พระดี พิธีใหญ่ รับประกันแท้ทุกรายการ!!! เชิญชม บูชา ในกระทู้ได้เลยครับ"

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย HMMAmulet296, 4 กุมภาพันธ์ 2022.

  1. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,672
    ค่าพลัง:
    +465
    .........
     
  2. MATHS

    MATHS เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2012
    โพสต์:
    777
    ค่าพลัง:
    +904
    ขอจองครับ
     
  3. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,672
    ค่าพลัง:
    +465
    รับทราบการจองครับ ขอบคุณมากครับพี่
     
  4. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,672
    ค่าพลัง:
    +465
    807. พระดี มวลสารจากพระโลหะกรุเก่าครับ พระกริ่ง รุ่น 3 หลวงพ่อฑูรย์ วัดโพธิ์นิมิตร เนื้อชิน ปี 2504 ให้บูชา 850 บาท


    upload_2022-9-15_19-10-58.png

    พระกริ่ง รุ่น3 หลวงพ่อฑูรย์ วัดโพธิ์นิมิตร พ.ศ.2504 ชนวนมวลสาร ใช้เนื้อชินจากพระกรุเก่าๆหลายๆที่ อาทิ กรุเมืองสุพรรณฯ / กรุวัดราชบูรณะ อยุธยา/ กรุกำแพงเพชร/ กรุสุโขทัย ที่แตกหักเสียหาย มาผสมเป็นชนวนมวลสาร ผสมกับแผ่นทองลงอักขระยันต์จากหลายๆคณาจารย์ดังๆในยุคนั้นจำนวนการสร้างจึงมีค่อนข้างน้อย ไม่เกิน 2000 องค์ เกจิอาจารย์ที่ร่วมปลุกเสกในพิธีมากมาย อาทิเช่น
    หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี,
    ลพ.เส่ง วัดกัลยา,
    ลพ.กึ๋น วัดดอนยานนาวา,
    หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม,
    หลวงพ่อเต๋ วัดสามง่าม,
    หลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่,
    หลวงพ่อแดง วัดทุ่งคอก ฯลฯ
     
  5. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,672
    ค่าพลัง:
    +465
    เผยแผ่บารมี พระเกจิในตำนาน แห่งลพบุรีครับ

    เหรียญปั๊มรูปเหมือนรุ่นแรก หลวงปู่จันทร์ จนฺทโชติ วัดข่อยใต้ ตำบลบ้านข่อย อำเภอเมือง จังหวัดลพบุรี (ท่านสร้างเพียงรุ่นแรก รุ่นเดียว)

    upload_2022-9-15_20-10-47.png
    upload_2022-9-15_20-12-21.png

    upload_2022-9-15_20-12-48.png

    เหรียญพระเกจิอาจารย์ดังของเมืองลพบุรีที่ชื่อ ‘จันทร์’ มีด้วยกัน ๒ รูป หนึ่งคือ หลวงปู่จัน วัดนางหนู อีกหนึ่งนั้นคือ หลวงปู่จันทร์ วัดข่อยใต้ แม้ว่าชื่อหลวงปู่จัน แห่งวัดนางหนู จะไม่มีตัว ‘ทร์’ สะกด แต่เสียงที่เปล่งออกมาก็พ้องกัน กระนั้นบางท่านเขียนชื่อหลวงปู่จัน วัดนางหนู เป็น ‘หลวงปู่จันทร์’ ก็มีเช่นกัน แต่บนเหรียญปั๊มรูปเหมือนของหลวงปู่จัน วัดนางหนู ก็ระบุบนเหรียญว่า ‘หลวงพ่อจัน’
    มีเรื่องราวเล่าขานถึงหลวงพ่อทั้ง ๒ จากผู้เฒ่าผู้แก่เมืองลพบุรีว่า เวลาที่หลวงปู่จัน วัดนางหนู สร้างวัตถุมงคล ต้องนิมนต์หลวงปู่จันทร์ วัดข่อยใต้ มาร่วมปลุกเสกด้วย ทั้ง ๒ รูปนั้น ล้วนเก่งกล้าในวิชายิ่งนัก
    สำหรับหลวงปู่จันทร์ วัดข่อยใต้ ชาวบ้านเล่าว่าท่านบิณฑบาตโดยเรือไม่ต้องพายเรือ ท่านยืนตรงหัวเรือบริกรรมคาถา ตอนนั้นน้ำแรงเชี่ยวท่านคงใช้พายเรือไม่ไหว จึงต้องใช้คาถาอาคมให้เรือแล่นทวนกระแสน้ำกลับยังวัด มีชาวบ้านยืนดูกันแน่นเหมือนมีงานวัดกันเลย
    แต่ประวัติความเป็นมาของหลวงปู่จันทร์ วัดข่อยใต้ ดูเหมือนจะมีไม่มากมายนัก ที่สืบทราบได้ก็เพียงว่า ท่านเกิดในปี พ.ศ. ๒๔๒๒ เมื่ออายุได้ ๒๐ ปีบริบูรณ์ก็ได้อุปสมบท และได้จำพรรษาที่วัดข่อยใต้ ได้ศึกษาพระธรรมวินัยจนเชี่ยวชาญดีแล้ว จึงได้ออกธุดงค์ไปยังสถานที่ต่างๆ ได้ไปศึกษาพุทธาคมกับหลวงพ่อนิ่ม วัดบ้านป่า ตำบลตรีณรงค์ อำเภอไชโย จังหวัดอ่างทอง จากนั้นได้ธุดงค์ต่อได้พบปะกับพระธุดงค์ด้วยกันก็จะแลกเปลี่ยนวิชาต่อกัน
    จากนั้นจึงได้ธุดงค์กลับมายังวัดข่อยใต้ ตำบลบ้านข่อย อำเภอเมือง จังหวัดลพบุรี และได้เป็นเจ้าอาวาสวัดข่อยใต้ในเวลาต่อมา
    กล่าวสำหรับประวัติความเป็นมาของวัดข่อยใต้ กล่าวว่า เดิมเคยเป็นวัดร้างมาก่อน ต่อมาชาวบ้านข่อยใต้ได้นิมนต์หลวงปู่จันทร์ให้มาอยู่จำพรรษาที่บ้านข่อยใต้ตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๔๔๔ ยังเป็นที่พักสงฆ์อยู่ ต่อมาในปี พ.ศ. ๒๔๖๔ ได้โปรดขอพระราชทานจัดตั้งวัดขึ้น และตั้งชื่อวัดเป็นการสอดคล้องกับพื้นที่ที่อดีตเคยมีต้นข่อยจำนวนมากขึ้นทั่วไป จึงได้ตั้งชื่อว่า ‘วัดข่อยใต้’ ตามความเหมาะสมกับพื้นที่และภูมิลำเนาตำบลนั้น
    ต่อมาได้สร้างอุโบสถและได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๗๗
    หลวงปู่จันทร์ได้มรณภาพเมื่อวันที่ ๒ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๐๒
    สำหรับเหรียยปั๊มรูปเหมือนหลวงปู่จันทร์ วัดข่อยใต้ รุ่นแรกสร้างขึ้นเมื่อประมาณปี ๒๔๙๐ กว่าๆ จำนวนสร้างกล่าวว่ามีเพียง ๙๙๙ เหรียญเท่านั้น ด้านหน้าเป็นรูปเหมือนครึ่งรูปหลวงปู่จันทร์ ด้านล่างมีอักษรจารึกว่า ‘หลวงพ่อจันทร์วัดข่อยใต้’ ขอบข้างเหรียญทำเป็นเม็ดไข่ปลานับได้ ๖๐ เม็ด ด้านหลังเป็นยันต์สี่ทิศ
    นอกจากนั้นหลวงปู่จันทร์ยังได้สร้างวัตถุมงคลอีกหลายอย่างเช่น ตะกรุด เสื้อยันต์ รูปถ่ายกรอบกระจก ผ้าขอด เชือกคาดเอว ธงค้าขาย
    วัตถุมงคลของหลวงปู่จันทร์ล้วนมีประสบการณ์ให้ได้พบเห็นกัน เช่น เชือกคาดเอวกันงูของหลวงปู่จันทร์ มีชาวบ้านคาดเอวแล้วไปเดินเหยียบงูเห่าเข้า แต่งูเห่าไม่สามารถฉกกัดได้เพราะงูเห่าอ้าปากไม่ออก ดิ้นอยู่พักหนึ่งก็เลื้อยหนีไป เป็นที่เล่าขานกัน
    อีกเรื่องหนึ่งเป็นเรื่องของ ‘ธง’ เครื่องรางของขลังชนิดหนึ่งที่หลวงปู่จันทร์สร้างขึ้นมา มีครั้งหนึ่งหลังหลวงปู่จันทร์มรณภาพไปแล้ว ที่วัดมีงานทอดผ้าป่า แต่ขณะกำลังจัดงานอยู่นั้นบังเกิดท้องฟ้ามืดครึ้มฝนทำท่าจะตกลงมา เจ้าอาวาสวัดจึงได้จุดธูปบอกหลวงปู่จันทร์ แล้วนำธงมาโบกปัดไปมา ฟ้าที่มืดครึ้มอยู่ก็คลายหายไปเป็นที่อัศจรรย์
    ในส่วนของเหรียญปั๊มรูปเหมือนรุ่นแรกและรุ่นเดียวของหลวงปู่จันทร์ ก็สำแดงฤทธิ์ให้เห็นมาแล้ว เมื่อมีชาวบ้านละแวกวัดข่อยใต้ ห้อยเหรียยหลวงปู่จันทร์ไว้เพียงเหรียญเดียว ถูกคู่อริซุ่มยิงไปหลายนัดจนสลบมาฟื้นที่บ้าน ลูกน้องบอกว่าถูกยิงไปหลายนัดเป็นรอยเต็มตัว ทั้งลูกซองและ ๙ มม. และที่หัวมีรอยบวมปูดจากลูกกระสุนปืน ซึ่งเป็นนัดที่ทำให้สลบไป
    อีกสิ่งหนึ่งที่เลื่องลือของหลวงปู่จันทร์ คือ วาจาสิทธิ์ เล่าขานกันว่า ที่วัดมีเรืออยู่ลำหนึ่งสำหรับให้หลวงปู่จันทร์ใช้พายเรือออกบิณฑบาตและใช้เป็นพาหนะในการเดินทาง อยู่มาวันหนึ่งเรือลำนั้นเกิดหายไปอย่างไร้ร่องรอย ลูกศิษย์จึงรีบมาบอกกับหลวงปู่จันทร์ ท่านก็บอกว่า “ไม่เป็นไร เดี๋ยวมันกลับมา” แล้วก็เป็นจริงดังที่หลวงปู่จันทร์ว่า เรือลำนั้นกลับมาผูกไว้ที่ท่าน้ำตามเดิม
     
  6. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,672
    ค่าพลัง:
    +465
    808. พระเนื้อผงหลวงพ่อขาว วัดเสน่หา จ.นครปฐม ปี ๒๕๐๖ หลวงพ่อ.เงิน วัดดอนยายหอม, หลวงพ่อน้อย วัดธรรมศาลา, หลวงพ่อคล้าย วัดสวนขัน และเกจิร่วมปลุกเสกหลายรูป ให้บูชา 750 บาท


    upload_2022-9-15_21-30-44.png

    พระว่านยา สมเด็จสองพี่น้อง วัดเสน่หา จังหวัดนครปฐม จัดสร้างขึ้นเนื่องในโอกาส พิธีพุทธาภิเษกงานหล่อรูปเหมือนเท่าองค์จริงของพระเทพเจติยาจารย์ ในวัที่ 13 เม.ย. 2506 ตรงกับวันเสาร์ แรม 5 ค่ำเดือน 5 (เสาร์ 5)

    ผู้ดำเนินการจัดสร้างคือ พระเทพกิติเมธี (สิริ ฐานยุตโต) เจ้าอาวาสรูปที่ 4 แห่งวัดเสนหา เนื่องในโอกาสหล่อรูปเหมือนเท่าองค์จริงของหลวงปู่ใหญ่ (พระเทพเจติยาจารย์) หรือ หลวงพ่อวงศ์ วัดเสนหา ศิษย์เอกพระพุทธวิถีนายก หรือ หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว เมื่อวันเสาร์ห้า ตรงกับ วันแรม 5 ค่ำ เดือน 5 ซึ่งตรงกับ วันที่ 13 เมษายน พศ. 2506

    มวลสารหลักที่ใช้สร้าง พระหลวงพ่อดำ-หลวงพ่อขาว ได้แก่ ว่านยา 108 ชนิด ที่มีคุณวิเศษ ไม่ซ้ำกัน อาทิ พระยาว่าน ว่านท้าวมหาพรหม ว่านแม่โพสพ ว่านนะโมพุทธายะ ว่านช้างผสมโขลง ว่านขุนแผน ว่านพิชัยดาบหัก ฯลฯ ดอกไม้ 108 ชนิด ที่ไม่ซ้ำกัน อาทิ ดอกปทุมบัวหลวง ดอกเสี่ยงทาย ดอกสาวตามชู้ ดอกว่านหางกระรอก ดอกรัก ไม่ลืม ดอกดาบนารายณ์ ดอกเสือหมอบ ฯลฯ แต่ที่ขาดไม่ได้ก็คือ ดอกว่านขันหมากเงิน-ขันหมากทอง ซึ่งต้องเก็บในวันเข้าพรรษา อย่างละ 9 ดอก นำไปบูชาที่หน้าพระพุทธรูปพร้อมกับสวดมนต์ปลุกเสกทุกวัน จนครบไตรมาส จึงจะนำมาใช้ได้

    น้ำท่า 108 บาง ที่ไม่ซ้ำกัน อาทิ บางไทร บางเลน บางพระ บางอ้อม บางระกำ เป็นต้น ดอกไม้บูชาพระประธานในพระอุโบสถ คืนวันเข้าพรรษา และต้องนำมาถึงที่วัดเสนหาภายในคืนวันเข้าพรรษา 108 วัด ดอกไม้ที่พุทธศาสนิกชนนำไปบูชาพระประธานในพระอุโบสถเนื่องในวันมาฆบูชา และต้อง นำกลับมาที่วัดเสนหาภายในคืนวันมาฆบูชา 108 วัด น้ำในมหานที 9 สาย นำมา ทำน้ำมนต์ประพรม พระหลวงพ่อดำ-หลวงพ่อขาว

    ตะไคร่น้ำ ที่พระบรมมหาเจดีย์ 9 แห่งดินโป่ง 9 แห่ง แร่ธาตุ 9 ชนิด อาทิ แร่สังขวานร เป็นต้น ผงวิเศษได้จากที่ต่างๆ กัน 11 ชนิด อาทิ ผงหลวงพ่อแก้ว วัดเครือวัลย์ ที่หลวงปู่เฮี้ยง ใช้ในการผสมสร้างพระปิดตาของท่าน เป็นต้น ดินจากสังเวชนียสถาน 4 ตำบล คือ สถานที่ประสูติ ตรัสรู้ แสดงพระธัมมจักฯ และที่ปรินิพพาน ผงวิเศษ 5 ชนิด ของ อ.ชุมไชยคีรี

    น้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์จากสถานที่ต่างๆ 14 แห่ง อาทิ น้ำมนต์จากพิธี 25 พุทธศตวรรษ ที่ท้องสนามหลวง น้ำมนต์หลวงพ่อทิม วัดช้างให้ น้ำมนต์ในพระอุโบสถวัดพระแก้ว เป็นต้น ขี้เถ้าธูปจากกระถางบูชาในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ 11 แห่ง อาทิ ศาลพ่อตาหินช้าง ศาลหลักเมืองปัตตานี หลวงพ่อทวดวัดช้างให้ เป็นต้น

    นอกจากสิ่งของที่กล่าวมาข้างต้น ยังได้ดอกไม้ที่ในหลวงใช้บูชาพระแก้วมรกตในคืนวันจาตุรงคสันนิบาต เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2506 มาผสมด้วย

    พิธีพุทธาภิเษก ได้จัดขึ้นถึง 3 วาระด้วยกัน

    ครั้งที่ 1 นำว่านยาและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมด ที่จะใช้สร้างพระสมเด็จหลวงพ่อดำ-หลวงพ่อขาว ทำพิธีพุทธาภิเษกด้วยพระปาติโมกข์ ในพระอุโบสถ ในวันจาตุรงคสันนิบาต วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2506

    ครั้งที่ 2 นำว่านยาและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมดที่ผ่านการบดละเอียดเป็นผงแล้ว มาทำพิธีบวงสรวงเทพยดาและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งมวลให้ร่วมเทวาภิเษกเพื่อให้เป็น ทิพยวัตถุ โดยมีพระสงฆ์ 32 รูปเท่าอาการ 32 ของคน ร่วมทำพิธีเจริญพระพุทธมนต์ สวดชยันโต และทำพิธีกดพิมพ์เป็นปฐมฤกษ์

    ครั้งที่ 3 นำพระสมเด็จหลวงพ่อดำ- หลวงพ่อขาว ที่กดพิมพ์เรียบร้อย ลงทำพิธีพุทธาภิเษก ระหว่างวันที่ 13-15 เมษายน 2506 โดยมี พระเทพเจติยาจารย์ (วงศ์) หรือหลวงปู่ใหญ่ เป็นผู้จุดเทียนชัยเป็นปฐมฤกษ์


    ซึ่งมีเกจิอาจารย์ปลุกเสก คือ
    1. หลวงพ่อคล้าย (พระครูพิศิษฐฯ) วัดสวนขัน นครศรีธรรมราช
    2. หลวงพ่อน้อย วัดธรรมศาลา นครปฐม
    3. หลวงพ่อเฮี้ยง (ท่านเจ้าคุณพระวรพรตปัญญาจารย์) วัดอรัญญิกาวาส ชลบุรี
    4. หลวงพ่อเจริญ (ท่านเจ้าคุณพระราชสมุทรเมธี) วัดเจริญสุขาราม สมุทรสงคราม
    5. หลวงพ่อเงิน (ท่านเจ้าคุณพระราชธรรมาภรณ์) วัดดอนยายหอม นครปฐม
    6. หลวงพ่อสอน (ท่านเจ้าคุณกาญจนวัตรวิบูล) วัดลาดหญ้า กาญจนบุรี
    7. หลวงพ่อถิร (ท่านพระครูรักขิตวันมุนี) วัดป่าเลไลยก์ สุพรรณบุรี
    8. หลวงพ่อแดง (ท่านพระครูสุวรรณกิจ) วัดทุ่งคอก สุพรรณบุรี
    9. หลวงพ่อรอด (ท่านปลัดรอด) วัดประดู่พัฒนาราม นครศรีธรรมราช
    10. หลวงพ่อนาค วัดศรีโลหะราษฎร์บำรุง กาญจนบุรี
    11. หลวงพ่อลำเจียก (ท่านพระครูสมณธรรมสมาทาน) วัดศาลาตึก
    12. หลวงพ่อปาน (ท่านพระครูพรหมสุทธิ) วัดหนองปลาไหล นครปฐม
    13. หลวงพ่อสำเนียง (ท่านพระครูสถาพรพุทธมนต์) วัดเวฬุวัน นครปฐม
    14. หลวงพ่อสัมฤทธิ์ (ท่านพระครูพินิจสุวรรณภูมิ) วัดอู่ทอง สุพรรณบุรี
    15. หลวงพ่อเทพ ปิยวณฺโณ สำนักสงฆ์โพธิ์ทองเทพาราม
    16. ส ฐ. วัดเสนหา นครปฐม
    17. อาจารย์ชุม ไชยคีรี เป็นเจ้าพิธี
    อาจารย์นั่งบริกรรมและเจริญพระพุทธมนต์
    1. หลวงพ่อนาค วัดระฆังโฆสิตาราม (ท่านเจ้าคุณพระเทพสิทธินายก) ธนบุรี
    2. หลวงพ่อวัดบุปผาราม (ท่านเจ้าคุณพระเทพปัญญามุนี) ธนบุรี
    3. หลวงพ่อวัดสุทธจินดา (ท่านเจ้าคุณพระราชสุทธาจารย์) นครราชสีมา
    4. หลวงพ่อวัดเขาเต่า (ท่านเจ้าคุณพระภัทรมุขมุนี) ประจวบคีรีขันธ์
    5. หลวงพ่อวัดบุปผาราม (ท่านเจ้าคุณพระกิตติวิมลเมธี) ธนบุรี
    6. หลวงพ่อวัดราชประดิษฐ์ (ท่านพระครูจิตตานุรักษ์) พระนคร
    โดยมีอาจารย์ชุม ไชยคีรี เป็นเจ้าพิธี ตลอดทั้ง 3 วัน 3 คืน

     
  7. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,672
    ค่าพลัง:
    +465
    809. หนึ่งในยอดพระเกจิ เมืองกรุงเก่า ที่ เลื่องลือด้านคงกระพัน พระสมเด็จหลังรูปเหมือน หลวงพ่อตั๋ง วัดโพธิ์เอน จ.อยุธยา ปิดรายการครับ


    upload_2022-9-16_13-28-45.png

    พระสมเด็จหลังรูปเหมือน หลวงพ่อตั๋ง วัดโพธิ์เอน จ.อยุธยา พระเครื่องท่านชาวบ้านแถบ อ. ท่าเรือ หวงแหนจากประสบการณ์หลายหน หลายครั้ง ที่กล่าวขานที่สุดคือพระสมเด็จของท่าน ขนาด 11 มม. ยังไม่ได้กินเลือด หลวงพ่อตั๋งเป็นพระรุ่นเดียวกับหลวงพ่อตาบ วัดมะขามเรียง เคยฟังคนพื้นที่เล่าให้ฟังว่าลูกศิษย์หลวงพ่อตั๋งและลูกศิษย์ของหลวงพ่อตาบ ได้ลองพระเครื่องของทั้งสองอาจารย์ดวนปืนกันเลย ปรากฏว่าศิษย์หลวงตั๋ง โดนเหมือนกันแต่ไม่เข้าเลยสักลูก ศิษย์หลวงพ่อตาบเข้าไม่เหลือ ชาวบ้านแถบ อ. ท่าเรือรู้ดี ปัจจุบันสังขารหลวงพ่อไม่เน่าเปื่อย และตั้งไว้ให้บูชาในโรงแก้วที่วัด

    ประวัติ หลวงพ่อตั๋ง ปิยคุโณ
    หลวงพ่อตั๋ง ปิยคุโณ
    เดิม
    ชื่อตั๋ง เต้่าสุวรรณ เกิดวันพุธที่11 ธันวาคม พ.ศ.2455 ปีชวด ที่บ้านโพธิ์เอน ต.โพธิ์เอน อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา เป็นบุตรคุณพ่ออยู่ คุณแม่ใย เต้าสุวรรณ มีพี่น้องร่วมบิดามารดา7คน
    1 นายพรหม เต้าสุวรรณ
    2น.ส.ลำยวง เต้าสุวรรณ
    3นางชิด อารมย์สุข
    4นายบุญช่วย เต้าสุวรรณ
    5นายตั๋ง เต้าสุวรรณ
    6น.ส.ติ้ง เต้าสุวรรณ
    7นายเชื้อ เต้าสุวรรณ(ถึงแก่กรรมทั้งหมด)
    อุปสมบท
    เมื่ออายุครบ20ปีได้อุปสมบท ณ พัทธสีมาวัดโพธิ์เอน ต.โพธิ์เอน อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา เมื่อวันที่ 12พฤาภาคม 2475 มีพระอธิการโป๋ เจ้าอาวาสวัดวังแดงเหนือ เป็นพระอุปัชฌาย์ มีพระอธิการก๋งเจ้าอาวาสวัดโพธิ์เอน เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และอาจารย์โกยเป็นอนุสาวนาจารย์(พระตั๋งได้รับฉายาปิยคุโณ)
    หลวงพ่อตั๋ง มีความเป็นอยู่อย่างสมถะ พูดน้อยแต่แฝงด้วยความปราณี เป็นศิษย์ร่วมครูอาจารย์กับหลวงพ่อย้อย วัดอัมพวัน สระบุรีและหลวงพ่อแจ่ม วัดวังแดงเหนือ อยุธยา มีความขลังทางพุทธาคมคาถาเป็นอมตะ สร้างวัตถุมงคลเพื่อการสร้างพระศาสนาไม่หลายรุ่นนัก ปัจจุบันเป็นที่นิยมอย่างกว้างขวาง หลวงพ่อตั๋ง นับเป็นพระเถราจารย์บริสุทธิ์ด้วยศิลและมีกฤษฏาอภินิหารอีกรูปหนึ่งแห่งลุ่มน้ำป่าสักตอนใต้ หลังจากอุปสมบทแล้ว ท่านได้จำพรรษาที่วัดโพธิ์เอนได้ศึกษาพระธรรมวินัยอันเป็นพระปริยัติกับหลวงพ่อก๋ง แต่ไม่ได้เข้าสอบธรรมสนามหลวง ท่านได้หันมาเอาดีทางสมถกรรมฐานและเวทมนต์คาถาโดยมีอาจารย์พ่อก๋งเป็นผู้ประสิทธิ์วิทยาคุณต่างๆ มาถึงตอนนี้ขออ้างอิงสิ่งที่น่าเชื่อถือได้สักนิด ผู้เขียนเคยกราบเรียนถามถึงความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อก๋ง ว่ามีมากน้อยเพียงไร หลวงพ่อตั๋งเล่าว่า หลวงพ่อก๋งบรรลุฌานกสิณแก่กล้า สามารถลงไปในน้ำจับปลาเป็นๆขึันมาได้ และยังเดินบนผิวน้ำได้อีกด้วย โดยเฉพาะความขลังในการเสกเป่าน้ำ พระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์มาก หลวงพ่อตั๋งได้รับการถ่ายทอดวิทยาตุณต่างๆ จากหลวงพ่อก๋งอย่างไม่ปิดบังอำพรางโดยเฉพาะทางสมถกรรมฐานท่านกรุณาแนะนำหลักปฏิบัติจนมีความเชี่ยวชาญ ในการเจริญภาวนา มีสมาธิจิตกล้าแข็งและว่องไว สามารถปลุกเสกวัตถุมงคลต่างๆ ให้เกิดอานุภาพนานาประการทั้งปวง เมตตามหานิยม มหาอำนาจและคงกระพันชาตรี คุณวิเศษที่กล่าวมานี้ คือผลการเจริญกรรมฐาน จนจิตเป็นสมาธิชั้นสูง ซึ่งหลวงพ่อก๋งเป็นผู้บอกพระกรรมฐาน และชี้แนะหลักปฏิบัติแต่เริ่มแรก ต่อมาได้เข้าฝากตัวเป็นศิษย์ กับหลวงพ่อโป๋ วัดวังแดงเหนือ ซึ่งเป็นพระอุปัชฌาย์ เพื่อเพิ่มวิทยาคุณเวทมนต์คาถา ให้กว้างขวางยิ่งขึ้น หลวงพ่อโป๋ท่านกรุณาถ่ายทอดวิทยาคุณต่างๆ จนหมดสิ้นเช่นกัน ยิ่งกว่านั้น....รออ่านตอนต่อไปพักสายตาก่อนครับ..ยังไม่ถึงตอนดุเดือด ...มาอ่านต่อ..ยิ่งกว่านั้นท่านยังแนะนำหลักปฎิบัติการเจริญภาวนา ในบทคาถาต่างๆให้เกิดความขลังยิ่งยวดขึ้นไปอีก โดยเฉพาะวิชาทำน้ำมนต์เดือด ท่านปฎิบัติได้เข้มขลังยิ่งนัก ตอนผมบวชอยู่ เมื่อปี2521 ผมเห็นกับตา ซึ่งเป็นเรื่องแปลกมาก จากนั้นหลวงพ่อลงมาจำพรรษาที่วัดลอดช่องเมืองกรุงเก่า ขอฝากตัวเป็นศิษย์หลวงพ่อแข่ม เพื่อขอเรียนวิชาเรียกสูตรสนธิการทำผงพุทธคุณต่างๆ ซึ่งหลวงพ่อแช่มท่านกรุณารับไว้เป็นศิษย์ด้วยความเต็มใจ หลวงพ่อตั๋งมีความชำนาญอ่านเขียนหนังสือขอมอย่างดีเยี่ยม อักขระคาถาเลขยันต์ต่างๆ ท่านมีความรู้อยู่ในขั้นพระเถราจารย์ชั้นแนวหน้าเลยทีเดียว โดยเฉพาะผงพุทธคุณที่ท่านลบและปลุกเสกมีความศักดิ์สิทธิ์ชนิดที่ว่าทรงคุณวิเศษนานัปการ หลวงพ่อตั๋งคร่ำเคร่งอยู่กับวิชาไสยศาสตร์เป็นเวลานานหลายปี หลังจากนั้น ท่านจาริกธุดงค์ไปตามสถานที่ต่างๆ ทางภาคเหนือหลายแห่ง มีโอกาสเข้ากราบคารวะพระเดชพระคุณหลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ พระผู้ทรงความศักดิ์สิทธิ์แห่งเมืองนครสวรรค์อีกด้วย มาถึงปีพ.ศ.2489 เมื่อครูอาจารย์ของหลวงพ่อถึงกาลมรณภาพลงหมด



    หลวงพ่อตั๋ง มีความเป็นอยู่อย่างสมถะ พูดน้อยแต่แฝงด้วยความปราณี เป็นศิษย์ร่วมครูอาจารย์กับหลวงพ่อย้อย วัดอัมพวัน สระบุรีและหลวงพ่อแจ่ม วัดวังแดงเหนือ อยุธยา มีความขลังทางพุทธาคมคาถาเป็นอมตะ สร้างวัตถุมงคลเพื่อการสร้างพระศาสนาไม่หลายรุ่นนัก ปัจจุบันเป็นที่นิยมอย่างกว้างขวาง หลวงพ่อตั๋ง นับเป็นพระเถราจารย์บริสุทธิ์ด้วยศิลและมีกฤษฏาอภินิหารอีกรูปหนึ่งแห่งลุ่มน้ำป่าสักตอนใต้ หลังจากอุปสมบทแล้ว ท่านได้จำพรรษาที่วัดโพธิ์เอนได้ศึกษาพระธรรมวินัยอันเป็นพระปริยัติกับหลวงพ่อก๋ง แต่ไม่ได้เข้าสอบธรรมสนามหลวง ท่านได้หันมาเอาดีทางสมถกรรมฐานและเวทมนต์คาถาโดยมีอาจารย์พ่อก๋งเป็นผู้ประสิทธิ์วิทยาคุณต่างๆ มาถึงตอนนี้ขออ้างอิงสิ่งที่น่าเชื่อถือได้สักนิด ผู้เขียนเคยกราบเรียนถามถึงความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อก๋ง ว่ามีมากน้อยเพียงไร หลวงพ่อตั๋งเล่าว่า หลวงพ่อก๋งบรรลุฌานกสิณแก่กล้า สามารถลงไปในน้ำจับปลาเป็นๆขึันมาได้ และยังเดินบนผิวน้ำได้อีกด้วย โดยเฉพาะความขลังในการเสกเป่าน้ำ พระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์มาก หลวงพ่อตั๋งได้รับการถ่ายทอดวิทยาตุณต่างๆ จากหลวงพ่อก๋งอย่างไม่ปิดบังอำพรางโดยเฉพาะทางสมถกรรมฐานท่านกรุณาแนะนำหลักปฏิบัติจนมีความเชี่ยวชาญ ในการเจริญภาวนา มีสมาธิจิตกล้าแข็งและว่องไว สามารถปลุกเสกวัตถุมงคลต่างๆ ให้เกิดอานุภาพนานาประการทั้งปวง เมตตามหานิยม มหาอำนาจและคงกระพันชาตรี คุณวิเศษที่กล่าวมานี้ คือผลการเจริญกรรมฐาน จนจิตเป็นสมาธิชั้นสูง ซึ่งหลวงพ่อก๋งเป็นผู้บอกพระกรรมฐาน และชี้แนะหลักปฏิบัติแต่เริ่มแรก ต่อมาได้เข้าฝากตัวเป็นศิษย์ กับหลวงพ่อโป๋ วัดวังแดงเหนือ ซึ่งเป็นพระอุปัชฌาย์ เพื่อเพิ่มวิทยาคุณเวทมนต์คาถา ให้กว้างขวางยิ่งขึ้น หลวงพ่อโป๋ท่านกรุณาถ่ายทอดวิทยาคุณต่างๆ จนหมดสิ้นเช่นกัน ยิ่งกว่านั้น....รออ่านตอนต่อไปพักสายตาก่อนครับ..ยังไม่ถึงตอนดุเดือด ...มาอ่านต่อ..ยิ่งกว่านั้นท่านยังแนะนำหลักปฎิบัติการเจริญภาวนา ในบทคาถาต่างๆให้เกิดความขลังยิ่งยวดขึ้นไปอีก โดยเฉพาะวิชาทำน้ำมนต์เดือด ท่านปฎิบัติได้เข้มขลังยิ่งนัก ตอนผมบวชอยู่ เมื่อปี2521 ผมเห็นกับตา ซึ่งเป็นเรื่องแปลกมาก จากนั้นหลวงพ่อลงมาจำพรรษาที่วัดลอดช่องเมืองกรุงเก่า ขอฝากตัวเป็นศิษย์หลวงพ่อแข่ม เพื่อขอเรียนวิชาเรียกสูตรสนธิการทำผงพุทธคุณต่างๆ ซึ่งหลวงพ่อแช่มท่านกรุณารับไว้เป็นศิษย์ด้วยความเต็มใจ หลวงพ่อตั๋งมีความชำนาญอ่านเขียนหนังสือขอมอย่างดีเยี่ยม อักขระคาถาเลขยันต์ต่างๆ ท่านมีความรู้อยู่ในขั้นพระเถราจารย์ชั้นแนวหน้าเลยทีเดียว โดยเฉพาะผงพุทธคุณที่ท่านลบและปลุกเสกมีความศักดิ์สิทธิ์ชนิดที่ว่าทรงคุณวิเศษนานัปการ หลวงพ่อตั๋งคร่ำเคร่งอยู่กับวิชาไสยศาสตร์เป็นเวลานานหลายปี หลังจากนั้น ท่านจาริกธุดงค์ไปตามสถานที่ต่างๆ ทางภาคเหนือหลายแห่ง มีโอกาสเข้ากราบคารวะพระเดชพระคุณหลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ พระผู้ทรงความศักดิ์สิทธิ์แห่งเมืองนครสวรรค์อีกด้วย มาถึงปีพ.ศ.2489 เมื่อครูอาจารย์ของหลวงพ่อถึงกาลมรณภาพลงหมด
    ช่วงนั้นวัดโพธิ์เอนว่างเจ้าอาวาสคณะสงฆ์จึแต่งตั้งให้ท่านดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดโพธิ์เอนสืบต่อมาจนถึง พ.ศ.2538 หลังจากเป็นเจ้าอาวาสวัดโพธิ์เอนแล้ว หลวงพ่อได้ปฎิสังขรณ์และก่อสร้างอาคารเสนาสนะต่างๆ ที่ชำรุดทรุดโทรมอย่างเต็มสติกำลัง ตามความสามารรถ ท่านทุ่มเทกำลังกายกำลังความคิดและมีอุตสาหะวิริยะอย่างยอดเยี่ยม



    เรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้อุบัติขึ้นเมื่อประมาณปีพ.ศ.2525 ผู้ประสบการณ์ไม่ประสงค์ออกนาม ปัจจุบันท่านอยู่ในเพศบรรชิต กรุณาเล่าให้ผู้เขียนฟังว่า เมื่อประมาณปีพ.ศ.2525 มีอยู่วันหนึ่งท่านโดนยิงด้วยปืนลูกซองระยะประมาณ5วาเศษเรียกว่าระยะเผาขน ลูกปืนถูกบริเวณหน้าอกและลำคอ ความแรงของลูกปืนทำให้หงายหลังลงไปนอนแผ่หลา ด้วยอานุภาพของ........เหรียญรุ่นแรก.......ปีพ.ศ.2522........คุ้มครองแค่ผิวหนังไหม้เกรียมเป็นจุดลูกปืนเท่านั้น ท่านบอกว่าเหรียญรุ่นนี้มีคุณวิเศษในทางอยู่คงกระพัน อย่างยอดเยี่ยม ถ้าวันนั้นเหรียญหลวงพ่อตั๋งไม่คุ้มครอง ร่างคงพรุนเป็นแน่ ท่านใดที่ได้บูชาไปจากรายการช็อคโลก เก็บรักษาไว้ให้ดีนะครับ ประวัติและเกียรติคุณของหลวงพ่อตั๋ง ที่ลำดับความมาตั้งแต่ต้นจนถึงบทสุดท้ายนี้ หวังว่าคงสร้างศรัทธาต่อท่านผู้อ่านตามสมควรโดยเฉพาะวัตถุมงคลของหลวงพ่อ เคยก่ออภินิหารทุกรุ่น แต่ไม่มีผู้ใดนำความศักดิ์สิทธิ์มาเผยแพร่ให้เลื่องลือชื่อเสียง ท่านจึงเป็นเสมือนเพชรน้ำหนึ่งที่ซ่อนแสงอยู่ในเงามืดมาโดยตลอด
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 กันยายน 2022
  8. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,672
    ค่าพลัง:
    +465
    810.พระนาคปรก วัดพลับพลา จ.นนทบุรี ปี2519 พระดี พิธีใหญ่ ให้บูชา 650 บาท

    upload_2022-9-16_16-47-46.png


    ดำเนินการสร้างโดยพระครูใบฏีกาสุพจน์ แห่งวัดพลับพลา
    โดยมีวัตถุประสงค์ดังนี้คือ
    1. สมทบทุนก่อสร้างอุโบสถ วัดพลับพลา จ.นนทบุรี
    2. สมทบทุนก่อตั้งมูลนิธิสมเด็จพระอริยวงศานุวงศาคตญาณ(ปุน ปุณณสิริ)
    รุ่นนี้ออกแบบโดย นายช่างเกษม มงคลเจริญ ซึ่งถือเป็นยอดฝีมือแห่งยุคนั้น มีพิธีปลุกเสกเป็นพิธีใหญ่โดย หลวพ่อวัดดอนตัน ทำพิธีปลุกเสกเดี่ยว ณ วัดดอนตัน อ.ท่าวังผา จ.น่าน ก่อน จากนั้นได้นำเข้า พิธีพุทธาภิเษก ณ.วัดพลับพลา จ.นนทบุรี เมื่อวันที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2519
    โดยมีพระเถราจารย์ผู้ทรงพุทธาคม ร่วมนั่งปรกในพิธี 39 รูป ดังรายนามดังต่อไปนี้
    1. พลวงพ่อถิร วัดป่าเลไลย์
    2. หลวงพ่อแช่ม วัดดอนยายหอม
    3. หลวงพ่อพริ้ง วัดโบสถ์โก่งธนู
    4. หลวงพ่อสนิท วัดศีลขันธานารม
    5. หลวงพ่อจ้วน วัดเขาลูกช้าง
    6. พระโพธิวรคุณ วัดโพธินิมิตร
    7. หลวงพ่อแก้ว วัดลาดปทุมคงคาราม
    8. หลวงพ่อทองสุก วัดสะพานสูง
    9. หลวงพ่อจวน วัดหนองสุ่ม
    10. หลวงพ่อเส่ง วัดกัลยาณมิตร
    11. หลวงปู่คำมี วัดถ้ำคูหาสวรรค์
    12. หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี
    13. หลวงพ่อบุญมา วัดอุดมคงคาคีรีเขต
    14. หลวงพ่อคูณ วัดสระแก้ว(บ้านไร่)
    15. หลวงพ่อนอ วัดกลางท่าเรือ
    16. หลวงพ่อหงษ์ วัดชลคราม
    17. หลวงพ่อเส็ง วัดบางนาใน
    18. หลวงพ่อรวย วัดท่าเรือ
    19. หลวพ่อเนื่อง วัดจุฬามณี
    20. หลวงพ่อเทียม วัดกษัตราธิราช
    21. หลวงพ่อกี๋ วัดหูช้าง
    22. หลวงพ่อคง วัดวังสรรพรส
    23. หลวงพ่อไพริน วัดดอน
    24. หลวงพ่อสิน วัดปลายคลอง
    25. หลวงพ่อคร่ำ วัดวังหว้า
    26. หลวงพ่อคร้าม วัดกลุ่มหัก
    27. หลวงพ่อถิร วัดหนองสรวง
    28. หลวงพ่อผ่อง วัดจักรวรรรดิ์ราชาวาส
    29. หลวงพ่อสร้อย วัดเลียบราษฏร์บำรุง
    30. หลวงพ่อแสน วัดท่าแหน
    31. หลวงพ่อครูบอินถา วัดพระพุทธสันติปารังการ
    32. หลวงพ่อสุด วัดกาหลง
    33. หลวงพ่อพยนต์ วัดเกตุมวดีศรีวราราม
    34. หลวงพ่อประสิทธิ์ วัดไทรน้อย
    35. หลวงพ่อเก๋ วัดปากน้ำ
    36. หลวงพ่อจำรัส วัดเกาะสมอ
    37. พระอาจารย์บรรจง วัดบางแพรกใต้
    38. หลวงพ่อตี๋ วัดพรหมวิหาร
    39. หลวงพ่อบุญมี วัดคูหาสวรรค์
    โดยมี สมเด็จพระธีรญาณมุณี วัดจักวรรดิ์ราชาวาส อธิษฐาน และจุดเทียนชัย

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 กันยายน 2022
  9. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,672
    ค่าพลัง:
    +465
    811.ผงวิเศษในตำนาน สุดยอดเมตตามหานิยม พระผงกลีบบัว พระครูใบฎีกาเกลี้ยง วัดสุทัศน์ ปี 2475 ให้บูชา 1850 บาท

    upload_2022-9-16_17-2-25.png

    พระผงรูปกลีบบัว ของพระครูใบฎีกาเกลี้ยง วัดสุทัศน์เป็นพระพิมพ์รูปกลีบบัวประกอบเส้นรัศมีขนาดเล็ก
    สร้างด้วยเนื้อผงขาวหรือเนื้อตระกูลพระสมเด็จฯและเนื้อดินผสมผงพุทธคุณ ท่านเป็นลูกศิษย์ใกล้ชิดสังฆราชแพองค์หนึ่งพระที่ท่านสร้างมีพุทธคุณด้านเมตตาค้าขายเป็นที่เลื่องลือ แม่ค้านิยมมากมีเรื่องเล่าว่าท่านนำไปแจกแม่ค้า ที่บ้านเกิดท่าน ปรากฏว่าแม่ค้าคนนั้นขายของดีหมดเกลี้ยงทุกวัน อุปมาดั่งชื่อผู้สร้างพระนั่น เอง "ขายหมดเกลี้ยง" ชื่อเสียงเกียรติคุณของพระครูใบฎีกาเกลี้ยงโด่งดังขจรขจายในด้านวิทยายุทธพุทธาคมเป็นที่กล่าวขานกันมากองค์หนึ่งแห่งสำนักวัดสุทัศน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการลงประทีปทำผงและการลงยันต์พุทธซ้อน ในด้านการทำผงวิเศษ ซึ่งประกอบด้วยผงปถมัง อิทธะเจ, มหาราช ตรีนิสิงเหฯ นั้น
    ผงของพระครูใบฎีกาเกลี้ยงแห่งสำนักวัดสุทัศน์เจ้านี้ได้รับคำยกย่องมากที่ สุด เล่ากันว่า ผงที่ท่านลบอยู่ในกระดานนั้น ขณะที่ท่านบริกรรมปลุกเสกจะเดินได้ประหนึ่งมดปลวกที่มีชีวิต และด้วยผงวิเศษต่าง ๆ ที่ท่านสำเร็จดังกล่าวนี้แหละได้รวบรวม โดยเนื้อแท้ของพระกลีบบัวพิมพ์นี้สีขาวเป็นพระผงตระกูลสมเด็จฯ คือมีส่วนผสมของปูนเปลือกหอยและน้ำมันตั้งอิ๊ว แต่ที่มีสีต่าง ๆ เช่น เหลือง ทอง เทา เขียว และดำ (ผงใบลาน) นั้นได้ตกแต่งสีด้วยสีฝุ่น และเมื่อมีวัดไหนจะทำการบูรณะปฏิสังขรณ์หรือมีการบรรจุพระลงพระเจดีย์มาขอ ท่านจะมอบให้แห่งละเป็นจำนวนมาก ๆ พระผงกลีบบัวพิมพ์นี้ จึงมีแจกอยู่แพร่หลายและหลายสำนักด้วยกัน เช่นที่ หลวงพ่อท้วม วัดไชยนาวาส หลวงพ่อครื้น วัดสังโฆ สุพรรณบุรี วัดบางหัวเสอ วัดยอด และอีกหลาย ๆ วัด ในอำเภอเสนา จังหวัดอยุธยา เป็นต้น


    เรียกว่าเป็นของดีสามอาจารย์รวมอยู่ในพระเครื่ององค์จ้อยทีเดียว อีกทั้งยังได้รวบรวมพระหักจากวัดระฆังและวัดสามปลื้มอีกด้วย พระครูใบฎีกาเกลี้ยงจึงคิดพิมพ์พระผงและพระเนื้อดินทั้งแกะแม่พิมพ์เองและทั้งถอดพิมพ์พระเครื่องอื่นๆที่ใกล้ตัว ทำพระทุกวันภายในกุฏิคณะ6 ดังคำที่ท่านปรารภว่า ***เราเป็นภิกษุ ปั้นพระวันละ 5 องค์ 10 องค์สืบพระศาสนา***พิมพพระไปปลุกเสกไป ทำเช่นนี้ทุกวันไม่มีผู้ช่วยนอกจากพระอาจารย์หนู(นิรันดร์ แดงวิจิตร)เมื่อบวชเป็นพระท่านเล่าว่าได้มีโอกาสช่วยท่านพระครูเกลี้ยงตำผงและพิมพ์พระ และว่าพระพิมพ์ส่วนใหญ่ของท่านพระครูเกลี้ยงจะหย่อนด้านความงามเพราะเน้นเฉพาะคุณภาพ ส่วนพระพิมพ์ที่ออกมาสวยงามนั้น ส่วนใหญ่เป็นฝีเมือกดพิมพ์ของพระอาจารย์หนูทั้งสิ้น ปีที่สร้างพระเครื่องทั้งเนื้อผงและเนื้อดินของท่านอยู่ในระหว่าง ปี พ.ศ.2476-2484 ในแต่ละครั้งที่วัดสุทัศนเทพวรารามจัดพิธีสร้างพระกริ่ง พระชัยวัฒน์ของสมเด็จพระสังฆราชแพพระเครื่องเหล่านี้จะนำมาเข้าพิธีทุกครั้งไป จำนวนการสร้างรวมกันแล้วมีมากถึง84000องค์เท่ากับจำนวนพระธรรมขันธ์ พระส่วนใหญ่เป็นพระพิมพ์กลีบบัวเนื้อผงสีขาว ที่เนื้อผงสีเขียวมีจำนวนน้อย เกิดจากปฏิกิริยาของผงตะใบพระกริ่งที่ผสมอยู่ในเนื้อพระเป็นจำนวนมากทำให้เกิดสนิมเขียวเป็นจุดเป็นจ้ำ ประปราย ที่มีมากก็จะปรากฎให้สีของพระเขียวทั้งองค์ก็มีปรากฎ ส่วนใหญ่เป็นพระพิมพ์กลีบบัว นางกวัก และพระสังกัจจายน์.

     
  10. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,672
    ค่าพลัง:
    +465
    811.ที่สุดของพระเครื่องแห่งพระสายกรรมฐาน พระโพธิ์จักร หลวงพ่อลี วัดอโศการาม สมุทรปราการ ปี2500 ให้บูชา 3,xxx บาท

    upload_2022-9-16_17-25-19.png

    มูลเหตุแห่งการสร้างพระของท่านพ่อลี
    ท่านฯได้เดินทางไปนมัสการองค์พระปฐมเจดีย์ ครั้นเมื่อได้จุดธูปสักการะ ได้ปรากฏการอัศจรรย์เกิดขึ้นขี้ธูปที่ถูกจุดโดยท่านพ่อลี ได้มีรูปร่างเป็นพระโพธิจักร ท่านฯ จึงกำหนดจิตอธิษฐานถึงสาเหตุที่ธูปได้มีรูปร่างเป็นองค์พระทำให้ทราบว่า นี่คือ พิมพ์พระที่จะต้องสร้างในงานพิธีฉลองสมโภชน์ยี่สิบห้าศตวรรษ

    ประวัติการสร้างพระพิมพ์ใบโพธิ์ หลวงพ่อลี พระพิมพ์ที่ทำแบบใบโพธินี้ เรียกว่า พระโพธิจักร ทำเป็นพระพุทธรูปปางแสดงพระธรรมจักร ประดิษฐ์อยู่ในใบโพธิ์ ต่อมาเนื่องจากเหตุบางประการ ท่านจึงทำเป็นพระพุทธรูปปางสมาธิ ประดิษฐานอยู่ในใบโพธิทำนองเดียวกัน เหตุที่เปลี่ยนมาเป็นพระปางสมาธินั้น ท่านกล่าวไว้ในประวัติของท่านว่า วันหนึ่งเกิดนิมิตแปลกประหลาด คืนวันหนึ่งเงียบสงัดกำลังนั่งพิมพ์พระพุทธรูปอยู่ มีพระบรมธาตุองค์หนึ่งได้เสด็จมาปาฏิหารย์มาอยู่บนเตียงนอน มีลักษณะคล้ายรูปพระใบโพธิ์ที่กำลังพิมพ์อยู่ แต่พระใบโพธิ์ที่พิมพ์อยู่เป็นแบบพระแสดงธรรมจักร คือยกพระหัตถ์ ๒ ข้างเป็นแบบแสดงพระธรรมเทศนา จึงได้ตั้งชื่อพระพิมพ์นี้ว่า พระโพธิจักร

    ...ท่านพ่อลีท่านได้สะสมมวลสารที่เป็นมงคลและศักดิ์สิทธิ์ๆ ไว้จำนวนมาก และนำมาเป็นส่วนผสมสร้างพระเครื่องของท่าน พระอ.สนั่นและคุณมงคล จิรวัฒน์เล่าว่า มีผงศักดิ์สิทธิ์และเส้นเกศาของ ๗ อาจารย์ที่กำลังดังในสมัยนั้นรวมอยู่ด้วยคือ
    ๑.พระอ.เสาร์ กนฺตสีโล
    ๒.พระอ.มั่น ภูริทตฺโต
    ๓.พระอ.ฝั้น อาจาโร
    ๔.พระอ.เทสน์ เทสรังสี
    ๕.พระอ.กงมา จิรปุญฺโญ
    ๖.พระอ.หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันน
    ๗.พระอ.ชา สุภทฺโท
    ....รวมกับผงเกสรดอกไม้ที่เป็นมงคล เกสรดอกไม้ ๑๐๘ ที่ใช้บุชาพระแล้วนำมาตากให้แห้งป่นจนละเอียดเป็นผง นอกจากนี้ยังมีดิน ทราบจากสถานที่สำคัญและศักดิ์สิทธิ์ทางพระพุทธศาสนาในประเทศอินเดีย เช่น ดิน ทรายจากสถานที่ตรัสรู้ ดิน ทราบจากสถานที่นิพพานและที่อื่นๆ อีกหลายแห่ง สำหรับในเมื่องไทยนั้นก็ได้ดิน ทรายจากถ้ำทางภาคใต้ ซึ่งเรียกว่า ถ้ำกองทราย ถือว่าเป็นดิน ทรายที่ศักดิ์สิทธิ์ ทางไปเอานั้นลำบากมาก ต้องนั่งช้างเข้าไปถึง ๑ วันเต็มๆ ครั้นนั้นเดินทางไปกับพระมหาสมจิตและพระอ.เม้าทางภาคอีสานก็ได้ข้าวตาฤาษีเป็นของศักดิ์สิทธิ์อยู่ในถ้ำเขตอำเภอหล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์ มีเปลือกเป็นหินแข็งมาก ตะไตร่น้ำจับอยู่ภายนอกเขียวเต็มไปหมด ต้องนำมาทุบให้แตก จะมีไฟแลบ ข้างในจะมีเม็ดข้าว เล่ากันว่าเป็นข้าวที่ตาฤาษีกินเหลือแล้วเอาหินห่อทิ้งไว้ อายุเป็นพันๆ ปีมาแล้ว และนอกจากนี้ยังได้เปลือกหอยพันปีจากในถ้ำแห่งหนึ่งทางภาคอีสานนี้ลักษณะตัวยาวๆ ว่ากันว่ามีอายุยืนยาวมาก แต่ถ้ามีคนไปถูก มันจะตายทันที นำเปลือกหอยชนิดนี้มาป่นจนละเอียด

    ...ส่วนผงพระเครื่องที่ชำรุดแตกหักจากกรุต่างๆ ที่ลูกศิษย์และผุ้ที่คุ้นเคยนำมาถวายนั้นมีเป็นจำนวนมาก เช่น จากลพบุรี พิษณุโลก พิจิตร สุโขทัย สุพรรณบุรี สงขลา อยุธยา เพชรบูรณ์ อุบลราชธานี อำเภอธาตุพนม ในกรุงเทพฯ และผงที่ท่านสร้างขึ้นเองอีกประมาณ ๑ บาตร นำมาป่นจนละเอียด ทั้งหมดนำมาคลุกเคล้าผสมเข้ากันดีแล้วจึงใส่ตุ่มตั้งไว้ พระอ.สนั่นท่านเรียกว่า ผงวิเศษ ทุกครั้งที่สร้างพระเครื่องท่านพ่อลีจะใส่ผงวิเศษนี้ลงไปด้วย พร้อมกับน้ำมนต์ ๑๐๐ ปี ที่ได้มาจากปราจีนบุรี และน้ำพระพุทธมนต์สรงพระธาตุ ซึ่งถือว่าศักดิ์สิทธิ์มาก

    ....การสร้างพระเครื่องเนื้อเกสร ท่านใช้ผงเกสรจากดอกไม้ต่างๆ ที่คนนำมาบูชาพระนำมาตากแห้งบดด้วยครกบดยาจนละเอียด ผสมด้วยแป้งปูนขาว ผสมผงวิเศษ ผสมกล้วย ผสมข้าวสุกก้นบาตร นำมาบดจนละเอียด นำลงภาชนะเคลือบ ผสมน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ ใช้พายอันเล็กๆ กวนจนเหนียว ยกพายขึ้นจะยืดแล้วหดได้จึงจะใช้ได้ เนื้อเกสรนี้บางองค์ที่พิเศษๆ จะเห็นเกษาอยู่ด้วย นั่นคือเส้นเกษาของ ๗ อาจารย์ที่กล่าวมาแล้ว บางองค์จะมีเล็บของท่านพ่อลี บางองค์มีพระธาตุอัฐของพระอาจารย์บางท่าน ขอให้สังเกตุให้ดีๆ เมื่ออัดพิมพ์แล้วจึงนำออกผึ่งจนแห้ง บางองค์ก็จะนำมาชุบน้ำผึ้งด้วย

    พิธีพุทธาภิเศกฉลองสมโภชน์ 25ศตวรรษ
    ท่านพ่อลีได้คัดฆราวาสชายและหญิงถือศีลแปด ห้ามออกจากประรำพิธีในขณะสร้างพระ จำนวน 17วัน โดยมีหลวงปู่บุญญฤทธิ์และหลวงปู่หลวง ผลัดกันคุมอยู่ในพิธี พระคณาจารย์สายป่ากรรมฐานหลายร้อยรูปได้ร่วมอฐิษฐานจิต โดยมีท่านพ่อลีเป็นประธานในพิธีครั้งนั้น พระชุดนี้ ท่านพ่อฯได้เชิญองค์พระอุปคุตมาร่วมพิธีปลุกเสกพ่นไฟเผาพระนอกจากนี้ องค์หลวงตาแอบไปปลุกเสกช่วงค่ำๆ

    วาระพุทธาภิเษก : เมื่อปี พ.ศ.2500 ณ วัดอโศการาม เป็นพิธีใหญ่อีกพิธีที่รวบรวมสายกรรมฐานของท่านอาจารย์ใหญ่มั่น มาชุมนุมกันร่วมอธิษฐานจิตพระโพธิจักรเป็นเวลา 7วัน7คืน
    รายนามพ่อแม่ครูอาจารย์ที่ร่วมอธิษฐาน
    1. พระอาจารย์สิงห์ ขันตยาโม วัดป่าสาละวัน โคราช
    2. หลวงพ่อลี วัดอโศการาม (ประธานในพิธี)
    3. หลวงปู่ฝั้น วัดถ้ำขาม
    4. หลวงปู่ตื้อ วัดอรัญญวิเวก
    5. หลวงปู่ชอบ วัดป่าสัมมานุสรณ์
    6. หลวงปู่เทสก์ วัดหินหมากเป้ง
    7. หลวงปู่สาม วัดป่าไตรวิเวก
    8. หลวงตามหาบัว วัดบ้านตาด
    9. หลวงปู่หลุย วัดถ้ำผาบิ้ง
    10. หลวงปู่สิม วัดถ้ำผาปล่อง
    11. หลวงปู่หลอด วัดใหม่เสนา
    12. ท่านพ่อเฟื่อง วัดธรรมสถิต
    13. หลวงปู่เจี๊ยะ วัดภูริทัตฯ
    14. หลวงปู่ขาว วัดถ้ำกลองเพล
    15. เจ้าคุณแดง วัดป่าประชานิยม
    16. หลวงปู่ดุลย์ วัดบูรพาราม
    17. หลวงปู่อ่อน ญานสิริ
    18. หลวงปู่แว่น วัดถ้ำพระสบาย
    19. พระอาจารย์จวน วัดภูทอก ฯลฯ

    ทั้งหมดนี้เป็นศิษย์พระอาจารย์มั่น ภูริทัตตเถระ ทั้งสิ้นเรียกว่าเป็นพระคณาจารย์ฝ่ายกัมมัฏฐานล้วนๆ และยังเป็นอาจารย์ของหลวงพ่อจรัญด้วยครับ หลวงพ่อลี ธมฺมธโร หรือ พระสุทธิธรรมรังสีคัมภีรเมธาจารย์ นับเป็นพระวิปัสนากรรมฐานศิษย์สายหลวงปู่มั่น ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นเสมือนแม่ทัพใหญ่ภาคตะวันออก ผู้เผยแผ่พระกรรมฐานสายหลวงปู่มั่น โดยหลวงพ่อลี ท่านได้เป็นผู้สร้างวัดป่าคลองกุ้ง อำเมือง จันทบุรี ได้ประสบความสำเร็จในการเผยแผ่กรรมฐานและมีลูกศิษย์เลื่อมใสจำนวนมาก ต่อมาได้มีลูกศิษย์ถวายที่ดินให้ท่านสร้างวัดอโศการาม สมุทรปราการ ซึ่งหลวงพ่อลี ได้ดำเนินการก่อสร้างเป็นสำนักสงฆ์ตั้งแต่ปี 2498 จนปัจจุบันนี้เป็นวัดที่มีพื้นที่ใหญ่โตและเป็นเสาหลักของพระสายกรรมฐาน

    หลวงพ่อลี เป็นพระที่มีพลังจิตกล้าแข็งมาก ในหมู่ศิษย์สายอาจารย์มั่น ล้วนให้การยกย่อง นอกจากนี้ท่านพ่อลี ยังมีความสามารถในการอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ ซึ่งต่อมาท่านได้สร้างเจดีย์บรรจุไว้ที่วัดอโศการาม หลวงพ่อลี เป็นพระที่ไม่ธรรมดาที่หาได้ยากยิ่งนัก หลวงพ่อลี เป็นพระสงฆ์เพียงรูปเดียว เท่าที่ทราบซึ่งสามารถเดินทางไปประเทศอินเดีย ได้ปักกลดจำพรรษา ที่บริเวณธัมเมกขสถูปในราวปี 2493 ซึ่งคนที่เคยเดินทางไปอินเดีย จะทราบดีว่า แม้ในปัจจุบันจะหาพระที่ไปนอนปักกลดภายในธัมเมกขสถูป เป็นสิ่งที่อันตรายมาก แสดงว่าหลวงพ่อลี ท่านต้องเก่งจริงๆ มิฉะนั้นอาจไม่สามารถมีชีวิตรอดกลับประเทศไทยได้โดยเฉพาะอันตรายที่มาจากคนต่างศาสนา จากโรคภัยไข้เจ็บ และอันตรายจากสิ่งลี้ลับที่ดูแลสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ หลวงพ่อลี เป็นพระที่มีบารมีสูง หลวงพ่อลี ได้อาพาธและมรณภาพลง เมื่อวันที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2504 สิริอายุรวม 54 ปี ทุกปีทางวัดจะมีการจัดงานรำลึกถึงท่านในช่วงเวลาดังกล่าว

    พระที่ท่านสร้างที่วัดป่าคลวงกุ้งนั้นส่วนใหญ่เป็นเนื้อดินมีหลายพิมพ์แต่ที่นิยมมากนั้นจะเป็นเนื้อช๊อกโกแลตซึ่งเป็นเนื้อที่ท่านผสมเองและไม่มีทราบว่าผสมอย่างไรโดยจะเป็นเนื้อผงสีน้ำตาลจนไปถึงเกือบดำมีมวลสารในเนื้อบางองค์จะมีเม็ดผดขึ้นมาสวยงามมากโดยจะมีทุกพิมพ์ที่ท่านสร้างที่วัดป่าคลองกุ้ง ในส่วนของวัดอโศการามนั้นจะเป็นพิมพ์ใบโพธิ์นั่งสมาธิมีพิมพ์ใหญ่และพิมพ์เล็ก มีทั้งหลังเรียบและหลังยันต์ดวงโดยจะมี 2 แบบคือ1.ยันต์ดวงส.1 ( ยันต์ดวงพระพุทธเจ้า ) และ ยันต์ดวงส.2 ( ยันต์ดวงของท่านพ่อลี )โดยพระของท่านมีประสบการณ์มากมายทั้งทางด้านคงกระพัน แคล้วคลาด เมตตามหานิยม


     
  11. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,672
    ค่าพลัง:
    +465

    upload_2022-9-16_19-0-54.png
     
  12. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,672
    ค่าพลัง:
    +465
    812. สมเด็จ ๙ มงคล หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ ให้บูชา 999 บาท

    upload_2022-9-16_19-20-25.png

    upload_2022-9-16_19-21-24.png

    upload_2022-9-16_19-20-33.png


    สมเด็จ ๙ มงคล หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ
    วัดอรัญญบรรพต จ.หนองคาย พิธีพุทธาภิเษกวันเสาร์ที่ 4 ตุลาคม 2540
    รายนามพระสุปฏิปันโนที่อธิฐานจิต ดังนี้
    1.หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ
    2.หลวงปู่จันทร์โสม กิตติสาโร
    3.หลวงปู่เคน สุภโร
    4.หลวงปู่จันทร์แรม เขมสิริ
    5.หลวงปู่รักษ์ ฐิตปัญโญ
    6.หลวงปู่พวง สุวีโร
    7.พระครูอุดมสังวรคุณ
    8.พระอาจารย์อำนวย ภูมิสุนทโร
    9.พระอาจารย์สุรเสียง ปญญาชิโร
    สำหรับมวลสารของวัตถุมงคล ?พระสมเด็จ 9 มงคล หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ? ล้วนเป็นมวลสารมงคลระดับสูง เต็มด้วยคุณค่าและความศักดิ์สิทธิ์ ประกอบด้วย
    1) เส้นเกศา 9 สุปฏิปันโน อันประกอบด้วย เส้นเกศา หลวงปู่พรหม จิรปุญโญ , เส้นเกศาหลวงปู่อ่อน ญาณสิริ , เส้นเกศาหลวงปู่ตื้อ อจลธัมโม , เส้นเกศาหลวงปู่ชอบ ฐานสโม , เส้นเกศาหลวงปู่เทสก์ เทสรังสี , เส้นเกศาหลวงปู่เหรียญ วรลาโภ ,เส้นเกศาหลวงปู่สิม พุทธาจาโร , เส้นเกศาหลวงปู่พระอาจารย์วัน อุตตโม , เส้นเกศาหลวงพ่อพุธ ฐานิโย
    2) ผงอังคาร 6 คณาจารย์อันประกอบด้วย ผงอังคารครูบาพรหมจักรสังวร วัดพระพุทธบาทตากผ้า จ.ลำพูน , ผงอังคารหลวงปู่สิม พุทธาจาโร สำนักสงฆ์ถ้ำผาปล่อง เชียงใหม่ , ผงอังคารหลวงปู่หลุย จันทสาโร วัดถ้ำผาบิ้ง จ.เลย , ผงอังคารหลวงปู่สาม อภิญจโน วัดป่าไตรวิเวก จ.สุรินทร์ , ผงอังคารหลวงปู่บัวพา วัดป่าพระสถิต จ.หนองคาย , ผงอังคารหลวงปู่สิงห์ทอง วัดป่าแก้วชุมพล จ.สกลนคร 3) ผงพระกรุต่าง ๆ
    4) แร่ทรายทองคำ , พลอยบดหลายชนิด อาทิ นิล ไพลิน โกเมน ฯลฯ
    5) ไหลคำดำจากประเทศลาว
    6) งาช้างบ้านเชียงบด
    7) ผงเกสร 9 ชนิด
    9) เทียนชัย
     
  13. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,672
    ค่าพลัง:
    +465
    813.สุดยอดพระดี แดนใต้ครับ พระปิดตา ท่านพ่อกล่อม หรือ หลวงพ่อกล่อม วัดหูแร่ จ.สงขลา ปี14 #4 ให้บูชา 2,000 บาท


    upload_2022-9-16_20-54-31.png
    โดยพระอาจารย์กล่อม ชื่อเต็ม " พระภควันเพชรหลีก" มวลสารนอกจากผงวิเศษแล้ว ยังมีเกสรดอกไม้,ว่านอีกหลายชนิด ที่สำคัญคือผสมผงเถ้าถ่านของการเผาแบงค์หลายชนิดของธนาคารชาติ สาขาภาคใต้หาดใหญ่ จนได้รับฉายา" พระปิดตาเงินล้านแห่งแดนทักษิณ พระปิดตาวัดหูแร่ หลวงพ่อกล่อม โกวิโท หาดใหญ่ สงขลา ๒๕๑๔ เนื้อผงผสมเถ้าธนบัตรเป็นพระเครื่องที่ "..คนใต้นิยมขูดผงใส่ของให้สาวกินคับ..."

    พระปิดตา"พระภควันเพชรหลีก"ที่พระอาจารย์กล่อม โกวิโท จัดสร้างไว้เมื่อปี๒๕๑๔ เป็นพระปิดตาที่มวลสารมาจากคัมภีร์ขอมโบราณ มวลสารที่นำมาสร้างนอกจากผงวิเศษดังกล่าวแล้ว ก็ยังมีเกสรดอกไม้และว่านอีกหลายชนิดเช่น ว่านเสน่ห์จันทร์ ว่านสาวหลง ว่านดอกทอง ว่านลูกไก่ทอง ว่านช้างประสมโขลง ว่านนางกวัก ว่านหลงรัง ว่านขุนแผน ว่านมหาลาภ ฯลฯ นอกจากนี้หลวงพ่อกล่อมยังให้ลูกศิษย์ไปขอผงเถ้าถ่านจากการเผาแบงก์ของธนาคาร มาผสมอีกด้วย เพื่อเป็นการถือเคล็ดทางโชคลาภและโภคทรัพย์ มีสร้าง ๓ พิมพ์คือพิมพ์ใหญ่,พิมพ์กลางกับพิมพ์เล็ก เนื้อผงใบลานผสมผงธนบัตรซึ่งได้ได้มาจากธนาคารแห่งประเทศไทยสาขาหาดใหญ่ ท่านก็ปลุกเสกแบบบินเดี่ยวโดยท่านลำพังผู้เดียว จากนั้นก็แจกให้ชาวบ้านไปใช้กันคนละองค์ แรกๆ ยังไม่ค่อยมีใครสนใจกันเท่าไหร่ แต่พอพระมีประสบการณ์มากขึ้น จึงมีคนมาขอพระปิดตากันจนหมดจากวัดไม่เหลือแม้แต่องค์เดียว พระปิดตารุ่นนี้นอกจากจะดีทางโชคลาภและโภคทรัพย์แล้ว ทางเมตตามหานิยม ก็เยี่ยมสุดเหมือนกัน ตอนแรกเลยนั้นมีหนุ่มคนหนึ่งเอาพระปิดตาไปขูดผงใส่อาหารให้ผู้หญิงกิน ผู้หญิงเกิดหลงจนได้อยู่เป็นสามี-ภรรยากัน พอหนุ่มคนอื่นๆรู้ข่าวก็ทำตามบ้าง และสำเร็จผลกันหลายคน แต่มีบางคนเมื่อได้ผู้หญิงเป็นภรรยาแล้ว กลับทิ้งๆ ขว้างๆ เสียกลางคัน พ่อแม่ฝ่ายหญิงจึงเอาเรื่องนี้ไปฟ้องเล่าให้หลวงพ่อกล่อมฟังพอทราบท่านจึง สั่งไม่ให้ใครทำอีก ถ้าทำแล้วต้องรับเลี้ยงตลอดจนตายไปกันข้างใดข้างหนึ่ง ห้ามทิ้งกลางคันเด็ดขาด ถ้าผิดจากที่สั่งท่านแช่งเอาไว้ ว่าทำอะไรก็ไม่เจริญขึ้นหลังจากนั้นจึงไม่ค่อยมีใครแอบขูดผงพระปิดตาใส่ อาหารให้ผู้หญิงกินอีก เพราะกลัวว่าหากเกิดเบื่อแล้วทิ้งๆ ขว้างๆ จะทำกินไม่ขึ้นเหมือนท่านแช่งไว้ พระปิดตาสำนักนี้เลยมีสร้อยห้อยท้ายเรียกกันว่า… ขูดผงต้องรับเลี้ยง

    พระปิดตา วัดหูแร่นี้สร้างรุ่นเดียวในปี ๒๕๑๔ สร้างและแจกไปประมาณ ๑,๐๐๐ องค์ แบ่งบรรจุไหฝังกรุไว้ประมาณ ๘,๐๐๐-๑๐,๐๐๐ องค์ แตกกรุในปี ๒๕๕๑ มีพระแตกหักเสียหายอยู่ในไหไม่ใช่น้อย พระที่เราพบจึงมีทั้งแบบลงกรุ และไม่ลงกรุรวมกันแล้วจะมีพระทั้งหมดน่าจะไม่เกิน ๑๐,๐๐๐ องค์ พระไม่ลงกรุจะสวยงามกว่าผิวใสสะอาด แห้งมีคราบน้ำว่านพอประมาณ ส่วนที่ลงกรุจะมีคราบกรุติดมาด้วย มากบ้างน้อยบ้าง พระรุ่นนี้มี ๓ พิมพ์ ๒ เนื้อ คือ เป็นเนื้อเทา กับเนื้อสีเทาเข้มจนเกือบดำ บางคนบอกผสมผงใบลาน แต่ท่านอาจจะใส่เถ้าธนบัตรจากธนาคารแห่งประเทศไทยมากเป็นพิเศษ ผิวจึงออกดำมากกว่า มีน้อยหายากประมาณว่าเนื้อเทา ๑๐๐ องค์จะมีเนื้อแก่ธนบัตรนี้เพียงองค์เดียว ส่วนที่ว่ามี ๓ พิมพ์ คือพิมพ์ใหญ่ พิมพ์กลาง และพิมพ์เล็กนั้น ประกอบด้วยพิมพ์ใหญ่ บ้างก็เรียกพิมพ์กรรมการมีมือสามคู่ หรือหกมือ หาชมยาก ส่วนพิมพ์กลางเป็นพิมพ์ที่พบเห็นกันมากที่สุด และพิมพ์เล็ก ๆ ประมาณเหรียญห้าสิบตังเท่านั้น พระปิดตารุ่นนี้มีชื่อว่า "พระภควันเพชรหลีก" แจกจ่ายให้แก่ชาวบ้านจำนวนหนึ่ง จนเป็นที่เรียกกันว่าพระปิดตาวัดหูแร่ มีพุทธคุณในทางแคล้วคลาดเป็นอย่างมาก และในเรื่องโชคลากโดยเฉพาะการเสี่ยงโชค ทำให้เป็นที่ต้องการของประชาชนมาก แต่พระรุ่นนี้ได้หายไปจากวัดและวงการพระเมื่อประมาณ ๓๐ ปีที่ผ่านมาโดยไม่มีผู้ใดพบเห็นอีกเลยเป็นพระในดวงใจคนใต้เลยครับ เพราะส่วนใหญ่สายใต้จะเน้นด้านบู้คือพวกคงกระพัน มหาอุด แต่พระหลวงพ่อกล่อมโดดเด่นมากด้านเมตตามหานิยม โดยเฉพาะเรื่องผู้หญิง แบบไม่แพ้ขุนแผนเลยครับ ผมเคยถามคนใต้หลายคนแล้วว่าหลวงพ่ออะไรเก่งเรื่องเมตตาที่สุด ทุกคนจะตอบไปทางเดียวกันว่ามี ๒ รูป คือ หลวงพ่อจันทร์ วัดโฉลกหลำ กับหลวงพ่อกล่อมวัดหูแร่ นี่แหละครับ

    พระครูมนูญ ธรรมานุวัตร เจ้าอาวาสวัดหูแร่ (๑๔ ม.ค.๕๒) เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากวัดหูแร่เป็นวัดภายในชุมชนสร้างมานานกว่า ๑๐๐ ปีแล้ว สิ่งก่อสร้างภายในวัดโดยเฉพาะพระอุโบสถของวัดหูแร่ที่สร้างด้วยไม้ใช้มือฝื มือช่างไม้โบราณแบบการตอกลิ่ม ได้ชำรุดทรุดโทรมไปตามกาลเวลา ดังนั้น ทางวัดและคณะกรรมการของวัดหูแร่ เห็นพ้องกันว่าจะจัดงานทอดกฐินและทอดผ้าป่า เพื่อหาทุนทรัพย์ในการบูรณะซ่อมแซมพระอุโบสถ แต่ช่างได้มาประเมินราคาซ่อมแซมให้คงสภาพเดิม ต้องใช้ทุนทรัพย์กว่า ๕ ล้านบาท และปรากฏว่าหลังจากงานทอดกฐิน และทอดผ้าป่าปีนั้นแล้วได้ทุนทรัพย์มาเพียงแค่ ๑ ล้านบาทเศษๆ เท่านั้น ไม่เพียงพอต่อการบูรณะพระอุโบสถดังกล่าว แต่ด้วยบารมีของบูรพคณาจารย์ ทำให้ในช่วงเวลาเดียวกันนั้นเอง พระครูมนูญได้นิมิตรว่า อดีตเจ้าอาวาสท่านนึง บอกให้ไปขุดค้นบริเวณหน้าสถูปของอดีตเจ้าอาวาสองค์ที่ ๒ แล้วจะพบพระของเก่าให้นำมาหาทุนบูรณะโบสถ์ ท่านเจ้าอาวาสและคณะกรรมการวัด จึงได้หาฤกษ์มงคลทำการขุดค้นตามนิมิตร ปรากฏว่าพบไหผักกาดดองใบใหญ่ ๒ ไห ฝั่งอยู่ใต้ดินบริเวณหน้าสถูปนั้นจริงๆ เมื่อเปิดออกดูพบพระปิดตาเพชรหลีกที่พระอาจารย์กล่อม โกวิโท จัดสร้างไว้ต้งแต่ปี ๒๕๑๔ เป็นพระปิดตาที่พระอาจารย์กล่อมกดพิมพ์เองและทำการปลุกเสกแต่เพียงลำพัง ท่านตั้งชื่อไว้ว่า "พระภควันเพชรหลีก" แจกจ่ายให้แก่ชาวบ้านจำนวนหนึ่ง จนเป็นที่เรียกกันว่าพระปิดตาวัดหูแร่ มีพุทธคุณในทางแคล้วคลาดเป็นอย่างมาก และในเรื่องโชคลากโดยเฉพาะการเสี่ยงโชค ทำให้เป็นที่ต้องการของประชาชนมาก แต่ท่านแจกไปไม่มากทำให้พระรุ่นนี้ได้หายไปจากวัดและวงการพระกว่า ๓๐ ปีที่ผ่านมาโดยไม่มีผู้ใดพบเห็นอีกเลย จนกระทั่งทางวัดไปขุดค้นพบฝั่งอยู่อีกสองไห มีพระปิดตาภควัมเพชรหลีกอยู่ ๓ พิมพ์คือ พิมพ์ใหญ่ พิมพ์กลาง และพิมพ์เล็ก คะเนดูว่าน่าจะมีพระอยู่ประมาณเกือบหมื่นองค์ แต่บางส่วนชำรุดไปตามกาลเวลา หากองค์ไหนยังอยู่ในสภาพสมบูรณ์ ก็ได้นำออกมาให้ประชาชนที่สนใจเช่าบูชา โดยทางวัดเปิดให้เช่าเองตั้งแต่วันที่๑๓-๑๔ มกราคม ๒๕๕๑ ปัจจุบันพระปิดตาหูแร่ได้หมดไปจากวัดแล้ว พระปิดตา"เพชรหลีก"หลวงพ่อกล่อม โกวิโท วัดหูแร่....เป็นอีกหนึ่งสุดยอดพระปิดตามหาลาภจากดินแดนทักษิณ........... โดดเด่นอย่างเอกอุทางโชคลาภค้าขาย.............สร้างน้อย หายาก ของแท้นั้นแข้งและเข่าพระต้องหนาสูงชัน ขอบพระจะบางคม หลังกระดานไม่มีรอยปาด แต่เหมือนกดลงกับแผ่นกระดานเรียบๆ ใต้ฐานมีรูไม้แบน เสียบแคะพระออกจากแม่พิมพ์ เนื้อค่อนข้างแห้ง กรอบ ขึ้นไขว่าน สร้างจากธนบัตรที่แบงค์ชาตินำมาเป็นส่วนผสมเพื่อเอาเคล็ด ทำให้เด่นทางด้านการเงินโดยเฉพาะ ลองซะให้ได้ แล้วจะติดใจ..... คิก ๆ พระอาจารย์กล่อม โกวิโท จัดสร้างไว้เมื่อปี ๒๕๑๔ เป็นพระปิดตาที่มวลสารมาจากคัมภีร์ขอมโบราณ ธนบัตรชำรุด และคาถาพุทธคุณหลายชนิดที่พระอาจารย์กล่อม เขียนขึ้นเองและผงพุทธคุณจากพระอาจารย์บุญ ชินวาโร อดีตเจ้าอาวาสที่เก็บรักษาไว้ เป็นมวลสารในการจัดสร้าง พระอาจารย์กล่อมทำการปลุกเสกและกดพิมพ์เอง โดยพระปิดตารุ่นนี้มีชื่อว่า พระภควันเพชรหลีก แจกจ่ายให้แก่ชาวบ้านจำนวนหนึ่ง จนเป็นที่เรียกกันว่าพระปิดตาวัดหูแร่ มีพุทธคุณในทางแคล้วคลาดเป็นอย่างมาก และในเรื่องโชคลากโดยเฉพาะการเสี่ยงโชค ทำให้เป็นที่ต้องการของประชาชนมาก เป็นพระในดวงใจคนใต้เลยครับ เมตตาอันดับสอง รองจาก หลวงพ่อจันทร์ เกาะโฉลกหลำ เป็นพระปิดตาที่เป็นที่สุดทางด้านมหาเสน่ห์ เมตตา โชคลาภและค้าขาย เพราะพระของท่านมีส่วนผสมของว่าน ๑๐๙ ครบถ้วน เถ้าจากการเผาทำลายธนบัตรเก่าๆ ที่ชำรุด ได้รับบริจาคจากกรมธนารักษ์ สาขาหาดใหญ่นำมาผสมผสาน และผงพุทธคุณล้วนๆ จัดว่าเป็นพระปิดตาที่ขึ้นชื่อเปรียบประดุจดั่งพระของหลวงพ่อแก้ว วัดเครือวัลย์ก็ไม่ปาน (ตำราระบุไว้อย่างนั้น) ถ้านำผงที่ขูดจากพระปิดตาวัดหูแร่ ไปผสมหรือใส่น้ำให้ผู้หญิงรับประทานก็ไม่ต่างกับเสน่ห์ยาแฝด(ในหนังสือพระ เครื่องเมืองใต้ฉบับโบราณระบุไว้ไว้อย่างนี้ ไม่มีเสริมไม่มีแต่ง หรือจะบดทำเป็นยารักษาโรคได้สารพัดชนิดโดยเฉพาะแมลง หรือ อสรพิษกัดต่อย ใช้ดีมากๆ พระของท่านจึงเหลือน้อย) ส่วนใหญ่ผู้ที่ทราบกิติคุณจะนำไปขูดใช้กัน ลองดูไม่ลองแล้วจะรู้จะทราบว่าจริงเท็จประการใด แต่ถ้าทำแล้วช่วยรายงานถึงผล..ด้วยนะครับ จักขอบพระคุณเป็นอย่างสูงจ้า พุทธคุณตามชื่อครับ '''สาวหลง''' เป็นที่ประจักชัดเจน เคยมีคนลองของขูดเอาผง ไปป้ายสาวก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ "ถึงกับต้องมีวลีต่อท้ายกันเลย หลังจากที่หลวงพ่อกล่อมท่านได้กำชับไว้ คือขูดผงแล้วต้องรับเลี้ยง" พระปิดตารุ่นนี้คนหาดใหญ่หวงมาก เพื่อนๆมีหลายคนแต่ผมบุกเท่าไหร่ก็ไม่ยอมปล่อยกัน จึงได้มาแบ่งให้ท่านพี่น้องแค่องค์เดียวครับ พระปิดตารุ่นนี้มวลสารที่ใช้สร้างน่าสนใจมาก เช่นธนบัตรเก่า ว่านที่คุณวิเศษอีกหลายชนิดฯลฯ มีประสบการณ์มากมาย ยังเป็นของดีภาคใต้ หากจะเปรียบให้ท่านเข้าใจง่ายๆก็คือ หลวงพ่อแก้ว วัดเครือวัลย์ ของชาวชลบุรี หลวงปู่ยิ้ม วัดหนองบัว ของชาวเมืองกาญจน์ หลวงพ่อกล่อม วัดหูแร่ ของชาวหาดใหญ่ ครับ
     
  14. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,672
    ค่าพลัง:
    +465

    upload_2022-9-16_20-56-59.png
     
  15. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,672
    ค่าพลัง:
    +465
  16. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,672
    ค่าพลัง:
    +465
    814.ตะโพน ไม้มะยมตายพราย,ดินหน่าตะโพน อุดผง อิทธิเจหลวงพ่อสม วัดโพธิ์ทอง อ่างทอง ปี55 ((สืบสาน หลวงพ่อภักตร์ วัดโบสถ์ตะโพนอ่างทอง สุดยอดเมตตามหานิยม เรียกคน เรียกลูกค้า)) ปิดรายการครับ

    upload_2022-9-17_12-27-14.png

    upload_2022-9-17_12-26-55.png

    สุดยอดเมตตามหานิยมใช้เองมาแล้วสุดยอดจริงๆ เลยกล้าพูดได้เต็มปาก ขุนแผนบ้านกร่างที่ว่าแน่ๆยังต้องยอม
    ตะโพน นับเป็นเครื่องรางที่ถือได้ว่าสุดยอด ด้านเมตตา มหานิยม เรียกคน เรียกลูกค้า
    สมัยหลวงพ่อยังไม่มรณะภาพ มีคณะลิเกไปเล่นที่วัด แล้วไม่มีคนดู หลวงพ่อสงสารเลยได้ลงอักขระไว้ที่กลองตะโพนคณะลิเกคณะ นั้นได้กลายเป็นคณะลิเกโด่งดังถึงทุกวันนี้ ถือว่าเป็นเครื่องรางที่ชาวอ่างทอง เสาะหา

    ตำราวัดโบสถ์เป็นผงที่ครูลิเกโบราณท่านใช้ผัดหน้าเวลาออกแสดง(ไม่สามารถเปิดเผยได้บอกได้เลยว่าแรงมากด้านมหานิยม) ซึ่งเป็นผงเด่นมากด้านเสน่ห์เมตตาให้คนรัก วิชาสายนี้เป็นวิชาสายจะเรียกว่ามหานิยมให้คนชื่นชอบก็ไม่ผิด เพราะครูลิเกโบราณหรือการแสดงต่างๆ ก็ต้องหวังผลทางให้คนชื่นชอบ การเจรจาขับร้อง หรือในทำนองว่าสะกดคนดู. การจัดสร้างครั้งนี้ถือเป็นวาระสำคัญ และเป็นวาระแรกครั้งแรก ของการสร้างตะโพนในยุคนี้ ที่เปิดตำราเดิมของหลวงพ่อภักตร์ วัดโบสถ์ บรมครูเจ้าของวิชาตะโพน แขวงเมืองวิเศษชัยชาญอันเลื่องลือ เพราะตำราอยู่ที่วัดนางในเพียงแห่งเดียว ซึ่งตำรานี้หลวงพ่อกร่าย วัดโพธิ์ศรี ได้จดบันทึกไว้ จากเมื่อครั้งหลวงพ่อภักตร์ท่านเรียกให้ไปรับวิชาสร้างตะโพน การบรรจุมวลสารมงคล วิธีสร้าง และ. การเสกทั้งหมด เมื่อก่อนปี 2485
    สืบสาน ตะโพนอ่างทอง หลวงพ่อสม วัดโพธิ์ทอง อ่างทอง อุดผงอิทธิเจ ไม้มะยมตายพราย,ดินหน้าตะโพน อันศักสิทธิ์ ปี55 หลวงพ่อเมตตาปลุกเสกให้เป็นมงคล
    ผงอิทธิเจ ของหลวงพ่อสม เป็นที่เลื่องลือ จนมาเป็นมวลสารของวัดอื่นๆ
    ครั้งหนึ่งหลวงพ่อเคยกล่าวว่าผงอิทธิเจของฉัน กับทองคำที่มี
    น้ำหนักเท่าๆกัน ถ้าให้หลวงพ่อเลือกท่านขอเลือกผงอิทธิเจของท่านดีกว่า ขอยืนยันว่าหลวงพ่อพูดประโยคนี้จริง

    หลวงพ่อเรียกสูตรทำผงเอง เขียนสูตรเอง ลบสูตรเอง มีพุทธคุณครบทุกด้าน หลวงพ่อได้เล่าถึงวิธี
    การทำผงว่า ต้องหาที่มุมสงบเพื่อให้จิตนิ่งเป็นสมาธิแล้วเขียนสูตรพร้อมเรียกสูตรไปทีละตัวอักขระ จนครบทุกตัวอักขระเลขยันต์บนกระดานชนวน
    1 ครั้ง หรือ1 รอบต้องใช้เวลาเขียนสูตร เรียกสูตร ลบสูตรเป็นเวลาถึง 3 ชั่วโมงครึ่ง แต่ผงที่ท่านมอบมาให้ครั้งนี้ท่านได้เขียน เรียก ลบสูตรถึง
    7 ครั้ง 7 รอบรวมเป็นเวลา 24 ชั่วโมงกับ 30 นาที กว่าจะครบ 7 รอบของการทำผงต้องใช้เวลาหลายเดือน เรื่องของการหาฤกษ์เขียนสูตรทำผง
    หลวงพ่อจะหาฤกษ์ที่สมบูรณ์ที่สุดเพื่อให้ผงนั้นมีพุทธคุณ ทรงพลานุภาพมากที่สุด

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 กันยายน 2022
  17. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,672
    ค่าพลัง:
    +465
    815. ลูกสวาทพญาเทครัว รุ่นแรก สร้างจากมวลสารแท้ๆของหลวงพ่อผินะ หลวงพ่อเอิบ วัดหนองหม้อแกง (วัดซุ้มกระต่าย)ชัยนาท) ปิดรายการครับ


    upload_2022-9-18_12-42-50.png

    upload_2022-9-18_13-0-58.png

    (เสริมพลังมหาเสน่ห์ ด้วยลูกอมมวลสารวิเศษจากผงพญาเทครัวแท้ๆ อันสุดยอดด้านเมตตามหาเสน่ห์มหานิยม ในตำนาน ของหลวงพ่อผินะ วัดสนมลาว)

    **เจ้าตำรับวิชาพระลักษณ์หน้าทองมหาเสน่ห์อันลือลั่น**
    #หลวงพ่อเอิบท่านเป็นลูกศิษย์เอกของหลวงพ่อผินะ วัดสนมลาว ท่านไปได้สำเร็จวิชาการสร้างดาวแม่เนื้อหอมและปลัดชะมด รวมถึงการปลุกเสกเครื่องรางให้เข้มขลังตามแบบฉบับของหลวงพ่อผินะ เมื่อท่านสำเร็จวิชามาแล้ว หลวงพ่อผินะท่านก็ได้มอบผงมวลสารอันวิเศษ มาให้หลวงพ่อเอิบด้วย เพื่อนำมาทำวัตถุมงคลไว้สร้างวัด โดยท่านว่า "ให้พ่อสิ้นก่อนนะแล้วค่อยเอาไปใช้สร้างวัด"
    และเมื่อตอนที่หลวงพ่อผินะยังมีชีวิตอยู่ ท่านได้สร้างลูกอมไว้รุ่นหนึ่งเรียกว่า "#พญาเทครัว" ที่ปัจจุบันหาของแท้หายากมาก และราคาความนิยมก็แพงมากด้วยจำนวนการสร้างน้อย และมวลสารพลังอาถรรพ์อันสุดล้ำลึกเข้มขลัง
    ที่เรียกว่าพญาเทครัวนั้น เรียกตามพุทธคุณของลูกอมท่าน ด้วยมีพลังเป็นเมตตามหานิยม มหาเสน่ห์อย่างสูง เรียกได้ว่ามีลูกเดียวเหมาเททั้งครัว ตามฉบับเครื่องรางอันเลื่องลือแผ่นดินของหลวงพ่อผินะ
    #หลวงพ่อเอิบ จึงคิดสร้างลูกอมขึ้นมาบ้างเป็นรุ่นแรก จัดทำพิธีการสร้างและมวลสารตามสูตรอาจารย์คือหลวงพ่อผินะทุกอย่างทุกประการ เรียกว่า "#ลูกสวาทพญาเทครัว"
    #ผสมด้วยมวลสารสำคัญ #ผสมผงพญาเทครัวแท้ๆของหลวงพ่อผินะและผงพุทธคุณผงวิเศษของหลวงพ่อผินะหลายชนิด ที่หลวงพ่อเอิบท่านได้รับมาจากหลวงพ่อผินะ เมื่อครั้งที่ท่านไปเรียนวิชาจนสำเร็จจากหลวงพ่อผินะ
    เมื่อออกบูชาไม่นานก็มีประสบการณ์มาก ลักษณะเป็นลูกอมกระทัดรัดปิดทอง ถือเป็นรุ่นแรกของท่านที่มีประสบการณ์เป็นที่กล่าวขวัญครับ
    แม้แต่มีคนบูชาปลัดหัวชะมดของท่านเอาไปใช้ได้ผลดี แต่ท่านบอกว่ายังมีของดีอีกอย่างนั่นคือ "ลูกสวาทพญาเทครัว" หรือ "ลูกสวาทรุ่นแรก" ที่กล่่าวขวัญกันว่าเด่นด้านเมตตามหานิยมเป็นอย่างยิ่ง #เห็นผลแรงตามแบบฉบับของหลวงพ่อผินะ เนื่องจากมวลสารเดียวกันทุกประการ
    ท่านว่า "เอาติดตัวพกไว้จะเป็นมหาเสน่ห์กว่าใครเขา ใครเห็นใครรัก ไม่มีอดอยาก ก็เสกให้ต้องตาต้องใจเขานี่ ของฉันใช้ให้ดีอย่าให้มีผิดศีลธรรมนะ ลูกเมียใครรู้ว่ามีเจ้าของอย่าไปยุ่ง ฉันไม่กันลูกปืนให้นะ"
    ตอนนี้ศิษย์สายหลวงพ่อผินะและผู้นิยมของแรงของไว เห็นผลจริง ต่างเช่าของหลวงพ่อเอิบกันทั่วหน้า บอกกันว่าใช้ดี ไม่แพ้องค์อาจารย์แถมค่าบูชายังถูกกว่าครับ เป็นที่นิยมโดยเฉพาะอย่างยิ่ง พวกชาวสิงค์โปร์ มาเลเซีย ฮ่องกง ที่ต่างเหมากลับประเทศไปเป็นจำนวนมาก
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 กันยายน 2022
  18. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,672
    ค่าพลัง:
    +465
    816.สุดยอดเครื่องสายเมตตา พ่อปลัดชะมดเนื้อว่านดอกทอง หลวงพ่อเอิบ วัดซุ้มกระต่าย จ.ชัยนาท ปิดรายการครับ


    upload_2022-9-18_12-55-55.png

    เจ้าของตำนานพระลักษณ์หน้าทอง อันดับต้นๆของเมืองไทย ศิษย์เอกหลวงพ่อผินะ วัดสนมลาว และทายาทหลานชายแท้ๆผู้สืบสายวิชาแห่งหลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ ปัจจุบันท่านมรณะภาพแล้วสังขารไม่เน่าเปื่อย
    #ปลุกเสกตามตำราหลวงพ่อผินะ วัดสนมลาว
    #ปลัดหัวชะมด เนื้อผงว่าน หลวงพ่อเอิบ วัดซุ้มกระต่าย พุทธคุณโดดเด่น แรง และเห็นผลไว เอกลักษณ์คือเป็นปลัดเนื้อผง #ที่เรียกกันในหมู่ผู้ใช้ว่ารุ่นขูดผงให้สาว
    #หลวงพ่อย้ำนักหนาว่าปลัดเนื้อผงแม้แต่ละอองผงชิ้นเดียวก็ต้องรักษาไว้ให้ดี หลวงพ่อเอิบตั้งใจเขียน ตั้งใจลบถมเพื่อทำปลัดหัวชะมดรุ่นแรกรุ่นนี้โดยเฉพาะ ลำพังแค่ผงจูงนาง ก็เป็นสุดยอดผงมหาเสน่ห์อยู่แล้ว
    สอบถามผู้ใช้ได้ความว่าใช้แล้วได้ผลดี แต่ใช้ด้วยความรับผิดชอบไม่ก่อให้เกิดผลเสียหายอะไร หลวงพ่อย้ำนักย้ำหนาว่า ปลัดเนื้อผงแม้แต่ละอองผงก็ต้องรักษาไว้ให้ดี หลวงพ่อตั้งใจเขียนลบผงสารพัดยันต์ด้านเมตตามหาเสน่ห์ ที่ท่านร่ำเรียนมา เพื่อทำปลัดเนื้อผงว่านรุ่นแรก รุ่นนี้โดยเฉพาะ ผสมว่านมหาเสน่ห์ที่มีพลังอิทธิคุณด้านมหาเสน่ห์ เช่น ว่านดอกไม้ทอง ว่านช้างผสมโขลง ว่านจูงนางเข้าห้อง ลำพังแค่ผงว่าน ก็สุดยอดผงมหาเสน่ห์และมีฤทธิ์อย่างรุนแรงอยู่แล้ว
    หัวชะมด หลวงพ่อเอิบ เข้าตำราตาสองข้างกลมเป็นลูกแก้ว หูสองข้างลงด้วยหัวใจมนุษย์ ตรงกลางหน้าผากลงด้วยหัวใจสตรีปลายยันต์ยาวจรดจมูก ปากอ้า มีเขี้ยว มีฟัน มีลิ้น กลางหลังลงด้วยยันต์นางอกแตกแวดล้อมด้วยแม่ธาตุ จึงเป็นสุดยอดที่แรงด้วยเมตตา แรงด้วยมหาเสน่ห์ เห็นผลทันตา
    #ผงนี้ถ้าไม่จำเป็นอย่าขูดออก อย่าแกะออก
    มาว่าด้วยเรื่องประสบการณ์หัวชะมดของหลวงพ่อเอิบ ที่สร้างตามตำราหลวงพ่อผินะทุกประการ ลงเปิดตา ลงเปิดหู ให้เห็นได้ ฟังได้ ลงปาก ลงลิ้น ให้หากินได้ ทั้งมวลสารผสมผงอาถรรพ์ของหลวงพ่อผินะแบบเพียวเพียว แถมกลางหลังยังลงด้วยยันต์นางอกแตก เชื่อว่ายิ่งเพิ่มพลังขลังให้หัวชะมดเป็นร้อยเท่าพันทวี ใครใช้ก็ชอบเพราะเห็นผลไว เห็นผลทันตา ให้ใจแข็งปากแข็งสักเท่าไร ไม่คณามือหัวชะมดหลวงพ่อเอิบไปได้
    แม้ศิษย์ต่างประเทศ โดยเฉพาะชาวสิงคโปร์ มาเลเซีย ที่บินมาเหมาไปจนหมดวัด
    #พ่อปลัดชะมดหลวงพ่อเอิบ ทะลายใจคนใจแข็งมานักต่อนัก ดั่งคำที่ท่านกล่าวว่า "#จะเอาอะไรก็ให้ขอปลัด #พ่ออยากได้แม่ก็หาแม่ให้ #แม่อยากได้พ่อก็หาพ่อให้ พ่อแม่อยากได้เงิน ก็หาเงินให้พ่อแม่"
    #ท่านปลุกเสกตามตำราหลวงพ่อผินะ สร้างอาการ 32 ตั้งธาตุหนุนธาตุจนแข็งแกร่ง ทำให้ชะมดมีจิต มีตัวตน เจิมเปิดตา เปิดปาก มีขาไว้หากินเองได้ ชะมดของท่าน จึงเปรียบเสมือนหุ่นพยนต์ สามารถบนบานศาลกล่าว ขอให้ช่วยเหลือ ได้ทุกด้าน โดยเฉพาะด้านเมตตามหานิยม และด้านค้าขาย แก้บนด้วยการทาน้ำมันจันท์หอมๆ ปิดทองคำเปลวแท้ๆ จะได้ผลมาก
    หลวงพ่อเอิบแนะเคล็ดลับว่า หัวชะมดเนื้อผง ถ้าใช้ได้ผลแล้วทาสีทองให้มั่งก็ดี เพราะเขาชอบสีทองคล้ายเป็นแท่งทอง คนใช้หัวชะมดเนื้อผงได้ผลกันมาก หรือคงเป็นเพราะสร้างจากเนื้อผงวิเศษ ผงที่สร้างก็มีอาถรรพ์อยู่แล้ว
    เพราะการลบถมแต่ละชนิดมีสูตร มีเคล็ดลับของฉัน หลวงพ่อเอิบนั่งลบผงเองทั้งวัน #ยิ่งได้ผงแท้ๆของหลวงพ่อผินะผสมลงไปหลายสิบช้อนแกง ยิ่งไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมหัวชะมดเนื้อผงของหลวงพ่อเอิบจึงขลังได้
    #หากใช้ด้านเมตตามหาเสน่ห์ ให้นำน้ำมันจันท์มาใส่ตลับ แล้วนำพ่อชะมดมาจุ่มวนในน้ำมันจันท์ แล้วว่าคาถาปลุกพ่อชะมด
    ตั้งนะโม 3 จบ
    "นะมะพะทะ นะเตสุเต มหานะเตสุเต นังโภฆังธุสะมานิ นะชาลีติ จะภะกะสะ กันหะเนหะ ฆะโภหัง พิพะสะระหะ พะนะอิ"
    แล้วอธิษฐานขอให้พ่อชะมดช่วยให้เกิดเสน่ห์เมตตา แล้วนำน้ำมันจันท์มาทาคิ้ว จะบังเกิดผลมากนักแล

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 กันยายน 2022
  19. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,672
    ค่าพลัง:
    +465
    817. เหรียญทำน้ำมนต์ 7ขัน ฤาชา8ทิศ เนื้อทองแดง (ตำรับตำราวิชาพระอาจารย์ชาญณรงค์ อภิชิโต) ปี2561 #รุ่นแรกและรุ่นสุดท้ายสร้างครั้งเดียว พระอาจารย์มานิตย์ วัดเงิน บางพรหม ปิดรายการครับ


    upload_2022-9-18_13-30-50.png
    (ด้านนึงเป็นยันต์ตรีนิสิงเห ด้านนึง เป็นนาคบาศก์)
    ( ถือว่าเป็นการ สร้างเหรียญนี้ ครั้งแรก ที่ เป็นเหรียญ นำมาทำน้ำมนต์ ได้ด้วยตนเองเพราะ ตอนที่ท่านมีชิวิตนั้น ท่านจะ ทำน้ำมนต์ ประกอบพิธี ตามวิชาของท่านพระอาจารย์ชาญณรงค์ )
    ความหมาย และ ลักษณะ ของเหรียญ
    - เป็นเหรียญทรงกลม มี กลีบบัว 8 แปดกลีบ
    - กลีบด้านหน้า จะงุ้มเว้าลงไปแบบกลับบัวจริง
    - กลีบบัวด้านหลัง จะอูมออกมา ซึ่ง แสดงถึงความใส่ใจในรายละเอียดของผู้สร้าง
    - ด้านหน้าตรงกลาง เป็นยันต์ตรีนิสิงเหตำรับพระอาจารย์ชาญณรงค์อภิชิโต
    - ซึ่ง กลบทการลงตัวเลข ในยันต์จะไม่เหมือนกับ ตำรับของ วัดประดู่ทรงธรรม
    - มีเคล็ดวิชาเฉพาะ ซึ่ง พระอาจารย์มานิตย์ ท่านได้ลงเป็น เกสรบัวบัง ไว้
    - ถือเป็น มหาเสน่ห์เมตตา อาถรรพ์ซ้อนอาถรรพ์
    - กลีบบัวใหญ่ ลงไว้ด้วย นะฤาชา ตามตำรับ ท่าน พระอาจารย์ชาญณรงค์ ทั้ง 8 ทิศ
    - กลีบบัวเล็ก ลงไว้ด้วย พระอรหันต์ ทั้ง 8 ทิศ ตำรับ ของ พระอาจารย์ชาญณรงค์
    ซึ่งพบจดบันทึกอยู่ในหอไตรของวัดเงินบางพรม ซึ่งในบท “ พุทธมงคลคาถา ”
    ก็ได้มีการกล่าวถึง พระอรหันต์ทั้ง 8 ทิศไว้ ดังนี้
    พุทธมงคลคาถา
    สัมพุทโธ ทิปะทัง เสฏโฐ นิสินโน เจวะ มัชฌิเม
    โกณฑัญโญ ปุพพะภาเค จะ อาคะเณยเย จะ กัสสะโป
    สารีปุตโต จะ ทักขิเณ หะระติเย อุปาลี จะ
    ปัจฉิเมปิ จะ อานันโท พายัพเพ จะ คะวัมปะติ
    โมคคัลลาโน จะ อุตตะเร อิสาเณปิ จะ ราหุโล
    อิเม โข มังคะลา พุทธา สัพเพ อิธะ ปะติฏฐิตา
    วันทิตา เต จะ อัมเหหิ สักกาเรหิ จะ ปูชิตา
    เอเตสัง อานุภาเวนะ สัพพะโสตถี ภะวันตุ โน
    อิจเจวะมัจจันตะนะมัสสะเนยยัง
    นะมัสสะมาโน ระตะนัตตะยัง ยัง
    ปุญญาภิสันทัง วิปุลัง อะลัตถัง
    ตัสสานุภาเวนะ หะตันตะราโย ฯ
    (คำแปล) สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้ประเสริฐกว่าสัตว์สองเท้า
    ทรงประทับนั่งอยู่ท่ามกลาง มี
    • ท่านอัญญาโกญฑัญญะ อยู่ทางทิศบูรพา (ตะวันออก)
    • ท่านพระมหากัสสปะ อยู่ทางทิศอาคเนย์ (ตะวันออกเฉียงใต้)
    • ท่านพระสารีบุตร อยู่ทางทิศทักษิณ (ใต้)
    • ท่านพระอุบาลี อยู่ทางทิศหรดี (ตะวันตกเฉียงใต้)
    • ท่านพระอานนท์ อยู่ทางทิศปัจฉิม (ตะวันตก)
    • ท่านพระภควัมปติ อยู่ทางทิศพายัพ (ตะวันตกเฉียงเหนือ)
    • ท่านพระโมคคัลลานะ อยู่ทางทิศอุดร (เหนือ)
    • ท่านพระราหุล อยู่ทางทิศอิสาน (ตะวันออกเฉียงเหนือ)

    - กลีบบัวด้านหลัง ลงด้วย นะเทวดานพเคราะห์ทั้ง 9 ตามตำรา
    “ มหาทักษาพยากรณ์และวิธีบูชาสะเดาะเคราะห์ ”ของ อาจารย์อั้น สาริกบุตร (ท่านมีศักดิ์เป็นทั้งลุงและอาจารย์ของ #อาจารย์เทพย์สาริกบุตร)
    - แต่ เนื่องจาก กลีบบัวมีแค่ 8 กลีบ จึงใช้ พญานาค แทน พระเกตุ
    เพราะ พระเกตุ มีหางเป็น พญานาค
    - เพื่อซ้อนวิชาเข้าไปจึงทำเป็นนาศบาศก์ (งูกินงู) เป็นอาถรรพ์ซ้อนอาถรรพ์อีกที
    - ตรงกลาง นาคบาศก์ เป็น คาถาหัวใจมนุษย์ทั้งชายหญิง
    - รายรอบเหรียญ เป็นพระคาถา ทำน้ำมนต์ 7 ขัน ของ #พระอาจารย์ชาญณรงค์อภิชิโต ทั้งด้านหน้าและหลัง
    ประวัติการ จัดสร้าง ดังนี้
    เย็นของวันที่ 21 พ.ย.2561 ก่อนวันไหว้ครูประจำปี 2561 พระอาจารย์มานิตย์
    ได้จัดพิธีสวดมนต์เย็น โดยมีพระสงฆ์มาเจริญพุทธมนต์ 9 รูป ซึ่งปีนี้
    ท่านได้ให้จัดสร้าง เหรียญทำน้ำมนต์ ขึ้นเพื่อแจกแก่ญาติโยม และ ศิษยานุศิษย์
    ซึ่ง เหรียญทำน้ำมนต์นี้ ชื่อ เหรียญทำน้ำมนต์ 7 ขัน ฤาชา 8 ทิศ
    ตำรับ พระอาจารย์ชาญณรงค์ อภิชิโต ซึ่งมี
    ผู้ใหญ่หนุน ศิษย์อาจารย์ชาญณรงค์ ที่ยังมีชีวิตอยู่ และ คุ้นเคย กับ พระอาจารย์มานิตย์เป็นอย่างยิ่งมาเป็นประธาน ในการเชิญ บอกกล่าวท่าน พระอาจารย์ชาญณรงค์เมื่อเจริญพุทธมนต์เสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็ได้ทำพิธีทักษิณานุปทาอุทิศถวาย
    อดีตเจ้าอาวาสวัดเงิน บางพรหม และ พระอาจารย์ชาญณรงค์ เป็นลำดับสุดท้าย

    เหรียญบาตรน้ำมนต์ ๗ ขัน ฤาชา ๘ ทิศ
    #ตำราพระอาจารย์ชาญณรงค์อภิชิโต
    จัดสร้างโดย ท่าน พระครูวิธานสุตสุนทร (มานิตย์ สุทธิญาโณ)
    วัดรัษฎาธิษฐาน (วัดเงิน) บางพรม กทม.
    #วิชาทำน้ำมนต์7ขัน ของ พระอาจารย์ชาญณรงค์อภิชิโต
    เป็นตำรับวิชา ที่ท่านเรียนมาจาก ครูบาอาจารย์ #สายในดง
    #ซึ่งท่านจะทำน้ำมนต์นี้ให้เฉพาะบุคคลที่ท่านเห็นว่าเคราะห์หนักหนาสาหัสจริงๆ
    #ซึ่งน้ำมนต์แต่ละขัน ก็มีอิทธิคุณแตกต่างกันไป 7ขัน 7อย่าง 7ประการดังนี้
    1. สัพพะสิริมงคล
    เสมือนดั่งมงกุฎพระพุทธเจ้าลงมาครอบ
    2. แคล้วคลาด ป้องกันภัย
    3. ถอดถอนของและคุณไสย
    ตลอดจนที่ต้องธรณีสาร
    4. เสกยา รักษาโรคภัยไข้เจ็บ ทำให้อายุยืน
    5. โชคลาภ หนุนดวง
    6. คงกระพัน ชาตรี
    7. เป็นวิชาคุม
    ซึ่งในสมัยท่านน้อยคนที่จะมีวาสนาได้รดครบทั้ง 7 ขัน
    เพราะ บางอย่างใช้สำหรับรดกับผู้ที่เรียนวิชา เช่น ขันที่ 7 ที่เป็นวิชาคุม
    วิชานี้ท่านได้ถ่ายทอดให้กับศิษย์ท่าน 4 คน
    แต่ เสียชีวิตไปหมดแล้วเหลือแต่ตัว ผู้ใหญ่หนุน เพียงคนเดียว ที่รับสืบทอดวิชานี้
    และ ท่านได้มอบถวายวิชานี้ให้กับ ท่าน พระอาจารย์มานิตย์ เป็นผู้สืบทอดต่อไป
    เนื่องในโอกาสไหว้ครูประจำปีของ พระอาจารย์มานิตย์ สุทธิญาโณ วัดรัษฎาธิษฐาน
    (วัดเงิน) ซึ่งท่านจัดเป็นประจำทุกปีในวันเพ็ญขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12 (วันลอยกระทง)
    ซึ่ง ในปีนี้ ตรงกับวันที่ 22 พฤศจิกายน 2561 ซึ่งเป็นวันพฤหัสตรงกับวันครูพอดีในปีนี้ท่านจึงได้ดำริที่จะทำวัตถุมงคลเป็นที่ระลึกเพื่อแจกแก่ญาติโยมและศิษยานุศิษย์ที่มารดน้ำมนต์จันทร์เพ็ญกับท่าน ท่านจึงได้ระลึกถึงวิชาทำน้ำมนต์ 7 ขัน ตำรับ พระอาจารย์ชาญณรงค์ อภิชิโต ขึ้น จึงเป็นที่มาของ
    “ เหรียญทำน้ำมนต์ 7 ขัน ฤาชา 8 ทิศ ”
    เป็นเหรียญที่ออกแบบมาได้อย่างสวยงามและลงตัว
    ทั้งรูปแบบ เอกลักษณ์ การจัดวางอักขระเลขยันต์
    และ การผนวกสรรพวิชาทั้งไสยศาสตร์ โหราศาสตร์
    และ พุทธาคมเข้าไปในเหรียญนี้ได้อย่างลงตัว

    จำนวนการสร้าง
    1. เนื้อเงิน ตอกโค๊ต “ อุองการ ” 50 เหรียญ
    2. เนื้อทองแดง ตอกโค๊ต “ ชฎา ” 5,000 เหรียญ

    การปลุกเสก 2 วาระ คือ
    • วาระที่ 1 ในเย็นของวันพุธที่ 21 พฤศจิกายน 2561 ก่อนวันไหว้ครูประจำปี 2561
    พระอาจารย์มานิตย์ได้จัดพิธีสวดมนต์เย็นและธัมมจักกัปปวัตนสูตร โดยมีพระสงฆ์มาเจริญพุทธมนต์ 9 รูป ซึ่งมี ท่าน ผู้ใหญ่หนุน ศิษย์อาจารย์ชาญณรงค์ที่ยังมีชีวิตอยู่ และคุ้นเคยกับ พระอาจารย์มานิตย์เป็นอย่างยิ่งมาเป็นประธาน ในการเชิญบอกกล่าวท่านพระอาจารย์ชาญณรงค์ เมื่อเจริญพุทธมนต์เสร็จเรียบร้อยแล้วก็ได้ทำพิธีทักษิณานุปทาอุทิศถวาย อดีตเจ้าอาวาสวัดเงิน บางพรหม และ พระอาจารย์ชาญณรงค์ เป็นลำดับสุดท้าย
    • วาระที่ 2 ในวันลอยกระทง ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12
    ตรงกับวันพฤหัสบดีที่ 22 พฤศจิกายน 2561
    โดยท่านได้ทำพิธีไหว้ครู และ อธิษฐานจิตปลุกเสกตามตำรับวิชาที่ได้รับถ่ายทอดมา

    #อุปเท่ห์วิธีใช้
    เมื่อจะใช้เหรียญนี้กระทำการใดๆ
    ให้จัดตั้งขัน 5 อันได้แก่ ดอกไม้ 5 ดอก เทียน 5 เล่ม
    ธูป 5ดอก บอกกล่าวครูบาอาจารย์เบื้องบนที่เป็นเจ้าของวิชา
    ตั้งแต่ปฐมเจ้าอาวาสวัดเงินบางพรม
    อันมี ลป.เสม ลป.ภู ลป.ปั้น ลป.ชุ่ม ลป.พลอย ลพ.สมบูรณ์
    พระอาจารย์ชาญณรงค์ ลป.ในดง และ ลป.นอกดง ให้มาเมตตาอนุเคราะห์
    แล้วอธิษฐานเอาตามความปรารถนาเถิด
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 กันยายน 2022
  20. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,672
    ค่าพลัง:
    +465
    818. เหรียญห่วงเชื่อมย้อนยุค ลป.ทิม อิสริโก รุ่นแต้เม้ง มหาระงับดับร้อน ปี2551 หลังจาร ให้บูชา 1250 บาท


    upload_2022-9-18_13-49-31.png

    สร้างเป็นที่ระลึกเปิดพิพิธภัณฑ์ภาวนาภิรัติ มูลนิธิหลวงปู่ทิม อิสริโก วัดละหารไร่ มีพิธีพุทธาภิเษก ณ.วัดละหารไร่ เมื่อวันอาทิตย์ที่ ๑๖มิถุนายน๒๕๕๑
    เหรียญห่วงเชื่อมหลังเรียบ หลวงปู่ทิม พิธีแต้เม้งปี 51 ย้อนยุค ที่ระลึกพิพิธภัณฑ์ภาวนาภิรัต หลวงปู่ทิม อิสริโก วัดละหารไร่ เหรียญสวย พิธีดี เหรียญห่วงเชื่อมรุ่นแต้เม้ง ได้ปลุกเสกเดี่ยวถึง ๓ องค์
    องค์แรกหลวงปู่ผาด วัดบ้านกรวด สุดยอดพระเกจิอาจารย์สายเขมรต่ำปลุกเสกในราชาฤกษ์ เวลา ๕ นาฬิกา ๓๙ นาที ของวันจันทร์ที่ ๑๙ พฤษภาคม ๒๕๕๑ ... ท่านปลุกเสกให้อย่างเต็มที่ เต็มบารมีของท่าน ซึ่งการปลุกเสกของหลวงปู่ผาด ท่านสงบนิ่ง, ละวาง ดุจเดียวกับหลวงปู่ทิม
    องค์ที่ ๒ หลวงพ่อสิน วัดละหารใหญ่ ศิษย์เอกองค์หนึ่งของหลวงปู่ทิม ซึ่งดังเงียบๆแบบเสือซ่อนเล็บ ปลุกเสกเดี่ยว เมื่อวันอาทิตย์ที่ ๑๕ มิถุนายน ๒๕๕๑ เวลาเดียวกับที่พระเจ้าตากสินสั่งทุบหม้อข้าวหม้อแกง ทรงช้างคีรีบัญชร นำทัพเข้าตีเมืองจันทร์จนแตก ยึดเมืองได้เมื่อยาม ๓ ของวันอาทิตย์ที่ ๑๕ มิถุนายน ๒๓๑๐ เมื่อ ๒๔๐ ปีมาแล้ว
    องค์ที่ ๓ องค์สุดท้าย ท่านเจ้าหรีด วัดปาโมกข์ ก่อนพิธีท่านให้นำรูปหลวงปู่ทิม อิสริโกซึ่งท่านนับถือเป็นครูบาอาจารย์ พร้อมบาตรน้ำมนต์มาวางไว้บนธรรมมาสทิศตะวันออกตรงข้ามกับท่าน ที่นั่งหันหน้าลงทิศใต้ สั่งให้คุณ ชินพร จุดธูปเทียนบูชาพระ และจุดเทียนน้ำมนต์ ท่านจะเชิญหลวงปู่ทิมลงมาปลุกเสก ประธานมูลนิธิหลวงปู่ทิม อธิษฐานขณะจุดเทียนที่ปากบาตรน้ำมนต์ว่า ถ้าหลวงปู่ทิมลงมาปลุกเสกในพิธี ตามที่เคยสัญญาไว้เมื่อ ๓๔ ปีที่แล้ว ขอให้มีสิ่งอัศจรรย์บ่งชี้ให้เห็นด้วย แล้วนั่งอยู่หน้าธรรมมาสเปล่าตลอดพิธี พร้อมดูในบาตรน้ำมนต์ หยดน้ำตาเทียนในบาตรเป็นเทียนขี้ผึ้งแท้ ไหม้ไปกว่าครึ่งก็ไม่มีหยดน้ำตาเทียน ผู้ที่อยู่ในพิธีต่างมามุงดูกันเกือบหมดแล้วต่างนึกแปลกใจไปตามๆกัน บางคนเอานิ้วจับเปลวไฟต่างก็ไม่รู้สึกร้อน เอานิ้วมือขยี้จะดับก็ดับไม่ได้ ไฟยังติดอยู่ จนเมื่อเสร็จพิธีคุณชินพร เอามือจับไฟยังเย็นอยู่ เมื่ออธิษฐานว่าพิธีเสร็จแล้ว...ไฟจึงดับลง ! ส่วนท่านเจ้าหรีด ก็ปลุกเสกในท่ามกลางการรายล้อมไปด้วยคณะศิษย์ และผู้เฒ่าทางพรหมศาสตร์สายเขาอ้ออีก ๔ ท่านซึ่งนำโดย อาจารย์ มงคล อายุ ๘๒ ปี อาจารย์ใหญ่ฝ่ายพรหมศาตร์ บอกเมื่อเสร็จพิธีว่า พิธีนี้ ยอดเยี่ยม ศักดิ์สิทธิ์มากกว่าทุกครั้งที่เคยไปร่วมมา วัตถุมงคลชุดนี้บูชาไว้เถิดจะโด่งดังไม่แพ้ของเก่า เพราะเบื้องบนและหลวงปู่ทิม อิสริโก ลงมาช่วยกันทำให้ เหรียญรุ่นนี้ไม่ทันหลวงปู่นะครับ เหรียญห่วงเชื่อมหลังเรียบเป็นเหรียญที่จัดสร้างไปในชุด ชินบัญชร แต้เม้ง (๑๕ มิถุนายน ๒๕๕๑)ตามดำริของท่านอาจารย์เชย เจ้าอาวาสวัดละหารไร่ ที่อยากให้ทำเหรียญห่วงเชื่อมย้อนยุค อาจารชินพรทำขึ้นเพื่อแจกแก่ผู้ที่มาร่วมพิธีเปิดพิพิธภัณฑ์ หลวงปู่ทิม บนชั้น๒ ศาลาภาวนาภิรัต โดยถวายวัดไว้ราว ๓,๐๐๐กว่าเหรียญ หรือครึ่งหนึ่งของจำนวนทั้งหมด เข้าพิธีแต้เม้ง-ไฟเย็น ที่ลือลั่น

     

แชร์หน้านี้

Loading...