ทำไมนิพพานจึงเป็นสูญในสองความหมาย

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย phattanasak, 18 พฤศจิกายน 2009.

  1. phattanasak

    phattanasak สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    5
    ค่าพลัง:
    +5
    ด้วยกระผมสงสัยว่า ทำไมในสายปฏิบัติ นิพพานคือสูญซึ่ง อาสวะกิเลส แต่ดวงจิตนั้นยังคงอยู่

    และในสายปริยัติ นิพพานคือดับสูญซึ่งทุกสิ่งทุกอย่างรวมถึงดวงจิต

    ถ้าเป็นเช่นนั้นแล้ว คำว่านิพพานนั้นเป็นเช่นไรกันแน่????

    ขอรบกวนท่านผู้รู้ช่วยอธิบายให้กระผมเกิดปัญญาทีเถิด

    ด้วยความสงสัย+ความไม่รู้จริงๆ!!:mad:
     
  2. wanakonth

    wanakonth เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2009
    โพสต์:
    2,154
    ค่าพลัง:
    +5,776
    เคยได้ยินแต่เขาอธิบายกันมาว่า นิพพานเป็นอนัตตาคือไม่ใช่ตัวตน และนิพพานเป็นอนัตตาคือมีตัวมีตน แต่ไม่เคยได้ยินว่ามีอธิบายว่าเป็นสุญญตาคือเป็นสูญ ก็มีแต่นิพพานมีตัวตนอยู่แต่ตัวตนนั้นไม่ใช่ตัวตน ไม่ใช่ตัวตนตอนท้ายนี้คือไม่ได้เป็นรูปร่างอะไรแบบจับๆถูๆได้ละ
     
  3. banpong

    banpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    1,434
    ค่าพลัง:
    +1,770
    แสดงว่านิพานอาจจะเป็นสภาวะละเอียดกว่าจิตรึเปล่า
    แต่ที่แน่ๆนิพพานไม่สูญ
    หรือ ในสายปริยัติ คำว่าดวงจิตอาจหมายถึงจิตเฉยๆหรือเปล่า
    แต่ก็ต้องลองปฏิบัติดูนะครับ ต้องพิสูจน์
     
  4. เฉยชา

    เฉยชา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    26
    ค่าพลัง:
    +103
    แน่ใจนะว่าเข้าเขียนไว้แบบนั้นจิงๆ
     
  5. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,696
    ค่าพลัง:
    +51,932
    *** ตัวตนที่ไม่ตาย ****

    สัจจะธรรม...คือธรรมเที่ยง เป็นเรื่องของตัวตนที่ไม่ตายไม่สูญสลาย
    เพราะการกระทำชั่ว จึงเกิดตัวตนของการกระทำ ที่มีผลตอบแทนทำให้ทุกข์
    เพราะการตัดลดนิสัยจนหมดสิ้น จึงเกิดเป็นตัวตนของการกระทำ ที่มีผลตอบแทน จัดสรรให้ไม่ต้องกลับมาเกิดใหม่
    การไม่เกิดใหม่ คือ หลุดพ้นออกไปจากโลก ออกไปในอวกาศ ไปนิพพาน
    นิพพาน คือที่สุด ไปถึงที่สุด
    เมื่อเข้าไปในดวงอาทิตย์ ก็จะได้เห็นการกระทำของตนเอง ตั้งแต่ต้นจนจบ
    ตัวตนที่เกิดจากการกระทำ พระพุทธเจ้าเรียกว่า "ตัวกระทำ"
    "ตัวกระทำมีจริง ตัวกระทำไม่ตาย ตัวกระทำมีผลตอบแทน"...นี้คือ ความหมายของสัจจะธรรม

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  6. datedoctor

    datedoctor เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    539
    ค่าพลัง:
    +678
    นิพพานคือความว่างเปล่าแค่นั้นเอง

    พระพุทธเจ้าเลือกคำว่านิพพานเพราะมันสื่อถึงความว่างเปล่า

    คำว่านิพพานหมายถึงการเป่าเทียนให้ดับนั้นเอง(ตามรากศัพท์เดิม)

    เมื่อเทียนดับก็ไม่มีไฟไม่มีอะไรอีกต่อไป

    พระพุทธเจ้าไม่เคยสอนเรื่องนรกสวรรค์ เหตุผลง่ายเพราะมันไม่มีอยู่จริง ทำไมธรรมะต่างๆที่พระองค์ทรงเรียนมาจากอาจรายน์ทั่วแผ่นดินจึ่งไม่ทำให้พระองค์รู้แจ้งคำตอบนั้นง่ายมากเพราะ ธรรมแห่งการรุ้แจ้งนั้นไม่มีอยู่ มาตั้งแต่ต้น มันไม่มีอะไรเลยจริงๆ

    สรรพสิ่งล้วนว่างเปล่า นิพพานก็คือความว่างเปล่า คนเราก็มาจากความว่างเปล่าและกลับคืนไปสู่ความว่างเปล่า

    ก็แค่นี้

    สรรพสิ่งล้วนมาจากความว่างเปล่าและเปลี่ยนแปลงไปสู่ความว่างเปล่าที่มันจากมาอีกครั้ง คำตอบช่างเรียบง่ายแต่เข้าใจอยาก

    สิ่งที่พระพุทธเจ้าสอนคุณเป็นพระไตรปิฏกเล่มหนาคือว่าคุณจะใช้ชีวิตบนโลกใบนี้อย่างไรต่างหาก

    ซึ่งพระองค์ก็ได้สรุปไว้แล้วว่าใช้ชีวิตอย่างมีสติและไม่ประมาท พร้อมทั้งการตั้งมั้นในความดีก็เท่านั้น

    พระพุทธเจ้าไม่ใช่มนุษย์กายสิทธิ พระองค์ทรงเป็นมนุษย์ธรรมดาก็เท่านั้น เพียงแต่ทรงเป็นมหาบุรุษในสายตาคนอื่นเพราะ พระองค์ทรงรู้แจ้งในสิ่งที่ผู้อื่นไม่รู้

    นิพพานไม่ใช่อะไรที่วิเศษเลยมันก็แค่ความว่างเปล่าเท่านั้น

    สาธารณะชนก็รู้เรื่องนี้ เพียงแต่พวกเขารับไม่ได้ที่จะเชื่อว่าธรรมสุงสุดคือความว่างเปล่าคือความไม่มีอะไรเลย แต่ก็ไม่แปลก เพราะพวกเขาไม่เคยกลับไปสุ่ความว่างเปล่าที่พวกเขามา พวกเขาจึ่งไม่เคยเห็นมันและยังคงไม่รู้ว่ามันคืออะไร

    พวกเขาแค่ไม่อยากที่จะยอมรับว่าความตายคือจุดสิ้นสุด หน้าที่ทั้งหมดที่คุณพึ่งกระทำและใช้ชีวิตบนโลกเท่านั้นเอง ความตายคือการกลับไปสู่คว่ามว่างเปล่า
    พวกเขาแค่คลาดหวังว่าความตาย จะไม่พรากทุกสิ่งทุกอย่างไปจากพวกเขา พวกเขาจึ่งพยายามที่จะเชื่อว่ามีแค่จิตหรือตัวตนของเขาเท่านั้นที่คงอยู่ จุดนี้เองที่ทำให้เกิดแนวคิดเรื่องโลกหลังความตายขึ้นแต่ผมถามหน่อย ว่ามันมีอะไรแตกต่างจากโลกของเราบ้างละ แค่อาจจะดูดีขึ้นในกรณีของสวรรค์ หรือเลวลงในกรณีนรก
    แต่เอาจริงมันก็เหมือนกับดลกของเรามีทุกสิ่งที่เหมือนกัน

    ทำไมคนเราต้องปรุงแต่นิพพานให้มันวุ่นวาย จะอยากเห็น อยากรู้ไปทำไมในเมื่อมันไม่มีอะไรเลยมาตั้งแต่ต้อนอยู่แล้ว

    นี่เองที่ทำให้พวกเขาคลาดหวังว่าจะมีใครสักคนที่พวกเขาเชื่อมั้นว่าจะตอบปริศนานี้ได้ มาเล่าให้พวกเขาฟังว่ามันเป็นแบบไหน? แต่เชื่อผมเถอะคนพวกนั้นก็ไม่เคยเห็นนิพพานจริงๆหรอกและไม่รู้ด้วยว่ามันคืออะไร?

    พวกเขาแค่คลาดหวังว่า มันจะเป็นอะไรที่พิเศษ ก็เท่านั้นพวกเขาก็เลยพยายามวาดภาพพรพุทธเจ้าให้พิเศษ ทั้งที่พระองค์ก็ทรงเป็นแค่ขอทานธรรมดา ในเมื่อสรรพสิ่งล้วนว่างเปล่าจะเป็นขอทาน กษัตริย์หรือ อะไรก็ตามย่อมไม่มีความหมายอยู่แล้ว


    สิ่งเดียวที่พระองค์ต้องการจะสอนคุณก็คือความไม่มีนั้นเอง พระองค์จึ่งให้คุณทิ้งสิ่งพุ้งเพ้อทั้งหมดไป ให้คุณเดินทางวสายกลาง ที่จะลดกิเลศลงทำให้เราไม่คำกูของกูอีกต่อไป นี่เองทางที่คุณจะเข้าถึงนิพพานไม่ใช่ความคิดแมวสามขาที่โจรผ้าเหลือง หรือพวกศาสนธุรกิจ บางคน <!-- google_ad_section_end -->หลอกลวงคุณ ไม่จำเป็นต้องเชื่อผมก็ได้อยากให้คุณค่อยใช้เวลานั้งคิดดู โปรดพิจารณา


    <HR style="COLOR: #ffffff; BACKGROUND-COLOR: #ffffff" SIZE=1>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 พฤศจิกายน 2009
  7. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,696
    ค่าพลัง:
    +51,932
    *** ตัวกระทำ ****

    คือ ตัวตนของการกระทำที่ได้ทำไปแล้ว
    ตัวกระทำมันตามติดตัวเรา เหมือนเงาตามตัว
    แต่ตัวกระทำ มองไม่เห็น ล่องหนอยู่ตลอดเวลา
    แต่เห็นได้ด้วยการพิจารณา ด้วยเหตุด้วยผล

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  8. รำมะนาด

    รำมะนาด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    226
    ค่าพลัง:
    +251
    มีอะไรยืนยันว่า ความว่างเปล่า จะทำให้พ้นทุกข์
    มีอะไรยืนยันว่า ความไม่ว่างเปล่า จะทำให้พ้นทุกข์

    พระพุทธเจ้าท่านสอนเรื่องนรกสวรรค์

    วัตถุมงคล ที่มีรูปพระพุทธเจ้า หากเจ้าของเค้าอนูญาติ
    หรือผุ้ขายก็คือเจ้าของ วัตถุมงคลชนิดนั้น ก็ขายได้

    ทางที่จะไปนิพพาน ***ไม่จำเป็น*** ต้องว่างเปล่า
    ไม่มีความจำเป็นใดทั้งสิ้นที่นิพพานต้องว่างเปล่า

    คนหลายล้านคนบนโลก ว่างแม่นก็ทุกข์ ไม่ว่างแม่นก็ทุกข์

    เข้าถึงความว่างเปล่า ไม่พ้นทุกข์

    พ้นทุกข์เข้าถึงอะไรก็ไม่ทุกข์
    ไม่เข้าถึงอะไรก็ไม่ทุกข์
    อะไรเข้าถึงก็ไม่ทุกข์
    อะไรไม่เข้าถึงก็ไม่ทุกข์

    อะไร จะว่าง ไม่ว่าง ไม่เกี่ยวกับการพ้นทุกข์ หรือ ไม่พ้นทุกข์เลย
     
  9. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,696
    ค่าพลัง:
    +51,932
    ถ้าโลกนี้ไม่มีตัวตน เมื่อทำไปแล้วก็จะสูญหายไป ...กรรมก็จะไม่เกิดขึ้น
    แต่ความจริงมันมีตัวตน มันมีมีกรรม....กรรมมันถึงได้ประดังเข้ามาทุกวันนี้

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  10. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,696
    ค่าพลัง:
    +51,932
    ตัวตนของการกระทำมีจริง แต่ท่านไม่เห็นเอง
    ต้องพิจารณา จึงจะเห็น

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  11. รำมะนาด

    รำมะนาด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    226
    ค่าพลัง:
    +251
    ที่สุดแห่งธรรม ไม่ใช้ ความไม่มีอะไรเลย
    ความไม่มีอะไร เป็นแค่ธรรม ชนิดหนึ่งเท่านั้นเอง
     
  12. รำมะนาด

    รำมะนาด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    226
    ค่าพลัง:
    +251
    อะไรยืนยันว่าเป็นข้อเขียนของท่านตั๊กม้อ
    ไม่จริงหรอก
    ถ้าเขียนแค่เนียะ
    วัดเส้าหลิน ไม่โดนเผาหรอก
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 พฤศจิกายน 2009
  13. datedoctor

    datedoctor เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    539
    ค่าพลัง:
    +678
    ไม่เชื่อคุณลองไปอ่านหนังสือของโอเชดู

    ยังไม่ต้องเชื่อผมก็ได้ในบทที่2

    [​IMG]

    โอโชเป็นนักคิด นักปรัชญานอกระบบ มีชื่อเสียงโด่งดังในยุโรป อเมริกา และอินเดียมานาน เกิดเมื่อปีค.ศ.1931 เสียชีวิตเมื่อปีค.ศ.1990

    ก่อนหน้านี้ ผู้คนรู้จักเขาในนาม "ภควานศรีรัชนี" แต่เขาลบชื่อและประวัติตัวเองออกทั้งหมด เหลือไว้เพียงชื่อ "โอโช" (OSHO) ซึ่งแปลว่า Oceanic

    ผู้คนมากมายขนานนามเขาว่า Sex Guru, The Rich Man"s Guru แม้กระทั่ง The Joker!

    นอกจากนี้ หนังสือพิมพ์ "ซันเดย์ ไทม์ส" แห่งลอนดอน ยังยกย่องเป็น "หนึ่งใน 1,000 ผู้สร้างสรรค์แห่งศตวรรษที่ 20"

    ขณะที่ ทอม ร็อบบินส์ นักเขียนอเมริกันให้สมญาอย่างแรงว่า "ชายที่อันตรายที่สุดถัดจากพระเยซู"

    ท่านโอโชได้รับการยอมรับในฐานะคุรุ หรือผู้นำการผสมผสานศาสตร์สมัยใหม่เข้ากับการฝึกสมาธิ ที่สร้างการเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้นได้ภายในตัวผู้ปฏิบัติ โดยใช้วิธีการ "สมาธิภาวนาแบบตื่นตัว"

    ตลอดจนแนวคิดที่ปฏิเสธความเคร่งครัดและกดทับสัญชาตญาณ ซึ่งขัดแย้งกันอย่างสุดขั้วกับความเชื่อของลัทธิศาสนาทั่วไป แต่ก็ได้รับความนิยมศรัทธาจากผู้คนจำนวนมหาศาล โดยเฉพาะชาวตะวันตก

    ถึงกระนั้น ตัวโอโชก็ไม่เคยยอมรับว่าเขาเป็น "คุรุ"

    ท่านบอกว่า ไม่ได้มีหน้าที่มาสั่งให้ใครทำอะไร หรือซ่อมอะไรให้ใคร แต่ตัวเราแต่ละคนต่างหากจะต้องรับผิดชอบต่อชีวิตของเราเอง ด้วยความรับผิดชอบอย่างเต็มที่ จะนำมาซึ่งอิสรภาพอย่างเต็มเปี่ยม

    ในช่วงมีชื่อเสียง โอโชมีผลงานหนังสือหลายเล่มที่มีอิทธิพลต่อชาวตะวันตก หนังสือส่วนใหญ่ไม่ได้เขียนขึ้น หากใช้วิธีแปลงจากการบันทึกภาพและเสียงในการบรรยายสดให้ผู้เข้าร่วมรับฟังจากนานาชาติในระยะเวลามากกว่า 35 ปี

    "คุรุวิพากษ์คุรุ" เป็นหนังสือที่ท้าทายเล่มหนึ่ง เพราะโอโชลุกขึ้นวิพากษ์ 20 ศาสดาและนักปราชญ์ของโลก นับตั้งแต่พระเยซู พระกฤษณะ ท่านโพธิธรรม จนถึงพระพุทธเจ้า

    นักปรัชญาอย่าง นิทเช่ พิธากอรัส โสกราตีส

    กวีเช่น จวงจื่อ

    ตลอดจนนักคิดผู้ยิ่งใหญ่อย่างเช่น คาลิล ยิบราน เกอร์จิยา เป็นต้น

    แปลและเรียบเรียงโดย โตมร ศุขปรีชา

    "ว.วชิรเมธี" กล่าวถึง "โอโช" ว่า เป็นผู้หยั่งเห็นสัจธรรมในความหมายที่ลึกซึ้งที่สุดคนหนึ่ง เป็นมากกว่านักปรัชญา คุรุ หรือนักคิดสุดอันตรายอย่างที่ใครต่อใครเรียกขาน หากจะขนานนามเขาให้เหมาะสมแล้ว โอโชควรเป็น "ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน" คนหนึ่งของศตวรรษที่ 20 นี้ทีเดียว


    เมื่อมองโอโชในมาตรฐานที่สูงถึงเพียงนี้แล้ว ขอให้เราผู้เพียรติดตามอ่านผลงานของมหาปราชญ์ท่านนี้ ควรวางท่าทีเอาไว้ในฐานะผู้ที่อ่านผลงานเล่มนี้อย่างนัก "สังเกตการณ์" ปรีชาญาณของโอโชซึ่งนำพาเราสำรวจสืบค้นไปยังชีวประวัติ ผลงาน ปรีชาญาณของศาสดา มหาคุรุของโลกมากมายที่ปรากฏอยู่ในหนังสือเล่มนี้อย่างคนนอกคนหนึ่ง

    "ขอแนะนำด้วยความเจียมตนว่า ได้โปรดอย่าเผลอเอา "อัตตา" และ "สิ่งที่เนื่องด้วยอัตตา" ของตัวเอง สอดเข้าไปในสิ่งที่โอโชวิพากษ์วิจารณ์เสนอแนะเป็นอันขาด

    มีแต่การอ่านด้วยท่าทีแห่งการเป็น "ผู้ดู" โดยไม่เผลอเข้าไปเป็น "ผู้เป็น" เท่านั้น ผลงานของโอโชเล่มนี้จึงจะก่อให้เกิดปีติสุขและความรื่นรมย์ทางปัญญาและจิตวิญญาณอันใหญ่หลวงแก่ท่านตลอดไป"
     
  14. phattanasak

    phattanasak สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    5
    ค่าพลัง:
    +5
    ตัวตนแห่งการกระทำนั้นมีอยู่จริง แต่มองไม่เห็น?

    แล้วจะพิจารณาอย่างไรจึงจะเข้าใจได้ละครับ???
     
  15. รำมะนาด

    รำมะนาด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    226
    ค่าพลัง:
    +251
    ในคำภีร์ หรือ บทความของพระพุทธศาสนา
    เอ่ยถึงความว่างไว้บ่อยๆแน่ๆ หละ

    แต่ถ้าเข้าถึงความว่างแล้วพ้นทุกข์
    ก็ไม่ต้องมีพระพุทธเจ้าแล้ว
    นั่งใจลอย น้ำลายยืดๆ ก็พ้นทุกข์กันหมดแล้ว

    พวกคิดว่าว่างแล้วพ้นทุกข์นี้ ถือว่าผิวเผินมาก
    ว่าง เป็นสภาวะธรรม ทั่วๆไปนี้เอง

    เข้าถึงความว่างแล้วทุกข์ ก็มีถมเถ

    เกิดความว่างขึ้นก็ หากไม่อยากให้มันเกิดก็ทุกข์
    ความว่างตั้งอยู่ก็ หากอยากให้มันหายไป หรือไม่อยากให้มันหายไปก็ทุกข์
    ความว่างดับไปก็ หากไม่อยากให้มันดับก็ทุกข์

    ไม่มีอะไรแก้ยากเย็นเลย พื้นๆ
     
  16. datedoctor

    datedoctor เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    539
    ค่าพลัง:
    +678
    55สงสัยคุณรำมะนาดจะเก่งกว่าโอเซ ท่านว.วัชิระเมธี และท่านตักม้อ กับคุรุท่านอื่นๆซะและ

    เหล่าจื่อกล่าวว่า ธรรมหรือเต๋าใดที่เขียนได้ไม่ใช่ธรรมหรือเต๋า

    การภาวนาเป็นการฝึกฝนเพื่อให้เข้าใจความว่างเปล่า(ท่านโพธิธรรม)

    สามารถอ่านได้จากตำนานของท่าน
     
  17. รำมะนาด

    รำมะนาด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    226
    ค่าพลัง:
    +251
    การที่ผมเขียนบทความคัดง่างสำเร็จไม่ได้แปลว่าผมเก่งกว่า

    และบทความที่คัดง้างไม่ได้ ไม่ได้แปลว่าเป็นบทความที่ถูกต้อง

    จิตมีโมหะ ก็รู้อยู่
    จิตไม่มีโมหะ ก็รู้อยู่

    จิตมีโมหะอะนะ

    คนอื่นรู้แกวนิดเดียว หลอกแดกสบาย
     
  18. รำมะนาด

    รำมะนาด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    226
    ค่าพลัง:
    +251
    เหล่าจื้อก็ไม่ถูก

    ธรรมที่เขียนไม่ได้ เป็นแค่นามธรรมที่มีความละเอียดจัดเท่านั้นเอง

    พระนิพพานเขียนถึงได้

    จะเห็นว่าในพระไตรปิฏกเขียนถึงพระนิพพานไว้มากมาย

    หากปราถนาธรรมที่เขียนถึงไม่ได้
    อ่านพระไตรปิฏก ท่านหาวิธี พบได้โดยไม่ต้องเขียน หรือนิยาม

    แต่จะหาพระนิพพาน
    ไม่มีในเต๋าแต้จิง
    แน่นอน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 พฤศจิกายน 2009
  19. จีโอ14

    จีโอ14 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2009
    โพสต์:
    194
    ค่าพลัง:
    +262
    โง่แล้วยังอวดฉลาด :cool:


    ฉลาด..แต่เรื่องโง่ ๆ :cool:


    รู้..แต่รู้ไม่จริง..:cool:

    ช่างเป็นคนที่น่าสงสารมาก..

    ทำไมนะหรือ..

    เป็นเพราะเสียชาติเกิดนะซี..

    อุตส่า..ได้เกิดเป็นคนทั้งที..แถม..ได้พบพระพุทธศาสนา..ด้วย

    แต่ไม่ได้อะไรติดจิตติดใจ..ให้เพิ่มพูนเลย..ซ่วยกว่าคนที่เกิดนอกพระศาสนาเสียอีก..

    จึงได้ชื่อว่า..เป็นคนที่น่าสงสาร..ที่สูดดด..:boo:
     
  20. รำมะนาด

    รำมะนาด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    226
    ค่าพลัง:
    +251
    ธรรมที่เขียนถึงไม่ได้ นิยามไม่ได้

    ก็แค่ธรรมที่ไม่ได้เขียนถึง และ ไม่ได้นิยาม
    เท่านั้นเอง

    ไม่เห็นพิเศษอะไรเลย
     

แชร์หน้านี้

Loading...