สธ.ชี้ จ.น่าน เป็นแหล่งศึกษาวิจัยโรคโบทูลินัมแก่วงการแพทย์ทั่วโลก

ในห้อง 'จิตวิทยา & สุขภาพ' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 1 เมษายน 2006.

  1. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>สธ.ชี้ จ.น่าน เป็นแหล่งศึกษาวิจัยโรคโบทูลินัมแก่วงการแพทย์ทั่วโลก</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>1 เมษายน 2549 16:16 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left> สธ.เผยสถานการณ์ผู้ป่วยโรคโบทูลินัม แพทย์สั่งกลับบ้านอีก 8 ราย เหลือพักที่ร.พ.น่าน 18 ราย ทุกคนอาการดีขึ้น คาดว่าจะกลับบ้านได้ในเร็วๆ นี้ ชี้พื้นที่เกิดโรคครั้งนี้ถือเป็นต้นแบบแหล่งศึกษาพัฒนาวิจัยโรค เพื่อใช้เป็นแนวทางป้องกันและรักษา ให้แก่วงการแพทย์ทั่วโลก

    นพ.ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ รักษาราชการแทนปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงสถานการณ์ผู้ป่วยที่ได้รับพิษจากเชื้อคลอสตริเดียม โบทูลินัม (Clostridium Botulinum) จากการรับประทานหน่อไม้ปี๊บ จังหวัดน่าน ตั้งแต่วันที่ 14 มีนาคม 2549 จนถึงล่าสุดวันนี้ (31 มี.ค.) ว่า ทีมแพทย์ให้ผู้ป่วยที่รักษาในโรงพยาบาลน่านกลับบ้านอีก 8 ราย ขณะนี้ยังคงมีผู้ป่วยนอนพักรักษาอยู่จำนวน 18 ราย โดยผู้ป่วยห้องไอ.ซี.ยู. 6 รายยังคงใช้เครื่องช่วยหายใจ แต่อาการทั่วไปดีขึ้น สำหรับผู้ป่วยรายอื่นๆ ที่ได้ส่งไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลรามาธิบดี มีเด็กชาย อายุ 14 ปี ขณะนี้อาการดีขึ้นมาก คาดว่าจะได้กลับบ้านอีก 4-5 วัน สำหรับผู้ป่วยที่ ร.พ.ราชวิถี ร.พ.วชิรพยาบาล และร.พ.ภูมิพล ทุกคนอาการดีขึ้นเรื่อยๆ ช่วยเหลือตนเองได้ ระบบย่อยอาหารทำงานเป็นปกติ ส่วนที่ ร.พ.ศิริราช ร.พ.ลำปาง และร.พ.พิษณุโลก ผู้ป่วยถอดเครื่องช่วยหายใจแล้ว แห่งละ 1 ราย

    นพ.ปราชญ์ กล่าวต่อว่า จากการเกิดโรคโบทูลินัม ที่จ.น่าน นับว่าเป็นการป่วยครั้งใหญ่ที่สุดในโลก แต่มีความแตกต่างและน่าสนใจเป็นอย่างมากก็คือ ไม่มีผู้เสียชีวิตแม้แต่รายเดียวในเหตุการณ์นี้ ถึงแม้ว่าเชื้อดังกล่าวจะมีอานุภาพร้ายแรง โดยบางประเทศนำไปสกัดใช้เป็นสารชีวภาพเพื่อก่อสงคราม อย่างไรก็ตาม ด้วยความสามารถของ ทีมแพทย์ไทยและระบบเครือข่ายที่เข้มแข็ง ทำให้สามารถช่วยเหลือผู้ป่วยได้อย่างทันท่วงทีและมีประสิทธิภาพ ดังนั้น แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากหลายประเทศ จึงให้ความสนใจที่จะเข้ามาศึกษาและวิจัยโรคเป็นจำนวนมาก โดยถือได้ว่าพื้นที่ จ.น่าน เป็นแหล่งศึกษาการเกิดเชื้อคลอสตริเดียม โบทูลินัม เพื่อจะได้นำไปพัฒนาการวิจัยการรักษา และแนวทางการป้องกันให้แก่วงการแพทย์ และสาธารณสุขได้เป็นอย่างดี

    ด้านนพ.พิศิษฐ์ ศรีประเสริฐ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดน่าน กล่าวว่า สำหรับขวัญและกำลังใจของผู้ป่วยและญาติ ภายหลังทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ จิตแพทย์ นักจิตวิทยา นักวิชาการจากกระทรวงสาธารณสุขและมหาวิทยาลัยต่างๆ ได้ลงพื้นที่ให้ความรู้ ความเข้าใจ ทุกคนรู้สึกดีขึ้น ลดความวิตกกังวล การดำเนินชีวิตกลับสู่ภาวะปกติ แต่อย่างไรก็ตาม ยังได้ฝึกให้ผู้ที่เคยป่วยและอาการหายดีเป็นปกติแล้ว มาช่วยสอนผู้ป่วยที่อาการดีขึ้นและให้แพทย์มาพักฟื้นที่บ้าน ในเรื่องของการปฏิบัติตัว เพื่อให้กล้ามเนื้อและระบบย่อยอาหารทำงานเป็นปกติ ในลักษณะของเพื่อนช่วยเพื่อน เพราะถือว่าเป็นผู้ที่มีความเข้าใจมากกว่าคนที่ไม่ได้เป็น โดยมีนักวิชาการสาธารณสุข คอยให้ความช่วยเหลือเป็นพี่เลี้ยง
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     

แชร์หน้านี้

Loading...