Featured เรื่องเล่า "นักขุดกรุ"มือขลัง ขมังเวทย์ที่สุดในแผ่นดิน

วันเปิดเทอมวันแรก วันเปิดทำงานต้นสัปดาห์ และวันพระ ทุกอย่างมาพร้อมกันวันนี้ พรดีจากสุพรรณฯ กำลังใจชั้นยอดก็มาเยี่ยมเยือนไม่เคยขาดหาย ขอบคุณน้องน้อต วันดีศรีวัน พรทั้งปวงจงผันกลับไปมอบแด่ผู้ให้หลายเท่า ตามคติ...ผู้ให้ย่อมเป็นที่รัก"!!!

 

สตรีทบุญวันพระธรรมสวนะคับคั่งด้วยพุทธศาสนิกที่ไม่หวั่นไหวมอดแมลงชอนไชพระพุทธศาสนา เราชาวพุทธรู้ดีว่า ทุกศาสนา ทุกลัทธิในโลก ล้วนมีคนดีคนเลวแอบแฝงเป็นมอดไม้ คนดีบางรายก็กลายเป็นอลัชชี ส่วนผีผ้าเหลืองบางท่านก็กลับตัวได้เมื่อถึงเวลา"หักดิบ" !

จะเห็นว่าอดีตนั้นไอ้เสือ ไอ้สาง นักเลงหัวไม้ ปล้นฆ่า ฯลฯ หนีกฏหมายบ้านเมืองเข้าไปซุกหัวในร่มผ้าเหลือง เพียงเพื่อหวังหนีราชภัย ไม่ได้มีจิตใจประสงค์ที่จะเป็นพระหรือเรียนรู้ธรรมะ

ทว่า อยู่ไปอยู่มา ดันซาบซึ้งตรึงอุราในรสพระธรรม กลายเป็นยอดครู ยอดพระสงฆ์เยอะแยะ!!!

บางรายก็บวชแต่เด็ก บวชแต่หนุ่ม ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบพอใช้ได้ แต่อยู่ไปอยู่มาดันต้านความยั่วยวนทางโลกไม่ไหว ก็กลายเป็น "ผีผ้าเหลือง" อย่างที่เป็นข่าว

มีคนบอกว่า พระเคยทำดี บางทีพลาดพลั้ง อย่าเที่ยวซ้ำเติม ซึ่งในหลักความจริงของโลกและมนุษย์นั้น...พระที่บวชเข้ามาแล้วทำความดี ก็ได้รับ "ความชอบ" ได้ตำแหน่งหน้าที่เจริญรุ่งเรือง ยศช้างขุนนางพระก้าวหน้างอกงาม ความเป็นอยู่หรูหราหมาเห่าไปแล้ว เรียกว่า "ทำดีได้ดี"...!

ครั้นผิดพลาดในวิถีแอบเป็นอลัชชีเป็นเวลาหลายปี ตั้งแต่ 2563 ทำชั่วอยู่นานจึงถูกจับได้ ถือว่าเป็น "การจงใจ"!!!

หาใช่ผิดพลาดโดยมิเจตนา ทำผิดปกปิดมาหลายปี อย่างนี้ต้องถูกลงโทษ ลงทัณฑ์ เหมาะสมแล้ว

ความผิดพระวัดไร่ขิง นอกจากผิดทางพระธรรมวินัยทุกข้อ ยัง "ผิดทางโลก-ผิดกฏหมาย" ครั้งใหญ่ จะไม่ให้คนเขาวิพากษ์ คนวิจารณ์เป็นไปไม่ได้ แต่คนวิพากษ์บางทีก็ไม่มีสติปัญญาในการพูดการเขียน จึงกลายเป็นเหมือนกระทืบซ้ำ

บางท่านอาจเจ็บใจที่เคยทำบุญกับวัดนี้มาก ก็ฟาดแรงหน่อย ปล่อยให้ระบายอารมณ์ไปเดี๋ยวก็หาย ส่วนผีผ้าเหลืองที่ทำผิดโดยจงใจ ก็จงรับกรรมไป ในเมื่อ "ทำดีได้ดี" ไปแล้วได้โอกาสมากมายในชีวิต ถึงเวลา "ทำชั่วได้ชั่ว" ต้องเสวยกรรมที่ทำเอง ก็เป็นเรื่องปกติ

ความจริง ผมเกลียดมากในการเขียนถึงพระสงฆ์ที่ทำผิดศีลธรรมร้ายแรงและโจ่งแจ้ง เพราะรู้ดีว่า เป็นการเปิดช่องให้ "มารต่างศาสนา" ตีปีกเอาไปซ้ำเติมหนักข้อยิ่งขึ้น ศาสนาของเราต้องช่วยกันรักษา ปกป้อง และป้องกันสุดกำลัง

แต่ถ้าเราละเลย วางเฉยชนิด "ชั่วช่างชี ดีช่างสงฆ์" ในไม่ช้าจะกลายเป็น อินเดีย อินโดนีเซีย อัฟกานิสถาน ปากีสถาน ทาจิกิสถาน และอีกหลายประเทศที่ลงท้ายด้วย "สถาน" ซึ่งเคยเป็นแผ่นดินพุทธศาสนา แต่ถูกรุกรานจนสูญสิ้น และส่วนหนึ่งของความวิบัติก็คือการไม่ขจัดทำลายพวก "เหลือบ" ที่อาศัยพระศาสนาหากิน

เขียนภาษาไทย เขียนภาษาคนเรียบง่าย เข้าใจง่าย ไม่ต้องแปลไทยเป็นไทย เขียนความจริงไม่ต้องมีสำบัดสำนวนมากเสร็จแล้ว ก็เชิญร่วมอนุโมทนาบุญใส่บาตรวันพระด้วยกัน อย่าลืมธำรงค์รักษาศาสนา แล้ว ต้องช่วยเป็นหูเป็นตา กำจัด "เนื้อร้าย" หูด กลาก เกลื้อน ออกไปด้วย!!!

 

หนึ่งในองค์ครูแห่งศิลปวิทยาการอันยิ่งใหญ่ รับการสร้าง-เสกโดยวิทยายุทธฝ่ายพุทธะ และพิธีพราหมณ์ผสมผสานครบถ้วนเดินทางถึงที่หมาย

ขอท่านจงประสิทธิ์ความสำเร็จแด่น้องโต้ดด้านหน้าที่การงาน เจริญก้าวหน้า ผ่านพ้นอุปสรรคทุกประการ ส่วนครอบครัวก็ประสบความราบรื่นบริบูรณ์ โมทนาและขอบคุณการแจ้งข่าวครับ

 

"หลวงปู่" กำชับหนักแน่น
บุญที่ทำ-กรรมที่สร้าง
ล้วน"ส่งผล"ทุกเรื่อง...

**บุญดั่งเงา..เฝ้าติดตาม
บาปทวงถาม..รอหามแห่
เกิด-แก่-ตาย...หมายเที่ยงแท้
มิผันแปร...........แม้โลกสลาย
--อริยทรัพย์...นับเป็นบุญ
--โลกีย์วุ่น......ลุ้นทำลาย
--ใต้กฏกรรม..จำจดใจ
--เลือกฝีพาย..คัดท้ายเถิด!

 

พระนางกำแพงพิมพ์ใหญ่
"กรุนาตาคำ-ทุ่งเศรษฐี"!!
===============

แผ่นจารึกใบลานเงิน ลานทอง ประวัติการสร้างพระเมืองกำแพง จดจารไว้ชัดเจนว่า...

*** ตำบลเมืองพิษณุโลก "เมืองกำแพงเพชร" เมืองพิชัยสงคราม เมืองพิจิตร เมืองสุพรรณ ว่ามีฤาษี 11 ตน ฤาษีเป็นใหญ่ 3 ตน ฤาษีตาไฟตนหนึ่ง ฤาษีตาวัวตนหนึ่ง เป็นประธานแก่ฤาษีทั้งหลาย ปรึกษากันว่าเราท่านทั้งนี้จะเอาอันใดให้แก่พระยาศรีธรรมาโศกราช ฤาษีทั้ง 3 จึงว่าแก่ฤาษีทั้งปวงว่า เราจะทำด้วยฤทธิ์ทำด้วยเครื่องประดิษฐานเงินทองไว้ฉลองพระองค์

จึ่งทำให้เป็นเมฆพัฒน์อุทุมพร เป็นมฤตยพิศม์อายุวัฒนะ ประดิษฐ์ไว้เป็นอานุภาพแก่มนุษย์ทั้งหลาย สมณชีพราหมณ์เจ้าไปถ้วน 5,000 พรรษา

ฤาษีตนหนึ่งจึงว่าแก่ฤาษีทั้งปวงว่า ท่านจงไปเอาว่านทั้งหลายอันมีฤทธิ์มาให้ได้ 1,000 เก็บเอาเกสรไม้วิเศษที่มีกฤษณาเป็นอาทิให้ได้ 1,000 ครั้นเสร็จแล้ว ฤาษีจึงป่าวร้องเทวดาทั้งปวง ให้ช่วยกันบดยาทำเป็นพระพิมพ์ไว้สถานหนึ่ง ทำเป็นเมฆพัฒน์สถานหนึ่ง ฤาษีทั้งปวงให้เอาว่าน ดินทำเป็นผงเป็นก้อนประดิษฐานด้วยมนต์คาถาให้ประสิทธิ์ทุกอัน จึงให้ฤาษีทั้งนั้นเอาไว้ในเจดีย์ ถ้าผู้ใดถวายพระพรแล้ว จงเอาไว้ใช้ตามอานุภาพ ให้ระลึกถึงพระคุณที่ฤาษีทำไว้นั้นเถิด...มีกูไว้ไม่จน!!! ***
--------------------

หนึ่งในกรุพระมืองกำแพงฝั่งนครชุม หรือบริเวณท้องทุ่งเศรษฐี..."กรุนาตาดำ"

ขอบพระคุณภาพจากหนังสือ "พระกำแพง" อันทรงคุณค่าเมื่อ 40 ปีที่แล้ว

**กรุนาตาคำ พบพระเครื่องวัตถุมงคลล้ำค่าหลายพิมพ์...

--พระกำแพงซุ้มกอพิมพ์กลาง เนื้อดิน+ว่าน+เกสร
--พระกำแพงซุ้มกอพิมพ์เล็ก เนื้อดิน+ว่าน+เกสร
--พระกำแพงซุ้มกอพิมพ์ขนมเปี๊ยะ เนื้อดิน+ว่าน+เกสร
--พระสังกัจจายน์เนื้อดิน+เกสร
--พระนางกำแพงพิมพ์ใหญ่-เล็ก(ดิน+เกสร)

เห็นแจ่มแจ้งว่า พระราคาแพงล้ำค่าที่สุดในความนิยมของนักสะสมคือ "พระซุ้มกอ" พบที่ "กรุนาตาคำ" ถึง 3 พิมพ์ 3 ขนาด ซึ่งป่านนี้อาจโดนย้ายกรุยัดไปอยู่กรุแพงๆหมดแล้วก็เป็นได้

"นางกำแพง กรุนาตาคำ" จึงมิได้มีคุณค่ายิ่งหย่อนไปกว่ากรุอื่นๆในท้องทุ่งเศรษฐี แต่อาจเป็นเพราะพระขึ้นมาจำนวนน้อย จึงถูกละเลยหลงเลือนกันไป หรือบางพิมพ์บางองค์อาจโดนย้ายกรุตามวิสัยนักพุทธพาณิชย์ที่ต้องถือความ "ซื้อง่าย-ขายคล่อง" เอาไว้ก่อน

"พระนางกำแพงพิมพ์ใหญ่-กรุนาตาคำ" ขึ้นมาจากกรุน้อยองค์ แต่ย้ายกรุไม่ได้ด้วยมีเอกลักษณ์ในพิมพ์ กับ "ขนาด" เฉพาะตัว

ขอนำมามอบให้ผู้ที่ปรารถนาครอบครองพระทุ่งเศรษฐี..."มีกูไว้ไม่จน"!!!

ในยุคเศรษฐกิจอาจเป็นพิษไม่แพ้ยุค "ต้มยำกุ้ง" เอาวัตถุมงคลเลอเลิศติดกาย ติดตัว ติดบ้านไว้ ต่อสู้กับพิษภัยร้ายกาจได้แน่ ไม่แห่บ้าเห่อตามเสี้ยนไร้สติ เรื่องราคาหลักหมื่นหลักแสน

มอบเป็นของขวัญเปิดเทอมแค่หลักพันต้นๆ ท่านก็มีสิทธิ์ครอบครองสมบัติศักดิ์สิทธิ์ที่สุดของบรรพชน พระในฝันที่ฝันเป็นจริง...

=======3,600=======

นางกำแพงพิมพ์ใหญ่ เนื้อดิน+ว่าน+เกสร วัตถุธาตุมีฤทธิ์บางประการที่องค์ฤาษีบางตนนำมาจากป่าหิมพานต์ประสิทธิ์ใส่ไว้

องค์สมบูรณ์ที่สุด มีหน้า มีตา ปาก-จมูก พบในไหทำให้ไร้ริ้วรอยชำรุด อุดซ่อม และมีคราบกรุจากกาลเวลาขึ้นตามซอก ไม่ปนเปื้อนมากนัก

ฐานบัวสองชั้น บางองค์ตัดชิดเหลือบัวชั้นเดียว ขึ้นจากกรุเพียง "หลักสิบ" ไม่ถึงร้อยองค์ โอกาสสูญหายไปในซอกหลืบแห่ง "ความไม่รู้" ของนักเล่นพระรุ่นหลังซึ่งไม่เคยเห็น ไม่เคยรู้ มีมาก จึงขอฝากไว้ให้นักอนุรักษ์รุ่นหลังที่มีจิตวิญญาณเคารพบรรพชน ศรัทธาในคุณวิเศษที่ไม่ต้องตีฆ้องร้องป่าวเหมือนพระสร้างใหม่ๆของพวกเสี้ยนไร้ค่า ได้นำไปบูชาดูแลสืบต่อ

ความงามด้านหลัง ริ้วลายมือองค์ฤาษีกดประทับสวยงามทั้งแผ่น

แม้แต่ด้านข้าง
ก็สวยไร้มลทิน

พิมพ์ใหญ่ใส่กรอบตั้งบูชาได้
ขึ้นคอก็ไม่ใหญ่กว่า"จตุคาม"
น้ำหนักไม่มากเพราะแห้งผาก
หมดสิ้นความชื้น สิ้นกลิ่นดิน!

เทียบองค์ในหนังสือพระกำแพง เป็นพิมพ์ใหญ่บัวชั้นเดียว ไม่มีหน้ามีตา ในหนังสือ พิมพ์ชื่อกรุผิดเพี้ยนไปนิดเป็น "นาบ่อคำ"

 

วันที่ ๒๐ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖๘ ตรงกับวันอังคาร แรม ๙ ค่ำ เดือน ๖ ปีมะเส็ง
ใส่บาตรในเช้าวันนี้
อนุโมทนาบุญร่วมกันครับ
สุทินนัง วะตะเม ทานัง อาสะวักขะยาวะหัง
นิพพานะ ปัจจะโย โหตุ ปัจจุบันเนกาเล

 

วันที่ ๒๑ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖๘ ตรงกับวันพุธ แรม ๑๐ ค่ำ เดือน ๖ ปีมะเส็ง
ใส่บาตรในเช้าวันนี้
อนุโมทนาบุญร่วมกันครับ
สุทินนัง วะตะเม ทานัง อาสะวักขะยาวะหัง
นิพพานะ ปัจจะโย โหตุ ปัจจุบันเนกาเล

 

วันอังคารงานมาก พลาดการเข้าเว็บ ต้องอนุโมทนาบุญใส่บาตรยามเช้าย้อนหลัง ช้าไปหนึ่งวัน แต่ก็อย่างที่พูดกัน...มาช้ายังดีกว่าไม่มา

 

สำหรับเช้าพุธ ไม่ช้าและไม่สาย
ตลาดยังไม่วาย ได้ร่วมอนุโมทนา
บุญใส่บาตรตรงตามเวลาก่อนไปทำงาน

 

วันที่ ๒๒ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖๘ ตรงกับวันพฤหัสบดี แรม ๑๑ ค่ำ เดือน ๖ ปีมะเส็ง
ใส่บาตรในเช้าวันนี้
อนุโมทนาบุญร่วมกันครับ
สุทินนัง วะตะเม ทานัง อาสะวักขะยาวะหัง
นิพพานะ ปัจจะโย โหตุ ปัจจุบันเนกาเล

 

ยามเช้า ตั้งแถวเรียงหนึ่ง ถึงพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ คุณพระศรีรัตนตรัย บุญใส่บาตรริมถนนที่กระทู้เรียกขาน "สตรีท บุญ" งดงามตามประสาชาวพุทธ ร่วมอนุโมทนาให้สบายใจและมีความสุข...!

 

"หลวงพ่อขอม วัดไผ่โรงวัว"
พระทองคำท้องทุ่งสุพรรณฯ
===============
รูปหล่อตันพิมพ์เล็ก 2505
--------------------

*** ถ้าเรายังมีชีวิต มีเงินส่วนตัวแม้ 1 บาท เราจักอับอายพุทธบริษัทเป็นอย่างยิ่ง ***

1 ในปณิธาน 5 ข้อ ที่ หลวงพ่อขอม อนิโช วัดไผ่โรงวัว สุพรรณบุรี มอบถวายเป็น "พุทธบูชา" เพื่อพระพุทธศาสนา และการพลีกาย ถวายชีวิตแด่พระพุทธองค์

หลวงพ่อขอม คงความศักดิ์สิทธิ์ เรืองฤทธิ์ทางจิตกระทั่งสามารถคุยกับ "พระพุทธรูป" แล้วท่านโต้ตอบด้วยดั่งมีชีวิตเลือดเนื้อจริง เป็นเรื่องเหนือโลกที่น้อยคนนักจะทราบ เรื่องอื่นๆจึงไม่ต้องบรรยายให้เปลืองอักษร

เคารพและบูชา "พระทองคำ" องค์จริงที่ไม่เคยสร้างภาพ ไม่หลอกลวงพุทธบริษัท ไม่ทำให้คนทำบุญเจ็บกระดองใจ เงินทุกบาททุกสตางค์จากการบุญ ได้มา ก็ใช้ไปเพื่อทำนุบำรุงวัด สร้างวัด สร้างคน สร้างถาวรวัตถุต่อยอดเพื่อการพระศาสนาเจริญก้าวหน้า นำพาคนเข้าวัดทำบุญ ถือศีลฟังธรรมด้วยศรัทธา ไม่เคยหยุดยั้งตราบชีวิตหาไม่

เมื่อมรณภาพ เปิดกุฏิท่าน ไม่มีสมบัติส่วนตัวสักบาท มีแต่วัตถุมงคลที่ ท่านอธิษฐานจิตนำพลังบารมีพระพุทธองค์ รวมกันเป็นพระพุทธเจ้า ๕ พระองค์มาร่วมให้เกิดความศักดิ์สิทธิ์เหนือโลกของแท้

วัตถุมงคล หลวงพ่อขอม ครบถ้วนทั้งอยู่ยงคงกระพัน มหาอุด แคล้วคลาด เมตตามหาบารมี ค้าขายคล่อง เปี่ยมโชคลาภ ผ่านพ้นอุปสรรคน้อย-ใหญ่ แล้วแต่จักอธิษฐานไปทางใด ไม่ต้องอธิษฐานหวังผลเลย แค่มีติดบ้าน ก็เป็น "มงคลชีวิต" และเคหาสถานอย่างยิ่ง!!!

ไม่แปลกใจ ที่สังขาร "หลวงพ่อขอม" ไม่เน่าเปื่อย ยังอยู่คู่วัดไผ่โรงวัว สุพรรณบุรี ให้พุทธศาสนิกกราบไหว้ตราบปัจจุบัน มีเวลาอย่าลืมแวะไปกราบท่านบ้าง เพื่อความเป็นศิริมงคลแก่ตนเอง สมดังประโยค...

"ปูชา จะ ปูชะนียานัง-บูชาคนที่ควรบูชา เป็นมงคลอย่างยิ่ง"!!!

อยากได้วัตถุมงคล แท้และดี ทันท่าน หายาก ไม่มีเกลื่อนปฐพี จัดให้ด้วย "รูปหล่อพิมพ์เล็ก-หล่อตัน" เนื้อทองเหลืองหรือทองผสม สร้างปี 2505

เป็นพิมพ์ที่สร้างน้อยนิด เจอเพียง 1 ใน 100 เท่านั้น สำหรับรูปหล่อรุ่นนี้ มอบร่วมบุญ...

=======1,200=======

หน้ากลาง อย่าว่าแต่จะเห็นของจริง เห็นภาพยังยาก ขนาดย่อมลงมาจากพิมพ์ใหญ่มาก ท่านทดลองสร้างให้ต่างจากปี 2500 แต่สร้างได้ไม่มาก จำนวน "หลักร้อย" !

สภาพสมบูรณ์ ผ่านการบูชาเล็กน้อยโดยผมเอง ถอดท่านจากสร้อยเพราะกระจกแตก เก็บบูชาบนหิ้งหลายสิบปี

ด้านข้างที่คงความสมบูรณ์ทุกส่วน
ด้านล่างใต้ฐานตะไบสวยเก็บงานดี
ก้นตันไม่บรรจุกริ่งต่างจากทุกรุ่นซึ่ง
ส่วนใหญ่เจาะก้นใส่กริ่ง...!

ขนาดกำลังดี เหมาะบูชา

พระดียังมีอีกมาก แต่ "พระทองคำ" ที่เป็นทองคำจริงทั้งกาย วาจา ใจ ปฏิปทา ปณิธานสูงส่ง มุ่งมั่นเพื่อพระศาสนา อาจจะพบเห็นกันได้ไม่มากนัก พระสงฆ์ทองคำเหล่านี้ อย่าว่าแต่จะปลุกเสกวัตถุมงคลศักดิ์สิทธิ์....ทำจริงๆแค่เป่าพ้วงเดียว ก็พอ!

หลวงพ่อขอม อนิโช ทองคำแห่งท้องทุ่งสุพรรณฯ ก็เป็นหนึ่งในนั้น!!!

 

วันที่ ๒๓ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖๘ ตรงกับวันศุกร์ แรม ๑๒ ค่ำ เดือน ๖ ปีมะเส็ง
ใส่บาตรในเช้าวันนี้
อนุโมทนาบุญร่วมกันครับ
สุทินนัง วะตะเม ทานัง อาสะวักขะยาวะหัง
นิพพานะ ปัจจะโย โหตุ ปัจจุบันเนกาเล

 

https://youtube.com/shorts/jVzwiCRWkDA?si=MCkAp-HhHjoyX-9S

ต่างชาติมาเที่ยวเมืองไทย ล้วนแต่ติดใจไม่อยากกลับบ้าน
แต่สำหรับบางคนที่บอกว่าตัวเองเป็นคนไทย กลับไม่อยากอยู่....

 

วันที่ ๒๔ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖๘ ตรงกับวันเสาร์ แรม ๑๓ ค่ำ เดือน ๖ ปีมะเส็ง
ใส่บาตรในเช้าวันนี้
อนุโมทนาบุญร่วมกันครับ
สุทินนัง วะตะเม ทานัง อาสะวักขะยาวะหัง
นิพพานะ ปัจจะโย โหตุ ปัจจุบันเนกาเล

 

ไม่ได้เข้าเว็บวันศุกร์-สุขเสมอ อนุโมทนาบุญใส่บาตรย้อนหลัง ยังคงมีความสุขในธรรมและการทำนุบำรุงพระพุาธศาสนทุกเมื่อ

 

เสาร์สโมสร ได้พักผ่อนหย่อนคลายวันหยุด สตรีทบุญดำเนินไปอย่างอบอุ่น คุณแม่อุ้มลูกน้อยรับกระแสบุญ ให้เจริญเติบโตแข็งแรง อายุ วัณโน สุขัง พะลัง เราก็ร่วมอนุโมทนาบุญรับพรดีนั้นด้วย

 

เดรัจฉานที่ยังพอมีบุญอยู่บ้าง หนีนรกมาเกิดมากมาย โชคดีไม่หลุดจากมดลูกไปเกิดแถวฉนวนกาซา อัฟกานิสถาน ปากีสถาน บังคลาเทศ พม่า เขมร ลาว ฯลฯ

สัตว์ดิรัจฉานเหล่านั้นไปอยู่ที่ไหนก็ "ด้อยค่า" แผ่นดินเหล่านั้น ลองให้มันไปเกิดที่ อเมริกา ยุโรป ฯลฯ มันก็ด้อยค่าแผ่นดินตัวเองและตะเกียกตะกายอยากไปอยู่ที่อื่น มันไม่มีความพึงพอใจในชีวิต เพราะส่วนใหญ่สมองน้อยกว่ากระบือ ใครพูดดีหน่อย ท่าทีขึงขังมีจิตวิทยา "ล้างสมอง" เป็น มันก็มัดรวมเป็นฝูง ให้จูงจมูกง่ายยิ่งกว่าปอกกล้วย

ป่วยการสอนสั่งหรือพูดดีกับสัตว์กลุ่มหนึ่งที่หลุดมาเกิดเป็นคน ต้องใช้วิธี "ฝูงชนต้องนำ ฝูงควายต้องร้อยเชือกจมูก" เท่านั้น วิธีอื่นไม่ได้ผล จนกว่าพวกกระบือเหล่านั้นจะเจริญเติบโต และสมองพัฒนามีความคิดได้ว่า...

"เกิดเป็นคนต้องรู้คุณค่า รักและกตัญญูต่อแผ่นดินเกิด"!!!

คำสอนนี้มาจากคัมภีร์หนึ่งที่คลั่งพระเจ้า และผมเห็นว่าเป็นคำสอนที่พอใช้ได้ไม่ใช่บ้าแต่จะทำสงครามหรือทำร้ายคนที่นับถือความเชื่อนอกเหนือลัทธิตัวเอง

แต่พวกกบฏ 3 จังหวัดใต้ที่เป็นคนไทยแต่ตัว หัวใจเป็นเดรัจฉาน น่าแปลกใจที่มันแหกกฏแหกคำสอนคัมภีร์ที่มันนับถือตลอดเวลา ไม่กตัญญูรู้คุณแผ่นดินเกิด ไอ้พวกนี้ "ตกนรก" ไม่ได้ผุดเกิด ตามคำสอนอันเคร่งครัดนั้น เป็นแม่นมั่น

 

อริยสงฆ์ทองคำสุพรรณฯ
รูป-"หลวงพ่อขอม อนิโช"
==============

รูปถ่ายอัดกรอบกระจกสวยงามมาก "หลวงพ่อขอม อนิโช" วัดไผ่โรงวัว สุพรรณบุรี เป็นรูปยุคกลาง(วัยกลางคน) เป็นช่วงที่ท่านเปี่ยมด้วยวิทยาคุณทั้งบู๊+บุ๋น สูงสุด

หากเป็นหนังจีนกำลังภายในก็ต้องใช้คำว่า..."วรยุทธยอดเยี่ยม บรรลุแล้ว"...!

รูปที่ไม่เคยผ่านการใช้ สร้างปี 2511รักษามายาวนาน ได้เวลามอบให้ร่วมบุญเป็นศิริมงคลอบอุ่นใจต้อนรับวันหยุด...

=======500=======

ภาพขาวดำ กระดาษหนังไก่โบราณอย่างดี หลวงพ่อขอม บุคลิคงามสง่า ดวงตาทรงพลังอำนาจ แต่ใบหน้าท่านเปี่ยมเมตตา

ไม่ได้จารอักขระหรือประทับตรา เป็นรูปหน้าเดียวมีเพียงร่องรอยคราบความเก่าจับเล็กน้อย รูปนี้ไม่เคยผ่านมือใคร

ความสูง1นิ้ว2กระเบียดกำลังดี
ความกว้างหย่อน 1 นิ้วเล็กน้อย

 

พระสมเด็จ"พุทโธ"หุ้มทอง
"หลวงพ่อขอม"วัดไผ่โรงวัว
===============

เลือกเฟ้นวัตถุมงคลที่หาชมยาก พบเห็นไม่ง่ายนักในแต่ละรุ่นยุคต้นๆของ "หลวงพ่อขอม อนิโช" อริยเจ้าทองคำแห่งท้องทุ่งสุพรรณ
--สุดยอดแห่งภิกษุผู้มีปณิธานเลอเลิศ
--สูงส่งวัตรปฏิบัติเปี่ยม "อิทธิบาท4"
--พากเพียรทลายอุปสรรคให้งานใหญ่เป็นเรื่องเล็ก
--และ ฯลฯ (นับไม่ถ้วน)

ท่านสร้างวัตถุมงคลสืบทอดพระพุทธศาสนา ดังปณิธานให้รูป"พระพุทธองค์" เกลื่อนไปทั่วผืนธรณีก็จริง แต่ยังมีวัตถุมงคลหลายสิบรุ่นที่ "สร้างน้อย-หายาก" บางรุ่นทำไว้แค่หลักสิบ หลายรูปแบบเป็น "พระคะแนน" ไว้นับพระนับร้อยและหลายอย่างก็สร้างไม่กี่องค์

คัดประเภท 1 ใน 100 ให้ชมอีกสักองค์ เป็น "พระคะแนน" ในตัว คือการนำองค์สวยสุดมา "หุ้มทอง" 100 องค์มีเพียงองค์เดียว พระรุ่นนี้สร้างมากสุดเต็มที่ 5,000 องค์ ดังนั้นองค์คะแนนโฉมงามสุดติ่งเช่นนี้ ก็มีไม่เกิน 50 องค์ !!!

พระสมเด็จเนื้อดินหลัง"พุทโธ" ปี 2505 ซึ่งกลายมาเป็นแบบอย่างให้พระเมืองกรุงโดยเฉพาะ "พระสมเด็จพุทโธเนื้อผง หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี"ปี 2507 ก็นำแบบมาจากรุ่นนี้เมื่อ "หลวงพ่อขอม" นำเข้าร่วมพิธีมหาพุทธาภิเษกยิ่งใหญ่ที่สุดในปี 2506 ณ วัดประสาทบุญญาวาท ท่าน้ำสามเสน

เชิญชมความงาม เพียบพร้อมพุทธคุณ เปี่ยมความศักดิ์สิทธิ์ และมอบร่วมบุญ...

=======1,200=======

พระสมเด็จพุทโธ หุ้มทอง (ไม่ใช่ปิดด้วยทองคำเปลว เป็นการนำแผ่นทองหุ้ม) เนื้อดิน ทำเป็น "พระคะแนน" 1 ใน 100...องค์นี้สมบูรณ์ที่สุด แผ่นทองกว่า 60 ปี ไม่หลุดร่อน ลอกหรือดำ เพราะการเก็บรักษาอย่างสุดยอด

อย่าว่าแต่จะพบเห็นในท้องตลาด แม้แต่ภาพถ่ายก็ยังหาดูไม่ได้!!!
อักขระ "พุท โธ" ด้านหลัง ซึ่งกลายเป็นแบบอย่างของ "สมเด็จพุทโธ" หลายสำนัก ถือว่าพระท้องทุ่งสุพรรณฯ เป็นผู้นำในการรังสรรค์รูปแบบวัตถุมงคลอันยอดเยี่ยม ทันสมัย เป็น "ผู้เกิดก่อนกาล" องค์จริง เสียงจริงรูปหนึ่ง
ขอบข้างลงสีเคลือบชะแล็คไว้อย่างพิถีพิถัน รักษาสภาพพระทนทานผ่านกาลเวลา ต่อให้อีก 100 ปีก็ไม่ชำรุดทรุดโทรม หรือจะแขวนบูชา หากเลี่ยมกรอบพลาสติกก่อนก็คงทนยันลูกหลานบวช... ขอบหนาพอตั้งถ่ายภาพได้

ขนาดเท่าพระสมเด็จชิ้นฟักปกติ

เทียบพระสมเด็จพุทโธเนื้อผง "หลวงปู่โต๊ะ" ที่ลูกศิษย์สร้างถวายหลวงปู่ในปี 2507 แทบจะถอดรูปแบบเดียวกัน ต่างที่ยันต์หลังเพิ่มขึ้นมาหนึ่งตัว