+++Premium พระเครื่องราคาพิเศษ(ปิดกระทู้ชั่วคราว)

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย dekdelta2, 13 กันยายน 2009.

  1. dekdelta2

    dekdelta2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    5,702
    ค่าพลัง:
    +6,948
    รายการที่ 205 เหรียญหลวงพ่อโปร่ง วัดขุนทิพย์

    หลวงพ่อโปร่ง วัดขุนทิพย์ ท่านเป็นศิษย์หลวงปู่เอี่ยมวัดหนังครับมีอยู่คราวหนึ่งท่านได้รับนิมนต์ไปปลุกเสกพระเครื่องวัดหนึ่งในตัวเมืองอยุธยาเป็นวัดใหญ่มากมีเกจิที่มีชื่อเสียงมาปลุกเสกกันเยอะผู้คนก็ไปกราบเกจิท่านอื่นๆกันและมีหลายคนพูดเชิงดูหมิ่นหลวงพ่อโปร่งหาว่าท่าน"มาร่วมพิธี เป็นพระธรรมดา ไม่มีอะไรพิเศษ"มีแต่ผู้ใหญ่ส่งเพียงคนเดียวที่เอาน้ำชาไปถวายกับน้ำอัดลมเท่านั้นเองมีทหารคุยด้วยคนหนึ่ง ท่านรอเวลาที่จะร่วมพิธีสวดมนต์อีกครั้งหลังเสร็จพิธี
    เมื่อคนพูดดูหมิ่นท่านมากเข้าหลวงพ่อโปร่งท่านก็เอาจีวรใช้กรรไกรตัดทั้งผืนเป็นฝอยๆละเอียดยิบแล้วท่านก็ภาวนาคาถาไม่กี่อึดใจแล้วเป่าพรวดไปที่จีวรที่ตัดนั้นต่อหน้าผู้คนร่วมสองร้อยคนที่ไปวัดนั้นจีวรก็หายไปต่อหน้าต่อตาผู้คนครั้งนั้นท่านได้เงินจำนวนมากไปใช้จ่ายในการสร้างเสนาสนะคนถามกันใหญ่ว่าท่านเป็นศิษย์ของใครกันผู้ใหญ่ส่งบอกว่าท่านเป็นศิษย์ของหลวงปู่เอี่ยม วัดหนัง เท่านั้นเองจากที่ไม่มีใครสนใจตอนที่ท่านขึ้นรถกลับวัดไม่ต้องเดินเลยคนอุ้มท่านขึ้นรถแล้วยังมีคนนั่งรถตามไปด้วย

    คัดลอกจากบทความในนิตยสารพระเครื่องอภินิหาร


    หลวงพ่อโปร่ง เป็นพระศิษย์พี่ของหลวงปู่ดู่ วัดสะแก ซึ่งหลวงปู่ดู่ยกย่องหลวงพ่อโปร่ง ทางด้านท่านเป็นพระแท้ มีพลังจิตสูงมากๆ

    ครั้งพิธีจตุรพิธพรชัยพิธีที่หลวงปู่ดู่คัดเลือกเกจิอาจารย์ด้วยตนเอง ท่านก็นิมนต์หลวงพ่อโปร่งด้วย


    ให้บูชา เหรียญละ 250 บาท
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSC00750.JPG
      DSC00750.JPG
      ขนาดไฟล์:
      185.5 KB
      เปิดดู:
      386
    • DSC00751.JPG
      DSC00751.JPG
      ขนาดไฟล์:
      208.8 KB
      เปิดดู:
      188
  2. สักกะ

    สักกะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    3,405
    ค่าพลัง:
    +12,014
    แหะๆ จะบอกเหมือนกันแต่กระดากใจครับ :cool:

    ไปทำธุระไม่นาน โดนจองไปหมดเลย...
     
  3. dekdelta2

    dekdelta2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    5,702
    ค่าพลัง:
    +6,948
    รายการที่ 206 ปิดตากรุนางชี พิมพ์ต้อ

    รายการนี้เห็นคุณสุภชัยจองแล้วครับ


    เพิ่งลงลูกศิษย์ครั้งนี้ขออาจารย์
    ปลุกเสกระหว่าง หลวงปู่ชู วัดนาคปรก และหลวงปู่เอี่ยม วัดหนัง

    ให้บูชา 1800 บาท
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSC00766.JPG
      DSC00766.JPG
      ขนาดไฟล์:
      87.7 KB
      เปิดดู:
      135
    • DSC00767.JPG
      DSC00767.JPG
      ขนาดไฟล์:
      103.4 KB
      เปิดดู:
      141
  4. dekdelta2

    dekdelta2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    5,702
    ค่าพลัง:
    +6,948
    ผมถามพี่สมาชิกท่านนึงว่า ทำไมถึงอยากบูชากรุนางชีนี้

    เค้าบอกว่า เคยได้ยิน แม่ชีบุญเรือน โตงบุญเติม สั่งว่า ให้ไปหาปิดตาหลวงปู่เอี่ยม มาใช้ซะ ของท่านคุ้มตัวได้จริงๆ

    รู้สึกว่าคนเล่าก็ดูกระทู้อยู่นะครับ
     
  5. dekdelta2

    dekdelta2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    5,702
    ค่าพลัง:
    +6,948
    รายการที่ 207 จระเข้ ทบ หลวงพ่อสนิท วัดลำบัวลอย 2518

    [​IMG]

    [​IMG]
    จระเข้โทน หลวงพ่อสนิท วัดลำบัวลอย รุ่น2 ทบ ปี 2518
    เนื้อตะกั่วปั๊ม ใต้ท้องมียันต์ "อิสวาสุ นะมะพะทะ"
    โดยหลวงพ่อหล่อเองที่วัดมิได้สร้างมาจากที่อื่น เจตนาเพื่อ บูชาคุณอาจารย์เส็ง ที่ได้ประสิทธิ์ประสาทวิชาจระเข้โทนมาให้ และเพื่อแจกทหาร ตำรวจ
    ปกป้องคุ้มครอง แคล้วคลาด ภูตผีปีศาจเกรงกลัว ป้องกันสัตว์เลื้อยคลาน ถอดถอนเสน่ห์ยาแฝดต่างๆ จระเข้โทน จะใส่กระเป้าเสื้อกางเกง ผูกติดเอง คล้องคอ รอดราวผ้า ไต้ถุนไม่ถืออะไรทั้งสิ้นเว้นแต่จะเป็นผู้คิดคดต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ จระเข้ไม่คุ้มครอง จะแพ้ภัยตัวเอง
    ประวัติการสร้างจระเข้โทน "การสร้างเครื่องรางประเภทจระเข้โทนนั้นเกิดขึ้นจากความเชื่อแต่โบราณที่ว่า เมื่อครั้งก่อนพุทธกาลสมัยที่พระพุทธเจ้ายังเป็นพระโพธิสัตวย์เสวยพระชาติ 500 ชาตินั้น มีอยู่ชาติหนึ่งพระองค์เสวยชาติเป็นพญากุมภีร์ เป็นเจ้าแห่งสัตว์น้ำทั้งหลาย มีบริวารเป็นจระเข้อีก 500 ตัว เรียกได้ว่าใคร ๆ ต่างก็เกรงกลัวบารมีของพญากุมภีร์เป็นอันมาก จากความเชื่อนี้ทำให้ครูบาอาจารย์ผู้ทรงวิทยาคุณทั้งหลายจึงนิยมสร้างจระเข้ โทนเป็นเครื่องรางให้ลูกศิษย์ลูกหาได้นำไปบูชาติดตัวกัน เพื่อปกป้องคุ้มครองตนและปกป้องเรื่องอุบัติเหตุต่าง ๆ ให้บังเกิดเป็นแคล้วคลาด ในจำนวนครูบาอาจารย์ที่สร้างจระเข้โทนได้มีชื่อเสียงและมีประสบการณ์สูงนั้น ต้องยกให้พระครูเวทย์วินิฐหรือลพ.สนิท วัดลำบัวลอย เป็นหนึ่งในนั้น โดยการสร้างจระเข้โทนนั้นท่านศึกษาเล่าเรียนมาจากหลวงลุงเส็ง มีศักดิ์เป็นลุงจริง ๆ ของท่าน ตัวหลวงลุงเส็งนี้ได้ศึกษาวิชามาจากที่ใดไม่ได้กล่าวถึง (เข้าใจว่ามาจากทางเขมร) แต่ท่านพยายามคะยั้นคะยอให้ลพ.สนิทตั้งใจเรียนวิชานี้จากท่าน เพราะท่านทราบว่าต่อไปลพ.สนิท จะต้องเป็นผู้รับมรดกชิ้นนี้จากท่านไป ซึ่งหลังจากหลวงลุงเส็งถ่ายทอดวิชานี้ให้ลพ.สนิทได้ไม่นาน ท่านก็ลาสิกขาไปครองเรือน และถึงแก่กรรมในกาลต่อมาเรื่องความศักดิ์สิทธิ์ของจระเข้โทนของหลวงลุงเส็งนั้น ครั้งหนึ่งลพ.สนิทท่านเคยเล่าให้ฟังว่า สมัยแรก ๆ ท่านไม่เคยเชื่อเรื่องนี้มาก่อน หลวงลุงเส็งจึงพาท่านไปที่ริมแม่น้ำแห่งหนึ่ง และหยิบจระเข้ออกจากย่าม 4 ตัวเป็นเนื้อไม้ทองหลาง 2 ตัว เนื้อหินแกะ 1 ตัว และเนื้อไม้คูณอีก 1 ตัว จากนั้นก็บริกรรมคาถาสักพักแล้วโยนลงแม่น้ำทั้ง 4 ตัว สักพักเห็นจระเข้เป็น ๆ ตัวใหญ่มาก 4 ตัวลอยขี้นมาบนผิวน้ำ น่าเกรงขามมาก เพราะทุกตัวขยับเขยื้อนมีชีวิตจริง ๆ สักพักหลวงลุงเส็งท่านก็เอามีอตบไปที่น้ำริมตลิ่งเบา ๆ สักพัก จระเข้เหล่านั้นก็คลานมาใกล้ ๆ แล้วก็กลับร่างเป็นจระเข้โทนจิ๋ว แต่คราวนั้นที่ว่ายกลับเข้ามาจริง ๆ มีเพียง 3 ตัวหายไป 1 ตัว มองไปมองมาก็หาไม่เจอ เลยเป็นอันว่าหายไป 1 ตัวจากนั้นมา ด้วยอาคมนี้ลพ.สนิทท่านบอกว่าจระเข้จะมีชีวิตอยู่ได้เพียง 7 วันและจะกลับเป็นร่างเดิมครับ


    การสร้างจรเข้โทนครั้งนี้ จัดว่าสร้างเป็นกรณีพิเศษ รุ่นไตรมาส เพราะอธิฐานจิตในพรรษา 3 เดือนไตรมาส สร้างด้วยเนื้อชินตะกั่ว ประกอบการหล่อหลอมขึ้นมาเอง มิได้สร้างจากที่อื่น จรเข้โทนรุ่นนี้จัดว่ามีความศักดิ์สิทธิ์เหนือกว่ารุ่นแรก ผู้ใดได้สักการะบูชาก็จะประสบผลดังนี้

    1 ปกป้องคุ้มครอง แคล้วคลาด ภัยอันตรายต่างๆ

    2 คุ้มครองป้องกัน ภูตผีปิศาจเกรงกลัว

    3 ไปทางบก ทางน้ำ ป้องกันสัตว์เลื้อยคลาน

    4 เป็นมหาอำนาจ ศัตรูเกรงขาม

    5 ป้องกันเสนียดจังไร ถอดถอนเสน่ห์ ยาแฝดต่างๆ

    พิธีการที่จะให้จรเข้โทนคุ้มครองป้องกัน จำเป็นที่สุด ก่อนเราจะออกไปไหนมาไหน ต้องปลุกด้วยคาถาย่อๆ คือ

    " อิสวาสุ " ภาวนา 3 คาบ 7 คาบ
    คำว่าคาบหนึ่งนั้นได้แก่อึดใจหนึ่ง ถ้าปรากฏว่าขนหัว ขนตัวลุก ซู่ซ่าทุกครั้งไป ผู้นั้นไม่ตายด้วยคมหอก คมดาบ และอาวุธใดๆ ทั้งสิ้น

    ประวัติหลวงปู่สนิท
    นามเดิมของท่านคือ สนิท นามสกุล มีพงษ์ เกิดเมื่อวันที่ 28 เมษายน 2468 ณ บ้านบางกุ้ง ต.บางกุ้ง อ.ศรีมหาโพธิ์ จ.ปราจีนบุรี ท่านอุปสมบทเมื่ออายุ 23 ปี ได้รับฉายาว่า “ยะสินธโร”

    หลวงปู่สนิทเป็นพระอริยสงฆ์ที่รักสันโดษปกติก่อนสังขารจะร่วงโรยท่านจะออกธุดงค์เป็นประจำทุกปี ท่านไม่สะสมสิ่งของ วัตถุ หรือทรัพย์สินต่างๆ มีเมตตาสูง ไม่เคยแยกแยะว่าผู้มาหาจะยากดีมีจนอย่างไร ท่านปฏิบัติต่อทุกคนเท่าเทียมกันหมด ท่านมีความเชี่ยวชาญในศาสตร์หลายแขนง ในอดีตท่านรักษาผู้ป่วยที่มาพึ่งบารมีทั้งที่ป่วยจากโรคภัยไข้เจ็บและที่ป่วยจากการโดนคุณไสยต่างๆ ท่านที่เคยไปกราบหรือพึ่งบารมีหลวงปู่จะสามารถสัมผัสจิตอัศจรรย์ของหลวงปู่ได้ด้วยตนเอง ดังเช่นการรู้ล่วงหน้าว่า จะมีใครมาหา มากี่คน มาหาด้วยเรื่องอะไร เป็นต้น นอกจากนี้หลวงปู่ยังรักษาสัจจะวาจาเท่าชีวิตดังนั้นคำพูดทุกคำที่ออกจากปากท่านจึงเป็นจริงดังวาจาสิทธิ์ของพระร่วง ท่านพูดอะไรให้ฟังแล้วสิ่งนั้นจะปรากฏเป็นจริงเสมอ หลวงปู่สนิท มรณภาพเมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2542 สิริอายุรวม 74 ปี 51 พรรษา สรีระศพของท่านแต่เดิมเก็บรักษาในโลงแก้ว เนื่องเพราะสรีระของท่านไม่เน่าเปื่อย และเส้นเกศาที่เคยปลงเก็บไว้ก็แปรสภาพเป็นพระธาตุอย่างน่าอัศจรรย์ ที่น่าเสียดายคือในปัจจุบันสรีระของหลวงปู่ได้มีการพระราชทานเพลิงศพไปแล้ว



    พระธาตุปาฏิหาริย์

    ในบรรดาเครื่องรางที่หลวงปู่จัดสร้าง ซึ่งมีทั้ง จระเข้ พญาเต่าเรือน นกสาริกา สะดือหนุมาน และ ฯลฯ ต่างมีอภินิหาร เป็นที่ประจักษ์มากมาย แต่ในที่นี้ผมจะขอเล่าสิ่งที่ได้ประสบมากับตัวเองและพวกพ้องคือเรื่องของพญาเต่าเรือน พญาเต่าเรือนของหลวงปู่สนิท จะแตกต่างจากของที่อื่น กล่าวคือท่านใช้หินแกะเป็นพญาเต่า ซึ่งท่านได้สร้างมาเรื่อยๆ มีหลายขนาดตั้งแต่ขนาดห้อยคอจนกระทั่งถึงขนาด3-4 คนยก รุ่นที่ไม่ใช่หินแกะจะมีพญาเต่าเรือนกริ่งขนาดห้อยคอ และพญาเต่าเรือนขนาดบูชารุ่นสุดท้ายที่สร้างจากเนื้อโลหะ

    พญาเต่าเรือนนี้หลวงปู่จะสร้างอย่างพิถีพิถัน ตามตำนานโบราณ สมัยพระโพธิสัตว์เสวยพระชาติเป็นพญาเต่าเรือน ปลุกเศกกระทั่งมีชีวิตจริงจึงถือว่าเสร็จพิธี ด้วยพลังจิตอันเข้มแข็งที่อัญเชิญพระพุทธบารมีลงมาประดิษฐานในพญาเต่าเรือน ทำให้เกิดอัศจรรย์แก่ศรัทธาญาติโยมที่นำไปบูชาเป็นอันมาก เช่นการทำมาค้าขายมีสภาพคล่อง มีลูกค้าและยอดขายเพิ่มมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และปาฏิหาริย์ที่ข้าพเจ้าและอีกหลายๆ คนได้ประจักษ์และเกิดปิติก็คือ การมีพระธาตุเสด็จมาเกาะที่กระดองพญาเต่าเรือน และการที่พญาเต่าเรือนหันเปลี่ยนทิศทางได้เองเป็นประจำ ในเรื่องของพระธาตุปาฏิหาริย์นอกจากจะเกิดที่พญาเต่าเรือนแล้ว ยังเกิดกับวัตถุมงคลที่ท่านสร้างอย่างอื่นๆ ด้วย เช่นที่ จระเข้จันทร์เพ็ญ และพระบูชาปางเปิดโลก เป็นต้น


    ..........................................................................................................................


    หลวงพ่อสนิทสามารถอธิษฐานแล้วมีพระธาตุเสด็จมาที่จระเข้ได้ ประสบการณ์เยอะครับ อันนี้รุ่น ทบ ถือเป็น รุ่น 2 หรือ ร่น 3 (เพราะรุ่นแรกเกี่ยงกันว่าจะนับมีปีกหรือหางตันรวมหรือแยกครับ)

    บล็อกนี้เป็นขาติดหาง นิยมครับ
    ให้บูชา 800 บาท

     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSC00748.JPG
      DSC00748.JPG
      ขนาดไฟล์:
      155.3 KB
      เปิดดู:
      127
    • DSC00749.JPG
      DSC00749.JPG
      ขนาดไฟล์:
      157.5 KB
      เปิดดู:
      131
  6. dekdelta2

    dekdelta2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    5,702
    ค่าพลัง:
    +6,948
    รายการที่ 208 หลวงปู่ทวด วัดม่วง เนื้อว่าน ปี 2505

    ในวาระปี 2505 นั้น ทางวัดม่วงมีโครงการหล่อรูปหล่อบูชาขนาดใหญ่ของหลวงปู่ทวด พร้อมกับสร้างศาลาประดิษฐาน พร้อมกันนั้นยังมีโครงการสร้างศาลาการเปรียญ อีกทั้งสร้างสะพานเพื่อให้ผู้คนสัญจรที่ผ่านเข้าออกทางวัด กับช่วยเหลือการศึกษาท้องที่ในอำเภอหนองแขม งานครั้งนั้นมีข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ของอำเภอหนองแขม และพ่อค้าประชาชนในท้องที่เข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก ในงานพิธีมีพระเครื่อง วัตถุมงคลของหลวงปู่ทวดแจกแก่ผู้ร่วมทำบุญ วัตถุมงคลเหล่านี้มีพระอาจารย์ทรงวิทยาคุณเข็มขลังอาคมในสมัยนั้น จำนวน 9 รูป ได้ร่วมกันปลุกเศก ฤกษ์ปลุกเศกคือ วันที่ 18-19 และ 20 ธันวาคม
    พ.ศ.2505 หลวงปู่ทิม วัดช้างให้ได้มาเป็นประธานพร้อมนำผงว่านที่เหลือจากการสร้างหลวงปู่ทวดป 97 มาผสม และพระอาจารย์ที่ยิ่งใหญ่เกรียงไกรสุดยอดของเมืองไทยขณะนั้นร่วมปลุกเศกถึง 9 องค์ คือ
    ( 1 ) หลวงพ่อเขียน ธัมมรักขิโต ขณะนั้นอายุ 101 ปี วัดสำนักขุณเณร อ.บางมูลนาก จ.พิจิตร
    ( 2 ) หลวงพ่อทบ ขณะนั้นอายุ 81 ปี มีสมณศักดิ์ที่ พระครูวิชิตพัชราจารย์ วัดพระพุทธบาทเขาน้อย อ.ชนแดน จ.เพชรบูรณ์
    ( 3 ) หลวงพ่อจง ขณะนั้นอายุ 86 ปี วัดหน้าต่างนอก อ.บางไทร จ.อยุธยา
    ( 4 ) หลวงพ่อนอ ( พระครูประสาธน์วิทยาคม ) วัดกลาง อ.ท่าเรือ จ.อยุธยา
    ( 5 ) หลวงพ่อนา ( พระครูธรรมธรนาศรีจันทร์ ) วัดจางวางพ่วง จ.พระนครฯ
    ( 6 ) หลวงปู่นาค ( พระเทพสิทธินายก ) วัดระฆัง จ.ธนบุรี
    ( 7 ) หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม จ.นครปฐม
    ( 8 ) หลวงพ่อเต๋ วัดสามง่าม อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม
    ( 9 ) หลวงพ่อสำเนียง อยู่สถาพร ( พระครูสถาพรพุทธมนต์ ) วัดเวฬุวัน อ.บางเลน จ.นครปฐม

    วัตถุมงคลที่ปลุกเศกในครั้งนั้นก็มี หลวงปู่ทวดเนื้อผงเข้าว่าน เหรียญใบเสมาหลวงทวด เหรียญหล่อ(เตารีด)หลวงปู่ทวด อื่นๆ ฯลฯ


    ให้บูชา 600 บาท หลวงปู่ทวดสำนักนี้คือ ของดีราคาเบาครับ

     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSC00759.JPG
      DSC00759.JPG
      ขนาดไฟล์:
      142.5 KB
      เปิดดู:
      117
    • DSC00760.JPG
      DSC00760.JPG
      ขนาดไฟล์:
      166 KB
      เปิดดู:
      112
    • DSC00761.JPG
      DSC00761.JPG
      ขนาดไฟล์:
      147.8 KB
      เปิดดู:
      108
  7. supachaipnu

    supachaipnu ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    2,370
    ค่าพลัง:
    +7,301
    รายการที่ 205 เหรียญหลวงพ่อโปร่ง วัดขุนทิพย์+รายการที่ 206 ปิดตากรุนางชี พิมพ์ต้อ+<!-- google_ad_section_end -->รายการที่ 207 จระเข้ ทบ หลวงพ่อสนิท วัดลำบัวลอย 2518
    จองครับ<!-- google_ad_section_end -->
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 กุมภาพันธ์ 2010
  8. สักกะ

    สักกะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    3,405
    ค่าพลัง:
    +12,014
    จองๆๆๆ จ้า

    แหม เห็นครูบาอาจารย์ที่เสกแล้ว รีบจองทันที กลัวพลาด แจ่มมั๊กๆ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 กุมภาพันธ์ 2010
  9. noppornl

    noppornl เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    1,607
    ค่าพลัง:
    +8,008
    มาไม่ทัน...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 กุมภาพันธ์ 2010
  10. dekdelta2

    dekdelta2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    5,702
    ค่าพลัง:
    +6,948
    รายการที่ 209 ใครยังไม่มี บ้านกร่าง ขอให้ยกมือขึ้น

    <TABLE class=contentpaneopen><TBODY><TR><TD class=contentheading width="100%">พระขุนแผน กรุวัดบ้านกร่าง สุพรรณบุรี </TD><TD class=buttonheading align=right width="100%">[​IMG] </TD><TD class=buttonheading align=right width="100%">[​IMG] </TD><TD class=buttonheading align=right width="100%">[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE class=contentpaneopen><TBODY><TR><TD vAlign=top>พระขุนแผน กรุวัดบ้านกร่าง สุพรรณบุรี
    ในบรรดาพระเครื่องชั้นนำของเมือง สุพรรณบุรี มักมีชื่อของ “พระขุนแผน” รวมอยู่ในพระกรุยอดนิยมต่างๆ จำนวนมาก หนึ่งในจำนวนนั้น คือ พระขุนแผน กรุบ้านกร่าง เมืองสุพรรณบุรี ซึ่งเป็นพระกรุโบราณ มีอายุการสร้าง มาหลายร้อยปี กล่าวกันว่าความงดงามของพุทธศิลปะ นั้นโดดเด่นยิ่งนัก ส่วนพุทธคุณนั้น ก็เลิศล้ำเกินคำบรรยาย ทั้งเมตตา มหานิยม มหาเสน่ห์ ตลอดจน คงกระพันชาตรี ยากที่จะหาพระพิมพ์ใดเสมอเหมือน จัดเป็นพระยอดนิยมชั้นแนวหน้าของวงการ มานาน
    พระกรุวัดบ้านกร่าง พระดี พระดังแห่งเมืองสุพรรณบุรี
    วัดบ้านกร่าง อันเป็นแหล่งกำเนิด “พระขุนแผน กรุบ้านกร่าง” อัน เลื่องชื่อนี้ ตั้งอยู่ที่ ตำบล ศรีประจันต์ จังหวัด สุพรรณบุรี อยู่ทางฝั่งตะวันออกของแม่น้ำท่าจีน หรือ แม่น้ำสุพรรณบุรี ตรงข้ามกับที่ว่าการอำเภอศรีประจันต์ วัดนี้เป็นวัดโบราณ ที่สร้างมาตั้งแต่ครั้งสมัยกรุงศรีอยุธยา พระเครื่อง กรุวัดบ้านกร่าง แตกกรุจากเจดีย์หลังพระวิหารเก่าในบริเวณ วัดบ้านกร่าง เมื่อราว พ.ศ. 2447 มีเรื่องเล่ากันว่า ตอนที่พระแตกกรุออกมาใหม่ๆ พวกพระสงฆ์และชาวบ้าน ได้นำพระทั้งหมด มากมายหลายพิมพ์ มาวางไว้ใต้ต้นโพธิ์ใหญ่ใกล้วิหาร เด็กวัดในสมัยนั้นได้นำ พระที่วางไว้มาเล่นร่อนแข่งขันกันในลำน้ำสุพรรณบุรี เป็นที่สนุกสนาน เนื่องจากว่า ในสมัยนั้น พระวัดบ้านกร่าง ยังไม่มีมูลค่า และ ความนิยมมากมายเหมือนดังเช่นปัจจุบัน
    ที่มาแห่งชื่อ “พระขุนแผน”
    ชื่อ ”พระขุนแผน” ทั้งของเมืองสุพรรณ หรือ ขุนแผน เมืองไหนก็ตาม เป็นการเรียกชื่อ พระของคนสมัยหลัง เพราะคนโบราณ สร้างพระพิมพ์ ไม่เคยพบหลักฐาน ว่ามีการตั้งชื่อพระเอาไว้ด้วย มีแต่คนรุ่นหลังที่ไปขุดพบพระพิมพ์เป็นผู้ตั้งชื่อให้ทั้งสิ้น พระกรุวัดบ้านกร่าง ก็เช่นเดียวกัน เมื่อแตกกรุใหม่ๆ ก็ไม่มีชื่อ คนสุพรรณบุรี ยุคนั้นเรียกกันเพียงว่า “พระวัดบ้านกร่าง” คือถ้าเป็นพระองค์เดียวก็เรียก “พระบ้านกร่างเดี่ยว” ถ้าเป็นพระ 2 องค์คู่ติดกันก็เรียก “พระบ้านกร่างคู่” ต่อมาจึงมีการตั้งชื่อให้เป็น พระขุนแผน บ้าง พระพลายเดี่ยว บ้าง พระพลายคู่ บ้าง ที่มาของชื่อ พระพิมพ์ ขุนแผน เหล่านี้ เชื่อว่าคนตั้งชื่อคงต้องการให้คล้องจองกลมกลืน กับตัวละครในวรรณคดีเรื่อง ขุนช้าง-ขุนแผน ที่โด่งดัง อันมีถิ่นกำเนิดในย่านสุพรรณบุรี คำว่า พระบ้านกร่าง จึงค่อยๆ เลือนหายไป หรืออีกนัยหนึ่ง ชื่อของ พระขุนแผน อาจได้มาจากการที่มีผู้บูชากราบไหว้ หรือ อาราธนานำติดตัวไปไว้ป้องกันอุบัติภัย ต่างๆ แล้วได้ประจักษ์ ความศักดิ์สิทธิ์ ในอำนาจพุทธคุณ ที่มี่คุณวิเศษ เหมือน ขุนแผนในวรรณคดี โดยเฉพาะ ด้านเสน่ห์ เมตตามหานิยม อาจด้วยเหตุนี้ จึงเรียกขื่อว่า พระขุนแผนสืบมา
    การจำแนกพิมพ์ทรงพระกรุวัดบ้านกร่าง
    พระกรุวัดบ้านกร่าง เข้าใจว่ามีจำนวนถึง 84,000 องค์ตามคติการสร้าง พระพิมพ์ในสมัยโบราณ เมื่อพระแตกกรุขึ้นมาก็ได้มีผู้แยกแบบ แยกพิมพ์ต่างๆ ตามความแตกต่างของพุทธลักษณะ ซึ่งมีจำนวนกว่า 30 พิมพ์ขึ้นไป บางแบบ ก็เรียกว่า “พระขุนแผน” ซึ่งมีพิมพ์ยอดนิยม เช่น พิมพ์ห้าเหลี่ยมอกใหญ่ พิมพ์ห้าเหลี่ยมอกเล็ก พิมพ์ทรงพลใหญ่ พิมพ์ทรงพลเล็ก พิมพ์พระประธาน พิมพ์เถาวัลย์เลื้อย พิมพ์แขนอ่อน ฯลฯ บางแบบก็เรียกว่า “พระพลาย” อันหมายถึงลูกของขุนแผน ซึ่งมีทั้งที่พิมพ์เป็นคู่ติดกัน เรียกว่า “พระพลายคู่” และองค์เดี่ยวๆ เรียกว่า “พระพลายเดี่ยว” ซึ่งแต่ละพิมพ์ก็ยังแบ่งแยกออกไปอีกเป็นสิบๆ พิมพ์ เช่น พลายคู่หน้ายักษ์ หน้ามงคล หน้าฤาษี หน้าเทวดา พลายเดี่ยวพิมพ์ชะลูด พิมพ์ก้างปลา ฯลฯ
    การที่คนรุ่นเก่า เลือกที่จะตั้งชื่อ พระพิมพ์นั้นว่า ขุนแผน พิมพ์นี้เรียกพลาย คนรุ่นใหม่ คงไม่ทราบหลักเกณฑ์ หรือ ที่มาชัด ซึ่งคงเดาใจว่า คนที่ตั้งชื่อ ขุนแผน คงจะดูรูปร่างศิลปะในองค์พระ ถ้าพระองค์ ใดมีรูปแบบศิลปะสวยงามสะดุดตา ก็เรียกว่า พระขุนแผน ไว้ก่อนส่วนพระพิมพ์ใดหย่อนคุณค่าทางด้านศิลปะความงาม ความอ่อนช้อยก็ตั้งชื่อเรียกว่า พระพลาย เพื่อให้แตกต่างกันไป…
    อายุการสร้างของ พระขุนแผน กรุวัดบ้านกร่าง
    พระขุนแผน กรุวัดบ้านกร่าง สุพรรณบุรี เมื่อพิจารณาจากศิลปะแล้ว บอกให้รู้ว่าเป็น พระในสมัยอยุธยาตอนกลาง โดยมีศิลปะที่อ่อนช้อยสวยงาม เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง ที่สำคัญที่สุด คือ ในจำนวนพระขุนแผน กรุวัดบ้านกร่างนี้ มีอยู่พิมพ์หนึ่งนั่นคือ “พระขุนแผน พิมพ์ห้าเหลี่ยมอกใหญ่” มีลักษณะและศิลปะเหมือนกับ “พระขุนแผนเคลือบ” ที่แตกกรุออกมาจากเจดีย์ วัดใหญ่ชัยมงคล พระนครศรีอยุธยา ซึ่งเจดีย์องค์นี้มีบันทึกไว้ในพงศาวดาร ว่า สมเด็จพระนเรศวรมหาราช โปรดให้สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2135 ตามคำทูลแนะนำของสมเด็จพระวันรัตน์ วัดป่าแก้ว เพื่อเฉลิมพระเกียรติ แห่งชัยชนะในการทำยุทธหัตถีกับพระมหาอุปราชา แห่งพม่า พระเจดีย์องค์นี้ชื่อว่า “พระเจดีย์ชัยมงคล” แต่ชาวบ้านเรียกว่า “พระเจดีย์ใหญ่” เพราะเป็นเจดีย์ ที่ใหญ่ที่สุดในอยุธยา ซึ่งตามประเพณีมาแต่โบราณว่า เมื่อสร้างพระเจดีย์แล้ว จะสร้างพระพิมพ์บรรจุไว้ด้วย
    เพื่อสืบทอดพระพุทธศาสนา ถือกันว่าได้กุศลแรง พระขุนแผนเคลือบคงสร้าง เพื่อบรรจุไว้ในเจดีย์ วัดใหญ่ชัยมงคลในครั้งนั้น
    ความคล้ายคลึงกันของพุทธศิลป์ ของ พระขุนแผน เคลือบกรุวัดใหญ่ชัยมงคล กับ พระขุนแผน กรุวัดบ้านกร่าง สุพรรณบุรี โดยเฉพาะพิมพ์ห้าเหลี่ยมอกใหญ่นี้ เมื่อนำพระทั้งสองมาเปรียบเทียบกัน จะเห็นความแตกต่างกันน้อยมาก โดยเฉพาะเส้นสายและลวดลายการแกะของแม่พิมพ์ ทำให้น่าเชื่อว่า ช่างที่แกะสมัยนั้น คงเป็นคน คนเดียวกัน หรือ สกุลช่างศิลปะในสำนักเดียวกัน อายุการสร้างอาจไม่แตกต่างกันมากนัก หรืออาจแกะในคราวเดียวกัน และพิมพ์ในคราวเดียวกัน แต่ได้มีการแยกบรรจุเจดีย์ ต่างกัน ดังนั้น จึงพอที่จะสันนิษฐานได้ว่า พระขุนแผน กรุวัดบ้านกร่าง คงมีอายุอยู่ในราวรัชกาล สมเด็จพระนเรศวรมหาราช หรือ ประมาณ 400 ปีล่วงมาแล้ว
    ลักษณะธรรมชาติ พระกรุวัดบ้านกร่าง
    พระกรุวัดบ้านกร่าง โดยทั่วไปไม่ว่า จะเป็น พิมพ์พระขุนแผน พระพลายเดี่ยว พระพลายคู่ นั้นเป็นพระเนื้อเดียวกัน คือ เนื้อดินเผาผสมว่านและเกสรดอกไม้ นานาชนิด ไม่ปรากฏว่ามีเนื้อประเภทอื่น ลักษณะเนื้อพระ มีทั้งชนิด เนื้อละเอียด และ เนื้อหยาบ แต่ส่วนใหญ่จะเป็นประเภทเนื้อหยาบที่มีส่วนผสมของกรวดทรายมาก มีทั้งแดง สีพิกุล สีเขียว และสีดำ ตามความอ่อนแก่ของความร้อนในขณะเผาไฟ แต่ไม่ว่าจะเป็นเนื้อหยาบหรือละเอียด สิ่งที่ขาดไม่ได้ คือ ต้องมี ว่านดอกมะขาม มี แร่ทรายเงิน แร่ทรายทอง และ “รอยว่านหลุด” อยู่ด้วยทุกองค์ รอยว่านหลุด ดังกล่าว เป็นร่องเล็กๆ สัณฐานไม่แน่นอน เป็นรูปแท่งสี่เหลี่ยม บ้าง สามเหลี่ยม บ้าง และเป็น ร่องลึก ร่องตื้น ก็ได้ รอยว่านหลุด นี้ ถือเป็นเอกลักษณะของเนื้อพระกรุวัดบ้านกร่างที่จะขาดเสียมิได้ในการพิจารณา
    นอกจากนี้ พระกรุวัดบ้านกร่าง ยังเป็นพระกรุที่ผิวสะอาด เนื่องจาก กรุพระมีสภาพดี ไม่จมดินหรือถูกน้ำท่วมขัง ดังนั้น จึงไม่มีคราบขี้กรุเกาะติดหนาให้เห็น จะมีเพียงแต่ฝ้ากรุบางๆ ฉาบติดอยู่ แต่ถ้าผ่านการใช้หรือการสัมผัสก็จะเหลือผิวฝ้ากรุตามซอกองค์พระ เท่านั้น พระกรุวัดบ้านกร่าง เป็นพระที่มีชื่อเสียงโด่งดัง ไม่ว่าจะเป็น พระขุนแผน พระพลายเดี่ยว พระพลายคู่ ล้วนแต่เป็นพระกรุที่มีอายุหลายร้อยปี และมี พุทธคุณสูงส่ง ทางด้าน เมตตา มหานิยม มหาเสน่ห์ แคล้วคลาด และ คงกระพันชาตรี เป็นเลิศ จึงเป็นที่นิยมเสาะหากันมานานแล้ว แม้ปัจจุบันความนิยมก็ไม่ได้ลดลงน้อยลงไปเลย……..
    </TD></TR></TBODY></TABLE>


    ขอบคุณที่มา

    พระขุนแผน กรุวัดบ้านกร่าง สุพรรณบุรี

    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]

    [​IMG]
    [​IMG]

    ....................................................................................


    ขอบคุณเจ้าของรูปนะครับ
    copy องค์สวยๆให้ดู พระองค์นี้ถือเป็นพระองค์ครู คือ ถึงมีหน้ากระเทาะออกมาแต่ไม่ถึงกับหัก เหมาะกับการศึกษาเนื้อพระ องค์นี้เป็นพรายเดี่ยวด้วย ศักดิ์ศรีและราคามากกว่าพรายคู่ตัดเดี่ยวเยอะ พระบ้านกร่างต้องมีเนื้อหยาบครับ

    ให้บูชา 3500 บาท ถ้าสภาพสมบูรณ์ก็เติมศูนย์อีกตัวนึง
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSC00775.JPG
      DSC00775.JPG
      ขนาดไฟล์:
      387 KB
      เปิดดู:
      230
    • DSC00774.JPG
      DSC00774.JPG
      ขนาดไฟล์:
      465.3 KB
      เปิดดู:
      164
    • DSC00769.JPG
      DSC00769.JPG
      ขนาดไฟล์:
      96.3 KB
      เปิดดู:
      159
    • DSC00770.JPG
      DSC00770.JPG
      ขนาดไฟล์:
      96.6 KB
      เปิดดู:
      164
    • DSC00773.JPG
      DSC00773.JPG
      ขนาดไฟล์:
      118.2 KB
      เปิดดู:
      188
  11. สักกะ

    สักกะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    3,405
    ค่าพลัง:
    +12,014
    ยังไม่มีขุนแผนบ้างกร่างเลย แต่ราคาระดับนี้ คงต้องขอบาย...

    ตกลงมีดหมอลป.บุญมี วัดเขาสมอคอนมีอีกเล่มไหมครับ เอาภาพไปให้น้องๆเขาดูแล้วเขาสนใจ...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 กุมภาพันธ์ 2010
  12. dekdelta2

    dekdelta2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    5,702
    ค่าพลัง:
    +6,948
    รายการที่ 210 เหรียญพระพุทธ สมเด็จพุฒาจารย์ (นวม) วัดอนงค์ ปี2497

    สมเด็จพระพุฒาจารย์ (นวม) วัดอนงคาราม กรุงเทพฯ

    [​IMG]

    ข้อมูลประวัติ
    เกิด ปี 2407
    มรณภาพ วันที่ 28 กันยายน 2499

    วัตถุมงคลที่ได้รับความนิยม
    วัตถุมงคลของท่านได้แก่ พระนาคปรก พระประจำวัน และเหรียญ
    เหรียญรุ่นแรก สร้างปี 2472 ครั้งดำรงสมณศักดิ์ที่ พระโพธิวงศาจารย์ โดยสมาคมศิษย์อนงคาราม สร้างถวาย
    เหรียญนางฟ้าโปรยดอกไม้ สร้างปี 2486 เป็นเหรียญเนื้อเงิน มีทั้งประเภทหลังธรรมดา และหลังเข็มกลัด ด้านหน้ามีทั้งประเภทกะไหล่ทอง และลงยา มี 2 สีด้วยกัน คือ สีฟ้า และสีแดงเลือดหมู
    เหรียญพระพุทธบาท ปี 2495 เมื่อปั๊มแล้วจึงนำมาฉลุ มีทั้งเนื้อเงินลงยา เนื้อเงิน และเนื้อทองแดง
    เหรียญรูปไข่ รูปเหมือนหน้าตรงครึ่งองค์ ด้านล่างใต้รูปเหมือนระบุสมณศักดิ์ที่สมเด็จพระพุฒาจารย์ (นวม) ด้านหลังเหรียญเป็นยันต์ ระบุ พ.ศ.2497 และ 2500 เป็น 2 บล็อก ๆ แรก พ.ศ.2497 ทันท่านปลุกเสก ส่วนบล็อคหลัง ระบุ พ.ศ. 2500 เป็นเหรียญแจกในงานพระราชทานเพลิงศพ
    รุ่นสุดท้ายเป็นพระพุทธชินราชเนื้อผง ซึ่งมีทั้งรุ่นที่ท่านปลุกเสก และไม่ได้ปลุกเสก
    พุทธคุณที่เล่าสืบทอดกันมา
    พุทธคุณในเหรียญรุ่นนี้เด่นทาง เมตตามหานิยม

    อ้างอิง


    ท่านเก่งเรื่องวิชาเล่นปร่แปรธาตุ โดยเฉพาะปิดตาเนื้อเมฆสิทธิ์มีความนิยมถึงหลายหมื่นบาท
    เหรียญนี้เนื้อทองแดงกะไหล่ทอง
    บูชา 1100 บาท อย่างสวยๆเลย
    http://www.chaophra.com/view.asp?idproduct=JGOR966296716thongchai&view=viewproduct&idshop=thongchai

    ขนาดนี้ก็ 1200 แล้วครับ

    ปกติเหรียญนี้มักมีสภาพสึกครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSC00752.JPG
      DSC00752.JPG
      ขนาดไฟล์:
      101.3 KB
      เปิดดู:
      204
    • DSC00753.JPG
      DSC00753.JPG
      ขนาดไฟล์:
      138.8 KB
      เปิดดู:
      159
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 กุมภาพันธ์ 2010
  13. dekdelta2

    dekdelta2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    5,702
    ค่าพลัง:
    +6,948
    มีดหลวงพ่อบุญมีมีเล่มเดียวครับ ยังไงจะหาๆให้นะครับ
    จริงๆ พระกรุบ้านกร่าง พรายคู่สภาพไม่สวยก็ 3000 ขึ้นหมดแล้ว
    ส่นพรายเดี่ยวต้องเบิ้ลพรายคู่ครับ

    ผมกำลังเริ่มสะสมอยู่ มีแค่ 4 องค์เอง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 กุมภาพันธ์ 2010
  14. สักกะ

    สักกะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    3,405
    ค่าพลัง:
    +12,014
    ฮืมมมมม ออกมาแต่ละองค์ หวั่นไหวไปหมดเลย....
     
  15. สักกะ

    สักกะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    3,405
    ค่าพลัง:
    +12,014
    งั้นไม่เป็นไรครับ ไม่แน่ใจว่าเขาจะจองหรือปล่าว ขอบคุณครับ
    แต่ถ้ามีมีดหมอของครูบาอาจารย์องค์อื่นอีก ก็บอกผมด้วยนะครับ :cool:
     
  16. dekdelta2

    dekdelta2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    5,702
    ค่าพลัง:
    +6,948



    พี่สุภชัยจองหลวงพ่อโปร่งเหรียญซ้ายหรือเหรียญขวา หรือทั้งสองเหรียญครับ
     
  17. dekdelta2

    dekdelta2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    5,702
    ค่าพลัง:
    +6,948
    อยากลงหลวงพ่อจ้อย วัดศรีอุทุมพร แต่รอจังหวะดีๆก่อนครับ
     
  18. dekdelta2

    dekdelta2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    5,702
    ค่าพลัง:
    +6,948
    วันนี้พอแล้ว อ่านหนังสือๆๆๆๆๆ
     
  19. supachaipnu

    supachaipnu ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    2,370
    ค่าพลัง:
    +7,301
    ทั้งสองเหรียญครับ
     
  20. w.สุรพล

    w.สุรพล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    2,216
    ค่าพลัง:
    +4,544
    คิดว่าจะเลือกสักอีก
     

แชร์หน้านี้

Loading...