วิชชาที่จะทำให้อยู่รอดจากยุคสมัยแห่งภัยพิบัติ

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย kananun, 17 กรกฎาคม 2006.

  1. ปูเเว่น

    ปูเเว่น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    1,614
    ค่าพลัง:
    +6,697
    อนุโมทนาค่ะ
     
  2. หลับตา

    หลับตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    716
    ค่าพลัง:
    +3,151
    เมื่อวานดูข่าว เค้าพูดถึงการจำกัดการมีลูกของพ่อแม่ชาวจีน ปูย่าตายายก็มีหลานครอบครัวละไม่กี่คน การจากไปของเด็กๆที่เสียชีวิตขณะไปเรียนหนังสือจึงสร้างผลกระทบทางใจมากมายมหาศาลในแต่ละครอบครัว .... จึงอยากให้เพื่อนๆทุกท่านส่งพลังใจไปให้ครอบครัวชาวจีนกันเยอะๆครับ

    <TABLE id=Table_01 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD>[​IMG] </TD><TD background=http://203.150.225.247/images_play/box_w_24.gif>[​IMG]</TD></TR><TR><TD>[​IMG]</TD><TD background=http://203.150.225.247/images_play/box_w_35.gif>[​IMG]</TD><TD>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>

    <TABLE id=Table_01 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD><TD background=http://203.150.225.247/images_play/box_w_10.gif>[​IMG]</TD><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD background=http://203.150.225.247/images_play/box_w_22.gif>[​IMG]</TD><TD>[​IMG] </TD><TD background=http://203.150.225.247/images_play/box_w_24.gif>[​IMG]</TD></TR><TR><TD>[​IMG]</TD><TD background=http://203.150.225.247/images_play/box_w_35.gif>[​IMG]</TD><TD>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>

    <TABLE id=Table_01 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD><TD background=http://203.150.225.247/images_play/box_w_10.gif>[​IMG]</TD><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD background=http://203.150.225.247/images_play/box_w_22.gif>[​IMG]</TD><TD>[​IMG] </TD><TD background=http://203.150.225.247/images_play/box_w_24.gif>[​IMG]</TD></TR><TR><TD>[​IMG]</TD><TD background=http://203.150.225.247/images_play/box_w_35.gif>[​IMG]</TD><TD>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>

    <TABLE id=Table_01 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD><TD background=http://203.150.225.247/images_play/box_w_10.gif>[​IMG]</TD><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD background=http://203.150.225.247/images_play/box_w_22.gif>[​IMG]</TD><TD>[​IMG] </TD><TD background=http://203.150.225.247/images_play/box_w_24.gif>[​IMG]</TD></TR><TR><TD>[​IMG]</TD><TD background=http://203.150.225.247/images_play/box_w_35.gif>[​IMG]</TD><TD>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  3. หลับตา

    หลับตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    716
    ค่าพลัง:
    +3,151
    ทิศหก บุคคลประเภทต่างๆ ที่เราต้องเกี่ยวข้องสัมพันธ์ ดุจทิศที่อยู่รอบตัว จัดเป็น ๖ ทิศ ดังนี้

    ๑. ปุรัตถิมทิส ทิศเบื้องหน้า ได้แก่ บิดามารดา :
    บุตรธิดา พึงบำรุงมารดาบิดา ดังนี้
    ๑. ท่านเลี้ยงเรามาแล้ว เลี้ยงท่านตอบ
    ๒. ช่วยทำกิจของท่าน
    ๓. ดำรงวงศ์สกุล
    ๔. ประพฤติตนให้เหมาะสมกับความเป็นทายาท
    ๕. เมื่อท่านล่วงลับไปแล้วทำบุญอุทิศให้ท่าน;

    มารดาบิดาอนุเคราะห์บุตรธิดา ดังนี้
    ๑. ห้ามปรามจากความชั่ว
    ๒. ให้ตั้งอยู่ในความดี
    ๓. ให้ศึกษาศิลปวิทยา
    ๔. หาคู่ครองที่สมควรให้
    ๕. มอบทรัพย์สมบัติให้ในโอกาสอันสมควร

    ๒. ทักขิณทิส ทิศเบื้องขวา ได้แก่ ครูอาจารย์ :
    ศิษย์พึงบำรุงครูอาจารย์ ดังนี้
    ๑. ลุกต้อนรับแสดงความเคารพ
    ๒. เข้าไปหา
    ๓. ใฝ่ใจเรียน
    ๔. ปรนนิบัติ
    ๕. เรียนศิลปวิทยาโดยเคารพ;

    ครูอาจารย์อนุเคราะห์ศิษย์ดังนี้
    ๑. ฝึกฝนแนะนำให้เป็นคนดี
    ๒. สอนให้เข้าใจแจ่มแจ้ง
    ๓. สอนศิลปวิทยาให้สิ้นเชิง
    ๔. ยกย่องให้ปรากฏในหมู่เพื่อน
    ๕. สร้างเครื่องคุ้มกันภัยในสารทิศ คือ สอนให้ศิษย์ปฏิบัติได้จริง นำวิชาไปเลี้ยงชีพทำการงานได้

    ๓. ปัจฉิมทิส ทิศเบื้องหลัง ได้แก่ บุตรภรรยา :
    สามีพึงบำรุงภรรยาดังนี้
    ๑. ยกย่องสมฐานะภรรยา
    ๒. ไม่ดูหมิ่น
    ๓. ไม่นอกใจ
    ๔. มอบความเป็นใหญ่ ในงานบ้านให้
    ๕. หาเครื่องประดับมาให้เป็นของขวัญตามโอกาส;

    ภรรยาอนุเคราะห์สามี ดังนี้
    ๑. จัดงานบ้านให้เรียบร้อย
    ๒. สงเคราะห์ญาติมิตรทั้ง ๒ ฝ่ายด้วยดี
    ๓. ไม่นอกใจ
    ๔. รักษาสมบัติที่หามาได้
    ๕. ขยันไม่เกียจคร้านในงานทั้งปวง

    ๔. อุตตรทิส ทิศเบื้องซ้าย ได้แก่ มิตรสหาย :
    พึงบำรุงมิตรสหาย ดังนี้
    ๑. เผื่อแผ่แบ่งปัน
    ๒. พูดจามีน้ำใจ
    ๓. ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน
    ๔. มีตนเสมอ
    ๕. ซื่อสัตย์จริงใจต่อกัน;

    มิตรสหายอนุเคราะห์ตอบดังนี้
    ๑. เมื่อเพื่อประมาทช่วยรักษาป้องกัน
    ๒. เมื่อเพื่อนประมาท ช่วยรักษาทรัพย์สมบัติของเพื่อน
    ๓. ในคราวมีภัย เป็นที่พึ่งได้
    ๔. ไม่ละทิ้งในยามทุกข์ยาก
    ๕. นับถือตลอดถึงวงศ์ญาติของมิตร

    ๕. เหฏฐิมทิส ทิศเบื้องล่าง ได้แก่ คนรับใช้และคนงาน :
    นายพึงบำรุงคนรับใช้และคนงาน ดังนี้
    ๑. จัดการงานให้ทำตามกำลังความสามารถ
    ๒. ให้ค่าจ้างรางวัลสมควรแก่งานและความเป็นอยู่
    ๓. จัดสวัสดิการดี มีช่วยรักษาพยาบาลในยามเจ็บไข้ เป็นต้น
    ๔. ได้ของแปลกๆ พิเศษมา ก็แบ่งปันให้
    ๕. ให้มีวันหยุดและพักผ่อนหย่อนใจตามโอกาสอันสมควร;

    คนรับใช้และคนงาน อนุเคราะห์นายดังนี้
    ๑. เริ่มทำงานก่อน
    ๒. เลิกงานทีหลัง
    ๓. เอาแต่ของที่นายให้
    ๔. ทำการงานให้เรียบร้อยและดียิ่งขึ้น
    ๕. นำความดีของนายไปเผยแพร่

    ๖. อุปริมทิศ ทิศเบื้องบน ได้แก่ พระสงฆ์ สมณพราหมณ์:
    คฤหัสถ์พึงบำรุงพระสงฆ์ ดังนี้
    ๑. จะทำสิ่งใดก็ทำด้วยเมตตา
    ๒. จะพูดสิ่งใด ก็พูดด้วยเมตตา
    ๓. จะคิดสิ่งใด ก็คิดด้วยเมตตา
    ๔. ต้อนรับด้วยความเต็มใจ
    ๕. อุปถัมภ์ด้วยปัจจัย ๔;

    พระสงฆ์อนุเคราะห์คฤหัสถ์ดังนี้
    ๑. ห้ามปรามจากความชั่ว
    ๒. ให้ตั้งอยู่ในความดี
    ๓. อนุเคราะห์ด้วยความปรารถนาดี
    ๔. ให้ได้ฟังสิ่งที่ยังไม่เคยฟัง
    ๕. ทำสิ่งที่เคยฟังแล้วให้แจ่มแจ้ง
    ๖. บอกทางสวรรค์ สอนวิธีดำเนินชีวิตให้ประสบความสุขความเจริญ



    <CENTER></CENTER>

    พจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับประมวลศัพท์
    http://84000.org/tipitaka/dic/v_seek.php?text=ทิศหก
    ที่มาในพระไตรปิฏก:
    http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=11&A=3923&Z=4206
    --------------------------------------------------------
    พระธรรมเรื่องทิศ6 เสมือนเข็มทิศชีวิตจริงๆ สังคมในภายหน้าหากทุกคนมีธรรม ต่างคนต่างทำหน้าที่ในบทบาทตนเองตามธรรม คงน่าอยู่ร่มรื่นมิใช่น้อย​
     
  4. pat3112

    pat3112 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    373
    ค่าพลัง:
    +2,904
    ขออารถนาบารมี พระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระปัเจกโพธิเจ้าทุกๆพระองค์ พระธรรม พระอริยสงฆ์ทั้งหลาย หลวงปู่ปาน หลวงพ่อฤาษี หลวงปู่ดู่และพระอริยะทุกพระองค์ เทพ พรหมผู้ทรงความดีทั้งหมด แผ่ให้ทุกดวงจิต
    ที่ประสบภัยได้โมทนา ทั้งกุศลที่ข้าพเจ้าได้บำเพ็ญมา ได้เข้าสู่สุคติภูมิทุกท่านทุกคนเถิด(k)
     
  5. sutatip_b

    sutatip_b เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    3,197
    ค่าพลัง:
    +26,189
    ให้ทำความดี อย่าไปปรุงแต่งอารมณ์
    ปรุงไปปรุงมาพันอยู่ในห้วงทุกข์จ้ะ
     
  6. ดั่งจันทรา

    ดั่งจันทรา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    217
    ค่าพลัง:
    +693
    อนุโมทนากับทุกท่านที่ได้ไปคำชะโนดด้วยครับ
    ปู่ปิยะฝากข้อคิดอะไรมาบ้างหรือเปล่า ถ้ามีรบกวน อ.คณานนท์ชี้แจงด้วยครับ เผื่อมีประโยชน์กับบางคนบางท่าน
     
  7. ณ.

    ณ. เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2006
    โพสต์:
    3,387
    ค่าพลัง:
    +9,080
    สัมผัสธรรม

    ...ความลุ่มหลงทำให้คนคลุ้มคลั่ง
    รวมประดังความอิจฉาริษยา
    ความหลงใหลทำให้มืดบอดตา<O:p</O:p
    ไม่นำพาดีร้ายในตัวตน
    ...ความอยากได้อยากครองเป็นเจ้าของ<O:p</O:p
    ก้าวเข้าปล่องนรกทุกแห่งหน
    ความต้องการเห็นแก่ตัวมืดดำมน<O:p</O:p
    เข้าครอบคลุมใจคนเพราะหลงเมา
    ...ความเจ็บใจน้อยใจสารพัด<O:p</O:p
    จะกำจัดอย่างไรใจมันเศร้า
    หื่นกระหายโง่งมหลงมัวเมา<O:p</O:p
    ไม่บางเบาสร้างบาปอาบตัวตน
    ...ถ้าอยากรักจงรักด้วยสติ<O:p</O:p
    ถ้าอยากริจงเริ่มอย่าสับสน
    คอยเฝ้ามองเฝ้าดูสันดานตน<O:p</O:p
    อย่าวกวนจนหลงคงไม่ดี
    ...ถ้ามีรักจงรักที่จะให้<O:p</O:p
    ถ้ามีใจจงใฝ่ทางสุขขี
    อย่าไปหวังสิ่งใดในชีวี<O:p</O:p
    หวังแค่มีรักให้สบายใจ
    ...ถ้าหวังมากอยากได้สิ่งมาตอบ<O:p</O:p
    มันเกินกรอบความรักกำหนดไว้
    มันคือหลงผิดทิศแล้วจิตใจ<O:p</O:p
    ไม่ใช่รักที่จะให้อย่างที่เป็น
    ...จงมีรักให้รักให้ใส่ใจ<O:p</O:p
    จงอย่าใช้ความลุ่มหลงมาขีดเส้น
    จงให้รักทั้งใจตรงประเด็น<O:p</O:p
    จงมีรักให้เป็นอย่าหลงใจ<O:p</O:p
    ..................ธรรมดา(ฯ)
     
  8. ณ.

    ณ. เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2006
    โพสต์:
    3,387
    ค่าพลัง:
    +9,080
    สัมผัสธรรม

    ...แค่เจ็บยังไม่ตาย
    ลมหายใจก็ยังมี
    แค่ล้มลุกขึ้นซี
    ทางยังมีให้ก้าวเดิน
    ...แค่คำคนติฉิน
    อย่าหมิ่นตนอย่าเคอะเขิน
    แค่พลัดหลงทางเดิน<O:p</O:p
    อย่ากลัวเกินจะก้าวไป
    ...แค่ลมพัดปะทะ<O:p</O:p
    อย่าเลยละมานะไว้
    แค่น้ำสาดเข้าใส่
    อย่าถอดใจอย่าถอยหนี
    ...แค่ไฟที่ลุกร้อน<O:p</O:p
    อย่าตัดรอนใจที่มี
    แค่ดินโคลนเปื้อนสี
    อย่ากลัวซีต้องลุยมัน
    ...แค่เวลาพาพบ<O:p</O:p
    อย่าให้จบแค่ตรงนั้น
    แค่พาให้จากกัน<O:p</O:p
    อย่าเลิกฝันจงมั่นใจ
    ...กระแสแห่งเวลา<O:p</O:p
    พัดนำพาทุกสิ่งได้
    นำรักให้ร้างไกล<O:p</O:p
    นำหัวใจให้มาเจอ
    ...นำพามาพบสุข<O:p</O:p
    นำพาทุกข์มาเสนอ
    นำโศกสุขที่เจอ<O:p</O:p
    นำพาเธอพบความจริง
     
  9. ณ.

    ณ. เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2006
    โพสต์:
    3,387
    ค่าพลัง:
    +9,080
    สัมผัสธรรม

    ...หลังฝนโปรยโชยกลิ่นดิน
    หลังฝนรินดินชุ่มชื่น
    หลังฝนมาฟ้าเริงรื่น<O:p</O:p
    หลังฝนคืนฟ้ารับรุ้ง
    ...หลังทุกข์ผ่านวานพ้นไป<O:p</O:p
    หลังทุกข์ไกลใจพวยพุ่ง
    หลังทุกข์หลบใจมั่นมุ่ง<O:p</O:p
    หลังทุกข์ปรุงรสสุขดี
    ...กว่าจะรู้ถึงความสุขเข้าถึงแก่น<O:p</O:p
    ต้องรับทุกข์เข้าจนแน่นในวิถี
    จึงรับรู้รสสุขแท้แง่ที่มี<O:p</O:p
    นั่นแหละคือสิ่งดีดีที่ได้มา<O:p</O:p
    ..................ธรรมดา(ฯ)
     
  10. ณ.

    ณ. เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2006
    โพสต์:
    3,387
    ค่าพลัง:
    +9,080
    สัมผัสธรรม

    ...กว่ากรวดจะก้อนกลม
    ต้องผ่านลมและแดดเลี้ยง
    กว่าลมจะส่งเสียง
    ต้องพัดผ่านหนทางไกล
    ...กว่าไฟจะลุกโชน
    ต้องผ่านฝนพายุร้าย
    กว่าน้ำจะกว้างใหญ่
    ต้องผ่านไหลหลายธารา
    ...ต้นไม้กว่าเติบโต
    ต้องทนโต้ทนรักษา
    คนเรากว่าโตมา
    ต้องฟันฝ่าและทุกข์ทน
    ...เมื่อยามโดนน้ำแซะ
    ไฟโรมและร่วมเม็ดฝน
    คนเราต้องอดทน
    จึงจะพ้นความทุกข์ใจ
    ...จงทนได้เหมือนหิน
    ให้ทุกข์สิ้นผ่านพ้นไป
    จงแกร่งเถอะจิตใจ
    อย่าหวั่นไหวอย่าหวาดกลัว
    ...จงสู้ในสิ่งถูก
    และจงลุกต่อต้านชั่ว
    จงอย่าขลาดถอยกลัว
    จงอย่ามัวเกรงสิ่งใด
    ...ก้าวไปเถอะข้างหน้า
    อย่าชักช้าทางอีกไกล
    ก้าวไปเถอะดวงใจ
    ที่คงมั่นสรรค์สร้างทาง
    ...............ธรรมดา(ฯ)
     
  11. sutatip_b

    sutatip_b เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    3,197
    ค่าพลัง:
    +26,189
    เอาเท่าที่พอจำได้ก่อน เรื่องปู่ปิยะ

    ท่านให้ดูตน
    และให้เคารพพ่อแม่และในหลวงอย่างไม่มีประมาณค่ะ เพราะตัวเราเป็นธาตุขันธ์มาจากพ่อแม่
    เคารพในหลวง (ไหว้ธนบัตร) อาจช่วยความไม่คล่องตัวทางเศรษฐกิจ
    ให้ทำก่อนเปิดบ้านค้าขาย

    มีคนถามเรื่องอภิญญา
    ท่านหัวเราะ แล้วถามว่าก. ไก่ได้หรือยัง

    กลางคืนท่านคุยกับศิษย์ท่าน เล่าเรื่องป่าหิมพานต์
    เราได้ยินเพียงเบาๆแข่งกับสายฝนกระทบหลังคา

    แค่ได้พบอย่างไม่ได้นัดหมายก็เป็นนิมิตรมงคลแล้วค่ะ
    ได้บรรจุพระในเจดียืพระธาตุด้วย

    ลูกศิษย์เชิญให้ไปอีก
    ถ้าไปงวดหน้า (ไม่รู้เมื่อไหร่) อาจได้ต่อ อะ อา อิ อี บ้างกระมังคะ
    อนุโมทนาบุญค่ะ
     
  12. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,116
    ค่าพลัง:
    +62,425
    ตอนที่ไปเรียนพลังเอกภพ"ยูเรอัส"นี่อาจารย์ก็สอนเน้นเรื่อง"พระสูงสุด" (สมเด็จองค์ปฐม) รวมทั้งการสร้างความรัก+ความเป็นหนึ่งเดียวกันของทุกๆศาสนาไม่มีการแบ่งแยกใดๆ (ข้างบนท่านไม่เคยแบ่งแยก มีแต่มนุษย์ที่ชอบคิดไปเอง) เพื่อนที่เป็นอิลลามแท้เค้าก็ยังนับถือพระเยซูคริสต์ และบอกว่าท่านจะกลับมาอีกครั้งเร็วๆนี้ และนั่นคือส่วนหนึ่งของ"ทางรอดของมนุษย์" ด้วยการเชื่อมโยงจิต +ผูกจิตเราเอาไว้กับ"พระ"ท่านไว้ตลอดเวลาด้วยความรักความศรัทธาอันบริสุทธิ์ (คงเหมือนกับการฝึกมโนฯ ให้จับภาพพระกำหนดนึกไว้ในจิตเสมอๆ) รวมถึงการเปลื่ยนความเชื่อความเข้าใจบางอย่างให้ทะลุเปลือกของศาสนาเข้าหาแก่นธรรมอย่างแท้จริง การร่วมกันสวดมนต์ภาวนาไปในทิศทางดีๆก็ช่วยส่งพลังด้านบวกได้มากเหมือนกัน จิตของเรามีส่วนอย่างมากที่จะเปลื่ยนแปลงสิ่งต่างๆตามทิศทางทีเราต้องการได้ ภัยที่หนักก็จะเป็นเบาลงได้อย่างน้อยสัก 20-30 % แต่จะไม่ให้เกิดภัยเลยคงจะยาก เพราะว่าเลยจุดที่จะแก้ไขมาแล้ว..ทางรอดของมนุษย์อยู่ห่างตัวเราไม่ถึงคืบเองครับ..เรียกว่าใกล้ซะจนมองไม่เห็นครับ
     
  13. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,116
    ค่าพลัง:
    +62,425
    บทกลอนที่แต่งไว้น่ารวมเล่มนะครับ อ่านแล้วชื่นใจดีครับ คุณ.ณ
    ขอโมทนากับจารย์ไก่และทุกท่านด้วยครับ ได้พบปู่ปิยะจนได้..
     
  14. ณ.

    ณ. เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2006
    โพสต์:
    3,387
    ค่าพลัง:
    +9,080
    ขอบคุณค่ะหัวหน้า...พี่มี๊ด...ก็เป็นบทกลอนของคุณธรรมดา(ฯ)ที่เก็บมาเรื่อยๆ
    เห็นว่ามีสาระดี ก็เลยเอามาโพสต์ให้ได้อ่านกันบ้าง เพิ่มสีสันในกระทู้วิชชา ขออนุญาตคั่นรายการพี่คณานันท์นิดหน่อย...(อนุมัติแล้ว...อิอิ) หวังว่าคงไม่ไปขัดอารมณ์ในการเรียนวิชชานะคะ
     
  15. sutatip_b

    sutatip_b เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    3,197
    ค่าพลัง:
    +26,189
    อ้าวคุณมีด ไหนว่าให้เอากายทิพย์เดินทางไปด้วยไม่ใช่หรือ
    แค่คิดก็เกิดแล้ว
    คุณปรนนิบัติพระอรหันต์ของคุณรัตน์ยามอาพาธ เหมือนสงเคราะห์พระพุทธองค์
    อนุโมทนาบุญนะคะ
    ปู่ปิยะยังบอกว่า เคารพรักพ่อแม่เรา ดีที่ซู้ด....
     
  16. พัฒนาตน

    พัฒนาตน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    202
    ค่าพลัง:
    +1,282
    ธรรมมะในทริปนี้ โดยหลักคือการมีสติ และไม่ประมาทตลอดเวลา และที่สำคัญพระท่านเน้นเรื่องความเมตา ให้ทำได้ตลอดเวลา และตลอดชีวิต ผมเพิ่งเข้าใจการแผ่เมตตาโดยจิตที่แท้จริง คือแผ่มาจากใจของเราที่ยิ้มและเปี่ยมด้วยความรักและปราถนาดีต่อทุกสรรพสิ่ง พอแผ่เมตตาแบบยิ้มนี้ ปากของเราก็ยิ้มไปด้วย มันมีความสุขจริงๆ ครับ ผมทำได้ครั่งแรกตอนไปนั่งสมาธิในป่าช้ากับพี่ๆ ครับ
    ความรู้นี้มาจากพระท่าน พี่ๆและเพื่อนๆ ครับ ผมเพียงเล่าผลการปฏิบัติเท่านั้น
    เองครับ มีความสุขด้วยเมตตาทุกคนน่ะครับ
     
  17. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,116
    ค่าพลัง:
    +62,425
    ผมหลับตาเห็นจารย์ไก่กับลูกสาวยิ้มสดใสมากๆเลยครับตอนนี้ คงอิ่มไปด้วยบุญ+กุศล :-
    พลังบุญ เกิดจากการกระทำความดีต่อมนุษย์และสรรพสัตว์ทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่ พี่น้อง ครูบาอาจารย์ นักบวชผู้ทรงศีล เราได้ให้ความเคารพรัก+กตัญญู+เอาใจใส่ต่อผู้มีพระคุณของเราแล้วมากน้อยเพียงใด? เรื่องนี้น่าคิดที่สุดนะครับ
    พลังกุศล จะก่อตัวขึ้นมาจาการสะสมความดี เป็นพลังเกื้อหนุนเราให้ก้าวไปสู่แสงสว่าง เหมือนจรวดขับดันพาเราพุ่งสู่อวกาศด้วยอัตราเร่งที่สูงสุด แต่จะไปที่ไหนก็แล้วแต่เรากำหนดเป้าหมายนะครับ ขอให้แว๊ปนั้นเราคิดถึงหนทางไปสู่พระนิพพานด้วยกันทุกคน แล้วค่อยไปสนทนาความหลังเรื่องดีๆกันต่อที่นั่นกันนะครับ

    (kiss)(kiss)(kiss)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 พฤษภาคม 2008
  18. Xorce

    Xorce เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,369
    ค่าพลัง:
    +4,400
    วันนี้นะครับ ผมจะขอเสนอเกี่ยวกับการนำธรรมะมาปรับใช้ในชีวิตประจำวันนะครับ
    คนส่วนมากจะคิดแค่ว่าฉันจะต้องฝึกสมาธิให้มีความแก่กล้า วิปัสสนาญาณให้แจ่มใส
    แต่ผมจะขอเสนอว่า เมื่อเรามีสมาธิหรือวิปัสสนาญาณที่ดีแล้ว
    เราควรที่จะบังเกิดการเปลี่ยนนิสัยจากภายในของตัวเราเองให้มีความนุ่มนวล สุขุม และมีความละเอียดรอบคอบในการดำเนินชีวิตยิ่งๆขึ้นไป

    หัวข้อแรกที่ผมต้องการจะเสนอคือการรักษากำลังใจและศรัทธาของคนรอบข้าง
    การรักษากำลังใจนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญมาก
    หากเราเป็นครู หรือเป็นผู้ที่มีหน้าที่ต่างๆนั้น เราจะต้องทำให้คนรอบข้างนั้น มีศรัทธาที่มั่นคงในเรา
    หากจะทำการสิ่งใดอันเป็นเรื่องที่ถูกที่ควรแล้ว จะต้องทำให้สำเร็จให้จงได้
    เพื่อให้คนรอบข้างได้เห็นถึงความหนักแน่นและความรับผิดชอบของเรา
    เราจะต้องคอยปรับเปลี่ยนนิสัยของเราอยู่เสมอ ไม่ทำการสิ่งใดที่จะทำให้ผู้อื่นเสียศรัทธาเพราะว่าจะทำให้คนที่เสียศรัทธา ปรามาสเรา ไม่มางานบุญกับเราอีก หรือเปลี่ยนเป็นมิจฉาทิฏฐิได้
    ซึ่งเราจะต้องเสวยผลกรรมจากการที่ทำให้เขาคลาดจากความดี
    บุคคลใดบ้างที่เราจะต้องรักษาศรัทธาให้ได้
    1.คนที่บ้าน หากคนที่บ้านไม่มีศรัทธาแล้ว เราจะออกไปงานบุญที่ไหนคงจะยากเต็มที
    2.กัลยาณมิตรทั้งหลาย เมื่อผู้อื่นเห็นถึงความอ่อนแอ หรือจุดอ่อนของเราแล้ว
    เขาอาจจะเสียศรัทธาและไม่มาร่วมบุญกับเราอีก
    3.คุณพระศรีรัตนตรัยและครูบาอาจารย์ เพราะหากครูบาอาจารย์ เห็นว่าเราเป็นผู้ไม่มีความเพียรแล้ว วิชชาต่างๆที่หวังจะถ่ายทอดให้คงต้องนำไปให้กับผู้อื่นแทน
    4.คือตัวเราเอง เมื่อเราไม่มีกำลังใจ หรือไม่มีศรัทธาในสมถะภาพของเราแล้ว
    เราก็จะเป็นผู้ไม่กล้าทำในสิ่งที่ถูกที่ควร แถมยังท้อถอยเสียกำลังใจในการปฏิบัติธรรมไปเสียอีก

    การรักษากำลังใจนั้นจึงเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะหากเราไม่อาจจะรักษากำลังใจของตัวเราเองและผู้อื่นได้
    งานใหญ่ที่หวังจะทำให้สำเร็จคงจะมีแต่อุปสรรคอย่างแน่นอน

    หัวข้อที่สอง คือมีพรหมวิหารในชีวิตประจำวัน
    เมื่อเรามีจิตใจที่มีความชุ่มเย็นจากเมตตาแล้ว
    การกระทำและแสดงออกของเราควรที่จะเปี่ยมด้วยเมตตาด้วย
    บางครั้งก็มีที่เราอาจจะมีจิตใจที่ชุ่มเย็น แต่ก็เผลอพลาดพลั้งทำอะไรที่เห็นแก่ตัวไป เนื่องจากพ่ายแพ้ให้กับกิเลส
    บางครั้งเราก็ไม่อาจที่จะทรงอารมณ์มุทิตาของเรา ให้ได้ตลอดเวลาอย่างที่เราปรารถนา
    ทำให้เราเผลอพลาดพลั้ง ไปดูถูกความดีของคนอื่น ไปริษยาในคาวมดีของคนอื่น หรือไปเคลือบแคลงสงสัยในความดีของผู้อื่น
    ซึ่งจะเป็นกรรมที่ขัดขวางเราให้ไม่อาจจะเข้าถึงซึ่งความดีแบบเขาได้
    ดังนั้นเมื่อเราเห็นผู้อื่นมีธรรมฉันทะและความเจริญก้าวหน้าในธรรมแล้ว เราควรจะอนุโมทนาสาธุกับเขาด้วย
    ให้เราคิดเอาไว้เสมอว่าเห็นผู้อื่นได้ดี ก็เหมือนกับเห็นประเทศชาติได้ดี เมื่อประเทศชาติดีแล้ว เราเองก็จะได้อยู่ในประเทศที่ดีขึ้น มีแต่ผู้เป็นสัมมาทิฏฐิ ผลรับของความุทิตาก็ตอบแทนกลับมาเองในที่สุด

    ดังนั้นเมื่อเราได้ขึ้นชื่อว่าเป็นผู้ทรงพรหมวิหาร4 เป็นนักปฏิบัติธรรมที่มีประสบการณ์อย่างโชกโชนแล้ว
    เราไม่ควรจะปล่อยให้กิเลสตัวละเอียดเข้ามาครอบงำจิตใจอันประภัสสรของเรา
    เราควรที่จะทำจิตใจให้ผ่องใส สามารถยิ้มออกมาจากจิตใจได้ทุกๆสถานที่ ทุกๆเวลา
    สิ่งที่สำคัญกว่าความเก่งกล้าสามารถของเรา ก็คือการปรับเปลี่ยนนิสัยของเราให้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง
    กรรมฐานเป็นเครื่องมือที่จะช่วยให้เราขัดเกลานิสัยของเรา ให้มีความละเอียดประณีตขึ้นเป็นลำดับ เพื่อเข้าถึงความเป็นอริยชนอย่างแท้จริง
    ดังนั้นเราควรจะเร่งขัดเกลานิสัยของเราอย่างต่อเนื่อง โดยคิดเอาไว้เสมอว่าความดีที่สูงกว่านี้ยังมีอยู่ ความเลวของเรายังมีอีกมากนัก

    สิ่งที่ผมอยากจะเสนอก็คือเราควรจะนำธรรมะเข้ามาปรับเข้าใช้กับชีวิตประจำวันของเรา
    ชีวิตประจำวันของเรานั้นคือผลสะท้อนจากการปฏิบัติธรรมของเรา
    คำพูดคำจาของเรานั้น มีความสัมพันธ์กับธรรมะของเรา ก่อนที่เราจะพูดประโยคออกมาหนึ่งประโยค เราได้พิจารณากลั่นกรองคำพูดนั้นกี่ครั้ง
    เราได้คิดหรือไม่ว่าคำพูดนั้นจะส่งผลต่อผู้ฟังอย่างไร เขาจะเสียศรัทธาไหม เขาจะถูกกระทบกระเทือนหรือไม่ แล้วคนที่เขาฟังจะเสียกำลังใจทำให้พลาดจากความดีหรือไม่ คำพูดของเราจะกระทบต่อส่วนรวมหรือไม่
    พูดช้าแต่นุ่มนวล ดีกว่าเร็วแล้วกระด้าง นะครับ

    การทำให้ผู้อื่นพลาดจากความดี แม้จะโดยมิได้เจตนาก็มีผลรับที่น่ากลัวตอบกลับมา ทำให้เราเป็นผู้มีอุปสรรคในการปฏิบัติธรรมบ้าง
    วางอารมณ์ผิดบ้าง นี่ล้วนแล้วแต่เป็นกรรมที่เราไปทำให้ผู้อื่นเสียกำลังใจทั้งสิ้น

    ดังนั้นจึงขอฝากเอาไว้ว่า หากเราไม่อาจจะเปลี่ยนนิสัยของเรา ให้มีความเลวลดน้อยลงบ้าง ตามกำลังความสามารถและความเพียรพยายามที่เรามี
    เราก็ยังไม่ขึ้นชื่อว่าเป็น โยคาวจรหรือผู้ที่มีความเพียรในธรรม ฉันนั้น

    สุดท้ายนี้ขอให้ทุกๆท่านได้เข้าถึงซึ่งความดี มีจิตใจที่ละเอียด ประณีต ตั้งมั่นอยู่ในสัมมาทิฏฐิ สัมมาสมาธิ สัมมาปัญญา สัมมาปฏิบัติ อย่างไม่คลอนแคลน และยิ่งๆขึ้นไปเรื่อยๆ ตราบเท่าเข้าถึงซึ่งพระนิพพานโดยเร็วด้วยเทอญ สาธุ
     
  19. nuttadet

    nuttadet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    1,892
    ค่าพลัง:
    +6,454
    หลวงปู่ปิยะบอกว่า คนที่ปฏิบัติ ถ้าจะเห็นผลของการปฏิบัติ เราต้องน้อมนำเอาธรรมะ
    ไปใช้กับคนรอบข้างทั้งทางโลกและทางธรรมครับ ไม่ใช่ปฏิบัติแต่สมาธิ
    แต่ไม่ได้นำธรรมะ ไปพิจารณาสอนตัวเราเองในสังคมเลย

    และแน่นอนว่าห้ามลืม สัมมาทิฎฐิ เด็ดขาด ไม่ว่าเราจะทำอะไร ขอให้ยึดไว้
    ให้แน่นๆ เพราะกิเลสและมารรอบข้างเค้ารอให้เราพลาดอยู่ ถ้าพลาดเมื่อไหร่
    เราไม่รู้ตัวละก็ หึหึ อีกนานเลยกว่าจะหลุดได้ หรือบางทีก็อาจจะไม่รู้ตัวเลยก็ได้
     
  20. ปาฏิหาริย์

    ปาฏิหาริย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มกราคม 2006
    โพสต์:
    1,282
    ค่าพลัง:
    +3,516
    ธรรมะที่หลวงปู่ปิยะ เมตตาสอนให้ ละเอียดลึกซึ้งมากครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...