ใครหาทางหลุดพ้นได้แล้วบ้างช่วยแนะนำที

จำทำอย่างไรดีตอนนี้กำลังเดินวนเวียนหากทางออกไม่เจอ
กำลังจะหลงทางช่วยหาทางออกให้ที ทำอย่างไรจิตจึงจะ
หลุดพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิด

 

ข้อ 1.ท่าน nunnapath<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_1997445", true); </SCRIPT> มีศรัทธาหรือยังล่ะ

 

เอาความอยากหลุดพ้นออกได้ก็เป็นสุขแล้วจ่ะ

 

เรียนท่านวิษณุ 12 ดิฉันยึดองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นสรณะที่พึ่ง นึกถึงภาพพระพุทธองค์ตลอดแม้แต่ยามลืมตาและหลับตา แต่พันธนาการที่ล้อมรอบตัวเราสิจะหาทางหลุดพ้นได้อย่างไร
ข้อต่อไปเป็นอย่างไรดี ค่ะ

 

มีทุกข์เหรอ ทุกข์อะไรล่ะ เล่าให้ฟังบ้างซิ อยากรู้ ^-^

 

wxvjkoไปอ่านธรรมจักรกัปวัตนสูตรจิ

 

คุณ nunnapath<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_1997633", true); </SCRIPT> เชื่อไหม เราโดนสามีว่ากล่าวอยู่เป็นประจำว่า ใจดำ ไม่รู้จักห่วงคนอื่นบ้างเลย ดิฉันนึกในใจตอบโต้ (ไม่กล้าพูดออกมา) ว่าถ้าไม่ห่วงจะมาอยู่ด้วยทำไม ฉันก็ไปเที่ยวไหนต่อไหนสบายใจไปแล้ว ไม่ต้องมาอยู่รับใช้ทั้งลูกและสามี (ที่ไม่พูดเพราะอยากให้เขารู้ด้วยการกระทำมากกว่า น่ะ)

ที่เล่ามานี้ก็อยากบอกว่ามีบางอย่างอยู่ต่อหน้าต่อตาเรา แต่เรามองไม่เห็นเอง หรือทำเป็นมองไม่เห็น เพราะมัวแต่คิดเรื่องอื่น เรามองข้ามความง่ายไปมองแต่เรื่องยากๆ ที่เราไม่เข้าใจและอยากจะหาวิธีให้เข้าใจมัน เราก็เลยได้แต่แสวงหา แต่สิ่งที่หามันก็อยู่ตรงหน้านั้นแหละ แค่ทำใจ ให้ได้ เห็นใจตัวเอง ก็จะเข้าใจและรู้วิธีหลุดพ้นจากใจ เราเกิดในประเทศที่มีคำสอนให้หลุดพ้น มีพระพุทธศาสนา มีครูบาอาจารย์ที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ จนหลุดพ้นจากการเกิดดับ อยู่มากมาย ถ้าต้องการจะหลุดพ้นจริง ก็ตั้งจิตอธิษฐานต่อพระพุทธพระธรรมพระสงฆ์ ขอให้ได้พบผู้ชี้แนะโดยเร็ววัน และเข้าใจทางปฏิบัติแห่งความหลุดพ้นได้ในชาตินี้ ปฏิบัติจนหลุดพ้นได้ในชาตินี้เทอญ. (ถ้าไม่ปวดหัวกับคนในเว็บนี้ไปซะก่อน ก็คงจะได้พบทางเดินที่ตรงจริตคุณไม่มากก็น้อย ขอเป็นกำลังใจให้คุณ นะคะ)

ลองไปอ่านคำสอนของหลวงปู่หลวงพ่อ หนทางปฏิบัติธรรมที่มีในเว็บนี้ก็มากมาย ลองอธิษฐานจิตให้ได้พบคำสอนที่ตรงจริต ก็อาจจะโชคดีนะคะ

 

เมื่อก่อนนี้ผมทุกข์มากทุกข์ทุกเรื่อง ไม่ว่าเรื่องอะไรเก็บเอามาคิดหมด จนมาได้ครูบาอาจารย์ท่านแนะนำว่า ทุกข์อยู่ที่ใจ แต่เราก็ยังไม่หายทุกข์ได้ ท่านเลยมาให้เราพิจารณา ตัวเราเองว่าทุกข์มาจากไหน อะไรทำให้ทุกข์ พอพิจารณาตัวเองเสร็จก็ มาพิจารณาสิ่งแวดล้อมรอบข้าง พอพิจารณาเสร็จมันจะมีอาการตัวร้อนบ้าง ใจสั่นบ้าง ไม่ต้องตกใจเป็นธรรมดาไม่ต้องสนใจนะ แต่ที่น่าสนใจคือหลังจากพิจารณาเสร็จแล้ว แม่แต่เราคิดจะไปทุกข์เรื่องเดิมแต่จิตเรามันจะตัดของมันเอง มันจะไม่ทุกข์อีก ลองดูนะ ผมไม่รู้เขาเรียกว่าอะไรเหมือนกัน เพราะไม่ค่อยอ่านหนังสือธรรมะเท่าไหร่

 

ถ้าอยากหลุดพ้น ก็ อย่า หาอะไร มายึดสิ....!

 

ดีแล้วครับ ที่ จขกท มีพุทธานุสติ การระลึกถึงพระพุทธองค์ ซึ่งอันนี้เป็นการ
เดินจิตด้วย สมถะกรรมฐานในกลุ่มอนุสติ 10 เมื่อเจริญสมถะกรรมฐานจนพอเห็น
สภาวะธรรมของจิต ที่มีสภาพสงบ อย่างหนึ่ง กับ จิตที่มีสภาพหาทางออกไม่ได้
อีกอย่างหนึ่ง

จิตที่มีสภาพสงบจากการทำกรรมฐานใดๆ ก็ตาม ตรงนั้น คือ ทางเข้าสู่ภพ พรหม หรือ
เทวดา ขึ้นกับอนุสติที่ใช้ และสิ่งที่จิตไปเกาะ หากเกาะความสุข บุญ ก็เป็นเทวดา แต่
ถ้าเกาะความสงบ ว่างๆ แบบนั้นคือ จะไปเป็นพรหม

จิตที่มีสภาพทุกข์ หาทางออกไม่ได้ ตรงนี้เป็นส่วนของ กรรมภพ ภพของคนมีกรรม
ภพของทุกข์

ในทางพุทธศาสนานั้น เราจะเน้นการ รู้ทุกข์ ไม่ใช่หนีทุกข์ จะเป็นศาสนาของคน
กล้า ไม่ใช่เอาแต่ตั้งป้อมในความสงบเป็นพรหม หรือ ตั้งป้อมในหอคอยงาช้างสะสม
กุศลบุญทาน เราจะอาศัยภพ พรหม และ เทวดา เป็นระยะๆ เพื่อทำให้เกิด สภาพของ
จิตสงบ ให้เราได้เรียนรู้ว่า จิตที่มีสภาพสงบนั้นมีรสธรรมให้ รู้สึก รู้สึก ใช้ความรู้สึก
เข้าไปรับรู้อย่างไร อะไรที่ถูกรู้โดยจิต

การเน้นการรู้ทุกข์ จึงเป็นการเดินจิตเข้าสู่ความสงบ จนพอจดจำได้ ระลึกได้ว่า สภาพ
จิต ณ ตอนนี้ เรียกว่า สงบ แล้วเวลาจิตเคลื่อนออกมาสู่ กรรมภพ ก็จะเห็นรวมๆ ไป
เลยว่าเหล่านี่คือ สภาพของกรรมภพ แบบนี้คือการออกมาเห็นทุกข์ การรู้ทุกข์ เห็น
ทุกข์จะทำให้เข้าใจสัจความจริง ว่า จิตนั้นมีแต่หิวอารมณ์ ถ้าไม่หิวความสงบ ก็หิว
ความหวานในโลกของรูป-นาม เราก็อาศัยการหมั่นเพียรในการเห็นสภาวะธรรมคู่
ดังกล่าวไว้เนืองๆ เหมือนการดูลูกตุ้มนาฬิกาแกว่งไกว โดยที่ไม่เข้าไปแทรกแซง
การแกว่งของลูกตุ้ม เราจะอาศัยการเห็นการแกว่งของมันไปสุดโต่งสองข้าง ข้าง
หนึ่งเป็นข้าง ปรุงดี ปรุงความสงบ บังคับกาย บังคับใจ ส่วนอีกข้างจะเป็นข้างที่
จมสู่กรรมภพ เมื่อดูไปเรื่อยๆ จนจิตไวพอ จะระลึกได้ว่า ทางสายกลางอยู่ตรงไหน

ตรงจุดกลางนั้นคือทางออกที่คุณถามถึง

ดังนั้น คุณก็ทำอนุสตินึกถึงภาพพระไป ให้พอเห็น สภาวะสงบ เสร็จแล้วก็อย่าให้
ภาพพระมันติดตาจนเราจมอยู่แต่ความสงบ อย่าประคองความรักดี รักสงบ เราไม่
ได้ปฏิบัติเพื่อสร้างความเที่ยง เราค่อยๆ ระลึกดูไปแบบไม่จงใจ จนเห็นจิตมันวาง
ภาพพระไปเอง เมื่อนั้นจิตจะเข้าสู่กรรมภพ แรกๆ จะดูไม่ทัน จะเผลอไปยาว กว่า
จะทำความู้สึกตัวมาดูว่า ตอนนี้จมโลกไปแล้ว ก็ให้หมั่นดูจิตที่มันเคลื่อนไป เคลื่อน
มา แกว่งไป แกว่งมา ไปเรื่อยๆ เนืองๆ จนกว่าจะรู้ถ้วนในโลกของรูป-นาม และการ
ปรุงดี และ ปรุงไม่ดี ก็จะค่อยเห็นแสงอรุณเอง โดยการแยบคายพิจารณาจังหวะสั้นๆ
ตอนที่เรารู้สึกตัว จังหวะที่รู้สึกตัวได้ รู้เข้ามาในกายในจตนลงเป็นปัจจุบัน เห็นทุกข์
ไม่เที่ยง บังคับบัญชาไม่ได้ แปรเปลี่ยนไปตามเหตุปัจจัย

ตรงนั้นแหละครับมีทางออก

 

เข้าท่า
สู้ต่อไปนะ

 

เรียนท่านวิษณุ 12 ดิฉันยึดองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นสรณะที่พึ่ง นึกถึงภาพพระพุทธองค์ตลอดแม้แต่ยามลืมตาและหลับตา..ตรงนี้ การนึกถึงภาพพระ ก็ดี ถือเป็นความศึกษาในเบื้องต้น แต่ในท่ามกลางสิ่งที่ควร ระลึกและน้อมเข้ามาใส่ตัวหาใช่รูปภาพไม่ แต่เป็นความหมายของบทสวดมนต์ที่เราสวด แล้วมากระทำตามนั้นจึงควรเจริญอย่างยิ่ง ... แต่พันธนาการที่ล้อมรอบตัวเราสิจะหาทางหลุดพ้นได้อย่างไร ...ตรงนี้พักไว้ยังก่อน
ข้อต่อไปเป็นอย่างไรดี ค่ะ...ข้อต่อไป
ข้อ 2. ท่าน nunnapath มีวิริยะแล้วหรือยัง คืออย่างไร
ดูซิ ..ศึกษาว่า เราเรียนรู้วิธีการ ที่เรียกว่าพระธรรม คำสอนของพระพุทธเจ้า ในเบื้องต้น ว่าเข้าใจดีแล้วหรือยัง แยกให้ออกว่า ท่านสอนเรื่องอะไรบ้าง เมื่อได้ สดับ หรือเรียนรู้ วีธีการที่รู้ถูก แล้ว ประพฤติตามนั้นแล้วหรือยัง ข้อ นี้สำคัญมาก
ในเบื้องต้น ความเข้าใจที่รู้ถูก ท่าน nunnapath เข้าใจว่าอย่างไรบ้าง

 

ลองเข้าไปเวบนี้ครับ www.wimutti.net

 

(good)(good)(good)(good)(good)

 

ศึกษา ศีล สมาธิ ปัญญา ให้ชัดเจน ให้เป็นสัมมาทิฏฐิ จึงเริ่มปฏิบัติร่วมกับการใช้ชีวิตประจำวัน
ศึกษาได้จาก พระไตรปิฎก วิสุทธิมรรค และ พุทธธรรม
อย่างง่ายๆ ก็ศึกษาจาก อาจารย์พุทธทาส ก็ได้ มีหนังสือดีดีหลายเล่ม เช่น คู่มือมนุษย์ หลังจากอ่านแบบไตร่ตรองดีแล้ว จะพบคำตอบของชีวิต และแนวทางในการดำเนินชีวิตอย่างถูกต้อง
ศึกษาได้จาก คำสอนของครูบาอาจารย์สายพระป่า สายหลวงปู่มั่นหลวงปู่เสาร์ เนื่องจากเป็นที่ยอมรับว่าเป็นสายที่ตรงที่สุด ผู้เดินตามทางนี้บรรลุธรรมให้เห็นแล้วมากมาย...

 

ดีครับ

โลกนี้ยังไม่ว่างจากพระอรหันต์ ตอนนี้ก็ยังมีเวลาตามหาอาจารได้อยู่ตราบเท่าที่มีชีวิตครับ สำคัญอย่าประมาทคนเรารู้วันเกิดไม่รู้วันตาย ชาตินี้เรากำหนดได้ทุกอย่าง ขอให้พยายามนะครับ;aa48

 

*** หลุดพ้นทุกข์ ****

สิ่งที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิด...คือ นิสัย
คนเรา....ต้องใช้ชีวิตด้วยนิสัยของตน จนกว่าจะหมดวาระ
มีหนทางเดียว...ที่จะเดินก้าวข้ามได้
คือ...ใช้ชีวิตด้วย "สัจจะ"
คือ ใช้ "สัจจะ" ....ขจัดนิสัยตนเองเป็นประจำ
ทำให้ได้จริง ...ตามเวลาที่กำหนด
ทำไปเรื่อย ....นิสัยจะค่อยๆ หมดไปเอง

สิ่งที่ได้จาก "สัจจะ"...คือ ตัวกระทำ ที่ติดตัวเราไปชั่วกัปชั่วกัลป์
...ตัวกระทำมีจริง ตัวกระทำไม่ตาย ตัวกระทำมีผลตอบแทน....
นี่คือ ..."สัจจะธรรม"
สัจจะ...คือ ผู้นำให้เกิดการกระทำใหม่

สุดท้ายแล้ว...ต้องพึ่งการกระทำของตนเอง
พระพุทธเจ้า.... จึงสอนด้วยสัจจะ

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

เราจะหลุดพ้นได้อย่างไร...ถ้าเราไม่เชื่อใน สัจจะ
เพราะ ....สัจจะ คือ หนทางปฏิบัติตาม หลักสัจจะธรรม
พระพุทธเจ้า...ใช้ความจริง ไม่ใช้ความเห็น

-

 

*** เส้นผมบังภูเขา ****

เมตตา ... คือ พื้นฐาน
สัจจะ .... คือ หนทางหลุดพ้นจากนิสัย

- " หนุมาน ผู้นำสาร "