ขอถามสักนิด ถึงช่อง DMC กับ พุทธศาสนา

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย anbang, 25 ตุลาคม 2008.

  1. ๙๙๙๙๙๙๙๙๙

    ๙๙๙๙๙๙๙๙๙ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    1,750
    ค่าพลัง:
    +2,808
    <TABLE class=tborder id=post1605190 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>ธรรมาว่างเปล่า<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_1605190", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    เข้ามาครั้งล่าสุด: วันนี้ 09:45 PM
    วันที่สมัคร: Jun 2008
    ข้อความ: 36
    ได้ให้อนุโมทนา: 0
    ได้รับอนุโมทนา 256 ครั้ง ใน 40 โพส
    พลังการให้คะแนน: 0 [​IMG]


    </TD><TD class=alt1 id=td_post_1605190 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- message -->ธรรมกายไม่ใช่พุทธศาสนานะครับเป็นแค่ลัทธิหนึ่งที่ มีคำสอนผิดแปลกไปมีอีกหลายอย่างที่ไม่ใช่คำสอนของพระพุทธเจ้า ค่อนข้างที่จะบูชาเงินหน่ออยที่พูดนี่ไม่ใช่ลบหลู่แต่ให้ไปศึกษาวิเคราะห์เอาเองครับ ตอนแรกผมก็อย่างนี้เละ พอมานั่งวิเคราะห์แล้วไปถามพระรูปอื่นๆจึงได้คำตอบที่ผมเขียนมา ยังไม่คนอีกมากที่ยังงมงายกับธรรมกายอยู่
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    เป็นแค่ลัทธิหนึ่ง คำ คำนี้อยากถามว่า คุณ ธรรมาว่างเปล่า<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_1605190", true); </SCRIPT> เคยดู รายการ DMC หรือยังละครับ เคยฟังคำสอนหรือยังละครับ ถ้ายัง คุณจะมากล่าวหาแบบนีไม่ได้นะครับ ถ้าเพียงแค่ คุณ ฟังคนอื่น ที่ไม่รู้จริง พูดมาอีกที หนึ่ง แล้วมาพูดต่ออีกที แบบ ยัง ไม่ใช้นิสัยของบัณทิต นะครับ มีใจเป็ลกลาง ตัดสินด้วยความจริงและเป็นกลาง คุณก็จะได้รู้คามจริง

    เรื่อง ทำบุญเร็วได้เร็ว ก็ควรเข้าใจให้ถูกนะครับ อย่างเพิ่งจับผิดกับคำหรือเล่นคำ

    และคำว่าทำบุญมากได้มาก ก็ อย่าจับผิดนะครับ คำว่าทำบุญมากไม่ได้แปลว่าเงินอย่างเดียว แต่หมายถึง บุญ กวาดวัด ปล่อยสัตว์ บริจาคทาน ซื้อยาถวายพระที่ป่วย นี้ก็หลายบุญแล้วครับเรียกว่าทำบุญมากมายหลายบุญก็ได้ครับ

    ต้องบอกว่า คนที่ไม่ชอบวัด เกียดวัด ว่าวัดธรรมกายต่างๆหลายๆคน ส่วนใหญ่ยังไม่เคยดู DMC หรือไปวัดเลยด้วยซ้ำ ที่เอามาด่าว่ากันก็เอามาจาก สื่อ และ พูดของคนอื่น ที่ไม่ได้รู้จริงเลย ต้องฟากให้คิดด้วยนะครับ ว่าที่ ท่านไม่ชอบ เพราะท่าน ฟังจากที่ไหนมา แล้ว เคยดูด้วยตัวเองหรือยัง
     
  2. CHOTIYA

    CHOTIYA เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,006
    ค่าพลัง:
    +359
    พูดถึงวัดนี้ลองฟังคนรุ่นเก่าบ้าง เคยเข้าไปมาถอยเอาปี๒๙ ใหม่ๆดีมากเจ้าสำนักนักบนเสื่อมือตบพื้น ณ.ที่แห่งนี้จะไม่มีการเรี่ยไร แล้วเดี๋ยวนี้เป็นอย่างไร ปีที่ถอย เจ้าสำนักขึ้นพูด เมี่อคืนนี้เกิดเหตุอัศจรรย์ใหญ่หลวงพ่อได้พิจรณาแสงจากดวงธรรมกายปรากฏว่ามีความสว่างเสมอเหมือนกับของหลวงพ่อสด แต่ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อหลวงพ่อได้รวมแสงธรรมกายกับรองเจ้าสำนักปรากฏว่าแสงสว่างเสมอเหมือนกับของพระศากยมุนีพุทธเจ้า ถูกที่ถูกทางแล้วที่ลูกทั้งหลายมาร่วมบุญกับ......... ผมเลยต้องถอยออกมาไม่กลับไปเหยียบอีกเลย แกไม่วิปลาสก็วิปัสนูอุปกิเลศจับเข้าไปแล้วครับ
     
  3. meekaw

    meekaw Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2007
    โพสต์:
    27
    ค่าพลัง:
    +38
    คอมมิวนิสต์ ผสม คริสต์ + เศรษฐศาสตร์ จัดตั้ง รวบรวมมวลชน เข้าถึงจิตใจ หวังผล ตามเป้าหมาย ทุนนิยม โดยอาศัยพุทธศาสนาทำมาหากิน รูปแบบที่ดูดี สะอาดสะอ้าน
    หน้าใสเด้ง อิ่มบุญที่เราซื้อ โอ้วว์ สุดยอด
     
  4. นาๆจิตตัง

    นาๆจิตตัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    220
    ค่าพลัง:
    +412
    บางสิ่งบางอย่าง ก็มีทั้งคุณและโทษ........

    บางทีสิ่งที่เรารู้เราเข้าใจ หรือได้ยินได้ฟังมา หากฟังหรือรู้ไม่ชัดเจน
    กว้างขวาง ละเอียดหรือมีภูมิความรู้ ความเข้าใจอย่างเพียงพอ
    แล้วเอาไปบอกเล่า บอกกล่าว....โดยเป็นความคิดความเข้าใจของเราแต่เพียงฝ่ายเดียว
    โดยอีกฝ่าย (ซึ่งก็มีข้อมูล หลักฐานและบุคคลตัวตนที่อ้างถึงได้) ไม่ได้มารู้ มาเห็นด้วย
    ผมว่าความยุติธรรมหรือชอบธรรมคงจะไม่บังเกิดขึ้น อีกทั้งวัดก็ยังเป็นวัด มีการจดทะเบียนฯ
    ถูกต้องตามกฏหมาย พระภิกษุก็มีการปฏิบัติตามพระวินัยคำสั่งสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
    ศีลก็ 227 ข้อฯ มีโบสถ์ มีเจดีย์ ฯลฯ พระภิกษุที่อยู่วัดก็เล่าก็เรียน ได้เปรียญธรรมก็มากมาย
    เปรียญ ๙ ประโยคก็มีตั้งมาก......ฯ ไม่ได้เป็นลัทธิหรือนิกายใหม่แต่อย่างใด

    ผมว่าถ้าตามกฏหมายฯแล้วการกล่าวว่า หรือการให้ร้ายผู้อื่น ถ้าผู้ถูกกล่าวหาไม่ผิด ผมว่า....
    ถ้าเป็นฆราวาสคงจะฟ้องกลับหรือแจ้งความดำเนินคดีทางกฏหมายได้ โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับ ICT
    ท่านไปว่า....ไปกล่าวแบบนั้นกับพระสงฆ์ พระ....ก็ได้แต่ปลง แต่ให้อภัย ฯ สุดท้ายก็ปล่อย ก็วาง.........
    พระท่านคงไม่มาสู้รบ ตบมือกับท่านหรอก ! เรื่องที่ท่านพูดท่านกล่าว เท่าที่ข้าพเจ้าจำได้ ทางวัดทางพระ
    ก็......โดนมาตลอดจนถึงปัจจุบัน ส่วนที่ท่านผู้ตั้งกระทู้กล่าวถึงเรื่องพระปัจเจกพระพุทธเจ้าฯ
    น่าจะได้รับชมรับฟังแล้วสรุปไปคนละเรื่อง...เดียวกัน ! เนื่องจากทางเว๊ป http://www.dmc.tv/
    เขามีการให้ดูหรือดาวน์โหลดรายการทีวีย้อนหลังได้ ลองไปค้นหาอ่านดูใหม่ได้ครับ

    ศีลของเราที่ยึดที่ถือก็ศีล ๕ ศีล ๘ เราก็ต้องรักษาให้ดีให้ครบอย่าให้ขาด พระท่านศีล 227 ข้อ
    ท่านก็รักษาของท่าน พระวินัยของพระนั้นเรารู้ได้มาก กระจ่างเพียงพอหรือยัง (ก็ต้องไปบวชดู
    สัก ๑ พรรษา ก็จะเข้าใจชีวิตของการดำรงสมณะเพศหรือพระภิกษุได้เป็นอย่างดี)ธรรมะข้อวัตร
    ข้อปฏิบัติเรามีภูมิรู้ ภูมิธรรมมากพอที่จะไป กล่าวว่าหรือลงโทษพิพากษา พระสงฆ์ วัดวาอาราม
    วัดโน้นวัดนี้ ฯ...ศาลจะตัดสินก็ยังต้องมีการไตร่สวน สืบค้นพยาน ข้อมูล หลักฐานต่างๆ
    ไม่ได้กล่าวลอยๆ หรือเอาอารมณ์ความรู้สึก นึก คิดฯ เป็นตัวชี้วัด ตัดสิน...

    ผู้เข้ามาอ่านพึงควรใช้วิจารณญาณให้มากเข้าไว้ หรือสามารถหาข้อมูลประกอบฯ เป็นหลักเป็นฐาน
    ซึ่งวัดก็ยังอยู่ที่เดิม พระก็อยู่ที่วัด ไม่ได้ ไม่มีตัวตนหรือจับต้องพิสูตร ค้นหาไม่ได้ เพราะวัดก็ตั้งมา
    ก็หลายสิบปี เป็นยี่สิบกว่า...สามสิบปี(ดูจะก่อตั้งมาก่อนผู้เข้ามาในกระทู้นี้เกิดหรือคลอด.....
    หลายต่อหลายคน)เปรียบเหมือนโดนมรสุม คลื่นลม พายุ คลื่นฝนฯ ซัดกระหน่ำมาครั้งแล้วครั้งเล่า
    ขึ้นโรงขึ้นศาลก็มากมาย ศาลก็ตัดสินคดีไปแล้ว ความผิดก็ไม่ปรากฏ เห็นแต่สุดท้าย หนังสือพิมพ์ไม่รู้กี่
    สำนัก ลงประกาศขอขมาฯ.....ปัจจุบันวัดก็ยังอยู่ที่เดิม วัดก็ยังคงเป็นวัด ค้ำชูบวร พระพุทธศาสนา
    อยู่เหมือนเดิม แต่คนเราปัจจุบันกลับเปลี่ยนไป....ศีล ๕ ข้อก็ยังยึดถือปฏิบัติไม่ค่อยได้

    เรื่องบางอย่างก็เป็นเรื่องของกฏแห่งกรรม ไม่ว่าผู้นั้นจะเก่งกล้าสามารถหรือบรรลุฯธรรมชั้นสูงอย่างไร
    ก็ไม่สามารถหลุดพ้นวิบากแห่งกรรมนั้นได้ ผู้มาวัดไปวัดก็เช่นเดียวกันก็มีทั้งมั่งมี ยากจน สูงต่ำ ดำขาวฯ
    วิบากกรรมก็ตามไปเล่นงานได้หมด ไม่บอกไม่กล่าว....บางทีเหตุที่เห็นหรือตัวอย่างที่ท่านเจอ ก็มี
    วิบากกรรมมาซ้อน ซ่อนเงื่อนรวมอยู่ด้วยเหมือนกัน

    ทางวัดก็ได้ประกาศแล้วว่า เป็นวงบุญของพระโพธิสัตว์ ซึ่งบำเพ็ญเพียรบารมีทาง "พุทธภูมิ"
    (บารมี ๓๐ ทัศ)แต่ถ้าท่านปราถนา "สาวกภูมิ" ก็ต้องดำเนินแนวการปฏิบัติไปตามนั้น ถ้ายังไม่ค่อย
    เข้าใจกระจ่างเกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติของพุทธภูมิ สามารถเข้าไปศึกษาได้ในเว๊ปฯหมวดกระทู้
    "พุทธภูมิ" บางทีความกระจ่างหรือเงื่อนปม ของเรื่องราว.....ก็สามารถเข้าใจได้ในนั้น

    ถ้าท่านเปิดใจกว้างพอ
     
  5. CHOTIYA

    CHOTIYA เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,006
    ค่าพลัง:
    +359
    หนู นานาจิตตัง หนูลองหาทางติดต่อ ส. ศิวลักษณ์ แล้วถามข้อมูลวัดนี้จะมีอะไรที่หนูไม่รู้อีกเยอะ
     
  6. ๙๙๙๙๙๙๙๙๙

    ๙๙๙๙๙๙๙๙๙ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    1,750
    ค่าพลัง:
    +2,808
    <TABLE class=tborder id=post1612177 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>CHOTIYA<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_1612177", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    เข้ามาครั้งล่าสุด: เมื่อวานนี้ 11:50 PM
    วันที่สมัคร: Jul 2008
    ข้อความ: 315
    ได้ให้อนุโมทนา: 310
    ได้รับอนุโมทนา 888 ครั้ง ใน 276 โพส
    พลังการให้คะแนน: 35 [​IMG]



    </TD><TD class=alt1 id=td_post_1612177 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- message -->หนู นานาจิตตัง หนูลองหาทางติดต่อ ส. ศิวลักษณ์ แล้วถามข้อมูลวัดนี้จะมีอะไรที่หนูไม่รู้อีกเยอะ

    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    อืม ที่ว่ายังไม่รู้อีกเยอะ นี้เอาข้อมูลมาจากไหนหรอครับ แต่งขึ้นมาเอง หรือเขียนขึ้นมาเอง ด้วยความไม่ชอบวัด หลักฐานเท็จ ที่ทำขึ้นมาหรือเปร่าครับ สุดท่าย ที่เอามาด่าว่ากัน ก็ไปฟังคนอื่นเค้ามาทั้งนั้น ไม่ได้รู้จริงเลยสักคน คนที่รู้จริง ใจเป็นกลาง กล้าไปพิสูจความจริง คงไม่กลับมาพูดแบบนี้หลอกครับ ผมเจอมาหลายคนแล้วครับ ที่บอกว่าวัดไม่ดีอย่างงั้นอย่างงี้ เอาข้อมูลที่นั้นที่นี้มาให้อ่านมาให้ดู ผมเห็นแล้ว ก็ขำครับ เรื่องแต่งขึ้น โกหกทั้งนั้น ที่จะสรรหามาด่าว่าวัด สุดท่าย ก็ไม่ได้ไปรู้เห็นด้วยตัวเอง ก็เอามาจากคนอื่นมาด่าอีกที แล้วก็เชื่อกันไปเป็นตุเป็นตะ มนุษย์ เชื่อ เรื่องโกหก มากกว่าเรื่องจริง เพราะเรื่องโกหก แต่งให้สนุกปากยังไงก็ได้ อยากรู้ จริงเห็นจริง ผมขอท้าให้ดู รายการท่ายทอดสด สัก อาทิตย์หนึ่งเลยละกันครับ ว่ามีอะไรไม่ดีมั่ง รายการธรรมะ 24 น. http://www.dmc.tv/multimedia.php?program=live# ความเร็วในการรับชม 30k 100k / www.dmc.tv << คลิกเข้าไปดูแล้วกันนะครับ ตั้งแต่เวลา 18.30 จันทร์ ถึง เสาร์ มีอะไรที่ไม่ดีมาบอกผมแล้วกันนะครับ ผมจะคอยฟัง<!-- / sig -->
     
  7. pilgrim29

    pilgrim29 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2008
    โพสต์:
    5
    ค่าพลัง:
    +1

    เห็นด้วยนะคะ ว่าเรื่องศาสนาเป็นความเชื่อส่วนบุคคล และเป็นเรื่องละเอียดอ่อนมาก ไม่ควรดูหมิ่นหรือจาบจ้วงพระพุทธศาสนา ไม่ว่าแนวทางการปฏิบัติแบบใด นิกายใด หรือมีเป้าหมายแบบไหน ก็ล้วนแต่เป็นศาสนาพุทธเหมือนกัน

    โมทนาค่ะ^^
    (ขอโทด ณ ที่นี้ หากมีความคิดเห็นขัดแย้งกับผู้ใด)
     
  8. upanya

    upanya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2006
    โพสต์:
    900
    ค่าพลัง:
    +1,035

    ตอบได้ดีครับ อนุโมทนา
     
  9. upanya

    upanya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2006
    โพสต์:
    900
    ค่าพลัง:
    +1,035

    อันนี้จะกล่าวว่า
    เทวดาในชั้นดุสิต สามารถอธิษฐานลงมาเกิดได้
    เป็นความพิเศษของชั้นนี้

    และด้วยเหตุผลทั้งปวง ท่านอยู่ในฐานะที่จะทำได้โดยสมบูรณ์

    ความเป็นพระโพธิ์สัตว์ และการให้ผลของบุญที่ทำให้เป็นหัวหน้าคงต้อง
    อธิบายกันอีกนาน

    นี่ก็เป็นอีกกระแสหนึ่ง
     
  10. CHOTIYA

    CHOTIYA เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,006
    ค่าพลัง:
    +359
    ก็ที่เข้าไปได้ยินกับหู เห็นมากับตา (แต่เสียดายไม่ได้บันทึกเทปถ่ายภาพไว้)ยังจะโกหกตัวเองได้เชียวหรือ หลังจากสังคมวิจารณ์กันมากเข้าเขาก็เปลี่ยนแนว เดี๋ยวนี้ไม่รู้ไม่เคยจะหันไปดู ซักกะติ๊ด
     
  11. วิมุตติ

    วิมุตติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    2,355
    ค่าพลัง:
    +2,169
    <TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 6 คน ( เป็นสมาชิก 4 คน และ บุคคลทั่วไป 2 คน ) </TD><TD class=thead width="14%"></TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>วิมุตติ, upanya </TD></TR></TBODY></TABLE>เป็นประเด็นได้เรื่อยๆ นะครับ ท่านว่าไหม...?
     
  12. bnbk

    bnbk เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,047
    ค่าพลัง:
    +15,613
    กระทู้นี้มีธรรมกายหลายท่าน ขอถามจากความที่ฟังมาจากแม่ชีท่านหนึ่งที่เคยปฏิบัติรับใช้สมัยหลวงปู่สดยังอยู่ ตอนนี้ท่านก็ชราแล้ว มีอยู่ครั้งหนึ่งแม่ชีเล่าให้ฟังว่าเคยเข้าไปปฏิบัติที่วัดธรรมกาย ด้วยสภาพที่เป็นแม่ชีทั่วๆไปเสื้อผ้าท่านไม่ขาวผ่องอย่างท่านที่มาปฏิบัติธรรมท่านอื่นๆ เจ้าของสถานที่ก็เลยมากระซิบท่านว่าแต่งตัวอย่างงี้อย่ามาอีก

    เราเป็นคนนอกที่บังเอิญได้รับฟังมา เรางง
    ทำไมคนเราไม่ขาวสะอาดที่ใจก่อนหรือ
    ทำไมการรักษาภาพลักษณ์นั้นสำคัญกว่าธรรมขององค์บรมพระศาสดาอีกหรือ...

    หรือเป็นสิ่งที่ลูกศิษย์ลูกหาคิดเองเออเองกันเนี่ย...
     
  13. thavornsiripat

    thavornsiripat สิ่งใดไม่เปลี่ยนแปลง ไม่มี เป็นธรรมดา เช่นนั้นเอง

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    2,071
    ค่าพลัง:
    +13,917
    จำมากระพร่องกระแพร่งมากว่า หลวงพ่อองค์หนึ่งท่านกล่าวไว้ว่า
    "คนเรามองคนอื่น 90 มองตนเอง 10 ก็เปลี่ยนซะ ให้มองคนอื่น 10 มองตนเอง 90 "
     
  14. lokemesa

    lokemesa Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    158
    ค่าพลัง:
    +26
    อืม ท่าจะจริงแฮะ แต่ที่ดีคือไปพิสูจน์ด้วยตัวเองครับ ขอบคุณครับ
     
  15. surapong chot

    surapong chot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    220
    ค่าพลัง:
    +1,212
    คุณๆเคยได้ยินไหม พระพุทธองค์ท่านกล่าวไว้ว่า " เราเอาธรรมมะมาอธิบายเปรียบได้แค่ใบไม้หยิบมือเดียวจากในป่า " ตามความคิดของผมแสดงว่า พระพุทธองค์ท่านบอก เป็นนัยว่า ยังมีธรรมมะอีกมากมาย ที่ยังมิได้อธิบายไว้...

    ดังนั้น...จึงมิใช่เรื่องแปลกที่จะมีเส้นทางอีกหลายสาย ไปจบที่เดียวกัน เพียงแต่จะพากันไปทางใด เพลิดเพลินกับฤทธิ์ก่อนก็มี ติดอยู่สุขก็มี และอื่นๆอีกมากมายใยต้องคิดมากกัน เล่า

    ทำตัวเองให้ดี(รักษาศีล 5ให้ได้)ก่อนก็พอนะครับ...
     
  16. lokemesa

    lokemesa Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    158
    ค่าพลัง:
    +26
    DMC นี่ช่วยคนไว้ได้เยอะนะครับ ผมว่าอย่างน้อย ก็ช่วยไม่ให้เขาไปอบายภูมิได้ครับ
    มีกรณีตัวอย่างที่ได้มาเล่าถึงผลดีจากการได้รับชม สื่อ DMC ซึ่งมีหลายๆ case เป็นที่น่าทึ่งมาก
    คือถึงกับพลิกชีวิตคนจากไม่เชื่อเรื่องบาป บุญ คุณ โทษ ซึ่งเป็นมิจฉาทิฏฐิ มาเป็นสัมมาทิฏฐิได้ครับ
    ลองศึกษาข้อมูลจากหลายๆ ด้านนะครับ



    กัลยาณมิตร พันธ์ณรงค์ ชัยประภา (ประเทศอินโดนีเซีย) <div"> </div">

    <div align="justify"> ผมชื่อ พันธ์ณรงค์ ชัยประภา อายุ 59 ปี จากกรุงจาการ์ต้า ประเทศอินโดนีเซีย มาอยู่ได้ 34 ปีแล้วครับ ผมเริ่มต้นชีวิตที่นี่ โดยการชักชวนของเพื่อนให้เข้ามาทำงาน ในบริษัทฯแห่งหนึ่ง ทำไปทำมาช่วงหนึ่ง ปรากฏว่าผลประกอบการของบริษัทฯออกอาการร่อแร่ ดัชนีความมั่นคงดิ่งลงเหว พนักงานกว่า 400 คน มีสิทธิ์ถูก Lay off ตอนนั้น ผมทำงานเป็นหัวหน้าแผนกหนึ่ง แต่เจ้าของบริษัทฯกลับเห็นแวว จึงติดต่อให้ผมรับตำแหน่งผู้จัดการแทน นึกๆแล้วมันก็เหมือนกับส้มหล่นครับ แต่ส้มใบนี้มีกลิ่นตุๆ เกือบเน่าแล้วครับ <div"> </div"></div> <div align="justify">
    [​IMG] ก่อนที่จะตกปากรับคำ เป็นผู้จัดการในวัยหนุ่ม 28 ปี ผมได้ทำข้อตกลงกับเจ้าของบริษัทว่า “ผม เป็นผู้จัดการให้ได้ แต่มีข้อแม้ว่าทุกคนต้องร่วมมือกับผมนะ ผมก็ไม่ได้ขออะไรมาก แค่ขอตัดเงินเดือนผู้บริหารทุกคนทุกเดือน เพื่อเอาไปทำบุญ” แล้วผมก็รวบรวมเงินเดือน ตั้งแต่หัวหน้าแผนกไปถึงเจ้าของบริษัทฯ ได้เป็นเงินประมาณ 10 ล้านรูเปียต่อเดือน (ประมาณ 100,000 บาท อัตราแลกเปลี่ยนสมัยนั้น) ผมนำเงินเหล่านั้น ไปทำบุญที่วัดพุทธไทยในอินโดนีเซีย เพื่อสร้างวัดให้เสร็จ และซื้อข้าวสารถวายวัด ทำอย่างนี้มาตลอดชีวิตการทำเงิน 25 ปี ทุกๆเดือน

    <div> <div"> </div"> จากนั้น ก็มหัศจรรย์ครับ เวลาผ่านไป 1 ปี กว่าๆ ผลปรากฏว่า กิจการก็ดีขึ้นๆ จนต้องขยายงาน จากร่อแร่ กลายเป็นรุ่งเรืองมากๆ จนมีพนักงานเป็น 4,000 คน ตอนนั้นก็แอบภูมิใจครับ คิดว่าตัวเองเก่ง เพราะจริงๆ แล้วผมก็ไม่รู้เรื่องบุญมากหรอกครับ แต่ก็ไม่รู้ว่าทำไมผมจึงคิดที่จะทำอย่างนั้น

    <div> เมื่อบริษัทฯเจริญ เงินดี หน้าที่การงานสูง ก้าวสู่ระดับผู้บริหาร ก็เปิดโอกาสให้สิ่งไม่ดีต่างๆเข้ามา เช่น เหล้า บุหรี่ อบายมุข และการที่ผมต้องทำงานกับพนักงาน 4,000 กว่าคน และต้องไปให้ถึงเป้าทุกเดือน ทำให้เครียด โมโหฉุนเฉียว อารมณ์เสียบ่อยๆ พออายุ 53 ปี ผมก็ปลดเกษียณตัวเองด้วยปณิธานที่ว่าจะไม่ทำงานจนแก่ตาย แต่กลับใช้เงินที่หามาได้และใช้ชีวิตหมดไปวันๆ หลายปี กับการเล่นกอล์ฟ เพื่อออกกำลังกายให้ร่างกายแข็งแรง <div"> </div"></div> <div>
    จนเมื่อ เดือนธันวาคม พ.ศ.2547 ผมกลับบ้านที่เมืองไทย และไปเจอกัลยาณมิตรท่านหนึ่งเอา CD เกี่ยวกับกฎแห่งกรรมมาให้พี่สาวดู ผมก็ดูด้วย ดูแล้วผมก็นึกขึ้นมาทันทีว่า “ผมพลาดไปเสียแล้ว” เพราะแต่ก่อนเวลาผมทำผิดศีล ด้วยความรู้สึกเฉยๆ ไม่ได้สนใจว่าผิดแล้วจะเกิดอะไรขึ้น แต่พอได้มาดู และรู้ว่าผลมันมากมายขนาดนั้น ถึงกับต้องไปตกนรก รู้แล้วขนหนาวลุกเลยครับ

    <div> <div"> </div"> ผมจึงตัดสินใจติดจานดาวธรรมที่อินโดนีเซีย เพราะ ดาวธรรมนี่เอง ที่ทำให้ผมได้รู้จัก เรื่อง บาป บุญ ทำให้เลิกอย่างเด็ดขาดได้ทุกอย่าง ทั้งเรื่อง เหล้า บุหรี่ เที่ยวผู้หญิง เพราะไม่อยากตกนรก และติดตามทำบุญทุกบุญ

    <div> บุญแรกที่ทำคือ จานดาวธรรม พอหลวงพ่อบอกบุญจานดาวธรรมให้กับโรงเรียน ผมกลัวจะหมดจึงรีบโทรศัพท์มาขอร่วมบุญด้วย ตอนนั้นทำไป 10 จาน ต่อมาไม่นาน หลวงพ่อประกาศชื่อทาง DMC ผมปีติตัวแทบลอย ตอนนั้นตื่นเต้นมาก หลวงพ่อทักทายผ่าน DMC ว่า “โอ้โฮ...มีมาจากอินโดนีเซียด้วยเหรอ” ผมปลื้มมากครับ และนับเป็นบุญแรกของผมในตอนนั้น แล้วผมก็ไปชวนเพื่อนที่เป็นเจ้าของบริษัทฯที่อินโดนีเซีย เขาก็ทำบุญด้วยทันทีอีก 100 จาน ต่อมาก็สร้างพระธรรมกายประจำตัว ลานธรรม ร่วมบุญเสาแก้วพันปี กฐินปี 48 ทำทุกๆบุญกับหลวงพ่อไม่ขาด และบุญล่าสุดที่ทำคือ ประธานกองกฐิน 49 <div"> </div">
    <div> ตอนนี้ ผมนั่งสมาธิทุกวันครับ เมื่อก่อนนั่งได้แค่ 15 นาที เดี๋ยวนี้นั่งได้ 45 นาทีถึง 1 ชั่วโมง วันหนึ่งรวมได้ 1-2 ชั่วโมง แรงบันดาลใจที่ทำให้ผมนั่งสมาธิมากขึ้น คือ วันหนึ่ง ผมไปถวายปัจจัยกับหลวงพ่อ หลวงพ่อถามว่า “นั่งสมาธิถึงไหนแล้ว” ได้ยินคำถามอย่างนั้น ผมล่ะอ๊าย...อาย เลยครับ เพราะยังไม่ก้าวหน้าไปถึงไหนเลย แถมบางครั้งยังขี้เกียจอีกต่างหาก คราวนี้ก็เลยเกิดลูกฮึดมาฟิตนั่งสมาธิ <div"> </div"></div> <div>
    เมื่อก่อนนั่งไม่กี่นาทีผมก็เมื่อยแล้ว แต่พอนั่งมากขึ้น ก็เมื่อยน้อยลง และประสบการณ์ที่ดีที่สุดคือ ขณะ ที่ผมนั่งจรดใจนิ่งๆ ที่ศูนย์กลางกายฐานที่ 7 ผมจะรู้สึกว่า ตัวเองนิ่ม เหลวไปหมด จนแนบไปกองกับพื้น พอปล่อยนิ่งๆ ก็เห็นแสงสว่างๆ ปรากฏขึ้นมา ซึ่งเป็นแสงที่เห็นแล้วมีความสบาย บางครั้งนั่งแล้วผมรู้สึกเหมือนจะตกเหวบ่อยๆและผมกลัวมากครับ เพราะตอนที่ตกลงไป รู้สึกว่าข้างล่างมันลึกมากๆ

    <div> <div"> </div"> เมื่อผมได้นั่งสมาธิ และดู DMC ทุกวัน ผมรู้สึกเป็นหนี้บุญคุณหลวงพ่อมากๆครับ ที่เป็นแสงสว่างให้กับผม เพราะถ้าไม่มีหลวงพ่อก็ไม่รู้ว่าผมจะทำอะไรผิดพลาดเพราะความไม่รู้อีกมากมาย แค่ไหน ตอนนี้ ผมเข้าใจอย่างแจ่มชัดแล้วว่า ทุกสิ่งเกิดขึ้นจากบุญที่ผมทำมา ไม่ใช่เพราะผมเก่งกาจอะไรเลย

    <div"> </div"> ตอนนี้ ผมใช้เวลาไปกับการทำบุญ นั่งสมาธิ และดู DMC เวลาไม่เห็นหลวงพ่อ ผมก็คิดถึงทุกวันเลยครับ หลวงพ่อไม่ลงผมก็เหงา ผมจะบูชาเจดีย์ ทำวัตรเย็น ดูฝันในฝันทุกวัน ผมขอให้หลวงพ่อ ขาหายเจ็บไวๆ ได้มาที่ประเทศอินโดนีเซียอีกครั้ง

    ผมมีความตั้งใจอยากให้บ้านที่ประเทศอินโดนีเซีย เป็นศูนย์ปฏิบัติธรรม และมีอะไรที่จะให้ผมช่วยได้ ผมยินดีที่จะช่วยทุกอย่าง ให้อดีตเมืองพุทธได้สว่างไสวอีกครั้งหนึ่ง และขอติดตามสร้างบารมีไปจนกว่า ถึงที่สุดแห่งธรรมครับ <div"> <div"> <div"> <div"> <div"> <div"></div"></div"></div"></div"></div"></div"></div></div></div></div></div></div>
    </div>
    บทความนี้พิมพ์จาก http://www.dmc.tv/pages/world_meditation/Indonesia_Pan_na_rong.html
    เมื่อ 28 ตุลาคม 2551 18:25


    อันนี้ลิงค์ดูคลิปวีดีโอครับ

    http://www.dmc.tv/programs/d-star/page2.html
     
  17. area

    area เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กุมภาพันธ์ 2005
    โพสต์:
    90
    ค่าพลัง:
    +362
    ขออนุญาตแสดงความเห็นสักเล็กน้อยนะครับ

    ในเวลานี้ขณะที่กาลเวลายังไม่พัดเอาหนทางที่พระพุทธองค์เดินนำหน้าเราไปให้หายไป ยังมีครูบาอาจารย์ร่วมสืบสานส่งต่อคบไฟแห่งปัญญาส่องนำทางที่สมเด็จพ่อเดินไปนั้น

    หากเราเร่งรีบเดินตามก็จักมีโอกาสถึงปลายทางได้ไม่ยากนัก ใยจึงคิดฝ่ากระแสสงครามแห่งวัฏฏสงสารอันน่ากลัว หากพลาดพลั้งต้องลงอบายภูมิไซร้ จะหาผู้ใดมาช่วยก็ยากเต็มทีแม้แต่ผู้ที่มีความเชื่อเหมือนกันว่าจะไปรื้อผังก็หาช่วยได้ไม่

    แม้นได้ไปอยู่ดุสิตบุรีก็ยังต้องกลับมาเสี่ยงกับการเกิดแล้วพลาดพลั้งอีกไม่รู้กี่ครั้ง

    ดังนั้นหากทำได้ก็เร่งความเพียรหรือตั้งเป้าให้ดิ่งตรงไปนิพพานดีกว่าไหมครับ ไม่ต้องเสี่ยงกับความน่ากลัวในมหาวัฏฏะที่หาที่สุดไม่เจอ
     
  18. anbang

    anbang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2008
    โพสต์:
    143
    ค่าพลัง:
    +396
    สรุป
    60 เปอร์เซ็น เป็น กัลยาณมิตร แน่นอน เชื่อมั่นในอาจารย์ท่าน
    10 เปอร์เซ็น เป็น ขอดูอยู่ห่างๆ ไม่มีความคิดเห็น ไม่มีข้อสงสัย แต่ก็ไม่เชื่อ วัดนี้
    10 เปอร์เซ็น เป็นทางสายเอก นิ่งไว้ตำลึงทอง
    10 เปอร์เซ็น เป็นผู้อยู่กลาง พัดพาไปตามสายลม
    10 เปอร์เซ็น เป็นคนต่างศาสนา


    ข้อเสนอแนะ จาก ประวัติของพระสาลีบุตร (ฉบับย่อคัดมาบ้างช่วง)

    พระสารีบุตรชื่อเดิมว่า อุปติสสะ มีเพื่อนชื่อ โกลิตะ (พระโมคคัลลานะ) ระยะแรกได้ฝากตัวเป็นศิษย์ของอาจารย์สัญชัย สำนักสัญชัย แต่ต่อมาไม่เห็นว่าสำนักนี้จะชี้ทางไม่สู่ความหลดพ้นได้ เพราะมุ่งสอนแต่อภินิหาร และ ทำเงินสร้างสำนักให้ใหญ่โต อวดอ้างเทวดา และความสามารถของตน และพวกพ้อง
    ทั้งสอง อุปติสสะกับโกลิตะ จึกตกลงกันจะเดินทางไปหาครูคนใหม่ที่จะนำไปสู่ความหลุดพ้นได้ โดยแยกกันไปคนละทาง สัญญาว่า หากพบจะรีบกลับมายังจุดนัดหมายแล้วจะไปกันไปสมัครเป็นศิษย์ยังสำนักใหม่นั้น
    อุปติสสะ ได้ไปพบพระอัสสชิ สาวกของพระพุทธเจ้าแล้วเกิดความเลื่อมใส จึงกลับไปยังจุดนัดพบ พบกับโกลิตะ รออยู่ แล้วจึงพากันไปยังเวฬุวัน แต่ก่อนไปได้ไปอ้นวอนให้อาจารย์สัญชัยไปกับตนด้วย อาจารย์สัญชัยจึงบอกว่า
    ดูก่อน เจ้าทั้งสอง บุคคลในโลกนี้ คนโง่กับคนฉลาด อย่างไหนมีมากกว่า
    คนโง่ย่อมมีมากกว่าคนฉลาดขอรับ สองสหายตอบอาจารย์

    ถ้าเช่นนั้นพวกคนฉลาดจะไปยังสำนักของพระโคดม พวกคนโง่จะมาสำนักเรา พวกเจ้าไปเถิดเราไม่ไปหรอก...(จบบทคัดตัดตอน)

    ขอท่านทั้งหลายจงพิจารณาเถิด.............สาธุ

    ทางใดคือทางสายเอก ทางใดคือทางสายอื่นๆ

    หลวงพ่อฯ ท่านสอน ทางนี้เป็นทางเอกและมีแค่ทางเดียวเท่านั้นไม่มีทางอื่นที่หลุดพ้น

    หลักฐานต่างๆ เชิญพิสูจน์ได้ที่ วัดอัมพวัน จังหวัดสิงหบุรี

    ขอบคุณครับ
     
  19. upanya

    upanya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2006
    โพสต์:
    900
    ค่าพลัง:
    +1,035
    หนทางของสาวกภูมินั้นมีอยู่

    หนทางแห่งพุทธภูมินั้นก็มีอยู่

    ในพุทธภูมิและสาวกภูมิก็ยังมีแยกออกไปอีกมาก

    ใครปรารถนาอย่างไรก็เลือกเอาครับ

    อย่าปรามาสกัน เพราะเราเองก็ไม่รู้ว่าใครเป็นใครในวัฏฏสงสารอันกว้างใหญ่สุดประมาณนี้

    เจอแจ็คพ็อตแล้วมันจะเสียโอกาส

    พระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบันต้องบำเพ็ญ 6 ปีเพราะแค่คำว่า "สมณโล้นมีดีอะไร"

     
  20. lokemesa

    lokemesa Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    158
    ค่าพลัง:
    +26
    วจีกรรม นี่ น่ากลัวเห็นปานนี้

    ท่านทั้งหลายจงมีความละอายต่อการทำชั่วเถิด

    จงมีความเกรงกลัวต่อผลของบาปเถิด

    ท่านทั้งหลายจงรักษาตนให้ปลอดภัยในสังสารวัฏ อันน่าเกรงขามนี้เถิด
     

แชร์หน้านี้

Loading...