เชิญเข้าร่วมสนทนาพิเศษเรื่อง มิติ ความฝัน ชาติภพ จิตวิญญาณ โดย @โนวา อนาลัย@ [Writer]

สำหรับเรื่องนี้ขอตอบคุณ brotherpray นะครับ เรื่อง เวลา -สถานที่ นี่เราควรต้องทำความเข้าใจก่อนครับว่า จิตวิญญาณได้สร้างสภาวะของ ชาติภพ-ภูมิภพหรือมิติต่างๆขึ้นมาจากการขยายออกไปเพื่อการสร้างสรรค์ในมิติของจิตวิญญาณ จีงเกิด"เครื่องพราง"ที่เรียกว่าระยะทาง ช่องว่าง และกาลเวลาขึ้น แต่ละตำแหน่งของ เวลา-และสถานที่ ในระบบเอกภพก็แตกต่างกันออกไป ทำให้เราดำเนินชิวิตในแบบเฉพาะที่เรารู้จักเหมือนสมการเส้นตรงครับ

แต่ธรรมชาติแห่งความเป็นจริงนั้น จิตวิญญาณอยู่เหนือกฎเกณฑ์แห่งระยะทาง ช่องว่าง และกาลเวลา จิตวิญญาณไม่มีอดีต ไม่มีอนาคต มีแต่ปัจจุบัน และจิตวิญญาณก็ไม่ใช้เนื้อที่และสถานที่....

"มิติ"เป็นสิ่งที่เราเข้าใจภายใต้ กฎเกณฑ์ของกาลเวลา ที่เรารู้จัก
"ภพภูมิ" เป็นสิ่งที่เรากำหนดขึ้นภายใต้ กฎเกณฑ์ของระยะทางและช่องว่าง​

......มิติที่แท้จริงและมิติทั้งหมด คือปัจจุบัน........
......และภพภูมิทั้งหมด คือภาวะแห่งจิตวิญญาณ......​

เพิ่งคุยกับคุณกุ้งเรื่องนี้พอดี ขออนุญาตินำมาเป็นตัวอย่างนะครับ คือมีผู้รู้ท่านหนึ่งได้บอกคุณกุ้งว่า จิตวิญญาณคุณกุ้งถูกกักขังอยู่ใต้ปิรามิดที่อียิปต์ จำเป็นจะต้องเดินทางไปที่นั่นเพื่อปลดปล่อยจิตดวงนั้นให้เป็นอิสระ และไปเพื่อรับพลังปิรามิดรักษาอาการป่วยที่เป็นอยู่อาจจะดีขึ้น ถ้าหากมองแบบปกติไปหลายคนจะสงสัยว่า..จิตเรามีดวงเดียวแต่ทำไมไปถูกกักขังอยู่ในสถานที่แห่งนั้นได้ล่ะ เพราะมันคืออดีตของเราไปแล้ว? ถ้าคิดตามเวลาของโลกก็จะเป็นสมการเส้นตรง ทำให้รู้สึกว่า..มันเป็นไปไม่ได้แน่..แต่ความซับซ้อนของมิติอันละเอียดอ่อนหลากหลายนี้จึงเรื่องนี้จึงน่าคิดครับ​

และถ้าเรามองในแง่ของจิตวิญญาณดูบ้าง เราจะเห็นภาพในมุมกว้างยิ่งขึ้นครับว่า..มิติของจิตวิญญาณนั้น ไม่มีอดีต-อนาคต..มีแต่ปัจจุบัน และดำรงอยู่ด้วยกันเป็นระบบเครือข่ายอีกต่างหาก เหตุการณ์ต่างๆจึงเกิดขึ้นได้พร้อมๆกันหมด..เหมือนต้นไม้ต้นหนึ่งที่มีลำต้นและรากเดียวกัน ในขณะที่ดำรงอยู่ก็จะมีใบไม้ที่กำลังเกิดใหม่ ใบไม้ที่กำลังเติบโต และใบไม้ที่กำลังร่วงโรยไป..และก็เกิดขึ้นใหม่ทับซ้อนกันอยู่ตลอดเวลาครับ...หวังว่าคุณ brotherpray จะเห็นภาพและเข้าใจขึ้นนะครับ..​

แต่ยังไงแนะนำว่าลองไปอ่านเพิ่มเติมจากหนังสือ E-Book
โนวา อนาลัย ขยายความ ธรรมชาติของชาติภพ​

หรือในกระทู้นี้ครับ
http://palungjit.org/showthread.php?t=19213​

 

พอดี Copy จาก Email มา เพราะคิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์ต่อเพื่อน ๆ ทุกคนน่ะค่ะ .. อ้อ..
พี่นักเขียนฝากสารมาถึงคุณ Zip ด้วยนะค่ะ..
;8;8;8
............................................
อ้างอิง:
ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ khajornwan

สวัสดีค่ะพี่นักเขียน
อยากจะขอคำแนะนำจากพี่นักเขียนเพราะเกรงว่าหากทิ้งไว้นานแล้วขจรวรรณอาจจะยึดติดอยู่กับพลังดี - พลังชั่ว ก็เป็นได้ค่ะ คือ จากที่ได้ศึกษาศาสตร์มาหลายศาสตร์พบว่าศาสตร์ที่เราศึกษามายังคงเชื่อในเรื่องของเจ้ากรรมนายเวรและความดี - ความชั่วอยู่ ซึ่งเมื่อไม่นานมานี้ขจรวรรณก็มีความฝันที่เหมือนจริงอยู่ 2 เรื่องคือ

1. ฝันว่ามีหญิงวัยกลางคนเอามือมาแตะตรงกลางหลังตรงกับหัวใจเรา แล้วเค้าก็ดูดพลังของขจรวรรณไปจนเกือบหมดแรงแทบจะไม่ไหว พอรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาก็รู้สึกอ่อนเพลียมาก

2. ในความฝันกำลังยืนอยู่ข้างหน้าต่างแล้วรับรู้ว่ามีพลังลงมาที่ตัวเราอย่างแรงจนร่างกายสั่นไปทั้งตัว ในความรู้สึกเหมือนพลังดังกล่าวพยายามที่จะควบคุมตัวเราแต่ขจรวรรณไม่ยอม จึงเกิดความขัดแย้งและรู้สึกว่าพลังที่ลงมานั้นเยอะเกินไปจนร่างกายรับไม่ไหวแล้ว เลยเอามือไปแตะกับกรงเหล็กดัดที่หน้าต่างแต่พอเอามือสัมผัสกับเหล็กดังกล่าวก็เห็นว่าเหล็กนั้นร้อนจนควันออกมาและแดงคล้ายเหล็กที่พร้อมจะตีดาบได้ จึงพยายามย้ายไปสัมผัสจุดอื่นเรื่อย ๆ เพื่อถ่ายเทความร้อนออกไป พอรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาก็พบว่าร่างกายของเรายังสั่นอยู่เหมือนความฝัน

จึงลองโทรไปถามอาจารย์ท่านหนึ่งดู ท่านกล่าวว่าเราจะต้องสามารถแยกแยะให้ได้ว่าพลังไหนเป็นพลังดีพลังไหนเป็นพลังไม่ดี ถ้าหากเป็นพลังที่ดีเราจะไม่รู้สึกขัดแย้ง สำหรับขจรวรรณนั้นจะอยู่ในโลกของจิตวิญญาณมากกว่าอยู่ในภาวะกายเนื้อซะอีก คือพอนอนปุ๊บจิตวิญญาณก็จะออกไปทันทีแต่ในภาวะที่เราเป็นจิตวิญญาณนั้นยังไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ เมื่อไปไหนต่อไหนแล้วมีจิตวิญญาณดวงอื่นเห็นก็จะตามมา แต่ก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมขจรวรรณถึงจำเรื่องราวเหล่านั้นไม่ได้ แต่ตั้งแต่เด็กมาแล้วที่เป็นคนหลับลึกจนปลุกไม่ตื่นน่ะค่ะ พี่นักเขียนพอจะมีคำแนะนำบ้างมั้ยคะ?

ขอบคุณมากค่ะ
ขจรวรรณ
.........................................................
คุณน้องขจรวรรณขา
รบกวนช่วย e-mail ไปหาพี่นักเขียนที่ writer@novaanalai.com พี่นักเขียนจะตอบทาง e-mail เพราะตอนนี้ แทบจะเข้า web พลังจิตไม่ได้เลย เขียนมาส่งข่าวพวกเราสั้นๆเพียงไม่กี่บรรทัด ใช้เวลาทั้งหมดชั่วโมงกว่า !
หากตอบคุณน้อง คงจะต้องรอ Load กว่าสองชั่วโมงจึงจะสำเร็จ ไม่ทราบว่าปัญหาอยู่ที่ตรงไหน เพราะพี่นักเขียนสามารถใช้งานเข้า web site อื่นๆได้เร็วเป็นปกติดค่ะ
พี่นักเขียนจะรีบตอบทันทีค่ะ
พี่นักเขียน
.........................................................
คุณน้องขจรวรรณที่รัก

ขอบคุณที่สละเวลา FW mail ตามมาที่ writer@novaanalai ตามคำขอของพี่นักเขียนค่ะ

ช่วงนี้พี่นักเขียนเข้าห้องวิทย์และพิมพ์เพียงสามบรรทัดต้องใช้เวลา load กว่าครึ่งค่อนชั่วโมง ประจวบกับงานรัดตัว เลยไม่มีเวลามากพอที่จะใจเย็นรอ load ได้ ฝากถามคุณ zipper ว่าจะแก้ปัญหาได้อย่างไรนะคะ และช่วยกรุณาให้แกตอบมาที่ e-mail พี่นักเขียนอันนี้ด้วยค่ะ คิดถึงพวกเราจัง

ก่อนจะตอบคำถาม พี่นักเขียนอยากให้คุณน้องขจรวรรณตอบคำถามตนเองบางคำถามคือ:

คุณน้องมีความเชื่อเรื่องเจ้ากรรม นายเวร ความดี-ความชั่วอย่างไรบ้าง
เหตุที่พี่นักเขียนอยากให้หาคำตอบนี้จากตนเองเสียก่อน เพราะไม่ว่าคุณน้องจะเรียนศาสตร์ใดๆก็ตาม ความเชื่อของศาสตร์นั้นๆไม่ได้มีผลต่อคุณน้องเลย แต่ความเชื่อของคุณน้องเองต่างหากที่มีผลโดยตรงต่อพัฒนาการของตนเอง
พี่นักเขียนได้รับทราบประสบการณ์จากคุณน้องตั้งแต่ช่วงแรกๆที่ได้รู้จักกันว่า คุณน้องมักเผชิญกับพลังภายในที่รุนแรง ทำให้รู้สีกเสมือนว่าถูกผลักไปกระแทกกับผนังห้อง ประสบการณ์ของคุณน้องคือ การเผชิญกับพลังที่ไม่อาจควบคุมได้ และเป็นอันตรายต่อตนเอง ต่อมาอาการเหล่านั้นหายไป

คราวนี้เป็นประสบการณ์ที่คล้ายคลึงกันในแง่ที่ว่า คุณน้องรู้สึกว่าไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ และเผชิญกับสิ่งที่มีพลังเหนือตนเอง

การควบคุมไม่ได้ และ การช่วยเหลือตนเองไม่ได้ เกิดจากอะไร?

เกิดจากความเชื่อที่ว่า เราควบคุมไม่ได้ เราช่วยตนเองไม่ได้ เพราะตัวตนที่แท้จริงของเราคือจิตวิญญาณ ตัวตนที่แท้จริงของเราคือพลังงาน จิตวิญญาณทั้งหลายมีพลังอำนาจเสมอเหมือนต้นกำเนิด ไม่มีหน่วยใดขาดความสามารถ ขาดพลัง หรือด้อยไปกว่าต้นกำเนิด นอกจากว่าตัวตนภายนอกจะเชื่อว่าเป็นเช่นนั้น

พี่นักเขียนขอให้คุณน้องพิจารณาข้อมูลความรู้ที่ท่่านอาจารย์อนาลัยได้ถ่ายทอดให้ว่า

จิตวิญญาณทั้งหลายมีความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน มีความรักอันปราศจากเงื่อนไข และมาถือกำเนิดเป็นจิตวิญญาณย่อยๆเพื่อช่วยเหลือเกื้อกูลและสนับสนุนซึ่งกันและกัน ไม่มีจิตวิญญาณหน่วยใดขัดขวางพัฒนาการของจิตวิญญาณหน่วยอื่นๆ

จิตวิญญาณคือพลังงาน พลังงานคือจิตวิญญาณ การเผชิญกับจิตวิญญาณที่ไม่เป็นมิตร ปองร้าย หรือ เผชิญกับพลังงานชั่ว ตั้งอยู่บนรากฐานของความเชื่อใด หรือหลักการใด? หากจิตวิญญาณทั้งหลายมีความเป็นหนึ่งเดียว ส่วนที่เรียกว่าชั่ว หรือเปรียบได้กับสีดำ ก็มึความหมายที่สนับสนุนส่วนที่เรียกว่าดี หรือเปรียบได้กับสีขาว

ในนัยนี้ ท่านอาจารย์อนาลัยไม่ได้ปฏิเสธว่า สิ่งที่แตกต่างกันเช่น ดี-ชั่ว ดำ-ขาว นั้นไม่มีจริง แต่ท่านหมายความว่า มันเป็นเพียงความแตกต่างเท่านั้น ไม่มีสิ่งใดเรียกได้ว่า เลวร้าย ปราศจากความหมาย และไม่ควรสถิตย์อยู่ในจักรวาล ในทางตรงกันข้าม ทุกสิ่ง ทุกภาวะ ลัวนมีความดีในภาวะของมัน มีความหมาย และจำเป็นต้องสถิตย์อยู่ในจักรวาล เพื่อการเติมเต็มช่องว่างแห่งประสบการณ์ และคุณค่าชีวิต หากปราศจากสีดำ สีขาวก็ไร้ความหมาย หากปราศจากความชั่ว ความดีก็ไร้ความหมายเช่นกัน และหากปราศจากส่ิงหนึ่ง-อีกสิ่งหนึ่งจะปรากฏไม่ได้ เพราะทั้งสองสิ่งสนับสนุนซึ่งกันและกัน เกืิ้อกูลให้อีกสิ่งหนึ่งมีอยู่-เป็นอยู่-ดำเนินไป เป็นภาวะนั้นๆได้ต่อไป

เมื่อเราเข้าใจในธรรมชาติของความสมดุลย์ดังกล่าวว เราจะพบว่า คำว่าชั่ว หรือดำ หรือเลวร้าย กลับกลายเป็นสิ่งที่มีคุณค่า มีความหมาย และจำเป็นต้องสถิตย์อยู่ในจักรวาล ไม่มีสิ่งเลวร้ายหรือประสบการณ์เลวร้ายใดๆในชีวิตของเรา ที่ไร้ค่า หรือปราศจากความหมายต่อพัฒนาการของเรา ทั้งทางด้านกายภาพ จินตภาพ ไม่ว่าชีวิตของเราจะเผชิญกับประสบการณ์หรือบุคคลที่เรียกว่า เลวร้ายเพียงใดก็ตาม เราจะพบว่าประสบการณ์หรือบุคคลผู้นั้น ส่งผลในแง่บวกมากมายให้กับเรา เช่น ทำให้เรากลายเป็นผู้ที่มีความอดทน รู้จักการเสียสละ รู้จักความยุติธรรม รู้จักความรักและเห็นคุณค่าของความรัก ความเอื้อเฟื้อได้มากกว่าเดิม ดีกว่าเดิม หากปราศจากประสบการณ์หรือบุคคลที่เรียกว่า ชั่วหรือเลวร้าย พัฒนาการเหล่านั้นจะเกิดขึ้นไม่ได้เลย เราไม่ได้ถือกำเนิดในโลกที่มีประสบการณ์เพียงด้านเดียว เราพอใจแต่สิ่งที่เราเรียกว่า ประสบการณ์แง่บวก ความดี คนดี แต่เราก็ไม่ได้ตระหนักว่า ประสบการณ์แง่บวก ความดีและคนดีทั้งหลาย เป็นสิ่งที่น่าพึงพอใจก็เพราะเหตุว่า ประสบการณ์ในแง่ลบ ความชั่ว และคนชั่ว ทำให้เราเห็นคุณค่าของประสบการณ์แง่บวก ความดี คนดีได้อย่างถ่องแท้

เมื่อเราก้าวล่วงไปสู่ความฝัน เราก้าวล่วงไปสู่ภาวะที่ปราศจากเครื่องพราง เรา-ควรจะ-รู้เห็นสิ่งต่างๆได้ตามความเป็นจริงมากกว่ายามตื่น แต่การที่เราจดจำความฝันไม่ได้ หรือรู้สึกว่าควบคุมไม่ได้ หรือแม้แต่ถูกรุกรานในความฝัน ซึ่งน่าจะเป็นโลกที่มีความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันตามธรรมชาติของจิตวิญญาณ ก็เพราะเรามักเอาความเชื่อติดสติสัมปชัญญะของเราเข้าไปในความฝัน
ความเชื่อยามตื่น นอกจากจะทำให้เรารู้เห็นสิ่งต่างๆบิดเบือนไปจากความเป็นจริงที่ควรจะรู้เห็น เช่น รู้เห็นการรุกราน การปองร้าย หรือเผชิญกับพลังงานชั่วแล้ว ยังทำให้เราพยายามใช้สิ่งที่ใช้การไม่ได้อีกด้วย อันได้แก่ประสาทสัมผัสทั้งห้า ทำให้เราไม่อาจรู้เห็นผ่านประสาทสัมผัสภายในที่กำลังใช้การได้อย่างดีเลิศ

การหลับลึกจนจำเรื่องราวไม่ได้ เป็นไปเพราะสติสัมปชัญญะขาดการรู้เห็นอันคมชัด และเปลี่ยนวิถีการจดจ่อไปอย่างสะเปะสะปะ ขาดการวางแผน ซึ่งมักเกิดขึ้นกับผู้ที่นอนหลับติดต่อกันยาวนานหลายชั่วโมงโดยไม่รู้สึกตัวตื่นเลย เช่่น หลับรวดช่วงละยาวนาน 5-6 ชั่วโมง

พี่นักเขียนขอแนะนำให้คุณน้องฝึกกำหนดจิตก่อนนอน โดยมองดูนาฬิกา (หากเป็นชนิดที่เป็นตัวเลขและมีแสงสว่างในความมืดได้จะดีมาก) และกำหนดว่า จะนอนหลับ-อย่างมีสติไม่เกิน 2-3 ชั่วโมง และจะลืมตาดูนาฬิกา และจะนอนต่อ ให้ทำเช่นนี้ทุกคืนจนเป็นนิสัย หากฝึกได้จนเป็นนิสัย เราจะพบว่า สติสัมปชัญญะของเราสามารถปลุกตนเองให้ตื่นขึ้นดูนาฬิกาได้ตามกำหนดทุก 2-3 ชั่วโมง การทำเช่นนั้นไม่ได้ทำให้ร่างกายอ่อนเพลียเลย ในทางตรงกันข้าม เราจะรู้สึกสดชื่น เพราะการนอนหลับของเรา เป็นการพักผ่อนที่ได้รับการวางแผน ไม่ใช่หลับสลบไสลและอาจจะตื่นเพียงเพราะถูกบางสิ่งบางอย่างรบกวน จากภายนอกหรือภายใน

กล่าวได้ว่า จะหลับหรือจะตื่น เราก็คือผู้ควบคุม ทำให้เรารู้สึกอิ่ม เพราะไม่มีสิ่งใดมารบกวนให้ต้องตื่น แม้ว่าจะนอนช่วงสั้นๆก็ตาม ในทางตรงกันข้ามแม้นอนยาวติดต่อกัน 5-6 ชั่วโมง แต่ตื่นเพราะฝันร้าย เราจะรู้สึกเหนื่อยและอ่อนเพลียมาก เพราะร่างกายและโดยเฉพาะอย่างยิ่ง จิตใจของเรายังไม่พร้อมที่จะตื่น แต่การกำหนดให้ตนเองนอนหลับช่วงละ 2-3 ชั่วโมง แล้วกำหนดต่อ-นอนต่อ เป็นภาวะที่เราพร้อมที่จะตื่น พร้อมที่จะนอน เราจึงตื่นมาดูนาฬิกา เราเป็นเจ้านายภาวะกายและจิตของตนเองอย่างแท้จริง เราตื่นเพราะเราเลือกที่จะตื่น ไม่ใช่ถูกบังคับให้ตื่น เราหลับเพราะเราเลือกที่จะหลับ ไม่ใช่เพราะร่างกายของเราหมดสภาพ ความเกร่งของภาวะจิตที่เลือกตื่น เลือกหลับ ไม่ต่างไปจากภาวะจิตของเรายามตื่นที่เราเลือกที่จะทำหรือไม่ทำบางสิ่งบางอย่าง อย่างแน่วแน่ ไม่ใช่ไม่ทำเพราะทำไม่ได้ หรือเชื่อว่าทำไม่ได้ เชื่อว่าขาดความสามารถ มันทำให้ภาวะจิตของเราได้รับการฝึกฝนให้แกร่ง และควบคุมได้ตามปรารถนา

หากคำตอบของพี่นักเขียนเป็นสิ่งที่แชร์ได้ วันนี้ต้องฝากคุณน้อง post ด้วยค่ะ
คิดถึงคุณน้องและพวกเราทุกคนค่ะ
รักและระลึกถึงเสมอ
พี่นักเขียน

 

เมื่อคืนก่อนฝันเรื่องคุณเดรด ก่อนนอนคิดแว่ปไปเรื่องคุณ mead คืนนี้เลยฝันซ้อนกันหมด เรื่องคำแปลต่อมาของคุณเดรด และต่อมาที่คุณ mead เฉยเลย รายละเอียดที่ฝันเยอะเหมือนกันครับ

เหมือน jumper เลยนะครับ คุณ mead ถ้าเป็นงานศิลปะ ก็ต้องเรียกว่าเนียนแบบไร้รอยต่อ ผมมองมือถือ และกระโดดเข้าไปข้างในเป็นโรงหนัง คุณ mead อยู่ในโรงหนัง กระโดดเข้าจอไปเป็นบทหนัง อิอิ

เล่าโดยย่อๆนะครับ ในฉากที่เกี่ยวกับคุณ mead
ผมฝันว่าคุณ mead ทำอาชีพเป็นที่ปรึกษาเรื่องลึกลับ มีคนมาขอคำปรึกษาเยอะเหมือนกัน เหมือนคุณ mead เป็นเจ้าของหนังสือเรื่องลึกลับเลย

ผมทำหน้าที่นำสารมาส่ง วิ่งมาบอกคุณ mead ว่า คุณ mead เคยเจอ ufo และเคยไปเยือนมาแล้ว 2 ครั้งนะครับ ในสถานที่ที่แตกต่างกันไป ในโลเกชั่นที่เป็นภูเขา และโลเกชั่นที่เป็นสวนผลไม้

คุณ mead ได้แต่รับฟัง แต่ไม่เชื่อว่าเป็นความจริง อิอิ

อีกฉากนึงตัดมาว่า ผมนั่งอ่านจดหมายฉบับหนึ่งสีน้ำตาลอ่อน เขียนให้ไปรายงานตัว มี 3 คนที่ต้องไปรายงานตัวทำภาระกิจซักอย่าง คือ คุณ mead คุณโมกลา และอีกคนไม่แน่ใจว่าคุณกุ้ง หรือคุณจินต์

เนื้อหาจดหมายผมจำไม่ได้ เพราะยาวมากประมาณกระดาษ A4 เผื่อคุณ mead จำได้ช่วยมาบอกทีเน้อ จดหมายนี้มาจากนอกระบบโลก ufo นั่นเอง

รอคุณ mead มาขยายความต่อนะครับ

 

เข้ามาทักทายทุกท่านก่อนครับ สบโอกาสเมื่อไรจะเข้ามาแชร์ประสบการณ์กันครับ
ขอบคุณทุกท่านครับ

 

ขอบคุณคุณขจรวรรณที่นำข้อความดีๆมาโพสนะครับ
ดอกไม้บานแล้วนะครับ คุณขจรวรรณ (||)(||)(||)

 

คุณสมบัติของใบบัวบก เห็นคุณหมอทางยาสมุนไพรไทยท่านกล่าวไว้ว่าเป็นยาเย็นสำหรับผู้เป็นธาตุเย็นไม่ควรทานเยอะ เพราะอาจทำให้หนาวในได้ค่ะคุณกุ้ง

หลังจากที่คุณกุ้งเปิดจักระ 100% จากวิชาพลังเอกภพยูเรอัสมาแล้ว คุณกุ้งลองกลับไปอ่านหนังสือของท่านอาจารย์อนาลัยใหม่อีกครั้งดูนะคะว่าเข้าใจมากขึ้นกว่าเดิมรึปล่าว จากที่ศึกษาวิชาพลังจักรวาลมาอาจารย์ท่านกล่าวไว้ว่าเราจะสามารถอ่านหนังสือที่ใคร ๆ บอกว่าอ่านแล้วเข้าใจยากได้เข้าใจอย่างลึกซึ้งในระดับจิตวิญญาณเลยทีเดียวค่ะ.. ลองดูนะคะ..

สำหรับสุขภาพของคุณกุ้ง คุณกุ้งลองอ่านหนังสือของท่านอาจารย์อนาลัยเล่มจิตวิญญาณประสานกายประกอบกับการเรียนวิชาพลังเอกภพยูเรอัสดูนะคะ คิดว่าจะทำให้คุณกุ้งแข็งแรงขึ้นในเร็ววันนี้อย่างแน่นอนค่ะ.. อ้อ.. เอาชื่อไปฝากคุณเม้าท์ให้รุ่นพี่ช่วยรักษาได้นะคะ จะทำให้ความเชื่อมั่นของคุณกุ้งมั่นใจขึ้นอีกเยอะเลยค่ะ..
;aa41jaah

 

โห..ประติประต่อได้เป็นเรื่องราวเลยนะครับ
เมื่อคืนก็ฝันแต่ไม่เรียกว่าฝันก็ได้เพราะใกล้จะตื่นแล้วล่ะครับ มีข้อความเป็นตัวหนังสือแปลกๆโผล่มาเหมือนกันนะคุณเซลล์..จากหน้าจอ computer พยายามอ่านแต่อ่านแทบไม่ออกเลยครับเพราะกวาดสายตาดูแล้วมันยาวมาก..คล้ายๆแบบนี้ >>>> grbj'i^h;jk,k0kd9jk',b9b (เหมือนจดหมายจากดาวยูมิต อิอิ)

แต่จับความได้อยู่คำนึงครับ เพราะเค้าทำตัวหนาๆสีดำไว้ว่า contact-pen...จะเกี่ยวข้องกับพี่นักเขียนที่ส่งข้อความมาให้คุณเพ็ญ (ขจรวรรณ) รึเปล่านะ.?

ขอบคุณคุณขจรวรรณด้วยครับ ที่นำมาให้เพื่อนๆได้อ่านครับ..สงสัยว่าจะต้องติดต่อพี่นักเขียนทาง E- Mail กันสักพักแล้วล่ะครับ แล้วคุณซิปฯจะแก้ไขปัญหานี้ได้รึปล่าว? คงต้องติดตามตอนต่อไป ^_^

 

โหคุณ Mead เก่งจังเลยค่ะ.. ลองดูชื่อเรื่องที่พี่นักเขียนส่งกลับมาดูค่ะ

Re: ¢Í¤Óá¹Ð¹Ó¤èÐ
(||)(||)(||)

 

¢Í¤Óá¹Ð¹Ó¤èÐ = ??? (ใครเก่งๆมาถอดรหัสทีครับ อิอิ)
เมื่อคืนก็ดูหนังเก่าอยู่เรื่องนึง.. NEXT นัยน์ตามหาวิบัติโลก
ที่ตัวเอกสามารถรู้เหตุการณ์ล่วงหน้าได้ก่อน 2 นาที..และเอาเลือกเอาตัวรอดจากการประสบเหตุต่างๆ จากทางเลือกอันหลายหลาย..ด้วยการส่งจิตแยกออกไปดูลาดเลาล่วงหน้าครับ.และมีคำพูดอยู่คำนึงว่าอนาคตเปลื่ยนแปลงได้เสมอถ้าเราไปจดจ้องมันเข้า ทำได้ก็คงจะดีครับ

 

ท่านสุภาพบุรุษค่ะ เมื่อวาน ไปตรวจงานที่โรงหนัง ซึ่งไม่ได้ออกสนามมาหลายเดือนแล้ว คุณทั้งสองก็มาด้วยเหรอ ไม่ยักกะเจอกันนิ สงสัย มิติมันซ้อนทับกัน เลยไม่เห็น..อิอิ

ส่วนวันนี้ดิฉัน ได้รับงานมาตัวนึง เป็นงานของโรงภาพยนตร์(เครือไหน ใบ้ให้หน่อย มีแค่ 3โรง ใน กทม.) จัด แคมเปญ ร่วมกับบริษัททัวร์ สำหรับผู้ซื้อบัตรเข้าชมภาพยนตร์ หางตั๋วนำมาจับรางวัล ได้ไปเที่ยว ไปไหนทราบไหมค่ะ

หุหุ...ไป อียิปต์ ค่ะ อาร์ตเวิร์ค เป็นรูป พีระมิด ไอยคุปต์ และ ทะเลทรายค่ะ พวกคุณๆ เข้ามาในมิติของดิฉัน กันเหรอค่ะ ไม่บอกกันเรย...จะได้เตรียมต้อนรับ(||)

 

ตอนนี้อินเตอร์เนตที่ออฟฟิศอืดมากเลยครับ เข้าไม่ค่อยได้ สงสัยเจออาการเดียวกับพี่นักเขียน บุ๋ง บุ๋ง บุ๋ง

สำหรับคำถามเดี๋ยวขอเวลาแล้วมาตอบนะครับ
เดี๋ยวว่างๆ คงต้องส่งน้องแมวไปเยี่ยมพี่นักเขียนซะแล้วเรา

 

สงสัยจัดแคมเปญให้หนังเรื่อง"The Mommy"รึเปล่าครับ มีจับรางวัลไปถึงอียิปต์ น่าไปนะครับ จริงๆก่อนนอนตั้งใจว่าจะไปดูเค้าสร้างปิรามิดกันน่ะครับ..แต่ไปติดอยู่กลางทะเลทรายซะก่อน (ไปไม่ถึง อิิอิ) หรือว่าจะต้องรอเพื่อนๆแล้วไปพร้อมกัน อยากให้เพื่อนลองดูครับถ้าไปเห็นก็มาเล่าให้ฟังด้วยนะครับ
;aa21

 

555 จิตวิญญาณเป็นระบบเปิดจริงๆครับ (||)
จิตวิญญาณเป็นระบบเครือข่ายที่ทำงานสัมพันธ์กัน ไม่มีตัวเขา ไม่มีตัวเรา เราเป็นเพียงจิตที่รับรู้ อิอิ

ทำงานกับทั้งระบบ ทั้งคุณ mead คุณเดรด คุณขจรวรรณ คุณ zip และเพื่อนๆทุกคนในที่นี้ ต่างทำงานประสานกันอย่างลงตัว ให้เห็นถึงอัจฉริยภาพของจิตวิญญาณรวมจริงๆ

คุณ mead เก่งจริงๆ เป็นที่ปรึกษาชั้นเยี่ยมเลยนะครับ เมื่อคืนไปสัมผัสมาแว๊ว
สารจากนอกระบบ ก็คือ สารของพี่นักเขียนนั่นเอง ใจความผมนึกออกแล้ว เป็นเรื่องเกี่ยวกับการรักษา ;8

พูดถึงป๊ะป๋าคุณเดรด เป็นผู้ใหญ่ใจดี รวยอารมณ์ขันเลยนะครับ จิตใจเข้มแข็งมากๆ (||)(||)

ถ้าให้ทายโรงภาพยนตร์ น่าจะเครือ SF ที่จะไปแถวมาบุญครองรึเปล่าเอ่ย
อีกนิดเดียวก็ได้ไปแล้ว คุณ mead คงต้องนัดกันขี่อูฐไปเที่ยวกันแล้วครับ อิอิ ;aa21

 

จดจ้อง นี่คือการจดจ่อ มีสติตลอด ไม่ประมาทหรือเปล่าพี่Mead...?
ถ้าเป็นเช่นนั้นอนาคตก็คงเปลี่ยนแปลงได้จริงๆ
...ตามที่พี่นักเขียนเคยบอกว่าเราจดจ่อกับสภาวะใด
เราก็เป็นไปตามสภาวะนั้น...(ประมาณเนี้ยแหละ...)


แต่ถ้าการจดจ่อมีสองฝ่าย
...ฝ่ายที่ต้องการให้เกิดสิ่งดีๆ และฝ่ายที่ไม่ต้องการให้เกิดสิ่งดีๆ
มันจะเกิดการจดจ่อที่คานพลังกัน แล้วที่นี้จะทำไง...?


...ณ.ก็เลยมาคิดใหม่ว่า เปลี่ยนการจดจ่อจากสถานการณ์มาจดจ่อที่คนแทนจะดีมั๊ย...?
จดจ่อให้ฝ่ายที่ไม่ต้องการให้เกิดสิ่งดีๆ
เปลี่ยนความคิดมาเป็นจดจ่อสิ่งดีๆ เหมือนเราแทน...อิอิ ขอให้ทำได้ทีเถอะ!
;aa21;aa50

 

เห็นคุยกันเรื่องอียิปต์ ก็เลยนึกไปถึงตอนที่ zizz ไปเร่ร่อนที่ทะเลทรายเลยเรา

ขอมาถอดรหัสนะครับ คำว่า ¢Í¤Óá¹Ð¹Ó¤èÐ แปลงได้ว่า ขอคำแนะนำค่ะ

 

"จดจ้อง" นั่นเป็นคำพูดในภาพยนตร์น่ะครับ
ถ้าจดจ่อกันเพื่อจะเอาชนะให้ได้ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไร ในกรณีนี้ต้องดูว่าใครคิดได้ครอบคลุมชัดเจนและสร้างกำลังใจได้มากกว่ากันครับ เช่น แข่งกีฬาใครจะแพ้-ใครจะชนะ ก็จะขึ้นอยู่กับพลังมวลรวมของจิตใจทั้งโค๊ดและนักกีฬาร่วมกัน แต่ที่น้อง ณ.บอกว่าถ้าจดจ่อไปที่ "บุคคล"มากกว่าสถานการณ์ก็น่าจะดีเพราะตรงเป้าครับ..แต่เรื่องของสถานการณ์ก็จดจ่อถึงการฉลองชัยชนะไว้ด้วยก็ยิ่งดีใหญ่เลยครับ

***เห็นคุณซิปฯถอดรหัสออกมาแล้ว***
เป็นข้อความถึงคุณซิปฯโดยตรงเลยนะ ต้องแก้ไขได้สินะ
(||)

 

;aa21งั้นเรามาจดจ่อกับรอยยิ้มของทุกคน ความยินดี ความอิ่มเอมใจ
ความสุขของสรรพชีวิตบนโลก จดจ่อที่สันติภาพ ความสงบ และความรักที่ขจรขจายไปทั่วจักรวาลกันดีกว่า
...เย้ โลกนี้ช่างน่าอยู่จริงๆ...;aa50

 

DEAR คุณ กุ้ง

สู้ ๆ ค่ะ ต้องทำได้สิคะ จินตวดีเองเคยเป็นเช่นคุณเหมือนกัน ภาวะซีดนั้นเกิดจากการที่ไตทำงานหนัก อาจจะได้รับยาเคมีมากเกินไป หรือ ภาวะเลือดเป็นกรด ทำให้ไตไม่สามารผลิตเม็ดเลือดได้ จินตวดีเคยเป็นโรคซีดเช่นกัน ทำให้ผอม อ่อนเพลีย หมอก็ดุเอา แล้วก็เอายาบำรุงเลือดให้มาหลายแผงเชียว จินตวดีกินมันแค่นิดเดียวแล้วอย่างที่เคยเล่า ปฏิเสธการกินไปเลย แต่จินตวดีใช้วิธีสะกดจิตตัวเองจริง ๆ (ให้ไปดูคำแนะนำในจิตวิญญาณประสานกาย) โดยตัวจินต์เองจะทำก่อนนอน โดยกำหนดจิตไว้ที่กลางหน้าผาก พร้อมคิดถึง ร่างกายที่สมบูรณ์ สมดุลย์ ค่อย ๆ ทำไปทีละนิด วันละ 5 - 10 นาทีพอ แต่ให้ทำไปด้วยใจที่จดจ่ออย่างแท้จริง ผลที่เกิดขึ้นจะค่อย ๆเป็นค่อย ๆไป แต่จะสังเกตุเห็นได้ถึงผลลัพท์ เรื่องการสะกดจิตอย่างนี้จะเห็นผลหรือไม่ ต้องอาศัยความเชื่อ และศรัทธา อย่างแท้จริง ด้วย ก่อนอื่นคงต้องเช็คตัวเองก่อน ว่าเรามีความเชื่อมั่นแค่ไหน ถ้าเรามีความเชื่อ และ ศรัทธาในตัวเองมากพอ GO ON เลยค่ะ ขอให้โชคดีค่ะ
อารมณ์ + ความรู้สึกนึกคิด เป็นปัจจัยทำให้เกิดประสบการณ์ทางกายภาพ เช่นเดียวกับ จิตวิญญาณจดจ่อกับภาวะใด จิตวิญญาณเป็นอยู่ ดำเนินอยู่ในภาวะนั้น

ป.ล. ถ้าคุณกุ้งสามารถรับรู้ได้ ถึงสุขภาพของจินตวดีที่เคยเป็นมาก่อนล่ะก็ (ร่างกายเหมือนรังของทุกโรค) คุณคงจะมีพลังสู้อีกเยอะเลย

 

โอ้โห ประสบการณ์ฝันของทุกคนนั้นดูน่าตื่นเต้นทุกคนเลยนะครับ ผมอยากฝันเป็นแบบทุกคนบ้างจัง คงต้องศึกษากันอีกนานเลย (ใช่ไหมครับ อิอิ) นานแค่ไหนก็จะฝึกครับ ขอขอบคุณทุกคนที่เขียนข้อความต้อนรับ พล นะครับ ขอบคุณมากครับป๋ม

 

คำถามไม่แปลกครับ แต่ตอบยากนะครับคุณ axzon47 อิอิ

รอบระยะเวลาผมไม่แน่ใจเหมือนกันว่าทุกกี่ปี จะเปลี่ยนหมด

ถ้ามองแบบเส้นตรงตามกาลเวลาโลก

ผมเชื่อว่าในช่วงชีวิตนึงของคนเรา ย่อมจะมีจุดพลิกผัน เปลี่ยนแปลงเช่นเดียวกันเพื่อเรียนรู้คุณค่าอะไรซักอย่างนึง ที่จิตวิญญาณเราต้องการ

ตัวเราคือจิตวิญญาณที่รู้คำตอบทุกอย่าง

ตัวเราอีกหนึ่ง ก็คือตัวตนภายนอก ที่ดำเนินชีวิตในมิติกาลเวลาโลกผ่านประสาทสัมผัสทั้ง 5 มีอารมณ์ ความคิด จินตนาการ เป็นเครื่องมือในการหาประสบการณ์เพื่อเติมเต็มช่องว่างให้กับจิตวิญญาณ

ตัวเราที่เป็นตัวตนภายนอก ดำเนินชีวิตของร่างกายเนื้อหนัง มีประสาทสัมผัสทั้ง 6 เพื่อเติมเต็มช่องว่างตรงนี้ ตามเส้นทางของกาลเวลา เมื่อเข้าใจถึงประสาทสัมผัสทั้ง 5 ได้ดีแล้วในยุคที่เรากำลังดำเนินไปนี้ ก็จะเติมเต็มช่องว่างของจิตวิญญาณในการใช้ประสาทสัมผัสที่ 6 ต่อไปอีก

ในแง่ของกาลเวลาโลก สิ่งที่มีพัฒนาการก็คือ ตัวตนภายนอก ไม่ใช่จิตวิญญาณรวม

จิตวิญญาณรวมใช้ตัวตนภายนอกในการหาประสบการณ์ ผ่านอารมณ์ ความคิด และจินตนาการ

เซลล์ทุกเซลล์มีข้อมูล ความรู้ ความทรงจำต่างๆอยู่ภายในนั้น เกาะกลุ่มรวมตัวกันไปตามคุณสมบัติ

ซึ่งผลของการเปลี่ยนแปลงของเซลล์นี้ ก็จะส่งผลต่อการเกิดจากการเปลี่ยนแปลงอารมณ์ ความคิด และจินตนาการเช่นเดียวกัน

เซลล์ทุกเซลล์มีข้อมูล ความรู้ ความทรงจำ ที่ทำงานตอบสนองต่อกลุ่มความเชื่อของเรา หากมีการเปลี่ยนแปลงชุดใหญ่ทั้งหมด ก็จะส่งผลสะเทือนต่อกลุ่มความเชื่อของตัวตนภายนอกเช่นกัน

เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงใหม่ทั้งชุด เหมือนการสรุปบทเรียนที่ผ่านมา เพื่อเรียนรู้ในสิ่งที่จิตวิญญาณเราต้องการเรียนรู้ประสบการณ์ผ่านตัวตนภายนอกต่อไป

คำถามของคุณ axzon ทำให้นึกย้อนกลับไปตอนอายุ 14 ปี
ที่ได้เรียนรู้ถึงคุณค่าของความอดทน
ต้องเรียนรู้ถึงความลำบากต่างๆนาๆ ตัวตนภายนอกได้เรียนรู้ถึงความลำบาก ที่บีบคั้น จนแทบทนไม่ได้ เมื่อผ่านมาได้แล้ว ก็มีความเชื่อ มุมมองที่เปลี่ยนไป
เมื่อมุมมองเปลี่ยนไปแล้ว ก็เข้าใจถึงคุณค่าของความอดทนได้มากยิ่งขึ้น
ส่งผลให้อารมณ์ ความคิด จินตนาการได้เปลี่ยนเส้นทางไปจากเดิม

ไม่รู้ว่าจะตรงใจคุณ axzon47 รึเปล่านะครับ คงต้องรบกวนเพื่อนๆมาช่วยกันขยายความต่อครับ ;8