๐๐๐ กว่าปี ย่อมมีความแน่นอนมากกว่าคัมภีร์ยุคปัจจุบันมากหลายเท่า.....
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 ตุลาคม 2010
  16. ผู้มีสติ1

    ผู้มีสติ1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    750
    ค่าพลัง:
    +3,637
    เรื่องนี้ต้องวิเคราะห์ ว่าทำไมท่านที่สำเร็จเป็นพระอรหันต์ในขณะที่เป็นฆารวาส

    ทำไมต้องตายภายในวันนั้น ต้องมีสาเหตุ และเหตุผลพอเพียง จึงทำไห้พระพุทธองค์ทรงตรัสไว้เช่นนั้น

    พระอรหันต์ นี่ท่านมีความสุขสงบใจแน่ เพราะหลุดออกจากเครื่องร้อยรัดแล้ว

    ก็คือสังโยชน์สิบ อารมณ์หนักไม่มี มีแต่ปล่อย แต่วาง ใจท่านสบายแล้ว ไม่แบกแล้ว

    เราก็ต้องมาวิเคราะห์อีกว่า ทำไมเรานั่งเสมอพระไม่ได้ ทำไมเรากินข้าว

    ร่วมว่ากับพระท่านไม่ได้ นอนเสมอไม่ได้ เข้าร่วมกิจกรรม ในฐานะเท่าเทียมกันไม่ได้

    พระในที่นี้ ก็คือ ถ้าท่านห่มผ้าเหลืองแล้วเราทำอย่างที่ว่าไม่ได้เลยไช่ไหมครับ

    เราไม่รู้หลอกว่าท่านเป็นพระอรหันต์หรือไม่ แต่แบ่งกันตรงศีล

    ก็คือมีศีลไม่เสมอกัน ความบริสุทธิ์ของเพศ เป็นตัวแบ่งกั้น

    เพศบรรชิต ถือศีล 227ข้อ ส่วนฆารวาส ศีล5ข้อ

    เพศบรรชิตเป็นเพศประพฤติพรหมจรรย์ สะอาด ไม่คลุกคลีไปด้วยกิเลส ตัณหานาๆ

    เพศฆารวาสยังสกปรก ยังข้องแวะ กับกิเลสโลกีย์ สารพัด

    เรานั่งเสมอพระ บาป ทานข้านร่วมกับพระก็บาป

    ถ้าแบบนี้ ก็แสดงว่า ฆารวาสที่เป็นพระอรหันต์ ถ้าท่านไม่บวช

    ตัวท่านเองไม่มีอะไรหนักใจอยู่แล้ว ภาระทางใจ จบสิ้นแล้ว

    แต่ถ้าท่านอยู่ต่อไป โทษจะไปตกกับฆารวาส เพราะความรู้เท่าไม่ถึงกาณ์

    ขับรถผ่าไฟแดง บอกว่าไม่รู้กฏหมาย ก็ไม่ได้ไช่ไหมล่ะ

    และการเป็นฆารวาส เกิดประมาทไปไช้พระอรหันต์หยิบของไห้

    แค่นี้ก็มีโทษแล้ว ถ้าแบบนี้ การมีชีวิตอยู๋ถ้าไม่บวช ต้องมีโทษ

    แก่ปุถุชนแน่ ขยับตรงไหน โทษจะไปตกแก่ปุถุชน ความดีที่ทรงอยู่

    มันห่างกันไกลมาก ฟ้ากับดินเลยก็ว่าได้
    และอีกอย่าง ที่ผมได้ศึกษามานะ เพศฆารวาส สกปรกเกินไป
    ไม่สามารถรองรับ คาวมดี ของผู้ที่มีใจเข้าถึงความเป็นอรหันต์ได้
    ไม่สามารองรับได้
    จึงทำไห้ท่านผู้ที่เข้าถึงความเป็นอรหันต์ ในเพศฆารวาส
    จึงต้องตายภายในวันนั้น
    แต่การตายของท่านจะไม่มีโทษกับบุคคลทั่วไป
    คิดว่าคงมีหลายท่าน ที่วิเคราะห์ หาเหตุ หาผล ว่าทำไม

    ได้ละเอียด ลึกซึ้งดีกว่าผมนะหลายท่านนะครับ

    อนุโมทนาครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 11 ตุลาคม 2010
  17. อภิราม

    อภิราม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    532
    ค่าพลัง:
    +9,005
    ตามความคิดเห็นส่วนตัวของผม มีความคิดว่า

    เมื่อฆราวาสบรรลุพระอรหันต์แล้ว

    หากไม่บวชแล้วต้องตาย เพราะว่า

    หากเป็นพระ เมื่อบรรลุพระอรหันต์ก็สามารถแนะนำ และชี้ช่องทาง
    ให้แก่บรรดาลูกศิษย์ทั้งหลายได้อยู่

    แต่หากเป็นฆราวาส หากบรรลุพระอรหันต์แล้ว
    ไปบอกช่องทาง หรือชี้แนะผู้ใด
    หากผู้นั้นเชื่อและปฏิบัติตาม ก็ยังพอมีประโยชน์อยู่
    แต่หากผู้อื่นนั้นไม่เชื่อ แล้วหลงไปปรามาส
    โทษของผู้ที่หลงไปปรามาสพระอรหันต์นั้น หนักมาก

    เมื่อฆราวาสที่จบกิจทางโลกแล้ว จึงสร้างประโยชน์ได้ไม่มากเท่ากับพระผู้จบกิจแล้ว
    ซ้ำจะเป็นโทษให้แก่ผู้ที่หลงผิดไปปรามาสเข้า
    เพราะเหตุนี้ จึงอาจทำให้ฆราวาสผู้บรรลุพระอรหันต์จึงต้องตาย ก็ได้ครับ

    ________________________________
    อันนี้ วิธีการเปลี่ยนชื่อกระทู้ที่ตั้งครับ
    กดที่แก้ไข แล้วกดที่เลือกตอบเต็มรูปแบบอีกที่นึง
    แล้วแก้ไขชื่อกระทู้ แล้วกดตกลง (เก็บข้อมูลที่ถูกเปลี่ยน) ครับ

    http://palungjit.org/threads/วิธีเปลี่ยนชื่อกระทู้-และการใช้งานทั่วไป.232126/
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 ตุลาคม 2010
  18. รู้รู้ไป

    รู้รู้ไป เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    951
    ค่าพลัง:
    +3,166
    เมื่อใจเห็นได้ว่าโลก ความผูกพันอย่างโลก เป็นภาระ เป็นของหนักเป็นอย่างแท้ ตลอดเวลา แต่ยังต้องแบกรับไว้ตลอดเวลา ใจจะแบกรับต่อไปได้อีกสักกี่เวลา
     
  19. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    ผมบอกตามตรงนะ ผมไม่เคยเชื่อ มิลินทปัญหาเลย

    เรื่อง บรรลุอรหัตผล แล้วจะต้องปรินิิพพานในวันนั้น เนื่องจาก เพศฆราวาสรับไม่ได้

    ก็ต้องถามว่า คำว่า เพศฆราวาส นี้ เขาวัดกันที่อะไร ในเมื่อ ศีล และ วินัย ของพระสงฆ์ที่พระพุทธองค์บัญญัตินั้น เป็นเพียงสิ่งทีี่มีเหตุเกิดขึ้นทั้งสิ้น

    เมื่ออยู่เป็นปกติ พระสงฆ์ ก็เหมือนฆราวาส ทุกประการ เว้นแต่ เรื่องของ เครื่องนุ่งห่ม และ การปลงผม และ การใช้ชีวิตในส่วน ข้อวัตรปลีกย่อยเท่านั้น

    ที่ว่า เพศฆราวาส ยังข้องแวะ กับ ผู้คน เรื่องนี้ก็ไม่จริง เพราะว่า ฆราวาส ที่เข้าป่าไป หรือ ฆราวาสที่อยู่คนเดียวก็มี

    เป็นเพียงข้อคิดเห็น เท่านั้น
     
  20. Sriaraya5

    Sriaraya5 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    3,079
    ค่าพลัง:
    +12,852
    คิดแตกต่างแต่ไม่แตกแยก

    หากผมคิดว่าท่านถูกหลอกละ

    และยังยอมพร้อมใจหลอกตนเองอีก

    ที่เชื่อว่า เพศฆราวาสรับไม่ได้
    กับการละสังโยชน์ 10
     

แชร์หน้านี้

Loading...