ธรรมะไร้กาลเวลาทั้งทางโลกทั้งทางธรรม

ในห้อง 'Black Hole' ตั้งกระทู้โดย ละอองไฟ, 8 มกราคม 2021.

  1. ล่อนจ้อน

    ล่อนจ้อน ยถาวารี ตถาการี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2020
    โพสต์:
    4,665
    ค่าพลัง:
    +2,579
    อย่างวิญญาณขันธ์พระเค้ากะเรียกสะรายะตนะ
    ตามที่ผมเข้าใจนะ
     
  2. หมูไม้ละ5

    หมูไม้ละ5 # shawty, set me free

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มีนาคม 2016
    โพสต์:
    1,659
    ค่าพลัง:
    +1,626
    จิต กับ วิญญานเป็นสิ่งเดียวกัน
    "จิต"ถ้าพูดในแง่ "การรับรู้" เรียกว่า "วิญญาน"
    ทำหน้าที่ในการ รับรู้
    อย่างการที่เราปฎิบัติ "รู้ลมหายใจเข้า-ออก"
    จิตหรือวิญญานจะตั้งอาศัยที่ "รูป"
    หากตามรู้ "ความเจ็บปวด"
    จิตหรือวิญญานจะตั้งอาศัยที่ "เวทนา"

    วิญญานหรือจิต รับรู้ได้เพียงทีละหนึ่งขณะ
    เหมือนเราได้ยินทางหู
    วิญญานจะตั้งการรับรู้ที่หู
    >>แปลค่าผ่านสัญญาว่านี้ "เสียงอะไร เสียงใคร"
    >>และปรุงแต่งการรับรู้ทางเสียงนี้
    >> เป็นพอใจ ไม่พอใจ หรือเฉยๆ
    จากการได้ยินเสียงนั้น โดยอาศัยหยิบข้อมูลมา
    จากอนุสัยที่เคย สั่งสมไว้ ให้ค่าไว้

    ถ้าตัวแปรต่างไป สิ่งที่จะบันทึกลงในอนุสัย
    อาจเปลี่ยนไป
    เช่น เสียงที่เคยชอบ เมื่อปัจจัยอื่นต่างไป
    อาจกลายเป็นไม่ชอบได้
    หรืออาจจะยิ่งหลงเพลินได้
    ก่อภพ ชาติภายใน เป็นอนุสัยนอนเนื่อง
    ให้ผลเป็นวิบากในอนาคต
    ไม่จบสิ้น.....ซ้ำซาก
    กระบวนการพวกนี้เร็วมาก

    สังเกตุดูว่าเมื่อ เราได้ยินอยู่ แปลค่าเสียงนั้นอยู่
    วิญญานตั้งอาศัยอยู่ตรงนี้
    การรับรู้ในอายตนะอื่นย่อมไม่เกิด

    ลองตั้งใจฟังเสียงอะไรสักอย่าง...
    ตาแม้จะเห็นอยู่ แต่กับไม่รับรู้ ถึงสิ่งตรงหน้า
    เป็นสภาพเหมือนการสักแต่เห็นไป
    คือตากวาดมองไป
    แต่ไม่ได้โฟกัสว่าที่เห็นเป็นอะไร
    เพราะตอนนี้วิญญานตั้งอาศัยอยู่ที่หู

    จนกว่าวิญญานจะมาตั้งอยู่ที่ตา
    จึงสามารถรับรู้สิ่งที่เห็นได้ ตามกระบวนการ
    แบบเดียวกับการได้ยิน
    เพราะงั้นโลกนี้จึงมี"แค่ขณะเดียว"
    วิญญาน,จิต,ใจ คือ สิ่งเดียวกัน
    เรียกต่างกัน ตามหน้าที่เท่านั้น

    เราสามารถปฎิบัติโดยการตามรู้ผัสสะที่กระทบ
    จะเห็นวิญญานเกิดดับได้ตาม อายตนะต่างๆ
    จะยิ่งเห็นการเกิดดับ ยิบยับไปหมด
    เพราะกระบวนการพวกนี้เกิดดับไว
    อาศัยการตั้งมั่นดีๆ "โพล้ง"ขึ้นมาได้เลย
    การเห็นแจ้งผ่านทางผัสสะ
    เลยเป็นอีกวิธีหนึ่ง
    พอเห็นแจ้ง จิตก็หายโง่ไปแว๊บนึง
    เรียกว่าเกิด "วิชชา"
    คือเข้าใจสรรพสิ่งว่าว่างเปล่า จากผู้ใด
    ทำลายความเห็นผิดที่เหนียวแน่น
    ว่ามีกู มีของกู ในขั้นหยาบๆ
    จนถึงทำลายความเห็นผิดว่า
    มีกูทำกรรม กูรับผลกรรม ในขั้นละเอียด
    จิตที่เห็นแจ้งความจริง พระพุทธองค์ตรัสไว้
    นี่คือระดับจิตโสดาบัน
    แต่เพราะความที่ยังสลัดความเหนียวแน่น
    นั้นออกจากจิตไม่ได้
    จึงเป็นเพียงทำลายความเห็นผิดเท่านั้น

    จิตยังเกิดโมหะ หลงไปก่อตัวตนในจิตได้อีก
    เปรียบเหมือนการแหวกจอกแหน
    ไปเห็นน้ำใส
    แล้วจอกแหนก็หุบเข้ามาปิดบังไว้เหมือนเดิม
    อย่างหลวงตามหาบัว ท่านได้อุปมาไว้
    การได้เห็นน้ำใสนั้น คือ
    การเข้าไปเห็นไตรลักษณ์ "ไม่มีผู้ใดอยู่ในนั้น"
    เห็นน้ำใส เท่ากับ เห็นความจริง
    แต่จอกแหนก็ยังหุบเข้ามาปกคลุมจิต
    จิตนี้ยังหลงอยู่ไปตามผัสสะ
    จิตยังมีความไม่รู้ คือ อวิชชาอยู่
    จึงหลงสุข หลงทุกข์ตามผัสสะได้
    แต่เป็นการหลงที่พร้อมจะดีดตัวขึ้นมาได้
    เรียกว่าทุกข์แทบทำอะไรไม่ได้

    แต่โสดาบันท่านเดินทางต่อ จนขั้นหมดตัณหา
    จิตหายโง่ เรียกว่า จิตวิชชา
    มันไม่ใช่ มีจิตอวิชชาดวงนึง จิตวิชชาดวงนึง
    พอหมดตัณหา อุปปาทาน
    แล้วจิตอวิชชาจะดับไป ไม่ใช่แบบนั้น
    แต่เป็นจิตดวงนั่นนั้นแหละ เมื่อหายโง่
    การหายโง่ จิตจึงมีวิชชา และ วิมุติ
    ความโง่ ถูกแทนที่ด้วยความ รู้เห็นตามจริง
    อวิชชา จึงเป็นเพียงแค่คำเรียกของอาการโง่
    ของจิตที่หลงไปตามผัสสะ จนเกิดอุปาทาน
    ภพ ชาติ เวียนตายเวียนเกิดไม่จบสิ้นแค่นั้น
     
  3. ละอองไฟ

    ละอองไฟ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2020
    โพสต์:
    2,469
    ค่าพลัง:
    +1,398
    เราทุกข์เพราะมีร่างกาย
    เราทุกข์เพราะมีจิตวิณญาณ
    ทุกข์ใจกับทุกข์กาย
    เข้าใจง่ายๆก็คือ...เห็นความทุกข์


    เรามีจิตวิณญาณ
    เรามีร่างกายทุกข์จึงปรากฏ
    เราและจิตวิณญาณคือต้นเหตุ
    ร่างกายเป็นปัจจัยให้เกิดทุกข์
    เข้าใจง่ายๆก็คือ...
    เรา.จิตวิณญาณ.ร่างกาย
    คือต้นเหตุและปัจจัยแห่งทุกข์ทั้งปวง

    เห็นทุกข์แล้วรู้เหตุแห่งทุกข์แล้ว
    ปราถนาพ้นทุกข์
    ให้เดินตามทางมรรค
    มีองค์ประกอบแปดคือมรรค๘
    เจ้าใจง่ายๆก็คือ
    ให้ทานเพื่อสละออก
    จากสิ่งของภายนอก
    รักษาศีลเพื่อหยุดก่อเวรกรรม
    ฝึกสมาธิเพื่อให้จิตวิณญาณสงบ
    เมื่อมีความสงบจากการฝึกสมาธิ
    ก็ยกขึ้นสู่การพิจารณาวิปัสสนา

    ให้ทานเพื่อหลุดพ้น
    ออกจากการยึดติดสิ่งนอกกาย
    รักษาศีลฝึกสมาธิเจริญภาวนา
    เพื่อหลุดพ้นออกจากสิ่งที่ยึดติดภายใน
    เพื่อหลุดพ้นออกจากจิตวิณญาณ

    หลุดพ้นได้กี่ข้อก็ใช้สังโยชน์๑๐
    เป็นเครื่องบ่งชี้วัดด้วยตัวเอง
     
  4. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,288
    ค่าพลัง:
    +12,620
    อธิบายได้แจ่มแจ้งทุกชอท ทุกชอท
    ลุงแมวหายโง่เลยคับ
    ปล่อยมาบ่อยๆ คับ
     
  5. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,288
    ค่าพลัง:
    +12,620
    ขอเรียนถามท่านหมูไม้ว่า
    ถ้าหากเรามีความเข้าใจเกี่ยวกับจิต
    ในบทบาทหน้าที่ของจิต กิริยาอาการ
    การเคลื่อนไหวต่างๆ.ตลอดจนการเกิดดับ
    ของจิตแต่ละขณะ เราเชื่อว่าเป็นตามนั้น
    แต่เราไม่ต้องการพิสูจน์ความจริง
    ให้ประจักษ์ด้วนตนเอง
    เพราะเราก็ทราบว่าพระพุทธะองต์ก็
    ได้ทรงสอน
    มาเช่นนั้น
    เรียบร้อยแล้ว
    แต่เราเพียงต้องการวิธีประพฤติ
    ปฏืบัติให้หายโง่อย่างถาวร แบบ
    พื้นพื้นแต่ลืมยาก หรือลืมไม่ลง
    ควรทำอย่างไรคับผม
     
  6. I sea you

    I sea you Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กรกฎาคม 2020
    โพสต์:
    639
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,115
    ท่านพุทธทาส

    20210301_115116.jpg

    .....
    ลต.บัว
    20210301_115135.jpg
     
  7. ละอองไฟ

    ละอองไฟ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2020
    โพสต์:
    2,469
    ค่าพลัง:
    +1,398
    กูไม่มี ไม่มีกู
    ไม่มีกูทำกรรม
    ไม่มีกูรับผลกรรม
    ลัทธิตายแล้วสูญไม่มีอะไรเลย
    อุจเฉททิฏฐิเห็นผิดอย่างสิ้นเชิง
     
  8. หมูไม้ละ5

    หมูไม้ละ5 # shawty, set me free

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มีนาคม 2016
    โพสต์:
    1,659
    ค่าพลัง:
    +1,626
    ถ้าเราเชื่อตาม โดยปราศจากการเห็นด้วยตัวเอง
    มันจะเป็นเพียงการสะสมความเข้าใจนี้
    ข้ามภพชาติ
    พอเจอคำสอนของพระพุทธองค์
    ก็อาจจะเกิดความรู้สึกว่าแบบนี้แหละ"ใช่"
    ซึ่งการรู้แบบนี้ เราๆอาจจะเคยสะสมความรู้นี้
    กันมาเมื่อภพชาติก่อนๆ แล้ว
    มีความเห็นที่ถูกต้องกันมาแล้ว
    บางคนเจอประโยคเดียว หรือคำบางคำ
    กลับเข้ามาสู่ทางเดิมได้เลย

    แต่
    ข้อเสียของมันคือ ความเชื่อที่ยังไม่ได้พิสูจน์
    ด้วยการเห็นด้วยตัวเอง

    ความเชื่อนี้ จะไม่มั่นคง
    อาจจะถูกพัดพาให้เปลี่ยนทิศได้เสมอ
    เพราะไม่ได้เกิดจากการเห็นด้วยจิตเอง
    จึงไม่รู้ว่าแบบไหนคือถูก หรือ ผิดกันแน่

    ถ้าจะพิสูจน์สิ่งนั้นให้เห็นด้วยตนเอง
    ถ้าลุงแมวอย่างแล้วเข้าใจในโพสบน
    ลองอาศัยตามดูวิญญานเกิดดับ
    ตามอายตนะต่างๆดูครับ
    ตามเห็นเท่าที่เห็นได้ ถ้าผัสสะไหนไม่ทัน
    ก็ปล่อยผ่าน อย่าไปมีความรู้สึกท้อใจ
    เพราะไม่มีใครตามดูทุกผัสสะที่กระทบได้
    อาจจะเห็นความจริงได้ เพราะนี้ก็เป็นอีกวิธีนึง
    ถ้าลองทำแล้ว ตามเห็นไม่ได้
    ก็หาวิหารธรรมเป็นเครื่องอยู่
    ช่วยให้เกิดความตั้งมั่นของจิต
    แต่ถ้าพยายามแล้ว ก็ยังไม่เห็น
    ก็เลิกทำ
    แล้วค่อยเปลี่ยนวิธีที่ถูกจริตดูใหม่ครับ
     
  9. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,288
    ค่าพลัง:
    +12,620
    คนที่ท่านจี้มาหมายถึงคือใคร
    แต่ที่แน่ๆ ท่านพุทธทาสไม่ตื้นขนาด
    อย่างที่คนเข้าใจธรรมะพื้นๆ
    ได้รู้จัก
     
  10. หมูไม้ละ5

    หมูไม้ละ5 # shawty, set me free

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มีนาคม 2016
    โพสต์:
    1,659
    ค่าพลัง:
    +1,626

    เคยมีคนมากล่าวหาพระพุทธองค์แบบนี้
    เหมือนกันครับ
    กล่าวหาพระพุทธองค์ พาคนไปสู่ความฉิบหาย
    เพราะสอนเรื่อง ความไม่มีตัวตน เรื่องสุญตา
    พระพุทธองค์ตรัสกลับว่า
    "เราสอนแต่เรื่องทุกข์ และความดับทุกข์"



    พระสูตร
    ภิกษุ ท. ! ทั้งที่เรามีถ้อยคำอย่างนี้ มีการกล่าวอย่างนี้ สมณะและพราหมณ์บางพวก ยังกล่าวตู่เราด้วยคำเท็จเปล่า ๆ ปลี้ ๆ ไม่มีจริงเป็นจริงว่า “พระสมณโคดมซึ่งเป็นคนจูงคนให้เดินผิดทางไปสู่ความฉิบหาย; ย่อมบัญญัติลัทธิความสูญเปล่า ความวินาศ ความไม่มี ของสัตว์ คน ตัวตนเราเขา ขึ้นสั่งสอน” ดังนี้.
    ภิกษุ ท. ! สมณะและพราหมณ์บางพวกเหล่านั้น กล่าวตู่เราด้วยคำเท็จ เปล่า ๆ ปลี้ ๆ ไม่มีจริงเป็นจริง โดยประการที่เรามิได้กล่าว หรือจะกล่าวอย่างนั้น ก็หามิได้.
    ภิกษุ ท. ! ในกาลก่อนก็ตาม ในบัดนี้ก็ตาม เราบัญญัติขึ้นสอนแต่เรื่องความทุกข์ และความดับสนิทไม่มีเหลือของความทุกข์ เท่านั้น.
    ภิกษุ ท. ! ในการกล่าวแต่เรื่องความทุกข์และความดับสนิทของความทุกข์ เช่นนี้ แม้จะมีใครมาด่าว่าถากถางกระทบกระเทียบเสียดสี ตถาคตก็ไม่มีความโกรธแค้นขุ่นเคืองเดือดร้อนใจเพราะเหตุนั้นแต่ประการใด.

    ภิกษุ ท. ! ในเรื่องเดียวกันนั้นเอง แม้จะมีใครมาสักการะเคารพสรรเสริญบูชา, ตถาคต ก็ไม่มีความรู้สึกเพลิดเพลินชื่นชม หรือเคลิ้มใจไปตาม.

    ถ้ามีใครมาสักการะเคารพสรรเสริญบูชา ตถาคตย่อมมีความคิดอย่างนี้ว่า ก่อนหน้านี้เรามีความรู้สึกตัวทั่วถึงอย่างไร บัดนี้เราก็ต้องทำความรู้สึกตัวทั่วถึงอย่างนั้น, ดังนี้.

    ________________________________

    - บาลี อลคัททูปมสูตร มู.ม. ๑๒/๒๗๘/๒๘๖. ตรัสแก่ภิกษุทั้งหลาย ที่เชตวัน.
     
  11. ละอองไฟ

    ละอองไฟ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2020
    โพสต์:
    2,469
    ค่าพลัง:
    +1,398
    ใครที่เห็นว่ากูไม่มีจะถูกจี้ทั้งหมด
    กูเป็นคำหยาบคำสุภาพใช้คำว่าเรา
    เราไม่มี ไม่มีเรา
    ก็หลงผิดหลงทางตั้งแต่ต้นแล้ว
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 มีนาคม 2021
  12. ล่อนจ้อน

    ล่อนจ้อน ยถาวารี ตถาการี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2020
    โพสต์:
    4,665
    ค่าพลัง:
    +2,579
    พอเราลงมือทำบ่อยๆเรากะได้คำตอบในใจเรา
    ไม่จำเป็นต้องถูกที่สุด
    แต่ไม่ผิดวัตถุประสงค์แน่นอน
     
  13. ละอองไฟ

    ละอองไฟ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2020
    โพสต์:
    2,469
    ค่าพลัง:
    +1,398
    พระพุทธเจ้ามีจริงไหม
     
  14. ล่อนจ้อน

    ล่อนจ้อน ยถาวารี ตถาการี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2020
    โพสต์:
    4,665
    ค่าพลัง:
    +2,579
    เพราะเป็นผู้กระทำเรากะรับผลเอง
     
  15. ล่อนจ้อน

    ล่อนจ้อน ยถาวารี ตถาการี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2020
    โพสต์:
    4,665
    ค่าพลัง:
    +2,579
    เราเกิดจากพ่อ
    พ่อเกิดจากพ่อของพ่อ
    พ่อของพ่อเกิดจากพ่องง
    555
     
  16. I sea you

    I sea you Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กรกฎาคม 2020
    โพสต์:
    639
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,115
    บุญบาปไม่ใช่จิต ไม่เกี่ยวกับจิต... บุญบาป เทวดา นี่นั่นไปจนสุดพรหมเป็นเขตอวิชชา ยกเว้นนิพพาน อยู่นอกเขตอวิชชา

    ถ้ายังไม่นิพพาน ต้องรับผลกรรมจากการกระทำทั้งบุญและบาปนั้นๆ

    ที่เรามีภพชาติไม่สิ้นสุดเพราะเชื่อความคิดปรุงแต่ง และไม่ฝึกจิตให้ถึงตัวปัญญา
     
  17. ล่อนจ้อน

    ล่อนจ้อน ยถาวารี ตถาการี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2020
    โพสต์:
    4,665
    ค่าพลัง:
    +2,579
    ลุงมีปัญญาไม่แข็งแรงแล้ว
    ต้องฝึกอีกเหรอ
     
  18. I sea you

    I sea you Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กรกฎาคม 2020
    โพสต์:
    639
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,115
    ลุงไม่ต้องฝึกแล้ว หาเมีย มีครอบครัวอยู่ระยองฮิไปโลด
     
  19. ละอองไฟ

    ละอองไฟ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2020
    โพสต์:
    2,469
    ค่าพลัง:
    +1,398
    เป้าหมายสูงสุดของพระพุทธศาสนา
    ก็คือปัญญานี่แหละครับคุณบีมปวี
    สัมมาปัญญาคือที่สุดแห่งปัญญา
     
  20. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,288
    ค่าพลัง:
    +12,620
    แหม... พอมีใครยุให้หาให้มี
    มนุษย์เมียกลิ่นฉุน เป็นต้องปลื้มปิติ
    ยิ้มแผละ ยิ้มแผละ
    ให้รอเอาสวยเนียนละเมียดละมัย
    กว่ามนุษย์เมีย ก็ไม่เคยอยากรอ555
     

แชร์หน้านี้

Loading...