ทริบรวมพลคนปีขาล ไหว้พระธาตุช่อแฮ

ตอนที่ 6

พอเดินขึ้นบันไดไปถึงยอด ก้าวข้ามธรณีประตูเข้าไปชั้นใน ไปถอดรองเท้าวางไว้ที่ชั้นวางรองเท้า แล้วเข้าประตูไปอีกชั้นนึง พวกเราทั้งสามถึงกับต้องตะลึงเพราะข้างในพระอุโบสถสวยงามตระการตาหาที่ติมิได้และดูเหมือนวันนี้จะยิ่งสวยงามเข้าไปใหญ่เพราะเขาจัดสถาณที่ไว้ทำพิธีสืบชะตาในพระอุโบสถแห่งนี้ สายสิญจ์ห้อยระโยง ระยาง เพื่อให้ีคนที่มาเข้าพิธีได้นั่งกันเป็นจุดๆ แล้วมีตุงเงินแขวนเต็มไปหมดสวยงามตระการตามากเลย

​

พวกเรายืนตะลึงในความงาม แต่เชื่อไหมในพระอุโบสถที่เราเข้าไปยืนตะลึงอยู่นั้นเราไม่เห็นมีใครสักคน ก็เลยงงว่าเมื่อกี้พวกชุดขาวที่เราเห็นเขาขึ้นมาทางนี้แล้วเขาไปไหนกันหมด มองทั่วพระอุโบสถก็ไม่มี แปลกใจ ระคนงงงวย มองหน้ากันไปมา เขาไปไหนกันหมด เรากล้าๆกลัวๆ แต่ดีที่เราเห็นหนังสือสวดมนต์และสิ่งของวางอยู่แต่ไม่เห็นคน เราเดินไปทางด้านหลังพระประธาน ก็เห็นมีประตูทางออกอีกทางนึง ซึ่งพอก้าวออกไปก็คือไปเจอพระธาตุช่อแฮสวยงามอร่ามตา ภาพติดตาติดใจ ยิ่งยามค่ำคืนเปิดไฟ ยิ่งสวย จากจุดนี้คือการเริ่มสั่งสมบุญของพวกเราเดี๋ยวจะมาสรุปบุญให้ฟังทั้งหมดโดยไม่บรรยายอะไรมาก เพราะเดี๋ยวจะเบื่ออ่านกันเสียก่อน อย่าว่าแต่คนอ่านเลย คนเขียนเองก็จะงง อันดับแรกก็ต้องขอพูดถึงประวัติวัดพระธาตุช่อแฺฮพอสังเขป

​

 

ตอนที่ 7 ประวัติพระธาตุช่อแฮ

[FONT=&quot]ประวัติ ความเป็นมาโดยสังเขป

[/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]​

[FONT=&quot] องค์พระธาตุช่อแฮ เป็นปูชนียสถานอันศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่ เมืองของจังหวัดแพร่ ตั้งอยู่เลขที่ ๑ หมู่ ๑๑ ตำบลช่อแฮ อำเภอเมืองแพร่ จังหวัดแพร่ อยู่ห่างจากตัวเมืองประมาณ ๘ กิโลเมตร เป็นหนึ่งในพระธาตุประจำปีเกิดสิบสองราศี เป็นพระธาตุประจำปีเกิดของผู้ที่เกิดปีขาล (ปีเสือ) มีลักษณะเป็นเจดีย์ทรงแปดเหลี่ยม ย่อมุมไม้สิบสองบุด้วยทองดอกบวบ สูง ๓๓ เมตร ฐานสี่เหลี่ยมกว้างด้านละ ๑๑ เมตร ศิลปะแบบเชียงแสน ตามหนังสือตำนานพระเจ้าเลียบโลก กล่าวว่าสมัยครั้งพุทธกาลพระพุทธเจ้าได้เสด็จมา ณ ดอยโกสิยะแห่งนี้ และได้มอบพระเกศาให้กับ ขุนลั๊วะอ้ายก้อมจึงได้นำมาใส่ในท้องสิงห์ทองคำบรรจุไว้ในองค์พระเจดีย์ พระธาตุช่อแฮแห่งนี้ เพื่อไว้เป็นที่เคารพสักการะสืบมา[/FONT][FONT=&quot]<o></o>

[/FONT] [FONT=&quot] ด้านประวัติศาสตร์ สร้างขึ้นในสมัยกรุงสุโขทัย ระหว่างจุลศักราช ๕๘๖-๕๘๘ (พ.ศ.๑๘๗๙-๑๘๘๑) ในสมัยพระมหาธรรมราชา (ลิไท) ได้เสด็จมาบูรณปฏิสังขรณ์พระเจดีย์แห่งนี้ จากนั้นได้จัดงานสักการะ ๗ วัน ๗ คืน จึงได้ชื่อว่า "พระธาตุช่อแฮ" (คำว่า "แฮ" เป็นคำที่เพี้ยนมาจากคำว่า "แพร" แปลว่า ผ้าแพร) และในปีพ.ศ.๒๔๖๗ ครูบาศรีวิชัย ได้มาเป็นประธานบูรณปฏิสังขรณ์อีกครั้งหนึ่ง[/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
[FONT=&quot] กรมศิลปากร ได้ประกาศขึ้นทะเบียนองค์พระเจดีย์พระธาตุช่อแฮ เป็นโบราณสถานในราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ ๕๒ ตอนที่ ๗๕ ลงวันที่ ๘ มีนาคม พ.ศ.๒๔๗๘ และได้ประกาศกำหนดขอบเขตโบราณสถาน เล่มที่ ๙๗ ตอนที่ ๑๕๙ ลงวันที่ ๑๔ ตุลาคม ๒๕๓๒ [/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
[FONT=&quot] สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ได้มีหนังสือรับรองสภาพวัดไว้ว่า วัดพระธาตุช่อแฮ ตั้งวัดเมื่อ พ.ศ.๑๙๐๐ และได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อ พ.ศ.๑๙๑๐ ตามหนังสือ ที่ พ.ศ. ๐๐๐๓/๕๒๖ ลงวันที่ ๒๔ มกราคม ๒๕๔๘[/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
[FONT=&quot] วัดพระธาตุช่อแฮ ได้รับพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ยกวัดราษฎร์ ขึ้นเป็นพระอารามหลวง ชั้นตรี ชนิดสามัญ ตั้งแต่วันที่ ๒๓ มิถุนายน ๒๕๔๙ ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ ๑๒๓ ตอนที่ ๙๖ ง ลงวันที่ ๑๙ กันยายน ๒๕๔๙[/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
[FONT=&quot] จังหวัดแพร่ ได้จัดงานประเพณีนมัสการองค์พระธาตุช่อแฮ โดยยึดถือตามจันทรคติ ในระหว่างวันขึ้น ๙ ค่ำ - ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๔ ใต้ เดือน ๖ เหนือ ของทุกปี โดยใช้ชื่องานว่า "งานประเพณีไหว้พระธาตุช่อแฮ เมืองแพร่แห่ตุงหลวง" ด้วยความสำคัญดังกล่าว จังหวัดแพร่นำองค์พระธาตุช่อแฮ ประดิษฐานบนหลังม้า เป็นตราสัญลักษณ์ของจังหวัด และนำมาเป็นคำขวัญประจำจังหวัดแพร่ ดังนี้ "หม้อ ห้อมไม้สัก ถิ่นรักพระลอ ช่อแฮศรีเมือง ลือเลื่องแพะเมืองผี คนแพร่นี้ใจงาม"[/FONT]


ข้อมูลจากเว็บไซด์วัดพระธาตุช่อแฮ
[FONT=&quot]<o></o>[/FONT]http://www.watphrathatchohae.com/%E0%B9%87History.html

 

สามอัปสร หลงฟ้า มาจากไหน
จากถิ่นไกล พัทยา มาถึ่งนี่
เยือนเมืองแพร่ ช่อแฮธาตุ ปราสาทมี
ได้ยลที่ พระธาตุ ตระการตา

เสือว่าดุ ดุแน่ ถ้าแหย่เสือ
แต่ว่าเสือ สามสาว ไม่ดุหนา
ใครอยากลอง ให้เสือ ขย่ำมา
หัวใจสาว สามซ่า ว่าว่างเอย.....

คริ คริ

๕๕๕๕๕
.................



​

 

น้องนางอัปสร ไม่มีหลวงพ่อหลวงปู่ ที่คอเลยอ่ะ ประมาทจัง ยุคนี้ต้องมีพระในใจ และติดกายด้วย

 

แหม ท่านพระยา
พระสถิตย์อยู่ในใจยังไม่เพียงพอเหรอ....

ถ้าต้องมีติดคอด้วย มีแบ่งปันให้นางอัปสร สักองค์สององค์จักเป็นไรไป หล่ะจ๊ะ.....
อิ อิ

 

เสาร์5 พรุ่งนี้ จะอยู่แถวๆชลบุรี พอเริ่มทำพิธีเวลา 7.30 ก็ให้นึกขอท่านพ่อเอาเลยนะ อยากได้พระอะไร ขอท่านเองเลย อิอิ แล้ว 10 โมง หรือ บ่ายโมง ก็รับยันต์เกราะเพชร
วันเสาร์นี้ท้องฟ้าเมืองชล จะมีเมฆเป็นรูปพญานาค ให้ขอเพชรพญานาคเผื่อด้วยนะ เพราะอาจจะลืมขอ เนื่องจากต้องนึกถึงคนหลายคน เดี๊ยวเผื่อจะลืม ก็จะได้มาขอแบ่งจากน้องๆ อิอิ

 

กระทู้นี้ น่าจะมีหลายตอน .... ติดตามอ่านครับ คุณอุ้ม




.

 

คุณสร้อยกลอนน่ารักจังเลย ขอบคุณมากนะเจ้าค่ะ ภัทรช๊อบชอบ ตอนแรกกะว่าจะไม่เอารูปตัวเองลงสักภาพ เพราะอย่างที่บอกแหละ ใส่ชุดขาวมันแลอืด บวมเหมือนข้าวต้มมัด แถมหน้าตาก็อิดโรยเหนื่อยจากการเดินทาง แต่แม่สร้อยเคยบอกใช่ไหมเจ้าค่ะ ว่ารูปภัทรกับตัวจริงไม่เหมือนเลย ตัวจริงน่ารักกว่าเนาะ ขอแม่สร้อยยืนยันด้วยนะ จะได้กล้าเอาภาพมาลง ไม่งั้นเดี๋ยวจะกลายเป็นว่าอยากจะโชว์ความขี้เหล่

 

ขอบคุณค่ะที่ชม มีบางคำอะไรหร๋อค่ะ ที่อ่านแล้วแอบ ขำ ขำ แล้วทำไมต้องแอบอยกขำก็ขำเลย แบบเปิดเผยหน่อยอะ ก็อุ้มบอกแล้วอุ้มไม่เก่งภาษาไทยเขียนให้อ่านเข้าใจเนี่ยก็ถือว่าโอเคแล้วนะค่ะ คริๆๆ

 

ท่่านเจ้าค่ะ ปกติน้องนางอัปสรก็มีพระติดกายตลอดเวลาแหละจ๊ะ แต่เช้าวันก่อนเดินทางมันรีบร้อนไปหน่อยลืมพระไว้บนหิ้งพระ พอขึ้นรถได้คลำที่คอไม่มีพระก็พูดกับน้องก้อยว่า "พี่ลืมแขวนพระทำไงดี ก้อย" เธอก็บอกว่า "พระอยู่ที่ใจ" แล้วก็บอกว่า "ทุกวันก้อยแขวนหลวงพ่อองค์อื่น แต่วันนี้ก้อยแขวนพระรอด" ภัทรขำกลิ้งเลยแหละ นึกในใจนี่คุณเธอแขวนพระรอดมาเตรียมพร้อมเลยหร๋อ มะเป็นไรงานนี้หากเกิดไรขึ้นไม่มีพระอยู่ที่คอแล้วไม่รอด อย่างน้อยก็ได้ไปสวรรค์สักชั้นนึงแหละ แต่ในใจมีพระตลอด 24 นะ เพราะท่องพุทโธตลอดเวลาเจ้าค่ะ ขอบคุณที่เป็นห่วงอัปสรนะเจ้าค่ะ ท่านพระยา ปกติแขวนพระผงจักรพรรดิ์ของหลวงปู่ดู่ แต่เป็นพิมพ์หลวงปู่ทวด ทุกวันจ๊ะ

 

โห จริงดิ ลืมสนิทไปเลยว่าพรุ่งนี้เสาร์ห้า ลืมนึกถึงพิธีเป่ายันต์เกราะเพชรด้วย แต่คงทำไรไม่ได้หรอกนะเจ้าค่ะท่านพระยา เพราะอัปสรต้องทำงาน จะแหงนหน้าไปมองฟ้ายังไม่ได้เลยเจ้าค่ะ แล้วมีพิธีอะไรเจ้าค่ะที่ชลบุรี ตั้งแต่ปฎิบัติมาไม่เคยขออะไรเลยเจ้าค่ะ ทุกวันนี้ถึงไม่มีอะไรไงเจ้าค่ะ งั้นขอท่านพระยาเลยละกันนะ มีไรดีๆใ้ห้เอามาฝากเค้าเป็นที่ระลึกด้วยนะตะเอง ในฐานะที่เค้าเขียนเรื่องสนุกๆให้เข้ามาได้อ่าน ก็ให้รางวัลตอบแทนเป็นสินน้ำจัยหน่อยจิ จะได้มีแรงเขียนต่อ ตกลงว่าโอเค จะให้ใช่ไหม ขอบคุณล่วงหน้าเจ้าค่ะ ท่านพระยาเจ้าขา

 

ขอบคุณนะค่ะ คุณปอที่เข้ามาอ่าน มีหลายตอนค่ะ อุ้มจะพยายามย่อลงกระชับให้ได้เนื้อๆจะได้ไม่ต้องอารัมภบทมากค่ะ อย่าพึ่งเบื่อกันซะก่อนนะค่ะ

 

ขอนั่งได้ป่าว ถ้ายืนยันเดียวเมื่อย อ้าวไหนๆ ก็ไหนๆ ยืนก็ยืน ยืนยัน ฟันธง คอนเฟริม...จ่ะ

เดี๋ยวคงให้ จุ๊กเขียวของคุณภัทรฯ มาช่วยยืนยันอีกคน..........

^_^

 

ขอเผื่อให้ด้วยจ๊ะ นะ นะ นะ.... เพชรพญานาค อ่ะ....

 

​

เนี่ยะ ก็ตะเองเวลายืนถ่ายรูปนะ ยื่นหันเต็มตัวอย่างนี้ไม่ได้จ๊ะ ต้องให้มุมช่วย ต้องยืนเฉียงๆ จิ แล้วก้าวเท้าไปข้างหน้าครึ่งก้าวนะ ทำมุมนิดหน่อย นั่นแหล่ะ ยืนแบบนางงามเลยหล่ะ คราวหน้าลองดูจิ .... ​

บอกอีกเรื่องไม่รู้โกรธป่าว รูปไม่น่าจะมีวันที่โชว์เลยอ่ะ......​

 

อ๋อจ๊ะ แม่สร้อยขอบคุณสำหรับคำแนะนำนะจ๊ะ คราวหน้าจะรองฝึกยืนใหม่จ๊ะ ไม่โกรธหรอกจ๊ะ จะโกรธทำไม เรื่องไม่เป็นเรื่อง คือกล้องมันเป็นของน้องเขาอะจ๊ะ น้องเขาตั้งวันที่เอง แล้วมีวันที่โชว์มันไม่ดีตรงไหนละจ๊ะ ขอแม่ช่วยแถลงไขหน่อยจิ

 

คือเสียอรรถรสการมองภาพอ่ะจ่ะ.....
เพราะสีและวัตถุในภาพ จะไปด้วยกัน
แต่พอกวาดตามาเจอวันที่ก็จะสะดุดและขัดๆ อ่ะจิ.....

 

...คนแพร่ใจดีไหม๊คะ...ปลอดภัยดีใช่ป่ะ..
ใครอยากเที่ยวแพร่ บอกเราด้วยนะ รวมกลุ่มกันไปหลายคนๆประหยัดหน่อยนึงอ่ะ

 

คนแพร่ใจดีจ๊ะ ก็กลับกันมาอย่างปลอดภัยแต่เสียเวลาไปนานหลายชั่วโมงแค่นั้นเอง เดือนเมษา พฤษภา และกรกฎาคม จะมีรวมพลคนปีขาลครั้งที่ 4-5-6 ที่ยิ่งใหญ่อีกครั้งว่าจะหาโอกาสกลับไปอีกแต่เที่ยวนี้ถ้าไปต้องไปเที่ยวเมืองแพร่ให้ทั่ว เสียดายเที่ยวนี้มีเวลาน้อยมากค่ะ

 

น้องก้อยเขายังพอดูได้นะจ๊ะแม่สร้อยแต่ของภัทรเนี่ยดูอ้วนมากเลย ยิ่งยืนท่าเดียวกันนะดูไม่จืดเลย ภัทรเลยไม่เอารูปภัทรขึ้นเท่าไหร่เจ้าคะ เอาเฉพาะที่มันพอดูได้ไม่น่าเกลียดจนเกินไป เห็นใจคนดูจ๊ะ เดี๋ยวจะมาตำหนิเป็นกรรมเป็นเวงกันป่าวๆอิอิอิอิ แต่เวลาใส่ชุดสีอื่นมันก็ไม่เป็นนะจ๊ะ แต่พอใส่ชุดขาวมันพองไปหมด ใส่กางเกงอลาดินด้วยแหละวันนั้น ยิ่งพองไปกันใหญ่เลย