บ้านป้าแน๊ต - ธรรมะ..ธรรมชาติ..ธรรมดา

ในห้อง 'จักรวาลคู่ขนาน' ตั้งกระทู้โดย pinkdemon, 16 เมษายน 2009.

  1. pinkdemon

    pinkdemon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,606
    ค่าพลัง:
    +157
    การโดนคนที่เราไว้ใจเอามีดปักหลังจึ๊กๆๆๆๆๆๆๆ ถือว่าจิ๊บๆๆๆๆ เหอ เหอ เหอ... แง๊ๆๆๆๆ
     
  2. pinkdemon

    pinkdemon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,606
    ค่าพลัง:
    +157
    ก้อมะต้องไปสนใจคนรอบข้าง อิอิอิ ตอบกวนteen มะค๊า เหอเหอ

    ถามตัวเองซิว่า คนรอบข้างเราเค้าร้องไห้กับเราเวลาเราทุกข์หรือเปล่า เค้ายอมทิ้งธุระเค้าเพื่อนั่งซื่อบื้อเป็นเพื่อนเราเวลาเราแหกปากร้องไห้โฮๆ หรือเปล่า ถ้าใช่ก็จงถนอมน้ำใจเค้าไว้ แต่ถ้าเป็นพวกที่หัวเราะเฮฮาปาร์ตี้แต่พอเราทุกข์ก็ตัวใครตัวมัน ก็ต้องถอนตัวถอนใจออกมา

    จัดลำดับให้ถูกว่าใครที่สำคัญที่เราควรใส่ใจเป็นอันดับหนึ่ง สอง สาม สี่ อย่าเรียกว่า อุเบกขาเลย ทำแค่ "เออนะ เฉยไว้ เดี๋ยวดีเอง" ให้ได้ก่อนนะจ๊ะคนสวย
     
  3. pinkdemon

    pinkdemon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,606
    ค่าพลัง:
    +157
    มาบอกเคล็ดไม่ลับอีกที เตรียมพจนานุกรมเล่มเบ้อเร่อเอาไว้ข้างกายเวลาปฏิบัติ พอง่วงปุ๊ปสติยังทันรู้ว่าง่วง ก็คว้าอุปกรณ์ที่เตรียมไว้ฟาดกะบานตัวเองปั๊ป รับรองตาสว่าง ปฏิบัติได้อีกน๊านนานค๊า
     
  4. pinkdemon

    pinkdemon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,606
    ค่าพลัง:
    +157
    อิน้องเจ๋ง ช้านมะได้เปงพระ เรียกให้ถูกๆ นะย๊า ช้านเปงแค่คนฉวยคนหนึ่งเท่าน้านนนนนน อิอิอิอิ
     
  5. pinkdemon

    pinkdemon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,606
    ค่าพลัง:
    +157
    ถึงน้องบอสคนหล่อ

    ขอบคุณมากๆๆๆๆๆ ส่ง...ให้แล้วถ้ามะห้อยคอ ป้าจิไปเปิดเผยจุดเร้นลับของเธอให้โม๊ดดดดดด......
     
  6. pinkdemon

    pinkdemon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,606
    ค่าพลัง:
    +157

    โมทนาย้อนหลังค๊า
     
  7. pinkdemon

    pinkdemon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,606
    ค่าพลัง:
    +157
    ป้ามิบังอาจแนะนำอารายน๊าค๊า เพราะหลวงพ่อทุกๆ ท่านที่ได้กรุณาสอนสั่งมา ท่านสอนว่า ห้ามผู้ปฏิบัติพูดคุยกันเองถึงเรื่องการปฏิบัติ เพราะจะทำให้เกิดอุปทาน กิเลสที่นอนก้นมั่งไม่นอนก้นมั่งจะฟูลอยฟ่องเป็นลูกโป่งเพราะความอยากลึกๆ ที่สติเราตามไม่ทัน ดีไม่ดีเอาอารมณ์การปฏิบัติของเขามาเป็นของเราซะงั้น

    ดังนั้นจึงต้องมีครูคอยสอบอารมณ์ ผู้ปฏิบัติส่งอารมณ์คือ เล่าแบบที่น้องแว๊ดนี่แหละค่ะให้ครูฟัง ครูก็จะคอยแนะนำแก้ไขให้ถ้ามีอะไรสมควรแก้ไข ถ้าไม่มีอะไรครูก็มักจะบอกว่า ดีแล้ว ปฏิบัติต่อไปเถิด

    ป้าจึงยึดถือคำสอนของหลวงพ่อทุกท่านอย่างมั่นคง คือ ไม่แนะนำให้ผู้ปฏิบัติเล่าสู่กันฟังเองนอกจากครูเท่านั้น
     
  8. pinkdemon

    pinkdemon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,606
    ค่าพลัง:
    +157
    อธิบายแล้วค๊า ชอบใจก็คิดคาม ไม่ชอบใจก็ไม่ต้องคิด อิอิอิ
     
  9. pinkdemon

    pinkdemon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,606
    ค่าพลัง:
    +157
    ไม่เหงยาก มีสติมะล่ะ ตอน "อยาก" น่ะ พอรู้ว่า "อยาก" ก็กำหนดตาม เด๋วมางก็เลิกเอง เหงมะง่ายนิดเดียว หนายบอกว่าส่งรมณ์แล้วงาย มะเหงมี เด๋วจ๋วย
     
  10. chattrg

    chattrg เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    4,337
    ค่าพลัง:
    +13,241
    <table class="tborder" width="100%" border="0" cellpadding="6" cellspacing="1"><tbody><tr><td class="thead">ณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 3 คน ( เป็นสมาชิก 2 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน ) </td> <td class="thead" width="14%"> <center"> [ แนะนำเรื่องเด่น ] </center"></td> </tr> <tr> <td class="alt1" colspan="2" width="100%"> chattrg, pinkdemon

    หวัดดี ครับ
    มาซะดึก เชียว

    </td></tr></tbody></table>
     
  11. pinkdemon

    pinkdemon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,606
    ค่าพลัง:
    +157
    ในหลวงกับ"พุทธภูมิ"‏

    ในหลวงกับ"พุทธภูมิ"

    ในทางพระพุทธศาสนา มีการบำเพ็ญบารมี 2 แนวทางหลัก คือ

    1. พุทธภูมิ
    คือ ผู้บำเพ็ญบารมี เพื่อปรารถนาสำเร็จเป็นพระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งในอนาคต
    (หรือ เรียกว่า บำเพ็ญบารมีแบบโพธิสัตว์)

    2. สาวกภูมิ
    คือ ผู้บำเพ็ญบารมี เพื่อปรารถนาสำเร็จเป็นพระอรหันต์สาวก

    การสนทนาธรรม โดยทั่วไป ส่วนมากเป็นในแนวทางสาวกภูมิ เพราะ มีจำนวน ผู้ปรารถนาสาวกภูมิ มากกว่า พุทธภูมิ อย่างมากๆ

    แต่การบำเพ็ญบารมีของพุทธภูมินั้น ก็มีธรรมะหลายประการ ที่น่าสนใจศึกษา เช่น นิทานชาดกอดีตชาติของพระพุทธเจ้า, บารมี 30 ทัศ, อัธยาศัยพระโพธิสัตว์ ฯลฯ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ แก่ ทั้งท่าน พุทธภูมิ และ สาวกภูมิ

    จากการที่ได้หาโอกาสศึกษาและมีวาสนาได้กราบไหว้ใกล้ชิด พระอัจฉริยเถราจารย์ผู้ทรงคุณธรรมเบื้องสูงจำนวนมาก ตลอดระยะเวลาอันยาวนานกว่า 2 ทศวรรษ ทำให้ได้รับการบอกกล่าวถึงเรื่องอันพิเศษๆเป็นอันมาก ที่นอกเหนือจากสามัญมนุษย์ทั่วไป ซึ่งไร้ซึ่งญาณปรีชาจะพึงทราบชัด ให้ถูกถ้วนตามความเป็นจริงได้เป็นอันเอนกปริยาย ดังที่ได้นำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับธรรมะ และความรู้รอบตัวต่างๆเป็นธรรมวิทยาทานมาโดยลำดับ ความย่อมเป็นที่แจ้งใจอยู่โดยทั่วไปแล้วนั้น

    บัดนี้ เป็นกาลอันสมควรแล้ว ที่จะได้นำเอาเรื่องราวที่บรรดาพระอริยคณาจารย์ทั้งหลาย ที่ได้เคยกล่าวถึงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มาแสดง เพื่อน้อมถวายความจงรักภักดีแด่พระมหาธรรมราชา ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐแห่งประชาชาติไทยพระองค์นั้น และเพื่อยังความเป็นสวัสดิมงคลอันยิ่ง ให้บังเกิดขึ้นแก่แผ่นดินและมหาชนทั้งหลายสืบไปตราบชั่วจิรัฏฐิติกาล

    "ในหลวงพระองค์นี้ ท่านเป็นพระโพธิสัตว์น๊ะ..!!!!"
    พระภิกษุพระยานรรัตนราชมานิต(ธมฺมวิตกฺโกภิกขุ)วัดเทพศิรินทราวาส กรุงเทพมหานคร

    สำหรับปฐมเหตุที่ทำให้ท่านเจ้าคุณนรรัตน์ฯกล่าวความเช่นนี้ ก็เกิดมาจากการที่ท่านได้กล่าวเตือนญาติโยมบางรายที่ไปนมัสการว่า
    "การที่คุณเอาธนบัตรที่มีรูปในหลวงไปใส่ไว้ในกระเป๋ากางเกงนั้น ไม่ดีเลย เพราะในหลวงท่านเป็นพระโพธิสัตว์ การเอาพระรูปของท่านไปไว้ในที่ต่ำอย่างนั้น ย่อมบังเกิดโทษเป็นอันมาก ทีหลังอย่าพากันทำ..!!?!"



    "พระองค์มัวแต่เป็นห่วงคนอื่น แต่ไม่ทรงห่วงพระองค์เองบ้างเลย.."
    หลวงปู่แหวน สุจิณฺโณ วัดดอยแม่ปั๋ง เชียงใหม่


    ครั้งหนึ่ง มีผู้พูดถึง"ผู้ยิ่งใหญ่"ระดับประเทศบางท่านให้หลวงพ่ออุตตมะ วัดวังก์วิเวการาม กาญจนบุรี พระมหาโพธิสัตว์ใหญ่ที่หลวงพ่อพุธ ฐานิโย วัดป่าสาลวัน นครราชสีมากล่าวรับรองไว้ด้วยองค์เองว่า"เป็นหนึ่งในสิบแห่งอนาคตพุทธวงศ์เบื้องหน้า"ฟัง สังเกตว่า ดูหลวงพ่ออุตตมะท่าน"เฉย"มากๆ ก่อนที่จะปรารภออกมาอย่างราบเรียบที่สุด เหมือนมิได้ไยดีใดๆว่า

    "เขาไม่ได้ทำประโยชน์อะไรมากเหมือนกับในหลวงหรอก..!!!!!"


    ในหลวงสนทนาเรื่อง"พุทธภูมิ"กับหลวงตามหาบัว

    "...เหตุการณ์ที่น่าทึ่งที่สุดคือ เมื่อปี พ.ศ.2531 เมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ได้เสด็จไปนิมนต์หลวง ตาไปในงานในวัง ปกติหลวงตาท่านไม่ค่อยไปไหน แต่ตอนที่พระเจ้าอยู่หัวฯ ไปนิมนต์ ท่านไปนิมนต์ด้วยพระองค์เอง เรายังจำได้..

    วันนั้นเป็นวันที่ 7 มกราคม 2531 เป็นปีเฉลิมราชรัชมังคลาภิเษกที่ทรงครองราชย์มากกว่ากษัตริย์ใด ในประวัติ ศาสตร์ไทย ท่านนิมนต์หลวงตาเข้าวัง มาเป็นขบวนใหญ่ หลวงตาท่านจะอยู่ที่กุฏิ ท่านให้เราควบคุมดูแลญาติโยม ดูแลพวกทหารที่มา พระเจ้าอยู่หัวฯ จะเสด็จมาตอน 6 โมงเย็น

    เมื่อขบวนพระเจ้าอยู่หัวฯ เสด็จมาถึง เรายืนตรงนี้ ผู้ว่าฯ สายสิทธิ์ยืนตรงนี้ หมออวย แล้วใครต่อใครยืนเป็นแถวรอรับเสด็จ แล้วท่านก็ขึ้นไปข้างบนซึ่งหลวงตารอท่านอยู่แล้ว ส่วนเราก็อยู่ตรงบันได ส่วนหลวงตาอยู่ข้างบน ที่ขึ้นไปก็มีพระบรมวงศานุวงศ์ตามเสด็จครบหมดเลย พระราชินี พระบรมฯ พระเทพฯ เจ้าฟ้าหญิงจุฬาภรณ์ฯ หมดทั้งครอบครัวเพื่อจะนิมนต์หลวงตาไปงานพิธีในวัง

    พอพระองค์ท่านกราบหลวงตาเสร็จ ท่านก็ถวายคำถามแรก ( พระเจ้าอยู่หัวเรียกหลวงตาว่า "หลวงปู่" )
    "หลวงปู่... สาวกภูมิกับพุทธภูมิต่างกันอย่างไร" โอ้... พระเจ้าอยู่หัวถามปัญหาหลวงตาขนาดนี้

    หลวงตาตอบว่า...
    "พุทธภูมิ ก็เหมือน ดั่งเรานั่งรถไฟ นั่งรถไฟไปเชียงใหม่หรือนั่งรถไฟไปอุดรนั่นแหละพุทธภูมิ แต่ถ้าเรานั่งจักรยานมาหรือนั่งมอเตอร์ไซค์ ขี่มอเตอร์ไซค์ไปนั่นแหละ...สาวกภูมิ เพราะฉะนั้นการเป็นพุทธภูมิก็คือการ นำคนไปได้เยอะ ๆ ส่วนสาวกภูมินั้นนำไปได้น้อยๆ ไม่ได้มากนัก อย่างเก่งก็ 1 คน หรือ 3-4 คน ก็ว่ากันไป นั่นคือสาวกภูมิ เข้าใจไหมล่ะพ่อหลวง"

    พระเจ้าอยู่หัวฯ ตอบหลวงตาว่า "เข้าใจแล้วหลวงปู่ แล้วนิพพานเป็นอย่างไรนะ หลวงปู่"

    หลวงตาตอบ : "อ้อ พ่อหลวงเหมือนพ่อหลวงมาวัดป่าบ้านตาดนี่แหละ รู้ไหมว่าวัดป่าบ้านตาดอยู่ตรงไหน อยุ่บนกุฏินี่เหรอ วัดป่าบ้านตาดอยู่ไหนล่ะ แต่พอพระมหากษัตริย์มาถึงนี่แล้ว บริเวณนี้ทั้งหมดคือวัดป่าบ้านตาดนี้แหละ แต่จะชี้ลงไปว่าที่กุฏิอาตมาก็ไม่ใช่ ที่กุฏิพระก็ไม่ใช่ ที่ศาลาก็ไม่ใช่ ไม่ใช่ทั้งหมด แต่เมื่อรวมกันทั้งหมดในกำแพงวัดนี้นี่แหละคือวัดป่าบ้านตาด นี่แหละพระนิพพานก็มีความหมายแบบเดียวกัน"

    และเมื่อพระเจ้าอยู่หัวฯ ขอบารมีหลวงตาช่วยต่ออายุให้แม่หลวง (คือสมเด็จย่า) ตอนนั้นสมเด็จย่าทรงประชวรอยู่ หลวงตาท่านก็ตอบปฏิเสธเลยว่า... "พ่อหลวงนั่นแหละก็จัดการเองได้ ขอเองได้" ท่านว่างั้นนะ... "พ่อหลวงก็สามารถจัดการได้เอง" ท่านบอกไปเลยนะว่า... ให้พระเจ้าอยู่หัวขอเอง จัดการเอง จัดการเองอาตมาต่อให้ไม่ได้หรอก

    พระเจ้าอยู่หัวฯ ได้กราบลาว่า "เอาล่ะ ได้เวลาแล้ว จะกลับแล้ว ท่านหลวงปู่มีอะไรจะบอกไหม"

    หลวงตาท่านได้เทศน์สั้น ๆ ว่า

    "การเป็นพุทธภูมิ สร้างบารมีเพื่อความเป็นพุทธะ พอจบพุทธภูมิได้ก็เป็นพระพุทธเจ้า แล้ว พระพุทธเจ้าก็มีพุทธกิจ 5 คือ ตอนเช้าบิณฑบาต ตอนบ่ายสอนคหบดีมนุษย์ทั่วไป ตกเย็นสอนนักบวช สมณะชีพราหมณ์ ตอนกลางคืนแก้ปัญหาเทวดา พอมาตอนเช้ามืดเล็งญาณดูสัตว์โลก สัตว์โลกตัวไหนมีกิเลสเบาบางพอที่จะบรรลุธรรมได้ ท่านก็จะเล็งญาณดูรีบไปโปรดก่อน พระพุทธเจ้าสร้างบารมีพุทธภูมิจนได้เป็นพระพุทธเจ้า เมื่อเป็นพระพุทธเจ้าแล้ว ท่านก็มีพระพุทธกิจ 5 อย่างนี้ แต่... ไม่รู้ว่าพ่อหลวงแม่หลวงของประเทศไทยปรารถนาอะไร ทำงานกันจนไม่มีเวลาจะพักผ่อน..เอาล่ะ ๆ ... อาตมาจะให้พร"


    พอฟังมาถึงตรงนี้นะ เรายังจำได้แม่น เพราะพระเจ้าอยู่หัวฯ ท่านถามเรื่องพุทธภูมิ เสร็จแล้วพอท่านจะลากลับ หลวงตาท่านสรุปให้เสร็จสรรพเลย... ไม่รู้ว่าพ่อหลวงแม่หลวงของไทยทำงานปรารถนาความเป็นอะไร... ทำงานกันจนไม่มีเวลาพักผ่อน... เอาล่ะ ๆ ...อาตมาจะให้พร

    เมื่อพระเจ้าอยู่หัวท่านเสด็จลงมา ท่านก็ตรัสว่า อยากให้ท่านอาจารย์อยู่กับหลวงตาไปนาน ๆ ...เราก็ได้ตอบท่านว่า เจริญพร...มหาบพิตร อาตมาก็อยากจะอยู่ แต่ถ้าถึงเวลาที่อาตมาจะต้องเอา ตัวเองให้รอด อาตมาก็ขอเอาตัวเองให้รอดก่อน เพราะทุกอย่างเป็นเหตุเป็นผล ถึงเวลาไปก็ต้องไปเหมือนกัน แล้วพระเจ้าอยู่หัวฯ ก็บอกขอทำบุญกับหลวงตา 200,000 ถวายอาจารย์ 20,000 แล้วท่านก็ถามว่าพระที่อยู่ในวัดนี้กี่รูป เราก็ตอบท่านทั้งหมด 29 รูปรวมหลวงตานั่นแหละ... ท่านจึงถวายให้รูปล่ะ 2,000 "แล้วปัจจัยจะให้ไว้กับใคร" ท่านถาม...ท่านหยิบออกมาให้เลยนะ ท่านผู้ว่าฯ ยังรับมือสั่น พระเจ้าอยู่หัวไม่เพียงมากราบหลวงตา ท่านมาที่วัดท่านยังมาทำบุญกับพระด้วยปัจจัยที่เตรียมพร้อมจากพระหัตถ์ของ ท่านเอง จากนั้นพระเจ้าอยู่หัวฯ ก็เสด็จออกไปเยี่ยมประชาชนแล้วก็ขึ้นรถไป

    นั่นแหละเราได้ฟังมา เรื่องของพุทธภูมิ เรื่องของพระโพธิสัตว์ สาวกภูมิกับพุทธภูมิต่างกันอย่างไร เสร็จแล้วพอตอนจบขอพร หลวงตาท่านก็สรุปและให้พร จึงบอกได้ว่าเป็นบทสนทนาของจอมปราชญ์...
    ที่มานิตยสาร น่านฟ้า ปีที่1 ฉบับที่ 8 ประจำเดือนธันวาคม 2550 หน้า18



    เมื่อต้นปีพ.ศ. 2498 คุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติมได้ปรารภกับศิษยานุศิษย์ของท่านว่า
    "มีใครเป็นห่วงพระเจ้าแผ่นดินองค์น้อย(ในหลวง)บ้าง..??"

    เมื่อทุกคนกล่าวรับว่าเป็นห่วง เนื่องจากมีข่าวที่น่าเป็นกังวลมาให้ได้ยินอยู่ คุณแม่บุญเรือนก็ว่าต่อไปอีกหน่อยว่า
    "ถ้าเป็นห่วง ก็ขอให้แม่อธิษฐานช่วยพระองค์ท่านซิ" (ตามอริยประเพณี พระอริยะจะทำการสิ่งใดโดยปราศจากเหตุหรือไม่มีผู้อาราธนามิได้)

    เมื่อศิษย์ทุกคนกล่าวคำขอให้คุณแม่ใช้อิทธิฤทธิ์ช่วยในหลวงให้ทรงพระเจริญและแคล้วคล
    ดจากสรรพภยันตรายทั้งปวงแล้ว คุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติมจึงได้กำหนดที่จะไปเข้า"นิโรธสมาบัติ" คุ้มครองถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่บ้านนาซา(เป็นเคล็ดให้เรื่องร้าย"สร่างซา"ลงไป) ของนางสาววาย(เป็นเคล็ดให้เรื่องราวที่ไม่ดีมีอันต้อง"วาย"หายสูญ ไป) วิทยานุกรณ์ (น้องสาวพระมหารัชชมังคลาจารย์ วัดสัมพันธวงศ์) ที่ปากน้ำประแสร์ จ.ระยองเป็นเวลาถึง 1 ปีเต็ม โดยช่วงนั้น คุณแม่บุญเรือนได้สั่งห้ามมิให้ศิษย์คนใดเข้ามารบกวนท่านในช่วงเวลานั้นเป็นอันเด็ดขาด..!!!!
    ที่มา,หนังสืออนุสรณ์ อดีตเจ้าอาวาส วัดสารนาถธรรมาราม ระยอง พ.ศ. 2551

    "มีแต่คนที่ไม่ฉลาดเท่านั้น ที่จะไม่รู้ว่า ในหลวงพระองค์นี้ดีอย่างไร.???"
    (พระอาจารย์วัน อุตตโม วัดถ้ำอภัยดำรงธรรม สกลนคร)



    เมื่อหลายสิบปีก่อน ครั้งที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล รัชกาลที่ 8 ถูกลอบปลงพระชนม์ ถึงเสด็จสวรรคต หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ วัดสะแก พระนครศรีอยุธยา เคยเล่าว่าท่านเกิดความสลดสังเวชมาก ว่าคนไทยหลายคน ยังขาดกตัญญูกตเวทิตาคุณต่อพระเจ้าอยู่หัว ท่านคิดอยู่เสมอว่า จะให้คนไทยมีความรักชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ได้อย่างไร..???


    สำหรับองค์ของหลวงปู่ดู่เองนั้น ตั้งแต่บัดนั้นจนกระทั่งทุกวันนี้ แม้กาลเวลาล่วงเลยไป หลายสิบปี กิจวัตรอันหนึ่งที่ท่านทำอยู่มิได้ขาด คือ การสวดมนต์ถวายพระพรแด่ในหลวงทุกวันตลอดมา ขอให้พระองค์มีพระชนมายุยิ่งยืนนานเป็นมิ่งขวัญคนไทยตลอดไป

    หลวงพ่อยังได้กล่าวไว้อีกว่า เพราะพระเจ้าแผ่นดิน(ร.9) ท่านปฏิบัติ(ธรรม) ต่อไปพุทธศานาในเมืองไทยจะเจริญขึ้น เพราะท่านเป็นผู้นำเป็นแบบอย่าง

    สมัยหนึ่งเมื่อหลวงปู่ดู่ ยังทรงสังขารอยู่นั้นบ่ายของวันที่แดดร่มลมตก จู่ ๆ ท่านก็เปรยกับคณะศิษย์ที่ประกอบด้วย "คนตาดี" หลายคนว่า
    "พวกแกลองดูทีซิว่า มีพระรูปไหนอยู่กับในหลวงบ้าง"

    เข้าใจว่าท่านคงหมายถึง กายทิพย์หรือบารมีที่พระมหาเถระแต่ละองค์อธิษฐานพิทักษ์รักษาในหลวง
    ศิษย์ท่านหนึ่งก็ "เข้าที่" ตามหลวงปู่สั่ง พักหนึ่งก็ลืมตาแล้วตอบว่า

    "หลวงพ่อเกษม เขมโก สุสานไตรลักษณ์ ลำปางครับ"
    หลวงปู่ยิ้มแล้วว่า "นั่นองค์หนึ่งละ มีใครอีก"
    ศิษย์แสนซนคนหนึ่งตอบทันที "หลวงพ่อนั่นแหละครับ"
    ท่านมองหน้าแล้วถาม "ทำไมแกจึงว่าอย่างนั้น"
    ศิษย์อธิบายว่า
    "อ้าว ก็หลวงพ่อรู้ได้ว่ามีองค์นั้น องค์นี้อยู่กับในหลวง แสดงว่าหลวงพ่อก็ต้องไปมาด้วยน่ะสิ ไม่อย่างนั้นจะรู้ได้ยังไง"
    เมื่อเข้าเนื้อท่านโบกมือให้ยุติเรื่องทันที ศิษย์ก็ถึงที่ยิ้มไป.


    เราอย่าเห็นสิ่งปลีกย่อยดีกว่าส่วนรวมส่วนใหญ่นะ ส่วนใหญ่นั่นละเป็นของสำคัญ พ่อกับแม่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อะไรที่เป็นหลักของชาติ เป็นหัวใจของชาติให้พากันรักกันสงวน อย่าพากันทำลาย ลูกเต้าจะอวดดีกว่าพ่อกว่าแม่มันไม่ดีละ

    คิดดูในพุทธศาสนาพระเจ้าอาชา ตศัตรูทำลายพระราชบิดา ก็ไม่เห็นเจริญอะไร ท่านว่า เย เกจิ พุทธํ ธมฺมํ สงฺฆํ สรณํ คตา เส น เต คมิสฺสนฺ อบายภูมึ พวกสัตว์ทั้งหลายถ้านึกลึกถึงคุณพระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ มีความเทิดทูนในสิ่งที่ดีงามที่มีคุณมีประโยชน์ทั้งหลายแล้วผู้นั้นเจริญ ผู้ใดไปทำลายหลักใหญ่แล้วจะเอาให้ส่วนเล็กๆนี้ขึ้นครองบ้านครองเมืองมันก็ไม่ดี ให้พากันรักษาหลักใหญ่เอาไว้

    พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวคือหัวใจของชาติไทยเรา นี่ให้พากันจำเอาไว้นะ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว-สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนี้คือหัวใจของชาติไทยเรา ให้พากันเทิดทูน อย่าพากันดูถูกเหยียดหยามทำลาย เช่นอย่างจะทำลายจะไม่ให้มีพระเจ้าอยู่หัว มันคนเกิดมาแล้วพ่อแม่ตายหมด มีแต่ลูกกำพร้าหยิมแหยมๆ มันใช้ไม่ได้นะ สกุลใดที่มีคนคับแคบอยู่ในบ้านนั้นเมืองนั้นแล้วสกุลนั้นไม่เจริญ สกุลใดที่มีความกว้างขวาง มีจิตใจอันกว้างขวาง พิจารณารอบคอบเพื่อทำประโยชน์แก่ส่วนรวมผู้นั้นเป็นผู้ดี

    นี่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ของพวกเราคือหัวใจของคนไทยทั้งชาติ ให้พากันทะนุถนอมนะ อย่าพากันไปทำลาย จะมีแต่ลูกหยอมแหยมๆ พ่อแม่ผู้ให้ความร่มเย็นไม่มีมันไม่เกิดประโยชน์ อย่างไรต้องรักษาส่วนใหญ่เอาไว้ ในประเทศไทยเราก็คือ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว-สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินี นี้คือหัวใจของชาติให้พากันเคารพเทิดทูน อะไรที่เป็นหลักใหญ่ของชาติของส่วนรวมให้พากันรักษา พากันเทิดทูน อย่าพากันทำลายโดยอวดดี

    ดังที่ท่านว่าอึ่งอ่างกับวัวนั่นละ เราก็เห็นในนิทานอีสปแต่ก่อนเรียนหนังสือ อึ่งอ่างตัวเท่ากำปั้นนี่ วัวมันตัวขนาดไหน ลูกอยู่ในรู แม่ไปหากิน ลืมแล้วนิทานอีสป มันเป็นอย่างไรละทีนี้ (ลูกเห็นวัว พอแม่กลับมาเล่าให้แม่ฟังว่าเจอตัวอะไรไม่รู้ใหญ่มาก แม่ก็พองตัว ลูกว่าใหญ่กว่านี้อีกค่ะ) ได้ไหมๆ สุดท้ายสิ่งที่ได้คือพุงแตก นี่ระวังนะ ตัวเล็กๆ อย่าไปพองตัว มันไม่สมควรจะพอง อึ่งอ่างกับวัว วัวมันตัวใหญ่ขนาดไหน อึ่งอ่างตัวเท่ากำปั้น มาพอง มันตัวเท่านี้ไหมๆ เรื่อย สุดท้ายเลยตาย เข้าใจไหม นี่อึ่งอ่างกับวัวมันไม่ดีอย่างนั้นละ หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน วัดป่าบ้านตาด อุดรธานี


    หลวงพ่อพุธ ฐานิโย วัดป่าสาลวัน นครราชสีมา เคยบอกกับผมเมื่อสมัยที่บวชอยู่กับท่านว่า...

    "วันหนึ่งข้างหน้า ในหลวงจะได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งของโลก"

    หลวงพ่อมองหน้าผมแล้วย้ำว่า...

    "ในหลวงเป็นพระโพธิสัตว์ ปรารถนาพุทธภูมิ"



     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 กันยายน 2009
  12. pinkdemon

    pinkdemon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,606
    ค่าพลัง:
    +157
    หมายเหตุ ข้อความข้างบนได้มาจากอีเมล์ที่ลูกศิษย์คนหนึ่งส่งให้ค่ะ ดูรูปกันต่อดีกว่านิ

    รักในหลวงมากๆๆๆๆๆ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 1150246847.jpg
      1150246847.jpg
      ขนาดไฟล์:
      23.4 KB
      เปิดดู:
      50
    • maebunruan.jpg
      maebunruan.jpg
      ขนาดไฟล์:
      53.8 KB
      เปิดดู:
      51
  13. pinkdemon

    pinkdemon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,606
    ค่าพลัง:
    +157
    เบี้ยวเจ้าพ่อมาแล้วสี่สิบห้านาที อิอิอิ เด๋วต้องเลิกแร๊ะ ฝนตกยังไงๆ เราก้อมะนอนกะน้องหมาแน่น๊อนนนนน
     
  14. chaivat chinkidjakar

    chaivat chinkidjakar เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    1,601
    ค่าพลัง:
    +21,785
    หวัดดีก๊าบป้าแน๊ต
    ผมปฎิบัติอย่างที่ป้าบอกมานั่นและครับทุกวันยังไม่เคยพักสักวันเลยครับ เดินจงกรมอย่างที่ป้าบอกอะครับ สวดพาหุงฯมหากาฯของหลวงพ่อจรัญ บางทีสวดจนไม่รู้ว่าไปถึงใหนสัปงกsleeping_rb ง่วงมากๆ ตอนนี้เวลาสวดพยายามให้ตื่นตัวไว้ ใจมันก็ไม่สงบ ส่วนการนั่งจิตชอบหลงท่องพุทโธบ่อยๆ เผลอทีไรก็พุทโธทีนั้นครับ อิอิ
    คิดถึงป้าแน๊ตครับ
     
  15. Yingpai

    Yingpai Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    55
    ค่าพลัง:
    +48
    ;aa51เย้..และแล้วนางฟ้าของเราก็มาปรากฏตัว
    แถมยังมีสาระที่ดีเป็นคติสอนใจให้อีก เอาไปเลยรางวัล
    คนสวยประจำบ้านป้าแน๊ต(เจ้าบ้านที่สวยที่สุด)ขอบคุณ
    นะค๊าที่ช่วยตอบคำถามเกี่ยวกับความไม่เข้าใจของสมาชิก
    ทั้งหลายในบ้านนี้ ให้เข้าใจกันซักที บอกแล้วให้เข้ามาบ่อยๆ
    สมาชิกและไม่ชิกเขารู้สึกอบอุ่นกันมากค๊า(รู้สึกได้นะคะ)
    ;ปรบมืออ้อ..น้องปาล์ม พี่ถามให้แล้วคนที่พูดถึงและลุ้นกะปาล์ม
    คือแต๊น..แต้น..ท่านพอชูเดชกะพี่จิตงามจ้า มีอีกนะแต่จำหน้าไม่ได้เพราะวันนั้นที่พี่คุยด้วยกันมากที่สุดก็มีพี่ๆสองท่านนี่แหละ
     
  16. Ricardo DeCalgary

    Ricardo DeCalgary เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,068
    ค่าพลัง:
    +11,341
    ได้เลยครับป้า แต่ว่าป้าห้ามเกร็งลมปราณ เวลาดึงมีดออกจากหลังนะครับ เดี๋ยวเลือดไหลมาก และ ไม่หยุดครับ

    จากนั้นต้องใช้ยาห้ามโลหิตจากวัดเส้าหลิน เลือดหยุดดีนัก

    ถัดไปก็กินยาสมานแผล และ ยาถอนพิษของสำนักบู๊ตึ้ง

    พักรักษาตัวสัก ๑๐ ราตรี ทุกอย่างจะเข้าสู่ปกติครับ

    ถึงเวลานั้น ซ้งติงกระซวกกำสุดขอบฟ้า ก็กลับมาใช้ได้ดังเดิมครับ

    ข้อสำคัญ ช่วงพักฝื้น ๑๐ ราตรี ห้ามโกรธ และ ห้ามเกร็งลมปราณเด็ดขาด มิฉะนั้น จะถ่ายท้องสามวัน จนหมดแรง

    ว่าแต่ว่า มีดเล่มนั้นมาจากสำนักไหนครับ ที่ถามนี้ไม่ใช่อะไรหรอกครับ
    จะได้หลบได้ถูก ไม่ไปบริเวณนั้น (ฮิ ฮิ งงตัวเองแล้วครับ :))

     
  17. Ricardo DeCalgary

    Ricardo DeCalgary เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,068
    ค่าพลัง:
    +11,341
    ๕๕๕๕

    ป้าครับ ขออนุญาตนำวิธีนี้ไปใช้ด้วยนะครับ เดี๋ยวจะไปซื้อ พจนานุกรมเล่มใหญ่ครับ ตาจะได้สว่างซักที
    (ยังดีนะครับ ที่ไม่ได้แนะนำให้ใช้จานกระเบื้อง :))

     
  18. Ricardo DeCalgary

    Ricardo DeCalgary เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,068
    ค่าพลัง:
    +11,341
    ขออภัยครับ ป้าแน๊ต คนฉวย

    พอดีเรียนแบบ พี่เปิ้ลเมืองเบียร์ครับ

    คนฉวย ก็คนฉวยครับ

    :)

     
  19. Yingpai

    Yingpai Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    55
    ค่าพลัง:
    +48

    :z12นั่นดิ..มางมาจากไหน ฮิ ฮิ
     
  20. chattrg

    chattrg เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    4,337
    ค่าพลัง:
    +13,241
    ไปไหนกันหมด คร้าบบบบบบบบบบ
     

แชร์หน้านี้

Loading...