ได้ไปเจอ "ซัน" ผู้มีญาณทิพย์

ไม่ได้มีเหตุผลอะไรมากมาย เพราะความพร่องที่เห็นได้ จึงมิอาจอุปาทาน
ได้เต็มปาก

 

สันโดษ เลือกไม่ได้คะ

สันโดษ เกิดมามีกรรม..ฮือ..ฮือ

 

แต่ถ้าหน้าที่ของเขาไม่ได้มาเพื่อนิพพาน หรือ ปรารถโพธิสัตว์ แต่มาเพื่อปรารถนาอย่างอื่นหล่ะ มันจะเป็นยังงัย

 

ก็ถ้าไม่ได้ โลกธรรม 8 ไปเป็นกอบเป็นกำ ก็ สูญหมด

 

เทพ แบ่งเป็นสองฝ่าย คือ เทพ และ มาร

แต่คนตัดสินใจ คือ ตัวเรา ผู้รู้

เราต้องเลือกที่จะรู้ภาวะจิตตน ที่เกิดพอคะ

อย่าปล่อยให้เทพ หรือ มาร เป็น อัตตา

เพราะ เมื่อไรที่เราเลือก ท้ายที่สุด เราก็ไม่พ้นวัฏสงสาร

อจินไตยคะ รู้วาระจิตตนเเค่นั้น พอแล้ว

 

ต้องขออภัยคุณสันโดษนะ
อ่านตรงนี้แล้วรู้สึกขำนิดหน่อย
เทพสอนมนุษย์ให้รู้ นิพพาน หรอ
คุณคิดว่า คนสอนรู้นิพพานแล้วหรือ จึงคิดมาสอน

 

สัมมา แปลว่า ถูกต้อง

ทั้ง สมาธิ และ สติ ให้เห็น ตามที่เป็นจริง

เห็นอะไร อ่านไร โกรธอะไร หรือ เรียนรู้อะไร

ก็เข้าใจตามที่มันเป็นจริงคะ

 

สอน การปฏิบัติธรรม พาไปเจอครูบาอาจารย์ ดลใจ ให้รู้เเนวทาง

ไม่ได้คุมบังเหียน อย่า คะ อย่า.....โง่

 

เทพ ไม่มีสิทธิ์ คุมร่างกาย นะคะ จำเอาไว้ วิมุตติ

 

ท่านสูญถามได้ดีนะ
ตามความเห็นกระผม
สติ คือ ระลึกรู้ ตามตำราก็ว่าไว้อย่างนั้น
แต่รู้อะไรบ้างล่ะ
รู้ในการดำเนินชีวิตทางโลก เรียก สติ ทั่วไป
ยังไม่ใช่ สัมมาสติ
สัมมาสติ คือ รู้รูปนามตามความเป็นจริง
ซึ่งพระพุทธองค์แนะนำไว้ที่สี่ปัฏฐาน มี กาย เวทนา จิต ธรรม
ดังนั้น สัมมาสติ จึงเป็นไปเพื่อ มรรค ผล นิพพาน โดยตรง
สติอย่างอื่น ไม่เป็นไปเพื่อ มรรค ผล นิพพาน
แต่ก็ใช่ว่าจะไร้ประโยชน์ซะทีเดียว
เพราะยังต้องดำรงชีวิตต่อไปจนกว่าธาตุขันธ์จะแตกดับ

สมาธิ คือ ความตั้งมั่นของใจ
ความตั้งมั่นคือ จดจ่อกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งได้ยาวนาน
ถ้าเอาไปใช้ในทางเสียหาย เช่น ทางไสยศาสตร์
ก็เรียกว่า มิจฉาสมาธิ
ถ้าเอาไปใช้ในทาง มรรค ผล
ก็เรียกว่า สัมมาสมาธิ

การรู้แจ้งแทงตลอดในอริยสัจ
สัมมาสติจำเป็นต้องมี และต้องมีอย่างยิ่ง
เพื่อการมองเห็นสภาวะธรรมที่ละเอียดยิบ
และการมองเห็นนี้ ต้องต่อเนื่องยาวนานพอสมควร
จึงจะเพียงพอในการพิจารณา ที่เรียกว่า อนุโลม ปฏิโลม ได้
ดังนั้น สัมมาสมาธิ ก็จำเป็นมากเช่นกัน

ท่านสูญลองพิจารณาดู
ถ้าท่านใดเห็นเป็นอื่น กรุณาแนะนำด้วย...

 

ตอบเเล้วข้างบน # 1009

 

คืออะไรคะ มีใครบางคนในนี้ให้ความกระจ่างได้ แต่ก็ไม่ออกมาเปิดเผย ใจดำ สุดท้ายก็ต้องมาวนเวียนอยู่กับเรื่อง เทพ พรหม อยู่ดี ไม่เอาแล้ว จิตตกค่ะ

 

เข้ากับกระเเสไงนู๋ ผึ้ง น้องซัน น้องริชชี่ ใครๆก็อยากถามหนา....

โลกธรรม 8 ได้แก่ มีลาภ เสื่อมลาภ มียศ เสื่อมยศ มีสุข มีทุกข์ สรรเสริญ นินทา

 

อย่าอธิบายเลย คุณวิมุตติ ถ้า ยังมีผู้เข้าใจว่า สติ คือ การกำหนด

เขาจะไม่เข้าใจคำว่า สัมมาสติ หรอก เพราะเขาจะเข้าใจไปอีกว่า
ก็คิดดีๆเข้าไว้ กำหนดดีๆเข้าไว้

พอถาม สัมมาปัญญา อันนี้งงแล้ว ก็เลยวกกลับมาที่วิธีการทำ คือ
การที่ยัง กำหนดสติในรูปแบบต่างๆได้ ปฏิบัติตามนั้นอยู่ นั่นคือ
สัมมาปัญญา เพราะไม่ละทิ้งการกำหนดไปเป็นอื่น
(ทั้งหมดเป็นภาวะไม่พ้นคิด ทั้งนั้น)

คุณ 00000 เขายกมาถาม แต่คนควรตอบไม่ตอบ

 

ใจเย็นครับ
ที่ถามคือ โลกธรรม8 หรือ
ง่ายๆครับ
ธรรมที่เกิดกับโลกไง
เกิดแล้วเราก็ไหวไปตามมัน
ทำให้เกิดทุกข์
ผู้ปฏิบัติจนก้าวล่วง โลกธรรม8 ได้
ทุกข์จะค่อยๆ หมดลงไป
ใครด่าว่าอะไร ก็ไม่ติดใจ
ใครสรรเสริญเยินย่อ ก็ไม่หลงตาม
สุข ทุกข์ ไม่หวั่นไหว
ได้ทรัพย์ เสียทรัพย์ ก็เข้าใจในเหตุและปัจจัย ก็ไม่ทุกข์
มีชื่อเสียง ไม่ลุ่มหลง
เสียชื่อเสียง ไม่ยึดติด
เป็น อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา
ดำเนินชีวิตตามทางสายกลางอย่างแท้จริง...

 

*************
ไม่ต้องมาพูดเลย ตัวดำยังไม่พอ ใจดำอีกต่างหาก ไม่กินดอก กล้วยน่ะ ไม่ใช่ลิง พอกันแหล่ะ 2 คนน่ะ

 

อย่างที่บอกว่า สัมมา แปลว่า ถูกต้อง ตามจริงแท้จริง

สมาธิ และ สติ ที่เกิดขึ้นตามจริง ง่ายๆ ไม่ต้องใส่ ผงชูรส

 

โลกธรรม 8
ได้แก่
มีลาภ เสื่อมลาภ
มียศ เสื่อมยศ มีสุข
มีทุกข์ สรรเสริญ นินทา

 

***********

ไม่มีอะไรหรอกค่ะ คุณวิมุตติ พี่เป็นแบบนี้แหล่ะค่ะ คำพูดในสื่อ จะดูแข็ง ๆ แต่จริง ๆ ไม่ได้คิดตามที่พิมพ์หรอกค่ะ พี่พูดเล่นค่ะ เอาแค่เป็นสีสันเท่านั้นเอง อธิบายแบบนี้พี่เข้าใจค่ะ แค่อยากได้แค่ความหมายค่ะ เพราะพี่ไม่เคยอ่านตำรา และไม่เคยศึกษาจึงถาม แทงใจใครบางคน อิ อิ อิ แต่ไม่ได้ว่าคุณวิมุตติหรอกนะคะ

 

จริต คนเราไม่เหมือนกัน ถ้าจะเอาภาษาง่ายๆ

ของหลวงพ่อปราโมทย์ (สายหลวงปู่ดุลย์)

ใช้ภาษาปัจจุบัน เข้าใจง่ายมากคะ เรื่อง ดูจิต