อยากมีญาณสัมผัสไว้ช่วยเหลือผู้อื่น

อยากให้ผู้รู้ช่วยแนะนำว่าต้องปฏิบัติอย่างไรจึงจะได้ญาณสัมผัสไว้ช่วยเหลือผู้ที่มีความทุกข์ เพราะรู้สึกว่าโลกนี้มีแต่คนที่มี แต่ความุทุกข์ อยากช่วยให้ทุกชีวิต มีความสุขควบคู่คุณธรรม

 

อย่าอยากเลยค่ะ ยิ่งอยากยิ่งไม่ได้
หมั่นปฎิบัติ เด๋วก็มาเอง โดยที่มิได้อยาก
อิ อิ อิ
อนุโมทนาด้วยน่ะค่ะ

 

อนุโมทนา กับเจ้าของกระทู้ด้วย ที่มีเมตตา ปราถนาให้คนอื่นพ้นทุกข์
คุณจิดา ท่านผู้ถูกนะ ปฏิบัติภาวนาให้เต็มที่ เต็มกำลัง ด้วยใจที่ผ่องใส
อย่าไปอยาก เมื่ออยากจะไม่มีอะไรเกิดขึ้น ปฏิบัติด้วยสติกำลังที่มีอยู่
เมื่อไม่อยากนั่นแหละ ทุกอย่างจะมาเอง

โดยส่วนตัวแล้วคุณนู๊ดเดิ้ล ก็มีบุญบารมีเก่าอยู่นะ เร่งปฏิบัติเถิด
เมื่อถึงเวลานั้น จะได้ใช้สติ ปัญญา ช่วยเหลือผู้คน ตามที่ได้อธิษฐานไว้นะ

สาธุ

 

อนุโมทนาค่ะ
ปฏิบัติเอานะคะ อย่างที่คุณจิดาแนะ


แต่เรื่องอย่างนี้ มันละเอียดอ่อนค่ะ ดีไม่ดี อาจโดนด่าว่าอาการโคม่า ใกล้ต๊อง (จิตตกไปหลายวันเลยตรู) เอ๊ะ...ไม่เกี่ยวกับที่น้องเค้าถามมานิ่

 

เมื่อก่อนตู ก็คิดเหมือน คุณ อ่า แต่พอมาอยู่ตรงนี้จริงๆ มัน ไม่ดีเลย จะทำ ให้ชีวิต เรา ดำเนิน ไม่เป็น ธรรมชาติ และไม่สมารถ มีชีวิตครอบครัว ที่อบอุ่น ได้ ดังคำสาป ของคน ที่เป็นหมอ ดู เค้ารุ้กันทุกคน อันฌาน ใดๆ ก็จะได้ กับเจ้าของนั้นๆ ตามสภาพจิต ทีปรุงแต่ง การมีจนเกินธรรมชาติ ย่อมนำความเดือดร้อนมาให้ มาสู่ อย่ามีเลย ดีกว่าน้อง อยู่ ปกติ เถอะ คนที่เค้า จะช่วยกันเพราะเคย มีบุญต่อกัน มาชาติปางก่อน ...ถ้า มีแล้วไม่หลง ก็ดี ถ้าหลง ฤทธิ อำนาจ ฌาน บารมี .....มันก็วนเวียนอย่างนี้ หาสิ้นสุด ไม่ เพราะฤทธิ์ ต่างๆ เป็นของหลง ทำให้ ไม่นิพพานในที่สุด แล้ว ต้อง มาเสวย กรรม ที่เสือก ไปบอก เค้าให้ หาทางแก้ อีก ฟ้าดิน ลง.โทษ คนที่เปิดเผย คววามลับ สวรรค์ เสมอ ........ใน นี้ มีฌาน ตาย ไปแล้ว 2 กำลังจะตายอีก 1 เร็วๆ นี้ และ ก็ กุ อีก เวลาที่ปฏิบัติ ก็น้อยลง เพราะต้องทำงานหาเงิน โดยจิตสัมผัส พิเศษ สุดท้าย ลืม ไปว่า..............ความพิเศษนั้น มีไว้แค่ยังชีพ แค่นั้น ....เพราะจริงๆ แล้วเค้าต้องการให้เรา เห็นอภินิหาร เพื่อการหลุดพ้น.........และเมื่อช่วยทางโลก แล้ว อย่าลืม ช่วยสอนธรรมเค้าด้วย ........และเมื่อ ช่วยคนอื่นแล้ว ......อย่าลืม ช่วยตัวเอง ครับ ......ดังนั้น สรุป .........ปกติ ดีที่สุด ครับ กรรมใครกรรมมัน............ คนที่ทำหน้าที่ เค้าก็ทำตามกรรมของเค้า ครับ........ คงพอเข้าใจนะครับ แต่ถ้าอยาก บ้านแตก สาแหรก ขาด ก็เอาจะสอนให้ครับ ...........แล้วจะรุ้ว่า............ ทุกอย่างมัน ว่างเปล่าจริงๆ

 

ชัดเจนครับอาจารย์ ก๋ง

 

อนุโมทนา สาธุ

 

อนุโมทนา ในกุศลจิตขอให้ได้ในสิ่งที่ปรารถนา เพื่อสร้างประโยชน์ต่อส่วนรวม

 

อนุโมทนาสาธุค่ะ ..แจ่มเลยค่ะอาจารย์

 

การได้ญาณ เป็นของไม่ยาก สำหรับคนเอาจริง เห็นด้วยถ้าทำ เพื่อตัวเอง
แต่ถ้า ทำเพื่อคนอื่น ไปไม่รอดหรอกครับ ดูบั้นปลาย ของหมอดู หรือหมอนวดซิ เดี้ยงเป็นแถว
คนที่ทุกข์ นั่นคือผลกรรม ของเขาเอง ถ้าเราไปช่วยเขา เจ้ากรรมนายเวร เขาย่อมไม่พอใจเรา
ถ้ากำลังบุญเรายังดี ก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าดวงตก นั่นแหละ เขาจะมาเล่นงานเรา หรือเรียกว่า ผีซ้ำด้ามพลอย
ถ้าจะสงค์เคราะห์ สงค์เคราะห์ในด้าน ของธรรมมะดีกว่านะ เป็นธรรมทาน อานิสงค์สูง และไม่เป็นพิษ เป็นภัย ในภายหลัง

ฟังอาจารย์ ก๋ง ท่านว่านะ น่ะถูกของท่านแล้ว​

 

อนุโมทนา ท่านอาจารย์ทั้งสอง อ.ก๋ง และ อ.อริยบุตร พูดถูกแล้ว คือของแท้และแน่นอน สาธุ

 

อนุโมทนากับ อาจารย์ ก๋งค่ะ
เป็นคนปกติธรรมดา มีธรรมนำชีวิต ดีแล้วค่ะ

 

อนุโมทนาด้วยคะ
หนูคิดเหมือนพี่จิดาคะ เพราะเคยมีเพื่อน และคนมาหา ถามเหมือนกันว่าจะทำยังไง ด้วยเหตุผลที่น่าเห้นใจ หนูก็เลยแนะไป แต่ก็มีไม่มีใครเห็นหรือติดต่อวิญญาณได้เลย คงเพราะติดที่ความอยาก
หนูไม่อยากเห็น ไม่อยากยุ่งเรื่องคนอื่น เพราะเรื่องตัวเองก็วุ่นวายมากพอแล้ว ยิ่งวิญญาณ ยิ่งไม่สนใจ จุดประสงค์ของหนู ขอแค่มีสมาธิในการเรียน มีปัญญาก็พอใจแล้ว แต่กลับเห็น และสัมผัสได้ ถึงจะเก็บเงียบแค่ไหน ก็ยังมีคนมาวุ่นวายๆ ให้ช่วย
หนูคิดว่าการช่วยคนมีหลายทางนะคะ แค่มีใจเมตตา ก็เป็นกุศลจิตดีแล้วค่ะ
อนุโมทนากับความคิดจะช่วยคนด้วยนะคะ
สาธุๆ

 

แบบนี้ควรจะต้องมาทางสายหลวงพ่อฤาษีลิงดำ


ลองไปศึกษา มโนมยิทธิ ครับ


http://www.palungjit.org/smati/k40/

 

ขออนุโมทนาด้วยคนครับ ใช้ชีวิตเยี่ยงสามัญชน พอใจในสิ่งที่ตนเองเป็นอยู่ดีที่สุดครับ

 

แต่ก่อนก็คิดเหมือนเจ้าของกระทู้นะครับ
พอมาอ่าน ของ อ.ก๋ง รับรู้ เข้าใจดียิ่งขึ้น
ขอบคุณครับ

 

เห็นด้วยกับเจ้าของกระทู้ คนที่มีจิตใจเสียสละตนเองเพื่อช่วยคนอื่นนั้น มันหายากลงทุกที ขออนุโมทนาในจิตใจที่กว้างขวางของท่าน
-- วิธีทำ คือขอบารมีองค์ครูอาจารย์ที่มีความรู้ความสามารถในด้านนี้ได้เโปรดทราบเจตนาของเราและขออัญเชิญท่านมาร่วมสร้า้งบารมีร่วมกันโดยการประทานญาณรู้ให้บังเกิดแก่เรา (โดยการอธิษฐานจิต จุดธูป 16 ดอกในกลางแจ้งบอกกล่าว)
-- ปฏิบัติเอาเองโดยการนั่งสมาธิให้จิตสงบเพื่อสือกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์
-- ปฏิบัติตามแนวกสิณ เพ่งแสงสว่าง /สีขาวให้เกิดฌาณ

 

การไม่มี บางครั้ง ก็จะสามารถทำให้เรามีความสุขได้ นะครับ
สุขจากการที่ไม่ต้องดิ้นรน แสวงหา

ถ้าเราช่วยหาอาหารให้คนอื่น เราอาจจะต้องหาอาหารให้เขา ตลอด
แต่ถ้าเราช่วยสอนวิธีหาอาหารให้เขาหากินได้ด้วยตัวเอง ต่อไปเขาช่วยเหลือตัวเองได้ จะไม่ต้องพึ่งใครในเรื่องนั้น นะครับ

การช่วยเหลือคนอื่น จริงๆส่วนที่จะช่วยคนอื่นได้อย่างยังยืน ก็คือ ธรรมะ นะครับ
ส่วนญาณ เราอาจใช้เป็นกุศโลบาย ทำให้เขาซึมซับธรรมะได้ง่ายขึ้น นะครับ

ผมลองมาหลายครั้งแล้วนะครับ ถ้าเข้าไปพูดธรรมะเพียวๆ บางคนก็ไม่อยากฟัง ก็ต้องทำให้น่าสนใจซักหน่อย นะครับ
แต่ไม่ควรหลอกล่อจนทั้งเราและเขาหลงทาง นะครับ

ยาขม กับ ยาหวาน
บางท่านไม่ชอบทานยาขม (จริงๆ ธรรมะก็ไม่ได้ขม หรือน่าเบื่อ นะครับ แต่มันไม่ได้มีสิ่งปรุงแต่งที่กิเลสชอบ ก็ดูว่ารสชาติไม่ดี)
ก็ทำให้มีรสชาติ ใส่น้ำตาล ประโยชน์จริงๆ อยู่ที่ตัวยา นะครับ น้ำตาลแค่ทำให้น่าทาน นะครับ


เรื่องญาณ บางครั้งเราไม่อยากได้ ญาณก็มาเอง (^_^) นะครับ
ใช้ธรรมญาณไปก่อน นะครับ

 

อนุโมทนาสาธุค่ะ เห็นด้วยกับ อาจารย์ ทั้งสองท่านเลยค่ะ การมีนั้น นั่นมันก็เป็นบุญกรรมที่เกี่ยวเนื่องมาจากอดีต บางคนเค้าทำมาก่อน ชาตินี้ก็เลยมาทำต่อหรืออาจมีสัญญาเดิมก่อนลงมาเกิด แต่ถ้าบางคนไม่เคยทำมา ให้ปฎิบัติยังไงก็ได้แค่บุญของตน ไม่ใช่ใครปฎิบัติแล้วสามารถ ช่วยคนได้ทุกคนนะคะ บางคนสิ่งที่ได้คือการช่วยตัวเองให้พ้นจากชาตินี้ไปเท่านั้น แต่ไม่สามารถไปช่วยคนอื่นได้

 

โห....แม่เจ้า....เจ้าแม่ไซทองมาตอบเองเลยอ่ะ ไม่ธรรมดา 555555