พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

ขอสรุปเรื่องของชื่อชมรม

สำหรับการประชุมในครั้งแรก ที่ประชุมได้มีมติเรื่องของชื่อชมรมออกมาแล้ว

ชื่อชมรม "รักษ์พระวังหน้า" ครับ

ตามที่คุณpsombat ได้เสนอมา

ส่วนเรื่องของการเข้าชมรม รักษ์พระวังหน้า เดิมไม่มีค่าใช้จ่าย แต่ที่ประชุมได้เสนอแนวคิดต่างๆ มาสรุปกันที่ การสมัครสมาชิกชมรม จะต้องเสียค่าใช้จ่าย(ค่าบำรุงชมรมแรกเข้า)ในการเข้าเป็นสมาชิก 300 บาท และมีค่าบำรุง(รายปี) ปีละ 100 บาท โดยเก็บจากสมาชิกในเดือนมกราคม ของทุกๆปี

ส่วนการลาออกหรือถูกให้ออก ที่ประชุมมีมติเห็นควรว่า ไม่ต้องคืนพระพิมพ์ต่างๆ ที่ชมรมเป็นผู้ที่มอบให้

ส่วนการสมัครยังคงมีเรื่องของการตั้งจิต และ ตั้งสัจจะอยู่ครับ

รายละเอียดของการประชุม ผมจะเขียนแล้วจะแจ้งให้ทราบอีกครั้งทาง email ผมจะส่งไปพร้อมกับใบสมัคร เนื่องจากในครั้งหน้า จะมีการประชุมเพื่อโหวตเลือกประธาน ส่วนตำแหน่งอื่นๆ จะขอความเห็นจากสมาชิกครับ
.

 

ไม่ดีได้อย่างไรครับ

วันนี้ท่านอาจารย์ประถม (ร่วมทำบุญ 200 บาท) และคุณเพชร (ร่วมทำบุญ 200 บาท) ฝากเงินผมมาเพื่อร่วมทำบุญกับทุนนิธิสงฆ์อาพาธ

วันพรุ่งนี้ ผมจะไปโอนเงินเข้าบัญชีทุนนิธิสงฆ์อาพาธ

มาร่วมโมทนาบุญกับท่านอาจารย์ประถม และคุณเพชรกันครับ

 

หุ..หุ..ช้าแต่ชัวร์นี่คืออะไรครับ ...

วันนี้น้องchantasakuldecha ได้มอบพระธาตุหลวงปู่มั่น ๑ องค์เพื่อบรรจุภายในพระมหาเจดีย์จันทบุรีศรีนพรัตน์ จ.จันทบุรี เป็นสถานที่กำลังก่อสร้างยังไม่แล้วเสร็จ และมีความเกี่ยวพันกับพ่อท่านลี ธัมมธโรอย่างมาก สถานที่นี้คณะพระวังหน้าก็จะอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุจำนวน ๓ โถ พระบรมธาตุพระปัจเจกพุทธเจ้า ๑ โถ บรรจุไว้ยังพระมหาเจดีย์แห่งนี้..

ลืมบอกไปว่าพระมหาเจดีย์จันทบุรีศรีนพรัตน์ ประดิษฐานอยู่ภายในวัดป่าคลองกุ้ง จ.จันทบุรี หากพี่น้องคณะพระวังหน้ามีโอกาสแวะไปจันทบุรี ก็ลองไปชมการก่อสร้าง ร่วมบุญสร้างพระมหาเจดีย์ และสร้างฉัตรไปพร้อมกันได้ที่วัดป่าคลองกุ้งครับ

 

ใบเตย...คุณค่ามากมาย แม้กระทั่งทำ 'ถ่านไม้กลิ่นใบเตย'

�����...�س����ҡ��� �����з�觷� '��ҹ�������������' - �����͡�����
ฐิตา.<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_163112", true); </SCRIPT>
ทีมพัฒนาข้อมูล

<HR SIZE=1>

<!-- / icon and title --><!-- message --><TABLE class=ncode_imageresizer_warning id=ncode_imageresizer_warning_2 width=239><TBODY><TR><TD class=td1 width=20></TD><TD class=td2 unselectable="on">กดที่เเถบนี้เพื่อดูรูปขนาดดั้งเดิม</TD></TR></TBODY></TABLE>
​

<TABLE class=ncode_imageresizer_warning id=ncode_imageresizer_warning_1 width=266><TBODY><TR><TD class=td1 width=20></TD><TD class=td2 unselectable="on">กดที่เเถบนี้เพื่อดูรูปขนาดดั้งเดิม</TD></TR></TBODY></TABLE>​

<TABLE class=ncode_imageresizer_warning id=ncode_imageresizer_warning_3 width=466><TBODY><TR><TD class=td1 width=20></TD><TD class=td2 unselectable="on">รูปนี้ถูกลดขนาดลง กดที่เเถบนี้เพื่อดูขนาดเดิม ขนาดเดิมของรูป: 800x600 ขนาดของไฟล์: 92KB</TD></TR></TBODY></TABLE>​

แต่ ก่อนที่บ้านมีต้นเตยเยอะแยะเนื่องด้วยที่บ้านมีพื้นที่เยอะ ปลูกอะไรต่อมิอะไรต่าง ๆ มากมาย และต้นเตยก็เป็น หนึ่งในนั้น ต้นเตย แม้จะมีที่สวนก็ไม่ได้นำไปทำอะไร นอกจากประดับไว้ในโลกาเท่านั้น ด้วยว่าซื้อเขาอร่อยกว่าทำเอง...

ข้อมูลจากฝ่ายปฏิบัติการวิจัยและเรือน ปลูกพืชทดลอง ม.เกษตรศาสตร์ บอกไว้ว่า ใบเตยหอมใช้แต่งสีและกลิ่นเครื่องดื่ม ขนมหวาน และอาหารหลายชนิด นอกจากนี้ยังใช้เป็นยาได้ด้วย โดยเขาบอกว่า ใบสดต้มกับน้ำดื่ม ลดอาการกระหายน้ำ บำรุงหัวใจ ทำให้ชุ่มชื่น ต้นและรากเป็นยาขับปัสสาวะ รักษาโรคเบาหวาน และแก้กระษัยน้ำเบาพิการ

สำหรับยาขับปัสสาวะ ใช้ต้น 1 ต้น หรือ ราก 1 กำมือ ต้มกับน้ำดื่ม
สำหรับยาบำรุงหัวใจ ใช้ใบสดไม่จำกัด ผสมในอาหาร หรือนำมาคั้นน้ำรับประทาน ครั้งละ 2-4 ช้อนแกง หรือ ใช้ใบสดตำ คั้นเอาน้ำ จะได้น้ำสีเขียวมาผสมอาหาร แต่งกลิ่น แต่งสีขนม หรือใช้ในรูปของใบชา ชงกับน้ำร้อน หรือใช้ใบสดต้มกับน้ำจนเดือด เติมน้ำตาลเล็กน้อยใช้ดื่มเป็นประจำ

สำหรับโรคหัด โรคผิวหนัง ใช้ใบสดตำพอก

สำหรับโรคเบาหวาน ใช้ส่วนต้นและราก ต้มกับเนื้อหรือใบไม้สักจะช่วยรักษาโรคเบาหวาน

ส่วนวิธีการทำน้ำใบเตย มีวิธีการทำดังนี้ ให้นำใบเตยสดที่ไม่แก่มาก เก็บมาใหม่ ๆ ล้างทีละใบให้สะอาด แช่น้ำด่างทับทิม 10-15 นาที นำมาปั่นตามขวางเป็นชิ้นเล็ก ๆ ให้ได้ประมาณ 3 ถ้วยแล้วแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ส่วนที่หนึ่งใส่ลงใน
หม้อที่มีน้ำกำลังเดือด ต้มเคี่ยว 5-10 นาที

เติมน้ำตาลทรายให้รสหวานจัด กรองเอากากออก ใบเตยที่หั่นแล้วอีกส่วนหนึ่งปั่นให้ละเอียดโดยเติมน้ำ กรองเอากากออก เติมน้ำที่คั้นได้ซึ่งมีสีเขียวและกลิ่นหอมลงในหม้อใบเตยที่เติมน้ำตาลและกำลังเดือด ชิมให้มีรสหวาน พอเดือดรีบยกลง เมื่อจะดื่มใส่น้ำแข็งบดละเอียด

นอกจากว่า จะมีการนำกลิ่นหรือสีของใบเตยไปเป็นส่วนประกอบของอาหารแล้ว ณ วันนี้ กรมป่าไม้เขานำกลิ่นของใบเตยไปเป็นกลิ่นของถ่าน เรียกว่า “ถ่านไม้กลิ่นใบเตย”

​

​

จริง ๆ กลิ่นของถ่านไม้โดยปกติแล้วก็มิได้น่ารังเกียจอะไร แต่หากทำให้มันมีกลิ่นใบเตย...ก็คิดว่าน่าจะดูดีขึ้นกว่าเดิม ในเรื่องนี้ นายสมชัย เพียรสถาพร อธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวว่า จากสถานการณ์ปัจจุบันที่ประชาชนประสบปัญหาทาง​

ด้านรายได้และเศรษฐกิจ จึงได้มอบนโยบายให้นักวิจัยของกรมป่าไม้ศึกษาวิจัยในด้านต่าง ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาด และช่วยสร้างงาน สร้างรายได้ให้กับประชาชน รวมทั้งรณรงค์ให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ ​

และดูแลรักษาทรัพยากรป่าไม้ของชาติด้วยการผลิต “ถ่านไม้กลิ่นใบเตย” ขึ้น​

สำหรับถ่านไม้กลิ่นใบเตย ถือว่าเป็นการสร้างปรากฏการณ์ของกรมป่าไม้ ที่ได้ฉีกแนวการผลิตถ่านไม้ในปัจจุบัน และสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์ถ่านไม้ทั่วไป

ซึ่งถ่านไม้กลิ่นใบเตยนอกจากสามารถนำมาใช้ในการหุงต้ม ปิ้ง ย่าง ให้ความร้อนตามปกติ ยังมีความพิเศษที่มีกลิ่นหอมของใบเตยทำให้ชวนรับประทานมากยิ่งขึ้น เหมาะสำหรับนำมาย่างบาร์บีคิว และเนื้อสัตว์ ต่าง ๆ ด้วย

นายจิระพงษ์ คูหากาญจน์ นักวิชาการ ป่าไม้ชำนาญการพิเศษ หัวหน้าศูนย์วิจัยพลังงานจากไม้ จ.สระบุรี กล่าวถึงวิธีการผลิตถ่านไม้กลิ่นใบเตยว่า ได้นำไม้ยูคาลิปตัส ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 1-5 เซนติเมตร ความยาว 5 เซนติเมตร ​

น้ำหนักรวม 100 กิโลกรัม มาเผาในเตาเผาถ่านชนิดเตาอิฐก่อกรมป่าไม้ ขนาดความจุ 1.0 ลูก บาศก์เมตร ซึ่งเป็นเตาเผาถ่านขนาดเล็กและสร้างพิเศษ คือ มีช่องเปิดด้านบน ดำเนินการเผาถ่านตามปกติ ​

จนกระทั่งปล่องแห้งสนิท จึงนำใบเตย 5 กิโลกรัม มาใส่ในเตาเผาถ่านที่ช่องเปิดด้านบน ใช้ไม้รวกหรือเหล็กยาวเขี่ยให้กระจายเข้ากัน จากนั้นใช้พัดลมเป่าที่ช่องใส่ไฟเพิ่มเติมออกซิเจนประมาณ 10-30 นาที แล้วจึงยุติกระบวนการเผาถ่าน ​

มิใช่แค่กลิ่นใบเตยเท่านั้น อยากให้ถ่านเป็นกลิ่นอื่น ๆ ก็ทำได้เช่นกัน เพราะถ่านไม้กลิ่นใบเตยของกรมป่าไม้มีจุดเด่นที่สำคัญ คือ เป็นถ่านที่เผาจากกระบวนการเผาถ่านตามปกติ แต่ใช้หลักการดูดซับกลิ่นของถ่าน โดยนำสารที่มีกลิ่นหอมให้ถูกดูดซับเข้าไปแทนที่ช่องว่างในถ่าน ​

สามารถนำไปประยุกต์ใช้กับสาร ที่มีกลิ่นหอมอื่น ๆ นอกจากใบเตยได้เป็นอย่างดี สนใจโทรฯ ไปที่กรมป่าไม้ 0-2579-5411 เวลาราชการ.​

ที่มา : http://www.dailynews.co.th/web/html/...e=1&Template=1

ที่มาภาพ : Google


ขอบพระคุณที่มามากมายค่ะ
<!-- / message --><!-- sig -->

 

โมทนาสาธุครับ

 

Updated บุญธรรมทานสร้างหนังสือประวัติวัดทรายงาม จ.จันทบุรี ธรรมเทศนาเมตตากถา ปฏิปทา และธรรมะของหลวงปู่กงมา จิรปุญฺโญ และหลวงปู่เจี๊ยะ จุนฺโท พระผู้เป็นดั่งผ้าขี้ริ้วห่อทอง

อ้างอิง:



<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ :::เพชร:::
เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ผมมีโอกาสได้ไปวัดทรายงาม จ.จันทบุรี เดิมเป็นสำนักสงฆ์ ปี พ.ศ.๒๔๘๐ ซึ่งเป็นหนึ่งในวัดที่ปฏิบัติในแนวทางของพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์ วัดบวรนิเวศวิหาร เป็นองค์อุปถัมภ์จดทะเบียนเดือนมิถุนายน พ.ศ.๒๔๘๑ พระอาจารย์กงมา จิรปุญฺโญ เป็นเจ้าอาวาสองค์แรก(พระอาจารย์ที่ปฏิบัติธรรมในสายของพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต) ช่วง 3 ปีนี้หลวงปู่เจี๊ยะ จุนฺโท พระผู้เป็นดั่งผ้าขี้ริ้วห่อทอง ก็ยังได้จำพรรษาที่วัดทรายงามนี้ หลังจากนั้นท่านได้ติดตามพระอาจารย์มั่น ไปยังสกลนคร และได้ชื่อว่าเป็นพระผู้ดูแลเครื่องอัฏฐบริขารของหลวงปู่มั่น ปัจจุบันกุฏิของหลวงปู่เจี๊ยะ จุนฺโท ก็ยังคงมีอยู่ที่วัดทรายงามแห่งนี้..

ผม และพี่ท่านหนึ่งได้เอ่ยปากขอรับหนังสือประวัติวัดทรายงามกับท่านเจ้าอาวาส ท่านก็ได้กล่าวว่า "หนังสือไม่ได้ปรับปรุงเนื้อหามานานแล้ว มีสิ่งปลูกสร้างเช่นพระมหาเจดีย์ก็ยังไม่ได้บรรจุไว้ในหนังสือ เพราะไม่มีคนบริจาค" เมื่อผม และพี่ท่านนี้ได้เห็นสภาพหนังสือเก่านี้ก็เอ่ยปากขอรับเป็นเจ้าภาพหนังสือประวัติวัดทรายงาม หนังสือเล่มนี้พิมพ์ไว้เมื่อเดือนธันวาคม ๒๕๑๖ เป็นหนังสือพระธรรมเทศนาเฉลิมพระชนมพรรษา ๕ ธันวาคม ๒๕๑๕ พระครูญาณวิโรจน์พิมพ์ในงานฉลองพระประธานศาลาอริยวงศาคตญาณ ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระองค์ท่านได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯประทานพระพุทธอริยญาณ วิโรจนาการมงคลให้เป็นพระประธาน วัดทรายงามแห่งนี้ โดยที่ท่านเจ้าอาวาสได้แจ้งข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อให้ข้อมูลประวัติวัดสมบูรณ์ขึ้น เพื่อเผยแผ่ให้ญาติโยมที่สนใจในประวัติ และธรรมเทศนาต่อไป

และจะเป็นเรื่องโดยบังเอิญหรืออย่างไรก็ไม่ทราบที่บันดาลให้ไปพบเรื่องราวนี้ และหากสามารถจัดพิมพ์ได้ทันในเดือนมิถุนายน ๒๕๕๒นี้ก็จะได้ถวายให้พระท่านในเดือนครบรอบปีที่ ๗๑ ของการขึ้นทะเบียนเป็นวัดเมื่อเดือนมิถุนายน ๒๔๘๑ และสิ่งสำคัญคือเป็นธรรมทานที่พระท่านบอกว่าไม่มีผู้บริจาคหนังสือประวัติวัดให้กับทางวัดในช่วง ๓๗ ปีที่ผ่านมา ถือว่าได้ให้ธรรมทานกับวัดที่ขาดแคลนจริงๆ อีกทั้งหนังสือเล่มนี้ ได้มีบทเมตตากถา ที่พระเทพวราภรณ์(วิชมัย) วัดบวรนิเวศวิหารได้แสดงกัณฑ์อุโบสถไว้ ความโดยย่อว่า
"...เมตตา 3 ทางคือ เมตตาทางกายกรรม ทางวจีกรรม ทางมโนกรรม ถ้าเจริญให้มาก เมตตาอยู่เนืองๆ สั่งสมอบรมปรารภด้วยดี ย่อมมีอานิสงค์ทำลายอุปธิกิเลสตัวใน ธรรมชาติเข้าไปทรงไว้ซึ่งทุกข์ มี ๔ อย่าง คือ

๑. ขันธูปธิ กิเลสเข้าไปยึดขันธ์
๒. กิเลสูปธิ กิเลสเข้าไปยึดตัณหา มานะฯ
๓. อภิสังขารารูปธิ กิเลสเข้าไปยึดภพ
๔. กามูปธิ กิเลสเข้าไปยึดกาม

ทำให้สังโยชน์๑๐(กามราคะ ปฏิฆะ มานะ ทิฏฐิ วิจิกิจฉา สีลัพพตปรามาส ภวราคะ อิสสา มัจฉริยะ อวิชชา) กิเลสตัวนอกเหล่านี้เบาบางลงโดยลำดับ สังโยชน์เรียงตามลำดับที่อริยมรรคเข้าตัดทำลาย..."

.....ในสมัยหนึ่ง ท้าวสักกเทวราชพร้อมด้วยเทวดาหมื่นจักรวาลมาเฝ้าพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ครั้นถึงแล้วจึงน้อมนมัสการทูลถามพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า "การให้อะไร ชนะการให้ทั้งปวง รสแห่งอะไร ชนะรสทั้งปวง ความยินดีในอะไร ชนะความยินดีทั้งปวง ความสิ้นไปแห่งอะไร ชนะทุกข์ทั้งปวง"

.....พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตอบปัญหาท้าวสักกะผู้เป็นจอมเทพยดา ปรากฏใน ตัณหาวรรค ธรรมบท ว่า

.....สพฺพทานํ ธมฺมทานํ ชินาติ สพฺพรสํ ธมฺมรโส ชินาติ
.....สพฺพรตึ ธมฺมรติ ชินาติ ตณฺหกฺขโย สพฺพทุกฺขํ ชินาติ
.....การให้ธรรมทาน ชนะการให้ทั้งปวง
.....รสแห่งธรรม ชนะรสทั้งปวง
.....ความยินดีในธรรม ชนะความยินดีทั้งปวง
.....ความสิ้นไปแห่งตัณหา ชนะทุกข์ทั้งปวง
.....ผู้ใดให้ธรรมเป็นทาน ผู้นั้นชื่อว่าให้พระนิพพานแก่คนทั้งหลาย


ท่านใดที่ประสงค์จะร่วมบุญธรรมทานเพื่อสร้างหนังสือประวัติวัดทรายงาม และธรรมเทศนาเมตตากถานี้ก็ขอให้แสดงความประสงค์ในกระทู้ และแจ้งชื่อ และนามสกุลทางPM เพื่อจะได้รวบรวมรายชื่อผู้จัดสร้างเอาไว้ท้ายหนังสือ และขอให้โอนปัจจัยให้แล้วเสร็จก่อนวันที่ ๑๙ มิถุนายน ๒๕๕๒ นี้เพื่อดำเนินการจัดพิมพ์โดยใช้เวลาประมาณ ๗ วัน จากนั้นก็จะนำไปถวายวัดทรายงามได้ทันเดือนมิถุนายนนี้

เข้าบัญชี คุณอภิวัฒน์ ชัฎอนันต์
บัญชีออมทรัพย์ ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาไชยยศ
เลขที่ 040-2-25999-6

ขออนุโมทนา



</TD></TR></TBODY></TABLE>



ยอดยกมาก่อนหน้านี้มียอดบริจาคธรรมทานนี้รวม 12,950 บาท

คุณpsombat 1,000 บาท
คุณnongnooo 200 บาท
คุณnewcomer 100.48 บาท
พี่ไฟดูด 1,000 บาท
คุณkwok 400 บาท
คุณdragonlord 500 บาท
คุณchantasakuldecha 2,000 บาท
คุณพุทธันดร 500 บาท
นายคัง 200 บาท
คุณsithiphong 200 บาท
คุณสุคนทิพย์ 400 บาท

รวม 19,450.48 บาท

ขออนุโมทนา...<!-- google_ad_section_end -->

 

ความกตัญญู

คอลัมน์ รื่นร่ม รมเยศ

โดย เสฐียรพงษ์ วรรณปก

˹ѧ��;������Ԫ�����ѹ : ˹ѧ��;�����س�Ҿ ����ͤس�Ҿ�ͧ������

ท่านผู้รู้กล่าวว่า คนที่จะประสบความเจริญก้าวหน้าและมีความสุขในชีวิตนั้น จะต้องเป็นคนเก่งด้วย เป็นคนดีด้วย

ลำพังความเก่งอย่างเดียวเป็นได้ไม่ยาก ยิ่งการศึกษาเล่าเรียนด้วยแล้วมิใช่เรื่องยาก เพราะ "ความรู้อาจเรียนทันกันหมด" ใครขยันเรียนหรือโอกาสอำนวย ก็สามารถเรียนจบปริญญาสูงๆ ได้อย่างสบาย

ที่พูดนี้กำลังจะบอกว่า ความเป็นคนเรียนเก่งนั้น ทำได้ไม่ยาก แต่ความเป็นคนดีเป็นได้ยาก เพราะท่องเอาไม่ได้เหมือนเรียนหนังสือ

ความดีที่เป็นพื้นฐานสำคัญของความเป็นคน คือ ความกตัญญูกตเวที ดังที่พระพุทธภาษิตตรัสไว้ว่า ภูมิ เว สปฺปุริ สานํ กตญฺญูกตเวทิตา = ความกตัญญูเป็นพื้นของคนดี หรือมหาสมณสุภาษิตว่า นิมิตฺตํ สาธุรูปานํ กตญฺญูกตเวทิตา = ความกตัญญูกตเวทีเป็นเครื่องหมายของคนดี

เวลาเขาสร้างตึกรามสูงๆ ก่อนอื่นเขาจะต้องตอกเสาเข็มวางรากฐานให้มั่นคงแข็งแรงเสียก่อน ยิ่งจะสร้างตึกหลายชั้นเท่าใดฐานตึกยิ่งต้องให้มั่นคงยิ่งขึ้นเท่านั้น หาไม่แล้วตึกอาจพังครืนลงมาเมื่อใดก็ได้ คนเราก็เช่นกัน จะดูว่าใครจะไปได้ไกลแค่ไหนก็ดูกันที่ "พื้น" หรือรากฐานเบื้องต้นของชีวิตนี่แหละครับ ถ้าพื้นไม่ดีถึงจะเก่งกาจสามารถปานขงเบ้ง (เขาว่าขงเบ้งแกฉลาด) ก็ไปไม่รอด พื้นที่ว่านี้ก็คือ ความกตัญญูกตเวที

กตัญญู คือ ความรู้หรือตระหนักในคุณความดีที่คนอื่น (หรือสิ่งอื่น) มีต่อตน เป็นความรู้สึกภายในจิตใจ

กตเวที คือ การประกาศให้คนอื่นรู้ว่าคนอื่น สิ่งอื่นมีบุญคุณต่อตน ซึ่งเราแปลกันทั่วไปว่า "การตอบแทนบุญคุณ" ความจริงศัพท์เดิมเขาใช้ครอบคลุมดี เพราะ "การตอบแทน" นั้น มิได้อยู่เพียงแค่การกระทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งตอบหรือให้สิ่งใดสิ่งหนึ่งตอบ หากรวมถึงการประกาศให้คนอื่นรู้ว่าคนคนนั้น สิ่งๆ นั้น มีบุญคุณต่อตนอย่างไรด้วย สมมุติ เช่น นาย ก. ได้ช่วยเหลือนาย ข. นาย ข.รู้สำนึกในบุญคุณของนาย ก. อย่างนี้เป็นกตัญญู นาย ข. มีโอกาสเมื่อใดก็กล่าวสรรเสริญให้คนอื่นฟังว่า นาย ก. ดีต่อตนอย่างใดอย่างนี้ก็คือเป็นการตอบแทนเหมือนกัน ขอบเขตของความกตัญญูกตเวทีมิใช่อยู่แค่ระหว่างมนุษย์กับมนุษย์เท่านั้น รวมถึงสัตว์สิ่งของด้วย คนที่เลี้ยงสัตว์ไว้ใช้งานตีเสียว่า เลี้ยงอ้ายทุยคาราบาวก็แล้วกัน ถ้าตระหนักในบุญคุณของมัน ที่มันช่วยไถนาให้มีข้าวกิน ไม่ใช้แรงงานเกินขอบเขต ให้มันอยู่มันกินตามฐานะอันสมควร เวลามันแก่เหลาเหย่ใช้งานไม่ได้แล้ว ก็ไม่ฆ่าเอาเนื้อทำเนื้อทุบแกล้มเหล้า อย่างนี้ก็ถือว่า มีความกตัญญูกตเวทีต่ออ้ายทุยนะครับ ความกตัญญูกตเวทีต่อธรรมชาติแวดล้อมต่างๆ ก็พึงทราบโดยนัยเดียวกัน (พูดไปมากกระดาษไม่พอเขียน)

คนที่โค่นป่าทำลายทรัพยากรของชาติกันโครมๆ นั้น เป็นคนอกตัญญูและคนเนรคุณ ถึงจะเก่งกาจสามารถมากมาย บางคนเป็นใหญ่ถึงระดับรัฐมนตรี รัฐมนโท พระท่านว่าเป็นคนเลวครับ

ได้พูดถึงขอบเขตของความกตัญญูกตเวทีว่า ครอบคลุมถึงสัตว์และสิ่งของด้วย ผู้ที่สำนึกว่าสัตว์และธรรมชาติแวดล้อมมีคุณต่อตนเองแล้วไม่เบียดเบียนหรือทำลายสัตว์ และธรรมชาติแวดล้อม นับเป็นคนกตัญญูกตเวทีโดยนัยหนึ่ง

ความกตัญญูกตเวที โดยเฉพาะกตัญญูกตเวทีต่อผู้บังเกิดเกล้า ผู้รู้ทั้งหลายสรรเสริญ สมัยพุทธกาล ภิกษุรูปหนึ่งบิณฑบาตได้อาหารมา เอาให้ผู้บังเกิดเกล้ากินก่อน ตนเองได้ฉันบ้างไม่ได้ฉันบ้าง พระอื่นทราบเรื่อง พากันติเตียนว่า เธอทำไม่เหมาะ ที่นำอาหารบิณฑบาตไปให้คฤหัสถ์กินก่อน

พระพุทธเจ้าทรงทราบ กลับสรรเสริญภิกษุรูปนั้นว่า ทำถูกแล้ว แม้จะบวชเป็นพระแล้ว ก็สามารถเลี้ยงบิดามารดาได้ และอาหารที่บิณฑบาตได้มา ตถาคตอนุญาตให้เอาให้บิดามารดากินก่อนได้ ผู้รู้คุณคนและตอบแทนคุณคนอยู่ไหนก็ได้รับการสรรเสริญและประสบความเจริญ ตรงข้ามกับความอกตัญญูและคนเนรคุณย่อมจะมีแต่ทางหายนะ ดังเรื่องต่อไปนี้

บุรุษคนหนึ่งเรียนมนต์เสกมะม่วงมาจากจัณฑาลคนหนึ่ง มนต์นี้สามารถเสกให้ต้นมะม่วงที่เพาะลงดินใหม่ๆ เติบโต และมีดอกมีผลสุกงอมกินได้ในชั่วไม่กี่นาที อาจารย์ที่เป็นคนจัณฑาลบอกเขาว่า ถ้ามีใครถามว่าเรียนมนต์มาจากใคร จงบอกตามความเป็นจริง หาไม่ มนต์จะคลายความขลัง เขาก็รับปากรับคำอาจารย์เป็นอย่างดี

วันหนึ่ง กิตติศัพท์ความเก่งกาจของเขาล่วงรู้ไปถึงพระเจ้าแผ่นดิน พระองค์รับสั่งให้ตามเขาเข้าเฝ้า แต่งตั้งให้เขาดูแลสวนมะม่วง เวลาใดพระราชามีพระประสงค์จะเสวยมะม่วงก็รับสั่งให้เขาเสกถวาย เขาไปยืนใกล้ต้นมะม่วงร่ายมนต์พักเดียว ก็ได้มะม่วงสุกอร่ามหอมหวนน่ากิน เป็นที่อัศจรรย์ยิ่งนัก

วันหนึ่งพระเจ้าแผ่นดินตรัสถามว่า เขาไปเรียนมนต์นี้มาจากไหน ครั้นจะกราบทูลว่าเรียนมาจากคนจัณฑาล ก็รู้สึกละอายจึงกราบทูลว่า "ข้าพระพุทธเจ้าเรียนมาจากอาจารย์ทิศาปาโมกข์ เมืองตักกสิลา พ่ะย่ะค่ะ"

โกหกทั้งเพ !

ทันใดนั้น มนต์ที่เขาจำได้คล่องปากขึ้นใจก็อันตรธานหายไปสิ้น นึกเท่าใดก็นึกไม่ออก วันต่อมา เมื่อพระราชาให้เขาเสกมะม่วงให้เสวยอีก เขาก็ทำไม่ได้ พระเจ้าแผ่นดินทรงทราบความจริงภายหลัง จึงรับสั่งให้ราชบุรุษลงอาญาแก่เขาอย่างหนัก และให้เนรเทศออกจากพระนคร พร้อมรับสั่งว่า

"คนอกตัญญูเลี้ยงไว้ไม่ได้"

ครับ เลี้ยงอสรพิษไว้ในบ้าน ยังไม่อันตรายเท่าเลี้ยงคนไม่รู้คุณคน โบราณท่านว่าไว้อย่างนั้น

 

ก็แจ้งคุณหนุ่มไว้ เผื่อทางพี่ใหญ่สอบถามเรื่องการสร้างพระอานนท์อีกครั้ง ..

ผมได้สอบถามน้องเขาไปแล้ว น้องเขาติดงานบุญงานหนึ่ง แต่ก็รับปากว่าภายในสิ้นเดือนนี้น่าจะส่งแบบร่างพระอานนท์ให้ได้ก่อน ก็ได้บอกน้องเขาไปว่า พี่ใหญ่อยากให้แบบร่างนี้เป็นต้นแบบของการสร้างพระอานนท์ทุกๆวัดที่ปรารถนาจะสร้างพระอานนท์ อีกทั้งพระธาตุพระอานนท์ผมก็ได้ติดต่อพี่ท่านหนึ่งไว้แล้ว ก็รับปาก และสอบถามพระเจ้าอาวาสวัดถ้ำเอราวัณไว้แล้ว ท่านก็เมตตามอบให้มีทั้งสัณฐานที่เป็นหัวใจ และไม่ใช่หัวใจ ส่วนวัตถุมงคลที่มอบให้ผู้ร่วมบุญที่เกี่ยวเนื่องกับการจัดสร้างพระอานนท์นี้คงจะช่วยกันนะครับ หรือจะมีโครงงานสร้างพระอานนท์ขนาดบูชาก็ลองปรึกษากัน เท่าที่ผมเห็นงานก่อนหน้านี้ของน้องเขา ผมต้องยอมรับว่าเขาเต็มร้อย และงานออกมาสวยมาก น้องเขาได้มอบภาพพระนาคปรก และภาพพระแม่กวนอิมที่คณะของน้องเขาเป็นผู้สร้างมาให้ชมกัน โดยจัดสร้างเป็นหินทรายจากวังน้ำเขียว แล้วขนย้ายไปประดิษฐานที่หนองคาย ลองชมภาพที่ผม post ไว้ ๔ ภาพนี้ บางทีอาจจะเปลี่ยนใจจากทองเหลืองมาเป็นหินทรายก็ได้นะครับ ก็ลองจินตนาการว่าหากจัดสร้างพระอานนท์องค์ใหญ่ประจำวัด และองค์ขนาดบูชา คงจะอดใจสั่งจององค์บูชากันไม่ได้แน่ แต่หินทรายคงจะยากหน่อย เพราะสร้างด้วยมือ ไปกดพิมพ์ปั๊มที่ไหนคงจะยาก หากแต่เป็นทองเหลืองก็ยังพอมีสิทธิ์ครับ

พระอานนท์องค์ที่กำลังจะสร้างกันนี้น่าจะประดิษฐานที่จ.กาฬสินธุ์

ตอนจัดสร้างพระแม่กวนอิมองค์นี้ ได้แนะนำน้องเขาว่าให้บอกช่างให้เจาะเปิดพระเมาลีแล้วบรรจุผอบพระธาตุพระแม่กวนอิมไว้ จากนั้นก็seal ปิดให้เรียบร้อย ก็เป็นไปตามนั้นทุกอย่างครับ หากจัดสร้างเป็นพระอานนท์ก็คงจะใช้วิธีการเดียวกัน...

ส่วนพระธาตุพระอานนท์ที่จะมอบให้ผู้ร่วมบุญนี้ คงจะลำบากเพราะจะขัดกับหลักการของทางเวปพลังจิต ที่ไม่ให้บูชาพระธาตุ หรือจัดส่งพระธาตุทางไปรษณีย์ พระธาตุพระอานนท์เป็นพระธาตุที่หายากมาก ก็อยากมอบให้เป็นที่ระลึกกับผู้ร่วมบุญสร้างพระอานนท์เพื่อบูชายังเคหะสถาน กรณีนี้คงต้องสอบถามพี่ใหญ่ ถึงความเหมาะสมอีกครั้ง หรือจะให้บรรจุที่องค์พระทั้งหมดก็ย่อมได้ไม่มีปัญหา..

 

อ้างอิง:
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong
ขอสรุปเรื่องของชื่อชมรม

สำหรับการประชุมในครั้งแรก ที่ประชุมได้มีมติเรื่องของชื่อชมรมออกมาแล้ว

ชื่อชมรม "รักษ์พระวังหน้า" ครับ

ตามที่คุณpsombat ได้เสนอมา

ส่วนเรื่องของการเข้าชมรม รักษ์พระวังหน้า เดิมไม่มีค่าใช้จ่าย แต่ที่ประชุมได้เสนอแนวคิดต่างๆ มาสรุปกันที่ การสมัครสมาชิกชมรม จะต้องเสียค่าใช้จ่าย(ค่าบำรุงชมรมแรกเข้า)ในการเข้าเป็นสมาชิก 300 บาท และมีค่าบำรุง(รายปี) ปีละ 100 บาท โดยเก็บจากสมาชิกในเดือนมกราคม ของทุกๆปี

ส่วนการลาออกหรือถูกให้ออก ที่ประชุมมีมติเห็นควรว่า ไม่ต้องคืนพระพิมพ์ต่างๆ ที่ชมรมเป็นผู้ที่มอบให้

ส่วนการสมัครยังคงมีเรื่องของการตั้งจิต และ ตั้งสัจจะอยู่ครับ

รายละเอียดของการประชุม ผมจะเขียนแล้วจะแจ้งให้ทราบอีกครั้งทาง email ผมจะส่งไปพร้อมกับใบสมัคร เนื่องจากในครั้งหน้า จะมีการประชุมเพื่อโหวตเลือกประธาน ส่วนตำแหน่งอื่นๆ จะขอความเห็นจากสมาชิกครับ
.
</TD></TR></TBODY></TABLE>
เมื่อวานนี้(วันอาทิตย์ที่ ๑๔ มิ.ย.) ก็ได้ประชุมจัดตั้งชมรม"รักษ์พระวังหน้า" ไปเรียบร้อยแล้ว ก็อยากจะนำเรื่องราวของ"ชีวิต"มาให้ลองพิจารณา และหากมีความเชื่อถือในเรื่องราวของชีวิตที่กำลังจะเดินไปนี้ ก็นำไปปรับใช้กันให้เหมาะกับสถานการณ์..

ชมรมรักษ์พระวังหน้า ลงมติตั้งเมื่อวันอาทิตย์ที่ ๑๔ มิถุนายน ๒๕๕๒ เวลา ๑๔.๑๕ น. คะแนนเสียง ๑๑:๑๑ อาจารย์ปู่ประถมจึงลงความเห็นสุดท้ายว่าชื่อ"รักษ์พระวังหน้า"น่าจะเหมาะสมที่สุด

ตรวจดูจากปฏิทินโหราศาสตร์ที่จัดทำตามแนวทางของท่านอาจารย์เทพย์ สาริกบุตร ท่านว่าตรงกับเทวีแห่งฤกษ์ ดิถีราชาโชค ซึ่งเกณฑ์ราชาโชคนี้มีจนถึงเวลา ๑๕.๑๖ น.เท่านั้น ซึ่งการประชุมก็ไม่ได้ไปดูฤกษ์ยามมาก่อนแต่อย่างไร เป็นการสอบทานภายหลังว่าเป็นอย่างไรตามประสาความอยากรู้...

ตามหลักทักษาแล้วชื่อ"รักษ์พระวังหน้า"นี้มีตำแหน่งเป็น"มนตรี" หมายถึงความมีชื่อเสียง เกียรติ ความเจริญ...(ให้สภาวะในลักษณะนี้ไปในทางดี) หากเป็นชื่อ"พระวังหน้า"ตามหลักทักษาก็จะเป็น"อุตสาหะ" ก็จะเหนื่อยหน่อย เป็นเรื่องของการบำเพ็ญวิริยะบารมี...

มาว่ากันถึงช่วงชีวิตของ"รักษ์พระวังหน้า" และกำลังของดวงดาวที่เข้ามาเกี่ยวข้อง ก็จะมีด้วยกัน ๘ ดวงที่มีอิทธิพลอย่างมากตามช่วงอายุซึ่งผมคิดว่า การรู้เท่าทันการณ์บางอย่างข้างหน้า ก็จะทำให้การจัดการปัญหาข้างหน้าเป็นไปอย่างรู้เท่าทัน อีกทั้งเพื่อประโยชน์ต่อส่วนรวมจริงๆ ไม่ใช่เพื่อส่วนตัวนี้ เมื่อเกิดเหตุการณ์ร้ายๆ มีอุปสรรคเกิดขึ้น ก็จะได้ละวางอารมณ์ กิเลสทางกาย วาจา และใจได้อย่างทันการณ์ เมื่อพิจารณาตามกำลังดาวที่เข้ามาเกี่ยวข้องแล้ว หากนำจุดเด่น และจุดด้อยของกำลังดาวนี้เป็นแนวทางก็จะเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมอย่างมาก

กำลังราชาโชค ให้สภาวะของการช่วยเหลือสนับสนุน-ผู้ใหญ่ให้ความช่วยเหลือแบบลดขั้นตอนความยุ่งยาก อันนี้เป็นคุณ แต่ให้ระวังเรื่องความสำเร็จแบบง่ายๆอาจจะนำไปสู่ความทะเยอทะยานอยาก และเกิดการทรยศหักหลังของผู้เกี่ยวข้องที่จะสร้างอุปสรรคขวางกั้น

กำลังพระอาทิตย์ ให้สภาวะของผู้นำ-เกียรติศักดิ์ศรี ขอขยายความเพิ่มเล็กน้อยว่า การเป็นผู้นำก็ต้องมีผู้ตาม ดังนั้นหากนำไม่ดี ก็จะไม่มีคนที่อยากเดินตาม ดังนั้นจึงต้องคำนึงศาสตร์ และศิลป์การเป็นผู้นำ

กำลังพระเกตุ ให้สภาวะของญาณการหยั่งรู้-สิ่งศักดิ์สิทธิ์ของสูง-เชื้อสายสกุล-การทำงานในรั้ววังองค์การระดับสูง-เครื่องราชอิสริยาภรณ์-ของเก่าแก่โบราณ-ศาสตร์เร้นลับ-การวิปัสสนา เกี่ยวข้องหรือไม่ก็ลองพิจารณากันเอา และต่อไปก็จะได้สัมผัสกันเองว่าจริงเท็จอย่างไร

กำลังพระราหู ให้สภาวะของทะเยอยานอยากเอาชนะ-ลุ่มหลงมัวเมา-เดินทางผิดตกเป็นเครื่องมือของผู้อื่น-ความไม่แน่นอน-ถูกกลั่นแกล้งใส่ร้ายป้ายสี-เกิดเหตุการณ์และเสี่ยงคุกตะราง-ทางรอดจึงต้องสละความโลภ-ต้องทำเพื่อศาสตร์แห่งวิชาและส่วนรวม ดีในเรื่องการเรียนรู้

กำลังพระจันทร์ ให้สภาวะของการเข้าสังคม กลุ่มคน มีการเคลื่อนไหว ความไม่แน่นอน เคล็ดลับของกำลังดาวนี้คือ การให้แสงสว่าง ความรู้ ช่วยเหลืออย่างจริงใจ

กำลังพระมหาจักรพรรดิ ให้สภาวะของการต่อสู้ การวิวาท ความรุนแรง การทำสงคราม เป็นเลขที่เตือนให้รู้ว่าต้องใช้ความรอบคอบให้มากที่สุด เป็นเลขที่เกี่ยวกับการรวมพล การก่อตั้งชมรม สถาบัน เป็นเลขที่มีความขัดแย้งในระหว่างความนิยมทางวัตถุและความนิยมในจิตวิญญาณ อันนี้จึงต้องทำความเข้าใจอย่างลึกซึ้งว่า ต้องการอะไรจริงๆ วัตถุ หรือความหลุดพ้น???

กำลังพระศุกร์ เป็นเลขที่ให้คุณสูงทางด้านศิลปะทุกแขนง ดูเหมือนประนีประนอม โอนอ่อนผ่อนตาม เข้ากับใครๆได้ แต่เข้มแข็งภายใน ปณิธานแรงกล้า มีพลังขับรุนแรง จะแสดงออกเมื่อถึงจุดคอขาดบาดตาย ดังนั้นต้องระวังเรื่องการเปลี่ยนแบบฉับพลันกรณีที่เข้าเกณฑ์ช่วงเวลาที่เป็นจุดอ่อน

กำลังพระโสฬสมงคล ให้สภาวะของความสำเร็จที่สูงมาก จุดสุดยอดความสำเร็จ แต่ลึกๆบ่งบอกถึงการต่อสู้อุปสรรค มีศัตรูจ้องบ่อนทำลายตลอดเวลา ในทางธุรกิจแนะนำว่าให้ลงจากตำแหน่งในขณะที่รุ่งเรืองสุดขีด ดังนั้นหากเป็นการอุทิศตัวเพื่อการสาธาณประโยชน์ไม่หวังผลประโยชน์ส่วนตัว ในทางธรรมจะเหมาะมากหากรู้จักการปล่อยวาง

 

ขอบคุณครับคุณเพชรที่แจ้งความคืบหน้า

.

 

ผมได้ดำเนินการแก้ไข ข้อบังคับชมรม รักษ์พระวังหน้า เรียบร้อยแล้ว

ผมจะจัดส่งใบสมัครให้กับทุกๆท่านที่สนใจที่จะสมัครสมาชิกชมรม ผมขอความกรุณาให้ส่งใบสมัครกลับมาที่ผมก่อนสิ้นเดือนนี้ เนื่องจากผมจะต้องนำมาใส่เลขที่ของใบสมัคร และ เตรียมการเรื่องของการประชุมรมรมในการนัดพบกันในครั้งหน้า

ในการประชุมครั้งหน้า จะมีการโหวตเลือกประธานชมรม ส่วนในตำแหน่งอื่นๆ จะขอความเห็นจากสมาชิกชมรม(ที่ได้ส่งใบสมัครให้ผมแล้ว)

ส่วนบัญชีที่จะใช้นั้น ผมรบกวนคุณเพชร และคุณnongnooo หากว่างวันไหน ผมรบกวนมาเปิดบัญชีพร้อมกับผมด้วย ผมจะโทร.ไปสอบถามวันเวลาอีกครั้งนะครับ อย่าลืมเตรียมตังมาเปิดบัญชีท่านละ 300 บาทด้วยครับ

การเปิดบัญชี จะใช้วิธีการถอนโดย 2 ใน 3 ท่านครับ ชื่อบัญชีจะเป็นชื่อ คุณเพชร ,คุณnongnooo และผมครับ

.

 

ผมได้ไปตั้งกระทู้ ชมรม รักษ์พระวังหน้า

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR vAlign=bottom><TD></TD><TD> </TD><TD width="100%">PaLungJit.com > กลุ่มชมรม > พระเครื่อง-วัตถุมงคล > พระวังหน้า </TD></TR><TR><TD class=navbar style="FONT-SIZE: 10pt; PADDING-TOP: 1px" colSpan=3> ชมรม รักษ์พระวังหน้า </TD></TR></TBODY></TABLE>
PaLungJit.com - ชมรม รักษ์พระวังหน้า

หากจะทราบความเคลื่อนไหวในบางเรื่อง ที่ผ่านมา สามารถเข้าไปดูย้อนหลังได้ ผมจะนำไปไว้ในกระทู้ชมรม รักษ์พระวังหน้า ครับ

 

ผมได้ไปโอนเงินร่วมทำบุญจำนวน 400 บาท เรียบร้อยแล้วครับ

โมทนาสาธุครับ

 

ผมได้จัดส่งใบสมัครให้แล้วนะครับ
1.คุณเพชร
2.คุณnongnooo
3.คุณพุทธันดร
4.พี่แอ๊ว
5.คุณake7440
6.คุณpsombat
7.คุณdragonlord
8.คุณkhongbeng
9.คุณnarin96
10.คุณชวภณ ศ.
11.คุณtungjit
12.คุณtawatd
13.พตอ. .....
14.พี่ kaicp
15.พี่ drmetta
16.คุณพรสว่าง_2008
17.คุณchantasakuldecha

.

 

ท่านที่จะสมัคร โปรดอ่านข้อบังคับและที่สำคัญก็คือวัตถุประสงค์ของชมรมให้ดีและละเอียดก่อนนะครับ

หากไม่มั่นใจว่า ทำได้ ก็อย่าสมัคร

งานนี้ผมคัดคุณภาพ นั่นหมายถึง ความศรัทธา , การเคารพในครูบาอาจารย์ ,ความอดทน ,ความเพียร ,ความพยายาม ,ความตั้งใจ และในทุกๆเรื่องอย่างเต็มร้อยครับ

ถึงแม้ว่า ชมรมนี้จะมีอยู่ไม่กี่ท่าน ผมก็ยังยืนยันว่า ต้องดำเนินกิจกรรมชมรมต่อไป แต่สมาชิกชมรม ต้องมีองค์ความรู้ที่มากพอสมควร และผมเองก็มีบางเรื่องซึ่งผมคิดว่า ในลำดับแรกคงต้องแจ้งกับสมาชิกก่อน ต่อไปเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม(ก็ไม่ทราบว่า จะเร็วหรือช้าเพียงใด) ผมถึงจะนำมาบอกกันครับ

.

 

วิธีป้องกันตัวจากหวัด

คอลัมน์ที่ 13

˹ѧ

 

แก้ไขเรื่องโกหก

สดจากจิตวิทยา

นฤภัค ฤธาทิพย์/กรมสุขภาพจิต

˹ѧ��;��������ʴ�͹�Ź� : �ú�ء�� ʴ�ء����ͧ==

สาเหตุที่ทำให้ลูกโกหกอาจเกิดจากกลัวถูกดุถูกลงโทษ จึงแก้ตัวให้พ้นผิด หรือบางคนต้องการเรียกร้องความสนใจจากพ่อแม่ หรืออยากเด่นเป็นจุดสนใจของเพื่อนจึงโกหกหรือสร้างเรื่องขึ้นมา อย่างไรก็ตาม หากพ่อแม่พบว่าลูกมีพฤติกรรมโกหกก็ไม่ควรปล่อยปละละเลย เพราะจะกลายเป็นนิสัยติดตัว จนแก้ได้ยาก แต่ก็ไม่ควรลงโทษรุนแรง เพราะทำให้ลูกยิ่งโกหกเพื่อไม่ให้ถูกลงโทษ

ดังนั้น พ่อแม่ควรที่จะให้เวลาใกล้ชิดกับลูก รับฟังลูก และอธิบายให้ลูกเข้าใจว่าการโกหกเป็นสิ่งไม่ดี ทำให้ขาดความน่าเชื่อถือ เมื่อพูดความจริงคนอาจไม่เชื่อเพราะคิดว่าเราโกหก และหากเราพูดความจริงยอมรับผิดและแก้ไข จะเป็นคนที่กล้าหาญน่านับถือ

ที่สำคัญพ่อแม่ควรเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับลูก โดยหากพูดหรือสัญญากับลูกว่าจะทำ อย่างไรก็ควรทำตามที่พูด เพื่อเป็นแบบอย่างที่ดีให้ลูก และหากลูกแก้ไขตนเองเลิกพูดโกหกพ่อแม่ควรสนใจและชมเชยลูก เมื่อให้ลูกมีพฤติกรรมที่ดีอย่างยั่งยืน

˹ѧ

 

วันศุกร์ ต่อวันนี้ จนถึงเวลานี้ ราคาน้ำมันไหลรูดลงมา 2 เหรียญกว่าๆ ต่ำกว่า70 เหรียญต่อบาเรลแล้ว อีกทั้ง dow future ก็รูดอีก 2% กว่า แบบนี้ พรุ่งนี้ตลาดหุ้นพี่ไทย สงสัยจะต่ำกว่า 600 จุด กูรูน้องนู๋นี่สุดยอดจริงๆ ทำนายว่า ไปถึง 620 จุด นี่มันล่อกันเกินมา 10 จุด เลยกว่าที่พี่น้องนู๋ฟันธง งานนี้สงสัยจะไปรับกันที่ 550 จุดอีกรอบ

Light Sweet Crude

<SCRIPT language=JavaScript type=text/javascript> cnbc_WSODChartLoad('http://api-cdn.cnbc.com/api/chart/chart.asp?&type=large&charttype=overview&realtime=0&symbol=US%40CL.1&timeframe=48hour','thumb_chartID0EGBAE'); </SCRIPT> <INPUT id=init_cnbcchart_page_ID0EGBAE type=hidden value=/id/15839171>​

​

​

​

​

<TABLE class=w100p cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD>

OIL
​

69.96
​

​

-2.08

-2.89%
​

</TD></TR><TR><TD>

GAS
​

2.0196
​

​

-0.0235

-1.15%
​

</TD></TR><TR><TD>

BRENT
​

69.79
​

​

-2.01

-
​

</TD></TR></TBODY></TABLE>

ตามด้วย Future
<TABLE class=mL5 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=598 border=0><TBODY><TR><TD class="cFont cf24 cstrong" colSpan=7 height=45>DOW (mini)</TD><TD vAlign=center align=right width=238 height=45 rowSpan=4><FVCHART>1month
<SCRIPT language=JavaScript type=text/javascript> cnbc_WSODChartLoad('http://api-cdn.cnbc.com/api/chart/chart.asp?type=small&charttype=overview&realtime=0&symbol=us%40DJ.1&timeframe=1month','cnbcWSOD_chartID0EGBAC'); </SCRIPT>


<SCRIPT> cnbc_quoteComponent_init_getData('us@DJ.1','WSODQ_COMPONENT_US%40DJ.1_ID0EGBAC15839602','WSODQ','false','ID0EGBAC15839602','off','false','chartBox'); </SCRIPT></FVCHART>
</TD></TR><TR><TD class="cFont cf11 cstrong padL" style="BORDER-TOP: #cccccc 1px solid" colSpan=4 height=22>FUTURES</TD><TD class="cFont cf11 cstrong" style="BORDER-TOP: #cccccc 1px solid; PADDING-LEFT: 12px" colSpan=3 height=22>FUTURES FAIR VALUE (10.26)</TD></TR><TR class=lh1><TD class="cnbc_bg_cfdde6 h13" vAlign=top align=left width=63 height=13></TD><TD class="cnbc_bg_cfdde6 h13" vAlign=top align=left width=55 height=13></TD><TD class="cnbc_bg_cfdde6 h13" vAlign=top align=left width=37 height=13></TD><TD class=h13 vAlign=top align=left width=4 height=13> </TD><TD class="cnbc_bg_cfdde6 h13" vAlign=top align=left width=96 height=13></TD><TD class="cnbc_bg_cfdde6 h13" vAlign=top align=left width=54 height=13></TD><TD class="cnbc_bg_cfdde6 h13" vAlign=top align=left width=51 height=13></TD></TR><TR class="cFont cf11"><TD class="padL cstrong" noWrap height=28>8799.26</TD><TD noWrap height=28>8531.0</TD><TD class=cstrong noWrap height=28>-207.00</TD><TD noWrap height=28> </TD><TD class=cstrong style="PADDING-LEFT: 12px" noWrap height=28>8748.26</TD><TD noWrap height=28>8531.0</TD><TD class=cstrong noWrap height=28>-217.26</TD></TR><TR class="cFont cf11"><TD class=padL style="BORDER-TOP: rgb(204,204,204) 1px solid" noWrap colSpan=7 height=21>Last Updated: 1:35:02 PM</TD></TR></TBODY></TABLE>

​

 

55555งานเลี้ยงยังไม่เลิกลา แมลงเม่ายังมาไม่มากพอ แต่ว่าไปเริ่มมีแมลงเม่าโดนเผาแล้วครับ หุ หุ

 

คุณ สิทธิพงษ์
ผมอ่านรายชื่อ แต่ไม่พบชื่อผมเลยครับ ถ้าตกหล่นอย่างไร ผมรอนะครับ