เจตนาของผู้โพสกระทู้ ระยะหลังนี้เปลี่ยนไปมาก

จากคนธรรมดาๆ คนหนึ่งที่เข้ามาอ่านกระทู้รายวัน มากมาย นานพอประมาณจนถึงปัจจุบันนี้ โดยส่วนตัวได้เห็นความเปลี่ยนไปค่อนข้างมาก โดยเฉพาะกระทู้บทความและคนที่มาโพส จากเดิมที่มาจากประสพการณ์จริงไม่มีเจตนาแอบแผงใดๆ ในการโพส กลับกัน ในขณะนี้มีคนโพสเพื่อประโยชน์และชื่อเสียงของตนเป็นจำนวนมาก ซึ่งข้อความที่คนเหล่านั้นโพส ก็ไม่ได้มาจากประสพการณ์จริงของตนเองสักเท่าไร เป็นการผสมข้อความ (ยำ) ซะส่วนใหญ่ อ่านไปแล้วข้าพระเจ้าเวียนหัวเป็นอันมาก คือใช้คำและประโยควนไป วนมา บ้างก็อ้างถึงกระทู้อื่นๆ ในการนำเสนอกระทู้ของตนเอง ไม่รู้จักคิดสร้างเอง บ้างก็ศัพท์วิชาการ โอ้ อ่านแล้วเวียนหัว
แต่สิ่งที่พบมากชัดเจนที่สุดคือ เจตนาของผู้โพสกระทู้ ระยะหลังนี้เปลี่ยนไปมาก
จะมีใหมแบบเดิมที่เคยอ่าน หรือแบบใหม่ที่จริงใจมีสาระ หลังๆนี้ชูประเดนเรื่องต่างดาวกันเยอะ อ่านแล้วเลี่ยนๆ เดิมๆ เพราะอ่านมาเยอะแล้ว
ข้าพระเจ้า รู้สึกทนไม่ไหว จึงขอแสดงความคิดเห็น แบบชาวบ้านๆ เพราะเรา ชาวบ้าน เข้าเว็ปนี้มากกว่า คนที่ไม่ได้คิดว่าตนเองเป้นชาวบ้าน

อนุโมธนา

 

ดีครับการเตือนกันเป็นสิ่งที่หาได้ยาก กัลยาณมิตร นั้นเช่นเดียวกันหากเราขาดกัลยาณมิตรแล้ววันใดที่เราเดินหลงผิดหลงทางทำเรื่องที่ผิดแต่ไม่มีคนที่เป็นห่วงเราคอยเตือนอยู่เราก็เปรียบเสมือนคนล่องเรือกลางมหาสมุทรที่ไร้ซึ่งทิศทางเพียงลำพัง
ขอบคุณครับ

 

ก็ดูหัวข้อกระทู้ใหญ่สิครับ

วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ
ศูนย์รวมคนมีพลังจิต, วิทยาศาสตร์ทางจิต, วิทยาศาสตร์มหัศจรรย์, เรื่องลึกลับ, มนุษย์ต่างดาว, สัมผัสที่หก, วิญญาณศาสตร์, UFO, ศาสตร์และประสบการณ์อันลี้ลับ, ศาสตร์แห่งปัญญาที่ล้ำเลิศ, ศาสนาและปรัชญา

 

ห้องสำหรับวิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ
หรือว่าเจตนาของการโพสกระทู้แต่ละท่าน ณ ที่นีแฝงไปด้วยเจตนาร้าย ก็น่าคิดดีครับ
แต่เจตนากระทู้นี้มีอะไรแฝงอยู่บ้างหรือเปล่าครับ หรือว่าไม่ยินดีที่จะแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเพราะคิดแต่จะยอมรับข้อมูลที่ตัวเองต้องการเท่านั้นครับ ชี้แนะด้วยครับ
ขอบคุณครับ

ผมคิดว่าผมอยู่ถูกห้องนะครับ ไม่ได้อยู่ห้อง นิยายพื้นบ้าน

 

คนที่ไม่ได้เป็นชาวบ้าน คืออะไรอ่าคะ (อันนี้ถามแบบโง่ๆเลยนะคะ)

ไฮโซ???
เทพ???
คนมีอิทธิฤทธิ์???

ปกติก็เข้ามาอ่านๆๆ บ้างน่ะค่ะ

แต่เลือกอ่านเฉพาะอันที่สนใจ แล้วก็ดูแล้วมีสาระ ก็เลยไม่รู้ว่ากระทู้ปกติทั่วไปเป็นยังไง

ถ้าเห็น(เสมือนว่าจะ)เป็นกระทู้ของผู้มีพลังวิเศษ หรือ อำนาจ หรือ อะไรแนวเหนือธรรมชาติมากก็จะไม่อ่านน่ะค่ะ

กระทู้ประเภทสเดาะห์เคราห์ แก้กรรม อะไรพวกนี้ก็จะไม่ค่อยอ่าน เพราะไม่เชื่อว่ากรรมที่เราเคยทำมาจะสามารถทำพิธีแก้ได้ ถ้าเราไม่ได้เริ่มทำความดี

 

ครับ ดี....................

 

ไม่ได้ว่าคุณอยู่ผิดห้องนิครับ

 

อนุโมธนา ครับ

 

อันนี้เข้าใจดีครับ

 

ห้า ห้า ใจเย็นเย็นคับพี่น้อง มีอะไรค่อยพูดค่อยจากัน .... อนุโมทนาสาธุ

 

ก็ในเมื่อกระทู้ของเขาอยู่ถูกที่ถูกห้องแล้ว ก็แสดงว่าพวกเขาไม่ได้ทำอะไรผิด
แต่แค่ใจเรานึกไม่ชอบ หรืออ่านแล้วไม่ได้ประโยชน์
ก็ไม่ได้หมายความว่าคนอื่นๆจะไม่ได้ประโยชน์ด้วยนี่ครับ

เปิดใจให้กว้างเข้าไว้ครับ
เพราะว่าไม่มีใครสามารถทำอะไรที่ถูกใจเราไปเสียหมดหรอกครับ
แม้แต่ตัวเราเองยังทำอะไรให้ตนเองถูกใจไม่ได้เลยนี่ครับ

และถ้าจะหวังให้เอาประสบการณ์ตรงของแต่ละคนมาโพสต์หละก็
ปัญญาจะเกิดมาจากไหนมาโพสต์กันนักหนาหละครับ
เพราะว่าปัญญามาจาก 3 ทาง คือ สุตตะมะยะ (ได้จากอ่านฟัง การอ่าน)
จิตตะมะยะ (ได้จากการคิดใคร่ครวญ) และภาวนามะยะ (ได้จากการรู้เอง เห็นเอง)

ถ้าตัดแหล่งก่อเกิดปัญญญา 2 อันแรกออกไปเสีย หรือเห็นว่าไม่สำคัญ ไม่น่าเผยแพร่
แล้วเราจะพากันเข้าโรงเรียน เข้ามหาวิทยาลัย ให้คนอื่นเขาเอาตำรามาสอนเราทำไมหละครับ
ทำไมเราไม่นั่งสมาธิอยู่บ้าน รอให้เกิดปัญญาเอง

และที่สำคัญ คนเราแต่ละคน ก็เปรียบเสมือนว่า อยู่ในจักรวาลแห่งความคิด คนละจักรวาลกัน
เพราะฉะนั้น อะไรที่จะเป็นตัววัดว่า ข้อมูลจากประสบการณ์ตรงของคนไหนจริงหรือไม่หละครับ


สรุปว่า..

ถ้ากระทู้ไหนเลี่ยน..ก็อย่าเข้าไปอ่านมันสิครับ
ต้องระลึกเอาไว้ว่า ไม่มีใครไปจับมือเราให้คลิ๊กเข้าไปอ่านกระทู้เหล่านั้นเลย
เราต่างหากที่ "เลือก" ที่จะเข้าไปอ่านเอง..แล้วก็เลี่ยนเอง..ทุกข์เอง

ที่ผมกล่าวมานี้..ไม่มีสิ่งใดที่ไม่จริงเลย

.....................................................................

 

ครับ ต่างคนต่างความคิดครับ แต่ขอให้ทุกคนยึดมั่นในหลักความจริง มีเหตุและผล กันนะครับ ขอให้ยึดหลักพระพุทธศาสนาเป็นที่ตั้งนะครับ

 

คิดอะไรมากมายค่ะ

 

ถ้าเช่นนั้นผมขอแสดงความคิดเห็นของผมต่อกระทู้นี้บ้างละกันครับ ว่าตั้งแต่ได้อ่านเว็บพลังจิตนี้มา ไม่เคยเจอกระทู้ไหนที่พิสดาร ลึกลับ และสื่อถึงจิตหรือเจตนาไปกว่ากระทู้นี้อีกแล้วครับ

แต่ผมว่ามันไม่รู้สึกแคบไปนิดหรือครับ กับที่คุณอ้างว่า"คือใช้คำและประโยควนไป วนมา บ้างก็อ้างถึงกระทู้อื่นๆ ในการนำเสนอกระทู้ของตนเอง ไม่รู้จักคิดสร้างเอง บ้างก็ศัพท์วิชาการ โอ้ อ่านแล้วเวียนหัว" ถ้าเป็นเช่นนั้นการส่งผ่านข้อมูลที่เราได้รับมาอีกทอดหนึ่งเป็นเรื่องที่ต้องมีเจตนา "โพสเพื่อประโยชน์และชื่อเสียงของตนเป็นจำนวนมาก ซึ่งข้อความที่คนเหล่านั้นโพส ก็ไม่ได้มาจากประสพการณ์จริงของตนเองสักเท่าไร เป็นการผสมข้อความ (ยำ) ซะส่วนใหญ่"

ผมเชื่อว่าทุกคนมีการนำเสนอข้อมูลเป็นรูปแบบของตัวเอง ยกตัวอย่างเช่น การแปลความจากภาษาอื่น การแสดงข้อมูลที่ขัดเกลาใหม่ การบอกเล่าเรื่องเล่ามาอีกต่อหนึ่ง การแสดงหลักฐานประกอบเหล่านี้ มันสมบูรณ์และเป็นประโยชน์เฉพาะบุคล โดยที่เป็นไปไม่ได้ว่าทุกคนจะสามารถรับข้อมูลนั้นได้หมด แต่ที่แน่นอนคือ ผู้ที่สนใจทั้งหลายในหัวข้อหรือประเด็นนั้นๆจะ คลิ๊ก เข้ามาอ่านเอง ไม่มีใครบังคับใครให้อ่านหรือรับข้อมูลทั้งหมด และยังเชื่อด้วยว่าเจตนาของผู้โพสทั้งหลายต้องการส่งผ่านข้อมูลที่ตัวเองสนใจและศึกษามาส่งต่อให้กับผู้อื่นหรือแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันกับผู้ที่สนใจมากกว่าชื่อเสียงที่กินไม่ได้หรอกครับ

ผมได้แจกแจงเจตนารมณ์ในการโพสแต่ละกระทู้ไว้ ณ ที่นี้แล้ว ขอบคุณครับ

 

ถ้าเราเบื่อๆก็อย่าไปอ่านสิครับ คนอื่นเขาชอบก็มีเยอะนะ
ผมว่าถ้าคุณตั้งใจอ่านจะมีข้อคิดดีๆในหลายกระทู้เลยนะครับ

 

ขออนุโมทนากับคุณ chayutt ด้วยนะครับ กล่าวได้ถูกต้องแล้ว

 

ถ้าจะว่าไปมันเป็นการสื่อสารหรือวิชาการเรียกกันเป็นภาษาสากลว่า Social Network ด้วยทฤษฏีที่ว่าด้วย มนุษย์เป็นสัตว์สังคมควรต้องมีการสื่อสารกันหลายๆช่องทาง เพื่อให้ทันต่อความเปลี่ยนแปลงของยุคปัจจุบัน

การสนทนากันไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ดี อย่างเช่นวิทยาศาสตร์นี่ก็เป็นอีกประเด็นสำคัญที่ควรมีการพัฒนาในเชิงสร้างสรรค์ แนวคิดของคนที่คิดในเชิงสร้างสรรค์นั้นส่วนใหญ่มักมีจินตนาการที่กว้างไกลแบบไม่มีขีดจำกัด แล้วถึงมาคิดเรื่องวิธีการ และความน่าจะเป็น ถึงจะตอบได้ว่า มีความเป็นไปได้มากน้อยเพียงใด

การนำเสนอเรื่องราวหรือ "สาร" ของแต่ละคนส่วนใหญ่ย่อมมาจากความถนัดของตนเองประกอบกับความชอบเฉพาะทางและช่องทางและเครื่องมือและวิธีการในการส่งต่อหรือเรียกว่า "สื่อ" นี้เป็นจำแนกได้หลากหลายวิธี แต่ที่สำคัญการสื่อสารและการสนทนาจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อ มีผู้ฟัง มีคนถาม มีการตอบ อย่างที่เราๆท่านๆทำกันอยู่ตอนนี้นี่แหละ
ผู้พูดที่ดี ผู้ฟังที่ดี ย่อมมีหน้าที่แตกต่างกัน ส่วนตอนนี้ขออธิบายในการพูดก่อนนะครับ

เริ่มจาก หัวข้อ ข้อมูลที่อ้างอิงได้ แหล่งที่มาก แล้วยังจะต้องใส่ความคิดเห็นเฉพาะของตัวเอง ตลอดจนแนวทางในการแก้หรือเพิ่มเติม หลักการณ์นี้จะเรียงลำดับแบบท้ายไปหาหัว หรือ หัวไปหาท้าย ก็ได้แล้วแต่สไตล์ของแต่ละคน
ในทางวิทยาศาสตร์นั้นการจับ(ยำ)ทฤษฏี ก็ถือว่าเป็นการเชื่อมโยงข้อมูลเข้าหากันเพื่อหาปรัญชาใหม่ๆที่อาจจะมีความเป็นไปได้มาผสมโลงการเป็นทฤษฏีใหม่ๆก็เป็นไปได้ เพราะเนื่องจากหลายๆโครงการณ์ต่างๆก็ใช้วิธีนี้เช่นเดียวกัน ซึ่งแตกต่างจากการปฏิบัติธรรมตรงที่ไม่สามารถคิดหรือจินตนาการเพื่อความสำเร็จผลลุล่วงได้ด้วยการคิดเพียงอย่างเดียว

ส่วนผู้ฟังที่ดีก็ควรมีความตั้งใจฟัง จับประเด็น โต้แย้ง ด้วยหลักการณ์และเหตุผล ในเรื่องนั้นๆที่กำลังพูดหรืออธิบายกันอยู่ หากไม่เอาเรื่องใดเรื่องหนึ่งขึ้นมาเป็นเปิดประเด็นสนทนาก็อาจจะทำให้เป็นการมองว่าเป็นคนไม่เปิดใจรับ เพียงเพราะความไม่ชอบโดยส่วนตัวควรจะมีหัวข้อหลักในการอ้างอิง เพื่อจะได้ชี้แจงกันไปเป็นตอนๆเป็นเรื่องๆไป กันนะครับ

อุปมาว่าอยากกินข้าวมันไก่ แต่เข้าร้านก๊วยเตี๋ยวเรือ แล้วสั่งข้าวมันไก่แบบจะกินให้ได้ นอกจากจะไม่ได้ดังใจแล้ว อาจจะยังโดนน้ำซุปสาดอีกด้วยก็เป็นไปได้ อย่างนี้เป็นต้นฯ

ดังนั้นสังคมย่อมมีคนที่คิดแตกต่างกัน แต่จำเป็นต้องพึ่งพาอาศัยกันและ<WBR>ร่วมมือกันเพื่อทำให้เกิดพลังยึ<WBR>ดเหนี่ยวของสังคม

 

เปรียบเทียบได้เห็นภาพชัดเจน

 

เหนื่อยก็หยุด หนังก็ว่าง อย่ายึดมั่นถือมั่น

ในดี มีไม่ดี ในไม่ดี มีดี

สาธุ

 

ตรงประเด็น ครอบคลุม ชัดเจน "ไม่มีสิ่งใดที่ไม่จริงเลย" เจ้าของกระทู้โปรดพิจารณาเถิด...