เตรียมตัวให้พร้อม!มันกำลังมา แจ้งข่าวสารการชำระโลก

ต้องไปห้องบอกบุญคับ

 

ขอบคุณค่ะ จิตยิ้มเชื่อว่า ณ สถานที่นี้คือจุดศูนย์รวมของผู้มีบุญบารมีที่เกิดมาเพื่อรักษา และทำนุบำรุงพระศาสนา ที่เหล่าอัญญาสิทธิ์ และอัญญาธรรมได้มารวมกันแล้ว ณ สถานที่นี้ค่ะ

ทางด้านนามธรรมเราทั้งหลายได้รู้แล้ว หลักสัจจะธรรมโลกุตระที่เปิดออก คงเหลือแต่รูปธรรมที่ต้องร่วมมือร่วมกันใจให้เกิดขึ้น เพื่อความคงอยู่ของศาสนาสืบไปจนครบ 5,000 ปี

จิตยิ้มคงไม่อยากจักกล่าวโดยไม่รู้จริง แต่..มีสิ่งหนึ่งที่เป็นเหตุให้ได้เจอคำสอนที่เป็นการเปิดเผยธรรมโลกุตระที่ได้พบ และการพบครูบาอาจารย์ทำให้ให้ความสมบูรณ์ของสัจธรรมได้ต่อยอดเพิ่มขึ้นค่ะ

ตามคำพุทธทำนาย...

พระธรรมจะเริ่มเปล่งรัศมีฉายแสงส่องโลกอีกวาระหนึ่งก็ต่อเมื่อ
มีธรรมิกราชโพธิญาณบังเกิดขึ้น อยู่ในความอุปถัมภ์ของพระเถระผู้ทรงธรรมฤทธิ์
ทั้งสองพระองค์สถิตย์ ณ เบื้องต้นตะวันออกของมัชฌิมประเทศ
จะเสด็จมาเสริมสร้างศาสนาของตถาคต ให้รุ่งเรืองสืบไปถึง 5,000 พระวัสสา

ตนเองก็ยังเชื่อว่า ธรรมิกราชโพธิญาณ นั่นคือ หลวงปู่มั่น และหลวงปู่เสาร์ค่ะ ซึ่งนับจากที่ท่านได้บรรลุพระอรหันต์ มีลูกศิษย์ที่บรรลุตาม และผู้มีรับแสงธรรมมานานมากแล้ว ตั้งแต่ 60 ปีที่ผ่านมา หรือ อาจเรียกได้ว่าแสงธรรมเริ่มส่องแสงลงมาตั้งแต่พ.ศ. 2,500 ปีที่ผ่านมา หรือที่เรียกว่า กึ่งพุทธกาล นั่นเองค่ะ

และ ณ.ช่วงปัจจุบันนี้ ได้ล่วงผ่านเลยมาถึง 60 กว่าปี สัจธรรมได้เปิดเผยออกมาเป็นระยะ ๆ และผู้มีบุญบารมีที่ได้เข้ามานี้ทราบกันดี และหลายๆ ท่านก็ได้สัมผัสกันมาบ้างแล้ว

มีอยู่วันหนึ่งได้ฟังเทปถ่ายทอดสดปฏิบัติธรรมที่บ้านทุกเช้าค่ำ ได้เข้าไปรับฟังแนวทางการเผยแพร่พระศาสนา รวมถึงการได้รับรู้การปฏิบัติธรรมของผู้ปฏิบัติตามของแต่ละท่าน ที่หลายท่านได้เข้าสภาวะถึงธรรมบริสุทธิ์ คือ เนื้อธรรมชาติ "อมตธรรม" กันได้เป็นจำนวนมาก และยิ่งได้รับทราบการปฏิบัติของพระภิกษุที่ได้เข้าคอร์สปฏิบัติระยะเวลา 3 เดือน การฝึกสติปัฏฐาน 4 เพื่อเป็นกำลังของพระศาสนาในการพาฝึกเข้าถงเนื้อธรรมชาติ คือเนื้อ"อมตธรรม" เข้าถึงเนื้อนิโรธสัญญา พิจารณาอนุโลม-ปฏิโลมตามวงปฎิจจสมุปบาท และการเข้าถึงมรรคอริยสัจ ทั้งหลายทั้งมวลนี้ที่จะเป็นกำลังพระพุทธศาสนาต่อไปอย่างยั่งยืนค่ะ

จิตยิ้มก็ไม่อยากจะพูดถึงคำกล่าวที่ว่านี้.....

มีธรรมิกราชโพธิญาณบังเกิดขึ้น อยู่ในความอุปถัมภ์ของพระเถระผู้ทรงธรรมฤทธิ์
ทั้งสองพระองค์สถิตย์ ณ เบื้องต้นตะวันออกของมัชฌิมประเทศ

แต่...ก็มาเอะใจ!! ทำไมสถานการณ์ ณ ปัจจุบันจึงได้ใกล้เคียงกับคำทำนายดังกล่าวด้วยค่ะ

เอาเป็นว่านะคะ จริงหรือไม่จริง... ด้วยความที่ได้ฟังและพิจารณาธรรม และได้รับรู้เจตนารมณ์ในการที่จะเเผยแพร่พระศาสนา อันมีพระภิกษุที่เป็นธงชัยพระอรหันต์ ถือว่าการเข้าถึงธรรมทั้งหลายนี้ น่าจะมีส่วนในการรักษาพระศาสนาให้ยั่งยืนถึง 5,000 ปี แน่นอนค่ะ

ภาพพลังงาน ณ สถานที่นี้ค่ะ...



สถานที่ปฏิบัติธรรมกลางแจ้ง..น่าจะยังเป็นพื้นดินอยู่ค่ะ ถ้าจิตยิ้มมีเงินนะ จะทำบุญพื้นทรายให้เลยค่ะ



และนี่ค่ะสถานที่ก่อสร้างที่มีกำหนดระยะเวลาดำเนินการ 1 ปี 8 เดือน ที่จะเป็นสถานที่รองรับผู้ปฏิบัตินับ 1,000 คน ถ้าสามารถเข้าถึงธรรมอันบริสุทธิ์ได้เป็นจำนวนมากจะเป็นประโยชน์มหาศาลต่อโลกใบนี้เป็นอนันต์ค่ะ

ร่วมมือช่วยกันเผยแพร่และทำนุบำรุงพระศาสนาเพื่อให้ดำรงอยู่ครบ 5,000 ปีค่ะ







ติดตามข้อมูลได้ที่นี่ค่ะ

https://m.facebook.com/pages/ศูนย์วิปัสสนายุวพุทธ-เขมรังสี-ศูนย์4/288919104547275

 

ถอดรหัสใจกลางโลก กับ คำอวยพรของสมเด็จพระสังฆราช ในวันขึ้นปีใหม่ 2564 ค่ะ

“สพฺเพสํ สงฺฆภูตานํ สามคฺคี วุฑฺฒิสาธิกา ความพร้อมเพรียงของหมู่ชน ยังความเจริญให้สำเร็จ”




ทรงให้แนวทางปฏิบัติไว้..

https://palungjit.org/threads/พิมพ์...านสวดมนต์ข้ามปี-ขอพร-5-ศาสนาจัด-5-ม-ค.743610/

การรวมจิตรวมใจร่วมกันทำความดี ก่อเกิดประโยชน์ต่อโลกมหาศาล เพียงใด...นะค่ะ

เหตุใดเชื้อโควิด 19 ซึ่งมีสารพันธุกรรม หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งว่า รหัสคำสั่งที่และแพร่พันธ์และทำลายเซลล์ในหมู่มนุษย์ จึงมีที่มาของการงดกิจกรรมที่ทำลายล้างโลก เช่น ทางด้านการผลิตอุตสาหกรรมต่าง ๆ ควันพิษมลภาวะลดลงเมื่อระบาดครั้งที่ผ่านมา เมื่อหยุดกิจกรรมทำลายโลก โลกก็มีพลังงานสูงขึ้น

แล้วคำกล่าวที่ว่า "ที่ใดมีความรักความสมัคคีในหมู่คณะ ที่นั่นมีแต่ความเจริญ" และในหลวง ร.9 ก็ทรงเน้นย้ำมากในเรื่องนี้ เพราะเหตุใด...

กฎแห่งสากลจักรวาล....มีอยู่ 3 ขัอที่เป็นกฎของจักรวาล
1.กฎแห่งการเปลี่ยนแปลง
2.กฎแห่งการสร้างใหม่
3.กฎแห่งความเสมอภาค หรือความสมดุลกันทุกสรรพสิ่ง หรือ กฎแห่งการดำรงอยู่ร่วมกันของทุกสรรพสิ่ง ก็คือ

"กฎแห่งความเป็นหนึ่งเดียวกัน"

การใช้อำนาจเหนือของตนเองกระทำต่อผู้อื่น ทำให้เขาเสียสมดุลไปจากความสงบนิ่ง หรือ สันติสุขในสภาวะปกติแท้จริงของเขา ล้วนจัดเป็นการทำลายความสมดุลของผู้อื่น ผิดกฎการของการดำรงอยู่ร่วมกันทั้งสิ้น

สังคมโลก ยังมีการรังเกียจเดียดฉันท์ผู้อื่น ยังมีการแบ่งพรรคแบ่งพวกกัน ทั้งที่อยู่ในสังคมระบบเดียวกัน ไม่ว่าจะสังคมเล็ก หรือสังคมโลก ไม่เอาความแตกต่างทางภาษา เชื้อชาติ วัฒนธรรม ภูมิประเทศ ลัทธิ สีผิว หรืออะไรก็แล้วแต่มาแบ่งแยกความเป็น"เผ่ามนุษย์โลก" ออกไปจากกัน กลายเป็นคนละพวกต่อกันก่อให้เกิดความกระทบกระทั่งกัน มุ่งร้ายหมายเอาชีวิตกันแม้แค่เพียงเล็กน้อยเท่านั้นเอง

ถือเป็นการกระทำผิดต่อกฎสากลจักรวาลอย่างร้ายแรงเลยทีเดียว

โลกวิกฤตเพราะจิตสำนึกมนุษย์ตกต่ำ

ไขความลับอ๊อกซิเจนโลก..มาจากไหน!

ถ้ามีคำกล่าวทึ่ว่า ปริมาณก๊าซอ๊อกซิเจนบริเวณพื้นผิวโลกจะเจือจาง และก๊าซคาร์บอนไดอ๊อกไซด์มีปริมาณเข้มข้นแล้ว อัตราการเหวี่ยงหมุนรอบตัวเองของดาวเคราะห์โลกก็จะต่ำลง หรือโลกจะหมุนรอบตัวเองช้าลงไปเรื่อย ๆ การเสียสมดุลของระบบโลกถัดมา ก็คือ

ดาวเคราะห์โลกจะเกิดอาการส่ายไปส่ายมาในขณะเหวี่ยงหมุนรอบตัวเอง

ยิ่งถ้ามนุษย์ระเบิดภูเขา ย้ายซากหินดินทรายไปจากตำแหน่งพิกัดเดิม ไปสร้างป่าคอนกรีตสถานที่ใหม่เดิมกำหนดไว้เป็นพื้นราบ ก็ยิ่งทำให้อาการส่ายหรือแกว่งของดาวเคราะห์โลกเพิ่มขึ้น

ทุกวันนี้มนุษย์ค้นพบแล้วว่า แกนหมุนรอบตัวเองของดาวเคราะห์โลกมีอาการส่ายขึ้นแล้ว นับวันยิ่งส่ายมากขึ้นด้วย แต่มนุษย์ไม่เคยสำนึกรู้เลย สาเหตุแห่งการส่ายนั้นเกิดจากอะไรกันแน่

มนุษย์ที่ดำรงอยู่บนโลกอย่างไร้จิตสำนึกนี่เอง คือผู้ก่อเหตุคนสำคัญของดาวเคราะห์โลก

มนุษย์ เป็นผู้นำของสิ่งมีชีวิตในระบบโลก ที่สามารถผลิตก๊าซออกซิเจนขึ้นมาใหม่ได้ หลักฐานก็คือ ภาพถ่ายของยาน"อพลอโล่ 16" ขณะที่ถ่ายมองลงมาจากดวงจันทร์ ได้บันทึกภาพในย่านแสงอัลตราไวโอเลต ได้คันพบความจริงว่า บรรยากาศโลกที่เป็นด้านกลางวันนั้น จะมีความหนาแน่ของอ๊อกซิเจนมากกว่าซีกโลกที่เป็นช่วงกลางคืนอย่างชัดเจนมาก

ถอดรหัสใจกลางโลก

ใจกลางโลกจะประกอบด้วย ธารน้ำใต้ดิน ,ลาวาร้อน,ออกซิเจน




ปฏิกิริยานิวเคลียร์ใจกลางโลก

ภายในใจกลางโลกจะมีก้อนออกซิเจนเหลวบริสุทธิ์ 100% มีลักษณะใส ขึ้น และเหนียวหนืดคล้ายตังเม เมื่อสะท้อนแสงก็จะเป็นเงาวาวคล้ายสีปีกแมลงทับ (ออโรร่า) ซึ่งอะตอมออกซิเจนนี้ มีคุณสมบัติทางไฟฟ้าเป็นลบที่ว่องไวต่อบรรจุไฟฟ้าบวก อันเกิดจากคลื่นพลังจิตด้านบวกเป็นอย่างมาก โดยมันจะก่อให้เกิดปฏิกริยานิวเคลียร์ในระดับอะตอมที่จะระเบิดได้อย่างรุนแรงมาก

เมื่อมนุษย์พากันสร้างคลื่นความถี่ทางไฟฟ้าแม่เหล็กด้านบวกออกมา โดยอาศัยกลไกอวัยวะชิ้นพิเศษในระบบชีววิทยา จะมีเพียงแค่ 1% จะเข้าทำปฏิกิริยาทางไฟฟ้ากับอะตอมของก้อนออกซิเจนเหลวที่มีความบริสุทธิ์ 100% มีคุณสมบัติทางไฟฟ้าเพราะมีอิเล็คตรอนลบเกาะอยู่ ด้วยการพุ่งเข้าชนอย่างรวดเร็ว จนก่อระเบิดขึ้นอย่างรุนแรง ที่นักวิทยาศาสตร์เรียกกระบวนการนี้ว่า ปฏิกิริยานิวคลียร์ (Nuclear fission) ซึ่งอยู่ในรูปของก๊าซออกซิเจนนี้ (การระเบิดทำให้เกิดการแตกตัวของอะตอมธาตุบางอย่างออกมาอย่างอิสระ เป็นผลให้มีการรวมตัวกันของอะตอมธาตุอย่างน้อย 2 ธาตุขึ้นไป จนเกิดดป็นธาตุใหม่หรือสสารใหม่ขึ้น)

ในโลกนี้ทฤษฎีแห่ง "การบังเอิญ" ไม่มี

มนุษย์ต้องรู้ว่า ก๊าซอ๊อกซิเจน ทีห่อหุ้มดาวเคราะห์โลกของตนอยู่ มันมิได้มีอยู่เอง หรือเกิดขึ้นเองได้ตาม "ธรรมชาติ" อย่างที่มนุษย์และนัก วิทยาศาสตร์โลกคาดคิด ความบังเอิญไม่มีที่จะสามารถอุบัติขึ้นมาได้เอง มันต้องมีเหตุแห่งการเกิด

จิตสำนึกด้านบวกของมนุษย์นี่เอง ถ้ามันสั่นสะเทือนขึ้นมาเมื่อใด มันจะนำไปสู่การผลิตสร้างก๊าซอ๊อกซิเจนภายในใจกลางโลกขึ้นมาใหม่ได้เสมอ

ไม่ต่างจากข้าวสุกข้าวเหนียวที่ตนใช้บริโภค ถ้าไม่รู้จักเพาะปลูกขึ้นมา และเก็บเกี่ยวนำมานึ่งมาหุงเพื่อบริโภค ไหนเลยมนุษย์จะมีข้าวให้บริโภคเพื่อยังชีพ เพราะข้าวสุกหรือข้าวเหนียวนึ่งแล้วพร้อมรับประทานที่มีอยู่ในธรรมชาติไม่มีนั่นเอง

จิตสำนึกด้านบวกของมนุษย์นี่เอง ถ้าสั่นสะเทือนขึ้นมาเมื่อใด มันจะนำไปสู่การผลิตสร้างก๊าซออกซิเจนในใจกลางโลกขึ้นมาใหม่ได้เสมอ

จิตสำนึกเป็นอาการของใจที่ถูกสร้างขึ้นไว้ภายใน เป็นกลไกในการสร้างพลังงานให้แก่โลกในมิติที่สาม (อาทิเช่น อารมณ์ปิติสุขอันเป็นส่วนผสมของความรักพรหมวิหาร 4 จากจิตใจ มันจะสร้างพลังงานด้านบวกที่โลกและจักรวาลต้องการ เพราะมันเป็นพลังงานชนิดเดียวกันทีมีอยู่ในจักรวาลเท่านั้น) ที่เป็นการสร้างระบบความสมดุลอย่างแท้จริง

ที่พระศาสดาทรงสอนให้มนุษย์ปฏิบัติจิตของตนเองให้ถูกต้อง สอนให้มีศีลธรรม สติ สมาธิ ปัญญา เพื่อให้มนุษย์ลดละกิเลสตัณหา โลภ โกรธ หลง อารมณ์สับสนทุกชนิด อันจะทำให้เกิดความสงบสุขทางจิตใจ เพื่อสร้างความพร้อมให้ตนเองเป็นเครื่องมือในการสร้างพลังงานใหม่ด้านบวกให้แก่โลกที่สอดคล้องกับหน้าที่ ความเป็นแก่แท้ของมนุษย์

การสอนให้มนุษย์ฝึกสมาธิก็เพื่อละอารมณ์หยาบ ๆ รายวัน หลักธรรมศาสนาจึงเน้นการปฏิบัติที่จิตที่เป็นแก่นแท้ (จิตสำนึกบริสุทธิ์และสุขสงบ) เพราะการสั่นสะเทือนทางจิตใจใด ๆมมันจะก่อให้เกิดพลังงานใหม่ในด้านมิติพลังงานขึ้นตลอดเวลา

มนุษย์ลองพิจารณา ค่าพลังงานที่แต่ละคนปลดปล่อยออกมาในขณะนั้น ของจำนวนมนุษย์ผู้กระทำ รวมเป็นผลรวมของพลังงานจิตสำนึกด้านบวกทั้งหมด จะเท่ากับ 3 เท่าของจำนวนมนุษย์ผู้กระทำยกกำลังสอง X ด้วยผลรวมของพลังงานด้านบวกที่แต่ละคนปลดปล่อยมันออกมาใน ณ ขณะนั้น

มนุษย์ลองคิดเล่น ๆ ดูถ้ามีมนุษย์สัก 100,000 คนที่สมดุลเกิดปลดปล่อยพลังงานด้านบวกออกมาพร้อมกันให้แก่โลก หากแทนค่าด่วยสมการข้างต้น จะพบว่าระดับพลังงานที่ถูกปลดปล่อยออกมามีค่ามหาศาลเลยทีเดียว มันมากพอที่จะยกระดับคลื่นความถี่สนามแม่เหล็กโลก ผลบวกจากค่าพลังงานด้านบวกที่เขาปลดปล่อยทันออกมา จะเกิดการผลักดันกันให้พลังงานหมุนวนอย่างรุนแรงและเร็ว ซึ่งมันจะมีผลต่อการเหวี่ยงตัวเองของโลกในขณะเดียวกันด้วย

ค่ะ ด้วยเหตุนี้การรวมตัวกันเพื่อสร้างความสามัคคีสร้างความดี จึงเป็นประโยชน์เกื้อกูลโลก จึงแคล้วคลาดปลอดภัย ดั่งคำที่ว่า "ธรรมะย่อมรักษาผู้ประพฤติธรรม" ยิ่งประเทศใดมีสร้างพลังมวลกรรมของประเทศในด้านบวกมากเท่าไหร่ ยิ่งปลอดภัยจากภัยพิบัติต่าง ๆ ได้มากขึ้นเท่านั้น

พลังงานกรรมรวมด้านบวกช่วยให้โลกปลอดภัยจากภัยพิบัติใหญ่ได้ แต่พลังงานกรรมส่วนตัว ก็เป็นของใครคนนั้นก็รับผิดชอบกันเองค่ะ

ศาสนาพุทธจึงเป็นประโยชน์ด้วยนัยยะนี้ค่ะ

 

สวัสดีปีให้ครับท่านยิ้ม
สบายดีนะครับผม

 

สวัสดีปีใหม่ค่ะ ท่านนักรบอธรรม และ fc ทุก ๆ ท่านค่ะ จิตยิ้มได้เข้าไปอ่านในข้อความที่ท่านอ้างอิงข้อมมูลที่เคยลงเอาไว้เมื่อตอน Covid 19 ระบาดในรอบแรก และบัดนี้ก็กำลังเกิดขึ้นจริงแล้วในขณะนี้

จากกระทู้นี้.....

https://palungjit.org/threads/ผีโขมดป่าจะเข้าเมือง-6-เตรียมรับและเข้าใจพลังงานชีวิต-มีอายุยืน-กับยุคพลังงานใหม่.735739/

จิตยิ้มได้นำข้อมูลสิ่งศักดิ์สิทธิ์เกี่ยวกับเรื่อง รหัสพันธุกรรมของมนุษย์เรามาจากไหน? และอะไรเป็นตัวกำหนดอายุขัย! และเข้าใจเบื้องลึกที่มาที่ไป แล้วเกี่ยวเนื่องอย่างไร! กับข้อมูลที่อ้างอิงนะค่ะ

จากข่าวนี้ของท่านผู้ว่าสมุทรสาคร ที่ป่วยเป็นโรคโควิด และเนื่องด้วยท่านมีอายุมากแล้ว



https://www.matichon.co.th/covid19/thai-covid19/news_2507912

ตามที่อ่านข่าวนะคะ หมอได้กล่าวไว้ว่าระยะเวลาที่เฝ้าระวังคือ ภายใน 72 ชั่วโมงแรก ที่ต้องระวังเป็นพิเศษเกี่ยวกับระดับอ๊อกซิเจน และภูมิคุ้มกันจะเกิดขึ้นมาหลังจากที่ผู้ป่วยรับเชื้อไปแล้ว

ทีนี้ค่ะ จากกระทู้#ผีโขมดป่าจะเข้าเมืองฯ ที่ได้อ้างอิงไว้เกี่ยวกับเรื่องกระแสพันธกรรมของแต่ละคน ที่ได้ถูกกำหนดการตายเอาไว้แล้ว ก่อนที่จะลงมาเกิด จึงทำให้มนุษย์แต่ละคนมีอายุขัยยืนยาวไม่เท่ากันเนื่องจาก....

การกำหนดการตายของมนุษย์จะถูกจัดวางในเส้นใย DNA ซึ่งเป็นเส้นในเกลียวแม่เหล็ก 2 ขั้ว ภายในนิวคลีโอไทด์ของเซลล์ทั่วร่างกายและอวัยวะต่าง ๆ ที่เป็นข้อมูลอันเป็นคุณสมบัติของกรรมเก่าที่เป็นวิบากกรรม ทั้งกรรมดีและกรรมชั่ว หรือพลังงานด้านบวกและพลังงานด้านลบ เส้นใยแม่เหล็กจะคอยทวนรหัสสัญญาณที่นำมา คอยกำกับเป็นคำสั่งให้ยีนส์หรือDNA อย่างต่อเนื่อง

เมื่อ DNA รับรหัสเอาข้อมูลดังกล่าวไว้แล้ว จะนำรหัสพลังงานเก่าหรือกรรมเก่ามาสู่กระบวนการสร้างใหม่ทางชีวภาพ การที่เมนุษย์มีอายุขัยยืนยาวไม่เท่ากัน การป่วยไข้ การบกพร่องทางอวัยวะร่างกายภายนอก ภายในใด ๆ หากไม่เกิดจากกรรมใหม่คือความประมาทของตัวมนุษย์คนนั้นเอง ล้วนเกิดจากผลกรรมในอดีตขาติที่เคยกระทำไว้ หรือเป็นไปตามพันธสัญญาที่ตนเองเป็นผู้กำหนดมันไว้ทั้งสิ้น

อย่างกรณีผู้ป่วยที่รับเชื้อโควิด ที่ต้องเฝ้าระวังปอดภายใน 48 ชม.แรกที่เป็นระยะสำคัญโดยเฉพาะระดับอ๊อกซิเจนภายในร่างกาย ที่มีผล กระทบกับปอดที่อาจทำให้ปอดเสียหายมากที่สุด

หากเราทำความเข้าเรื่องระบบอ๊อกซิเจน ที่เป็นประจุไออนการหายใจระดับเซลล์ที่มีส่วนสำคัญการชีวิตของเรา และการสร้างภูมิคุ้มกัน (Antibody) ที่มาจากเม็ดเลือดขาว เราจะเข้าใจกับคำว่า "แก่นแท้" ที่สื่อเกี่ยวกับเรื่อง"เซลล์ยูคาริโอต" ที่เป็นเซลล์ของมนุษย์เราได้เลย

เซลล์เม็ดเลือดแดงและเซลล์เม็ดเลือดขาวในกระแสเลือด



เราจะเห็นได้ว่า เซลล์เม็ดเลือดแดง และเซลล์เม็ดเลือดขาวล้วนถูกสร้างมาจากไขกระดูก ซึ่งเป็นมาจากต่อมไร้ท่อไฮโปทาลามัส (ต่อมใต้สมอง) และต่อมนี้ก็คือ ที่อยู่ของจิตวิญญาณค่ะ

จะสังเกตุเห็นไหมคะว่า..ทำไมเซลล์เม็ดเลือดแดงจึงมีรอยเว้าลึกบุ๋มตรงกลาง ถ้าเราทำความเข้าใจช่วงแรกเซลล์เม็ดเลือดแดงจะมีนิวเคลียสในช่วงที่ระยะเติบโตอยู่ในกระดูกสันหลัง พอสักระยะนิวเคลียสจึงหายไป เนื่องจากเซลล์เม็ดเลือดแดงจะถูกบรรจุด้วยสารฮีโมโกบิลที่บรรจุ อ๊อกซิเจน จากปอดเพื่อส่งเข้ากระแสเลือดและส่งเข้าสูเซลล์ต่อไป

ระบบเลือดมีความสำคัญต่อร่างกายมาก หากไม่มีระบบนี้ร่างกายไม่สามารถดำรงอยู่ได้ และไม่มีภูมิต้านทานโรค เลือดประกอบด้วยน้ำ สารอาหาร ฮอรโมน เซลล์เม็ดเลือดแดง เซลล์เม็ดเลือดขาว เกล็ดเลือด

เซลล์เม็ดเลือดขาว....คือ ภูมิคุ้มกันของร่างกายจากเชื้อโรคร้ายต่าง ๆ



จะเห็นได้จากรูป เซลล์เม็ดเลือดขาวมีนิวเคลียส แต่เซลล์เม็ดเลือดแดงไม่มีนิวเคลียส (มีแต่ระยเแรก) แต่เซลล์เม็ดเลือดแดงจะมีก๊าซออกซิเจนแทนนิวเคลียส

ค่ะ..ที่เคยกล่าวไว้ว่าทำไม? สมาธิหรือพลังงานแห่งการรู้สึกตัว(พลังงานแก่นแท้) จึงมีความสำคัญต่อทุกคน หรือต่อผู้ป่วยโรคระบาดโควิดถ้ายังไม่มีวัคซีนป้องกันโรคนะค่ะ

แม้กระทั่งถึงแม้ว่าจะได้ไม่ป่วย แต่ถ้าเราทำความเข้าใจระบบภูมิคุ้มกัน คือ เซลล์เม็ดเลือดขาว (ตรงกลางมีแสงสว่าง) ระบบภูมิคุ้มกัน ที่เราได้ยินแพทย์กล่าวไว้เป็นภูมิคุ้มกันที่เรียกว่า T-call ที่มาจากต่อมไทมัส ที่อยู่ตรงกระดูกทรวงอก

ต่อมไทมัสนี้เป็นที่อยู่ของวิญญาณ หากใครฝึกจิต จะรู้ว่าต่อมนี้มีความสำคัญเป็นต่อมที่ขับเคลื่อนพลังชีวิต ที่จะช่วยชาร์จพลังงาน กระจายสู่ต่อมาอื่นๆ ทั่วร่างกาย

และต่อมนี้ค่ะ ถ้าใครสังเกตดูเวลาที่จิตใจขาดความสมดุล ถ้ากำหนดไว้ที่ตรงต่อมนี้จะเห็นการกวัดแกว่งสัดส่าย สิ่งนี้แหละค่ะที่ทำให้ร่างกายอ่อนล้า เพราะสภาวะจิตใจขาดความสมดุล แต่ถ้าทำสมาธิหยุดนิ่ง สงบสุข และสัมผัสกระแสพลังงานแห่งความรู้สึตัว จะทำให้ได้พละกำพลังเพิ่มขึ้น

ระบบภูมิคุ้มกัน หรือเซลล์เม็ดเลือดขาวจึงกล่าวได้ว่าจะมีอานุภาพล้วนมาจากจิตใจที่มีความสมดุลนั่นเองค่ะ

สิ่งศักดิ์สิทธิ์จึงได้กล่าวไว้ว่า ถ้าหากระบบชีววิทยาของมนุษย์ขาดความสมดุล จะทำให้สังขารมีการร่วงโรยไป เร็วหรือช้าขึ้นอยุู่กับพลังงานกรรมเก่า และกรรมใหม่ ถ้าร่างกายขาดพลังงาน หรือขาดความสมดุลจะทำให้เซลล์ร่างกายหรืออวัยวะต่าง ๆ หยุดการเจริญเติบโตและหยุดการฟื้นฟูตนเอง ในที่สุดมนุษย์คนนั้นก็ต้องตายไปตามกรรม หรือหมดสิ้นอายุขัย นั่นเองค่ะ

ทีนี้ร่างกายของเราประกอบด้วย 2 ส่วน คือ กาย กับ ใจ ความสดุลนั้นจะต้องสมดุลพร้อมกันทั้งสองส่วน กายคือสารอาหาร และจิตใจ คือ สมาธิ การหายใจที่ถูกต้อง หรือ ความสงบสุข นะค่ะ

 

- เราต่างรับรู้ สถานการณ์และความเป็นไปของโลกได้เป็นอย่างดี เพราะทุกวันนี้มีสื่อ,สำนักข่าว,อินเทอร์เนต ที่ใครๆก็สามารถเข้าถึงได้ไม่ยาก แต่จะมีใครสักกี่คนที่จะตระหนัก,คาดการณ์ ถึงสิ่งที่กำลังจะเกิด หรือมีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นได้จริง ในอนาคต ตามหัวข้อบอร์ด คือ ภัยพิบัติและการเตรียมการ

- จากที่เห็นผ่านๆตามา มักมีแต่ภัยพิบัติแนว ภัยธรรมชาติ โรคระบาด สงคราม ที่เห็นว่ามีการเตือนๆกันอยู่ให้เห็นโดยทั่วไป แล้วรู้หรือเปล่าว่าทำไมจึงมีแต่แนวนั้น นั่นก็เพราะการฝักใฝ่ ความเชื่อ ความหมกมุ่น (กฏแรงดึงดูด ที่ว่าไว้ ใครเชื่ออะไรก็เจอแบบนั้น) ทีนี้เราจะได้ประสบพบเจอเหตุการณ์ใดได้บ้าง ??? ก่อนอื่นต้องบอกก่อนเลยนะครับ ว่า ภัยพิบัติต่างๆนั้น ไม่ใช่เกิดขึ้น โดยบังเอิญ หรือเพราะผู้อื่นเป็นผู้ก่อ จนมันกระทบมาถึงเรา แต่เอาจริงๆ ผมเชื่อว่าคนส่วนใหญ่ก็พอจะรู้กันอยู่บ้าง แม้อาจจะขาดหลักฐาน หรือข้อบ่งชี้ ถึงที่มาที่ไป

- อย่าเพิ่งเชื่อผมนะครับ ขอให้ใช้พิจาณญาณให้ดี เพราะที่จะกล่าวถึงต่อไปนี้ คือ ความเชื่อส่วนบุคคล(ของผมเอง) ว่ากันว่า สิ่งที่เราๆสามารถพบเจอได้นั้น ส่วนหนึ่ง(หลักๆ)ก่อเกิดมาจากจิตใต้สำนึก แน่นอนว่ามันคือสิ่งที่แฝงเร้นซุกซ่อนอยู่ภายใต้จิตใจ ส่วนหนึ่งที่แน่นอนเลย ก็ประกอบไปด้วย ความเชื่อ ความชื่นชอบ รสนิยมส่วนตัว ล้วนแต่จัดอยู่ในกลุ่ม ความฝักใฝ่,ความหมกมุ่น คร่านี้!!! มันส่งผลให้เกิดเหตึการณ์ที่เจ้าตัวพบเจอได้อย่างไร??? อนึ่ง พลังงานสะสมในตัว(ของใครของมัน) ซึ่ง พลังงานสะสมนี้นั่น จะเป็นค่าสรุป นั่นคือ พลังงานบวก(บุญ,กุศล) และ พลังงานลบ(บาป) ซึ่งบวกลบแล้ว สรุปออกมาว่า เราเป็น บวก หรือ ลบ อยู่ นั่นเองแหละครับ

- หากเราเป็นบวก = ปัจจุบัน กำลังอยู่ในโซนสวรรค์ แน่นอน เมื่อเป็นลบ = กำลังอยู่ในโซนนรก
และ หากเรามีพลังงานบวกสะสม "มากพอ" ก็เหมือนเรามีกำลังทรัพย์ ที่พอจะจับจ่ายใช้สอยได้ตามงบนั่นเอง แน่นอนว่า สิ่งที่ชอบ รสนิยม ความต้องการ ก็จะมีโอกาสเกิดขึ้น,ให้ได้พบเจอ มากขึ้นไป / โอกาสสำเร็จสูงขึ้น ในทางกลับกัน หาก พลังงานลบ(บาป)สะสม "มากพอ" สิ่งที่เราเกลียด,ไม่ชอบ,ไม่อยากพบเจอ ก็จะเข้ามาหาเรามากขึ้น โชคลาภ/โอกาสสำเร็จ/เกิดผลเสียมากระทบ ก็มีโอกาสเกิดขึ้นสูงตามพลังงานสะสม สรุปก็คิอ พลังงานสะสมนั่น ได้เปรียบเสมือนค่าบัพ ความสำเร็จ/โอกาส ในสิ่งที่จะเกิดขึ้นให้เราได้ประสพพบเจอในชีวิตเรานั่นเอง

- สำหรับผู้ที่ไม่เลือก(เชื่อ)ศาสนาก็จะได้แคลนสายวิทยศาสตร์ ซึ่งธรรมชาติจะปรับสมดุลพลังงานบวก-ลบที่เจ้าตัวสะสมไว้ #หยินหยาง f<=f> #กฏฟิสิกส์พื้นฐานเรื่องแรง ถอดความภาษาศาสนา ได้ว่า "กรรมใดใครก่อ กรรมนั้นคืนสนอง" เช่น ได้ตกอยู่ในสภาวะได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติ โรคระบาด ปรากฏการณ์ต่างๆ ได้ทุกรูปแบบทุกจินตนาการ ผีดิบซอมบี้ เอเลี่ยนบุก มีสิทธิได้เจอหมด(ตามแต่ความเชื่อของใครของมัน *ตามกฏแรงดึงดูด) สุดแล้วแต่กรรม ถ้าสามัญๆธรรมดาๆ ก็อาจแจคพอร์ตแค่ประสบภัยพิบัติหรือโรคระบาดด้วยตัวเอง แต่ผู้ไม่เชื่อศาสนาและไม่เคารพธรรมชาติ ก็มักปลอบใจตัวเองประมาณว่ามันเพราะ "ความบังเอิญ"

 

ยันต์ โรค Covid-19

หนทางหมื่นลี้ ต้องเริ่มต้นจากก้าวแรก

ชั่งใจอยู่ตั้งนาน ว่าควรจะนำ Vdo นี้มาลงไหม เพราะ มันยังไม่ได้อย่างที่ใจคิด การสื่อสารยังลงรายละเอียดลึกซึ้งอย่างที่ใจตนเองตัองการ

สำหรับ fc ทุกท่านของจิตยิ้ม ก็ช่วยเป็นกำลังใจ เพื่อที่จะทำผลงานดี ๆ ต่อไปค่ะ




ขอขยายความต่อจาก วีดีโอ...

โรค Covid 19 ที่จะจริงเป็นเพียงไข้หวัดธรรมดา แต่ที่ไม่ธรรมดา เนื่องจากการกลายพันธ์ของเชื้อที่ติดต่อจากคนสู่สัตว์ เชื้อไวรัสโคโรน่า จึงมีรหัสข้อมูลที่เป็นสาย RNA ที่ยีนของเชื้อไวรัส ต้องมีกลไกที่สอดคล้องกันกับเซลล์ของสิ่งมีชีวิตอื่น เชื้อจึงสามารถเข้าไปอาศัยเซลล์นั้นได้ หากไม่เป็นเช่นนั้นเชื้อไวรัสก็ไม่สามารถแพร่พันธ์ หรือ เจริญเติบโตได้

โดยเฉพาะผู้ป่วยเรื้อรัง ที่เกี่ยวกับวิบากกรรม ๑ (วิบากกรรมต้องรวมอดีตชาติด้วย) และคำว่า "สัตว์" มิได้หมายเฉพาะ สัตว์เดรัจฉาน แต่รวมหมายถึงทุกสรรพจิตวิญญาณ ที่จองจำข้ามภพ ข้ามชาติ

ส่วนภูมิต้านทานภายใน "ลมหายใจ" ขยายความ ก็คือ....

คำว่าลมหายใจ มีความสำคัญกับชีวิต ลมหายใจให้พลังงานชีวิต ขาดลมหายใจ ก็ขาดชีวิต และชีวิต คือ เซลล์ / เซลล์ คือ ชีวิต และจากเซลล์หลาย ๆ เซลล์ มารวมกันเป็นเนื้อเยื่อ ๆ รวมกันเป็นอวัยวะ ๆ รวมกันเป็นระบบอวัยวะ ๆ และเป็นร่างกายขึ้น

ถ้าเราทำความเข้าใจเรื่องเซลล์ ภายในเซลล์ทุกเซลล์ จะมีนิวเคลียส และภายกึ่งกลางของนิวเคลียส จะมี "นิวโคโอลัส" และถ้าเรามองภาพถ่ายทางวิทยาศสาตร์ จะเห็นแสงสว่างอยู่ตรงกลางนิวเคลียส และแสงสว่างนั้นก็คือ แก่นแท้ทางพลังงานที่กล่าวได้ว่า เป็นคลื่นความถี่แม่่หล็กไฟฟ้า นะค่ะ

ความจริงของ ลมหายใจ ก็มีสภาวะคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าเช่นเดียวกัน ลมหายใจซึ่งเป็นอ๊อกซิเจน จึงมีส่วนสำคัญในกระบวนการสันดาปอาหารเพื่อเป็นพลังงานนำไปใช้ในร่างกาย (ในส่วนไมโทคอนเดีย) และที่สำคัญ ที่ทำให้เกิดการอ๊อกซิเดชั่น (อุบัติเหตุ ไม่คาดฝัน ไม่ถึงเป้าหมาย) ก็คือ ความเครียด ที่ทำให้กระบวนการเกิดสะดุด หรือ หยุดชะงัก นั่นเอง จึงเกิดปัญหาส่งผลให้เซลล์เกิดสารพิษ และเซลล์เสื่อม หรือภูมิต้านทานอ่อนแอลง นี้แค่บางส่วนกระบวนการของลมหายใจแค่นั้นนะคะ

ผู้ปวยที่เป็นโรค Covid 19 ทุกคนที่รอดผ่านวิกฤติโรค Covid 19 มาได้ ล้วนต้องผ่านเครื่องช่วยลมหายใจด้วยกันแทบทั้งนั้น เพื่อให้มีชีวิตอยู่รอด แต่การที่เราสร้างภูมิคุมกันขึ้นมาเอง จะช่วยให้ภูมิต้านทานของเรา รอดพ้นจากโรค covid. เพราะ...ลมหายใจ คือ สิ่งที่เกื้อกูลเซลล์ให้แข็งแรง และลมหายใจ เป็นแสงสว่างที่มีอำนาจในการต่อต้านสิ่งที่ชั่วร้ายทุกชนิด เซลล์แข็งแรง ร่างกายแข็งแรง ภูมิต้านทานแข็งแรง สุขภาพดี ปลอดภัยจากโรค

และการฝึกลมหายใจ กลไกของสัจธรรม ถ้ามีวิบากรรม คือสีดำ ลมหายใจอันเป็นแสงสว่างก็ช่วยคลี่คลายบรรเทาลงได้

จะไม่ลงลึกรายละเอียดว่าฝึกอย่างไรค่ะ เพราะทุกท่านอาจทราบกันดีอยู่แล้ว แต่เพื่อยืนยันว่า ยันต์ป้องกันโรค Covid 19 ก็คือ ลมหายใจ ๑ ข้อนั้นด้วยค่ะ

ส่วนการสร้างภูมิต้านภูมิคุ้มกันตนเองจากภายนอก คือ การกินอาหารผัก ผลไม้ ที่มีวิตามิน แร่ธาตุ สารต้านอนุมูลอิสระ จะช่วยให้ร่างกายเราแข็งแรง เพราะ

ฟันของมนุษย์ มีไว้ใช้สำหรับทานธัญพืช ไม่ได้มีฟันแหลมคมดั่งสัตว์ ที่ไว้ล่าเนื้อด้วยกันเอง

พืชจึงมีออร์แกแนลที่แตกต่างจากเซลล์ของสัตว์ ที่เซลล์สัตว์ไม่มีเหมือนเซลล์ของพืช คือ

1.ผนังของเซลล์ ผนังของเซลล์พืชแข็งแรง และเป็นส่วนที่ป้องกันอันตรายให้แก่พืช ในขณะที่เซลล์ของสัตว์มีแต่เยื่อหุ้มของเซลล์ และเป็นส่วนที่ปุ่มของไวรัส Covid 19 เข้าไปยึดเกาะ ในเนื้อหุ้มเซลล์ที่มีกลไกสอดคล้องกัน มันจึงอ้าแขนรับไวรัสนั้นไว้ คิดว่าเป็นพวกเดียวกัน

2.คลอโรพลาสต์ หรือ คลอโรฟิลล์ ที่เป็นส่วนที่พืชไว้สังเคราะห์แสง แสง ก็คือ แสงสว่างจากดวงอาทิตย์ มีคลื่นความถี่แม่เหล็กเช่นเดียวกันกับ นิวเคลียสของเซลล์ และลมหายใจ ทั้งสามส่วนนี้จึงเกื้อกูลกันอย่างไม่ต้องสงสัย

3.แวคคิวโอ เป็นส่วนประกอบของเซลล์ที่ใหญ่ที่สุดในเซลล์พืช และเป็นถุงน้ำเก็บสารวัตถุอินทรีย์ อนินทรีย์ทั้งหลาย พืชจึงเป็นส่วนสำคัญและเป็นตัวช่วย หรือ เป็นประโยชน์ ที่เกื้อกูลแก่เซลล์มนุษย์ในการดำรงอยู่ และร่างกายจ็งแข็งแรงเป็นถ้าได้รับสารอาหารเพียงพอ

การพูดและการเขียนจึงแตกต่างกัน ใครที่เป็นผู้สามารถถ่ายทอดความคิดได้ บุคคลนั้นจึงน่าจะมีพรสวรรค์ และพรแสวงจากการฝึกฝนด้วยค่ะ

และ.... นี่ก็เป็นข้อมูลที่เกี่ยวข้องกันด้วยค่ะ
อนุมูลอิสระ ต้นเหตุโรคร้าย และก่อนวัย

❤️❤️❤️

 

รู้ทันนะ..

จึงเข้ามาเบรคไว้ก่อน..

คนที่กำลังคิด จะแซว..นะ 555

 

เขียนให้เข้ากับชื่อกระทู้

เจ้าโควิดเนี้ย! มันมาเพื่อชำระโลกโดยแท้
เพราะเป็นช่วงสะสางกัน

แต่มนุษย์ยุคนี้ก็เก่งสามารถรับมือกับการชำระล้าง
แต่ก็ตายไปหลายล้านคน

การชำระโลกอย่างเจ้าตัวไฟบรรลัย(ระเบิดนิวเคลียร์)
มันก็มีไว้ล้างโลกเหมือนกัน

มันก็ต้องวัดความสามารถของพวกมนุษย์ด้วย
กันเอง ว่าจะแก้ไขอย่างไร

เขาปล่อยให้พวกมนุษย์เรียนรู้เอาเอง
ว่าจะโง่หรือฉลาดในการอาศัยอยู่บนโลกใบนี้

..

 

ยักษ์หลับ

เรียงกันเป็นแถว เป็นกลุ่ม เป็นก้อน

 

แค่ บทที่1 ยังขนาดนี้

ถ้าบทที่2 ที่3 หรือ ต่อๆไปล่ะ

 

เลเวล ท่านผู้มีบุญที่กำลังบำเพ็ญเพียร เพิ่มขึ้นทุกไตรมาส..

การชำระโลก ก็ ขยับเพิ่มความรุนแรงขึ้นตามเลเวลของท่านผู้มีบุญ

 

"กมฺมุนา วตตีโลโก"

ผู้เคารพธรรม ประพฤติ ปฏิบัติธรรม ก็จักเป็น "ธมฺมุนา วตตีโลโก"

 

มีคนติดตามอยู่ 2 คน เรียก fc ซะดูเวอร์วังเชียว

หนึ่งในนั้นก็...

"นักรักผู้ยิ่งใหญ่ หมูไหม้5บาท"

 

มีคนติดตามอยู่ 2 คน เรียก fc ซะดูเวอร์วังเชียว

หนึ่งในนั้นก็...

"นักรักผู้ยิ่งใหญ่ หมูไหม้5บาท"

 

#แอบไปสับตะไคร้ พระคุณเจ้ายังตามเจออีกนะครับ55

 

ขอบคุณค่ะ เพิ่งเริ่มทำได้ไม่ถึงอาทิตย์ และมี VDO ประมาณ 3 เรื่อง และเป็นการเริ่มฝึกทำ ตามโลกยุคสมัย Covid มาเปลี่ยนแปลงโลก

มีผู้ติดตามกดให้ที่ Youtube ช่อง ngamtafaa - งามตาฟ้า ต้องขอขอบคุณผู้ที่กดติดตามทั้ง 2 ท่านนั้นด้วยเป็นอย่างมาก

จิตยิ้มเชื่อค่ะ ผู้ให้การช่วยเหลือ ผู้ให้น้ำใจ ผู้ให้การสนับสนุน หรือผู้ให้กำลังใจ ให้ความปรารถนาดีต่อผู้อื่น ก็เป็นอีกบทบาทพฤติกรรมในการค้ำจุนเพื่อให้เขาดำรงอยู่ได้

ผู้ที่มีเมตตาจิต จึงยินดีส่งเสริมและสนับสนุน และเปิดโอกาสให้ผู้อื่นได้มีกำลังใจที่จะทำในสิ่งที่ดีงามต่อไป

และสิ่งที่จิตยิ้มต้องการจะทำ ก็เพื่อประโยชน์ต่อผู้อื่นด้วยค่ะ และตั้งใจจะนำเรื่องเกี่ยวกับภัยพิบัติ ความจริงของสัจธรรมยุคพระศีอาริย์และอุปสรรคปัญหาทั้งมวลในชีวิต ที่ตนเองผ่านมาได้มีวิธีคิดอย่างไร มาลงไว้ที่ช่อง chanal นั้นด้วยค่ะ

 

อย่างน้อยๆ 2 ไม้รวมกัน ก็ 10 บาท แระ..

เป็นกำลังใจ.. ให้ครับ

 

อาทิตย์ก่อน ผมหาทางที่จะลดจำนวน ปลาหางนกยุงในบ่อบัว พยายามคิดว่า จะทำยังไงดี จะให้ใครก็กลัวเลี้ยงไม่ดีไม่ให้อะไรกิน หรือบางบ้านมีเด็กกลัวมันตาย คือเเบบว่าเยอะมากๆๆ จนท้ายที่สุดก็ต้องตัดใจ เอาไปให้ข้างบ้านที่มีบ่อบัว ถ้าไม่ทำก็ตายหมด โลกนี้ก็เหมือนกัน มนุษย์มันมีเยอะมากๆ ไม่ว่ายังไงก็ต้องโดนลดจำนวนประชากร ซึ่งมาเเน่

 

1วัน = 1 ปี , 1 ปี = 1 ชาติภพ ที่ต้องสรุป-เคลียร์ ให้จบใน 1 วัน (ภารกิจ)
1 ปี = 12 เดือน(1 ปี = 1 รอบปี(12 ปี) ที่ทับซ้อนกับ 1 ปี วนลูป) , 3 เดือน = 1 อสงไขยเวลา (ใน 1 ปี มี 4 อสงไขยเวลา ครบการเกิด-ดับ ใน 1 ชาติภพ),12 เดือน(12 ช.ม. หยินหยาง(กลางวันกลางคืน)) 1 ปี = 1 ชาติภพ จบ ใน 1วัน/ 1ชีวิต ในความดูแล


#เตรียมตัวไว้ ทุกคนทุกท่าน จะมีชีวิต AfterLife แบบนี้ทุกคน หากคิดว่ารับผิดชอบไม่ไหว
จงมีลูกหลานอย่างรอบคอบ เลี้ยงดูให้ดี รับผิดชอบตามความจำเป็นอย่างถูกต้องเหมาะสม เหนื่อยนักก็พัก หายเหนื่อยก็เดินต่อ จนกว่าภารกิจจะเสร็จสมบูรณ์ ใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย อย่างสุขุมรอบคอบ เน้นเดินทางสายกลาง หลีกเลี่ยงการตามใจกิเลศ เน้นทำความดี ละเว้นความชั่ว ทำจิตใจให้บริสุทธิ์ ทำความดีด้วยความจริงใจ พร้อมทั้งหักห้ามกิเลศ ต่อสู้กับใจตนเองให้ได้อย่างเหมาะสม
เพียงเท่านี้ ก็ถือว่าเป็นการช่วยเหลือกันอย่างบริสุทธิ์ใจแล้ว การพบกันของทุกสิ่งทุกอย่างล้วนเป็นเพราะกรรมเก่าที่ทำร่วมกันมา อย่าได้ต้องมาเหนื่อยกับการหลับ 1 คืน ที่แปลงเป็น 1 ชาติภพเลย "ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน" กรรมใครกรรมมัน แม้แต่ผลกรรมจากการอาสารับงาน ก็เป็นเพราะกรรมเก่าจากการเลือกตัดสินใจเอง