ไม่เคยฝึกมโนมยิทธิ แต่สิ่งที่ตัวเองสื่อได้ คล้ายๆจะมาทางด้านนี้

เท่าที่อ่านๆ เหมือนคุณไปได้จริง วิมานของคุณเหมือนของดิฉันเลย มีสะพานข้ามเหมือนกัน มีสระบัว อิอิ

อนุโมทนาด้วยค่ะ ขอให้ปฏิบัติต่อไปค่ะ

 

โอ้มายก้อด คุณ wara43 ถ้าท่านประสบเห็นสิ่งเหล่านั้นมาจริงๆ
ดิฉันขอโมนาสาธุเป็นอย่างยิ่ง สาธุๆๆๆๆ
เพราะท่านเป็นตัวอย่างของ "นักเรียน" ที่เรียนแล้วได้ผลจริงๆ

ขออนุญาตถาม ตอนที่เห็นตื่นเต้นบ้างไหมคะ

ขอให้ผลแห่งการปฏิบัติเจริญๆ มีความรู้ในธรรมทั้งหลายยิ่งๆขึ้นไปนะคะ
ส่วนตัวดิฉันเชื่อว่า ยิ่งเราได้รู้ได้เห็นการเวียนว่ายตายเกิดมากเท่าใด
ได้เห็นสุข ทุกข์ของสัตว์ในภพภูมิทั้งหลาย
จะยิ่งทำให้เราละวางความยึดมั่นถือมั่นลงไปได้ในที่สุดค่ะ

สาธุ

 

สาธุ สาธุ สาธุ โมทนาบุญ กับคุณ wara43 ด้วยครับ

ดีจังเลยครับ สาธุ

 

สวัสดีครับ กัลยาณมิตร ทุกท่าน

เมื่อวาน ผมนำภัตราหารไปถวายเพล หลวงพ่อวิริยังค์ มาครับ
ท่านให้พรมาเยอะเลยครับ

ผมขอนำบุญ และพรที่ได้รับมาฝากทุกๆท่านครับ

สาธุ สาธุ สาธุ

 

สวัสดีครับคุณ Me, myself และเพื่อนกัลยาณมิตรทุกท่าน

ขออนุโมทนาบุญกับคุณ Ricardo DeCalgary ที่ได้ทำบุญกับพระอริยสงฆ์ด้วยครับ

และขออนุโมทนาบุญกับคุณ wara43 ที่ได้ปฏิบัติตามคำสอนหลวงพ่อจนเป็นผล

ข้อย้อนอดีตตัวเองนิดนึง เมื่อยี่สิบกว่าปีมาแล้วผมเคยไปฝึกมโนฯ ครั้งนึงที่บ้านซอยสายลม ตอนนั้นหลวงพ่อยังทรงขันธ์อยู่ และเคยกราบท่านที่บ้านซอยสายลม ๒-๓ หน
แล้วก็เคยไปเป่ายันต์เกราะเพชรที่วัดท่าซุงครั้งนึง
ตอนฝึกมโนฯ ที่บ้านซอยสายลมก็ไม่เห็นอะไร
เวลาครูถามก็ตอบไปตามเรื่องเพื่อให้ผ่าน ๆ ไปทั้ง ๆ ที่ไม่เห็น
ตอนนั้นไม่ได้เอาจริงเรื่องมโนฯ สักเท่าไหร่
แต่ก็อ่านหนังสือคำสอนหลวงพ่อและฝึกนั่งอยู่ที่บ้าน
ไม่ได้ไปฝึกมโนฯ อีกเพราะไม่อยากตอบคำถามครูเพราะต้องพูดปดตลอด

หลังจากนั้นก็แต่งงานมีครอบครัว เลี้ยงลูก ยุ่งอยู่กับภาระต่าง ๆ ตามประสาคนครองเรือน
เสียเวลาอยู่กับกิเลสตัณหาอุปปาทานยี่สิบปี
มาต้นปีนี้ได้อ่านคำสอนหลวงพ่ออีกครั้งในเว๊ปพลังจิต
เลยสำนึกได้ว่าตัวเองยังเลวอยู่มาก ศีล ๕ ก็ไม่มี
รู้สึกละอายใจตัวเองมาก คิดว่าตายไปคงไม่พ้นอบายแน่
เสียดายวันเวลาที่ผ่านมา อุตส่าห์มีบุญได้กราบไหว้พระอริยเจ้าแล้ว
กลับทิ้งความดีไปคบกับความชั่ว
สำนึกได้แล้วผมก็ไปกราบขอขมาหลวงพ่อที่วัดท่าซุง
สัญญากับหลวงพ่อว่าลูกสำนึกผิดแล้ว ขอกลับตัวกลับใจละทิ้งความชั่วทั้งหมด
กลับมารักษาศีล ๕ กรรมบท ๑๐ พรหมวิหาร ๔ ตามคำสอน ขอหลวงพ่อเป็นกำลังใจให้ลูก

ตอนนี้ผมพยายามปฏิบัติทุกวัน แต่ไม่ได้ไปฝึกมโนฯ ที่ไหน
แค่นั่งพุทโธแล้วก็จับลมหายใจเข้าออก จับภาพพระไปด้วย
ก่อนนอนก็ภาวนา "นิพพานัง ปรมัง สุขขัง" ตามที่อ่านเจอในเว๊ปนี้ว่าหลวงพ่อเคยสอนให้ภาวนาแบบนี้ตอนนอน
ทุกคืนผมจะภาวนาอย่างนี้ไปเรื่อยๆ จนกระทั่งหลับไป
มีอยู่วันนึงตื่นขึ้นมาตอนตี ๔ เพื่อเข้าห้องน้ำ
แล้วก็กลับมานอนต่อ โดยภาวนา "นิพพานัง ปรมัง สุขขัง" ไปด้วย
ผมรู้สึกตัวว่าตัวเองได้หลุดลอยออกไปนอกโลก เห็นท้องฟ้าเป็นฉากสีดำสนิท
มีดวงดาวระยิบระยับเต็มท้องฟ้า มีอาการทางกายด้วยคือรู้สึกกระตุกที่หัวคิ้วทั้งสองข้างอย่างแรง กระตุกแรง ๆ ติดต่อกันตลอด บังคับให้หยุดไม่ได้
ผมตกใจ แล้วก็พิจารณาว่าเราอยู่ที่ไหน สิ่งที่เราเห็นนี้เป็นเพราะฝันไปหรือเปล่า
ตอนนั้นรู้สึกว่าตัดขาดจากโลกภายนอก ไม่ได้ยินสรรพเสียงต่าง ๆ เลย
คำภาวนาหายไป ยังเห็นดวงดาวระยิบระยับเต็มท้องฟ้า ผมรู้สึกกลัวก็เลยคิดถึงหลวงพ่อ
ก็ได้เห็นหน้าหลวงพ่อลอยมา แต่ไม่ชัดเจนนัก
จากนั้นผมกลับมาภาวนาใหม่เพื่อให้แน่ใจว่าไม่ได้ฝันไป
ภาวนาได้สักครู่รู้สึกว่าตัวเองกลับมาสู่สภาวะปกติ คือได้รับรู้สิ่งต่าง ๆ รอบตัว
แล้วก็ภาวนาไปเรื่อย ๆ จนเช้า

ขอขอบคุณเว๊ปพลังจิตและทีมงานทุกท่าน
ที่เป็นสื่อกลางให้ผมละทิ้งความชั่ว
กลับมาพบกับแสงสว่าง คือพระธรรมของพระพุทธเจ้า
ตลอดจนคำสอนของพระเดชพระคุณหลวงพ่ออีกครั้งครับ

ท้ายสุด เช้านี้ผมได้ใส่บาตรพระ เอาบุญมาฝากเพื่อนกัลยาณมิตรทุกท่านครับ

 

วันนี้ไปถวายอาหารเพลให้พระสงฆ์ที่อาพาธที่โรงพยาบาลสงฆ์มาค่ะ แล้วก็ถวายสังฆทานมาด้วย เอาบุญมาฝากค่ะ

 

คิดว่าคุณภาวนาจนถึงขั้นสงบมากเลยนะคะ แล้วคาดว่าจิตออกไปแล้วด้วย เพียงแต่คนส่วนใหญ่ที่ไม่เคยได้ ไม่เคยรู้ ก็จะตกใจกลัว แล้วก็กังวลสุดท้ายก็ต้องรีบกลับมา

ลองไปปฏิบัติเรื่อยๆนะคะ เจอบ่อยๆเดี๋ยวก็ชินเอง

 

อนุโมทาบุญทุกท่านครับ ผมก็ได้ร่วมบุญประธานกฐิน ๑ กอง กองละ ๑,๐๐๐ บาท ที่ทางวัดท่าขนุนครับ เอาบุญมาฝากเช่นกันครับ

 

สวัสดีครับ กัลยาณมิตร ทุกท่าน

สาธุ สาธุ สาธุ โมทนาบุญ กับทุกๆท่านด้วยครับ

ช่วงนี้ เรามีสมาชิกเข้ามาร่วมแสดงข้อคิดเห็นมากขึ้น นะครับ
(รู้สึกดีครับ อบอุ่น ครับ อบอุ่น ต้องขออนุญาต ท่านเจ้าจองกระทู้ด้วยครับ)

ที่สำคัญแต่ละท่านก็ได้ นำบุญมาฝากกันครับ

ขอโมทนา ในทุกๆบุญ กับทุกๆท่าน อีกครั้งนะครับ

สาธุ สาธุ สาธุ<!-- google_ad_section_end -->

 

ช่วงนี้คงยังไม่มีอะไรมาเล่านะคะ เพราะว่ากำลังศึกษาและฝึกปฏิบัติเพิ่มเติม ก็แวะมาแจ้งข่าวก่อนค่ะ

 

จริงค่ะท่าน Ricardo รู้สึกดีกับกระทู้นี้ยังไงก็ไม่รู้

รู้สึกอย่างหนึ่งว่า การพูดคุยในนี้ไม่มีลักษณะอวดเก่งใส่กัน
ต่างก็มาเล่าประสบการณ์อย่างเป็นกลาง ดีค่ะ

 

พี่ Me myself คะ ตอนนี้ความสงสัยใคร่รู้ของหนูมันซุกซนขึ้นมา

คือ เราเองก็น่าจะเคยทราบมาบ้างว่า
มีพระสงฆ์ท่านหนึ่ง ท่านได้ประกาศจุดยืนที่ชัดเจนของท่านในงานเขียน
ท่านคิดเห็นว่านรกสวรรค์นั้น แม้แต่นิพพานนั้น อยู่ที่ตัวของเราเอง ไม่ใช่ที่อื่น
ภพ ชาติ ก็เช่นกัน เป็นสิ่งที่เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไปในปัจจุบัน ไม่ใช่ชาติหน้า ชาติก่อน
ท่านคิดเห็นว่า เนื้อความในพระไตรปิฎกหลายๆส่วนไม่ใช่ความจริง สมควรถูกตัดทิ้ง

ซึ่งหนูไม่ตำหนิท่านเลยแม้แต่น้อย
ท่านได้แสดงจุดยืนจากสิ่งที่ท่านได้ศึกษาค้นคว้ามาอย่างดีที่สุดแล้ว
แต่ทว่า..... ก็ไม่สอดคล้องกับประสบการณ์ของพี่ หรือของกัลยาณมิตรอีกหลายท่าน

อย่างที่เรียนให้ทราบว่าซุกซนค่ะ
เลยอยากเรียนถามพี่ว่า กรณีเช่นนี้ พระศาสดาจะเมตตาชี้แนวทางให้เกิดสัมมาทิฏฐิได้อย่างไรบ้างคะ

 

สวัสดีครับคุณ Me, myself และเพื่อนกัลยาณมิตรทุกท่าน

ก่อนอื่นผมขอขอบพระคุณคุณ Me, myself มากครับที่กรุณาให้คำแนะนำ ผมจะนำไปปฏิบัตินะครับ

สำหรับข้อสงสัยของคุณ classic songs ผมขออนุญาตตอบตามคู่มือปฏิบัติพระกรรมฐานของหลวงพ่อฤาษีวัดท่าซุง ซึ่งท่านได้จำแนกผู้ปฏิบัติธรรมเป็น ๔ พวกด้วยกันคือ
๑ สุขวิปัสสโก
๒ เตวิชโช หรือวิชชาสาม หมายถึงผู้ทรงคุณสามประการ ได้แก่ปุพเพนิวาสานุสสติญาณ, จุตูปปาตญาณ และอาสวักขยญาณ
๓ ฉฬภิญโญ หรืออภิญญาหก หมายถึงผู้ทรงอภิญญา ๖ ได้แก่ อิทธิฤทธิ์, ทิพยโสต, จุตูปปาตญาณ, เจโตปริยญาณ, ปุพเพนิวาสานุสสติญาณ และอาสวักขยญาณ
๔ ปฏิสัมภิทัปปัตโต
ดังนั้นผู้ปฏิบัติธรรมแต่ละพวกจะมีความสามารถไม่เท่ากัน แต่ก็มีจุดหมายปลายทางเดียวกันคือตัดกิเลสให้หมดสิ้นเพื่อหลุดพ้นจากวัฏฏะสงสาร

พวกเราที่ศึกษาและปฏิบัติพระกรรมฐานควรจะเข้าใจภาพรวมก่อน และศึกษาการปฏิบัติพระกรรมฐานทั้ง ๔๐ กองให้เข้าใจ ถ้าเราเข้าใจตรงนี้แล้วเราก็จะไม่หนักใจหรือแปลกใจเมื่อเห็นผู้อื่นหรือบุคคลหมู่อื่นปฏิบัติแตกต่างจากเรา หรือมีจุดยืนเรื่องพระกรรมฐานแตกต่างจากเรา เพราะสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงสั่งสอนให้ใช้กรรมฐานอย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายอย่างในกรรมฐาน ๔๐ เพื่อตัดกิเลส ใครจะใช้อย่างไหนก็ให้พิจารณาตามจริตของตนเอง พวกที่เชื่อว่านรก สวรรค์ พรหม นิพพานไม่มีจริงเขาก็ปฏิบัติแบบสุขวิปัสสโก
ก็สามารถบรรลุเป็นพระอริยเจ้าได้ แต่ไม่มีญาณพิเศษ ไม่สามารถมองเห็นนรกสวรรค์พรหม
หรือพระนิพพานได้

พวกเราที่ศึกษาและปฏิบัติพระกรรมฐานควรจะศึกษาหลาย ๆ แบบ หลาย ๆ สำนัก
แล้วพิจารณาตนเองว่าแบบไหน สำนักใดเหมาะกับจริตของตนเอง หมายความว่าเราไปฟังเขาสอนอย่างนี้ปุ๊ป เราไม่ลังเลสงสัย เรามี่ความรู้สึกว่า ใช่เลย อย่างนี้แหละที่เรากำลังเสาะหา เราก็ควรจะศึกษาตามแบบอย่างนี้สำนักนี้

แต่ถ้าเราไปฟังปุ๊ป รู้สึกลังเลสงสัย ว่าจะใช่หรือ เป็นอย่างที่เขาว่าหรือ อย่างนี้เราก็ควรจะหาแบบอย่างอื่น สำนักอื่นต่อไป เพื่อให้เหมาะให้เข้าจริตของเรา
การที่เราศึกษาและปฏิบัติตามแบบอย่างที่เหมาะสมกับจริตของเราจะทำให้เรามีความก้าวหน้าในการปฏิบัติ เพราะถ้าไม่เหมาะกับจริตแล้วและเกิดความลังเลสงสัย ความลังเลสงสัยจะเป็นตัวฉุดให้เราไม่สามารถปฏิบัติก้าวหน้าได้

หากข้อความของกระผมเป็นการปรามาสท่านผู้ใด
กระผมกราบขอขมา ณ ที่นี้

 

ศาสนาของพระศาสดาเกิดขึ้นมานานมากกว่าสองพันห้าร้อยปีแล้ว ข้อความในพระไตรปิฎกก็อาจจะมีคลาดเคลื่อนได้ เนื่องจากผ่านการคัดลอกและแปลมาหลายหน อีกทั้งพระธรรมของพระศาสดาเองก็มีตั้งแปดหมื่นสี่พันพระขรรค์ ซึ่งพระศาสดาบอกได้เลยว่าไม่มีใครสามารถเรียนรู้ได้ทั้งหมดนั้น นอกจากจะมุ่งเน้นไปในทางใดทางหนึ่ง

อย่างที่เธอถามมา พระศาสดาก็ไม่ตำหนิว่าเขาผิด เพราะพระศาสดาก็สอนให้มีสติรู้อยู่กับปัจจุบันตลอดเวลา เรื่องราวที่เกิดเมื่อห้านาทีที่แล้ว ก็ถือว่าเป็นอดีตไปแล้ว ส่วนเรื่องอนาคตเป็นเรื่องที่ยังมาไม่ถึง ก็ไม่สมควรเอามาวิตก ให้ทำปัจจุบันนี้ให้ดีที่สุดนั่นถูกต้องแล้ว

เรื่องนรก สวรรค์ หากพิจารณาให้ท่องแท้ก็เป็นเรื่องในปัจจุบันเช่นกัน เช่นหากเราทำดี เราก็รู้สึกเป็นสุข หากเราทำชั่ว เราก็รู้สึกไม่ดี ซึ่งเราก็รับรู้ได้ในทันทีใช่ไหม ที่เขาเรียกว่า สวรรค์อยู่ในอก นรกอยู่ในใจนั่นแล

เรื่องภพ เรื่องชาติ หากพิจารณาอยู่กับปัจจุบัน ก็จะทำให้เราเห็นว่าทุกสิ่งทุกอย่างล้วนเกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป ตามกาลเวลา หากว่าเรารู้เห็นได้ดังนี้แล้วคิดได้ เราก็ไม่จำเป็นที่จะต้องไปคิดถึงเรื่องภพอื่นหรือชาติอื่นอีก เพราะทุกสิ่งทุกอย่างไม่มีอะไรคงอยู่ได้ตลอดไป ต้องแตกดับไปในที่สุด ทางเดินมีหลายทางเดิน แต่ว่าจุดหมายก็คือที่เดียวกัน ขึ้นอยู่กับว่าเธอจะเลือกเดินไปเส้นทางใดเท่านั้นเอง

---------------------------------------------------------------

อันนั้นก็ถอดความมาจากพระศาสดานะคะ ไม่ได้ให้เชื่อนะคะ แค่เอามาบอกกล่าวเฉยๆ ดิฉันยังโง่อยู่อีกมากค่ะ ต้องปฏิบัติมากขึ้นด้วย

 

กราบนมัสการพระศาสดา

อนุโมทนาสาธุกับธรรมทานจากท่าน paitoon กับท่าน Me myself ค่ะ
บอกได้คำเดียวว่า ส่งเสริมให้เกิดสัมมาทิฏฐิโดยแท้

กัลยาณมิตรในที่นี้ ไม่มีจิตมุ่งจะเอาชนะ ไม่ประสงค์ร้าย
มีแต่นำสิ่งเป็นประโยชน์มาบอกกล่าว รู้สึกดีจริงๆค่ะ

 

- โมทนากับความคิดเห็นของทุกท่านครับ
- ลองไปดูหน้า เสียงธรรม พระกรรมฐาน - สมาธิ ของเว็บครับ ผมฟังของหลวงพ่อฤาษีฯแล้วเข้าใจขึ้นเยอะเลยครับ ก่อนหน้าผมก็เห็นมานานแล้ว แต่ก็ไม่ได้ฟัง(เอาไว้ก่อน อิอิ)
- เอาบุญมาฝากบ้าง วันที่ 29 ที่ผ่านมาผมไปทำสังฆทานมาครับ ซื้อของจากห้างใ่ส่ถุงแล้วหิ้วไปเลย มีของใช้ทั่วไป สบง ยารักษาโรค น้ำดื่ม ซึ่งผมก่อนหน้าผมจะทำทุกเดือน เปลี่ยนวัดไปเรื่อยๆ มีก่อนหน้านี้เว้นไปบ้างเพราะให้จริตอื่นเข้ามาครอบงำ ตอนนี้เอาใหม่ดีกว่า
ผมไม่เคยบอกบุญที่ทำไปแล้วบนเว็บเลย แต่ไหนๆแจมกระทู้นี้แล้ว ก็ลองบอกบ้างครับ คงไม่ว่ากันนะครับ