การเจริญสติให้ได้ตลอดเวลาคือ

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย ธรรมแท้ว่าง, 3 กันยายน 2021.

  1. ๑๓อักษร

    ๑๓อักษร สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2021
    โพสต์:
    450
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +68
    นั่นแหล่ะ พวก คำสอนอย่าไปพยายามไปทำอะไร
    ปล่อยให้เกิดดับตามธรรมชาติ คำสอนมิจฉาทิฐิพวกนี้ โยนทิ้งไปเลย
    เพราะ จะหาภาชนะมาใส่น้ำ ก็บอกอย่าไปทำอะไร
    อะไรจะหล่นใส่น้ำก้อย่าไปทำอะไร
    อย่าไปเติมน้ำสะอาด
    สิ่งสกปรกอยู่ในน้ำก้อย่าไปนำออก
     
  2. ๑๓อักษร

    ๑๓อักษร สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2021
    โพสต์:
    450
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +68

    ถ้าเห็นธรรมเดียวกัน ไม่ลากยาวหลายวัน หลายกระมู้ว์
    หลายหน้า ด้วย ประโยคเดิมๆหรอก

    สังเกตุเอาง่ายๆ
    ธรรมครูบาอาจารย์ที่เป็นสัมมาทิฐิ หลายๆองค์ ไม่มีมาขัดกัน
    ลงกันได้หมดและไม่ขัดพระธรรมคำสอน



    ส่วนอานาปานะสติ ร้อยละ 99 ที่ไม่ได้ฝึกอานาปานสติ ได้อย่างที่พระศาสดาสอน
    แต่แฉลบออกไปหมด แต่ก็มาอ้าง ว่าทำตามพระศาสดาสอน แต่เขาไม่ห้ามกัน
    เพราะยังไงมันก็วนเวียนอยู่กับการทำสมาธิ เป็นการประกอบบุญกุศล
     
  3. ๑๓อักษร

    ๑๓อักษร สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2021
    โพสต์:
    450
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +68
    [๒๗๔] ดูกรภิกษุทั้งหลาย
    ภิกษุพิจารณาเห็นกายในกายอยู่อย่างไรเล่า
    ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ไปสู่ป่าก็ดี ไปสู่โคนไม้ก็ดี ไปสู่เรือนว่างก็ดี นั่งคู้บัลลังก์
    ตั้งกายตรง ดำรงสติไว้เฉพาะหน้า

    เธอมีสติหายใจออก มีสติหายใจเข้า
    เมื่อหายใจออกยาว ก็รู้ชัดว่า เราหายใจออกยาว
    เมื่อหายใจเข้ายาว ก็รู้ชัดว่า เราหายใจเข้ายาว
    เมื่อหายใจออกสั้น ก็รู้ชัดว่า เราหายใจออกสั้น
    เมื่อหายใจเข้าสั้น ก็รู้ชัดว่า เราหายใจเข้าสั้น

    ย่อมสำเหนียก ว่า
    เราจักเป็นผู้กำหนดรู้ ตลอด กองลมหายใจทั้งปวงหายใจออก

    ย่อมสำเหนียกว่า
    เราจักเป็นผู้กำหนดรู้ตลอดกองลมหายใจทั้งปวงหายใจเข้า

    ย่อมสำเหนียกว่า
    เราจักระงับกายสังขารหายใจออก


    ย่อมสำเหนียกว่า เราจักระงับกายสังขารหายใจเข้า

    ดูกรภิกษุทั้งหลาย
    นายช่างกลึงหรือลูกมือของนายช่างกลึงผู้ขยัน
    เมื่อชักเชือกกลึงยาว ก็รู้ชัดว่า เราชักยาว
    เมื่อชักเชือกกลึงสั้น ก็รู้ชัดว่า เราชักสั้น

    แม้ฉันใด ภิกษุก็ฉันนั้นเหมือนกัน

    เมื่อหายใจออกยาว ก็รู้ชัดว่า เราหายใจออกยาว
    เมื่อหายใจเข้ายาว ก็รู้ชัดว่าเราหายใจเข้ายาว
    เมื่อหายใจออกสั้น ก็รู้ชัดว่า เราหายใจออกสั้น
    เมื่อหายใจเข้าสั้น ก็รู้ชัดว่า เราหายใจเข้าสั้น

    ย่อมสำเหนียกว่า
    เราจักเป็นผู้กำหนดรู้กองลมทั้งปวงหายใจออก

    ย่อมสำเหนียกว่า
    เราจักเป็นผู้กำหนดรู้กองลมทั้งปวงหายใจเข้า

    ย่อมสำเหนียกว่า
    เราจักระงับกายสังขารหายใจออก

    ย่อมสำเหนียกว่า
    เราจักระงับกายสังขารหายใจเข้า ดังพรรณนามาฉะนี้




    ภิกษุย่อมพิจารณาเห็นกายใน
    กายภายในบ้าง พิจารณาเห็นกายในกายภายนอกบ้าง พิจารณาเห็นกายในกายทั้ง
    ภายในทั้งภายนอกบ้าง พิจารณาเห็นธรรมคือความเกิดขึ้นในกายบ้าง พิจารณาเห็น
    ธรรมคือความเสื่อมในกายบ้าง พิจารณาเห็นธรรมคือทั้งความเกิดขึ้นทั้งความเสื่อม
    ในกายบ้าง ย่อมอยู่ อีกอย่างหนึ่ง สติของเธอที่ตั้งมั่นอยู่ว่า กายมีอยู่ ก็เพียง
    สักว่าความรู้ เพียงสักว่าอาศัยระลึกเท่านั้น เธอเป็นผู้อันตัณหาและทิฐิไม่อาศัย
    อยู่แล้ว และไม่ถือมั่นอะไรๆ ในโลก ดูกรภิกษุทั้งหลาย อย่างนี้แล ภิกษุชื่อว่า
    พิจารณาเห็นกายในกายอยู่ ฯ

    ...............................................


    คนที่จะ ฝึก อานาปานะสติได้ ตามพระสูตรที่พระพุทธเจ้าสอน ไม่ใช่ง่าย

    เบื้อง ต้น ก็ เพียงแค่ ตัวสีฟ้า และขีดเส้นใต้ กว่าจะรู้ชัด

    และการจะรู้ชัด แบบ คอยกำหนด กับการที่ไม่ต้องคอยกำหนด ก็ต่างกัน
    ตรงนี้ คนที่ แยก เจตนาออก ก็จะเข้าใจ

    พอ ลำดับถัดมา

    ท่าน ใช้คำว่า

    ย่อมสำเหนียก ว่า
    เราจักเป็นผู้กำหนดรู้ ตลอด กองลมหายใจทั้งปวงหายใจออก

    ยกตัวอย่าง กว่าจะ สำเหยียกได้ว่า จักเป็นผู้รู้กองลม ไม่ใช่เรื่องง่าย
    เพราะ คนฝึก แฉลบออกไปก่อน เช่น ไปตามลม เพ่งลม ตามลมลึกเข้าไปเป็นฐานๆ
    ตามนิมิตมั่ง แทนที่จะรู้ชัด ในกองลม
    ของลมเข้าสั้น เข้ายาว ออกส้้น ออกยาว เข้าละเอียด ออกละเอียด
    แถมยังต้องพ้นจากการกำหนด จนกว่าจิตจะกำหนดเองอีก


    พอใน บรรทัดต่อมา ท่านใช้คำว่า

    ย่อมสำเหนียกว่า
    เราจักระงับกายสังขารหายใจออก


    เห็น การ ระงับกายสังขารมะ มันเป็นการเพิก กายสังขาร
    แต่
    ให้ประครองไปอยู่ที่
    กองลม

    กายสังขารมีอะไรบ้าง ที่เกิดขึ้น
    มีปิติ ต่างๆ บางคนมีปิตี ทั้ง5
    บางคนมีปิติ ตัวเดียวโยกโคลง หรือแบบซาบซ่าน

    ปิติมา สุขกายก็มา

    นี่แค่ตัวอย่างการระงับกายสังขาร
    ซึ่งไม่ใช่การไปบังคับให้หยุด แต่ให้เพิกออก
    แล้วประครอง กำหนดรู้ ที่กองลมแทน

    ฉะนั้น ในอานาปานสติ หากฝึก ตามที่พระพุทธะเจ้าสอนจริงๆ
    มันจะอยู่แต่ในกองลม

    ส่วนที่เป็น ส่วนเน้นสีทั้งหมด เป็น ขั้นฝึก
    เป็นขั้นที่มีเจตนาทำล้วนๆ

    เมื่อมีความคล่อง ความชำนาญ ความเป็นเอง ก็จะเริ่มเกิดขึ้น
    มาใน บริบทต่อไป ที่ไม่ได้เน้นสี คือเข้าสู่การพิจารณา

    การเข้าสู่โหมดพิจารณา ภาษาปฏิบัติ จะแปลว่า จิตกำหนดรู้เองโดยอัตโนมัติ
    ตรงนี้คือจุดนัดพบ
    ที่นักภาวนาจะเจอกันและลงกันได้ เป็นจุดที่จิตจะเริ่มภาวนาไปเอง
    จิตเริ่มเดินวิปัสนา

    และ
    ในอีก 20 วิธี ของ สติปัฏฐานที่เหลือ จึงเหมือนกันหมด

    แต่ ด้วยความเป็นภาษาไทยที่เล่าเรียนมา
    ไปเข้าใจการพิจารณา ว่าคือ
    ต้องไปตั้งใจคิดตั้งใจค้นคว้า ความเคลื่อน คือ ตรงนี้
    แต่ในทางปฏิบัติ เขาไม่ห้ามกันจะปล่อยไปก่อน
    เพราะมันจะไปชน กับการเป็นเองเหมือนกันเมื่อไม่ลดละความเพียร
    แต่คือจะปล่อยให้ละเมอไปก่อน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 กันยายน 2021
  4. หมูไม้ละ5

    หมูไม้ละ5 # shawty, set me free

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มีนาคม 2016
    โพสต์:
    1,659
    ค่าพลัง:
    +1,626

    ที่เห็นผมโพสยาวๆทั้งหลาย
    คือ...การแจกแจงมรรคของพระพุทธเจ้า
    ว่าดียังไง.....
    มันไม่ได้เกี่ยวกับคุณแนน...จริงไหมครับ
    แต่จะมีแค่กระทู้นี้...
    ...ที่อ้างอิงชื่อของทั้งสอง
    ......ก่อนหน้านี้
    มีแค่การแจกแจงมรรค....
    ....ในแง่มุมต่างๆ
    ....คุณร้อนตัวเองทั้งนั้น....
    ที่วิ่งโล่....มาค้าน
    ....ขณะที่ผมกำลังสรรเสริญ
    มรรคของพระพุทธองค์....


    เวลาผมชี้จุดผิดพลาด...
    ของการภาวนา...ที่ร่ายยาวๆนั้น
    คุณเองบอกว่า...
    "ฉันไม่ได้ผิดพลาดแบบนั้น"

    เมื่อไม่ได้เป็นแบบนั้น
    จะร้อนรนไปทำไป....นี่ข้อหนึ่ง

    อีกอย่างผมไปคุยกับคุณแนนซะที่ไหน
    กลับไปดูให้ดีๆ
    เรื่องกรรม...เรื่องกิเลส...เรื่องวงจรปฎิจฯ
    เรื่องฌาน.....และอื่นๆอีกเยอะ
    หลายหัวข้อ...หลายกระทู้...

    คุณแนนจะ...มโนไปด้วยไหมว่าผมคุยด้วย
    และในเรื่องของมรรค....
    "ผู้เข้าไปหาย่อมไม่หลุดพ้นนี้"
    ผมคุยประเด็นการเกิดอุปทานในรู้
    ....มานานแล้ว....7-8ปีที่แล้ว
    ....หลังการเห็นแจ้ง
    เพราะอะไรถึงพูดเรื่องนี้....
    หลังการเห็นแจ้ง...
    ผมต้องการเดินมรรคต่อ...
    ....เพื่อให้จิตหลุดพ้น
    เลยตัดสินใจ....
    ลองเปลี่ยนมรรคจากอานาปานสติ
    ....เป็นการเข้าไปดูเข้าไปรู้...
    ....จึงได้เห็น....
    ระหว่างเดินนั้น...มันแอบก่อตัวตน
    ทั้งในการรู้....และผู้รู้นั้น


    ผมบอกได้เลย....
    น้อยคนที่จะมองเห็น....
    และเชื่อว่าคนที่เดินแบบนี้อยู่
    .....ก็ไม่รู้ตัว

    ผมเลยตั้งกระทู้บอกเรื่องนี้ไปตั้งแต่
    7-8ปีที่แล้ว.....

    ...หลังจากเห็นอุปทาน
    .....ที่ก่อขึ้นระหว่างปฎิบัติในครั้งนั้น
    ผมจึงได้กลับไปดู
    ....อานาปานสติ...ที่ผมเพิ่งผ่านมาอีกครั้ง
    แต่ครั้งนี้....
    ผมเข้าไปดู....อานาปนสตินั้น....
    ว่าจะก่ออุปทาน..ระหว่างภาวนาหรือไม่

    .....นั่นคือจุดเริ่มต้น....
    ที่ผมได้เห็นทันทีว่า....
    มรรคต่างๆที่พระพุทธเจ้า....ชี้ให้เดินนั้น
    ปราศจากการก่ออุปทาน....ระหว่างเดิน
    บนความเรียบง่ายแห่งมรรค....
    กลับมีผลมหาศาล....
    ....และเห็นทันที....
    ปุถุชน....ไม่มีทางเห็นแน่
    ถ้าจะเห็นได้....
    ......ก็มีแต่ครูบาอาจารย์
    ที่เป็นพระอริยะทั้งหลายเท่านั้น

    จึงเกิดเป็นกระทู้....
    อานาปานสติ...เวอร์ชั้นต่างๆ
    ที่มีทั้งในพันทิป....และในพลังจิต
    ..อานาปานสติ...อย่างพระศาสดาตรัสไว้
    แสดงให้ทุกคนเห็นว่า...
    อานาปานสตินี้เลิศขนาดไหน
    เพียงมรรคเดียวนี้
    ...เป็นสติปัฎฐานยังไง
    ...มรรคมีองค์แปดบริบูรณ์ได้อย่างไร
    ...โพชฌงค์ถึงความเต็มรอบได้เพราะอะไร
    ...ไม่ก่ออุปทาน...ระหว่างเดินเพราะอะไร
    ...วิญญานตั้งขึ้นไม่ได้เพราะอะไร
    ต่างๆมากมาย


    ถึงอย่างนั้น...
    จะมีสักกี่คนจะเห็นตามได้....
    ....ถึงมันจะขัดกับความเห็นของคนทั่วไป
    ผมไม่สนใจหรอก....
    เพราะสิ่งที่ผมพูด....ผมประกาศอยู่นี้
    มันเป็นFact.
    ..เป็นความจริงของธรรม
    ..ความจริงของมรรค

    ความจริงที่ไม่ต้องปรับตาม..
    ความคิดของ...คนไม่รู้
    ใครที่ไม่รู้...ไม่อาจเห็นตามได้
    ก็เป็นเรื่องของเค้าไป...

    เหมือนที่คุณแนนเห็นอยู่นี้
    ผมร่ายยาวเรื่องมรรคเป็นร้อยๆบรรทัด
    มีคนมากมายที่เห็นตามไม่ได้

    บางคนเงียบไว้..
    และก็จะมีบางคน
    ที่เหมือนคุณแนนกระโดดมางับ

    เมื่อมีคนกระโดดมางับ....
    ผมก็มีหน้าที่ชี้แจง....
    ปกป้องมรรคของพระศาสดา
    ....เรื่องมีแค่นี้
    ผมไม่จำเป็นต้องเอาใจใคร....
    เปลี่ยนความจริงของมรรค...ของธรรม
    ...ไปตามความเห็นใคร
    เพราะความจริง....มันเป็นของมันแบบนั้น
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 กันยายน 2021
  5. Piccola Fata

    Piccola Fata เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 เมษายน 2010
    โพสต์:
    1,590
    ค่าพลัง:
    +1,142
    อ่านมาจนจบ อันนี้คือบ่น ล้วนๆ
    หามีสาระไม่
    ขอไม่ตอบละกันค่ะ
     
  6. หมูไม้ละ5

    หมูไม้ละ5 # shawty, set me free

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มีนาคม 2016
    โพสต์:
    1,659
    ค่าพลัง:
    +1,626

    สาระสำคัญของอานาปานสติ
    ....ลมหายใจนี้เป็นที่ให้จิตได้ระลึก
    ....ได้ใช้เป็นที่เกาะ...
    ....เพื่อเห็นนามธรรมที่เกิดดับภายใน
    แค่นั้นครับ

    ที่เห็นกระทู้นั้น...มันเหมือนวิจัยธรรม
    ก็ลองไปดูเวอร์ชั่นอื่น
    .....อานาปานสติ...และ...ทางพ้นทุกข์
    .....ความรัก...และ...มรรคมีองค์แปด
    ทั้งหมดอธิบายอานาปานสติทั้งนั้นครับ

    ส่วนไทมไลน์....
    ทั้งอานาปานสติ....หรือการฟังธรรม
    เคยบอกไปแล้ว...น่าจะพอจับถูกครับ
     
  7. หมูไม้ละ5

    หมูไม้ละ5 # shawty, set me free

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มีนาคม 2016
    โพสต์:
    1,659
    ค่าพลัง:
    +1,626
    อ่านแต่ในตำราไงครับ...
    .....อ่านไม่ว่า...แถมอ่านครบอีก
    เลยเห็น...อานาปานสติ...เป็นของเด็กฝึกหัด
    คิดว่า...อานาปานสติ...รู้แค่กาย

    เป็นเรื่องของคนติดตำราไม่พอ...
    ...ยังมีเชื่อความฝังหัวเก่าๆ

    แท้จริง...อานาปานสติของพระพุทธเจ้า
    คือการ....อาศัยลมหายใจนี้....
    เข้าไปเห็นนามธรรมได้ทุกฐาน

    ถึงว่ามากล่าวหาว่า...
    อานาปาสติแค่พื้นฐาน....แค่ของเด็ก
    ทั้งที่คุณเองไม่รู้....
    ว่าการทำอานาปานสติ
    ....ไปได้ถึงจิตหลุดพ้นโน้นเลย
    ไร้ผลข้างเคียงระหว่างปฎิบัติอีกด้วย
     
  8. นาฬิเกร์

    นาฬิเกร์ อดทนชนะใจตน

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2020
    โพสต์:
    426
    ค่าพลัง:
    +408
    คนดี...ไม่มีวันตาย...

    "สัจจะธรรมิกราช"
     
  9. ๑๓อักษร

    ๑๓อักษร สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2021
    โพสต์:
    450
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +68
    มีหมูไหม้ละมั้ง ยัดเยียด ว่าอานาปานะสติเป็นของเด้กฝึกหัด
     
  10. Piccola Fata

    Piccola Fata เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 เมษายน 2010
    โพสต์:
    1,590
    ค่าพลัง:
    +1,142
    สงสัยอย่างนึง
    ทำไมถึงกลัวการที่แนนมาคุยด้วยล่ะ
    แนนไม่ได้ทำผิดกฏอะไรนะ
     
  11. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,288
    ค่าพลัง:
    +12,620
    สนับสนุนคับ
    อริยะบุคคลและพระอริยะเจ้าทั้งหลาย
    ที่ไม่รู้อักษรเลย
    อ่านพระคัมภีร์ไม่ได้เลย
    แต่บรรลุนิพพานได้
    ก็ด้วยอานาปานสติ บวกกับคำบริกรรม
    พุทโธ นี่แหล่ะรู้แจ้งแทงตลอด
    ไม่แพ้คนอ่านคัมภีร์แล้วแบกไปด้วย
    ฮับ
     
  12. ๑๓อักษร

    ๑๓อักษร สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2021
    โพสต์:
    450
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +68
    อย่าลืมนะว่า ท่านเหล่านั้น ฝึกโดยมีครูผู้สอน มีวัตรปฏิบัติงดงาม
    มีตัวอย่างที่ดี ไม่มีตัวอย่างที่เลว

    แม้ไม่ได้อ่านคำภีร์ แต่ฝึกด้วยวัตรปฏิบัติ งดงาม ต่างจากพวก อะไรอะไรก้อย่าไปทำ
     
  13. Enzo Zen

    Enzo Zen เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มกราคม 2021
    โพสต์:
    1,107
    ค่าพลัง:
    +675
    ทำเป็นหวงตัวไปได้ ใครมาคุยด้วยไม่ได้เบยยยนะ พ่อเทพบุตร

    ส่วนตัวที่มาคุยด้วย เพราะเห็นว่ามรรค8 เป๊ะเว่อร์นะเนี่ยะ ถ้าไม่เป๊ะเบอร์นี้ ทัวร์ไม่ลงเด็ดขาด

    ถ้าจะบอกว่าตัวเองเป็นfact เพราะไม่ขัดธรรมพระศาสดา ...อีชั้นก็เคยแย้งไปแล้ว ว่าขัดเพียบ

    หนึ่งในนั้นก็ จิต เจตสิก รูป นิพพาน 4 ตัวนี้มีชัดเจน แต่คุณกลับบอกพระศาสดาไม่ได้ตรัสแน่ๆ

    ส่วนการก่ออุปทานในรู้ ในผู้รู้ นั่นคือสิ่งที่คุณคิดไปเอง ฝึกผิดพลาดเอง ไม่เข้าใจการฝึก ไม่เข้าใจความรู้สึกตัว ก็เพราะคุณทำไม่ได้เอง มันเป็นปัญหาของคุณเอง ...คุณก็เลยต้องกลับไปตายรังที่เดิม คืออยู่กับลม
     
  14. Enzo Zen

    Enzo Zen เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มกราคม 2021
    โพสต์:
    1,107
    ค่าพลัง:
    +675
    ข้าพเจ้าไม่ต้องอ่านของคุณหรอก เพราะฝึกกับพระ ลพ.
    ท่านเคยพูดสั้นๆ ว่า "ของปลอมอยู่ข้างนอก ของจริงอยู่ข้างใน" แค่นี้ก็เคลียร์แระ ว่าท่านระดับไหน

    อานาปานสติท่านก็ฝึก และก้อสอนประชาชนฝึก แต่ผสมตามอายตนะเข้าไป เพราะวิปัสสนาจากลมรู้ได้ยาก

    ลมเข้าออกรู้
    ลมเข้าสั้นรู้ ลมออกยาวรู้
    ลมเข้าสุดรู้ ลมออกสุดรู้

    3 สเต็ปนี้ทำให้เกิดใน1คาบลมได้ ครั้งเดียว .ไม่ยาก แต่ที่ยากคือความสม่ำเสมอของสั้นยาวจะรู้ไปได้นานแต่ไหน ส่วนมากทำไปเรื่อยๆ จะเหลือแค่เข้ารู้ออกรู้ แล้วจิตก้อเผลอๆ เพลินๆ... จิตเลยตามลมไปนั่งแข็ง ส่วนมากก็โหมดนี้เป็นส่วนใหญ่

    เรื่องลมละเอียดเว่อร์.. ยกกำลังเว่อร์ ..เว่อร์ซ้อนเว่อร์ ไม่ไหวจะเว่อร์ .. อะไรเบอร์นี้ก็เคยเจอกันบ้าง แต่นั่นก็ไม่ต้องทำไร จิตออกไปกับลมเอง ก็ไม่ต้องไปดับรูป ดับนามอะไรอีกนั่นแหล่ะ เพราะสติมันคุมสมาธิไว้ตลอด

    เรื่องวิหารธรรม บอกไปแล้ว ทำให้ผู้รู้วิชชาตั้งได้นานแค่ไหน จิตอวิชชาก้อทำงานลำบาก ..ผู้รู้วิชชาจะอยู่ตรงไหน หรือตื่นรู้ตรงไหนก็ได้ หน้าผาก คิ้ว แขน หัวเข่าได้หมดแหล่ะ ถ้าตรงไหนเรารู้สึกวางจิตแล้วสบายๆ ก็ไม่ใช่ปัญหาของวิหารธรรม... เพราะอยู่ตรงไหน เราก้อหายใจตลอดนั่นแหล่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 กันยายน 2021
  15. Piccola Fata

    Piccola Fata เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 เมษายน 2010
    โพสต์:
    1,590
    ค่าพลัง:
    +1,142
    การที่คุณกังวลไม่อยากให้แนนมาตอบโต้ หงุดหงิดเวลาคนอื่นไม่เห็นด้วย อยากให้คนอื่นยอมรับความเห็น
    อันนี้เนี่ย ตัวตนพอกหนาตั้งหลายเท่า คุณดันไม่กลัว…

    ดันไปกลัวการก่อตัวตนจากการกำหนดรู้…กลัวตัวตนจากผู้รู้

    ตัวตนยังไงก็มีอยู่แล้ว หนีไม่พ้นหรอกค่ะ …ขนาดตัวมานะ อนาคามียังสลัดออกไม่ได้หมดเลย
     
  16. นาฬิเกร์

    นาฬิเกร์ อดทนชนะใจตน

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2020
    โพสต์:
    426
    ค่าพลัง:
    +408
    ๑๓อันตราย หลงตนว่าฉลาดแล้ว เมื่อตายไปย่อมเกิดเป็นลูกแมว เพราะเกิดเป็นลูกคน พ่อแม่ไม่รัก ไม่ช่วยกันดูแล

    "สัจจะธรรมิกราช"
     
  17. ๑๓อักษร

    ๑๓อักษร สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2021
    โพสต์:
    450
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +68
    ดีที่ผม ใช้ชื่อ ๑๓อักษร รอดตัวปาย
     
  18. หมูไม้ละ5

    หมูไม้ละ5 # shawty, set me free

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มีนาคม 2016
    โพสต์:
    1,659
    ค่าพลัง:
    +1,626
    ผมจะต้องกลัวอะไร....
    ถ้ารู้ว่า..."สงครามที่รบนี้..ไม่มีวันแพ้"
    ....ในเมื่อ
    หลังผมพิงพระพุทธองค์อยู่

    สิ่งที่พูด...
    มันคือความจริงแบบเดียวกับ
    ....พระพุทธองค์...

    จะมีคุณแนนอีก10 คนมาแย้ง
    มันก็ไม่เคยหวั่นไหวด้วยซ้ำ
    ...ธรรมจะรักษา...ความจริงที่ผมพูดไว้

    แต่คุณแนนต่างไป...
    ถ้าให้พูดตรงๆ...
    ...มันมีอาการของ..."มารยา"
    และคงไม่ต้องให้ผมอธิบายเพิ่มนะครับ
     
  19. Piccola Fata

    Piccola Fata เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 เมษายน 2010
    โพสต์:
    1,590
    ค่าพลัง:
    +1,142
    อีกอย่าง แต่เริ่มก็ผิดวิธีแล้วค่ะ
    “เข้าไปดู เข้าไปรู้”
    ใครเขาให้เข้าไปคะ
    นี่ใช่มั้ยคะที่คุณเรียกว่ากระโดดงับรู้
    เข้าไปจ้อง ด้วยตัณหาอยากเห็น อยากรู้

    ให้ตัวเองนั้งอยู่ริมถนน รถวิ่งผ่านตาไป
    แค่เพียงรู้ เพียงเห็น ปล่อยผ่านไป

    ไม่ใช่วิ่งไปงับล้อ
     
  20. นาฬิเกร์

    นาฬิเกร์ อดทนชนะใจตน

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2020
    โพสต์:
    426
    ค่าพลัง:
    +408
    เรานั้นไร้ตัวตน แล้วแต่กรรม จะพากันไป
    กราบหลวงตา

    "สัจจะธรรมิกราช"
     

แชร์หน้านี้

Loading...