ถามคนที่มีญาณเท่านั้นนะครับ

ครับ ผมมีข้อสงสัยมาหลายเรื่องเลยนะครับ กรุณาตอบด้วยนะ

1.มีคนบอกว่า วันโลกแตก(วันที่ประเทศไทยจะเหลือเเค่ภาคใต้กับภาคเหนือ)จะไม่เกิดขึ้นในปี2012แล้ว ประเทศไทยจะปลอดภัย ไม่ทราบว่าจริงหรือไม่ครับ

2.ผมมีข้อสงสัยเกี่ยวกับพระจุฬามณีอ่ะครับ ไม่ทราบว่าท่านเป็นใคร
ปล.ผมรู้ชื่อของพระองค์มาจากบทสวดนี้อ่ะครับ"อะระหัง สัมมา สัมพุธโธ กุศลสัมปันโน"

3.ผมมีปัญหาข้องใจมากครับ เกี๋ยวกับเรื่องการทำสมาธิ คือที่บ้านนะครับ ห้องที่ผมทำสมาธิอ่ะครับ มันจะมีเสียงรอบข้างมาตลอด ข้างๆๆบ้านก็ตีกันทุกวัน(บางวันแม่ตีลูก บางทีก็ลูกตีแม่ เฮอะๆๆๆสีัสันมากมาย^^)ข้างบนบ้านก็เปิดทีวี ทำให้ไม่มีสมาธิเลยครับ อยากจะถามว่าพอจะมีวิธีที่ทำให้สามารถสงบสติ ไม่สนใจกับเสียงรอบข้างหรือไม่ครับ

ขอบคุณครับ....

 

ไม่ได้มีณาญอะไรนะครับแต่ถ้าจะเอาสมาธิจิงๆเรื่องเสียงต้องทำใจ เอาแบบบ้านๆเลยก็สำลีอุดหู หรือสวดมนต์แบบออกเสียงก็ได้ครับ เป็นกำลังใจให้ครับ

ปล. จขกทเพิ่งเริ่มทำนั่งสมาธิรึป่าวครับ สนับสนุนนะครับ

 

ครับ...........กำลังเริ่มอ่าครับ ข้าน้อยขอคำแนะนำด้วยเน้อ^^

 

ขอตอบข้อ 3 นะครับ ตามความเห็น คุณสมาธิยังไม่แน่นพอ จิตก็จะไปจับเสียงที่รบกวน ทำให้จิตฟุ้งและพะวง แต่ก็ขอให้ฝึกต่อไป อันนี้ต่ออาศัยความชำนาญ ให้ไต่องค์ฌานไปเรื่อยๆ จนกว่าจะนิ่ง สงบ และเยือกเย็น และจนกว่าจะเข้าสมาบัติได้ แม้จะรู้เสียงรบกวน แต่ก็จะเฉยๆ เหมือนพระอิฐพระปูน หากทำได้ ก็ขออนุโมทนาคร

 

ขออนุโมทนา สาธุทุกแง่คิด
แต่ข้อสาม ลูกตีแม่จริงๆเหรอ

 

ของแท้แน่นอนครับ....มีปัญหากันเรื่อย ไม่รู้เรื่องอะไรกัน

น่าสงสารเค้าจัง

 

ไม่มีญาณครับแต่อยากแสดงความคิดเห็นครับ
ข้อหนึ่ง ตอบไม่ได้ครับ แต่ให้คุณคิดซะว่าอะไรจะเกิดก็ต้องเกิด ไม่ว่าโลกจะแตก หรือ
กายแตกกายพัง มันก็เป็นเรื่องธรรมดา ยอมรับตามจริงที่เป็นไปจะได้ไม่ทุกข์มาก
ข้อสอง พระจุฬามณีเจดีย์สถาน เป็นสถานที่ครับ เป็นเจดีย์ที่ควรบูชา
บรรจุพระเกศแก้วขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าครับ
ข้อสาม ค่อยๆทำสมาธิไปนะครับ ดูลมหายใจเข้าออกไปเรื่อยๆ พุท โธก็ได้ครับ
ทำจิตให้สบายๆ คิดซะว่าสิ่งรบกวนเป็นบททดสอบที่ดี อย่าเอาใจไปสนใจกับมัน


อนุโมทนา สาธุ

 

ขอขอบคุณมากๆๆครับ

 

วันโลกแตกเขาว่ากันว่า เหลือแต่ภาคเหนือและอีสาน และกลางตอนบนนะ จำผิดหรือเปล่าเอ่ย ?


ไม่มีสมาธิจะมีฌานมันก็แปลกล่ะครับ
มีสติก็มีสมาธิครับ กำหนดรู้ได้ยินก็รู้ ไปเรื่อยๆนะครับ
เรากำหนดไม่ได้หรอกว่าเมื่อไหร่เขาจะสงบแล้วให้เรานั่งสมาธิเงียบๆเสียที
มันอยู่ใจเราเองทั้งนั้นครับ บางทีไปนั่งในห้องมืดๆเปิดแอร์เย็นฉ่ำแต่ใจยังว้าวุ่นและร้อนรุมก็ยังมีเลย อันนี้เราลองมาแล้ว จนเป็นสมาธิกบไปเลยพักนึง
สมาธิกบหมายถึง การย้ายที่นั่งไปเรื่อยๆ หาที่ๆคิดว่าจะได้ความสงบซะที
แต่ก็ไม่เจอ แม้แต่ที่ๆเคยนั่งแล้วสงบไปนั่งอีกยังไม่สงบเลยครับ
เพราะฉนั้นเราไม่ควรเข้าไปยึดติดกับอะไรๆเลยนะครับ สรรพสิ่งล้วนแล้วแต่อนิจจังกันทั้งนั้น

ขอจงมีความศรัทธาใน พุทธานุภาเวนะ ธรรมมานุภาเวนะ สังฆานุภาเวนะ แล้วทุกๆอย่างจะสลายไปในทีสุดครับ

อนุโมทนาครับ

 

ถ้าไม่สนใจปล่อยวาง ก็จะสงบครับ ไม่ยึดติด

 

ขอตอบตามประสาคนฟุ้ง อุปาทาน นะครับ

ข้อแรก ขอตอบว่า น่าจะยังอีกไกล แต่ที่แน่ๆ ประเทศไทยน่าจะเป็นสถานที่สุดท้าย
แห่งพุทธศาสนา ยังไงก็ครบ5,000ปีพศ.แน่ครับ เรื่อง ภัยพิบัติพูดจริงๆ ท่านว่า
คลาดเคลื่อนได้ครับ ตามแต่ ทางโลก และ ทางธรรม จะเกื้อหนุนและรักษาสมดุล
ถ้าทางโลกมนุษย์ไม่รักษาสภาพ อิทธิฤทธิ์ก็ไม่สามารถพึ่งได้100%ต้องพึ่ง บุญฤทธิ์
ให้ฝากบุญฤทธิ์ไว้เป็นไม้ตายที่ 2 วัดจริงๆ ทางสภาพโลก แต่ไม่ต้องห่วงนะครับ
กว่าภัยพิบัติล้างครึ่งโลกจะมาถึงทั้งคนพิมพ์และคนอ่านอาจจะแก่ตายไปก่อนก็ได้

ข้อ 2 พระจุฬามณีย์ เป็นเจดีย์หรือที่ทรงประทับสามารถหาอ่านได้ทั่วไปจากgoogle
สถานที่นี้เป็นสถานที่ ทิพย์ แต่ทางโลกก็มีแต่ผมเข้าใจว่า ผู้ถาม ถามถึง
สถานที่บนสวรรค์ชั้นนึง ไม่ต้องคิดมากครับ หากฝึกไปทางสาย
ครูบาอาจารย์หลวงพ่อฤาษีลิงดำ จะคุ้นชิน สถานที่นี้แน่นอน

ข้อ3 แบ่งเป็น 2 ส่วนนะครับ ส่วนแรกให้พิจารณาดิบเลยครับ ว่า นี่ไงกฏแห่งกรรม
ให้เราระวังตนให้มากขึ้น บางครั้งเราๆท่านๆที่กำลังอ่านข้อความนี้บางทีก็มีขึ้นเสียง
กับบิดามารดาโดยไม่รู้ตัวหากเป็นเช่นนี้ ยามท่านตายไปได้เจอของแรงแน่นอน
หรือหากยังไม่ตาย นี่คือสิ่งที่จะย้อนกลับมาหาในอนาคต 100เท่า 1000ทวี
ประเด็นที่ 2ในทางกฏแห่งกรรมแล้ว ไม่มีสิ่งใด ที่ทำไปแล้วไม่มีผล หากพิจารณาได้เยี่ยง
นี้หรือดีกว่านี้แล้วให้จับเอาอารมณ์ที่เริ่มเป็นสมาธิต่อไปโดยสังเกตุที่เราหายใจเข้าออก
คิดซะว่านี่คือ บททดสอบเบื้องต้นแด่ผู้ปฏิบัติ พึงระลึก ว่า มารบ่มี บารมีบ่เกิด

ปล.ขออภัยหากตอบซ้ำกับด้านบน และ สามารถเพิ่มเติมต่อครับ เพื่อประโยชน์กับ
บุคคลอื่นๆ ที่เข้ามาอ่านครับ

 

ตอบข้อหนึ่งครับ

เท่าที่ทราบมีวิธีหยุดโลกร้อนจนถึงขึ้นควบคุมอุณหภูมิโลกได้ แต่การฝืนลิขิตแห่งกรรมเป็นเรื่องไม่ง่ายนักมารผจญมากยิ่งนัก และยิ่งกว่านั้นคือเป็นการฝืนคำทำนายขององค์ศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าอีกด้วยครับ

 

ข้อ 1 โลกไม่แตก อีกไม่กี่ปีข้างหน้า ชาวโลกจะตื่นตัวหันมาประพฤติปฏิบัติธรรม ไทยจะเป็นศูนย์กลางความสนใจของโลก เพราะเหตุนั้น
ข้อ 2 จุฬามณีเป็นเจดีย์ที่ประดิษฐานพระเกศแก้ว(มวยผม) ที่พระโพธิสัตว์ตัดในวันบรรพชา และได้อธิษฐานโยนขึ้นไปในอากาศ ท้าวสักกะได้นำไปประดิษฐานในจุฬามณีเจดีย์ ต่อมาหลังจากที่พระพุทธองค์ปรินิพพานแล้ว โทณพราหมณ์ได้แบ่งพระบรมสารีริกธาตุให้แก่กษัตริย์เมืองต่างๆ และได้แอบซุกซ่อนพระธาตุเขี้ยวแก้วไว้เป้นของตน ท้าวสักกะเห็นว่าเป็นการไม่สมควร จึงได้อัญเชิญพระธาตุเขี้ยวแก้วไปไว้ในจุฬามณีเจดีย์ให้ชาวสวรรค์ได้สักการะ จุฬามณีเจดีย์จึงเป้นสถานที่สำคัญที่สุดในเทวโลก เป็นเนื้อนาบุญของชาวสวรรค์ เทวดาที่ไม่ประมาทก็จะหมั่นมาสักการะจุฬามณีเจดีย์เพื่อเพิ่มพูนบุญให้แก่ตน
ข้อ 3 ทำใจครับ

 

คุณถิ่นธรรมได้ตอบทุกคำถามหมดแล้วเลยไม่ต้องตอบแล้วเอาเป็นว่าสู้นะครับขอให้ทำสำเร็จนะครับ

 

ข้อสามละกัน

การทำสมาธิแล้วยังรู้สึกว่ามีอะไรมารบกวน เพราะผู้นั่งเอาจิตส่งออกนอก คือ

คอยสังเกตสิ่งที่เกิดขึ้นนอกตัว ซะมากกว่าการเจริญสติเข้ามาดูจิตตัวเอง

ผู้ที่เอาจิตส่งออกนอก ก็ย่อมจะรับรู้เอาแต่เรื่องภายนอก.....

ดูอย่างผู้ป่วยใน ร พ ประสาท คนเหล่านี้ มักจะสนใจแต่เรื่องของตัวเอง...จนไม่สนใจสิ่งรอบตัว

หรืออาจจะไม่รับรู้สิ่งรอบตัวเลย....นั่นก็เป็นทางตรงกันข้ามกับมนุษย์ปกติ ที่รู้สึกว่า เวลาที่ตนเองทำสมาธิ

แล้วก็ไม่ยอมสงบง่ายๆซักที... หันมาดูตัวเอง ดูอาการที่เข้ามากระทบ ไม่ใช่ดูสิ่งที่กระทบ..

หากเสียงดัง ให้รู้ว่ามีเสียงมากระทบ แต่ไม่ต้องแยกว่ามันคืออะไร... รู้แค่สิ่งที่ตกเข้ามาก็พอแล้วค่ะ

 

วางไปเถอะครับ มันจะไม่เหลือ ก็ปล่อมมันไป

มันจะ แตกก็ปล่อยมันเถอะ ถ้ามันจะเกิดจริง เดี๋ยวมันก็มาเองแหละ

รู้แล้วจะทำให้โลกดีขึ้นหรอ

ถ้าทำได้ผมหนับหนุนนะ....

 

อะไร ๆ มันก็ไม่แน่นอนทั้งนั้นง่ะ...

แต่ ที่รู้ ๆ ผมเตรียมใจ มา มากพอละ

..พร้อมตายเสมอ!!

 

ผมไม่มีฌาญ แต่ขอแบ่งประสบการณ์อันน้อยนิด ตอบข้อ 3

ผมว่าการที่มีเสียงรบกวน เป็นตัววัดอย่างดีเลยครับว่าเรามีสมาธิระดับไหน
ถ้ารู้สึกกังวล และรำคาญเสียง จะคัน เหงื่อหยด ปวด ฯลฯ ให้ใช้คำว่า "ช่างมัน" ลูกเดียว
เราคือจิต ไม่ใช่ร่างกาย ร่างกายจะปวดก็เรื่องของมัน แล้วหันมาสนใจเฉพาะลมหายใจ
ถ้าหายรำคาญและเลิกสนใจเสียงเมื่อไร นั่งไปได้เรื่อยๆ สบายใจ พระท่านว่านั่นก็คือ ปฐมฌาณ

 

ตอบข้อ 3 มั่งเด้
ไม่ต้องทำสมาธิครับ เสียงมันมากนักก็ไม่ต้องทำมันสมาธิอะ ทำสติให้อยู่กะตัวพอ หายใจเข้าก็รู้ว่าเข้า หายใจออกก็รู้ว่าออก ลืมตาอยู่ก็รู้ว่าลืมตาอยู่ ไม่ต้องหลับตา ในเมื่อมันทำสมาธิไม่ได้ จาไปทำมันทำมัย มันก็แค่ 1 ในมรรค 8 มีอีก 7 ข้อให้ทำ กลัวอาราย