พระเครื่องบ้านๆ ราคาเบาๆครับ ภาค 3 ส่งฟรีทุกรายการ (สารบัญพระอยู่หน้าแรกนะครับ)

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย Specialized, 9 พฤษภาคม 2018.

  1. Specialized

    Specialized ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    22,156
    กระทู้เรื่องเด่น:
    23
    ค่าพลัง:
    +83,352
    ปิดรายการให้หลังไมค์ ขอบคุณครับผม ;)

     
  2. Specialized

    Specialized ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    22,156
    กระทู้เรื่องเด่น:
    23
    ค่าพลัง:
    +83,352
    รายการจัดส่งพระวันนี้ครับ
    26/03/2565


    - คุณ ทิปต์ธีรนันท์ ED547328659TH
    ขอบคุณครับผม :D:D:D
     
  3. Specialized

    Specialized ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    22,156
    กระทู้เรื่องเด่น:
    23
    ค่าพลัง:
    +83,352
    รายการที่ 1,258 (ปิดรายการ)
    เหรียญรุ่นแรก "พระโพธิญาณ" (องค์ที่ 2)
    เนื้อทองแดงแจกทาน (ชนวนรวม) พ.ศ.2557
    ครูบากฤษดา สุเมโธ วัดสันพระเจ้าแดง จ.ลำพูน

    ?temp_hash=febf9dfda58b9a77066d73a269fab530.jpg
    ?temp_hash=febf9dfda58b9a77066d73a269fab530.jpg

    ?temp_hash=febf9dfda58b9a77066d73a269fab530.jpg

    จัดสร้างขึ้นตามคำดำริของพระครูบากฤษดา สุเมโธ ในวาระที่ท่านอายุครบ 38 ปี ในปี พ.ศ.2557 เพื่อหารายได้สมทบทุนสร้างกุฏิสงฆ์ และกำแพงวัดป่ายาง ( สันพระเจ้าแดง ) เหรียญทั้งหมดเข้าพิธีปลุกเสกตลอดไตรมาส ( 3 เดือน ) โดยมอบหมายให้นายช่างประหยัด ลออพันธ์สกุล (ช่างอ็อด) เป็นผู้ออกแบบ แกะพิมพ์ และปั๊มเหรียญทั้งหมด ซึ่งเหรียญทั้งหมดจะตอกโค๊ด และตอกหมายหมายเลข ยกเว้นเหรียญเนื้อนวะเต็มสูตร, ชนวนมงคลไร้ห่วง, ฝาบาตร และทองแดงแจกทาน จะตอกเพียงโค๊ดอย่างเดียว โดยช่างได้ทำเหรียญสำรองเผื่อเสียไว้บางส่วน ซึ่งเหรียญสำรองเผื่อเสียนี้จะตอกโค๊ด แต่ไม่ได้ตอกหมายเลข

    เหรียญรุ่นแรกครูบากฤษดา (พระโพธิญาณ) "เหรียญแห่งการรอคอย"
    ?temp_hash=febf9dfda58b9a77066d73a269fab530.jpg ?temp_hash=febf9dfda58b9a77066d73a269fab530.jpg

    ถ้าย้อนเวลากลับไปเมื่อประมาณ 10 ปีก่อน ผู้เขียนเคยปรารถกับท่านครูบาท่านว่า "ครูบาน่าจะสร้างเหรียญรุ่นแรกที่เป็นเหรียญรูปครูบานะครับ" ณ เวลานั้น ครูบาท่านตอบผมว่า "ยังไม่ถึงเวลา และยังไม่มีวาระของเราที่จะสร้างเหรียญที่มีรูปเหมือนเรา อยู่บนเหรียญ" ผมถามต่อด้วยความสงสัยว่า "แล้วเมื่อไหร่หละครับที่จะถึงเวลานั้น" ท่านครูบาก็ตอบผมว่า "เทวดา และสิ่งศักดิ์สิทธิ์เป็นผู้กำหนด เมื่อถึงเวลาแล้ว เราจะบอกเธอเอง เราต้องทำวัดนี้ให้ดี เพราะต่อไปภายหน้าจะมีคนมาทำบุญกันมาก มีคนมากราบขอพรกับพระเจ้าแดงมาก"

    นั่นคือคำพูดที่ครูบาท่านบอกผมไว้เมื่อประมาณ 10 ปีก่อน..และผมก็ไม่เคยถามท่านเรื่องเหรียญรุ่นแรกอีกเลย จนกระทั่งเดือนกันยายน พ.ศ 2555 ผมได้มีโอกาสขึ้นไปกราบท่านที่วัดสันพระเจ้าแดง และถามท่านอีกครั้งว่า "ไม่ทราบว่าถึงเวลา และวาระที่จะสร้างเหรียญรุ่นแรกของครูบา หรือยังครับ" คราวนี้ท่านตอบผมว่า "ถึงเวลา และเทวดาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ท่านให้สร้างได้แล้ว เราและวัดจะเป็นผู้จัดสร้างและออกทุนเหรียญนี้เอง เธอช่วยเราดำเนินการก็พอนะ" ผมรู้สึกปลาบปลื้มและยินดีเป็นอย่างที่สุดที่จะได้ช่วยเหลือท่านในการครี้งนี้

    เดือนตุลาคม พ.ศ. 2555 ผมเริ่มติดต่อหาช่างฝีมือดี ที่จะมาทำงานนี้ให้ครูบาท่าน แน่นอนว่าชื่อนายช่างเกษม มงคลเจริญ นายช่างชั้นครูฝีมือขั้นเทพ มีอยู่ในความคิดของผมที่จะให้ท่านมาช่วยงานเหรียญรุ่นแรกของครูบาท่าน แต่ผมมาทราบภายหลังว่า ด้วยวัยกว่า 80 ปีทำให้นายช่างเกษม ได้วางมือจากการทำงานเหรียญไปเสียแล้ว ผมจึงต้องแสะหาช่างฝีมือดีท่านอื่นที่จะมารับงานนี้ ผมได้ชื่อนายช่างมาทั้งหมด 3 ท่าน จากคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญในการสร้างเหรียญ หนึ่งในนั้น คือ ช่างประหยัด ลออพันธ์สกุล (ช่างอ๊อด) ศิษย์ผู้น้องของช่างเกษม มงคลเจริญ ณ เวลานั้นผมเองไม่รู้จักนายช่างท่านใดเลย ผมได้นำชื่อของนายช่างทั้ง 3 ท่าน นี้มาให้ครูบาท่านเลือกว่าจะให้ใครทำงานเหรียญรุ่นแรกนี้ให้กับท่านครูบา พร้อมทั้งให้ข้อมูลที่ผมได้รับมากับครูบาว่า ช่าง 2 ท่านแรกที่ไม่ใช่นายช่างประหยัด กำลังโด่งดังมากในเวลานี้ เป็นช่างหนุ่มไฟแรง สายตาดี ทำงานเร็ว เร่งเวลาได้ แต่ส่วนนายช่างประหยัด อายุมากแล้ว ทำงานช้ามาก เร่งงานก็ไม่ได้ ผมได้นำข้อมูลทั้งหมดให้ครูบาท่านรับทราบเพื่อตัดสินใจ และเพื่อที่ผมจะได้ทำการติดต่อนายช่างที่ครูบาท่านได้เลือกไว้ เวลาผ่านไป 1 คืน ครูบาท่านตอบผมกลับมาว่า "ฉันเลือกนายช่างประหยัดทำงานนี้" ด้วยความสงสัย ผมจึงถามหาเหตุผลจากท่านครูบาว่า ทำไมถึงเลือกนายช่างประหยัด ท่านตอบเพียงว่า "เราชอบชื่อนี้ ไม่รู้จักเค้าหรอก เห็นว่าชื่อประหยัด ก็น่าจะช่วยเราประหยัดปัจจัยในการสร้างเหรียญรุ่นนี้ได้บ้าง" ผมจึงเริ่มติดต่อนายช่างประหยัด ตั้งแต่เดือนตุลาคม พ.ศ 2555 เป็นต้นมา

    ?temp_hash=febf9dfda58b9a77066d73a269fab530.jpg

    หลังจากที่ครูบาท่านได้พิจารณาเลือกนายช่างประหยัด(ช่างอ๊อด) ทำงานเหรียญรุ่นแรกนี้ให้กับท่าน ผมก็ได้พยายามติดต่อช่างอ๊อด โดยเริ่มติดต่อกับช่างอ็อด ทางโทรศัพท์ ซึ่งในตอนนั้น ช่างอ๊อด ไม่ยอมรับงานนี้ โดยให้เหตุผลว่ายังไม่มีเวลาเพียงพอ และไม่รู้จักท่านครูบากฤษดา สุเมโธ ผมได้พยายามติดต่อกลับไปที่ช่างอ็อด อีกหลายครั้ง แต่ผลก็เหมือนเดิม คือ ช่างอ็อด ยังไม่ยอมรับงานนี้ และไม่ยินดีที่จะให้ผมได้เข้าพบ ผมได้นำเรื่องทั้งหมดนี้แจ้งให้ครูบาท่านรับทราบ แต่ดูเหมือนท่านไม่ได้วิตกกังกลใดๆ ท่านได้แต่ยิ้ม และบอกผมว่า “เทวดา ท่านได้กำหนดไว้แล้ว อีกไม่นานเธอจะได้พบเจอกับนายช่างคนนี้” และนี่ก็เป็นคำพูดของครูบาท่าน ซึ่งเป็นอีกครั้งที่ผมรู้สึกได้ว่าท่านคงหยั่งรู้สิ่งที่จะเกิดขึ้นภายหน้าไว้แล้ว และผมก็ได้ประจักษ์ในเดือนธันวาคม พ.ศ.2555 ช่างอ็อด ได้โทรเข้ามาหาติดต่อผม และเรียกให้ผมเข้าไปพบ เพื่อพูดคุยในรายละเอียดของงานเหรียญรุ่นแรกของครูบากฤษดา สุเมโธ

    ครั้งแรกที่ได้มีโอกาสพบกับช่างอ็อด ผมได้นำรูปถ่ายของครูบาท่านติดตัวไปให้ช่างอ๊อดได้ชมด้วย ประโยคแรกที่ช่างอ็อด เอ่ยพูดออกมาหลังจากได้เห็นภาพของครูบาแล้ว คือ “ครูบากฤษดา ท่านเป็นพระหนุ่มหรือนี่...ดูท่านคล้ายคล้ายกับหลวงพ่อลี วัดอโศการาม มากเลย...โดยเฉพาะโครงรูปหน้ายิ่งเหมือนมาก...ผมเกรงว่าแกะพิมพ์ออกมาแล้วจะไปเหมือนหลวงพ่อลี แล้วหละซิ” ผมได้แต่นั่งอมยิ้ม เพราะนึกถึงคำพูดของครูบาที่เคยบอกผมก่อนหน้านี้ไว้ว่า”หลวงพ่อลี แห่งวัดอโศการาม นี้ คือ พระอรหันต์อีกรูปหนึ่ง ที่ฉันเคารพนับถือมาก ท่านคือพระเจ้าอโศกมหาราช กลับชาติมาเกิด ท่านละสังขารเร็ว เพราะท่านปรารถนา และหลวงพ่อลีท่านก็เป็นพระสายเดียวกับเรา คือ สายพระอุปคุต”

    ในที่สุดช่างอ๊อดก็ตกลงรับคำที่จะทำงานเหรียญรุ่นแรกนี้ให้กับท่านครูบากฤษดา แต่ก็ย้ำเน้นว่า “อย่าเร่งงานผมนะครับ งานผมเป็นงานแกะสดด้วยมือ ผมทำงานคนเดียวทุกขั้นตอน ผมรับปากไม่ได้ว่างานนี้จะเริ่มได้เมื่อไหร่ และจะเสร็จเมื่อไหร่ ผมมีงานที่ยังไม่แล้วเสร็จอีกหลายชิ้น” แต่อย่างน้อยการตกปากรับคำของช่างอ็อด ก็ทำให้ผมสบายใจขึ้นมาได้บ้าง แม้ว่าจะยังไม่มีวี่แวววันกำหนดเสร็จของเหรียญรุ่นนี้ก็ตาม

    ผมได้แจ้งเรื่องราวทั้งหมดให้ครูบาท่านรับทราบอีกครั้ง พร้อมทั้งนำคำถามที่ช่างอ็อดต้องการทราบในเรื่องของรูปแบบ และรายละเอียดของเหรียญที่ครูบาท่านต้องการมาปรึกษาหารือกับท่านหลังจากนั้น “ฉันชอบเหรียญแบบครูบาศรีวิชัย เป็นรูปไข่แอ่งกระทะ ครึ่งตัว ส่วนยันต์และอักขระก็เอาตามเหรียญครูบาศรีวิชัย ส่วนอื่นๆ ก็แล้วแต่นายช่างประหยัด ก็แล้วกัน” ผมได้นำความทั้งหมดนี้แจ้งกลับไปที่ช่างอ๊อด พร้อมทั้งเล่าเรื่องราวต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับครูบาท่านให้ช่างอ๊อดได้ฟัง เพื่อเป็นข้อมูลในการออกแบบเหรียญเบื้องต้น และด้วยความที่ช่างอ็อดอยากให้เหรียญนี้เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของครูบาท่านเอง ไม่อยากให้เหรียญรุ่นแรกนี้ไปเหมือนกับเหรียญครูบาศรีวิชัยจนเกินไป ช่างอ็อดจึงได้เขียนแบบเหรียญออกมาดังภาพที่ได้ปรากฏแก่สายตาทุกท่านไปแล้ว ซึ่งก็เป็นที่พอใจแก่ครูบาท่านด้วยเช่นกัน โดยรายละเอียดที่ปรากฏบนเหรียญรุ่นแรกนี้ ครูบาท่านเมตตานำมงคลอันสูงสุดมาไว้ให้แก่เหล่าบรรดาลูกศิษย์และผู้ที่มีจิตศรัทธา ไม่ว่าจะเป็นยันต์อักขระขอมทั้ง 4 แนว ที่ช่างอ๊อดได้จัดเรียงใหม่ให้อยู่บริเวณขอบด้านหลังเหรียญ ขั้นด้วยดอกบัว 4 ดอก ซึ่งดอกบัวนี้ก็เป็นสัญลักษณ์แห่งท่านพระอุปคุต และท่านครูบากฤษดา อักขระขอมทั้ง 4 แนว ที่ว่านี้ เป็นคาถาให้พร มีความหมายว่า

    สพฺพพุทฺธานุภาเวน ด้วยอานุภาพแห่งพระพุทธเจ้าทั้งปวง
    สพฺพธมฺมานุภาเวน ด้วยอานุภาพแห่งพระธรรมทั้งปวง
    สพฺพสงฺฆานุภาเวน ด้วยอานุภาพแห่งพระสงฆ์ทั้งปวง
    สทา โสตฺถี ภวนฺตุ เต ขอความสวัสดีทั้งหลายจงมีแก่ท่านทั้งหลาย

    นอกจากนี้ยันต์พระเจ้าห้าพระองค์ ก็เป็นพระยันต์อันสุดยอดของมหายันต์ต่างๆ “นะ โม พุท ธา ยะ” ที่ประกอบกันเป็นคาถาพระเจ้า 5 พระองค์ หรือเรียกว่า แม่ธาตุใหญ่” ซึ่งมีพุทธคุณเหนือยันต์ทั้งปวง รวมทั้งความเชื่อสืบต่อกันว่า “ผู้ใดที่ท่องหรือบริกรรมพระคาถาบทนี้ด้วยจิตอันสงบและมั่นคงแล้ว จะมีพุทธคุณคุ้มครองครอบจักรวาล”

    นะ หมายถึง พระกุกกุสันโธ ใช้เขียนแทน ธาตุน้ำ ซึ่งเรียกว่าอาโปธาตุ มีกำลัง 12
    โม หมายถึง พระโกนาคม ใช้เขียนแทน ธาตุดิน ซึ่งเรียกว่า ปฐวีธาตุ มีกำลัง 21
    พุท หมายถึง พระกัสสป ใช้เขียนแทน ธาตุไฟซึ่งเรียกว่า เดโชธาตุ มีกำลัง 6
    ธา หมายถึง พระสมณะโคดม (พระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน) ใช้เขียนแทน ธาตุลม ซึ่งเรียกว่า วาโยธาตุ มีกำลัง 7
    ยะ หมายถึง พระศรีอารยเมตไตรย (พระพุทธเจ้าองค์ถัดไป หลัง พ.ศ.5000) ใช้เขียนแทน อากาศธาตุ มีกำลัง 10

    ?temp_hash=febf9dfda58b9a77066d73a269fab530.jpg

    อีกทั้งครูบาท่านยังเมตตาให้เพิ่มยันต์ “ยันต์พระภควัม” หรือ “ยันต์น้ำเต้า” ใส่ซ้อนในยันต์พระเจ้าห้าพระองค์ เพื่อระลึกถึงครูบาอาจารย์ที่ท่านนับถือ ไม่ว่าจะเป็นพระคุณ สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (เจริญ ญาณวรเถร) ท่านเจ้าคุณนรรัตนราชมานิต (ธมมวิตักโก ภิกขุ) หรือในอีกนามที่เรียกกันสั้นๆว่า "ท่านเจ้าคุณนร" และหลวงปู่พิศดู ที่จารึกยันต์นี้ไว้ในเหรียญรุ่นแรกของท่านไว้ด้วยเช่นกัน ยันต์น้ำเต้าประกอบด้วยอักขระขอม 6 ตัว บรรจุอยู่ภายในวงกรอบ เรียงซ้อนกันสามชั้น ลดหลั่นตามลำดับ เมื่อมองดูรูปทรงสัณฐานวงนอกแล้ว ก็จะเห็นคล้ายกับพระภควัมบดี หรือที่นิยมเรียกกันทั่วไปว่า “พระสังกัจจายน์” พระอรหันต์สาวกที่ยิ่งใหญ่องค์หนึ่งในสมัยพุทธกาล ตัวอักขระขอมทั้งหมด ที่บรรจุอยู่ใน “ยันต์พระภควัมบดี” นั้น แต่ละตัวมีความหมายพอจะกล่าวได้ดังต่อไปนี้

    1. อักษรตัวบนสุด อันนับเป็นแถวแรกนั้น ก็คือ “อะ” ย่อมาจากคำเต็มว่า “อรหัง” อันหมายถึง องค์สมเด็จพระบรมศาสดา พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
    2. อักษรแถวกลาง หรือแถวที่สองนั้น มีอยู่ด้วยกัน 2 ตัว คือ “อุ” กับ “มะ”
    “อุ” นั้น ย่อมาจากคำเต็มว่า “อุตตมธรรม” อันหมายถึง พระธรรมอันยอดเยี่ยมยิ่งใหญ่ ที่พระพุทธองค์ได้ทรงค้นพบ แล้วทรงนำมาเผยแผ่ให้เป็นประโยชน์แก่ชาวโลก
    ส่วน “มะ” นั้น ย่อมาจากคำเต็มว่า “มหาสังฆะ” ได้แก่ พระสงฆ์หมู่ใหญ่ ผู้เป็นสาวกของพระพุทธองค์ เจริญรอยพระยุคลบาท ดำรงพระศาสนา สืบมาจนตราบเท่าทุกวันนี้
    3. ส่วนอักขระแถวล่างสุดคือแถวที่สาม ในยันต์นั้นมีอยู่ 3 ตัวด้วยกัน คือ “พะ” “ฆะ” และ “อะ”
    “พะ” ย่อมาจากคำเต็มว่า “พุทธ”
    “ฆะ” ย่อมาจากคำเต็มว่า “โฆษะ”
    “อะ” ย่อมาจากคำเต็มว่า “อาจารย์”
    เมื่อรวมอักขระแถวล่างสุดด้วยกันทั้งหมดแล้ว ก็จะเป็นคำเต็มที่ว่า “พุทธโฆษาจารย์” อันเป็นราชทินนามตามสมณศักดิ์ ของท่านเจ้าพระคุณสมเด็จฯ ผู้เป็นพระอุปัชฌาย์ของท่านเจ้าคุณนรฯ นั่นเอง

    รวมความว่า “ยันต์พระภควัม” หรือ “ยันต์น้ำเต้า” นี้ ได้รวมเอาสัญลักษณ์ของพระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ ครบองค์พระรัตนตรัย นอกจากนี้รูปพระภควัมบดีนั้นเป็นที่รวมไว้ซึ่งสิ่งอันประเสริฐสุด ทั้งยังเป็นเป็นสัญลักษณ์ของความเป็นผู้โชคดี มีโชคลาภ และมีลาภเพิ่มพูนอุดมสมบูรณ์อีกด้วย ซึ่งทั้งหมดนี้ครูบากฤษดา ท่านได้พิจารณาแล้วว่าเป็นมงคลอันประเสริฐสูงสุดที่จะมอบให้แก่เหล่าบรรดาลูกศิษย์สืบไป และพวกเราเหล่าบรรดาลูกศิษย์ขอให้ภาคภูมิใจเถอะว่า เหรียญรุ่นแรกพระโพธิญาณนี้ ครูบาท่านตั้งใจและคิดพิจารณาไว้อย่างดีครบถ้วนทุกประการแล้ว

    หลังจากที่ได้รูปแบบเหรียญ และทราบถึงความหมายของอักขระแต่ละตัวบนเหรียญรุ่นแรกกันไปแล้ว ผมก็ขอเล่าถึงที่มาของคำว่า “พระโพธิญาณ” สักหน่อย เดิมทีนั้น เหรียญรุ่นแรก(พระโพธิญาณ) นี้ได้ถูกตั้งชื่อไว้มากมายหลายชื่อ ทั้งจากทางผม และลูกศิษย์ท่านอื่นๆ ซึ่งพวกเราล้วนแต่ตั้งชื่อตามกิเลสที่เรามีอยู่ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นคำว่า รวย มั่นคง รุ่งเรือง โชคลาภ ปลอดภัย หรืออะไรทำนองนี้ ผมได้รวบรวมชื่อทั้งหมดให้ครูบาท่านพิจารณา ท่านตอบว่า “ชื่อทั้งหมดที่ตั้งกันมานี้ ไม่ใช่วิถีทางของเรา เราไม่อยากให้ผู้ใดงมงาย หรือยึดติดสิ่งเหล่านี้ มันไม่ใช่ธรรมะ แม้แต่คำว่ารุ่นแรก เราก็ไม่อยากใส่ไว้บนเหรียญ คนจะได้ไม่ยึดติด” ผมเรียนถามท่านต่อว่า “แล้วจะให้ชื่อว่าอะไรดีหละครับ” ท่านตอบว่า “เราขอตั้งชื่อเหรียญรุ่นแรกนี้ว่า “พระโพธิญาณ” เพราะนี่คือทางของเรา” ผมนิ่งไปชั่วขณะ อิ่มเอมใจอย่างบอกไม่ถูก

    เวลาต่อมาผมได้นำชื่อเหรียญรุ่นแรกนี้แจ้งให้นายช่างประหยัด หรือช่างอ็อดทราบ เพื่อที่จะได้เพิ่มคำว่า “พระโพธิญาณ” ลงบนเหรียญ และหลังจากที่ผมได้แจ้งช่างอ็อดแล้ว ช่างอ็อดพูดในวินาทีนั้นว่า “ผมขนลุกไปหมดเลย คุณเชื่อไหม ตลอดชีวิตการทำงานของผม ผมยังไม่เคยแกะคำว่า พระโพธิญาณ ให้กับหลวงพ่อท่านไหนเลย คำนี้เป็นคำที่สูงมากนะครับ ถ้าจะให้ผมแกะคำนี้ ผมขอใส่ไว้ด้านหน้าเหรียญนะครับ” เวลานั้นผมรู้สึกได้ว่าช่างอ็อดมีอาการนิ่งไปชั่วขณะ อิ่มเอมใจ ซึ่งเป็นอาการเดียวกันกับที่เกิดขึ้นกับผมมาแล้ว

    หลังจากนั้นมา ผมได้พบกับช่างอ็อดอีกหลายครั้ง และปรึกษาหารือกับครูบาท่านอีกหลายหน เพื่อหาสรุปเกี่ยวกับเนื้อหา มวลสาร และโลหะที่จะใช้ในการสร้างเหรียญรุ่นแรก “พระโพธิญาณ” ในขณะเดียวกันก็รอวาระที่ช่างอ็อด จะเริ่มแกะแม่พิมพ์เหรียญรุ่นแรกนี้ ซึ่งสรุปสุดท้ายมีเนื้อหาของเหรียญรุ่นแรก ดังต่อไปนี้

    - เหรียญเนื้อทองคำ ใช้ทองคำบริสุทธิ์ 96.5% แบ่งแผ่นโลหะทองคำบริสุทธิ์ 9 แผ่นผสม ซึ่งจารและอธิฐานจิตโดยพระเกจิ 9 ท่าน ที่ครูบาท่านได้เลือก
    - เหรียญเนื้อเงินลงยา ใช้เม็ดเงินบริสุทธิ์ 99.99% แบ่งแผ่นโลหะเงินบริสุทธิ์ 9 แผ่นผสม ซึ่งจารและอธิฐานจิตโดยพระเกจิทั้ง 9 ท่าน ที่ครูบาท่านได้เลือก ลงยาสีแดง สีน้ำเงิน และสีเขียว
    - เหรียญเนื้อเงินบริสุทธิ์ ใช้เม็ดเงินบริสุทธิ์ 99.99% แบ่งแผ่นโลหะเงินบริสุทธิ์ 9 แผ่นผสม ซึ่งจารและอธิฐานจิตโดยพระเกจิทั้ง 9 ท่าน ที่ครูบาท่านได้เลือก
    - เนื้อชนวนมงคล ใช้ชนวนที่สะสมมาตั้งแต่อดีต และชนวนเหลือจากการสร้างวัตถุมงคล เช่น ก้านพระกริ่งและชนวนรุ่น 3 รอบ ชนวนหล่อพระปัจเจก รวมถึงชนวนใหม่ที่ครูบาท่านเห็นสมควร แบ่งแผ่นโลหะเงินบริสุทธิ์ 9 แผ่นผสม ซึ่งจารและอธิฐานจิตโดยพระเกจิทั้ง 9 ท่าน ที่ครูบาท่านได้เลือก เนื้อชนวนนี้ครูบาท่านได้กำชับว่าห้ามผสมโลหะอย่างอื่นเด็ดขาด ในกรณีที่รีดแผ่นแล้วเนื้อมีความแข็งและไม่สามารถปั้มได้ ให้ใส่เงินบริสุทธิ์ผสมได้เท่านั้น ครูบาท่านว่าก้อนชนวนที่หลอมเก็บไว้เพื่อจะใช้ปั้มเหรียญเนื้อชนวนมงคลนี้ มีส่วนผสมของทองคำเป็นจำนวนมาก
    - เหรียญเนื้อนวะโลหะพิเศษ ใช้โลหะครบทั้ง 9 ชนิดตามสูตรโบราณที่ปฏิบัติกันมา คือ ชิน เจ้าน้ำเงิน เหล็กละลายตัว บริสุทธิ์ ปรอท สังกะสี ทองแดง เงิน และทองคำ ห้ามขาดแม้แต่เนื้อเดียว สัดส่วนนั้นให้เป็นไปตามช่างเห็นสมควร แบ่งแผ่นโลหะทองคำบริสุทธิ์ 9 แผ่นผสม ซึ่งจารและอธิฐานจิตโดยพระเกจิ 9 ท่าน ที่ครูบาท่านได้เลือก นอกจากนี้ครูบาท่านยังให้แบ่งก้อนชนวนมงคลหลอมรวมในเนื้อนวะโลหะพิเศษตามสัดส่วนที่ช่างเห็นสมควร
    - เหรียญเนื้อตะกั่วนม ใช้ชนวนตะกั่วนมซึ่งมีอายุหลายร้อยปี ผสมด้วยตะกั่วใหม่เพื่อให้โลหะเกาะตัวและปั้มเหรียญได้ ผสมด้วยแผ่นโลหะตะกั่ว 9 แผ่น ซึ่งจารและอธิฐานจิตโดยพระเกจิ 9 ท่าน ที่ครูบาท่านได้เลือก ทั้งนี้ช่างอ็อดยังได้ขอถวายชนวนตะกั่วนม ที่ได้เก็บสะสมมานานเพื่อหลอมปั้มเหรียญรุ่นแรก (พระโพธิญาณ) เนื้อตะกั่วนมนี้ด้วย อีกทั้งช่างอ็อดขอใช้สูตรผสมเล่นแร่แปรธาตุในเนื้อตะกั่วนี้ เพื่อให้เหรียญเนื้อตะกั่วนี้มีความแข็งมากกว่าปกติ เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ
    - เหรียญเนื้อทองแดง ใช้ทองแดงบริสุทธ ิ์ ผสมแผ่นโลหะทองแดง 9 แผ่น ซึ่งจารและอธิฐานจิตโดยพระเกจิ 9 ท่าน ที่ครูบาท่านได้เลือก ครูบาท่านยังให้ผสมก้อนชนวนมงคลเพิ่มเติมเข้าไปอีกด้วย

    พระเกจิที่ครูบาท่านได้ให้อธิฐานจิต และจารแผ่นโลหะชนวน ทั้ง 9 ท่าน ประกอบด้วย
    1. หลวงปู่สังข์ วัดป่าอาจารย์ตื้อ
    2. ครูบาดวงดี วัดบ้านฟ่อน
    3. ครูบาครอง วัดท่ามะเกว๋น
    4. หลวงปู่ลี วัดภูผาแดง
    5. หลวงปู่สนั่น วัดป่าคลองกุ้ง
    6. หลวงปู่ท่อน วัดศรีอภัยวัน
    7. หลวงพ่อสิริ วัดตาล
    8. หลวงพ่อจรัญ วัดอัมพวัน
    9. หลวงปู่แผ้ว ปวโร วัดประชาราษฎร์บำรุง (วัดรางหมัน)

    ?temp_hash=febf9dfda58b9a77066d73a269fab530.jpg

    เลี่ยมเงินพร้อมกล่องเดิมครับ
    แบ่งบูชา 9,999 บาท
    ส่งฟรีแบบ EMS
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 มีนาคม 2022
  4. Specialized

    Specialized ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    22,156
    กระทู้เรื่องเด่น:
    23
    ค่าพลัง:
    +83,352
    รายการที่ 1,259 (คุณ ก ฯลฯ ฮ บูชาแล้วครับ)
    พระผงรูปเหมือนติดจีวร
    หลวงปู่หา สุภโร (หลวงปู่ไดโนเสาร์) วัดสักกะวัน(ภูกุ้มข้าว) จ.กาฬสินธุ์

    ?temp_hash=2f88745135390b494e7cfff72021fc5c.jpg

    ปัจจุบันท่านดำรงสมณศักดิ์ที่พระญาณวิสาลเถรป็นพระราชาคณะชั้นสามัญ เจ้าอาวาสวัดวัดสักกะวัน (ภูกุ้มข้าว) ที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์ และอดีตรองเจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์ เป็นอริยสงฆ์พระเถราจารย์ชั้นผู้ใหญ่ในสายป่าพระอาจารย์มั่น ท่านเจ้าคุณหลวงปู่หา(พระญาณวิสาลเถร) พระเกจิเถราจารย์ผู้มีญาณวิเศษหยั่งรู้นิมิต ผู้ทรงอภิญญาญาณวิปัสนากรรมฐานธรรมขั้นสูงแห่งเมืองน้ำดำ ศิษย์เอกสายป่าพระอาจารย์มั่น ตามแนวทางพระอาจารย์ใหญ่ วัตถุมงคลท่านเป็นสิ่งวิเศษ ประสบการณ์สูง

    ?temp_hash=2f88745135390b494e7cfff72021fc5c.jpg

    พระญาณวิสาลเถร หรือ ที่ลูกศิษย์ลูกหาต่างพากันเรียกท่านว่า “หลวงปู่ไดโนเสาร์” นั้น มีนามเดิมว่า หา เมื่อประมาณปี 2534 ท่านได้พบนิมิตโอภาส คือพบแสงสว่างที่ใสมากเป็นแสงที่ท่านไม่เคยพบในโลกนี้สว่างไปทั่วโลกธาตุ สว่างทั้งจักรวาล มองทะลุภูเขา มองทะลุต้นไม้มองเห็นทุกอย่างอยากเห็นสิ่งใดก็เห็นไปหมด แล้วก็ปรากฏสัตว์ชนิดหนึ่ง คอยาว ตัวใหญ่กว่าช้างเท้าใหญ่เท่ากระบุง เดินไปเดินมาในบริเวณภูกุ้มข้าว กินยอดไม้ เล่นน้ำ และล้มลงตายขณะที่เห็นมีลักษณะเป็นเหมือนฟิล์มหนังกลางแปลงในสมัยก่อนพอสัตว์นั้นตายลงก็หมดม้วนพอดี เป็นอย่างนี้อยู่สองสามครั้ง ในปี 2536 และปี 2537 ก็มีลักษณะเดียวกัน ครั้งสุดท้ายพอเห็นจบแล้วก็มีเสียงมาบอกว่า จะมาขออยู่ด้วยเตรียมตัวไว้พรุ่งนี้จะมีฝนมาจากทิศอุดรห่าใหญ่ผมจะมากับฝน ครั้งล่าสุดท่านเข้าปฏิสลีได้เพียงสามวันเท่านั้นก็เก็บบาตรและกลดลงจากยอดเขา สั่งให้พระเณรเก็บสิ่งของไปไว้บนกุฏิ เวลาประมาณเที่ยงวันฝนก็เริ่มตั้งเค้าและตกลงมาอย่างไม่ลืมหูลืมตา หลวงปู่ท่านได้กางร่มเดินออกมาตรวจบริเวณวัดขณะฝนตก ด้วยลมที่กรรโชกและห่าฝนที่กระหน่ำตกลงมาอย่างไม่ลืมหูลืมตาทำให้ร่มในมือหลวงปู่โดนพัดไปเหลือแต่ด้ามเท่านั้น ท้องฟ้าบริเวณทั้งมืดมิดจนมองไม่เห็นสิ่งใด หลวงปู่จึงนั่งลงตรงที่เห็นสัตว์นั้นตายในนิมิต ฝนตกกว่าสามชั่วโมงจึงเริ่มซาและหายไปในที่สุด จากฟ้าที่มืดก็ปรากฏแสงสว่างขึ้นมา แผ่นดินที่เคยสูงโดนน้ำเซาะจนเห็นเป็นกระดูกชิ้นใหญ่ หลายสิบชิ้นกระจัดกระจายอยู่ทั่วไปในบริเวณที่ท่านนั่ง ท่านก็สั่งให้คนเก็บกระดูกนั้นไว้และส่งข่าวไปยังนายอำเภอเพื่อมาตรวจสอบ ทางอำเภอจึงส่งข่าวไปยังศูนย์วิจัยไดโนเสาร์ที่ อ.ภูเวียง จ.ขอนแก่น เจ้าหน้าที่ก็ได้มาตรวจสอบปรากฏว่าเป็นไดโนเสาร์พันธุ์กินพืชที่ใหญ่เก่าแก่และสมบูรณ์ที่สุดเท่าที่มีการค้นพบมา จึงเป็นที่มาของชื่อ 'หลวงปู่ไดโนเสาร์' นั่นเอง นอกจากนี้ใครที่เคยได้อ่านธรรมะของท่านจะสัมผัสได้ว่าธรรมะของท่านเรียบง่าย เข้าใจง่ายและลึกซึ้งมาก มีคำถามอะไรทั้งทางโลกทางธรรมท่านตอบได้หมด ใครสนใจลองเข้าไปดูในเพจของวัดท่านได้ครับ ปัจจุบันท่านอายุ 97 ปี (ท่านเกิด พ.ศ.2468)

    https://www.posttoday.com/dhamma/239817
    ?temp_hash=2f88745135390b494e7cfff72021fc5c.jpg

    แบ่งบูชา 149 บาท
    ส่งฟรีแบบลงทะเบียนครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 เมษายน 2023
  5. Specialized

    Specialized ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    22,156
    กระทู้เรื่องเด่น:
    23
    ค่าพลัง:
    +83,352
    รายการที่ 1,260 (คุณ chomkamon บูชาแล้วครับ)
    พระอุปัทเทยยะ เนื้อผงพุทธคุณ ลงทอง พ.ศ.2562 (องค์ที่ 7)
    หลวงพ่อหนุน วัดพุทธโมกข์ จ.สกลนคร

    ?temp_hash=862eeba40eb468e197f8901ce702ca4e.jpg

    ''พระอุปัทเทยยะ ''
    ตำนานพระพุทธรูปลึกลับดำดินและยันต์อุปัทเทยยะ อันลือลั่น.! แห่งวัดพุทธโมกฯ
    (พระพุทธรูป-ยันต์ คู่บารมีหลวงพ่อหนุน)

    เมื่อสิบกว่าปีก่อนหลวงพ่อหนุน สุวิชโยท่านได้เดินธุดงค์ไปทั่วประเทศ จนไปถึงเมืองลำปาง มีนิมิตว่าเทวดามาบอกให้เข้าไปเอาพระในหุบเขา มีถ้ำลึกลับที่มีสมบัติมีพระพุทธรูปโบราณอยู่ ฝันติดต่อกันอยู่หลายครั้ง จึงได้เดินค้นหาจนไปถึงถ้ำในป่าลึกตามนิมิต แต่ไม่พบองค์พระมีแต่ชิ้นหนังที่รองฐานพระมีอักขระอุปปัทเทยยะ อยู่ ท่านดูเสร็จแล้วเก็บไว้ที่เดิมไม่ได้เอากลับมา
    .
    หลายปีผ่านไปหลวงพ่อได้มาสร้างวัดพุทธโมกข์ วันหนึ่งในตอนค่ำพระหนุ่มในวัดมีอาการแปลกคล้ายถูกเจ้าเข้า ไปบอกหลวงพ่อให้ไปเอาพระองค์ที่ตามหาอยู่หลายปีเสด็จมาอยู่ที่วัดแล้ว หลวงพ่อและคณะจึงไปตรงสถานที่ที่พระหนุ่มบอก ซึ่งปัจจุบันคือบริเวณก่อนถึงโบสถ์ที่กำลังสร้าง หลวงพ่อได้เตรียมขุดพระซึ่งโผล่มาแต่ยอดเกศ ท่านลองเอามือเขี่ยและโกยดินบริเวณนั้น พระหลุดจากพื้นมาง่ายดาย พระองค์นี้มียันต์อุปัทเทยยะอยู่บริเวณใต้ฐานองค์พระ ซึ่งเคยเห็นในแผ่นหนังและตามนิมิต ท่านจึงนำมาเก็บรักษาไว้จนถึงทุกวันนี้

    ?temp_hash=862eeba40eb468e197f8901ce702ca4e.jpg

    พระพุทธรูปลึกลับดำดิน.O
    ....ดึกสงัด..หลังจากทำวัตรเสร็จ4ทุ่ม ในคืนเดือนหงายของช่วงฤดูหนาวที่ผ่านพ้น ราวๆปี2524-2525 (จำพ.ศ.ไม่ได้) ณ ภายในวิหารสวดมนต์วัดพุทธโมกฯ (หลังที่ว่านี้ อยู่ด้านหน้าโบสถ์หิน สมัยนั้นมุงด้วยหญ้าคา)
    "ตอนนี้พระพุทธรูปองค์นั้นได้เสด็จมาถึงวัดพระคุณเจ้าแล้ว"
    เสียงพูดของเด็กวัดรุ่นใหญ่วัยหนุ่มดังขึ้น ซึ่งเขากำลังคุยอยู่กับหลวงพ่อหนุนนั่นเอง ทั้งสองหันหน้าเข้าหากันในระยะห่างพอประมาณ แต่จะคุยกันด้วยเรื่องอะไรนั้น ผู้เขียนซึ่งนอนเล่นอยู่ใกล้ๆในระยะห่างประมาณ2วา(อยู่ไกลไม่ได้กลัวผี555) ก็ไม่ได้สนใจอะไรตามประสาเด็กๆ (ตอนนั้นผู้เขียนอายุได้ประมาณ9-10ขวบ) แต่พอได้ยินประโยคที่ว่า "ตอนนี้พระพุทธรูปองค์นั้นได้เสด็จมาถึงวัดพระคุณเจ้าแล้ว" ประโยคนี้แหละที่กระตุ้นเร่งเร้าให้ผู้เขียนหันมาสนใจในบุคคลทั้ง2ว่า เอ๊ะ..ผู้ใหญ่2คนนี้กำลังคุยเรื่องอะไรกัน? และสิ่งที่ชวนให้เกิดความพิศวง ชวนสงสัยอีกอย่างก็คือ..ตาเด็กวัดรุ่นพี่แข็ง..ไม่กะพริบ.!!?? (มาเข้าใจในภายหลังว่า อาการแบบนั้นเป็นอาการของพวกพรหมเขาลงมาประสานจิต หรือใช้กำลังฤทธิ์ควบคุมนั่นเอง แต่คนไทยเรานิยมเรียกว่า สิง หรือ เข้าสิง)

    สักพักก็เห็นผู้ใหญ่ทั้ง2หยุดคุยกัน แล้วก็จัดแจงแต่งดอกไม้5คู่ เทียนเบี้ย5คู่ใส่จาน แล้วพากันลุกเดินออกไปข้างนอก โดยมุ่งหน้าไปด้านทิศใต้บริเวณลานธรรมปริวาสฯ ซึ่งแต่ก่อนข้างๆลานธรรมนี้จะมีคลองน้ำธรรมชาติ อันเกิดจากการไหลเซาะของน้ำ หากเป็นช่วงหน้าแล้งคลองที่ว่าจะแห้ง และมีหาดหินลูกรังก้อนเล็กๆน่านังเล่นมาก ตอนนี้ผู้เขียนจึงอดไม่ได้ที่จะต้องลุกเดินตามไปดูด้วยความอยากรู้ โดยมีเด็กวัดรุ่นพี่เป็นผู้เดินนำทาง ตามด้วยหลวงพ่อหนุนถือขันธ์ดอกไม้เดินอยู่กลาง แล้วก็ผู้เขียนเดินรั้งท้าย(อย่างกระชันชิดพระกลัวผี) สักพักก็มาถึงคลองน้ำ (ในปัจจุบัน จะเป็นบริเวณด้านขวามือหลังพระประธานลานธรรมปริวาสฯ) พอลงมาไปถึงคลองก็เลี้ยวขวา เดินเลาะไปตามหาดหินลูกรัง เดินไปสักพักประมาณ30วา เด็กวัดรุ่นพี่ก็นิ่ง ซึ่งมีความหมายว่า "ถึงแล้ว" จากนั้นหลวงพ่อหนุน ก็นั่งลงด้วยอาการสำรวมระวังตั้งใจ วางขันดอกไม้ลง จากนั้นท่านก็ใช้มือทั้งสองข้าง คุ้ยหินลูกรังขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่า ตอนนี้ผู้เขียนพยายามเพ่งสายตาฝ่าแสงจันทร์ในคืนเดือนหงายเพื่อที่จะเห็นให้ได้ว่า พระอาจารย์ท่านคุ้ยหาอะไรกัน.!? บรรยากาศตอนนั้น ดู สงบ..เงียบงัน..คุ้ยลึกลงไปไม่ถึงศอก ทันใดก็ปรากฎว่ามีวัตถุลักษณะกลมๆ มียอดแหลมๆ โผล่ปรากฎแก่สายตา. แม้ว่าแสงจันทร์คืนนั้นอาจจะให้ความสว่างได้ไม่มากนักก็ตาม แต่ลักษณะของสิ่งที่เห็นนั้น ทำให้ผู้เขียนมั่นใจร้อยเปอร์เซนว่า สิ่งนั้นคือ เศียรพระพุทธรูป.!! ผู้เขียนอุทานในใจ อ๋อ ที่แท้พวกผู้ใหญ่พากันมาเอาพระพุทธรูปนี่เอง

    ?temp_hash=862eeba40eb468e197f8901ce702ca4e.jpg

    แล้วหลวงพ่อหนุนก็ใช้สองมือช้อนพระพุทธรูปองค์นั้นขึ้นมาด้วยอาการเคารพและระมัดระวังมาก ต่อจากนั้นจึงได้อุ้มองค์พระเข้าปะดิษฐานในวิหารเพื่อสักการะบูชา โดยมีเด็กวัดรุ่นใหญ่และผู้เขียนเดินตามมาติดๆ พอวันต่อมาหลวงพ่อหนุนจึงสังเกตุดูเนื้อหรือลักษณะขององค์พระพุทธรูปว่ามีลักษณะอย่างไร จึงพอสรุปได้ว่าเป็นพระพุทธรูปเก่าแก่โบราณเนื้อดินเผา ฐานขององค์พระกว้างประมาณคืบ และพอพลิกใต้ฐานองค์พระขึ้นมาดู จึงได้เห็นอักขระโบราณประมาณ5-6ตัว(ดูในภาพนะ)ซึ่งหลวงพ่อหนุนท่านเองก็อ่านไม่ออก จากนั้นหลวงพ่อหนุนจึงได้นำองค์พระไปให้หลวงปู่เกตุ หรือท่านพระครูพิศาลสิกขยุต อดีตเจ้าอาวาสวัดยอดลำธารบ้านนาแก้ว ซึ่งเป็นครูบาอาจารย์ในละแวกรูปหนึ่งที่หลวงพ่อหนุนนับถือท่านอย่างมากได้ดู หลวงปู่เกตุ ท่านได้เมตตาอ่านและถอดใจความของอักขระนั้นว่า เป็นภาษาโบราณ แปลเป็นภาษาบาลีอ่านว่า อุปัทเทยยะ แปลจากบาลีมาเป็นภาษาไทยว่า ปราศจากอุปัทวันตรายต่างๆ(แนวๆนี้แหละ) หลายๆวันต่อมา..ในทุกๆวันพระหรือวันธรรมดาที่มีพระ-เณร-โยม ไปวัดตอนกลางวันหรือไปฝึกพระกรรมฐานตอนกลางคืน หลวงพ่อหนุนท่านจึงมักจะนำเล่าที่มาของพระพุทธรูปลึกลับองค์นี้ให้บรรดาพระ-เณร-โยม ได้ฟังกันตามที่เวลาและโอกาศจะเอื้ออำนวย ว่าพระพุทธรุปองค์นี้มีที่มายังไง เหตุใดถึงได้ดำดินมาโผล่ที่วัดพุทธโมกฯ และอาศัยที่ผู้เขียนอยู่กับท่านประจำ(เฉพาะช่วงวัยเด็ก)พอได้ยินท่านเล่าบ่อยครั้งเข้า จึงทำให้ผู้เขียนพอจะลำดับเรื่องราวได้ดังต่อไปนี้...



    หลวงพ่อได้กล่าวว่า "พระที่แจกไปหน่ะ เก็บไว้ให้ดี ตอนนี้ เหมือนไม่มีค่าอะไร แต่ อีกหน่อย จะตามหากัน... ไม่ถึง 10 ปีหรอก 2 ปี นี่แหละ" (ผ่าน 1 ปี ไปแล้ว) "นิวเคลียร์ รังสี ไม่ต้องไปป้องกันมัน ให้มันทำงานของมันไป แต่ ป้องกันชีวิตของเราได้... มันทำอะไรเราไม่ได้ ก็พอ" "ที่คุ้มครองเราได้ ก็ฤทธิ์ของ เทพ พรหม เทวดา ที่รักษาองค์พระ แต่.. ก็ต้องไม่ประมาท" หลวงพ่อหนุน สุวิชโย วัดพุทธโมกพลาราม อ.โพนนาแก้ว จ.สกลนคร หลวงพ่อหนุนฯ เสกพระฯ "เรากราบอาราธนา พระพุทธเจ้า ทุกๆพระองค์ ทรงเสด็จมาเป็นประธาน ในพิธีพุทธาภิเษก ทุกๆครั้ง แล้วจะไม่มีผลได้อย่างไร ให้มันรู้กันไปซิ"

    แบ่งบูชา 199 บาท
    ส่งฟรีแบบลงทะเบียนครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 มีนาคม 2022
  6. Specialized

    Specialized ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    22,156
    กระทู้เรื่องเด่น:
    23
    ค่าพลัง:
    +83,352
    ปิดรายการนี้ให้หลังไมค์ ขอบพระคุณมากครับ :D:D:D

     
  7. Specialized

    Specialized ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    22,156
    กระทู้เรื่องเด่น:
    23
    ค่าพลัง:
    +83,352
    ปิดอีกหนึ่งรายการให้หลังไมค์ ขอบคุณครับ :)

     
  8. Specialized

    Specialized ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    22,156
    กระทู้เรื่องเด่น:
    23
    ค่าพลัง:
    +83,352
    รายการจัดส่งพระวันนี้ครับ (เพิ่มเติม)
    26/03/2565


    - คุณ รินทร์ลดา 1NCH031 (Kerry express)
    ขอบคุณครับผม :D:D:D
     
  9. Specialized

    Specialized ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    22,156
    กระทู้เรื่องเด่น:
    23
    ค่าพลัง:
    +83,352
    ปิดให้หลังไมค์อีกองค์ ขอบคุณมากครับ ;)

     
  10. chomkamon

    chomkamon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มกราคม 2008
    โพสต์:
    412
    ค่าพลัง:
    +340
    จองครับ
     
  11. Specialized

    Specialized ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    22,156
    กระทู้เรื่องเด่น:
    23
    ค่าพลัง:
    +83,352
    รับทราบการจองครับ ขอบคุณครับผม :)
     
  12. Specialized

    Specialized ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    22,156
    กระทู้เรื่องเด่น:
    23
    ค่าพลัง:
    +83,352
    รายการจัดส่งพระวันนี้ครับ
    27/03/2565


    - คุณ ฤกษ์ดี ED568362911TH
    - คุณ ชมกมล RL399058466TH


    ขอบคุณครับผม :):):)
     
  13. Specialized

    Specialized ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    22,156
    กระทู้เรื่องเด่น:
    23
    ค่าพลัง:
    +83,352
    รายการที่ 1,261 (คุณ สักการะ บูชาแล้วครับ)
    เหรียญพระสยามเทวาธิราช สำนักสงฆ์พุทธนิคม จ.สระบุรี
    โดยพระบรมราชานุญาต รุ่นที่ 2 หลังยันต์ครอบจักรวาล

    ?temp_hash=d2276afeea493cbdc60c46b1dcb338f9.jpg
    ?temp_hash=d2276afeea493cbdc60c46b1dcb338f9.jpg


    ในปัจจุบัน คนไทยจำนวนมากยังมีความเชื่อในเรื่องเทพยดา โดยเฉพาะเรื่อง “พระสยามเทวาธิราช” เมื่อมีเหตุการณ์ไม่ปกติเกิดขึ้น ก็มักจะวิงวอนขอให้พระสยามเทวาธิราชคุ้มครองป้องกันประเทศชาติให้รอดพ้นจากภัยพิบัติอันตราย การเขียนตำนานเกี่ยวกับองค์พระสยามเทวาธิราช ข้าพเจ้าได้อาศัยเค้าโครงจาก หม่อมเจ้าหญิงพูนพิสมัย ดิศกุล ซึ่งทรงประทานเล่าให้ข้าพเจ้าฟัง และยังทรงประทานเอกสารบางอย่างเกี่ยวกับ พระสยามเทวาธิราชแก่ข้าพเจ้าด้วย นับว่าพระองค์มีพระเมตตาแก่ข้าพเจ้าอย่างยิ่ง จึงเป็นเหตุ ให้ข้าพเจ้าได้นำเรื่องพระสยามเทวาธิราชมาเผยแพร่ให้ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ระดับสูงซึ่งเข้ารับการอบรมหลักสูตรการรักษาความปลอดภัยมาได้ทราบทั่วกัน วิทยาทานครั้งนี้ ข้าพเจ้าขอถวายเป็นพระกุศลแด่ หม่อมเจ้าหญิงพูนพิสมัย ดิศกุล

    พระสยามเทวาธิราชเป็นเทพยดาศักดิ์สิทธิ์ที่อภิบาลรักษาประเทศไทยองค์พระเทวรูปหล่อด้วยทองคำ ขนาดสูง ๘ นิ้วฟุต ประทับยืน ทรงเครื่องกษัตราธิราช พระหัตถ์ขวาทรงถือพระแสงขรรค์ พระหัตถ์ซ้ายยกขึ้น พระดรรชนีจีบเสมอพระอุระสถิตอยู่ในเรือนแก้ว ทำด้วยไม้จันทน์แบบวิมานเก๋งจีน มีคำจารึกเป็นภาษาจีน ที่ผนังเบื้องหลังเก๋งจีน แปลความว่า ที่สิงสถิตแห่งพระสยามเทวาธิราช เรือนแก้วเก๋งจีนประดิษฐานในพระวิมานไม้แกะสลักลงรักปิดทอง ซึ่งตั้งอยู่บนลับแลกลางพระที่นั่งไพศาลทักษิณ ในพระบรมมหาราชวัง

    ?temp_hash=d2276afeea493cbdc60c46b1dcb338f9.jpg

    ตำนานการสร้างพระสยามเทวาธิราช พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๔ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้หล่อขึ้น โดยที่มีพระราชดำริว่า ตั้งแต่ไทยได้ตั้งราชธานีอันมีกรุงสุโขทัย กรุงศรีอยุธยา กรุงธนบุรี และกรุงรัตนโกสินทร์ มาตามลำดับนั้น ไทยได้สูญเสียเอกราชเพียง สองครั้ง ครั้งแรกพุทธศักราช ๒๑๑๒ ไทยตกเป็นเมืองขึ้นของพม่า สมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงกู้เอกราชกลับคืนมาได้ภายในเวลา ๑๕ ปี และครั้งที่สอง พุทธศักราช ๒๓๑๐ ไทยต้องสูญเสียเอกราชให้แก่พม่าอีก ในครั้งนี้พม่าทำลายเผาผลาญบ้านเมืองอย่างย่อยยับมิได้คิดคำนึงจะทำนุบำรุงไทยไว้เป็นเมืองขึ้น ราษฎรแตกแยกกันเป็นก๊กเป็นเหล่า สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชทรงคุมไพร่พลและนายกองต่าง ๆ ถอยลงมาอยู่ ณ เมืองจันทบุรี และได้ทรงกู้เอกราชคืนมาได้ภายในเวลา ๘ เดือน

    ในต้นกรุงรัตนโกสินทร์ ประเทศมหาอำนาจทางตะวันตกเปิดประตูค้าขายกับตะวันออก ประเทศเล็กๆ และเมืองข้างเคียงไม่รู้ทันเหตุการณ์ภายนอกว่าประเทศทางตะวันตกมีอำนาจทางปืนเรือ จึงพากันไม่ยอมทำสัญญาด้วยจนเกิดเป็นสงครามขึ้น และต่อมาประเทศพม่าซึ่งเป็นศัตรูคู่อริของไทยก็ต้องตกเป็นเมืองขึ้นของประเทศอังกฤษ ส่วนเมืองไทยนั้น มหาอำนาจให้ประเทศอังกฤษเป็นผู้เปิดประตูการค้ากับไทย ซึ่งตามความเป็นจริงแล้ว ประเทศอังกฤษกับไทยก็เคยมีไมตรีกันมาตั้งแต่กรุงศรีอยุธยา แต่ต่อมาบ้านเมืองกำลังมีศึกสงคราม ชาวต่างประเทศไปมาค้าขายกันไม่สะดวกจึงได้ยุติการติดต่อกัน ดังนั้นเมื่อเสร็จศึกกับพม่าในแผ่นดินพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชแล้ว ถึงรัชกาลที่ ๒ อังกฤษได้ส่งมิสเตอร์จอห์น ครอฟอร์ด เข้ามาทำสัญญาการค้ากับไทย พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ได้เสด็จออกรับราชทูตอังกฤษ ณ ท้องพระโรงพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย เมื่อพุทธศักราช ๒๓๖๕

    ครั้นถึงรัชกาลที่ ๓ ประเทศอังกฤษเกิดรบพุ่งกับพม่าเป็นครั้งแรก ครั้นชนะพม่าได้แล้วจึงส่งกัปตันแฮนรี่ เบอร์เนย์ เข้ามาทำสัญญาการค้ากับไทย เมื่อพุทธศักราช ๒๓๖๘ และพุทธศักราช ๒๓๘๑ อังกฤษได้ส่งมิสเตอร์ริดซัน เข้ามาทำสัญญาซื้อช้าง และครั้งสุดท้ายอังกฤษได้ส่งเซอร์เจมส์ บรู๊ค เข้ามาขอทำสัญญาอีก เมื่อวันที่ ๑๖ กันยายน พุทธศักราช ๒๓๙๓ ปีรุ่งขึ้นพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จสวรรคต

    รวมราชทูตอังกฤษที่เข้ามาทำสัญญากับไทย ๕ ครั้ง แต่ละครั้งเป็นเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ อาทิเช่น เรื่องผ่านแดนไทยกับพม่า สัญญาซื้อขายช้าง ม้า และแลกเปลี่ยนสินค้าบางอย่าง ไม่ได้ทำสัญญากับเมืองไทยโดยตรงกับเมืองอื่น ๆ และแล้วในที่สุด พบรายงานของเซอร์เจมส์ บรู๊ค ทูตอังกฤษผู้ซึ่งเข้ามาเป็นทูตสุดท้าย ในรัชกาลที่ ๓ เขียนบันทึกไว้ว่า “พระเจ้าแผ่นดินกำลังเสด็จอยู่บนแท่นสวรรคต และพระองค์ใหม่ที่จะเสวยราชย์ก็มีหวังจะพูดกันได้เรียบร้อย ฉะนั้นจึงขอรอการใช้กำลังบังคับไว้ก่อน”

    ตามรายงานที่เขียนไว้นี้เห็นชัดได้ว่า ประเทศอังกฤษเตรียมจะใช้กำลังกับไทยอยู่แล้ว แต่มีการสวรรคตและเปลี่ยนแผ่นดินเสียก่อน ต่อมาพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติ ทรงทราบเหตุการณ์ภายนอกประเทศดีอยู่แล้ว เพราะทรงมีเวลาศึกษาเพียงพอเนื่องจากทรงผนวชเป็นพระภิกษุนานถึง ๒๗ ปี ครั้นพอเสวยราชสมบัติได้ ๔ ปี ประเทศอังกฤษได้ส่ง เซอร์จอห์น เบาว์ริ่ง เป็นราชทูตแทนสมเด็จ พระนางเจ้าวิกตอเรีย มาเฝ้าฯ ถวายพระราชสาสน์ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงทราบและตระหนักข้อไขอันนี้ดี จึงทรงเปิดรับอังกฤษในฐานะมิตร และต่อมาพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ให้แต่งตั้งราชทูตไทย อันมี พระมนตรีสุริยวงศ์ กับ หม่อมราโชทัย (ท้าวกระต่าย) ไปเจริญพระราชสาส์นเป็นการตอบแทน และเป็นผลให้ประเทศไทย เราได้รอดพ้นภัยมาเป็นประเทศเดียวในทางตะวันออกนี้

    ?temp_hash=d2276afeea493cbdc60c46b1dcb338f9.jpg

    เมื่อเหตุการณ์เรียบร้อยแล้ว พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว จึงทรงพระราชดำริว่า เมืองไทยนี้มีเหตุการณ์หวิด ๆ จะต้องเสียอิสรภาพมาหลายต่อหลายครั้งแล้ว แต่เผอิญมีเหตุให้รอดพ้นภัยมาได้เสมอ ชะรอยจะมีเทพยดาองค์ใดองค์หนึ่งที่คอยพิทักษ์รักษาไว้ จึงเห็นสมควรจะทำรูปเทพองค์นั้นขึ้นถวายสักการะบูชา จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าประดิษฐ์วรการ (พระเจ้าหลานเธอ ในรัชกาลที่ ๑) นายช่างสิบหมู่ ทรงปั้นรูปเทพองค์นั้นขึ้น แล้วหล่อด้วยทองทั้งองค์ ทรงถวายพระนามว่า “พระสยามเทวาธิราช” พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงสังเวยพระสยามเทวาธิราชทุกวัน ด้วยนับถือว่าศักดิ์สิทธิ์นัก กาลต่อมาหลังจากการเปลี่ยนแปลงการปกครองแล้ว สำนักพระราชวังถูกตัดงบประมาณ จึงยังคงมีเครื่องสังเวยถวายพระสยามเทวาธิราชเฉพาะวันอังคารกับวันเสาร์ และในเวลาปีใหม่ทาง จันทรคติไทย ขึ้น ๑ ค่ำ เดือน ๕ จะมีพระราชพิธีบวงสรวงพระสยามเทวาธิราช และมีละครรำของกรมศิลปากรจัดมารำบวงสรวงด้วย

    อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ต่างๆ ดังที่ท่านประสบมาด้วยตนเอง เช่น วันมหาวิปโยค ๑๔ ตุลาคม ๒๕๑๖ บ้านเมืองต้องประสบความวุ่นวายต่างๆ แต่ก็รอดพ้นภัยพิบัติมาได้ ยิ่งนานวันก็ยิ่งเห็นว่า พระสยามเทวาธิราชนั้นมีจริง จึงอธิฐานขอให้เทพเจ้าอันศักดิ์สิทธิ์พระองค์นั้นได้ทรงคุ้มครองป้องกันและโปรดประสิทธิ์ประสาทความสมบูรณ์พูนสุขให้บังเกิดมีแก่ประเทศและประชาชนชาวไทยตราบนานเท่านาน

    เรื่องเล่าในวัง เรียบเรียงโดย นายเกรียงไกร วิศวามิตร ได้นำเสนอครบทุกเรื่องแล้ว หวังว่าจะได้ความรู้อันเป็นเกร็ดประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ แด่ผู้อ่านทุกท่าน

    ขนาดเหรียญ สูง 4.5 ซ.ม.กว้าง 2.5 ซ.ม.
    กล่องเดิมๆครับ แบ่งบูชา 199 บาท
    ส่งฟรีแบบลงทะเบียน
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • collage.jpg
      collage.jpg
      ขนาดไฟล์:
      1.1 MB
      เปิดดู:
      24
    • 1_psy.jpg
      1_psy.jpg
      ขนาดไฟล์:
      34.7 KB
      เปิดดู:
      16
    • 2_psy.jpg
      2_psy.jpg
      ขนาดไฟล์:
      50.9 KB
      เปิดดู:
      26
    • DSC_0508.JPG
      DSC_0508.JPG
      ขนาดไฟล์:
      1.1 MB
      เปิดดู:
      21
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 เมษายน 2022
  14. Specialized

    Specialized ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    22,156
    กระทู้เรื่องเด่น:
    23
    ค่าพลัง:
    +83,352
    รายการที่ 1,262
    เหรียญหล่อพระสมเด็จฐานสิงห์ เนื้อทองเหลือง
    หลวงพ่อเชิญ วัดโคกทอง อยุธยา

    ?temp_hash=80eb98a13dd01a116bd76482f1c18c14.jpg
    ?temp_hash=80eb98a13dd01a116bd76482f1c18c14.jpg


    พระมงคลวราจารย์ ( เชิญ ปุญญสิริ )วัดโคกทอง อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา
    หลวงปู่เชิญ วัดโคกทอง ในยุค 30 ท่านเป็นพระเกจิ ที่น้อยนักจะมีคนไม่รู้จัก แต่วัตถุมงคลไม่หวือหวาในด้านการตลาด ทำให้คนมองข้าม และหลงลืมกันไป ท่านครองสมณรูปได้อย่างเพียบพร้อมทั้งด้านปริยัติและปฏิบัติ ในคุณงามความดีจวบจนมรณะภาพ

    ด้านการศึกษาเล่าเรียน กรรมฐานและวิชา ท่านเรียนมาหลายอาจารย์ แต่ที่เป็นหลักคือหลวงปู่เพิ่ม วัดโคกทอง(ท่านได้ติดตามหลวงปู่เพิ่มไปกราบหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า) และหลวงปู่ปาน วัดบางนมโค ชนิดที่ว่าเป็นศิษย์องค์สำคัญ รูปหนึ่งของหลวงปู่ปานก็ว่าได้
    วัตถุมงคล ที่ท่านสร้างมีมากมายหลายรุ่น รุ่นละหลายองค์ ที่สำคัญวัดสร้างเอง ไม่ให้ศูนย์เข้ามาวุ่นวาย เหตุฉะนี้เองทำให้ ราคาวัตถุมงคลของท่านไม่แพง และคนมองข้าม แต่คุณเชื่อเถิดราคาไม่ได้เป็นตัวกำหนด พุทธคุณ อิทธิคุณ ในองค์พระของท่านแม้แต่น้อย

    ?temp_hash=80eb98a13dd01a116bd76482f1c18c14.jpg

    -ตังเก ฟ้าผ่าไม่ตาย
    -ชาวบ้านไปทำนา ฟ้าผ่าไม่ตาย
    -ทหารโดดร่ม ร่มไม่กาง ระลึกถึงท่านลงมาแค่ขาหัก
    -เด็กเล็กแขวนพระท่านตกน้ำไม่จม
    -เด็กประถม ตกน้ำเจอน้ำดูดไปแถวประตูน้ำหน้าวัด เห็นหลวงตาแก่พายเรือพาไปเกาะตลิ่ง
    -กระบะ 18ล้อชนยับ รอดอัศจรรย์ทั้งคัน
    -วัยรุ่นเที่ยวกรุงเทพราตรี ขากลับขับมอเตอร์ไซค์กลับ เจอฟันฝากมา5-6ปึ๊ก ไม่เข้า แต่เสื้อขาดวิ่น
    -ชุดปฏิบัติการสามจังหวัดชายแดนใต้ รถระเบิดยับทั้งคัน มีพระหลวงพ่อรอดตาย ฮึดสู้กับผู้ก่อการร้าย

    ?temp_hash=80eb98a13dd01a116bd76482f1c18c14.jpg

    นี่คือประสบการณ์บางส่วน ของผู้ที่นับถือศรัทธาท่าน ไม่ได้เสริมเติมแต่งแต่อย่างใด เรื่องราวแต่ล่ะเรื่องมีบุคคลยืนยันชัดเจน สมัยท่านจัดงานเป่ายันต์เกราะเพชรที รถแน่นเต็มทางหลังวัดเป็นกิโล หน้าวัดแน่นไปด้วยเรือ อย่างสมัยหลวงพ่อปานไม่มีผิด พระท่านระดับนี้ คุณจะไม่หาบูชาติดตัวให้เป็นสิริมงคลแก่ตนเองหรือ มาแนะนำของดีราคาถูกที่วัดยังมีวัตถุมงคล ที่ท่านปลุกเสกเหลืออยู่บ้าง ที่สำคัญราคาเดิมเหมือนสมัยที่ท่านยังอยู่ เพราะท่านสั่งไว้ไม่ให้ขึ้นราคา จะได้มีใช้กันทุกคน

    จัดสร้างในวาระหลวงพ่ออายุ 84 ปี พร้อมกล่องเดิมๆ
    แบ่งบูชา 249 บาท
    ส่งฟรีแบบลงทะเบียนครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 เมษายน 2022
  15. Specialized

    Specialized ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    22,156
    กระทู้เรื่องเด่น:
    23
    ค่าพลัง:
    +83,352
    ปิดรายการนี้ให้หลังไมค์ มีผู้บูชาแล้วครับผม ;)

     
  16. สักการะ

    สักการะ ชิวิตดั่งอาทิตย์อัศดง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    4,919
    ค่าพลัง:
    +5,742
    1261 จองครับ
     
  17. Specialized

    Specialized ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    22,156
    กระทู้เรื่องเด่น:
    23
    ค่าพลัง:
    +83,352
    รับทราบการจอง ขอบคุณครับผม ;)
     
  18. Specialized

    Specialized ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    22,156
    กระทู้เรื่องเด่น:
    23
    ค่าพลัง:
    +83,352
    รายการจัดส่งพระวันนี้ครับ
    28/03/2565


    - คุณ ปรีชา ED547329022TH

    ขอบคุณครับผม :):):)
     
  19. Specialized

    Specialized ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    22,156
    กระทู้เรื่องเด่น:
    23
    ค่าพลัง:
    +83,352
    รายการที่ 1,263 (คุณ CHIN_2525 บูชาแล้วครับ)
    พระพุทธเจ้าเหนือพรหมรุ่นแรก เนื้อผงพุทธคุณข้าวก้นบาตร (องค์ที่ 10)
    พิธีปลุกเสกเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2536
    หลวงพ่อเกษม เขมโก สุสานไตรลักษณ์ จ.ลำปาง


    ?temp_hash=5b9cf29288c6f64db62cda8e21cd86d3.jpg
    ?temp_hash=5b9cf29288c6f64db62cda8e21cd86d3.jpg

    จัดสร้างเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2536 ครบ 5 รอบ 60 พรรษา ในการอุปสมบทของหลวงพ่อเกษม เขมโก ด้านหลังยันต์นะปัดตลอด ประทับตราหมึกรูปใบโพธิ์ทุกองค์ ส่วนด้านหน้าเป็นรูปพรหมสี่หน้าโดยมีรูปองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ประทับอยู่บนเศียรพรหม อันมีความหมายว่าพระพุทธเจ้าอยู่เหนือพรหมเหนือโลกทั้งปวง พระบารมีของพระพุทธองค์เหนือทุกสรรรพสิ่งในไตรภพ พระผงพิเศษพระเหนือพรหม สร้างจากมวลสารมงคลต่างๆ รวมถึงข้าวก้นบาตรที่ผ่านการอธิษฐานและพิจารณาก่อนขบฉันของหลวงพ่อ ซึ่งถือเป็นมงคลธาตุแห่งความอุดมสมบูรณ์อย่างยอดเยี่ยมครับ หลวงพ่อเกษม ท่านมีสัมผัสพิเศษทางจิตถึงหลวงปู่ดู่ วัดสะแก เสมอๆ แม้ท่านจะไม่เคยพบตัวจริงของกันและกันแต่ท่านก็ต่างยกย่องอีกฝ่ายว่าเป็นพระที่ดีและแนะนำให้ลูกศิษย์ไปกราบให้ได้ (มีเรื่องเล่าว่าเคยมีคนเห็นหลวงปู่ดู่มานั่งคุยกับหลวงพ่อเกษมในกุฎิ) ใครไม่มีพระเหนือพรหมของหลวงปู่ดู่ที่ราคาหลักหลายๆพัน ใช้พระเหนือพรหมของหลวงพ่อเกษมแทนได้ ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากันแน่ๆครับ

    หลวงพ่อเกษม เขมโก เป็นพระสายวิปัสสนากรรมฐาน ไม่ยึดติดแม้แต่สถานที่ ท่านได้ปฏิบัติธรรม ณ สุสานไตรลักษณ์ตลอดชนชีพ เป็นพระที่เป็นที่เคารพสักการะของคนในจังหวัดลำปางและทั่วประเทศ ท่านปฏิบัติศีลบริสุทธิ์ตามพระธรรมคำสั่งสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าโดยไม่ ติดยึดในกิเลสทั้งปวง หลวงพ่อเกษม เขมโก ได้ถึงแก่พิราลัย ณ ห้องไอซียู โรงพยาบาลลำปาง จังหวัดลำปาง เมื่อเวลา 19.40 น. ของวันจันทร์ที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2539 ซึ่งตรงกับวันแรม 11 ค่ำ เดือน 2 ยังความอาลัยเศร้าโศกเสียใจมายังหมู่สานุศิษย์ทั่วประเทศ แต่ธรรมะและวัตถุมงคลของท่านยังเชื่อถือและเล่นหากันอย่างต่อเนื่อง คุ้มครองตัวได้ครับ

    ?temp_hash=5b9cf29288c6f64db62cda8e21cd86d3.jpg


    แบ่งบูชา 199 บาท
    ส่งฟรีแบบลงทะเบียนครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 เมษายน 2022
  20. Specialized

    Specialized ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    22,156
    กระทู้เรื่องเด่น:
    23
    ค่าพลัง:
    +83,352
    รายการที่ 1,264 (คุณ สักการะ บูชาแล้วครับ)
    เหรียญหล่อรูปเหมือนเนื้อทองเหลือง พ.ศ.2535
    หลวงพ่อเชิญ วัดโคกทอง อยุธยา

    ?temp_hash=9bb8fa0590a54080f0ab903689c67710.jpg
    ?temp_hash=9bb8fa0590a54080f0ab903689c67710.jpg


    พระมงคลวราจารย์ ( เชิญ ปุญญสิริ )วัดโคกทอง อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา
    หลวงปู่เชิญ วัดโคกทอง ในยุค 30 ท่านเป็นพระเกจิ ที่น้อยนักจะมีคนไม่รู้จัก แต่วัตถุมงคลไม่หวือหวาในด้านการตลาด ทำให้คนมองข้าม และหลงลืมกันไป ท่านครองสมณรูปได้อย่างเพียบพร้อมทั้งด้านปริยัติและปฏิบัติ ในคุณงามความดีจวบจนมรณะภาพ

    ด้านการศึกษาเล่าเรียน กรรมฐานและวิชา ท่านเรียนมาหลายอาจารย์ แต่ที่เป็นหลักคือหลวงปู่เพิ่ม วัดโคกทอง(ท่านได้ติดตามหลวงปู่เพิ่มไปกราบหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า) และหลวงปู่ปาน วัดบางนมโค ชนิดที่ว่าเป็นศิษย์องค์สำคัญ รูปหนึ่งของหลวงปู่ปานก็ว่าได้
    วัตถุมงคล ที่ท่านสร้างมีมากมายหลายรุ่น รุ่นละหลายองค์ ที่สำคัญวัดสร้างเอง ไม่ให้ศูนย์เข้ามาวุ่นวาย เหตุฉะนี้เองทำให้ ราคาวัตถุมงคลของท่านไม่แพง และคนมองข้าม แต่คุณเชื่อเถิดราคาไม่ได้เป็นตัวกำหนด พุทธคุณ อิทธิคุณ ในองค์พระของท่านแม้แต่น้อย

    -ตังเก ฟ้าผ่าไม่ตาย
    -ชาวบ้านไปทำนา ฟ้าผ่าไม่ตาย
    -ทหารโดดร่ม ร่มไม่กาง ระลึกถึงท่านลงมาแค่ขาหัก
    -เด็กเล็กแขวนพระท่านตกน้ำไม่จม
    -เด็กประถม ตกน้ำเจอน้ำดูดไปแถวประตูน้ำหน้าวัด เห็นหลวงตาแก่พายเรือพาไปเกาะตลิ่ง
    -กระบะ 18ล้อชนยับ รอดอัศจรรย์ทั้งคัน
    -วัยรุ่นเที่ยวกรุงเทพราตรี ขากลับขับมอเตอร์ไซค์กลับ เจอฟันฝากมา5-6ปึ๊ก ไม่เข้า แต่เสื้อขาดวิ่น
    -ชุดปฏิบัติการสามจังหวัดชายแดนใต้ รถระเบิดยับทั้งคัน มีพระหลวงพ่อรอดตาย ฮึดสู้กับผู้ก่อการร้าย

    ?temp_hash=9bb8fa0590a54080f0ab903689c67710.jpg

    นี่คือประสบการณ์บางส่วน ของผู้ที่นับถือศรัทธาท่าน ไม่ได้เสริมเติมแต่งแต่อย่างใด เรื่องราวแต่ล่ะเรื่องมีบุคคลยืนยันชัดเจน สมัยท่านจัดงานเป่ายันต์เกราะเพชรที รถแน่นเต็มทางหลังวัดเป็นกิโล หน้าวัดแน่นไปด้วยเรือ อย่างสมัยหลวงพ่อปานไม่มีผิด พระท่านระดับนี้ คุณจะไม่หาบูชาติดตัวให้เป็นสิริมงคลแก่ตนเองหรือ มาแนะนำของดีราคาถูกที่วัดยังมีวัตถุมงคล ที่ท่านปลุกเสกเหลืออยู่บ้าง ที่สำคัญราคาเดิมเหมือนสมัยที่ท่านยังอยู่ เพราะท่านสั่งไว้ไม่ให้ขึ้นราคา จะได้มีใช้กันทุกคน

    พร้อมกล่องเดิมๆ
    แบ่งบูชา 199 บาท
    ส่งฟรีแบบลงทะเบียนครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 เมษายน 2022

แชร์หน้านี้

Loading...