คนเคยรับขันธ์

การรับขันธ์ นี่ ไม่ใช่ว่าจะเป็นผีไปซะหมด

ถ้าเค้าเป็นเทพจริง ก็บอกเลยว่า ถ้าจะรับขันธ์ จะทำขันธ์เอง

ไม่ต้องให้มีคนมาครอบให้ เพราะกลัวว่าจะเป็นสัมภเวสี

ส่วนขันธ์ ก็แล้วถ้า ระดับเทพ ถ้าปกติเค้าจะต้องให้นั่งทำขันธ์เอง (ถ้าทำเองเค้าก็จะทำ)

เพราะถ้าให้ที่อื่นทำ ละมันโดนใส่ของมา มันจะแก้ยาก

ส่วนถ้าคนที่มีองค์ เทพ (ของจริง) ลงมาตลอด ก็ให้ถามเค้า ว่าจะให้เราบูชายังไงบ้างฃ

ซึ่งปกติแล้ว การรับขันธ์ เค้าจะให้รับ ได้ไม่มาก เพราะขันธ์ซ้ำซ้อน มันจะมาลงที่เราเอง

สำหรับ การลาขันธ์ ก็แล้วแต่นะ ผมก็รับ เปลี่ยนขันธ์ทุกปี แต่ว่ามีปู่ครอบให้

ถ้าปีไหน ไม่รับใคร แสดงว่า คนนั้นจะโดนดีด ออกจากการเป็นลูกศิษย์

 

เป็นอย่างที่คุณเข้าใจจริงๆค่ะ ปู่พรหมเมฆท่านมาบอกกับฉันเองว่า หากต้องการทำขันธ์ท่านจะมาประสิทธ์ประสาทให้ด้วยตัวท่านเองค่ะ ไม่ต้องไปวิ่งเต้นหาให้ใครมาทำให้ วันใดที่พร้อมต้องการช่วยคนอื่นอย่างจริงใจ โดยไม่หวังสิ่งตอบแทนเป็นรางวัล ก็สามารถเชิญท่านได้เสมอ แต่ขอให้พร้อมก่อนนะค้ะ ยังไม่พร้อมช่วยใคร แต่ขอเป็นบางคนที่จะช่วยค่ะ อนุโมทนาค่ะ

 

อนุโมทนา....ด้วยค่ะ
เคยรับขันธ์เช่นกันค่ะ....คือแม่กับพี่ชายอยากให้ไปรับ ก็เลยไปรับมา ตอนนั้นก้ไม่รู้ว่าคืออะไร....
มีช่วงนึงที่ทำตัวเหลวไหล ก็รู้สึกช่วงเวลานั้นแย่ๆ มีแต่เรื่องไม่ค่อยดีหลายๆ อย่างเลยไม่รู้ว่าเกี่ยวกันกับการรับขันธ์มาแล้วไม่ถือศีล 5 ด้วยหรือเปล่า...

ส่วนตอนนี้ก็ปฏิบัติตน....ตามคำสั่งสอนพระพุทธศาสนาโดยยึดหลัก ศีล สมาธิ ปัญญา ชีวิตค่อนข้างปกติไม่มีเรื่องให้ทุกข์ร้อนใจ.....
ส่วนตัวคิดว่า ที่สุดของที่สุดแล้วค่ะกับหลักธรรมคำสอนของพระพุทธองค์ ปฏิบัติ ใช้ได้จริง เห็นผลแน่นอน ^^

 

เพื่อนผมคนนึง ตอนนนี้ก็มีเทพองค์หนึ่งผ่านร่างเพื่อนผม ซึ่งเพื่อนผมเอง ก็ไม่เคยรับขันธ์จากใครที่ไหน ทุกวันนี้เพื่อนผมก็ยังไม่ได้รับขันธ์เพราะร่างยังปฏิบัติไม่พอ ทำมา ๕ ปี แล้วครับ ท่านบอกว่าถึงเวลาจะทำเอง ขนาดหิ่งบูชาท่านก็มาจัดเอง และทุกๆครั้งที่ท่านช่วยเหลือใครๆ ท่านไม่เคยเรียกร้องปัจจัยใดๆต่อผู้นั้นเลย ของอย่างนี้ถึงเวลาที่จะต้องทำอะไร เราจะรู้ด้วยตังเอง ที่สำคัญ บางคนไปรับมาตอนแรกๆก็อยู่ในศีลดี พอนานเข้าศีลไม่เหลือไอ้ที่มามันก็เริ่มเป็นโทษ
ยิ่งขันธ์ผี พวกนี้ต้องการเครื่องสังเวย ไม่ให้ก็มีโทษ แถมทำกันที่เสียงเงินทองมากมาย ผมว่าเอาเงินไปทำบุญดีกว่าได้บุญแน่นอน
ทางที่ดี ทำตามหลักองค์พระพุทธเจ้ากันดีกว่าครับ ปลอดภัยแน่นอน
และทีสำคัญอย่าประมาทในการใช้ชีวิตกันนะครับ
ขออนุโมทนากับทุกๆท่านด้วยครับ

 

qsquอ่านประสบการณ์ที่แตกต่างกันออกไปของแต่ละคนแล้ว ทึ่งคะ ทิพย์เองรู้ตัวว่ามีบางสิ่งบางอย่างกำกับการแสดงอยู่เบื้องหลัง และก็ปล่อยให้ท่านกำกับการแสดงอยู่อย่างนั้นตามใจท่านจะพาไปสร้างบุญ บารมีที่ไหนก็ไป เป็นเรื่องทางศาสนาพุทธล้วนๆ ไม่มีลัทธิอื่นเกี่ยวข้องเลย พระรัตนตรัยเคารพสักการะอย่างฝังใจ ศีล 5 ไม่ขาดตกบกพร่อง ทำบุญ ทำวัตรเช้า เย็น ถือศีลแปดบ้าง เมื่อโอกาสอำนวย แต่ต้องไม่ลืมอุทิศบุญกุศลที่ตัวเองทำให้ท่านด้วย รู้แต่ว่าเป็นเทวดาประจำตัวเรา งุบงิบ จุ๊บจิบ ทำกันเงียบ ๆ 1ท่าน กับตัวเรา 1คน ไปไกลแค่ไหนก็มีเพียง 2 นี้เท่านั้น แค่นี้ก็มีสุขมากโขแล้ว ไม่เคยรับขันธ์เลย แค่เรายินดีน้อมรับท่าน เคารพรักท่าน สั่งให้ทำอะไร เราทำ สื่อสารเข้าใจซึ่งกันและกัน ก็เพียงพอแล้ว เลยไม่เข้าใจว่า การรับขันธ์สำคัญอย่างไร (tm-love)

 

อนุโมทนาสาธุ

ตัวแม่อรเองก็เคยรับขันธ์มา แต่ก็ไม่ได้ไปเข้าทรงหรือทำนายทายทักใครต่อใคร แต่เอาไว้เพื่อให้เรารู้ว่าเรามีองค์เทพไว้คอยคุ้มครองรักษา แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว หมั่นทำบุญนั่งสมาธิอุทิศส่วนบุญสวนกุศลให้ก้บเทพเทวา สุขกายสุขใจ รักษาตน ให้พ้นจาก ทุกข์ภัย ทั้งสิ้นเทอน

 

เพื่อนคนหนึ่งของเราก็ไม่ได้รับขันธ์ค่ะแต่ก็สามารถสื่อสารกับองค์เทพได้แต่อย่างที่เพื่อนๆบอกกันค่ะเพราะความจริงเราเองก็มีองค์เทพ พรหมฤาษีมาผ่านก่อนหน้านี้นานแล้วแต่เราเองต้องพึ่งบารมีปู่เพื่อทำหน้าที่การงานด้วยเพราะตลอดที่ผ่านมาเมื่อปฏิบัติภาระกิจบางอย่างจบลงเราจะเข้าตัวทุกครั้งแต่มันปฏิเสธการทำหน้าที่นั้นไม่ได้เลย และตัวเราเองก็อ่อนแอมากๆช่วงหลังๆแต่ที่ทำมาตลอดก็คือการปฏิบัติตามคำสอนขององค์สมเด็จ ขันธืสำหรับเราก็เป็นเพียงเครืองมือที่ทำให้ท่านช่วยเราได้เต็มที่และไม่ติดตามเราไปตลอดเพราะบางครั้งเราก็ยังมีโลกส่วนตัวแบบมนุษย์ธรรมดาๆ ท่านก็จะอยู่กับเราตลอดเวลาเลยมันทำให้ท่านรับเอาสิ่งไม่ดีทางโลกไปด้วยและเราก็ลำบากใจในการวางตัวแต่เมื่อรับไปแล้วเราก็ยังปฏิบัติตัวเช่นเดิมคือยึดถือปฏิบัติเหมือนเดิมเลย (ดีกว่าเดิมด้วยเพราะแน่ใจว่าของจริงๆ)แต่มันทำให้เรามีโลกส่วนตัวมากขึ้นนะเองและที่สำคัญปู่จะนิมิตรให้เห็นเองและบอกเองว่าต้องการอย่างนั้นเพราะเป็นทางเดียวที่จะช่วยเราได้ ณตอนนั้นแต่เมื่อเวลาผ่านไปเมื่อเราเป็นคนเดิมๆที่ไม่ได้รับมาเพื่อยึดติด รู้แล้วปล่อยวางเก็บส่วนที่ครูบาอาจารย์สอนการปฏิบัติและก็ไม่มีเรื่องฝ่ากิเลศแต่อย่างใด มีสติมากขึ้นเห็นการเกิดขึ้น ทรงอยู่ และดับไปชัดขึ้นด้วยและก็ไม่ได้หวังว่าชีวิตจะต้องดีขึ้นอะไรมาแค่มีลมหายใจสร้างความดีก็โอแล้ว

 

อวิชา ต้อง แก้ด้วยตัวปัญญาที่มีความเฉียบแหลมที่สุด

 

อนุโมทนากับเจ้าของกระทู้ ค่ะ

อ่านเพื่อเป็นวิทยาทาน

ไม่ประมาท ไม่หลงทาง

สาธุ ค่ะ _/l\_

 

:boo:จะมีองค์เทพหรือไม่ ก็ไม่จำเป็นต้องไปรับขันธ์คะ เพราะทุกคนก็มีขันธ์เป็นของตนอยู่แล้วค่ะ
การปฏิบัติ วิปัสสนากรรมฐาน ถือศีล 5 ให้มั่น ตามพุทธองค์ทรงชี้นำทางขั้นต้น ก็จะมีปัญญาแก้ไขได้เองในทุกเรื่อง ตามวาระ และโอกาส

 

ถ้าเราสวดมนต์เป็นประจำ ไปบวชบ่อยๆ แต่ยังป่วยอยู่ ไปพบหมอก้ยังไม่ดีขึ้น แล้วมีคนแนะนำให้รับขันธ์ ยังงี๊เราควรรับป่ะคะ

 

ขอบคุณค่ะที่แนะนำ ไม่เคยทานมังสวิรัตเลยค่ะ
แต่อาการที่เป็นนี่คืออาการของญาติน่ะค่ะ
เดี่ยวต้องลองแนะนำดูก่อนเผื่อจะดีขึ้น
แต่คนมาแนะนำให้ไปรับขันธ์ก่อนแล้วจะดีเอง
จริงๆแล้วก็ไม่อยากให้รับเลย ยิ่งมาอ่านกระทู้นี้แล้วกลัวจะปฏิบัติไม่ได้อ่ะค่ะ

 

ผมก็เคยรับพูดภาษาเทพได้รับมา5ปีก็ไม่เห็นจะตรงตามที่พระพุทธเจ้าสอนให้ละกิเลส ผมก็เลยงดการเข้าพิธีงานไหว้ครู มุ่งบําเพ็ญธรรมดีกว่าถือศีลให้ครบเท่าที่จะทําได้ นั่งสมาธิทําบุญสุนทานแต่มีคนบอกว่าทิ้งไปแล้วจะโดนลงโทษอันนี้ผมทําบุญทุกครั้งการแผ่อุทิศส่วนกุศลให้ทุกครั้งสุดแล้วแต่บุญแต่กรรมเถอะครับ ผมเชื่อว่าทําดีย่อมได้ดีครับ ทุกวันนี้ผมเชื่อว่าธรรมะของพระพุทธองค์เป็นสิ่งที่ดีที่สุดในโลกไม่มีอะไรเทียบเทียมได้เลยครับ และมีความสุขใจอย่างบอกไม่ถูกเลยครับ ปัจจัตตัง

 

ไม่ว่าคุณจะไปรับ ขัน เป็นเทพองค์ใดมา เมื่อเห็นข้อความนี้ นำไปคว่ำเสีย คว่ำกับพระ หรือสถาน
ธรรมที่มีผู้รู้ อย่าเอาไปทิังเอง ขันที่รับมา ไม่ใช่เทพ เป็นวิญญานที่ถูกสกดไว้ สกดดีหน่อย ก็ดีไป สะกดไม่ขลัง คนรับก็เตรียมตัว
ผมมีประสบการมาแล้ว หากอยากมีองค์บารมี ให้ไปปฏิบัตธรรมเอง แล้วจะพบเห็นสิ่งที่อยากเห็น

 

ผมเห็นต้วยครับ ด้วยความเคารพ

 

การรับขันธ์ : ผมคนหนึ่งนะครับที่รับและบูชาขันธ์มามากกว่าสิบปี เพราะทั้งแม่ผมเองและแม่บุญธรรมให้รับ ก็รับครับ ไม่ได้มีปัญหาใดๆ ชีวิตจะดีหรือไม่ดีนั้น ไม่ได้อยู่ที่ขันธ์ลูกเล็กๆ ใบหนึ่งนะครับ อย่าไปยึดติดกับของแบบนั้น การรับขันธ์ในความหมายสำหรับผมคือการบูชาครู คล้ายกับการครอบเศียรพ่อแก่ครับ เราบูชาสิ่งดีๆ อย่าง พ่อ แม่ ครูบาอาจารย์ก็น่าจะเป็นสิ่งดีในชีวิต เป็นมงคลหนึ่งในชีวิต

ขันธ์อันตราย : มีคำกล่าวว่า "การหากินง่ายที่สุด คือการหากินกับความเชื่อของคน" ทุกวันนี้จึงเกิดตำหนักทรงโน้น ทรงนี้ เจ้านั่น เจ้านี่ ขึ้นมามากมาย ส่วนหนึ่งต้องยอมรับนะครับว่าเป็นการอุปโลกน์ขึ้นมาดื้อๆ เพื่อหากินโดยเฉพาะ เป็นหนึ่งในอาชีพแปลกๆ ที่ไม่ได้นึกถึงคุณธรรมหรือศีลธรรมใดๆ
การไหว้ครู ครอบขันธ์จึงค่อนไปในทางอันตราย เพราะการครอบขันธ์นั้นมีค่าใช้จ่ายนะครับ บางที่ลูกหนึ่งเป็นพันหรือหลายพัน สิบลูกเป็นหมื่น คำนวนต้นทุนแล้วกำไรไม่น้อยกว่าชิ้นละหลายร้อย นี่คืออันตรายแรกสุดที่ตาเห็นนะครับ คือการหลอกเอาเงินเราโดยทักเราเพียงว่า เรามีองค์ มีเทพคุ้มครอง ต้องรับขันธ์ ไม่รับไม่ได้ นี่ไงครับคือการหากินกับความเชื่อของคน เพราะเทพนั้นไม่สามารถจับต้องได้ มองไม่เห็น

ยังไม่รวมถึงการทำขันธ์แบบคนมีอาคมเรียกสารพัดสารเพมาใส่ไว้ บางสำนักสามารถเรียกของแปลกๆ มาให้เราบูชาเพื่อที่จะครอบเราไว้รอบๆ ตัวเค้าเพื่อใช้ประโยชน์อื่นๆ อีก คล้ายๆ การเลี้ยงไข้ของหมอครับ ให้เราไปนำคนอื่นๆ มาอีกให้สำนักทรงนั้นๆ หลอกต่อไป หรือบางสิ่งที่รับมานั้นสามารถกระทำต่อจิตที่อ่อนแอของเราให้เกิดความทุกข์ยากต่างๆ ต่อไปและต้องกลับไปรักษาที่เดิมอีก

รับขันธ์กับการเข้าทรง : การรับขันธ์นั้นเรื่องหนึ่งครับ ส่วนการรับแล้วเจ้า เทพ อะไรต่างๆ จะมาลงที่ร่างไม่เกี่ยวกันนะครับ ผมรับแล้วก็เพลินๆ เรื่อยๆ ชีวิตก็ดำเนินไป ให้ความรู้กับลูกศิษย์ท่านอื่นๆ ที่มาครอบขันธ์ในแบบนี้เช่นกัน และประโยคที่ผมใช้อยู่เสมอว่า "ขันลูกนิดเดียวจะไปเปลี่ยนชีวิตคนได้ยังไง ชีวิตมันต้องอยู่ที่ตัวเรา เราทำดีก็ดี ไม่ดีก็ไม่ดี" คนฟังบางท่านก็ตาค้างไป ไม่พูดกับผมอีกเลย เพราะเค้าคิดองค์เทพที่เค้ารับนั้นใหญ่ที่สุด ประมาณว่า "องค์อั๊วใหญ่นะ ไม่ใช่มาเล่นกันแบบนี้"

เฮ้ออออ .... ฟังแล้วเศร้า คิดในใจว่ามึงไปลาออกจากศาสนาพุทธเลยดีไหมว่ะ

นี่คือหนึ่งในความเชื่อที่ผิดอย่างยิ่ง เป็นความหลงส่วนตัวของแต่ละคนนะครับ ต้องระวังเช่นกัน
ในวันที่รับขันธ์เป็นวันรวมเจ้า รวมเทพ ผมนี่แหละครับเป็นคนเก็บเทพ เก็บเจ้าที่มาแสดงอิทธิฤทธิ์ คอยประคอง ต้องคอยบอกเทพว่าถอยเบาๆ นะ ระวังนะ จับตัวเทพบ้าง เจ้าบ้าง เห็นมาทุกรูปแบบครับ ร้องไห้ ร่ายรำ กรีดร้อง เจอกันทุกปี เฉยๆ ครับ

เท่าที่เห็นมาไม่ว่าเจ้าหรือเทพองค์ใดๆ ก็ตามไม่เห็นว่าจะเรียกร้องเงินทองใดๆ นี่ครับ มันก็มีแต่คนละครับที่เรียกร้อง เทพไม่ต้องไป 7-11 มั้งก็เลยไม่เอาเงิน เทพไม่ต้องซื้อรถเก๋ง เทพไม่ต้องผ่อนบ้าน ก็เลยไม่รู้จะเอาเงินไปทำไร มันก็มีแต่คนนี่แหละครับ คนทั้งนั้น อย่าไปโทษมั่วนะครับ ไม่ดี

การทำขันธ์ : ผมเป็นคนช่วยประกอบขันธ์ให้กับท่านอื่นๆ ทุกๆ ท่าน รวมทั้งขึ้นบายศรีต่างๆ บอกเลยว่าไม่ได้อยากทำนะครับ แต่ไม่มีคนอยากทำผมจึงต้องเข้าไปช่วยเค้าทำ ก่อนหน้าวันที่จะทำนั้นต้องทานมังสวิรัต ทานเจ และในระหว่างที่ทำต้องทำจิตให้สงบที่สุดเท่าที่จะทำได้ พูดให้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ และต้องจุดธูปบอกกล่าวครูบาอาจารย์ว่าเราขอประกอบขันธ์เพื่อบูชาครูเท่านั้น

รับขันธ์แล้วทำยังไง : ที่ผมรับนั้น ผมรับกับแม่บุญธรรมของผม แกก็พูดเพียงแต่ว่า สวดมนต์เยอะๆ นั่งสมาธิเยอะๆ เท่านั้นครับ สำหรับผู้ที่รับขันธ์อย่างผม แม่ไม่เคยให้ไปลุยไฟ ปีนบันไดดาบ แทงปากสักที เจอกันที่ไรก็สวดมนต์เยอะๆ นั่งสมาธิเยอะๆ ไม่ได้ต้องให้ทำไรที่เสียเงินเสียทองเลยนะครับ ไม่ได้ไปบูชาอะไรอย่างที่อื่นๆ รวมทั้งคนอื่นๆ ก็เช่นกัน
แกบอกว่าเราสวดมนต์ไหว้พระ เป็นการบูชาครูที่สูงที่สุดแล้ว ครูนั้นก็คือพระพุทธองค์ ถ้าเราได้บูชาพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ นั้นคือครูที่สูงที่สุด แล้วเราจะกลัวอะไร

ชีวิตกับขันธ์ : การมีองค์เทพ มีเจ้าคุ้มครอง ตามความเชื่อว่ามีกันทุกคน นั้นเป็นสิ่งดีครับ อย่าไปแปลเป็นสิ่งอื่น ให้เราปฏิบัติให้ดีตามสภาวะของตน ให้ยึดพระธรรมที่พระพุทธองค์ได้สอนไว้นั้นเพียงพอแล้วครับ อย่าเอาชีวิตไปจมกับขันใบหนึ่ง ขันที่เรารับมานั้นไม่ใช่ทุกสิ่งของชีวิตครับ เรากระทำของเราต่างหากที่เป็นตัวกำหนดชีวิต "ขันใบนิดเดียวจะเปลี่ยนชีวิตคนได้อย่างไรครับ"

การดำเนินชีวิตของผมหลังจากรับขันธ์ :

07.00 ออกจากบ้านไปทำงาน(ใช้เวลาเดินทางถึงที่ทำงาน 20-25 นาที)
12.20 กินข้าวเที่ยง
17.00 เลิกงาน (ใช้เวลาเดินทางถึงบ้าน 20-25 นาที)
17.30 ออกจากบ้านไปวิ่งและเตะบอลกับเพื่อนๆ แถวบ้าน
18.30 กลับบ้าน อาบน้ำ
19.00 ทานข้าวหรือไม่ก็ออกไปซื้อของใช้ส่วนตัวกับแฟน
21.30-22.00 สวดมนต์ไหว้พระ
23.00 นั่งเล่น ดูทีวีโน่นนี่เรื่อยเปื่อย
24.00 นอน เพื่อที่จะหมุนมาอีกรอบของวัน
เวลาอาจจะขยับไปนะครับ ตามช่วงตามความสะดวก

อย่างคืนนี้จะตีสอง (01.53 น.) แล้วผมยังไม่นอนเพราะนอนกลางวันไปเยอะแล้ว 555.. ถามเพื่อนๆ นะครับว่า ขันธ์ที่รับมามีอะไรมาเกี่ยวข้องในชีวิตผมบ้าง ในเวลาไหนครับ แล้วเพื่อนๆ ลองเขียนเวลาแบบนี้ของท่านนะครับถามตัวท่านเองว่า ขันธ์มีอะไรมาเกี่ยวในชีวิตในช่วงเวลาใดบ้างครับ
องค์เทพหรือว่าเจ้ามาเกี่ยวข้องกับท่านในเวลาใดบ้าง ขันธ์มาควบคุมผมตอนเตะบอลกับเพื่อนๆ หรือไม่ ขันธ์มาควบคุมตอนไปเดินห้างซื้อของใช้หรือไม่ ขันธ์มาควบคุมทำงานหรือไม่ ไม่มีหรอกครับ ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นสิ่งที่เราอุปโลกน์ขึ้นมาครับ

อยากฝากไว้สักนิดนะครับ : การนั่งสมาธิขอเพียงให้เรา เห็นเพียงลมหายใจของเรานะครับ ดูลมหายใจอย่างเดียว ไม่ต้องไปดูสิ่งอื่นๆ ไม่ต้องไปหาสิ่งอื่นๆ มันจะทำให้เราหลง ให้อยู่กับลมหายใจเท่านั้นครับ ลมหายใจจะหยาบ จะละเอียด จะยาว จะสั้น เท่านั้นพอ อันนี้องค์เทพฝากมาเลยครับ ฝากมาจริงๆ นะครับ ...

 

...เป็นคนละกรณีกันครับ การเข้าไหว้ครูครอบทางนาฏศิลป์ เป็นพิธีที่เหล่าลูกศิษย์แสดงถึงความน้อมน้อมสักการะถึงครูบาอาจารย์ผู้ประสิทธิประสาทวิชาสาขาศิลปทุกๆแขนง

 

ขันธ์ 5 ในทางพระพุทธศาสนา กับขันธ์5 ในทางทรงเจ้าไม่เหมือนกันนะ
ขันธ์ 5 ในทางทรงเจ้าก็คือขันใส่บายศรี 5 ชั้น ธูป เทียน ข้าวสาร บุหรี่ หมากพู เป็นสัญลักษณ์ของการรับเทพมาบูชา


แต่เห็นว่าคนเอามาเล่นคำไป คำมาจนเป็นเรื่อง