เชิญเข้าร่วมสนทนาพิเศษเรื่อง มิติ ความฝัน ชาติภพ จิตวิญญาณ โดย @โนวา อนาลัย@ [Writer]

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย mead, 8 สิงหาคม 2007.

  1. nicspirit

    nicspirit สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    12
    ค่าพลัง:
    +4
    สวัสดีครับ ยินดีที่ได้รู้จักครับ คุณโนวา อนาลัย ผมชื่อนิก ก็เป็นอีกคนก็ชอบหนังสือแนวอานุภาพจิตวิญญาณ จะอ่านแนวนี้หลายเล่มมาก แต่ยังไม่ได้อ่านของคุณโนวา อนาลัย เป็นรูปเล่มเลยมีแต่อ่านใน internet เพราะตอนนี้ตามร้านหนังสือไม่มีขายแล้วครับ
    แต่ผมออ่านหนังสือเล่มนึง concept ยากกว่า the secret หลายสิบเท่า ไม่รู้ว่าเพื่อนเคยอ่านหรือยังเนื้อหาดีมา ชื่อโชค ดวงความบังเอิญ คุณกำหนดได้ ของดีพัค โชปราผู้เขียน 7 กฏทางจิตวิญญาณฯ เล่มสีแดงเล็กน่ะที่เขามีโครงการหนังสือส่งต่อกัน คุณดีพัคนี่เขาเป็นนายแพทย์ชาวอินเดียแต่มาอยู่อเมริกา ท่าก็มีความเป็นกูรูชั้นนำทางจิตวิญญาณอีกคนของโลกเลยทีเดียว เล่มนี้สนพ.ต้นไม้เจ้าพ่อหนังสือกฏแห่งการดึงดูดนำมาแปลเมื่อต้นปีที่แล้ว เนื้อหาเป็นอย่างนี้คือ ดีพัคบอกว่ามนุษย์ทุกคนมีธรรมชาติเดิมแท้หรือจิตวิญญาณบริสุทธิ์พร้อมให้เราไปติดต่อ ซึ่งจะเชื่อมโยงกับจิตสากลหรือพระเจ้าแล้วแต่จะเรียก ซึ่งจะบอกใบ้ชะตาชีวิตที่แท้จริงของเราโดยผ่านเหตุบังเอิญอย่างเช่น เมื่อ 3ปีก่อน ผมเรียนปวช.แผนกคหกรรมแต่มีความฝันอยากผลิตละครโทรทัศน์ แต่บังเอิญไปคุญกับผู้หญิงคนนึงทางรายการวิทยุของจังหวัด(บ้านผมอยู่จ.ปราจีนบุรี)เลยรู้ว่าอีกวิทยาลัยนึงเขาเปิดแผนกการท่องเที่ยว ผมสนใจเลยออกจากคหกรรมมาสมัครการท่องเที่ยวแล้วเริ่มรู้สึกมีความสุขกว่าเดิมเยอะมากเลย ตัวอย่างนี้หมายความว่าชะตาชีวิตที่แท้มันจะค่อยๆคลี่ตัวออกมาให้เราเห็น แต่ถ้าเราอยากเห็นมากกว่านั้น อยากเห็นชะตาชีวิต(Destiny)ทั้งหมดของเราและดำเนินการไปอย่างถูกต้องตามนั้นได้จนทำให้ความปรารถนาของเรานั้นสูงขึ้นเรื่อยๆ เพราะถ้าจิตวิญญาณหรือจิตสากลกำหนดให้ มันจะพาเราไปสู่สภาวะจิตสำนึกที่สูงขึ้นเรื่อยๆ จากต้องการอะไรที่เกี่ยวกับวัตถุอย่างเดียวก็สูงขึ้นมาเป็นต้องการทำงานที่มีความหมายเพื่อตัวเองจนสูงขึ้นมาเป็นต้องการทำงานที่มีความหมายเพื่อสังคม เพื่อประเทศ เพื่อโลก จนสูงขึ้นเป็นเพื่อสภาวะธรรมหรือการดำรงอยู่ในตัวมันเอง(being) หรืออยู่ในสภาวะจิตรู้แจ้ง หรือนิพพานนั่นเอง ซึ่งอยากจะขอความเห็น คุณโนวาว่ามันจะเป็นตามนี้หรือไม่อย่างไร เพราะเรื่องมันก็ค่อนข้างลึกซึ้งพอสมควร เกินกว่าที่สภาวะจิตพื้นๆของผมจะเข้าใจได้ แต่ผมสนใจเกี่ยวกับเรื่องนี้และเล่มนี้จริง ขอความเห็นด้วยครับ
    <!-- / message -->
     
  2. kindred

    kindred เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +5,897
    ยินดีต้อนรับ....
    คุณ สงบระงับ และ คุณ nicspirit
    เข้าสู่ห้องวิทย์ฯ มาร่วมแบ่งปัน และเติมเต็มประสบการณ์กัน นะคะ..

    [​IMG]
     
  3. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,116
    ค่าพลัง:
    +62,425

    ;welcome3

    ยินดีต้อนรับคุณนิคสู่ห้องวิทย์ฯครับ
    มีหลายเรื่องที่ดูเหมือนสลับซับซ้อน แต่จริงๆแล้วสามารถระลึกได้ไม่ยากและอยู่ใกล้ตัวนะครับ
    จิตวิญญาณเราขยายตัวไปสู่การเรียนรู้ในโลกของความเป็นจริงหลากมิติอยู่เสมอครับ
    ยังไงรอคำตอบพี่นักเขียนสักนิดนะครับ อาจจะได้แง่มุมดีๆไปขบคิดต่อครับ

    ระหว่างนี้ไปอ่าน e-Book และ Download หนังสือทุกเล่มได้ครับ
    http://novaanalai.com/novaanalai/index.html
    และดาวโหลดไฟล์เสียงบางส่วนไปฟังจากได้ที่นี่ครับ
    http://novaanalai.podomatic.com/
     
  4. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,116
    ค่าพลัง:
    +62,425
    ผู้รู้ทุกท่านก็พยายามนำเสนอความจริงหรือสัจจะธรรม ในวิธีที่แตกต่างกันไป ซึ่งอาจจะตรงกับ จริต (dna) ของใคร ก็ให้เลือกกันเอง ทั้งหมดล้วนแต่พยายามนำเสนอความจริงหนึ่งเดียวกัน หรืออย่างน้อยก็พยายามให้อยู่บนเส้นทางสู่จุดหมายเดียวกันนะครับ ผมเลยลองค้นอ่านของคุณ ดีพัค โชปรา อยู่ครับขอนำมาลงไว้บางส่วนครับ...

    การเป็นผู้รับโดยไม่พยายามเอาชนะกิเลส คือการก่อหนี้ เพราะแทนที่จะได้ฝึกลดละ กลับกลายเป็นการพอกพูนเครื่องปิดกั้นหนทางเจริญ

    ส่วนสำหรับผู้ให้ ก็คงต้องขอยืมคำพูดของ ดีพัค โชปรา ที่บอกว่า จุดประสงค์สูงสุดของการปฏิบัติทางด้านจิตวิญญาณ คือ surrender’ หมายถึง การปล่อย หรือ การยอม (ให้มันเป็นไป) ซึ่งนำมาเป็นคาถาทำใจสำหรับผู้ให้ในระดับแนวหน้าทั้งหลายได้เป็นอย่างดี ในกรณีที่พบว่าสิ่งของทั้งหลายที่ได้ให้ไปนั้นไม่ได้ถูกนำไปใช้ตรงตามวัตถุประสงค์

    และจากหนังสือแปลอีกเล่มหนึ่งของ โชปรา ยังบอกอีกว่า ถึงแม้เรามักจะเชื่อมโยงความหมายของ การปล่อย หรือ การยอม นี้ กับคำว่า ยอมแพ้ หรือ อ่อนแอ แต่แท้จริงแล้ว มันกลับเป็นการกระทำอันทรงพลังที่สุดของจิตวิญญาณ ที่ได้นำพาอิสรภาพ และความเป็นไปได้อันไม่สิ้นสุดมามอบให้แก่'เรา

    เพราะการปล่อย หรือการยอม (ให้มันเป็นไป) คือการที่เรา เกิดความเชื่อมั่นว่า พลังสติปัญญาที่สูงกว่านั้น จะคงดำเนินการให้ทุกสิ่งบรรลุผลได้ แม้ในขณะที่เราไม่สามารถคาดการณ์ล่วงหน้าได้ถึงผลลัพธ์ที่จะตามมาของสถานการณ์ที่เรากำลังเผชิญอยู่

    ณ โลกในระดับของจิตวิญญาณ ทุกๆ สิ่งจะคลี่คลายตัวเอง ออกหรือดำเนินไปอย่างสมบูรณ์แบบอยู่แล้วตลอดเวลา เราไม่จำเป็นต้องต่อสู้ดิ้นรน เพื่อฝืนบังคับหรือเข้าควบคุมสถานการณ์ให้เป็นไปตามวิถีทางเฉพาะของเรา แต่มันมักจะเป็น เพราะจิตที่ประกอบด้วยอัตตา (ego) ที่ทำให้เกิดความเชื่อว่า เราคือ ตัวตนที่แยกออกเป็นเอกเทศ และต้องใช้ความพยายามหรือดิ้นรนในการที่จะอยู่ให้รอด ในโลกที่เราคิดเอาเองว่าไม่เป็นมิตร หรือมีแต่อุปสรรคที่ชอบเข้ามาขวางกั้น

    ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว ขอให้ตระหนักรู้ว่า เราคือการดำรง อยู่ของจิตวิญญาณ และด้วยการปล่อย หรือการยอมมอบตนเอง ต่อจิตวิญญาณ เราได้ทำให้การต่อสู้ดิ้นรนนั้นจบลง และได้ปลดปล่อยตัวเองให้เป็นอิสระจากความกลัว หรือความสงสัย เราได้ปลดเปลื้องตนเองให้พ้นไปจากอุปสรรคที่อัตตาของเราได้สร้างขึ้นเอง

    ทั้งหมดนี้สามารถอธิบายได้ว่า จงเรียนรู้ที่จะปล่อยให้มันดำเนินไป หรือให้เป็นไปอย่างมีสติ เฝ้ามองดูให้เห็นว่ามันเป็นอย่าง ที่มันต้องเป็น แต่การหัดเรียนรู้ที่จะปล่อยให้มันดำเนินไป ทั้งหมดในทีเดียวนั้น ไม่อาจจะเป็นไปได้ เพราะนี่คือวิถีทางที่ประกอบไปด้วยก้าวเล็กๆ จำนวนมาก ที่ต้องค่อยๆ เข้าไปแทนที่ปฏิกิริยาตอบโต้แบบอัตโนมัติของเรา ด้วยการมีสติอย่างลึกซึ้งมากขึ้นๆ

    ต่อไปนี้คือ บางตัวอย่างของแนวทางปฏิบัติบนวิถีทางดังกล่าว ซึ่งได้พิสูจน์ถึงผลที่ได้รับด้วยตัวของ ดีพัค โชปรา เอง และเขาเชื่อว่าจะเกิดผลต่อคนอื่นเช่นกัน คือ

    ตระหนักรู้ถึงความมุ่งมั่นของตนเอง

    โชคชะตาของเรา ย่อมจะเคลื่อนไปในทิศทางเดียวกับจิตวิญญาณของเรา และเชื้อเพลิง ที่ทำให้โชคชะตาของเราเคลื่อนไป ก็คือ ความมุ่งมั่น ในแต่ละวันจงมุ่งมั่นหัดเรียนรู้ที่จะปล่อยให้สิ่งต่างๆ ดำเนินไป หรือเห็นได้ว่ามันเป็นอย่างที่มันต้องเป็น เพิ่มขึ้นวันละเล็กละน้อย จงปิดช่องว่างของการแบ่งแยก หรือการตัดสิน เปรียบเทียบ ซึ่งเป็นความหลอกลวงของอัตตา

    นอกจากนี้ จงสำรวจดูความมุ่งมั่นที่ผิดๆ ของเรา ซึ่งจะนำไปสู่การสร้างรูปแบบของความปรารถนาที่ผิดๆ ให้เกิดขึ้น เช่น ฉันอยากเห็นใครบางคนล้มเหลว ฉันอยากเอาคืนให้สาสม ฉันอยากได้ของที่ไม่ใช่ของตัวเอง เป็นต้น บางทีเราก็อาจจะรู้เท่าทันความมุ่งมั่นที่ผิดๆ เหล่านี้ได้ยาก แต่เราสามารถที่จะจำแนกมันได้ด้วยลักษณะของความรู้สึกที่มาพร้อมกับมัน เช่น ความกลัว ความละโมบ ความเร่าร้อน ความสิ้นหวัง หรือความอ่อนแอ จงตรวจสอบที่ความรู้สึกเหล่านี้เป็นอันดับแรก ปฏิเสธที่จะถลำลึกไปกับมัน และคงความรู้ตัวนั้นเอาไว้ จนกว่าเราจะค้นพบความมุ่งมั่นอันไม่เหมาะควรที่แอบแฝงตัวอยู่

    ตั้งความมุ่งมั่นของเราให้สูง

    จงมุ่งสู่การเป็นบุคคลศักดิ์สิทธิ์ หรือผู้สรรค์สร้างความอัศจรรย์ โชปราบอกว่า ' “ทำไมจะไม่ได้ล่ะ ?” เพราะถ้าหากเราได้รู้แล้วว่าเป้าหมายของการเติบโตภายใน คือ การเข้าถึง ซึ่งพลังอำนาจ ในการสรรค์สร้างของพระเจ้า จักรวาล หรือพลังสติปัญญาที่สูงกว่า ดังนั้น เราก็จงขอพลังอำนาจนั้นเสียให้เร็วที่สุด มันไม่ใช่การมุ่งพยายามที่จะสร้างความมหัศจรรย์ แต่จงอย่าปฏิเสธมันต่อตัวเราเช่นกัน จุดเริ่มต้นของพลังอำนาจในการสรรค์สร้าง คือความสามารถในการเห็น... เห็นถึงความมหัศจรรย์ที่กำลังเกิดอยู่รอบๆ ตัวเรา และนั่นจะทำให้สิ่งมหัศจรรย์ที่ยิ่งใหญ่กว่าเติบโตได้ง่ายขึ้น

    จงเห็นตนเองเป็นแสงสว่าง

    อัตตามักจะครอบงำเราเป็นเช่นทาสของมัน โดยทำให้เรารู้สึก ขัดสน และไม่มีพลัง จากความรู้สึกของความขาดแคลนนี้ ได้ก่อให้เกิดผู้หิวโหย ที่จะให้ได้มา ซึ่งทุกสิ่งที่อยู่ในสายตา ทั้ง เงิน อำนาจ เซ็กซ์ และความพึงพอใจ ได้ถูกทึกทักเอาว่าจะสามารถเติมเต็มความว่างเปล่าได้ แต่มันไม่เคยเป็นจริง เราสามารถหลบเลี่ยงความ ลวงอันเจ็บปวดนี้ได้ ถ้าเราเห็นตัวเองเป็นแสงสว่าง ความแตกต่างเดียวระหว่างเรากับบุคคลศักดิ์สิทธิ์ คือ แสงสว่างของเรานั้นเล็ก และแสงสว่างของบุคคลศักดิ์สิทธิ์นั้นยิ่งใหญ่ แต่ทั้งสองล้วนคือ แสงสว่าง

    จงเห็นคนอื่นทุกคนเป็นแสงสว่าง

    ทุกๆ คน มีชีวิตอยู่ในแสงสว่างเดียวกัน เมื่อใดที่เราถูกทดสอบให้ตัดสินคนอื่นๆ ไม่ว่ามันจะชัดเจนแค่ไหนที่เขาหรือเธอคนนั้นสมควรที่จะได้รับมันก็ตาม จงเตือนตัวเราว่า คนทุกคนกำลังทำดีที่สุดแล้ว จากระดับจิตสำนึกของเขาเอง

    สร้างความแข็งแกร่งให้ความมุ่งมั่นของเราทุกวัน

    ชีวิตเราในแต่ละวัน มีแต่ความสับสนที่วกวนไปมา และอัตตาก็แอบเข้ายึดในทุกสิ่งที่มันต้องการ เราต้องหมั่นเตือนตนเองทุกวันคืน ถึงจุดมุ่งหมายของจิตวิญญาณของเรา บางคนพบว่าวิธีเขียนความมุ่งมั่นของเขาออกมา ช่วยเขาได้เป็นอย่างมาก สำหรับบางคนการมีช่วงเวลาในการทำสมาธิ และสวดมนต์เป็นประจำสม่ำเสมอ เกิดประโยชน์อย่างยิ่งต่อเขา ค้นให้พบจุดศูนย์กลางภายในของเรา โดยมองลึกเข้าไปภายในตัวเรา และอย่าปล่อยวางความมุ่งมั่นของเรา จนกว่าจะรู้สึกได้ว่ามันได้เข้าไปอยู่ที่จุดศูนย์กลางภายในตัวเราแล้ว

    จงให้อภัยแก่ตัวคุณเอง

    เราทุกคนมักตกสู่กับดักของความเห็นแก่ตัว และสิ่งลวงตา เมื่อเราไม่สามารถรู้เท่าทันมันอย่างเพียงพอ ซึ่งเปิดโอกาสให้การทำร้ายกัน การโกหกกันอย่างไม่ใส่ใจ และการชักนำให้เกิดการโกง ได้กลายเป็นโลกของเราเอง เมื่อใดที่ได้เห็น จงให้อภัยต่อความผิดของตัวเอง และบอกตนเองเหมือนกับที่เราบอกต่อผู้อื่นว่า 'ฉันกำลังทำดีที่สุด เท่าที่ฉันสามารถทำได้ จากระดับจิตสำนึกของฉันเอง'

    จงอนุญาตให้ธรรมชาติเป็นผู้รับผิดชอบ

    คนส่วนใหญ่ติดนิสัยชอบที่จะวิตกกังวล ควบคุม จัดการกับเรื่องหยุมหยิม และสงสัย จงสกัดกั้นนิสัยเหล่านี้เสีย จงอย่าฟังเสียงที่บอกว่า เราจะต้องเข้าควบคุม และหมั่นคอยระแวดระวัง เพราะมันจะเป็นหนทางเดียวที่จะทำให้สิ่งใดก็ตามบรรลุผลได้ แทนที่เราจะทำอย่างนั้น จงปล่อยให้จิตวิญญาณได้นำพาหนทางใหม่ๆ มาให้ และจงพึงพอใจที่จะทดลองเรียนรู้มัน จงตั้งมั่นที่จะให้ทุกสิ่งดำเนินการไปอย่างที่มันควรจะเป็น ปล่อยสิ่งที่ยึดถือไว้ลง และเปิดให้โอกาสต่างๆ ได้เข้ามาในวิถีของเรา ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจากการใช้ความพยายามที่จะควบคุม ย่อมจะไม่เป็นผลที่ดีต่อเรา เท่ากับผลที่เกิดขึ้นมาอย่างเป็นธรรมชาติ

    จงพร้อมอ้าแขนรับต่อสิ่งที่ไม่อาจรู้

    วันปีที่ผ่านไป เราได้สร้างทั้งสิ่งที่ชอบ และไม่ชอบขึ้นมา และเรียนรู้ที่จะยอมรับแต่สิ่งที่คาดคะเนได้แน่นอน ซึ่งนี่ไม่ใช่สิ่งที่เป็นตัวตนที่แท้ของเราจริงๆ อย่างไรก็ตาม เราไม่มีทางที่จะบังคับหรือทำให้ตัวตนที่แท้ของเราปรากฏออกมาได้ในทันที เพราะมันคือความเจ็บปวด ที่จะลอกเปลือกอันหนายิ่งของภาพมายา หรือสิ่งลวงตานั้นออกไป เราต้องยอมให้วิญญาณได้ค่อยๆ เปิดเผย แสดงตัวของมันตามช่วงจังหวะเวลาของมันเอง

    โดยตระหนักรู้ว่าสิ่งที่ไม่อาจรู้นั้น กำลังรอคอยเราอยู่... สิ่งที่ไม่อาจรู้ ที่รอจะเผยตัวออกมา ไม่มีอะไรที่เราจะต้องกระทำต่อ 'ตัวตนที่แท้ของเรา' ที่เป็นตัวตนที่หยั่งรู้อยู่แล้ว ซึ่งบางส่วนอันหยั่งรู้อยู่แล้วนี้ มักจะเผยตัวปรากฏออกมาอย่างรวดเร็ว เมื่อใดที่เรารู้สึกถึงแรงดลใจใหม่ๆ... ความคิดที่ยกระดับขึ้น... ญาณทัศนะภายใน ซึ่งเราไม่เคยได้หยั่งถึงมาก่อน นั่นก็เป็นเพราะเราได้พร้อมอ้าแขนเปิดรับต่อสิ่งที่ไม่อาจรู้ จงโอบกอดมันอย่างนุ่มนวล คล้ายดั่งมันเป็นเช่นเด็กทารก เพราะพระเจ้านั้นอาศัยอยู่ในสิ่งที่ไม่อาจรู้ และเมื่อใดที่คุณสามารถสวมกอดต่อสิ่งไม่อาจรู้ได้อย่างเต็มสมบูรณ์ คุณจะเป็นอิสระอย่างแท้จริง

    อ่านสรุปย่อบทความแปลของ ดีพัค โชปรา แล้ว พอจะเปลี่ยนบุคลิกทางใจกันใหม่ได้ไหม ความจริงแล้ว การปฏิบัติธรรม นี่ไม่ใช่อะไรอื่น แต่คือการกลับเข้ามาศึกษาเรื่องกายเรื่องจิต และเรื่องชีวิตของเราเองอย่างตรงไปตรงมา โดยไม่ยึดตามความจำเก่าที่เก็บไว้ในสมอง



    http://www.boybdream.com/manager-news-content.php?newid=83043
     
  5. สงบระงับ

    สงบระงับ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    660
    ค่าพลัง:
    +2,919
    ;aa36 พรุ่งนี้จะมาเล่าความฝันให้ฟังค่ะ อิๆ ง่วงแระ ถ้าคืนนี้ฝันเพิ่มอีก จะเล่าไหวไหมหนอ ....;k07 ขอให้ฝันดีทุกคนค่ะ "ราตรีสวัสดิ์":z2
     
  6. สงบระงับ

    สงบระงับ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    660
    ค่าพลัง:
    +2,919
    ความฝันของเพื่อน

    แหม... ว่าจะเล่าความฝันให้ฟัง แต่พอดีเมือ่วานไปเจอเพื่อนเพื่อนกลับเล่า ความฝันให้เราฟังซะก่อน เลยขอเล่าความฝันของเพื่อน ให้ทุกท่านอ่านกันดีกว่า(ไหมหนอ?...) คือว่า เพื่อนน่ะ มักจะฝันเห็นศาลพระภูมิ, เจ้าที่ อยู่เสมอ ฝันคราวใดภายในระยะเวลาไม่นานก็จะมีคนมาติดต่อให้ไปตั้งศาล เขาบอกกับเราว่า "แหมมันบังเอิญจริงๆ" เราก็เลยบอกว่า"โลกนี้ไม่มีความบังเอิญหรอกทุกอย่างมีที่มามีสาเหตุทั้งสิ้น" เพื่อนบอก "เออสงสัยจริง" เพื่อนก็ไม่คิดว่าเกิดมาจะต้องมาตั้งศาลพระภูมิ เจ้าที่ ทำไป ทำมาตอนนี้ทำไปหลายครั้งแล้ว เพื่อนบอกแต่แปลกมันจะฝันก่อนทุกที เราเลยบอกเพื่อนว่า"โลกนี้ไม่มีเรื่องแปลกหรอกถ้าเราเจอมันบ่อยๆจนชินมันก็จะเป็นเรื่องปรกติธรรมดา ฮ่าๆๆๆๆ" จบเรื่องความฝันของเพื่อนแระ ยังไม่ได้เล่าความฝันของตัวเองเลยอิๆ;aa8 คราวหน้าคงได้เล่าความฝันของตังเองซะที ถ้าไม่บังเอิญที่(ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ)มีใครมาเล่าความฝันให้เราฟังก่อนซะอีก;aa40
     
  7. nicspirit

    nicspirit สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    12
    ค่าพลัง:
    +4
    แล้วคุณmead ได้อ่านโชคดวงความบังเอิญ คุณกำหนดได้หรือยังครับเนื้อหาลึกซึ้งมากที่สุดในหนังสือทั้งหมดของดีพัค โชปราเลยก็ว่าได้ แบ่งเป็น 2 ภาคครับ ภาคแรกอธิบายให้เข้าใจเกี่ยวกับธรรมชาติของวิญญาณ ตัวตนแท้ เจตนารมณ์ของเราที่ต้องโคกับเจตนารมณ์ของจักรวาล บทบาทของเหตุบังเอิญที่บอกใบ้ชะตาชีวิตที่แท้จริงของเรา ต้นแบบและความปรารถนาที่บ่งบอกถึงจุดมุ่งหมายในชีวิต ภาค2 เกี่ยวกับวิธีฝึกปฏิบัติเพื่อลิขิตชีวิตอย่างประจวบเหมาะ(synchrodestiny โชคชะตาที่เกิดขึ้นอย่างสอดประสาน) มีให้ทำสมาธิกำหนดลมหายใจแล้วใส่มนตราโซ-ฮัมระหว่างหายใจเข้า-ออก เพื่อให้จิตนิ่งสงบปราศจากความคิดและใส่เจตนารมณ์ซึ่งเป็นพระสูตรหรือหลักการลิขิตชีวิตอย่างประจวบเหมาะ 7หลักการเข้าไประหว่างนั้น เห็นดีพัคบอกถ้าทำตามแนวทางนี้แล้วจักรวาลจะพาเราไปสู่ชะตาชีวิตที่ทำให้สภาวะจิตเราสูงขึ้นเรื่อยๆจนรู้แจ้งในที่สุด นี่คือธีมหรือประเด็นหลักๆของหนังสือเล่มนี้ถ้าอ่านแล้วมาแลกเปลี่ยนพูดคุยกันนะครับ
     
  8. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,116
    ค่าพลัง:
    +62,425
    ผมก็เพิ่งจะได้อ่านนี่ล่ะครับ
    เห็นคุณ kindred มีหนังสือทั้งสองเล่มอยู่แต่ไม่รู้อ่านจบรึเปล่า ? (อิอิ)
    เท่าที่ดูรู้สึกเนื้อหาน่าสนใจที่เดียวครับ มีมนตราโซ-ฮัมด้วย
    คงเป็นคลื่นเสียงพิเศษที่ทำให้เราจูนความถี่ปรับเข้าหาจักรวาลได้ง่ายขึ้นนะครับ
    เช่น คลื่นเสียง..ขึ้นต้นว่า AAA>>> หรือคลื่นเสียง OHM>>>
    อาจเป็นคลื่นเสียงต้นเหตุของการก่อกำเนิดของจักรวาล
    เชื่อว่าทุกเรื่องราวย่อมมีทีมาและน่าศึกษาทั้งนั้นครับ..
    ถ้ามีรายละเอียดอะไรก็นำมาเล่าให้ฟังนะครับ...คุณนิค

    ดีพัค โชปรา คุรุด้านจิตวิญญาณ คนสำคัญคนหนึ่งของโลก เขียนไว้ในหนังสือ
    “The Seven Spiritual Laws of Success” หรือในชื่อภาคภาษาไทยว่า
    “7 กฎ ด้านจิตวิญญาณ เพื่อความสำเร็จ

    ความสำเร็จ คือ วิถีแห่งการเดินทาง
    ความมั่งคั่งทางวัตถุ เป็นเพียงหนึ่งในหลายๆ องค์ประกอบ
    ที่ช่วยทำให้วิถีแห่งการเดินทางนั้น มีความสนุกสนานขึ้นเท่านั้น....
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 ธันวาคม 2008
  9. nicspirit

    nicspirit สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    12
    ค่าพลัง:
    +4
    ฟัง audio book ไม่ได้น่ะครับ
     
  10. brotherpray

    brotherpray เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    137
    ค่าพลัง:
    +177
    ดีใจที่เราได้มาพบกัน
    <object width='315' height='80'><param name='movie' value='http://www.ijigg.com/jiggplayer.swf?songID=V24AG7GPAD&Autoplay=1'><param name='scale' value='noscale' /><param name='wmode' value='transparent'><embed src='http://www.ijigg.com/jiggplayer.swf?Autoplay=1&songID=V24AG7GPAD' width='315' height='80' scale='noscale' wmode='transparent'></embed></object><div style='width:300px;padding:4px;background:white;font-family:Arial,Tahoma;text-align:center;'><font size='3'><a href='http://www.ijigg.com/songs/V24AG7GPAD'>Ploy พลอย-เพลงใบไม้ My Music - by Ploy พลอย-เพลงใบไม้</a></div>
     
  11. nicspirit

    nicspirit สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    12
    ค่าพลัง:
    +4
    อยากจะสั่งซื้อหนังสือทั้งชุดต้องทำยังไงบ้างน่ะครับ แล้วที่ให้ดาวน์โหลดนี่ต้องเสียเงินหรือเปล่าและถ้าเสีย เสียผ่านทางไหนครับ แล้วaudiobookนี่ฟังได้หรือเปล่าครับเห็นพอคลิกเข้าไป หน้าจอมันขึ้นมาแล้วบอกให้ Quick time น่ะครับ ไม่รู้ผมไปปรับโดนอะไรหรือว่ามันเป็นอย่างนี้อยู่แล้ว ช่วยบอกด้วยครับ
     
  12. zipper

    zipper เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2004
    โพสต์:
    5,226
    ค่าพลัง:
    +10,590
    โหลดฟรีครับ แต่ถ้าอยากบริจาคเงินก็ได้ ส่วน audiobook ต้องใช้ plug in Quick time ในการฟังครับ
     
  13. nicspirit

    nicspirit สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    12
    ค่าพลัง:
    +4
    เมื่อไรพี่นักเขียน โนวา อนาลัยจะมา อยากรู้คำตอบเกี่ยวกับหนังสือโชคดวงความบังเอิญฯ จะแย่อยู่แล้ว
     
  14. สงบระงับ

    สงบระงับ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    660
    ค่าพลัง:
    +2,919
    ร่วมอนุโมทนาบุญ

    ;aa36 ตอนนี้ก็พยายามใช้เวลาในการอ่านข้อความต่างๆในกระทู้ ได้ประโยชน์มากค่ะ ได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์กัน(จริงๆ) ได้ร่วมอนุมทนาบุญ;aa24กับหลายๆท่าน จากใจจริงๆ แต่ยังอ่านได้ไม่มากนัก จะทะยอยอ่านให้ครบค่ะ (ตาจะแฉะไหมหนอ) อิๆ มีอะไรก็เขียนเล่ากันมานะค่ะ จะอ่านให้เรียบเลยฮ่าๆๆ ขอบคุณย้อนหลัง และ ขอบคุณล่วงหน้า ทุกๆท่านเลยค่ะ;38
     
  15. สงบระงับ

    สงบระงับ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    660
    ค่าพลัง:
    +2,919
    ฝันที่เป็นจริง

    ;aa36สวัสดีค่ะ วันนี้มาเล่าความฝันที่เช้ามาก็เป็นความจริง(จริงๆ) ฝันว่าเห็นคนฝันหักพอตอนเช้าเขาก็มาอ้าปากให้ดูเขาบอกว่า"ฟันหัก"แต่แหมซี่เดียวกันกับที่เราฝันเห็นเมื่อคืนเลย เป็นได้ถึงขนาดนั้นเลย หรือเราฝึกฝันมากไป เมื่อวันก่อน ก็ฝันว่าน้ำนองเต็มหลังบ้านเลย พอเช้ามา ก็ลืมปิดก็อกน้ำ น้ำมันก็นองเต็มหลังบ้านเหมือนในฝันมากๆ โอย.... อะไรจะขนาดนั้น;aa26
     
  16. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,116
    ค่าพลัง:
    +62,425
    [​IMG]

    หนังสือชุด 10 เล่ม ได้กลายเป็น eBooks ซึ่งสามารถ Download ได้
    และ Print ได้ทุกเล่มแล้ว ตามที่ท่านผู้อ่านจำนวนมากได้ขอมาค่ะ

    เชิญอ่าน e-Book ได้ฟรี หรือ Download หนังสือทุกเล่มได้จากhttp://novaanalai.com/novaanalai/index.html
    หรือ Download จาก post นี้ได้ทันที

    1. โนวา อนาลัย ขยายความ ธรรมชาติของชาติภพ
    2. ความฝันกับวิถีแห่งจิตวิญญาณ
    3. จิตวิญญาณประสานกาย
    4.ประวัติศาสตร์ของจิตวิญญาณ
    5. อิสระแห่งความปรารถนา
    6. ชีวิตนอกเหนือชาติภพ
    7. อมตะแห่งจิตวิญญาณ-ภาคต้น
    8. อมตะแห่งจิตวิญญาณ-ภาคปลาย
    9. โลกแห่งความเป็นจริงหลากมิติ-ภาคต้น
    10. โลกแห่งความเป็นจริงหลากมิติ-ภาคปลาย

    ท่านที่ไม่สะดวกที่จะ Download และต้องการให้ส่ง eBook ให้ทาง e-mail สั่ง file eBook ได้จาก
    >>>>> http://novaanalai.com/novaanalai/bookstore.html <<<<<

    เมื่อ Download หรืิอได้รับ file eBook ทาง e-mail แล้ว จะสามารถอ่านหนังสือ off-line หรือ Print ได้ตามต้องการค่ะ

    พี่นักเขียนหวังว่า ทุกท่านจะได้รับประโยชน์สุขจากหนังสือ
    และนำประสบการณ์ส่วนตน มาแลกเปลี่ยนกัน ณ ห้องวิทย์ฯ
    เพื่อช่วยเหลือเกื้อกูลและสนับสนุนญาติมิตรทางจิตวิญญาณท่านอื่นๆต่อไป
    ด้วยความรัก และความปรารถนาดี ที่จิตวิญญาณทั้งหลายย่อมมีให้กันและกัน
    อย่างไม่มีวันหมดสิ้น
    (rose)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 ธันวาคม 2008
  17. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,116
    ค่าพลัง:
    +62,425
    [​IMG] <<Gallery

    โลกของจิตวิญญาณได้สะท้อนสภาวะของอารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกผ่านทางความฝันให้เราสัมผัสประสบการณ์ล่วงหน้าได้เช่นกันครับ เพราะอดีต -อนาคต ล้วนปรากฎพร้อมกันเป็นปัจจุบัน..อาจต้องใช้เวลาศึกษาอีกสักนิดจะเข้าใจมากขึ้นครับ ความรู้ของอาจารย์อนาลัยคือความจริงที่หลายคนบอกว่าอ่านแล้วต้องร้อง"อ๋อ" เพราะสิ่งที่พวกเรารู้หลายๆเรื่องได้ถูกปลุกให้ชัดเจนขึ้นจนความเชื่อเดิมๆพัฒนาไปเป็นความรู้อย่างไม่สิ้นสุดครับ...
    เหมือนที่หลายๆคนชอบประโยคนึงของอาจารย์อนาลัยที่กล่าวว่า...

    "เธอทั้งหลายไม่ใช่ มนุษย์ผู้ใฝ่หาประสบการณ์ในมิติของจิตวิญญาณ
    แต่เธอคือ จิตวิญญาณผู้มาหาประสบการณ์ในมิติมนุษย์"

    ประโยคพื้นฐานนี้ได้ช่วยขยายมุมมองส่วนตัวออกไปได้กว้างไกลยิ่งขึ้นครับ สำหรับผู้ที่เข้าใจแล้วก็จะไปต่อกับความรู้และสาระอื่นๆที่เป็นประโยชน์ต่อจิตวิญญาณ ซึ่งวิวัฒนาการที่แท้จริงของจิตวิญญาณนั้น ก็ไม่ได้เคลื่อนไหวไปในทิศทางเดียวกันอย่างที่เคยคิดกันครับ (เช่น จากดำไปขาว-จากต่ำไปสูง ฯลฯ) แต่กลับเป็นวิวัฒนาการในภาพรวมที่มีความสมดุลในตนเอง เพราะสิ่งที่ดูเหมือนจะตรงกันข้ามนั้นไม่มีสิ่งใดดีไปกว่าอีกสิ่งหนึ่ง เพราะสิ่งหนึ่งจะมีความหมายไม่ได้หากปราศจากอีกส่วนหนึ่ง ทำให้เรามองสิ่งต่างๆด้วยความเข้าใจและสามารถใช้จิตของผู้สังเกตการณ์สังเคราะห์ข้อมูลได้ชัดเจนยิ่งขึ้นครับ ต้องขอบคุณพี่นักเขียนฯที่นำเอาความรู้เหล่านี้มาฝากพวกเราครับ และเป็นเรื่องที่น่ายินดีมากๆที่ในยุคนี้ สาระความรู้ที่เป็นความจริงแท้สากลนี้ได้ถ่ายทอดออกสู่สาธารณะชนอย่างกว้างขวางด้วยการสื่อสารทุกๆรูปแบบ ยังไงก็ค้นคว้าจากหนังสือกันก่อน อะไรที่พอจะตอบกันได้ก็จะช่วยกันตอบ หากมีข้อสงสัยก็ฝากคำถามเอาไว้รอคำตอบจากพี่นักเขียนฯนะครับ :-O
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 ธันวาคม 2008
  18. สงบระงับ

    สงบระงับ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    660
    ค่าพลัง:
    +2,919
    thx1ขอขอบคุณ คุณmead ค่ะ สำหรับความคิดเห็นและคำแนะนำและให้ความสนใจกับความฝันของ สงบระงับ ก็รอพี่นักเขียนอยู่เหมือนกัน นี่ยังมีความฝันประมาณนี้อีกมากมายก็จะทะยอยเล่าสู่กันฟังไปเรื่อยๆค่ะ แต่ถ้าเป็นเรื่องสำคัญเร่งด่วนพี่นักเขียนก็เมตตาตอบให้เป็นการส่วนตัวในemailค่ะ ตอนนี้มีรายละเอียดแนะนำตัวแล้วค่ะ เชิญไปอ่านได้เลยค่ะ จะได้รู้จักกันมากขึ้นwelcome3 แต่หนังสือของพี่นักเขียนก็พยายามทะยอยอ่าน ยังได้ไม่มากเลยค่ะ ถ้าอ่านจบ 10 เล่มก็คงจะดีกว่านี้ อิๆๆ(เป็นหนังสือที่ต้องอ่านไป ทำความเข้าใจไป รีบไม่ได้ จริงๆ) ;aa42
     
  19. JINTAWADEE

    JINTAWADEE เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,559
    ค่าพลัง:
    +4,728
    สองขั้วที่แตกต่าง (2) ไม่ว่าจะเป็นสิ่งใด ๆ ก็ตามล้วนแต่มี 2 ขั้วที่ตรงกันข้ามใน 1 อยู่เสมอ ต่างกันแต่ว่า ขั้วไหนจะเยอะกว่ากันเท่านั้น

    หลังจากการโพสต์ข้อความล่าสุด ฉันก็ได้ไปหัวหกก้นขวิดอยู่ในอู่ตะเภา แล้วยังกับบางอย่างล่วงรู้ถึงความตั้งใจของฉันจึงมีรายการ "จัดให" ให้ฉันต้องไปปฏิบัติการอยู่ที่อู่ตะเภาจนกว่าเหตุการณ์จะปกติ

    ฉันต้องทำงานหนักกว่าปกติอีกหลายเท่า เพราะฉันต้องพยายามจำไฟล์ท และ รายละเอียดการบิน การเช็คอิน ของแต่ละแอร์ไลน์ให้มากที่สุดเท่าที่ฉันจะทำได้ งานที่ฉันได้รับมอบหมายจากบริษัทคือ การเสนอให้ลูกค้าที่ตกไฟล์ทเข้าไปพักในโรงแรม และ ทานอาหารฟรี 3 มื้อ โดยปราศจาก การจ่ายเงิน ซึ่งโครงการนี้เป็นการช่วยเหลือนักท่องเที่ยวภายใต้งบของรัฐบาล ซึ่งแต่ละโรงแรมสามารถนำเอกสารสำเนาตั๋วเครื่องบิน และ พาสปอร์ตไปขึ้นเงินได้ในภายหลัง ฉะนั้นจึงมีคนจากโรงแรมมากมายเลยทีเดียวถือป้ายเชิญชวนอยู่ บางโรงแรมก็นำแซนวิชและน้ำมาแจกด้วย แต่น่าเสียดายที่อู่ตะเภาตอนนั้นไม่มีพนักงานจากการท่าไปประจำเลย ทำให้ข้อมูลเรื่องการบินของไฟล์ทต่าง ๆ ไม่มี จะมีก็ต้องเข้าไปเช็คด้านใน ซึ่งก็แน่นมากเพราะมีอยู่จุดเดียวทำให้บริการไม่ทัน (เยอะชนิดจะเหยียบกันตาย จริง ๆ )

    นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติส่วนใหญ่ไม่ค่อยสนใจในสิ่งที่โรงแรมต่าง ๆนำเสนอ แต่ส่วนใหญ่มุ่งแต่จะกลับบ้านอย่างเดียว ฉันเข้าใจเป็นอย่างดีเพราะใครก็อยากกลับบ้านทั้งนั้น ซึ่งส่วนใหญ่ตกไฟลท์มาตั้งแต่วันที่ 25 พ.ย.ทีเดียว ฉันดูเหมือนคนบ้าอยู่คนเดียวเพราะห้อยสปี๊กเกอร์โฟนไว้ที่เอว พร้อมประกาศตลอดเวลาว่าใครมีปัญหา หรือต้องการสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับ ไฟล์ทของท่าน ขอเชิญมาทางนี้ (งานนี้ฉันยอมบ้า) ปรากฏว่ามีนักท่องเที่ยวเข้ามาสอบถามอย่างไม่ขาดสาย ฉันดีใจที่ได้ทำหน้าที่แนะนำชาวท่องเที่ยวเหล่านั้นในข้อมูลที่ถูกต้องและไม่มีหมกเม็ด (ชาวต่างชาติบางคนโดนหลอกให้เดินทางไปโน่นไปนี่แล้วก็ชาร์ตค่ารถแพง ๆ) แรก ๆ ที่ไปปฏิบัติงานที่นั่น หลายต่อหลายครั้งที่ฉันต้องทิ้งเคาน์เตอร์ไปเพียงเพื่อพาแขกเข้าไปเช็คข้อมูลการบินกับพนักงานข้างใน และพยายามช่วยแขกไม่ให้ตกไฟล์ท มีอยู่ครั้งหนึ่งซึ่งฉันประทับใจมาก มีแขกผู้หญิงนั่งร้องไห้อยู่บนกระเป๋าเดินทาง หลาย ๆโรงแรมได้เข้าไปสอบถามเพื่อเสนอโรงแรมของตน แต่แขกคนนั้นยืนกรานว่าเธอจะรอจนกว่าเขาจะประกาศเช็คอิน (ปัญหาตอนนั้นคือ เครื่องเอ็กซเรย์กระเป๋ามีเครื่องเดียว ก่อนนั้นมีไฟล์ทมารับคนอินเดียประมาณหลายร้อยคน จึงมีแขกรอเอ็กซเรย์กระเป๋า และ เช็คอินเป็นคิวยาวเหยียด ประกอบกับพนักงานไม่เพียงพอ และไม่มีข้อมูล จึงไม่มีการประกาศเรียกผู้โดยสารของสายการบินอื่นเข้าไปเช็คอินได้ทั้งที่ถึงเวลาแล้ว)

    จินตวดีมองหน้าผู้หญิงคนนั้นพร้อมขอดูตั๋ว เมื่อมองเข้าไปจะเห็นได้ว่าเหลืออีกแค่40นาทีเครื่องหล่อนก็จะขึ้นแล้ว เหตุใดจึงไม่มีประกาศเรียกเช็คอิน มาดามคนนั้นเริ่มร้องไห้ ในที่สุดฉันก็ตัดสินใจเดินเข้าไปด้านหลัง (แอบ ๆ เพราะด้านหน้าปิดไม่ให้นักท่องเที่ยวเข้าเพราะมันแน่นมาก ๆ) เข้าไปเช็คกับเจ้าหน้าที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่บอกว่า เครื่องจะบินอยู่แล้วค่ะ ได้เวลาเช็คอินตั้งนานแล้ว แต่ไม่มีประกาศ ฉันรีบวิ่งมาบอกมาดามพร้อมทั้งลากเธอให้ไปทางด้านหลังกับฉันและส่งหล่อนข้ามรั้วกั้นเข้าไปข้างใน (ที่อื่นทำไม่ได้นะ แต่ที่นี่สามารถค่ะ) พร้อมกับบอกว่าอย่าห่วงกระเป๋าเพราะฉันจะลากมันมาให้เองทีหลัง มาดามหายเข้าไปข้างในพร้อมกับฉันเดินออกมาลากกระเป่าที่ขอประทานโทษ ใหญ่มากและหนักมากเช่นกันพร้อมกับเพื่อนอีกคน (ถือคนเดียวไม่ไหว) เราเข้าไปรอเธอสักพัก ก็ได้ข่าวดีเธอได้บอร์ดดิ้ง พาสแล้ว เธอได้กลับบ้าน แม้ว่าจะกลับที่เคาน์เตอร์ฉันจะโดนดุบ้าง แต่ฉันก็มีความสุข

    หลายครั้งที่แขกมาแล้วพลาดไฟล์ทไม่สามารถบินได้ จึงต้องมาแสตนบายทุกวัน โรงแรมต่าง ๆ ก็มักได้แขกพวกนี้แหละกลับไป มีแขกมาติดต่อฉันมากมายเพื่อขอเข้าพัก ฉันก็แจกจ่ายให้แต่ละโรงแรมที่มารอ ฉันคิดว่าในสถานการณ์อย่างนี้ ทุกโรงแรมมีปัญหาทั้งนั้นซึ่งกระทบกระเทือนกับพนักงานทุกคน ฉันว่าในสถานการณ์อย่างนี้ถ้าจะรอดก็ต้องรอดกันทุกคนถึงจะถูกต้อง (แต่บางคนก็ไม่คิดเช่นฉัน)

    เป้าหมายการทำงาน ฉันมีเป้าหมายการทำงานที่แตกต่างจากคนอื่น เพราะฉันตั้งใจเต็มที่ที่จะให้ข้อมูลที่ถูกต้องกับลูกค้า เพื่อที่เขาจะได้ไม่หลงทางหรือคลำสะเปะสะปะอีกต่อไป ทุกเช้าที่ฉันมาฉันจะต้องมาอัพเดทข้อมูลเรื่องไฟล์ทบิน และสายการบินว่าแต่ละสายการบินนั้นเช็คอินที่อู่ตะเภาได้ไหม ถ้าไม่ได้ต้องไปที่ไหน หรือต้องทำอย่างไรก่อน ช่วงหลังโชคดีหน่อยเพราะเขาไปตั้งศูนย์ที่ไบเทคบางนา (ทุกสายการบินไปตั้งเคาน์เตอร์ที่นั่นทั้งหมด) แต่ทีจียังเช็คอินที่อู่ตะเภาได้ (และนี่แหละคือปัญหาคือแขกมีเยอะเกินเครื่องจะรับทั้งหมดได้ ต้องแสตนบายกันอย่างเดียว และแขกส่วนใหญ่ยังคงไม่รู้และหลั่งไหลมาแต่ที่อู่ตะเภาเท่านั้น) เวลามีแขกมาถามรายละเอียดฉันจะดูเวลาก่อนถ้าเขาเดินทางไปไบเทคบางนาทันฉันจะอธิบายให้แขกทราบและเรียกแท๊กซี่พร้อมต่อราคาให้เสร็จ แต่ถ้าดูแล้วว่าเย็นแล้วเดินทางค่ำมืดอันตราย (โดยเฉพาะรถแท็กซี่ช่วงนี้ทำเวลากันมากเพื่อกลับมารับกรุ๊ปใหม่) ฉันจะแนะนำให้เขาเข้าพักที่โรงแรม สรุปที่ฉันทำก็ได้ทั้งประโยชน์ตนและประโยชน์ท่านไปพร้อม ๆ กัน

    ช่วงเวลาที่ฉันอยู่ที่อู่ตะเภา ฉันกลับบ้าน หลังตี 1ตลอดเพราะฉันไม่สามารถที่จะทิ้งนักที่องเที่ยวบางคนที่ยังคงรอคอนเฟิร์มเวทติ้งลิสต์ (มีหลายไฟล์ทกว่าจะรู้ผลประมาณเที่ยวคืนถึงตีหนึ่ง) หลายคนเดินมาบอกฉันว่า "สัญญานะว่าคุณจะรอฉันจนถึงเที่ยงคืน" ฉันตอบกลับไปเลยว่า "ทั้งคืนยังไหว" อย่างน้อยฉันก็ได้พาเขาไปนอนบนเตียงอุ่นสบายมีอาหารเครื่องดื่มพร้อมรออยู่ ซึ่งคงดีกว่านอนหนาวที่นั่นเป็นไหน ๆ มีหลายคืนที่ฉันก็รอเก้อ เพราะแขกที่ขึ้นแสดนบายไว้ได้กลับทุกคน แต่ข้างในของฉันมันกลับดีใจมากที่พวกเขาได้กลับซักที

    หลายครั้งที่หัวหน้าของฉันเห็นการแบ่งปันแจกจ่ายแขกให้กับโรงแรมอื่นของฉัน และเห็นฉันเรียกแท๊กซี่ให้แขกไปไบเทคแทนที่จะพากลับโรงแรม
    "ทำไมเธอไม่แนะนำให้พักที่โรงแรมเราก่อน"
    "นี่ไม่ใช่เป้าหมายการทำงานของหนู"
    "อึ้ง อึ้ง อึ้ง"
    "เป้าหมายการทำงานของหนูคือ การทำให้นักท่องเที่ยวได้กลับบ้านได้เร็วที่สุดเท่านั้น ยกเว้นถ้าเขามีความจำเป็นที่ต้องพัก หนูถึงจะหาโรงแรมให้"

    พูดเสร็จก็เดินออกมาพร้อมกับคิดว่า เออ นี่ฉันจะโดนไล่ออกไหมเนี่ย
     
  20. kindred

    kindred เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +5,897
    เยี่ยมยอดค่ะ...อ่านแล้ว นึกภาพตาม
    ในช่วงเวลาเช่นนี้ ความเอื้ออาทร หายากยิ่ง น้ำใจ ยิ่งกว่างมเข็มในจักรวาล
    คุณจินตวดี แสดงให้เราได้เห็นถึงการแบ่งปัน อย่างไม่มีเงื่อนไข
    เพียงเพื่อ ให้ผู้อื่น คลายทุกข์....นับถือค่ะ นับถือ
     

แชร์หน้านี้

Loading...