บทความ : คุณเชื่อหรือไม่ว่าสุดปลายแห่งสายน้ำคือทะเลอันกว้างใหญ่

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย จันทร์เจ้า, 16 ธันวาคม 2008.

  1. dhammadasa

    dhammadasa Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2008
    โพสต์:
    679
    ค่าพลัง:
    +69
    หุหุ ไว้เจอกันใหม่ครับ
     
  2. หัตถ์เทพหมื่นวิญญาณ

    หัตถ์เทพหมื่นวิญญาณ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    347
    ค่าพลัง:
    +22
    หากพิจารณาคือ คิด ก็ถูกของท่าน
    หากพิจารณาคือ ความหมายอื่น ที่ตรงกับคำสอนของครูบาอาจารย์ที่มักบอกว่าให้พิจารณากาย อะไรทำนองนี้
    เราก็ยังต้องอาศัยพิจารณา เพื่อความเป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน
    หากมองแบบหยาบๆ พิจารณา เป็นสมถะก็ได้ เป็นบาทฐานให้พิจารณาแบบวิปัสสนาต่อไป
    หากวิปัสสนาคือ รู้เฉยๆ สักว่ารู้สึก รู้สึก แบบนี้ มันได้สติ แต่ก็ผิดได้ง่าย คือไปติดแค่นั้น
     
  3. เด็กโชว์พาว

    เด็กโชว์พาว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    1,081
    ค่าพลัง:
    +470
    ชั้นจะต้องหามันเจอให้ได้แน่ในมหาสมุทร
     
  4. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    ดู ความอยาก มันเต้น ไม่หยุด อะดิ

    เห็นแล้ว ก็ อยาก ถ้าหยุดไว้ ก็จิตก็ไม่ได้ เรียนรู้ อะไร

    ถ้าปล่อย อยาก จน สมอยาก แต่รู้ตัวมีสติ ดูตลอด จิตมันก็เรียนรู้ ของมันไป

    ถ้าขาดสติ จนสมอยาก จิต ก็ ไม่ได้เรียนรู้ อะไร เหมือนกัน

    ถ้าจิตได้เรียนรู้ด้วยประสบการณ์ สักวัน ก็จะอิ่ม แล้ว ก็ วางเอง หมดความสนใจ หยุดอยาก

    แต่ก็ต้อง ดูลู่ทาง ว่าขัดต่อศีลธรรม อันดี หรือเปล่า บางอย่าง ก็ต้อง หยุดไว้ก่อน

    ถ้ามันล้ำเส้น เกินพอดี เดี๋ยวจะกลายเป็น อาจิณกรรม ที่ไม่ดี ติดตัวไปอีก ก็เป็นกรรม
     
  5. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    การลงทุนมีความเสี่ยง อะนะ

    ก็ต้องพิจารณาให้ดี ก่อนลงทุน จะได้ ไม่เจ็บตัว
     
  6. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    [​IMG]

    แรดนอเดียว เทียวไป .....

    นะเอย นะเอย
     
  7. หัตถ์เทพหมื่นวิญญาณ

    หัตถ์เทพหมื่นวิญญาณ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    347
    ค่าพลัง:
    +22
    เริ่มเห็นความแตกต่าง ในสภาวะ เมื่อมีความละเอียดมากขึ้น
    ไหลตามกิเลส แบบไม่รู้ตัว ผิดทางแน่นอน
    ไหลตามกิเลส แบบรู้ตัว ถูกทางหรือไม่
    ไม่ไหลตามกิเลส แบบรู้ตัว ใช่ทางที่ถูกแล้วหรือ
    เรียนรู้การไหลจนอิ่ม หรือ ฝืนกิเลสจนอิ่ม อย่างไหนถูกต้อง
    โปรดพิจารณา...
     
  8. หัตถ์เทพหมื่นวิญญาณ

    หัตถ์เทพหมื่นวิญญาณ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    347
    ค่าพลัง:
    +22
    ครับผม แม่นักธุรกิจสาว อิอิ
     
  9. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    ของเรา ก็ใช้ทั้ง 2 อย่าง

    ตอนแรกๆ ก็ฝืนกิเลส ด้วยการ รักษาศีล 5 ทางกาย วาจา ใจ

    ฝึกอุเบกขา อดทน ฝืนจิต ฝืนใจ เหมือน น้ำกำลังเชี่ยว ก็ไม่กล้าลง รอดูอยู่ริมตลิ่ง

    พอรู้สึกว่า น้ำเริ่มอ่อนลง มีสติ รู้ดี รู้ชั่ว รู้ละอายต่อบาป ด้วยใจ ได้บ้าง

    ก็เริ่ม ลุยน้ำลงไป เห็นขอนไม้ ก็รู้ด้วยวิจารณญาณส่วนตน ว่าใช้ประโยชน์ได้

    ช่วยพยุงได้ ก็เกาะไป เจอขอนไม้ผุๆ ก็มีวิจารณญาณส่วนตน

    ไม่รีบผวา ไปคว้าไม้ด้วยเห็นว่าเป็นขอนใหม่ เจออะไร ก็ใช้สติพิจารณาเอา

    ตามภูมิ ตามประสบการณ์ ก็มีพุ่งต่อไป ด้วยเร็วบ้าง ช้าบ้าง ตามกำลัง

    ตกหลุมน้ำวน เป็นพักๆ ก็อาศัย สติปัญญา พิจารณา เอาตัวรอดไปก่อน

    ก็อาศัยขอนไม้ ที่วางใจได้ ก็ไปมันเรื่อยๆ เจอผู้คน มีทั้งดี และไม่ดี

    มีทั้งหวังดีประสงค์ร้าย ก็พิจารณาไป รู้อยู่ในตนบ้าง แสดงออกบ้าง

    ตามกิเลสและปัญญาที่มี จะตกลงอันไหน ก็รู้ไป นั้นแหละ
     
  10. dhammadasa

    dhammadasa Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2008
    โพสต์:
    679
    ค่าพลัง:
    +69
    ดูอาการใจ มันร้อนไหม มันพองมันแพบ มันเกิดมันดับ
    ไม่ได้หมายความว่า ปล่อยให้เกิดแล้วตามดู
    เหมือนเราโกรธ แม้รู้ว่าโกรธ แต่ก็สนองด้วยคำด่า
    แล้วสำทับว่า รู้ว่าด่า ไม่มีครูที่ไหนสอนอย่างนี้

    ท่านสอนให้รู้อารมณ์รูปนาม จิตเห็นก็ตื่นเป็นปัจจุบัน
    ไม่เห็นต้องระงับ หรือข่มอะไร มันวางตรงนั้นเลย
    แต่การปล่อยแล้วตามรู้ เราจะปล่อยอีกนานไหม
    เข้าตำรา สิ่งหนึ่งสู่ส่งหนึ่ง

    พระท่านก็สอนไว้ โกรธให้รู้ว่าโกรธ
    ดูลงไปเลย ธาตุลมที่ผุดกลางอกมันดันยังไง

    ระงับกรรมคือนิ่งกาย นิ่งวาจา หันมาดูใจ
    ไม่ใช่รู้แต่ปล่อยกาย ปล่อยวาจา แล้วบอกว่ารู้

    ต่างจิตต่างใจไม่ใช่คำตอบ อารมณ์ธรรมมีอารมณ์เดียว

    การพิจารณาเป้นเรื่องโยนิโส
    พิจารณาไม่ได้แปลว่าให้คิด แต่เห็นไปตามเป็นจริง ตามที่ปัญญาเดิน
    ธรรมะที่สุดแล้วไม่มีภาษาบัญญัติ เพราะต้องอธิบายจึงเกิดภาษา
    ดังนั้นจึงเป็นเรื่องตามรู้ล้วนๆ ตารมรู้จึงเรียกว่าพิจารณาได้ไหม

    ตามรู้ รู้ปัจุบัน เป็นตัวเดียวกันไหม
     
  11. dhammadasa

    dhammadasa Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2008
    โพสต์:
    679
    ค่าพลัง:
    +69
    คุณ ขวัญ ทางสายกลางแต่ละคนย่อมแตกต่างกัน

    คุณโชดดีที่พบซ้ายสุดและขวาสุด
     
  12. to2504

    to2504 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,449
    ค่าพลัง:
    +1,230

    ขออนุญาตตอบนะคะ ผิดถูกประการใด โปรดพิจารณา

    ไหลตามกิเลส แบบไม่รู้ตัว ผิดทางแน่นอน
    ผิดทางแน่นอน เพราะไม่รู้ตัว เรียกโมหะ

    ไหลตามกิเลส แบบรู้ตัว ถูกทางหรือไม่
    ถ้าเป็นกิเลศฝ่ายกุศล ที่ไม่ทำให้ใครเดือดร้อน และใจเราเป็นสุข เหมือนเราอยากจะไปทำบุญน่ะ นั่นก็คือความอยากเหมือนกัน และรู้ตัว ก็คิดว่าถูกทางนะ

    ไม่ไหลตามกิเลส แบบรู้ตัว ใช่ทางที่ถูกแล้วหรือ
    ถ้าไม่ไหลตามกิเลส แบบรู้ตัว ก็คือ ตัดไฟแต่ต้นลม ถ้ารู้ว่ากิเลสนั้น ทำให้คนอื่นและตัวเองเดือดร้อน คือเป็นทุกข์ใจ ก็หยุด แค่รู้สึก ก็หยุด รู้เท่าทันมัน

    เรียนรู้การไหลจนอิ่ม หรือ ฝืนกิเลสจนอิ่ม อย่างไหนถูกต้องารณาด้วย
    แต่ถ้าเรียนรู้จากการไหลของกิเลศ เมื่อมันอิ่มตัว มันจะหยุดอยากเอง คือดับ แต่รู้ตัวนะ ว่ากำลังไหลอยู่ อันนี้ไม่ผิด เพราะรู้ตัว แต่กิเลสตัวไหนต้องดูก่อน ถ้าทำให้คนอื่นเดือดร้อนเพราะกิเลสตัวนี้ ต้องหยุด รู้สึกว่าเริ่มทำผิดก็หยุด หรือถ้าต้องการจะเรียนรู้ ของการไหล ว่าผลมันจะเป็นอย่างไร อันนี้ก็ไม่ผิดเพราะรู้ตัว แต่กรรมที่จะตามมานั้นมีแน่ เพราะทำผิดแบบรู้ตัว

    ;aa14
     
  13. to2504

    to2504 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,449
    ค่าพลัง:
    +1,230
    งานยุ่งมาก ๆ
     
  14. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    ต่างจิตต่างใจไม่ใช่คำตอบ อารมณ์ธรรมมีอารมณ์เดียว
    --------
    ก็ตามที่ท่านว่า นั้นแหละ อารมณ์ธรรมมีอารมณ์เดียว ถ้าไม่ปรุงแล้ว ก็ รู้อันเดียวกัน

    แต่ปุถุชน นั้น มันยังปรุง ด้วยคิด ด้วยกิเลสตัณหา เป็นปรกติ ซ้อนออกมา

    ก็เพราะจิตใจ ยังปรุงเป็นปรกติ มีหลุดออกมา ก็ไม่ยึดเอามา เป็นอารมณ์ ถือสาหาความกัน

    ก็ยอมรับในความเห็น แต่ไม่เห็นด้วย เพราะยังยึดอยู่ในความเห็นของตนว่าถูก

    จึงยอมรับความต่างในความเห็น แต่ก็ทำตามอำเภอใจของตน

    จนกว่า จะ รู้ จริงเอง ว่าใช่ หรือไม่ใช่ ก็จะเปลี่ยนใจเอง

    ถ้ายังไม่เปลี่ยนใจ ก็เรียนรู้สิ่งที่ยึดว่าถูก ของตนต่อไป ตามวิบากกรรม ของทิฏฐิตน
     
  15. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    แม๋... เจอของจริง อีกแระ

    แต่ยังไม่เจอ กลาง นะซิ ก็เลยยังต้องภาวนา เพื่อให้เข้าทางสายกลาง ต่อ ไป [​IMG]
     
  16. dhammadasa

    dhammadasa Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2008
    โพสต์:
    679
    ค่าพลัง:
    +69
    ทีโอ สบายดีไหม
     
  17. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    จิตมันเกิดดับจำนวนมาก ดังนั้น ร้อยละร้อยมันจึงเป็นข้างไหลให้เห็น

    คนจึงปรุงอารมณ์ แม้สอนธรรมะก็เห็นว่า ล้วนปรุงอารมณ์ ใครมาเห็น
    ก็ต้องเห็นว่า ปรุงอารมณ์

    แต่คำว่า รู้ลงที่จิต เป็นปัจจุบันนั้น แท้จริงไม่ใช่เรื่องของเวลา แต่เป็น
    จุด หนึ่งขณะจิตที่เกิดและดับไปสดๆร้อนๆ 1 ขณะ ต้องไปรู้ตรงนั้น
    ให้เห็นได้ถึงจุดนั้น (พ้นสมมติ ไม่มีทางอธิบายได้ว่าเห็นอะไรอย่างไร)

    ดังนั้น ก็อย่าร้อนใจจะเห็น อย่าคาดหวังว่าจะได้เห็นอะไรแบบนั้นได้
    ง่ายๆ แท้จริงมันก็ยาก แต่ต้องทำอะไรไหม ไม่! แค่รู้อยู่ดี รู้ก็คือกริยา(ทำ)
    ทำ(กริยา)ก็คือรู้ ทุกข์ต้องรู้ ไม่ใช่ไปทำ หากทำทุกข์ก็เท่ากับกำลัง
    เผลอปรุงสุข ก็ผิดไปจากอริยสัจจเสียแล้ว

    แล้วทำอย่างไรถึงจะเห็น ก็มีสองวิธี คือ รู้ทุกข์ไปตรงๆ ดูสังขารธรรม
    (กิเลสไปตรง) กับ ไปทำความสงบก่อนแล้วออกมารู้

    จะเห็นว่าออกมารู้ เพราะออกมารู้จึงเห็นทุกขสัจจ เมื่อรู้มากๆ ก็เป็นเรื่อง
    ของจิตเขาจะตัดสิน ตรงนี้ก็อย่าตั้งคำถาม ทวงถาม เฟ้นหาจุด เฝ้าถามว่า
    มันจะดีไหม จะเจอทางไหม นั่นมันวิจิกิจฉา กุกกุจจะเกิดขึ้นอยู่ ก็ให้รู้ทุกข์
    ไปเช่นกัน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 ธันวาคม 2008
  18. to2504

    to2504 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,449
    ค่าพลัง:
    +1,230
    สบายดีจ๊ะ ยังไม่ตาย 55

    ;aa14
     
  19. หัตถ์เทพหมื่นวิญญาณ

    หัตถ์เทพหมื่นวิญญาณ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    347
    ค่าพลัง:
    +22
    ตอบได้โดนมากสหายหลง

    ตามรู้เรียกว่า พิจารณาได้
    ตามรู้ กับ รู้ปัจจุบัน มองได้สองแง่
    อย่างหยาบ เป็นตัวเดียวกัน
    อย่างละเอียด เป็นคนละตัวกัน
    ตามรู้คือ เกิดแล้วรู้ตาม ยังตามหลังอยู่เล็กน้อย
    รู้ปัจจุบัน เกิดแล้วรู้ทันที พร้อมๆ กัน

    แล้วตามรู้ กับ รู้ปัจจุบัน อย่างไรเรียกว่า วิปัสสนา
    ถ้าไม่คิด แล้วพิจารณาได้อย่างไร
    ถ้าไม่พิจารณา ปัญญามาจากไหน...
     
  20. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    ถ้ารู้ลงไปเรื่อยๆ เนืองๆ ปัญญา มันเกิดเองนะ

    เพราะ จิตมันเรียนรู้ตลอดเวลา ที่เรารู้ตัว รู้สึกตัว มีสติ

    โดยไม่จงใจ ไม่ประคอง ไม่แทรกแซง รู้ด้วยธรรมชาติของจิต
     

แชร์หน้านี้

Loading...