การเตรียมการอพยพมนุษย์โลก เพื่อช่วยเหลือระหว่างการชำระโลก ของมิตรจากต่างพิภพ และข้อมูลอื่นๆจากสาธารณรัฐเช็ก

โอ้...ต้องขอขอบพระคุณพี่เกษมมากนะครับ ที่ช่วยมาให้ความรู้กับพวกเรา

ตอนนี้ถ้ายังมีอะไรที่จะมาแชร์ให้พวกเรารู้อีก ก็เชิญโพสต์ต่อได้นะครับ
เพราะผมคงต้องขอเวลาแปลและขัดเกลาไปอีกซักระยะหนึ่ง (น่าจะประมาณ 2-3 วัน)
เพราะว่า จะแปลเลย โพสต์เลย เป็นตอนๆไปไม่ได้เหมือนเดิมแล้วครับ
เพราะมาถึงเรื่องที่ยากมากๆแล้วครับ ผมต้องทำความเข้าใจก่อน (อย่างยากลำบาก)

แต่ว่าก็มีเรื่องที่จะเล่าให้ฟังอีกนิดหนึ่งนะครับ คือว่า
เมื่อวันที่ 31/7/09 ที่ผ่านมา ที่ผมได้ไปที่เขากะลา และผู้อาวุโส (คุณวาสนา)
ได้กรุณาขยายระบบให้ผมได้เข้าใจสิ่งที่อึดอัด ขัดข้องอยู่หลายๆอย่าง

อย่างหนึ่งก็คือเรื่องเนื้อหาที่แปลนี่แหละครับ
ด้วยความที่ผู้อาวุโสก็คงจะได้รับข้อมูลโดยตรงมาจากระบบในขณะนั้นกระมัง
จึงทำให้ผมรู้สึกว่ากระจ่างแจ้งไปเยอะทีเดียว เพราะคำตอบจะพุ่งตรงลงมาที่ใจเราเลยทีเดียว

ท่านบอกว่า ก็ข้อความที่ผมเอามาแปลนั้น เขาออกแบบมาให้เหมาะสำหรับคนทั่วไปที่อยู่ในทวีปนั้น
ที่นับถือศาสนานั้นๆอยู่แล้ว ดังนั้น มันก็เลยถูกต้องเหมาะสมแล้วกับผู้คนในทวีปนั้น
ดังนั้น พอเราเอามาแปลให้คนที่นับถือศาสนาที่แตกต่างไป มันก็เลยรู้สึกอึดอัดขัดข้องเป็นธรรมดา

มีหลายๆอย่างในจักรวาลที่สมองและภูมิปัญญาของมนุษย์ไม่สามารถเข้าใจได้เลย ทำยังไงก็คงจะเข้าใจไม่ได้
ดังนั้น สิ่งสำคัญในตอนนี้ก็คือ มุ่งออกจากขันธ์ 5 ดีกว่า หมั่นพินิจ พิจารณาดูจิต ดูขันธ์ 5 ของตัวเอง
ให้รู้เท่าทันจะดีกว่า จะได้ทันเวลา และก็อะไรก็ถูกต้องหมดนั่นแหละ ถูกต้องในขณะนั้น สถานที่นั้นๆ

อะไรแบบนั้นหนะครับ ผมก็จำไม่ได้หมด เพราะจุดประสงค์หลักของการสื่อสารกับมนุษย์ของมนุษย์ต่างดาว
ก็คือเรื่องภัยพิบัติ ดังนั้น พวกเขาจึงไม่มีนโยบายที่จะไปเปลี่ยนความเชื่อด้านศาสนาของใคร
มีแต่จะส่งเสริม เพื่อให้มนุษย์มีระดับการพัฒนาทางจิตมากขึ้นๆ บนวิถีทางแห่งศาสนานั้นๆแหละ

เพราะสมมุติว่า ต่อให้ศาสนาใดศาสนาหนึ่ง พูดถูกที่สุด ศาสนาอื่นๆผิดหมด แล้วถ้ามนุษย์ต่างดาว
ไปบอกว่าศาสนาที่พวกเขานับถืออยู่นั้นหนะผิดพลาด ไม่ถูกต้อง อะไรจะเกิดขึ้น การสื่อสารก็คงจะไร้ผลในทันที
แถมมิหนำซ้ำคงจะถูกหาว่าเป็นมาร เป็นซาตานไปอย่างแน่แท้ทีเดียว

สรุปว่า แปลไป-อ่านไป ก็ต้องรู้จักมีสติถอยออกมาดูความคิดของตัวเองด้วย อย่าให้อะไรมาครอบงำมากจนเกินไป

และที่สำคัญที่สุด "มันไม่มีอะไรจริงเลย" "ทุกอย่างมันเป็นของปลอมหมด ของหลอกลวงทั้งหมด"

เพราะว่าโลกนี้คือ "มายา" คือโรงละครเท่านั้นเอง มีอะไรหละที่จริงแท้แน่นอน มีอะไรหละที่เป็นตัวเราของเราจริงๆ

หวังว่าทุกๆท่านก็คงจะพอได้ไอเดียร์อะไรบ้างแล้วนะครับ

.............................

 

[ame="http://www.youtube.com/watch?v=B1tRm1WEM7s&feature=player_embedded"]http://www.youtube.com/watch?v=B1tRm1WEM7s&feature=player_embedded[/ame]


รบกวนพี่ Chayutt หรือ ผู้รู้ช่วยแปลทีนะคับ ผมว่าอาจจะมีอะไรดีๆก็ได้

ขอบคุณคับ ^^

 

พี่เกษมสุดยอดข้อมูลจริงๆครับ

 

อ้างอิง:
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ Chayutt

Chayutt สมาชิก (แปลและเรียบเรียง)

ข้อความบางส่วนจากหนังสือชื่อ สาส์นถึงมนุษยชาติ (The Message to Mankind)
โดย: BORUP'S SPIRITUAL SCHOOL (1-2)

ที่มา หน้า 10
การเตรียมการอพยพมนุษย์โลก เพื่อช่วยเหลือระหว่างการชำระโลก ของมิตรจากต่างพิภพ และข้อมูลอื่นๆจากสาธารณรัฐเช็ก

เมื่อความสิ้นหวังมาถึงจุดสูงสุด พวกเราจะลงมาจากอวกาศ ในลักษณะที่จะทำให้มนุษย์สามารถเข้าใจได้ ชาวโลกจะเห็นพวกเรา ได้ยินเสียงพวกเรา และสัมผัสพวกเราได้

พวกเราจะหยุดสงคราม(นิวเคลียร์) ที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ เร็วดุจสายฟ้าฟาด มันจะเกิดขึ้นเร็วมากแค่วินาทีเดียว

แล้วต่อจากนั้นพวกเราก็จะอพยพชาวโลก ที่เหลือรอดชีวิตอยู่บนโลกขึ้นไปอยู่ในยานอวกาศขนาดใหญ่ ที่ลอยประจำการอยู่ในภารกิจนี้จำนวนมากมาย ทุกสิ่งทุกอย่างในปฏิบัติการครั้งนี้ได้ถูกคำนวณและถูกวางแผนมาอย่างถี่ถ้วนแล้ว

หลังจากการอพยพ โลกก็จะเริ่มกลับหัวลง ตอนนั้นโลกก็จะเปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง พืนผิวโลกก็จะเปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิงด้วย ชาวโลกจะจดจำสภาพของโลกของตนเองไม่ได้อีกต่อไป พวกเขาจะทำได้แค่ต้องสร้างโลกใหม่เท่านั้น การกลับหัวของโลกจะเสร็จสิ้นภายในวินาทีเดียว มันรวดเร็วอย่างนั้นเลยหละ ประดุจฟ้าแลบ

เมื่อการกลับหัวของโลกเสร็จสิ้นลงแล้ว มันก็จะชำระสิ่งที่ไม่พึงปรารถนาทั้งหลายที่มนุษย์โลกเป็นผู้ยัดเยียดให้กับมันออกไปจนสะอาด เพื่อให้มีสภาวะที่เหมาะสมต่อการดำรงชีวิตของสิ่งมีชีวิตทั้งหลาย แล้วจากนั้นสิ่งมีชีวิตทั้งหลายก็จะถูกนำกลับลงมายังโลกใหม่อีกครั้ง พืชพันธุ์ต่างๆก็จะงอกในไม่ช้า สรรพสัตว์และนกต่างๆก็จะปรากฏขึ้นมาใหม่ และมนุษย์โลกก็จะได้รับความช่วยเหลือครั้งใหญ่อีกครั้งหนึ่ง ในการสร้างโลกขึ้นมาใหม่

ภายในระยะ 6 เดือน งานซ่อมแซมส่วนใหญ่จะเสร็จสิ้น จนเพียงพอและเหมาะสมที่จะใช้เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของมนุษย์โลกได้แล้ว ในวิถีใหม่ที่แตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง
</TD></TR></TBODY></TABLE>
"การกลับหัวของโลกจะเสร็จสิ้นภายในวินาทีเดียว มันรวดเร็วอย่างนั้นเลยหละ ประดุจฟ้าแลบ"

ประโยคนี้ผมอ่านดูแล้ว มันขัดกับหลักของความเป็นจริงมากนะครับคุณชยุต โลกเราหมุนรอบตัวเองต้องใช้เวลาถึง 24 ชั่วโมงถึงจะหมุนครบ 1 รอบ แต่ทำไมการกลับหัวของโลกจะเสร็จสิ้นภายในแค่ 1 วินาที ซึ่งมันไม่น่าจะเป็นไปได้เลย ไม่ทราบว่าคุณชยุตตีความหมายของบทความนี้ผิดไปหรือเปล่าครับ

อันนี้เป็นข้อมูลจากอาจารย์ปริญญา ที่แจ้งเอาไว้เมื่อหลายปีก่อนนู้นครับ
ตามรหัส 7:7:49 โลกจะตีลังกากลับขั้วใช้เวลาราว 2 เดือนเพื่อเข้าสู่ยุคพลังงานใหม่ รหัส 666



การเปลี่ยนแปลงทางกายภาพ ที่จะเกิดหลังจากการพลิกกลับขั้วแม่เหล็ก

โลกจะพลิกตัวลงไปทางใต้ แล้วกลับขึ้นไปใหม่ ขั้ว S กลับเป็น N ใข้เวลาราว 2เดือน ตามรหัส 49+7

1.แนวแกนหมุนของโลกทำมุมกับแนวดิ่ง 32 องศา (เอียงเพิ่มอีก 8.5 องศาจากเดิม 23.5 องศา)ทาง NE*
2.แนวแกนแม่เหล็กโลก จะย้ายไปอีก 3องศา (เดิม 11 องศา) + 3องศา
3.ระบบโครงข่ายสนามแม่เหล็ก จะยกตัวสูงขึ้น 60.000 กม.
4.น้ำหนักมวลบนผิวโลกจะลดลง
5.ความเข้มสนามแม่เหล็กโลกเปลี่ยนเป็น 22 เกาส์ (จากเดิม 14 เกาส์)
6.โลกจะหมุนเร็วขึ้นจาก 24 ชม. เป็น 22 ชม.ต่อรอบ<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->
__________________
<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->

 

ผมก็สงสัยมาก่อนตั้งแต่ตอนแปลแล้วหละครับ แต่คิดว่าแปลไม่ผิดนะครับ
เขาใช้คำว่า "Second" ซึ่งแปล่า "วินาที" หรือ "ชั่วประเดี๋ยวเดียว" ซึ่งก็ไม่ต่างกันนัก

แต่อย่างไรก็ตาม ผมก็กำลังส่งอีเมล์ไปถามเพื่อนชาวต่างชาติอยู่เหมือนกันครับ
ว่าผมเข้าใจถูกต้องไหม๊ เดี๋ยวก็คงมีคำตอบกลับมาเร็วๆนี้แหละครับ

ลองดูข้อความต้นฉบับ พร้อมคำแปลข้างล่างนี้นะครับ

...After the evacuation has taken place the tipping of the Earth will happen.
The Earth will undergo a total change - its present surface will change totally.
People will not recognize their Earth again - they will simply have to manufacture new globes.

The tipping itself will only last a second, it will be as quick as that, lightning-like.
When it is over it will be possible to cleanse the atmosphere of the impurities
put into it by mankind. Then life will again be possible on Earth,
and then life will return to Earth.
<o></o>
หลังจากการอพยพ โลกก็จะเริ่มกลับหัวลง ตอนนั้นโลกก็จะเปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง
พืนผิวโลกก็จะเปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิงด้วย ชาวโลกจะจดจำสภาพของโลกของตนเองไม่ได้อีกต่อไป
พวกเขาจะทำได้แค่ต้องสร้างโลกใหม่เท่านั้น การกลับหัวของโลกจะเสร็จสิ้นภายในวินาทีเดียว
มันรวดเร็วอย่างนั้นเลยหละ ประดุจฟ้าแลบ<o></o>

เมื่อการกลับหัวของโลกเสร็จสิ้นลงแล้ว มันก็จะชำระสิ่งที่ไม่พึงปรารถนาทั้งหลาย
ที่มนุษย์โลกเป็นผู้ยัดเยียดให้กับมันออกไปจนสะอาด เพื่อให้มีสภาวะที่เหมาะสม
ต่อการดำรงชีวิตของสิ่งมีชีวิตทั้งหลาย
แล้วจากนั้นสิ่งมีชีวิตทั้งหลายก็จะถูกนำกลับลงมายังโลกใหม่อีกครั้ง...


...............<o></o>

 

เดี๋ยว...ก่อนที่จะไปแปลบทยากๆพวกนั้นให้เสร็จ
ก็จะขอแว๊บมาแปลบทง่ายๆ จากแหล่งข้อมูลอื่นๆ
ที่ผมบังเอิญไปเจอมาก่อนนะครับ..

ยังไม่รู้ว่าจะโพสต์ซักกี่โพสต์ แต่ว่าทุกๆโพสต์จะเป้นข้อมูล
จากการติดต่อสื่อสารทางจิตของคนที่อยู่ในประเทศต่างๆ
กับรูปธรรมชีวิตนอกโลกทั้งหมดเลยนะครับ

คือมีเวปไซท์หนึ่งเขารวบรวมเอาไว้หนะครับ

คือเวปนี้นะครับ http://international.thespiritguides.co.uk

..................

 

ที่มา: http://international.thespiritguides.co.uk/Article_Accurate__Clear_Discernment_
Regarding_All_Major_Events_During_This_Planetary_Frequency_Shift_3015.aspx

ความเข้าใจที่ถูกต้องและชัดเจนเกี่ยวกับเหตุการณ์ต่างๆที่กำลังเกิดขึ้น
ในระหว่างการเปลี่ยนระดับคลื่นความสั่นสะเทือนของดาวเคราะห์โลก
<o></o>
รับข้อมูลโดย: Michael Ellegion<o></o>
ผู้ส่งข้อมูล: ท่าน Ashtar<o></o>
วันที่: วันอังคารที่ 24 กุมภาพันธุ์ 2009<o></o>
ผู้โพสต์ข้อความ: Michael Ellegion<o></o>



บทสัมภาษณ์ผ่านรายการวิทยุ โดยนาย Michael Ellegion



Michael อภิปรายว่ามีผู้ที่เจตนาดีอยู่มากมาย แต่ชี้นำผิดๆ
เกี่ยวกับการพยากรณ์เกี่ยวกับภัยพิบัติและโศกนาฏกรรมของโลก
ที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้และในปี 2012
เขาบอกว่าเป็นเพราะผู้คนเหล่านั้นยังติดอยู่ในมิติที่ 3 แบบเก่าๆ
และกำลังมองเห็นและตีความทุกสิ่งทุกอย่างไปตามความรู้
และความเห็นแบบเก่าๆและจำกัดของพวกเขาเอง<o></o>

และเพราะว่าพวกเขาใช้บรรทัดฐานของเส้นพิกัดเวลาเก่า (Old time line)
ที่ๆโศกนาฏกรรมเคยถูกกำหนดให้เกิดขึ้นในอนาคตเก่าจริงๆ<o></o>

สิ่งสำคัญตอนนี้ คือต้องปล่อยให้พวกเขาปรับสภาวะให้เข้ากับเส้นพิกัดเวลาใหม่ (New time line)
ซึ่งได้เปลี่ยนไปจากเส้นพิกัดเวลาเก่าอย่างเสร็จสิ้นสมบูรณ์เรียบร้อยแล้ว เสียก่อน

พลังงานแห่งแสงสว่างของจักรวาลที่มีพลานุภาพมาก กำลังมาถึง
และปรากฏอยู่ที่นี่ บนดาวเคราะห์โลกใบนี้ จะทำให้เกิดการยกระดับทางจิตวิญญาณของโลก
และมันก็กำลังเป็นไปอย่างรวดเร็ว<o></o>
<o></o>
ดังนั้นหากผู้ใดยังคงมองสิ่งต่างๆผ่านทางความคิดที่จำกัดและจิตสำนึกที่มืดทึบของตนเองอยู่
แทนที่จะเปิดกว้างสู่มิติที่ 5 ซึ่งมีระดับคลื่นความถี่ที่สูงกว่าแล้ว
ผู้นั้นก็จะไม่สามารถมองเห็นความน่าพิศวงของรุ่งเรืองของยุคทอง
แห่งสันติสุข ความมั่งคั่ง และการสิ้นสุดของความทุกข์ทรมานและ
ความอดอยากอย่างแท้จริง ที่กำลังจะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่ปีข้างหน้านี้ได้

.................................<o></o>

 

เอ่อ..อันนี้นะ ก็เป็นเพียงบทสัมภาษณ์ของตัวแทนกลุ่มที่เชื่อเรื่องภัยพิบัติ
และกำลังดำเนินการต่างๆเพื่อรับมือกับภัยพิบัติอยู่เท่านั้นเองครับ

เขาบอกประมาณว่าสาเหตุหลักมีอยู่สองประการ ก็คือ
อย่างแรกก็คือปฏิทินชาวมายัน ที่ว่าวันสุดท้ายคือ 21 ธันวาคม 2012
ส่วนอย่างที่สองคือรอบการเกิดจุดดับบนดวงอาทิตย์ที่จะครบรอบในปี 2012 นี้ ว่างั้นนะ

สิ่งที่พวกเขากำลังทำคือหาจุดที่ปลอดภัย เอาไว้หลบภัย อะไรแบบนั้นหนะครับ
เพราะเขาบอกว่ายังมีเวลาเหลืออีก 1621 วัน (อันนี้น่าจะสัมภาษณ์ตั้งแต่ช่วง
วันที่ 20 กรกฎาคม 2008 โน่นกระมัง)

สรุปว่าฟังๆดูแบบเข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้างนี่ก็ ไม่ได้มีเรื่องอะไรที่ตื่นเต้น
นอกเหนือไปจากที่พวกเราโพสต์ๆกันอยู่ในเวปพลังจิตนี่หรอกครับ

.....................

 

"การกลับหัวของโลกจะเสร็จสิ้นภายในวินาทีเดียว มันรวดเร็วอย่างนั้นเลยหละ ประดุจฟ้าแลบ"<O</O

ในความคิดของผมนะครับ ผมคิดว่าน่าจะเป็นคำพูดเชิงอุปมาอุปไมยมากกว่า เปรียบเทียบเหมือนการกดปุ่มปล่อยจรวดติดหัวรบนิวเคลียร์ ตามที่เราเคยเห็นกันในภาพยนต์ที่เกี่ยวกับสงครามนิวเคลียร์ เขาจะใช้เวลากดปุ่มแค่ 1 วินาทีเท่านั้น จรวดนำวิถีติดหัวรบนิวเคลียร์นั้น ก็จะพุ่งไปสู่เป้าหมายเพื่อการทำลายล้าง จรวดอาจจะต้องใช้เวลาพุ่งไปในอากาศนานเป็นชั่วโมงก็ได้ ถ้าเป้าหมายอยู่ห่างไกลจากสถานที่ปล่อยจรวด

ในเรื่องการทำให้โลกกลับหัวนี้ ก็น่าจะเป็นไปในทำนองเดียวกัน คือเขาจะใช้วิธีทำให้โลกหยุดหมุน 1 วินาที เพื่อให้น้ำทะเลเข้ามาชำระล้างมวลมนุษยชาติที่กำลังทำสงครามนิวเคลียร์กันให้ยุติลง และเพื่อเป็นการปรับขั้วเพิ่มพลังสนามแม่เหล็กโลก ด้วยการกดปุ่มปลดปล่อยพลังงานบางอย่าง มาจากดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ พุ่งตรงเข้ามายังใจกลางแกนของโลก ทำให้โลกหยุดหมุนไป 1 วินาที แต่กระบวนการต่อเนื่องจากนั้นอาจต้องใช้เวลา 1 - 2 เดือนเลยก็เป็นได้

ผมคิดว่ามนุษย์ต่างดาวเขาก็ต้องมีเครื่องคอมพิวเตอร์ ที่ตั้งโปรแกรมการทำงานในเรื่องเหล่านี้เอาไว้เรียบร้อยแล้ว เพียงแต่พวกเขารอคอยจังหวะเวลาที่เหมาะสม ที่จะกดปุ่มด้วยเวลาเพียง 1 วินาที เช่นเดียวกันกับที่มนุษย์โลกบางชาติก็ได้ตั้งโปรแกรมของเครื่องคอมพิวเตอร์ ให้สั่งการปล่อยจรวดติดหัวรบนิวเคลียร์เข้าโจมตีประเทศที่เป็นศัตรูของตนเองเอาไว้เรียบร้อยแล้ว เพียงแต่รอคำสั่งจากผู้นำของเขาในการกดปุ่ม เพื่อเริ่มการทำงานของอาวุธมหาประลัยนี้เท่านั้นเองครับ

 

คิดเล่นๆว่า Planet X อาจเป็นยานอวกาศฐานหลักหรืออาณานิคมอยู่ได้ เช่น สถานีอวกาศบาบิลอน5 แต่นี่เป็นยานเคลื่อนที่ได้เอง เทคโนโลยีการสร้างสูงมากขนาดสามารถทำให้สิ่งมีชีวิตดำรงอยู่ได้คล้ายดาวเคราะห์โลก เช่นสร้างเกราะหุ้มหรือบรรยากาศเลียนแบบได้เป็นสีแดง สร้างแรงดึงดูดได้เอง อะไรเทือกนั่น *0*

เห็นด้วยกับผู้อาวุโสของคุณชยุต เพราะตัวเราเองไม่เคยคิดว่าแตกต่างแล้วจะเรียนรู้ไม่ได้ หรือเข้าใจไม่ได้ในสิ่งอื่นๆและทุกสิ่งที่เราเจอ ใช้ใจซิคะ ดีกว่าสมองหยักๆเยอะเลยนะ สำหรับเรื่องทางนี้ *0*

 

ขอถามพี่เกษม หรือพี่ชยุต หรือผู้ที่ตอบได้
เรื่องจุดดับบนดวงอาทิตย์น่ะค่ะ

คืออาจารย์ปริญญา ตัณสกุล ทำนายไว้ว่า เมื่อไรจุดดับบนดวงอาทิตย์ครบ 11 จุดเมื่อไร เมื่อนั้นจะเป็นวันชำระล้างที่แท้จริง
โดยอาจารย์ปริญญา กล่าวว่าปี 2009 มีจุดดับบนดวงอาทิตย์ 6 จุด และในปี 2012 จะมีจุดดับทั้งสิ้น 7 จุด (ยังไม่ถึง 11 จุด)

ขอถามว่า
1. ในปี 2012 จุดดับบนดวงอาทิตย์ยังไม่ครบ 11 จุด เพราะฉนั้นปี 2012 ยังไม่ใช่วันชำระล้างใช่มั้ยคะ ?
2. อยากทราบว่าปีปัจจุบัน 2009 มีจุดดับบนดวงอาทิตย์กี่จุดกันแน่คะ ?

 

ถามเรื่องจุดดับ ก็อยากจะอธิบายก่อนว่าดวงอาทิตย์มีวัฏจักรการเกิดจุดดับ คือจะเกิดมากสุดแล้วก็หายไปแล้วก็กลับมาเกิดใหม่ที่เรียกว่า solar cycle ซึ่งแต่ละรอบจะใช้เวลา 11 ปี ณ ตอนนี้เป็นวัฏจักรรอบที่ 24 แล้ว แต่ว่ายังมีปัญหาอยู่ว่า ยังไม่เห็นจุดดับโผล่ขึ้นมาเสียที บางคนก็มองว่าหรือว่ายังไม่จบรอบที่ 23

อย่างไรก็ตามมีการคำนวณไว้ว่าระยะเวลาที่จะเกิดจุดดับมากที่สุดใน solar cycle รอบที่ 24 นี้จะเป็นวันที่ May, 2013 ด้วยจำนวนจุดดับ 90 จุด
>> Solar Cycle Progression and Prediction

ส่วนในเวปนี้มีรูปและข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับดวงอาทิตย์ จะเห็นว่ายังไม่มีจุดดับของดวงอาิิทิตย์โผล่ขึ้นมาเลย
SOLARCYCLE 24.com / Solar Cycle 24 / Spaceweather / Amateur Radio VHF Aurora Website.

ข้อมูลล่าสุดในเวปนี้ ที่เค้าอัพเดต
08/05/2009 by Kevin VE3EN at 11:50
The sun remains blank of sunspots for the 26th day and solar activity will remain at very low levels.

On Wednesday I will have some free time and will finally update the trend charts etc. Not much to update however, as the sun has been brutally quiet since Sunspot 1024.

แปลคร่าวๆ ก็ืคือ ดวงอาทิตย์ยังไม่มีจุดดับเกิดขึ้น

รูป http://sohowww.nascom.nasa.gov/data/realtime/mdi_igr/1024/latest.jpg

 

May 2009 Solar Cycle 24 Prediction Update




First Solar Cycle 24 Prediction April 2007



For additional information or comments, contact Doug.Biesecker@noaa.gov


The Blank Sun


<CENTER></CENTER><CENTER></CENTER>

 

มันมาอีกแล้วอ่ะ

รัฐบาล ไม่กลัวอาถรรพ์ ‘666’ ฤกษ์ซาตาน!!! แถลงผลงาน6เดือนวันที่ 6กับ6พรรคร่วม

• • • 6 ส.ค. 52 06.55 น.
    • อ่าน<SCRIPT src="http://app.sanook.com/weblog/counter/js/?site_id=71&weblog_id=21&entry_id=812652" type=text/javascript></SCRIPT> 7,913 ครั้ง
  • เลือกขนาดตัวอักษร :
• สนับสนุนเนื้อหา

<!-- มาร์ค ยันไม่กลัวอาถรรพ์ความเชื่อของเลข 6 ที่เรียงกันสามตัวแล้วหมายถึงรหัสลับของซาตาน เผยมีพระปราบมาร ปณิธาน บอกต่อสู้กับความชั่วร้าย
-->
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี

"รัฐบาล"ถือฤกษ์ซาตาน แถลงผลงาน "มาร์ค" ไม่กลัวอาถรรพ์เพราะมีพระปราบมาร "ปณิธาน" บอกต่อสู้กับความชั่วร้าย ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในวันที่ 6 สิงหาคม เวลา 10.00 น. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เตรียมแถลงผลงานรัฐบาลของ ในวาระที่รัฐบาลทำงานครบ 6 เดือน (มกราคม มิถุนายน 2552) ที่ตึกสันติไมตรีหลังใน ทำเนียบรัฐบาล
รายงานข่าวจากคณะรัฐมนตรีระบุว่าในการแถลงผลงาน 6 เดือนของรัฐบาลเป็นการแถลงในวันที่ 6 สิงหาคม ซึ่งเป็นผลงานของ 6 พรรคร่วมรัฐบาลนั้น ถือว่าเป็นฤกษ์ที่ไม่ค่อยดี เพราะมีเรื่องเล่าสืบมาแต่โบราณของชาวคริสต์ว่าการเรียงกันของเลข 6 สามตัวพร้อมกันคือ 666 หมายถึงรหัสลับของซาตาน ที่มีความน่ากลัว เพราะเชื่อกันมานับแต่โบราณกาลจวบจนปัจจุบันว่าปิศาจร้ายที่จะมาพร้อมกับเลขนี้ และเลขนี้ก็มีการนำมาทำเป็นภาพยนตร์ไทยเรื่อง666 ตายไม่ได้ตายด้วย
นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงรหัส666 ว่า ตนในฐานะที่เรียนที่ต่างประเทศมานาน 12 ปี ก็เข้าใจวัฒนธรรมของฝรั่งในเรื่องความเชื่อรหัส 666 เป็นอย่างมาก เพราะถือกันว่าเป็นรหัสของซาตานที่จะกลับมาครองโลกจึงต้องช่วยกันกำจัด ซึ่งตามตำนานของชาวตะวันตกบอกว่าซาตานพยายามจะมาทำลายพระเจ้าเพื่อที่จะเป็นพระเจ้าองค์ใหม่ ซึ่งจะทำให้โลกถูกความชั่วครอบครอง และความดีจะสูญสิ้น
"ดังนั้นการที่วันแถลงผลงานมาตรงกับเลข 666 เพื่อสะท้อนว่าเราพยายามจะกำจัดและต่อสู่ก้บความชั่วร้าย และเราก็หวังว่าจะชนะเพื่อเปลี่ยนแปลงไปสู่สิ่งที่ดีกว่า"นายปณิธาน กล่าว
ขณะที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงเรื่องดังกล่าวว่า ไม่กลัวกับรหัสดังกล่าวเพราะมีพระปราบมารอยู่แล้ว
นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่ได้ตั้งใจให้กำหนดการแถลงผลงานตรงกับรหัสซาตาน แต่ในเมื่อมันตรงกันก็ดีเพราะจะตรงกับชื่อหนังจะได้ดังเหมือนหนัง ส่วนฝ่ายค้านจะโจมตีหรือไม่นั้นก็ไม่ห่วงเพราะฝ่ายค้านโจมตีได้ทุกเรื่องอยู่แล้ว

 

ขอโมทนาบุญและขอขอบคุณที่คอยบอกมาเสมอนะครับผมเพิ่งมาสมัคใหม่แต่คอยติดตามรายงานฉบับนี้อยุเสมอนะครับ

 

มาดูความหล่อของพี่ Chayutt กัน

 

สวัสดีครับ ผมขอร่วมออกความเห็นในกระทู้ด้วยคนที่นานๆ ผมจะเห็นกระทู้ที่น่าสนใจแบบนี้ซะที
ผมเองชอบบทความที่คุณ Avatar_boy ที่เคยลงไว้เกี่ยวกับเรื่องการเปลี่ยนแนวความคิดใหม่เพื่อ
เข้าสู่พลังงานใหม่ในหัวข้อ Ancient School นั่นแหละครับ น่าสนใจจนอยากให้คุณชยุตช่วย replay
อีกรอบ ไม่รู้ว่าคุณชยุตได้ติดต่อคุณ Avatar_boy อยู่รึเปล่า ผมรู้สึกว่าเขาเป็น Master of Ascension
นะครับ โผล่มาแล้วก็จากไป มันน่าเสียดายอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว

ก่อนหน้านี้ โลกเราถูกพิพากษาแล้วว่าอารยะธรรมยุคนี้ต้องจบลง ความโสมมและความเห็นแก่ตัว
มันทำลายทุกสิ่งทุกอย่างจนเบื้องบนทนรับไม่ไหว แต่ก่อนที่ทุกอย่างจะถูกตัดสินอย่างเป็นทางการ
จิตวิญญาณบริสุทธิ์ดวงหนึ่งได้หลบหนีมาเพื่อจุติที่โลกใบนี้เพื่อมาเป็นโล่ห์กำบังให้แก่มนุษย์ที่ชะตาถึงคาด
ด้วยปณิธานที่จะเปลี่ยนแปลงทุกสิ่งทุกอย่างโดยปราศจากการสูญเสีย เขาเกิดมาเพื่อเสียสละตัวเอง
เพื่อปกป้องมนุษยชาติ และเขานำพากองทัพแห่งแสงสว่างลงมาเพื่อปกป้องมวลมนุษย์ด้วย
โลกถูกแบ่งเป็นสองฝ่าย หนึ่งคือผู้ทำลาย และอีกหนึ่งคือผู้สร้าง พวกคุณอยู่ฝั่งไหนครับ
ผมเองรับรู้ข้อความบางอย่างที่ส่งผ่านมายังผมได้ว่า โลกนี้จะเกิดสงครามในอีกไม่กี่ปีนี่เอง
มันไม่ใช่สงครามอย่างอเมริกากับอัลกออิดะ หรือสงครามโลกครั้งที่สอง แต่ผมหมายถึง
สงครามระหว่างผู้สร้างและผู้ทำลายต่างหาก มันคือสงครามโลกของจริง ผมเห็นหลายคนมัก
มองหาแต่โอกาสที่จะเกิดภัยพิบัติ หารู้ไม่ว่า มันไม่มีประโยชน์อะไรเลยที่จะรับรู้เรื่องราวเหล่านั้น
พวกคุณได้รับการปกป้องเป็นอย่างดี การเกิดพายุรุนแรงหรือแผ่นดินไหวมันก็แค่การเปลี่ยนสมดุล
ของธรรมชาติที่พอเหมาะ โลกใบนี้ก็เปรียบเสมือนแม่ของพวกคุณ เขาไม่คิดทำลายลูกตัวเองหรอกครับ
เพราะเขาก็เจ็บปวดเป็นเหมือนกัน

แต่โอกาสในการเกิดสิ่งเลวร้ายเป็นเพราะฝั่งผู้ทำลายเองสั่งจิตใต้สำนึกคุณ จูงใจพวกคุณให้มองหา
และทำลายกันเองต่างหาก แล้วตอนนี้พวกเขาก็แทรกซึมอยู่เกือบทุกซอกมุมในใจคุณ

ดังนั้น ผมเลยอยากให้คุณชยุต Replay ข้อความของคุณ Avatar_boy อีกครั้ง
คาดว่าเจ้าตัวเองคงเต็มใจนะครับ เพราะมันก็หน้าที่เขาด้วย หากคุณชยุตสนอง ผมเชื่อว่า คุณ Avatar_boy
จะมองเห็น รับรู้ และช่วยเหลือคุณชยุตในการทำสิ่งดีๆ และเปลี่ยนตัวเองเพื่อเข้าสู่พลังงานยุคใหม่ได้สำเร็จครับ

ผมอยากให้ทุกคนมีความสุขนะครับ ลองเงยหน้ามองท้องฟ้าตอนนี้สิครับ พลังแห่งความรักมันลอยไปมาอยู่ทุกที่
พวกคุณลองยืนอ้าแขนรับเอาพลังงานดีๆ แบบนี้ซักครู่แล้วหายใจเข้าลึกๆ คุณจะรู้สึกสบายทันที ^ ^

ยุคใหม่เป็นของจริงครับ ยุคที่พวกคุณจะกลายเป็น Super Human เรื่องมนุษย์ต่างดาวที่หลายคนอยากเห็น
ไม่นานหรอกครับ ได้เห็นแน่ๆ แต่นั่นก็เมื่อพลังงานความถี่ของคุณมันสูงขึ้นแล้วนะครับ พวกคุณเชื่อหรือไม่ว่า
คนที่ฝึกฝนตัวเองเพื่อเปลี่ยนพลังงานใหม่นั้น หรือมนุษย์ต่างดาวที่มีพลังงานสูงกว่าพวกคุณ
จะเดินอยู่ท่ามกลางพวกคุณไม่ได้เลย เพราะคลื่นความถี่ด้านลบที่ส่งออกมาสูงมากและมันสามารถทำร้ายพวกเขาได้
การเข้ามาแทรกซึมท่ามกลางพวกคุณพวกเขาจำเป็นต้องมีระบบป้องกันที่พิเศษมากๆ ตอนนี้
คลื่นความถี่ด้านลบมันมากเกินกว่าที่พวกเขาจะเข้าใกล้พวกคุณได้ ลองหาวันเหมาะๆ
อย่างเช่นกลางดึกของวันสำคัญทางศาสนา เพื่อจะติดต่อกับพวกเขาดูสิครับ เพราะวันแบบนั้นพลังด้านลบจะน้อยกว่าปกติ
ผมมีวิธีที่จะทำให้คุณได้ติดต่อพวกเขาได้ อยากให้พวกคุณลองฝึกดู ซึ่งไม่ยากเลยครับ

อ้อ คิดในอีกแง่ หากคุณกลัวมนุษย์ต่างดาวจะมาทำร้ายคุณ ให้คุณคิดเรื่องที่ไม่ดีมากๆ ดูสิครับ
รับรองคุณปลอดภัยแน่ๆ...ผมล้อเล่นน่ะครับ ไม่มีใครจะมาทำร้ายเราได้นอกจากตัวเราเอง

ผมเขียนอะไรมากไปหรือเปล่า แต่ผมไม่มีจุดประสงค์ร้ายเลยนะ เพราะผมก็มาในฐานะผู้สร้าง
นั่นคือมาเพื่อช่วยพวกคุณอีกที อยากให้ผมเล่าต่อรึเปล่าครับ ผมมีเรื่องดีๆ เยอะแยะที่อยากเปิดเผย
ตอนนี้ผมไม่จำเป็นต้องหลบซ่อน เพราะพลังงานคลื่นความถี่ของโลกมันเปลี่ยนแล้ว และพวกเราทำงานได้เต็มที่ครับผม

 

ขอบคุณครับคุณ <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->Haruaki_n<!-- google_ad_section_end --><script type="text/javascript"> vbmenu_register("postmenu_2326540", true); </script>

แหม..บังเอิญอีกแล้ว..

คุณรู้ได้ยังไงว่าผมกำลังแปลและกำลังจะโพสต์เรื่องที่คุณพูดมานี่อยู่พอดีเลย!!



ว่าแล้วก็โพสต์ดีกว่า...

..........

ปล. ใครหนะ!! เอารูปขี้เหร่ๆของผมมาโชว์
โอ้..พระเจ้าช่วยกล้วยทอด!!

อายเค๊าไหม๊เนี่ย!!

..............

 

ปี 2012 สาส์นแห่งการยกระดับขึ้น – จาก แมทธิว วาร์ด (Matthew Ward)
สื่อสารทางจิตมา 7 กุมภาพันธุ์ 2009
<o></o>
ที่มา: http://international.thespiritguides.co.uk/Article_2012_-_Ascension_Message_-_Matthew_Ward_7th_February_Channelling_2872.aspx

โดย: Suzy Ward ผู้รับการสื่อสารทางจิตจาก Matthew Ward<o></o>
วันที่: วันอาทิตย์ที่ 8 กุมภาพันธุ์ 2009<o></o>
โพสต์โดย: Jane<o></o>
<o></o>


เกริ่นนำโดย Chayutt:<o></o>
<o></o>

(Matthew)<o></o>
<o></o>
Matthew Ward เคยเกิดเป็นมนุษย์ เป็นลูกชายของนาง Suzanne หรือ Suzy Ward หญิงชาว <st1:country-region w:st=" border=" 0="" alt=""><st1>USA </st1></st1:country-region>
<st1:country-region w:st="on"></st1:country-region>เขาตายตอนอายะ 17 ปี ตั้งแต่ปี 1980 หลังจากที่เขาตายได้ 14 ปี
เขาก็เริ่มสื่อสารทางจิตมาถึงแม่ของเขา บอกเล่าเรื่องราวต่างๆมากมาย
เขาบอกว่าเพราะทั้งตัวเขาและแม่ของเขาต่างก็มีภารกิจพิเศษบางอย่างบนโลกใบนี้
ดังนั้น การตายของเขา และอะไรอื่นๆต่างๆเกี่ยวกับตัวเขาและแม่ของเขา
ล้วนเป็นไปตามแผนงานในพันธะสัญญาของการลงมาเกิดของทั้งเขาและแม่ของเขาทั้งสิ้น
<o></o>
ข้อมูลจากการสื่อสารทางจิตของเขากับแม่ของเขา ได้ถูกตีพิมพ์ออกมาเป็นหนังสือหลายเล่ม เช่น
<o></o>
1.“แมทธิว บอกฉันเกี่ยวกับสวรรค์” (Matthew, Tell Me About Heaven)
เป็นหนังสือที่กล่าวถึงชีวิตหลังความตายของมนุษย์และชีวิตบนสวรรค์

2. การเปิดเผยเกี่ยวกับยุคใหม่ (Revealations For A New Era)
เป็นการสื่อสารทางจิตจากรูปธรรมชีวิตชั้นสูงในจักรวาลทั้งหลาย

3. ความสว่างไสวของยุคใหม่ (Illuminations For A New Era)
อธิบายถึงการเปลี่ยนแปลงของโลก และบทบาทหน้าที่ของรูปธรรมชีวิตต่างมิติทั้งหลาย
ที่กำลังให้ความช่วยเหลือเยียวยาและยกระดับโลกใบนี้อยู่ รวมถึงสาส์นจากพระผู้เป็นเจ้า เป็นระยะๆ

4. เสียงจากจักรวาล (Voices Of The Universe)
กล่าวถึงการสร้างสรรค์ชีวิตและโลกของมนุษย์โลกแต่ละคน
ที่ส่งผลกระทบต่อจักรวาลในขณะเดียวกัน ว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร
<o>
</o>
ดูเพิ่มเติมได้ที่ http://www.matthewbooks.com


....................

 

ปี 2012 สาส์นแห่งการยกระดับขึ้น – จาก แมทธิว วาร์ด (Matthew Ward)
สื่อสารทางจิตมา 7 กุมภาพันธุ์ 2009
<o></o>
ที่มา: http://international.thespiritguides.co.uk
/Article_2012_-_Ascension_Message_-_Matthew_Ward_
7th_February_Channelling_2872.aspx

โดย: Suzy Ward ผู้รับการสื่อสารทางจิตจาก Matthew Ward<o></o>
วันที่: วันอาทิตย์ที่ 8 กุมภาพันธุ์ 2009<o></o>
โพสต์โดย: Jane<o></o>
<o>


สวัสดีดวงจิตวิญญาณทั้งหลาย ผมคือแมทธิว ส่งคำทักทายมาจากโลกมหัศจรรย์
นอกกาแล็กซี่ของพวกคุณ ถึงพวกคุณด้วยความรัก
<o></o>
โดยทั่วไปแล้วรูปธรรมชีวิตต่างมิติทั้งหลาย จะเชิญผมไปช่วยวินิจฉัยและให้ความช่วยเหลือ
ในการยกระดับจิตวิญญาณของพวกเขา (เพราะแมทธิวมีหน้าที่เป็นผู้ให้ความช่วยเหลือ
ด้านการแพทย์และการยกระดับจิตวิญญาณ อะไรประมาณนั้น –Chayutt)
ซึ่งโลกของพวกเขาเทียบเท่ากับ “นิพพาน” ของโลกมนุษย์เลยทีเดียว หรือหลายคนอาจจะเรียกว่า “สวรรค์” ก็ได้
แต่อย่างไรก็ตามการเชิญไปในครั้งนี้เป็นการเชิญกรณีพิเศษเฉพาะผมเท่านั้น และนี่ก็เป็นภารกิจพิเศษของผมเองด้วย

ความสง่างาม ความกระจ่างชัด และสภาวะแวดล้อมของจิตวิญญาณเหล่านี้ อยู่นอกเหนือความสามารถ
ในการเข้าใจได้ของพวกคุณ แม้แต่รูปธรรมชีวิตต่างมิติที่อารยะแล้วหลายๆอารยะธรรมเอง
ก็ยังไม่อาจเข้าใจพวกเขาได้เช่นกัน เพราะแม้ว่าพวกเขาเหล่านั้นอาจจะรับรู้ถึงการมีตัวตนอยู่
ของจิตวิญญาณเหล่านี้ก็ตาม แต่หากวิวัฒนาการของพวกเขายังไม่ได้บรรลุไปถึงขั้นที่
ทุกๆจิตวิญญาณถูกปรับจูนให้เข้ากันกับกระแสความรักของพระผู้สร้างและพระผู้เป็นเจ้าอย่างสมบูรณ์แล้ว
พวกเขาก็จะยังมิอาจเข้าใจได้นี่ก็เป็นโลกอีกรูปแบบหนึ่งที่ผมกำลังมาเยี่ยม

จิตวิญญาณที่อยู่ที่นี่ ครั้งหนึ่งนานแสนนานมาแล้วเคยมีความเป็นตัวตนอยู่ในจักรวาล
แต่เมื่อถึงที่สุดแล้วพวกเขาก็ได้เลือกที่จะดำรงอยู่แบบไม่มีการแบ่งแยกทางจิตและใจจากกันและกัน
หรือจะว่าไปแล้ว พวกเขาแสดงบทบาทหน้าที่ประหนึ่งว่าเป็นตัวตนเดียวกัน เพียงหนึ่งเดียว
แทนที่จะเป็นเหมือนการรวมกลุ่มของจิตวิญญาณหลายๆจิตวิญญาณ ซึ่งมีความตั้งใจและเป้าหมายเดียวกัน
<o></o>
ความเป็นหนึ่งเดียวของพวกเขาทำให้พวกเขาสามารถควบคุมพลังงานของพวกเขาให้เป็นสนามพลังงานอันทรงพลัง
พุ่งผ่านระยะทางอันกว้างใหญ่ไพศาล เพื่อไปถึงอารยะธรรมต่างๆที่ต้องการความช่วยเหลือจากพวกเขามากที่สุดได้

ด้วยเหตุนี้ท่านอาจจะพูดได้ว่าผู้นำของจิตวิญญาณเหล่านี้ก็คือพระผู้เป็นเจ้าของจักรวาล
เพราะว่าสามารถจำแนกแยกแยะได้ว่าภายใน “ระนาบ” อันไม่มีประมาณและหาที่สุดไม่ได้นี้
ตรงไหนในจักรวาลที่กำลังต้องการความช่วยเหลือจากแสงสว่างมากที่สุด
และจากนั้นการอนุมัติเพื่อให้เดินทางไปช่วยเหลืออารยะธรรมต่างๆ ที่กำลังลำบาก
และต้องการการเยียวยาด้านความรักและการรู้แจ้งเหล่านั้น ก็จะเกิดขึ้นโดยตรง

<o>จิตวิญญาณเหล่านี้สามารถดำรงอยู่ในรูปแบบที่ปราศจากตัวตน แต่พวกเขาก็สามารถเนรมิตรูปกาย
ตามแบบที่พวกเขาต้องการขึ้นมาแบบไหนก็ได้ ที่พวกเขาคิดว่าเหมาะสมกับระดับวิวัฒนาการของพวกเขา

แต่อย่างไรก็ตามเพราะว่าร่างกายของพวกเขามีระดับการสั่นสะเทือนที่สูงเกินกว่าการมองเห็น
ของผู้ที่อยู่ในมิติที่ 3 (เช่นมนุษย์โลก - chayutt) จะสามารถมองเห็นได้
ซึ่งคุณอาจจะเรียกพวกเขาว่ารูปธรรมชีวิตที่ “ไม่มีรูปร่างที่แน่นอน”(Amorphous)
หรือ “ไร้ตัวตน” (Disincarnate) ก็ได้<o></o>
<o>
</o>
(Chamuel-021)
<o></o>
รูปแบบของร่างกายที่พวกเขาเลือกคือเป็นแบบที่มีแต่เพียงส่วนของลำตัวรูปทรงกระบอกผอมๆ
แต่นั่นก็เป็นเพียงลักษณะอาการที่แสดงออกมาของรูปกายเท่านั้น ยังไม่ใช่รูปกายที่แท้จริง
เพราะว่ามันจะแวววาวในคลื่นแสงสะท้อนที่มาจากคลื่นของรูปกายทรงกระบอกอื่นๆอีกนับล้านๆรูปกาย
<o></o>
ขอบเขตของพลังงานจากแต่ละรูปธรรม (ซึ่งเป็นสิ่งที่อยู่นอกเหนือขอบเขตการคิดคำนึงของพวกคุณ
เพราะว่ามันไม่สามารถวัดได้ด้วยหลักการเกี่ยวกับระยะทางของพวกคุณ) มีความหลากหลาย
และแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับความยาวนานของการดำรงอยู่ในอารยะธรรมนี้ของแต่ละรูปธรรม
ไม่เกี่ยวข้องกับระดับของการบรรลุและระดับของภูมิปัญญา เพราะสิ่งเหล่านี้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันทั่วทั้งอารยะธรรม
<o></o>
แต่อย่างไรก็ตามระดับของการตระหนักรู้ก็ยังคงขยายตัวและเจริญเติบโตอยู่ต่อไปเรื่อยๆ
ดังนั้น แม้แต่อารยะธรรมที่มีวิวัฒนาการสูงมากเช่นนี้ก็ยังคงมีการเจริญเติบโตและการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นในชีวิตอยู่<o></o>

รูปกายทรงกระบอกนี้ คือที่เก็บแสงสว่าง และจะมีเส้นใยแสงสีทองมากมายกระจายออกจากครึ่งบนของรูปกายนี้
แล้วไปเชื่อมโยงกับกระจุกของแสงสว่างหลากสีสันที่แพรวพราวระยิบระยับมากมาย
กระจุกของแสงสว่างเหล่านี้คือธนาคารข้อมูลของประสบการณ์ ความรู้ พรสวรรค์ และความสามารถต่างๆ
ของกลุ่มดวงจิตทั้งมวลเหล่านี้ และมันก็ยังเป็นห้องสมุดที่ทุกๆกระแสความคิดแห่งแสงสว่าง (all light thought forms)
ภายในจักรวาลนั้นๆ สามารถที่จะเข้าถึงได้ในทันที
<o></o>
โดยปกติแล้ว หากผมถูกเชิญให้ไปที่โลกไหน มิติไหน ผมก็จะปรากฏกายของผมให้เหมาะสมสอดคล้องกับโลกนั้น
มิตินั้นด้วย หรือไม่ก็ เช่นในตอนนี้ ผมกำลังปรากฏกายในรูปแบบกายทิพย์ (Etheric body)
ที่ดูเหมือนประหนึ่งว่าเป็นส่วนหนึ่งที่ยื่นออกมาจากรูปกายของจิตวิญญาณเก่าแก่เหล่านั้น<o></o>

<o>หากพวกเขาต้องการจะสื่อสารด้วยวิธีการอื่นๆนอกเหนือจากการสื่อสารด้วยกระแสจิตตามปกติแล้ว
พวกเขาก็จะพูดด้วยระดับเสียงแห่งเสียงดนตรีชั้นสูงที่ไพเราะเพราะพริ้ง นุ่มนวลและแจ่มชัด
เกินกว่าที่จะหาสิ่งใดๆในโลกมนุษย์มาเปรียบปานได้
<o></o>
ในมิตินี้และมิติอื่นๆที่อยู่ต่ำกว่านี้บางมิติ พวกเขาดำรงอยู่ในสภาวะแห่งจิตวิญญาณที่สะอาดบริสุทธิ์
คลื่นความสั่นสะเทือนของจิตสำนึกพวกเขาจะแสดงออกมาในรูปของสีและเสียงที่อ่อนช้อย แผ่วเบา งดงามหลากหลาย
และเต็มไปด้วยบรรยากาศแห่งความปีติสุข ความสงบ และความสามัคคีปรองดองกัน
เกินกว่าที่มิติที่หยาบกว่าใดๆจะสัมผัสได้

จิตวิญญาณเหล่านี้ปราศจาก DNA แห่งความแก่ ความเจ็บไข้ได้ป่วย หรือความตาย และพวกเขาก็ปราศจากการขยายพันธุ์

การเพิ่มขึ้นของประชากรเกิดจากการมารวมกันเพิ่มมากขึ้นของจิตวิญญาณที่มีระดับวิวัฒนาการเดียวกัน
ซึ่งเป็นไปตามกฎของจักวาล ว่าด้วยกฎแห่งการดึงดูด ที่บอกว่า “สิ่งที่เหมือนกัน จะดึงดูดซึ่งกันและกัน”
และผู้มาเยือนทุกๆรูปธรรมที่ต้องการจะอยู่ต่อ ก็เป็นที่ยินดีต้อนรับด้วย
<o></o>
หากมีจิตวิญญาณรูปธรรมใด ต้องการที่จะขยับขึ้นไปหาประสบการณ์ในมิติอื่นที่สูงยิ่งกว่า
พวกเขาก็จะเฉลิมฉลองและอวยพรลาด้วยความรักและเปิดโอกาสไว้สำหรับการกลับคืนมาได้ทุกเมื่อ

ภูมิลำเนาของพวกเขา (สมมุติว่ามันสามารถเรียกอย่างนั้นได้) ก็เป็นแค่อวกาศในจักรวาลธรรมดาๆนี่เอง
เพราะว่าพวกเขาจะท่องเที่ยวเตร็ดเตร่ไปเรื่อยๆ และยิ่งพวกเขาทำเช่นนั้น พลังงานของพวกเขาจึงล่องลอยไปเรื่อยๆ
ในอวกาศ อย่างไม่มีการลดน้อยถอยลง พวกเขาก็จะยิ่งสร้างจุดเริ่มต้นของโลกใหม่ของจิตวิญญาณทั้งหลายขึ้น
เพื่อให้จิตสำนึกที่ด้อยกว่าได้ใช้เป็นที่ๆสำหรับวิวัฒนาการไปสู่รูปกายทางกายภาพอะไรก็ได้ที่พวกเขาเหล่านั้นเลือก
เพื่อมีประสบการณ์แห่งการเจริญเติบโตที่พวกเขาได้เลือกมีพันธะสัญญาไว้ตั้งแต่ก่อนการถือกำเนิด

เหตุผลที่ผมพยายามอธิบายอย่างดีที่สุดเกี่ยวกับจิตวิญญาณเหล่านี้และโลกอันอัศจรรย์ของพวกเขา
ก็เพราะว่าสำหรับผมแล้ว มันยิ่งกว่าภาพที่จารึกไว้บนบัตรอวยพรซะอีก ผมอยากให้พวกคุณได้มาอยู่ที่นี่ด้วยจริงๆเลย
มันเป็นสิ่งที่เหนือคำบรรยายจริงๆ และมันก็เป็นอะไรที่ยิ่งกว่าโลกแห่งการรู้แจ้งในแบบที่พวกคุณพิศวงกันหนักหนา
<o></o>
ในช่วงเวลาที่ดาวเคราะห์โลกต้องการความช่วยเหลือ พระผู้เป็นเจ้าก็ได้มอบหมายให้รูปธรรมชีวิตชั้นสูงมากมายมารับผิดชอบ

ในขณะนั้นเอง กลุ่มจิตวิญญาณที่ผมกล่าวถึงมาตั้งแต่ต้นเหล่านี้ ก็ได้เริ่มต้นสาดส่องแสงสว่าง
แห่งพลังความรักความเมตตาของพวกเขา มาเพื่อรักษาชีวิตของดาวเคราะห์โลกและทุกสรรพชีวิต
ที่อาศัยอยู่บนโลกของพวกคุณเอาไว้ในทันที พวกเขาได้ทำเช่นนั้นและยังคงทำอยู่มานานเกือบ 70 ปีของโลกมนุษย์แล้ว

นั่นแสดงถึงความรักแบบปราศจากเงื่อนไขของพวกเขาที่มีต่อทุกๆสรรพวิญญาณบนโลกมนุษย์
และบ่งบอกว่า พระผู้เป็นเจ้าได้ให้ความสำคัญต่อทุกๆสรรพชีวิตบนโลกมนุษย์

(ยังมีต่อครับ)<o></o>
……………………………………</o></o></o>