*วัตถุมงคล เริ่มหน้า66*พระกรุ,ลป.สรวง เทวดาเล่นดิน,ลพ.ฤาษี,ลพ.หวล และอื่นๆ

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย Pitiphat, 25 มีนาคม 2018.

  1. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่439 พระกริ่งคลองตะเคียน กรุวัดประดู่ทรงธรรม อยุธยา เนื้อดินผสมใบลานเผา(กริ่งไม่ดัง)
    พระกริ่งคลองตะเคียน กรุวัดประดู่ทรงธรรม อยุธยา เนื้อดินผสมใบลานเผา วัดประดู่อยู่ติดกับวัดโรงธรรม โดยวัดประดู่อยู่ทางทิศเหนือ และวัดโรงธรรมอยู่ทางทิศใต้ ต่อมามีการรวมพระ อารามทั้ง 2 แห่งเข้าด้วย กันเป็นวัดประดู่โรงธรรม แล้วมาสมัยรัชกาลที่ 5 จึงเปลี่ยนเป็นวัดประดู่ทรงธรรม เข้าใจว่าจะอาศัยเหตุที่พระสงฆ์ของพระอารามแห่งนี้ เคยได้ รับอุปฐากจากสมเด็จพระเจ้าทรงธรรม ด้วยเหตุการณ์ที่กล่าวข้างต้นชื่อนี้ได้ใช้สืบมาจนทุกวันนี้ และจากหลักฐานทางพระราชพงศาวดารดังกล่าวสามารถคำนวณอายุวัดได ้ไม่ ต่ำกว่า 380 ปีแล้ว ปัจจุบันวัดประดู่ทรงธรรม มีศาสนสถานเกิดขึ้นมากมายหลักฐานเก่าแก่ทางโบราณคดี ดูเหมือนจะมีเพียงตัววิหารที่อยู่ทางทิศตะวันออกของโบสถ์ เท่านั้น คือมีจารึกเป็นแผ่นสี่เหลี่ยมผืนผ้า ฝังไว้กับผนัง ด้านหน้าภายใน ระบุปีที่มีการสร้างพ.ศ. 2405 และชื่อของผู้ร่วมสร้าง นอกจากนี้ที่ผนังภายในทั้ง 4 ด้านของวิหาร ยังมีภาพจิตรกรรมแสดงเรื่องราวทางทศชาติชาดกพุทธประวัติอีกด้วย ภาพเด่นคือขบวนเสด็จที่ผนังเหนือหน้าต่างทั้งซ้ายขวา หลวงพ่อรอดเสือที่เรียกกันทั่วไปว่าหลวงพ่อรอดเสือ นี้ ได้มีการสันนิษฐานว่าอาจจะไม่ใช่ชื่อจริงของท่าน แต่คงนำเหตุการณ์ที่ท่านรอดมาจากเสือกินมาตั้งเป็นชื่อของท่าน หลวงพ่อรอดเสือเป็นศิษย์เก่าของวัดประดู่ ท่านได้ไปศึกษาเล่าเรียนพระปริยัติธรรมที่วัดบางหว้าใหญ่ (วัดระฆังโฆสิตาราม) กรุงเทพฯ แต่เป็นด้วยเหตุใดไม่ปรากฎท่านได้อพยพลงเรือบรรทุกหนังสือมาด้วยเต็มลำ พายขึ้นไปจนถึงบ้านกะมัง จ. พิจิตร จนเพลาเย็นจวนค่ำท่านก็จอดเรือ เพื่อที่จะจำวัดตรงท่าที่เสือลงมากินน้ำ ชาวบ้านเห็นว่าจะไม่ปลอดภัย จึงได้อาราธนาให้ท่านมาจอดเสียที่ฝั่งบ้านคนอยู่ แต่ท่านไม่ยอมมาเพียงแต่บอกว่าเสือก็อยู่ตามเสือ คนก็อยู่ตามคน พอรุ่งเช้าท่านไม่เป็นอันตรายใดๆ ชาวบ้านเห็นเป็นอัศจรรย์จึงได้เอากัปปิยะจังหันมาถวายเป็นจำนวนมาก จากนั้นท่านก็พายเรือล่องมาจอดที่วัดนางชีซึ่งเป็นวัดร้างอยู่ริมแม่น้ำป่าสักหน้าวัดประดู่ เพื่อจะดูสถานที่สร้างวัดเป็นที่อยู่อาศัยต่อไป เมื่อท่านได้พบสถานที่ที่เหมาะสมแล้วก็ได้สร้างกุฎิเพื่อเป็นที่พำนัก ต่อมาได้สร้างเสนาสนะอื่นๆรวมทั้งพระอุโบสถ วัดประดู่จึงได้มีพระสงฆ์อยู่จำพรรษาสืบต่อมาจนถึงปัจจุบัน จึงนับว่าหลวงพ่อเป็นเจ้าอาวาสองค์แรก ของวัดประดู่ในสมัยรัตนโกสินทร์ ได้มีการบอกเล่ากันว่าชาวบ้านกะมัง จ. พิจิตร ได้ติดตามมาคอยปรนนิบัติท่านที่อยุธยา จึงได้มีชื่อของบ้านกะมังหรือตำบลกะมัง ใน จ. พระนครศรีอยุธยา ในปัจจุบันนี้ หลวงพ่อรอดเสือ ท่านเป็นพระเถระที่ยอดเยี่ยมในวิชาอาคมที่มีชื่อเสียงมาก และในปัจจุบันนี้ก็ยังมี ี พระเจดีย์บรรจุอัฐิของท่าน ให้ประชาชนที่เคารพนับ ถือมากราบไหว ้กันอยู่ไม่ขาด ท่านปกครองวัดอยู่นานเท่าใด และมรณภาพเมื่อใดไม่ปรากฎเป็นหลักฐาน วัดประดู่ ก็คือสถานที่ต้นกำเนิดพระกริ่งคลองตะเคียนนั่นเอง เพียงแต่ต่างสมัยกัน อยุธยา กับรัตนโกสินทร์ สร้างจากตำราเดียวกันที่ตกทอดกันมา มีประสพการณ์ทางด้านคงกระพันเช่นเดียวกับพระอยุธยาพิมพ์อื่นๆ
    ปิดครับ
    IMG_20181008_160226.jpg
    IMG_20181008_160215.jpg IMG_20181008_160202.jpg IMG_20181008_160151.jpg get_auc1_img (1).jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 ธันวาคม 2019
  2. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่440 พระสมเด็จสายรุ้ง หลังยันต์นูนน้ำเต้า(นิยม) เจ้าคุณนรฯ ออกวัดศีลขันธารา จ.อ่างทอง ปี ๒๕๑๓
    พระเครื่องของวัดศีลขันธ์จึงมีทั้งทันเจ้าคุณนรฯแผ่เมตตา
    และมีทั้งเอาผงที่ท่านแผ่เมตตาแล้วมาสร้างและทำพิธีใหม่

    ในการแยกความแตกต่างระหว่างพระเครื่องของวัดศีลขันธ์ครั้งแรกกับครั้งหลังก็แยกดังนี้
    พระเครื่องสร้างครั้งแรกให้ดูยันต์น้ำเต้าที่ด้านหลังว่าจะเป็น “ยันต์นูน” เท่าที่พบมีสีดำกับสีขาว
    ส่วนพระเครื่องที่สร้างครั้งหลังจะเป็น “ยันต์จม” และมีหลายสีส่วนมากที่พบจะเป็นลายสายรุ้ง
    สำหรับพระเครื่องเนื้อผงของวัดศีลขันธ์รุ่นหลังที่เป็นลายสายรุ้งนี้บางองค์ด้านหลังอาจจะเป็นยันต์นูนก็ได้…
    สมเด็จขาว สมเด็จดำและสมเด็จพระพุทธกวักดำขาวนั้น
    ท่านเจ้าคุณสนิทฯได้ทำแจกฟรีโดยไม่คิดมูลค่าแม้แต่อย่างใดและได้หมดไปในเวลาอันรวดเร็ว ท่านเจ้าคุณสนิทฯได้สร้างขึ้นอีกในปีต่อๆมาแต่ท่านได้ใช้พิมพ์แบบยันต์จมให้แตกต่างออกไปจากรุ่นแรก
    ส่วนรุ่นแรกนั้นเป็นยันต์ตื้นๆไม่ค่อยชัดเจนนัก บางองค์ก็เห็นเพียงลางๆเท่านั้น

    นั่นคือรุ่นแรกและรุ่นเดียวและพบหายากในปัจจุบันสำหรับลักษณะด้านหลังของสมเด็จชาวและสมเด็จดำ รวมทั้งพิมพ์พุทธกวักทั้งสีดำและขาว เพราะผมพยายามสะสมและเก็บไว้ได้ หลายองค์

    ลักษณะยันต์เป็นตัวนูนและไม่ค่อยชัดเจน และหลายๆองค์มีบรรจุเส้นเกศาไว้ด้วยลักษณะเส้นเกศาเป็นสีน้ำตาลอมแดง ลักษณะ เหมือนกันกับเส้นเกศาที่บรรจุไว้ด้านหลังของชุดไตรภาคีที่ทางยุวพุทธิกสมาคม ชลบุรีจัดสร้าง ซึ่งผมก็คิดว่าเป็นเส้นเกศาของท่านเจ้าคุณนรฯเช่นกัน
    เป็นพระที่มีประสบการณ์ไม่แพ้ สมเด็จพิมพ์อื่นๆที่ได้รับการอธิษฐานจิตและมีราคาแพงๆ ขณะที่สมเด็จขาวและดำของวัดศิลขันธ์ฯอาจหาได้ในราคาหลักร้อยเท่านั้น แต่ปัจจุบันก็หายากแล้วนะครับ สำหรับเส้นเกศาที่ใส่ในพระสมเด็จวัดศีลขันธ์จะใส่ในลักษณะคนผสมไปรวมกับผงมวลสารครับ ทำให้จะเห็นเส้นเกศาได้ต่อเมื่อองค์ นั้นเกศาบังเอิญมาอยู่ผิวๆพอดี

    ผงมวลสารที่ใช้นั้นได้ผงเดียวกับที่สร้างพระผงสรงน้ำปี๘๗ ที่ถวายสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์มาเยอะเลยครับ
    ซึ่งผงนี้ได้ยินว่าเป็นพระวัดสามปลื้มกับวัดระฆังที่หักชำรุดครับ

    ปิดครับ
    IMG_20181008_160248.jpg IMG_20181008_160235.jpg get_auc3_img (3).jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 มีนาคม 2019
  3. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่441 พระปิดตาลอยองค์ หลวงปู่เทพโลกอุดร1ใน 20 พิมพ์ชุดพระปิดตาโลกอุดร พระภควัมปติ(ปิดตาสี่กร) ขนาด 2.5*3.8 ซ.ม.
    สำหรับสำหรับพิมพ์พระปิดตาซึ่งเป็นปางอธิษฐานวรกายให้สวดพระคาถา โลกุตตะโร ปัญจะ มหาเถโร อะหัง วันทามิตัง สะทา แล้วต่อท้ายด้วยพระคาถาต่อไปนี้
    พิมพ์พระภควัมปติ(ปิดตา)

    ควัมปติ จะ มหาเถโร มหาโภโค มหาลาโภ เชยยะสิทธิเม
    *** โลกุตตะโร ปัญจะ มหาเถโร อะหัง วันทามิตัง สะทา ควัมปติ จะ มหาเถโร มหาโภโค มหาลาโภ เชยยะสิทธิเม ***
    พระพิมพ์ของคณะพระเทพโลกอุดรนั้นทุกรูปแบบทุกพิมพ์ทรงมีอานุภาพครอบจักรวาล อาราธนาทำน้ำมนต์ประสิทธิ์ยิ่งนัก โดยให้นำเอาพระแช่ในภาชนะที่บรรจุน้ำเรียบร้อยแล้ว บูชาด้วยดอกไม้ จุดธูปเทียน แล้วอธิษฐานตามความมุ่งหมาย เสร็จแล้วให้รีบนำพระขึ้นเช็ดน้ำด้วยสำลีหรือผ้าสะอาด ผึ่งลมให้แห้งก่อนนำไปบรรจุตลับ องค์พระจะไม่ละลายลบเลือนและไม่ควรแช่ในน้ำนานเกินควร จงทะนุถนอมให้จงดี เพราะหาไม่ได้อีกแล้ว
    วิธีบูชาพระบรมครูพระเทพโลกอุดร

    คำบูชาบรมครูพระโลกอุดร
    นะโมตัสสะภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ ฯลฯ ( 3 จบ )
    โย อะริโย มะหาเถโร อะระหัง อะภิญญาธะโร ปฎิสัมภิทัปปัตโต เตวิชโช พุทธะสาวะโก พะหู เมตตาทิวาสะโน มะหาเถรา นุสาสะโก โส โลกุตตะโร นาโม อัมเหหิ อะภิปูชิโต อิฐะ ฐานูปะมาคัมมะ กุสะเล โน นิโยชะเย ปุตตะเมวะ ปิยัง เทสิ มัคคะผะลัง วะ เทสสะติ ปะระมะสาริกะธาตุ วะชิรัญจา ปิวานิตัง โส โลเก จะ อุปปันโน เอเกเนวะ หิตังกะโร อะยัง โน โข ปุญญะลาโภ อัปปะมัตโต ภะเวตัพโพ สาธุกันตัง อะนุกะริสสามะ ยัง เวเรนะ สุภาสิตัง โลกุตตะโร จะ มหาเถโร เทวะตา นะระปูชิโต โลกุตตะระคุณัง เอตัง อะหัง วันทามิ ตัง สะทา มะหาเถรา นุภาเวนะ สุขัง โสตถี ภะวันตุ เม

    บทสวด แบบย่อหรืออาราธนาพระพิมพ์ (ได้ทุกทรงพิมพ์)
    โลกุตตะโร ปัญจะ มะหาเถโร อะหัง วันทามิ ตัง สะทา
    หรือภาวนา ๓ จบ , ๗ จบ , ๙ จบ (เช้า-เย็น ตื่นนอนและก่อนนอน)
    โลกุตตะโร ปัญจะ มะหาเถโร อะหัง วันทามิ ตัง สะทา เมตตาลาโภ นะโสมิยะ อะหะพุทโธ
    สำหรับท่านที่ได้บูชาพระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร อธิษฐานจิตไว้ให้นั้น **การวางพระพิมพ์หรือวัตถุมงคลต่างๆ ต้องวางไว้ในที่เหมาะสม ควรใช้พวงมาลัยไว้พระพิมพ์ (เป็นการไหว้หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร และเทวดาผู้ที่รักษาพระพิมพ์) พวงมาลัยที่ใช้ไหว้นั้น ต้องเป็นพวงมาลัยที่มีดอกรัก ,ดอกมะลิ ,ดอกกุหลาบ หรืออย่างใดอย่างหนึ่ง

    ปิดครับ
    IMG_20181008_160139.jpg
    IMG_20181008_160128.jpg 3522741-4.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 มีนาคม 2019
  4. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่442 พระแม่โพสพกวักทรัพย์ เนื้อทองแดงผิวไฟ อุดผงมวลสารมงคล หลวงปู่หงษ์ พรหมปัญโญ สุสานทุ่งมน
    ของมงคลหนึ่งในพระแม่ทั้งห้า พระแม่โพสพกวักทรัพย์ หลวงปู่หงษ์ พรหมปัญโญ สุสานทุ่งมน ต.ทุ่งมน อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ เนื้อทองแดงผิวไฟ ก้นอุดมวลสารหลวงปู่ มอบแด่เจ้าภาพทอดผ้าป่าสามัคคี ณ สุสานทุ่งมน ตำบลทุ่งมน อำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ ในวันพฤหัสบดีที่ 14 เมษายน 2554 เพื่อสมทบทุนซื้อที่ดินเพิ่มเติมและทำการถมที่ที่ซื้อแล้วสำหรับเป็นที่สร้างปราสาทฆติกามหาพรหม และปราสาทพระเจ้า 5 พระองค์ พร้อมกับที่พักของผู้มาปฎิบัติธรรม และเสนาสนะต่างๆ ภายในสุสานที่คั่งค้างให้แล้วเสร็จ
    คุณshaj ปิดครับ
    IMG_20181008_154852.jpg
    IMG_20181008_154841.jpg IMG_20181008_154832.jpg IMG_20181008_154821.jpg IMG_20181008_154803.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 ตุลาคม 2018
  5. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่443 สีผึ้งว่านดอกทอง หลวงพ่อสงวน วัดไผ่พันมือ
    หลวงพ่อสงวนได้ชื่อว่าเป็นพระเกจิอาจารย์ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการทำผง(ลบผง)อิทธิเจได้ขลังไม่เป็นสองรองผู้ใด ขนาดหลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง จ.สิงห์บุรี ยังเคยได้กล่าวไว้ว่า หลวงพ่อสงวนนี้ทำผงเก่ง คราใดที่หลวงพ่อแพท่านจะสร้างพระท่านจะขอให้หลวงพ่อสงวนลบผงอิทธิเจเพื่อมาผสมเป็นมวลสารการสร้างพระของท่าน ลูกอมมหาเสน่ห์ของท่านที่มีมวลสารสำคัญคือผงอิทธิเจที่ท่านเพียรเฝ้าลบทั้งวันทั้งคืน เมตตามหาเสน่ห์แรงๆ งานเข้าทุกรายกับผู้ใช้ลูกอมของท่านประสบการณ์มีมานักต่อนัก ดังมีคำกล่าวว่า "แม้แต่โสเภณีแก่ยังหาสามีได้" สีผึ้งว่านดอกทอง นี่คือหนึ่งในวัตถุมงคลของหลวงพ่อสงวนที่ค่อนข้างหายากกว่าปกติ
    คุณshaj ปิดครับ
    IMG_20181010_054700.jpg IMG_20181010_054651.jpg IMG_20181010_054641.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 ตุลาคม 2018
  6. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่444 เจ้าแม่กวนอิม หลังจารหมึก หลวงปู่สรวง ปี 39 เนื้อข้าวหลวงปู่สรวง
    เจ้าแม่กวนอิม เป็นพระโพธิสัตว์ ของพระพุทธศาสนา ฝ่ายมหายาน ผู้ที่ต้องการให้ทุกคนพ้นทุกข์ในทุกๆด้าน จะด้วยวิธีใดก้อตาม ท่านยอมหมด
    หลวงปู่อัญเชิญบารมีท่านมาประทับเพื่อให้ช่วยเหลือมนุษย์โลก ได้อย่างเต็มที่ พุทธคุณสุดบรรยาย สร้างได้สวยสุดๆ
    โชคลาภ ค้าขาย เมตตา บนบาน ได้ทุกประการ เพราะท่านมีแต่ให้จริงๆ
    จัดสร้างโดย อ.เสริฐเกจิชาวเขมรศิษย์ ปู่สรวง ปี 39 แล้วถวายวัดสุดทัศน์สร้างน้อยมากกก

    องค์ขาว สร้างจาก เนื้อผงพุทธคุณผสมข้าวจากการฉันของหลวงปู่สรวง
    นำเข้าพิธี มากมาย โดยเฉพาะ พิธีสุคโต ที่มีเกจิปลุกเสกมากมาย ก่อนจะนำมาแจกลูกศิษย์ที่วัดป่าหนองล่ม
    มีน้อยครับ พุทธคุณเหนือโลกไร้คำบรรยาย

    รายนามคร่าวๆครับ พระอาจารย์ที่ร่วมปลุกเสก เฉพาะ พิธีสุคโตจ้า (ลป หมุน เป็นเจ้าพิธี)
    - ลป.กอง วัดสระมณฑล(ศิษย์สายลปเทพโลกอุดร)อายุ102ปี อยุธยา
    - พระวิสุทธาธิปดีเจ้าอาวาสวัดสุทัศน์
    - ลป.สรวง เทวดาเล่นดินเทพเจ้าแห่งบ้านละลมผู้วิเศษแห่งภูตะแบง
    - ลป.หงษ์วัดเพชรบุรี
    - ลป.ธี วัดมิ่งเมือง
    - ลป.ทิม วัดพระขาว
    - ลพ.ไสว วัดปรีดาราม
    - ลพ.พูลวัดไผ่ล้อม
    - ลพ.เพี้ยน วัดเกริ่นกฐิน
    - ลพ.สิริ วัดตาล
    - ลพ.ตี๋ วัดหลวงราชาวาส
    - ลพ.เฮ็น วัดดอนทอง
    - ลพ.สมควร วัดถือน้ำ
    - ลพ.สง่า วัดบ้านหม้อ
    - ลพ.หวล วัดพุทไธสวรรค์
    - ลพ.เฉลิม วัดพระญาติ
    - ลพ.จ้อย วัดหนองน้ำเขียว
    - ลพ.ไพรินทร์ วัดสาวชะโงก

    ปิดครับ
    IMG_20181010_054629.jpg IMG_20181010_054621.jpg IMG_20181010_054611.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 พฤศจิกายน 2018
  7. shaj

    shaj เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    8,008
    ค่าพลัง:
    +6,624
    ขอจอง442ครับ
     
  8. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่445 พระอุปคุต หนุนดวง หลังจารหมึก ผงข้าวเทวดา หลวงปู่สรวง ปี 39
    สุดยอดของดี พระอุปคุต อรหันต์ สำเร็จทันใจ เป็นของที่หลวงปู่สรวงตั้งใจให้หนุนดวง เพ่งกสินอัญเชิญขอบารมีบุญกุศลของครูบาอาจารย์ พรหม เทวดา ปู่ฤาษีทั่วสากลโลก มาฉุดชะตาให้ดีขึ้นทันที
    มีอนุภาพหนุนดวงไม่ให้ตกต่ำ กิจการงานอันใดใด ก็จะสำเร็จลุล่วงไปได้โดยง่าย ให้บังเกิดทรัพย์ มีเงินทองเข้ามาหา ร่ำรวยและก้าวหน้าดั่งปรารถนา รวมไปถึงด้านเมตตามหานิยม พบปะใครย่อมเอ็นดู ให้การช่วยเหลือเรา
    (เมื่อดวงเราดี ชีวิตทุกด้านไม่ว่าจะเรื่องการงาน ความรักที่มีแต่อุปสรรคก็จะราบรื่นในเร็ววัน)
    เนื้อผงข้าวเสก(ข้าวที่ปู่สรวงฉันท์เหลือ)
    เพื่อถือเคล็ดเหลือกินเหลือใช้มั่งมีศรีสุข
    ปี2539
    ปู่สรวงจารครบสูตร
    มีตราปั๊มที่เป็นมาตราฐานของปี39

    โชคลาภอุดมสมบูรณ์
    แคล้วคลาดปลอดภัย
    เรืองฤทธิ์เรืองเดช
    เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาชีพค้าขายและงานบริการ
    จัดสร้างโดย อ.เสริฐเกจิชาวเขมรศิษย์ ปู่สรวง ปี 39 แล้วถวายวัดสุดทัศน์สร้างน้อยมากกก

    องค์ขาว สร้างจาก เนื้อผงพุทธคุณผสมข้าวจากการฉันของหลวงปู่สรวง

    นำเข้าพิธี มากมาย โดยเฉพาะ พิธีสุคโต ที่มีเกจิปลุกเสกมากมาย ก่อนจะนำมาแจกลูกศิษย์ที่วัดป่าหนองล่ม
    มีน้อยครับ พุทธคุณเหนือโลกไร้คำบรรยาย

    รายนามคร่าวๆครับ พระอาจารย์ที่ร่วมปลุกเสก เฉพาะ พิธีสุคโตจ้า (ลป หมุน เป็นเจ้าพิธี)
    - ลป.กอง วัดสระมณฑล(ศิษย์สายลปเทพโลกอุดร)อายุ102ปี อยุธยา
    - พระวิสุทธาธิปดีเจ้าอาวาสวัดสุทัศน์
    - ลป.สรวง เทวดาเล่นดินเทพเจ้าแห่งบ้านละลมผู้วิเศษแห่งภูตะแบง
    - ลป.หงษ์วัดเพชรบุรี
    - ลป.ธี วัดมิ่งเมือง
    - ลป.ทิม วัดพระขาว
    - ลพ.ไสว วัดปรีดาราม
    - ลพ.พูลวัดไผ่ล้อม
    - ลพ.เพี้ยน วัดเกริ่นกฐิน
    - ลพ.สิริ วัดตาล
    - ลพ.ตี๋ วัดหลวงราชาวาส
    - ลพ.เฮ็น วัดดอนทอง
    - ลพ.สมควร วัดถือน้ำ
    - ลพ.สง่า วัดบ้านหม้อ
    - ลพ.หวล วัดพุทไธสวรรค์
    - ลพ.เฉลิม วัดพระญาติ
    - ลพ.จ้อย วัดหนองน้ำเขียว
    - ลพ.ไพรินทร์ วัดสาวชะโงก

    ประสบการณ์
    - ลูกค้าท่านหนึ่งขับรถกลับบ้านแต่หลับใน รถข้ามเลนไปชนกับสิบล้อ แต่กลับไม่ได้รับอันตรายใดๆ ทั้งทีสภาพรถยับยู่ยี่ กระจกก็กระเด็นใส่หน้า แต่ไม่มีบาดแผลเลย กลับมาโทรสั่งเหมาแหลก
    - ทนายท่านหนึ่งได้นำไปบูชา ปรากฏว่าคดีที่กำลังทำอยู่ดีพลิกชนะแถมเดือนนั้นได้งานมาอื้อ จนต้องปิดมือถือหนีเลยทีเดียว

    ปิดครับ
    IMG_20181010_054555.jpg IMG_20181010_054545.jpg IMG_20181010_054533.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 พฤศจิกายน 2018
  9. shaj

    shaj เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    8,008
    ค่าพลัง:
    +6,624
    ขอจอง443ครับ
     
  10. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รับทราบการจองครับ
     
  11. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่446 เจ้าเเม่กาลี หลังจารหมึก ครูบาคำเป็ง เทพเจ้าเเห่งพลังดูด สำนักสงฆ์สุขาวดี จ.กำแพงเพชร
    เจ้าเเม่กาลี ครูบาคำเป็ง เทพเจ้าเเห่งพลังดูด เป็นปางหนึ่งของพระแม่อุมา เป็นปางที่มีอิทธิฤทธ์มากที่สุด เป็นเทวีแห่งชัยชนะตลอดกาล เจ้าแม่กาลีในนิมิตหลวงปู่ มีรูปร่างดำ หน้าตาดุร้าย ทั้งตัวมีขนปกคลุมทั้งร่าง หลวงปู่ครูบาคำเป็ง ได้สัมผ้ส พูดคุยกับเจ้าแม่กาลี
    แต่คำพูดท่านอ่อนน้อมกับหลวงปู่ เจ้าแม่บอกว่าจะช่วยเหลือสงเคราะห์ ผู้ที่เคารพนับถือ ไม่ว่าจะเป็นไพร่ รากหญ้า อำมาตย์ หรือแม้แต่มหาโจรก็จะช่วย ขอให้บูชากู สมกับคำที่เจ้าแม่เปล่งในนิมิต ว่า " ผู้ใด บูชากู กูจะนำความมั่งคั่ง โชคลาภ อำนาจวาสนา บารมี มาให้ผู้นั้น" ท่านจะเป็นทางเงินทอง โชคลาภไหลมาเทมา เป็นเศรษฐีมั่งมีทรพย์ ไม่อดไม่อยาก
    เจ้าแม่กาลีจะเสริมอำนาจให้คนเป็นเจ้านายคน คนที่มีลูกน้องเยอะให้เชื่อฟังอยู่ใต้บังคับบัญชาทำให้มีอำนาจ มีบารมี น่าเกรงขาม เหมาะสมกับทุกอาชีพ แม้แต่คนทรงเจ้า หมอดู หากได้บูชาเจ้าแม่แล้ว จะมีญาณวิเศษช่วยให้อาชีพที่ประกอบอยู่เจริญรุ่งเรือง
    พุทธคุณ : " ผู้ใด บูชากู กูจะนำความมั่งคั่ง โชคลาภ อำนาจวาสนา บารมี มาให้ผู้นั้น"

    คุณshaj ปิดครับ
    IMG_20181010_223108.jpg
    IMG_20181010_223058.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 ตุลาคม 2018
  12. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่447 พระปิดตา เนื้อผงผสมว่าน ฝังสิงห์แกะจารหมึก ครูบาคำเป็ง เทพเจ้าเเห่งพลังดูด สำนักสงฆ์สุขาวดี จ.กำแพงเพชร
    พุทธคุณ เด่นโชคลาภ มหาอำนาจ มหาอุด และกันอุบัติเหตุ กันภูตผีปีศาจ มารร้าย

    ปิดครับ
    IMG_20181010_223128.jpg
    IMG_20181010_223117.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 พฤศจิกายน 2018
  13. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่448 พระเนื้อผง หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค พิมพ์ทรงปลา รุ่นสู่มาตุภูมิ พระเครื่อง เมืองกรุงศรีฯ ปี 2533
    หลวงพ่อปาน ถือกำเนิดที่ย่านวัดบางนมโค เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2418 ท่านเป็นบุตรชายคนเล็กของ คุณพ่ออาจ และคุณแม่อิ่ม สุทธาวงศ์ อาชีพของครอบครัว คือการทำนา
    สาเหตุที่โยมบิดาขนานนามท่านว่า ปาน เนื่องจากท่านมีสัญญลักษณ์ประจำตัวที่นิ้วก้อยมือซ้ายเป็นปานแดง ตั้งแต่โคนนิ้วถึงปลายนิ้ว ซึ่งนับว่าแปลกและไม่ค่อยจะมีกัน

    หลวงพ่อปาน อุปสมบทเมื่อวันที่ 1 เมษายน 2438 โดยมีพระอุปัชฌาย์ คือ หลวงพ่อสุ่น วัดบางปลาหมอ ต.น้ำเต้า อ.บางบาล จ.อยุธยา

    พระกรรมวาจาจารย์ คือ พระอาจารย์จ้อย วัดบ้านแพน ต.สามกอ อ.เสนา จ.อยุธยา
    พระอนุสาวนาจารย์ คือ พระอาจารย์อุ่ม วัดสุธาโภชน์ ต.บางนมโค อ.เสนา จ.อยุธยา ท่านได้ ฉายาว่า โสนันโท

    เมื่อหลวงพ่อปาน อุปสมบทแล้ว ได้มาอยู่ที่วัดบางปลาหมอ โดยมีหลวงพ่อสุ่น เป็นอาจารย์สอนกรรมฐานวิปัสสนาพุทธาคมต่างๆ โดยเฉพาะในด้านการรักษาโรคภัยไข้เจ็บ ตลอดจนผู้คนที่ถูกคุณไสยฯ หลวงพ่อปานได้รับการถ่ายทอดวิชาต่างๆจนหมดสิ้น

    เรียนพระปริยัติธรรมและภาษาบาลีกับอาจารย์จีน วัดเจ้าเจ็ด ๒ ปี, และไปเรียนต่อที่วัดสระเกศ กรุงเทพฯ อีก จนจบอภิธรรม ๗ คัมภีร์ ใช้เวลาอยู่กรุงเทพฯ ๕ ปี

    ขณะที่อยู่กรุงเทพฯ เรียนเพิ่มเติมที่วัดสังเวชด้านแพทย์แผนโบราณ ได้หลวงพ่อเนียม วัดน้อย อ.บางปลาม้า สุพรรณบุรี เป็นอาจารย์สอนด้านกรรมฐานเพิ่มเติม เป็นเวลารวมประมาณ ๓ เดือน

    ศึกษาเพิ่มเติมกับหลวงพ่อโหน่ง วัดคลองมะดัน อ.สองพี่น้อง สุพรรณบุรี ประมาณ ๑ เดือน

    เรียนวิชาจากชีปะขาว ในการสร้างพระเครื่อง มีรูปแบบ ๖ พิมพ์ เรียนวิชาจากอาจารย์แจง ซึ่งเป็นฆราวาสชาวสวรรคโลก ได้สอน "ยันต์เกราะเพชร" เป็นยันต์ที่ยอดเยี่ยมมาก

    เมื่อเรียนจบแล้วก็มาตั้งสำนักสอนภาษาบาลี และนักธรรมที่วัดบางนมโค และได้เริ่มก่อสร้างวัดบางนมโค จนเจริญรุ่งเรือง ตราบจนกระทั่งทุกวันนี้ นอกจากวัดบางนมโคแล้ว ท่านยังได้สร้างวัดต่างๆ อีกประมาณ ๔๑ วัด และยังมีการสร้างโบสถ์อีกมากมายหลายแห่ง นับว่าเป็นพระที่มีบารมีสูงมาก จึงสามารถสร้างสิ่งถาวรวัตถุ เพื่อสืบศาสนาได้มากขนาดนี้

    เมื่อท่านเรียนวิชาจากหลวงพ่อสุ่นแล้ว ก็ออกธุดงค์เพียงองค์เดียวในป่าลึก และเมื่อท่านได้ลูกศิษย์ (ซึ่งมีพระมหาวีระ ถาวโร รวมอยู่ด้วย) ก็พาออกธุดงค์จนถึงเขตแดนพม่า ซึ่งระหว่างธุดงค์ได้พบกับเหตุการณ์ต่างๆ ซึ่งนับว่าล้วนแปลกมหัศจรรย์ บางท่านเมื่อได้อ่านพบ หรือได้ฟังแล้วต่างพูดกันว่าเป็นไปได้หรือ

    ส่วนการรักษาโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ อีกทั้งผู้ที่ถูกของหรือถูกคุณไสยทุกชนิด ถ้าพาคนเจ็บมาถึงวัดบางนมโค และได้รับการรักษาจากหลวงพ่อปานแล้ว ทุกคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าไม่ผิดหวัง รอดตายหายดีทุกราย

    หลวงพ่อปานท่านมีลักษณะของมหาบุรุษ มีผิวพรรณขาวสะอาด เสียงกังวานไพเราะ มีใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส ลักษณะ รูป กาย สมส่วน มีเมตตาปราณีแก่สัตว์โลกทั้งหลาย ไม่ถือชั้นวรรณะ ต้อนรับผู้คนที่มาหาโดยไม่เลือกว่าเป็นเศรษฐี ผู้ดี ไพร่, ว่ากันว่าบุคคลที่มีจิตใจชั่วช้ามัวเมา หากได้สนทนากับหลวงพ่อแล้ว จะกลับเนื้อกลับตัวเป็นคนดีได้อย่างไม่น่าเชื่อ

    กิจวัตรประจำวันของท่านฯ ยามที่ท่านอยู่วัด ส่วนใหญ่หลังจากที่ท่านฉันเรียบร้อยแล้ว ท่านฯ จะพักผ่อนจนถึงเวลาฉันเพล นั่นคือเวลาที่ท่านได้พักผ่อนจริงๆ หลังจากนั้นแล้ว ท่านก็จะออกมานั่งรับแขก และทำน้ำมนต์เตรียมไว้เพื่อรักษาคนไข้ คนป่วยต่างๆ ที่มาหาท่าน วันหนึ่งๆ มีคนมาหาท่าน เพื่อขอความช่วยเหลือเป็นจำนวนมาก สารพัดโรค ถูกทำของหรือถูกคุณไสยก็มีเยอะ รักษากันตั้งแต่เพลเรื่อยไป บางวันถึงดึกดื่นก็มี แม้ท่านฯ จะเหนื่อยยากเพียงไร ท่านก็สงเคราะห์ชาวบ้านเช่นนี้เสมอไป

    ถึงแม้หลวงพ่อปานท่านจะจากไปแล้ว แต่ท่านก็ได้ทิ้งมรดกอันล้ำค่า ไว้ให้แก่พุทธศาสนิกชน หรือบุคคลที่นับถือเลื่อมใสท่าน มรดกอันมีค่าควรเมืองได้แก่

    ๑. พระหลวงพ่อปาน
    ๒. ผ้ายันต์, ยันต์เกราะเพชร
    ๓. พระคาถาพระปัจเจกะโพธิ์

    ยันต์เราะเพชร
    การเป่ายันต์เกราะเพชรนี้ ท่านเคยเล่าให้ลูกศิษย์ฟังว่า ท่านได้เรียนมาจากอาจารย์แจง ซึ่งเป็นฆราวาส ชาวสวรรคโลก จากตำราของอาจารย์พระร่วง แต่ผู้ที่จะทำให้เกิดความศักดิ์สิทธิ์ได้ ต้องมีศีลบริสุทธิ์ และมีฌานแก่กล้า จึงจะทำให้ยันต์นั้นเข้าไปสถิตย์อยู่ในตัวของผู้ที่ต้องการได้

    ยันต์เกราะเพชรนี้ มาจากการเขียนบทพระพุทธคุณห้องต้น คือ พระอิติปิโสภควา จนถึง พุทโธภควาติ เรียกว่า พระอิติปิโสแปดทิศนี้ รูปแบบและพระคาถาแบบนี้

    ๑. อิระชาคะตะระสา
    ๒. ติหังจะโตโรถินัง
    ๓. ปิสัมระโลปุสัตพุท
    ๔. โสมานะกะริถาโธ
    ๕. ภะสัมสัมวิสะเทภะ
    ๖. คะพุทปันทู ทัมวะคะ
    ๗. วาโธโนอะมะมะวา
    ๘. อะวิสุนุสานุสติ

    พระคาถานี้ มีอุปเท่ห์การใช้แต่ละบทอย่างพิศดาร ทั้งแคล้วคลาด คงกระพันชาตรี คุ้มกันอันตราย เรียกว่าฝอยท่วมหลังช้าง แล้วแต่จะใช้คุ้มกันตัว เวลากลางคืนก่อนนอนให้ท่องพระคาถานี้ตามกำลังวัน แล้วตั้งจิตให้นิ่งและให้เป็นวงรอบเขตบ้าน หรือสถานที่พักแรม จะป้องกันภัยได้ทุกสารทิศ ศัตรู โจรจู่โจมก็ให้รู้สึกตัวก่อน ป้องกันได้ทันแล

    ยันต์เกราะเพชรของหลวงพ่อปานนี้ ก็ใช้บทพระพุทธคุณห้องต้น มาเรียงกันตามตำรา กำหนดแล้วขีดเส้นโยงเป็นตารางสานกันไปมา ระหว่างตัวอักขระพระอิติปิโสนี้ บังเกิดเป็นเกราะแก้ว ประสานกันรอบตัวยันต์ โดยเพิ่มตัวอุณาโลมและตัวโมลงไปด้วย ดังนั้น ยันต์เกราะเพชรของท่าน จึงสามารถคุ้มกันอันตราย ดุจมีเกราะแก้วกำบังตัว และมีกำแพงแก้วแปดชั้นมากั้นมารร้ายแล

    (ผ้ายันต์ของหลวงพ่อปานก็มียันต์เกราะเพชร ตกถึงสมัยยุคนี้ยังพอมีให้เห็น แต่ผู้เป็นเจ้าของก็หวงแหนมาก)

    พระเนื้อผง หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค พิมพ์ทรงปลา รุ่นสู่มาตุภูมิ จัดสร้างขึ้นและพุทธาภิเษกปี 2533 รุ่นนี้หลวงพ่อฤาษีลิงดำปลุกเสกครับ ตัวเนื้อผงผสมชนวนมวลสารเก่าของหลวงพ่อ ด้านหน้าองค์พระเป็นพิมพ์ทรงปลาครับ ส่วนด้านหลังเป็นยันต์เกราะเพชรที่เป็นยันต์อันเลื่องลือระบือนามว่าศักดิ์สิทธิ์มากของหลวงพ่อ

    ปิดครับ
    IMG_20181010_223145.jpg
    IMG_20181010_223137.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 เมษายน 2019
  14. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่449 พระหลวงพ่อปานพิมพ์ทรงไก่ รุ่นสู่พุทธภูมิ วัดบางนมโค เสาร์ห้า ปี2536 ผงอุดอยู่ครบสภาพเดิม กล่องเดิมครับ
    รุ่นนี้ปลุกเสกพิธีใหญ่ (เสาร์ห้า) วันที่ 27 มีนาคม 2536 โดยมีพระเกจิดังสายอยุธยา ร่วมปลุกเสกมากมาย อาทิเช่น
    1.หลวงปู่ทิม วัดพระขาว จ.อยุธยา
    2.หลวงพ่อแม้น วัดหน้าต่างนอก จ.อยุธยา
    3.หลวงพ่อเพิ่ม วัดป้อมแก้ว จ.อยุธยา
    4.หลวงพ่อพูล วัดบ้านแพน จ.อยุธยา
    5.หลวงพ่ออุไร กิตติสาร เจ้าอาวาสวัดบางนมโค จ.อยุธยา
    6.หลวงพ่อมี เขมธัมโม วัดมารวิชัย จ.อยุธยา
    7.พระครูกิตติธรรมธาดา เจ้าอาวาสวัดเจ้าแปดทรงไตรย์ จ.อยุธยา
    8.หลวงพ่อเมี้ยน วัดโพธิ์กบเจา จ.อยุธยา

    มวลสารสำคัญมากมายที่นำมาสร้าง ได้แก่
    1.พระเนื้อดินที่หักชำรุดของหลวงพ่อปาน
    2.พระเนื้อดินที่หักชำรุด รุ่นสู่มาตุภูมิ วัดบางนมโค หลวงพ่อฤาษีลิงดำปลุกเสก ปี2533
    3.พระที่หักชำรุดของหลวงพ่อเล็ก วัดบางนมโค
    4.พระเนื้อดินที่หักชำรุดของ หลวงปู่ยิ้ม วัดเจ้าเจ็ด
    5.พระกรุอยุธยาที่หักชำรุด
    6.ผงวิเศษของหลวงปู่ดู่ วัดสะแก
    7.ผงพุทธคุณของหลวงปู่ ทิมวัดพระขาว

    ปิดครับ
    IMG_20181010_223212.jpg
    IMG_20181010_223203.jpg IMG_20181010_223155.jpg IMG_20181010_223221.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 เมษายน 2019
  15. shaj

    shaj เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    8,008
    ค่าพลัง:
    +6,624
    ขอจอง446ครับ
     
  16. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รับทราบการจองครับ
     
  17. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่450 ประคำนเรศศวรปราบหงษ์สา หลวงปู่หมุน ฐิตสีโล เสกพิธีเสาร์.5 บูชาครู วัดสุทัศน์ ครบทั้งเส้น 108 เม็ด (ไม่มีหัวขุน) ขนาด 28 นิ้ว
    ประคำปราบหงสา รุ่นเสาร์ห้าบูชาครู ปี 2543 ใช้ผงว่าน 108 ผงธูปกรรมฐาน ผงพุทธคุณที่หลวงปู่ลบผงผสมกันล้วนๆปั้นเป็นเม็ดประคำ สร้างน้อย(1,999เส้น) หายาก
    การใช้ เป็นมหาปราบมหาอำนาจ สะกดคนสะกดทัพ เสริมบารมีโดยเฉพาะผู้นำผู้บริหารควรมีไว้เสริมบารมีครับ

    พิธีพุทธาภิเษก 5 วาระ ดังนี้
    วาระที่1 ณ.วัดป่าหนองหล่ม วันที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๔๓
    วาระที่2 ณ.วัดสทัศน์ฯ วันที่ 16 มีนาคม พ.ศ.๒๕๔๓
    วาระที่3 ณ.วัดป่าหนองหล่ม วันที่ 8 เมษายน พ.ศ.๒๕๔๓
    วาระที่4 ณ.วัดซับลำใย วันที่ 9 เมษายน พ.ศ.๒๕๔๓
    วาระที่5 ณ.วัดสุทัศน์ฯ วันที่ 30 เมษายน พ.ศ.๒๕๔๓


    พระรุ่นนี้หลวงปู่พูดในพิธีว่า... " ถ้าบูชาให้ดีแล้ว จะกินไม่หมด จนไม่เป็น มีแต่ความอุดมสมบูรณ์ "
    ปิดครับ
    IMG_20181011_122050.jpg
    IMG_20181011_122018.jpg IMG_20181011_121934.jpg IMG_20181011_121921.jpg IMG_20181011_121908.jpg 62016-11-13-18-17-19-62016-11-13 17.49.09.jpg get_auc3_img (4).jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 กรกฎาคม 2019
  18. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่451 พระอุปคุตทวีทรัพย์ เนื้อสัมฤทธิ์ปิดทอง เลี่ยมพร้อมใช้ ครูบาเจ้าดวงดี วัดท่าจำปี เชียงใหม่ สวยมาก หายากมากแล้ว.............
    พระอุปคุต ล้วงบาตร เนื้อสัมฤทธิ์ ปัดทอง ครูบาดวงดี วัดท่าจำปี พศ 2552
    วัตถุมงคลรุ่นนี้ ประกอบด้วย พระอุปคุตทวีทรัพย์, ล็อกเก็ตฉากทอง ๑๐๔ ปี หลวงปู่ครูบาเจ้าดวงดี, กุมารเทพดวงดี, ตะกรุดนาคบาศ (หนังงูเหลือมจารมือ), สีผึ้งอิ่นแก้วมหาเสน่ห์ และผ้ายันต์ดวงดีทวีทรัพย์ พิธี พุทธาภิเษก ๒ วาระ ในวันอันเป็นวันมหามงคล ที่นานปีมีหนเดียว คือ วันยี่เป็ง คืนพระจันทร์ซ้อนพระจันทร์ เมื่อวันที่ ๒ พฤศจิกายน ๒๕๕๒ ณ วิหารวัดท่าจำปี วันดังกล่าว ถือเป็นมหามงคลสุดยอดในเรื่องของเมตตามหานิยม เพราะในวาระ ๑๒ ปี จะมีขึ้นเพียงครั้งเดียว พิธีพุทธาภิเษกครั้งที่ ๒ เรียกว่า วันเป็งปุ๊ด ตรงกับวันพุธที่ ๒ ธันวาคม ๒๕๕๒ ซึ่งตรงกับวันเพ็ญ เชื่อกันว่า ในวันเพ็ญที่ตรงวันพุธ (วัน เพ็ญพุธ) พระอุปคุตมหาเถระ ซึ่งเป็นพระอรหันต์ผู้ทรงฤทธิ์ และอภิญญา ชอบสันโดษ ปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานอยู่ ณ สะดือทะเล ท่านจะออกจากนิโรธกรรม ในเวลาเที่ยงคืน จึงได้ถือฤกษ์ดีนี้ประกอบพิธี ณ มณฑลพิธีเจดีย์พระธาตุ ๙ ยอด โดยมีพระเกจิอาจารย์ล้านนา ๑๒ รูป นั่งปรกปลุกเสก อาทิ หลวงปู่ครูบาดวงดี ครูบาน้อย วัดศรีดอนมูล ครูบาจันทะรังษี วัดกู่เต้า ครูบาจันทร์แก้ว วัดศรีสว่าง หลวงปู่ทอง วัดพระธาตุศรีจอมทอง ครูบาอุ่น วัดโรงวัว ฯลฯ / พระมีตอกโค๊ต ประวัติ ....นบางท้องถิ่นล้านนา เชื่อว่า พระอุปคุตจะตะแหลง (แปลงร่าง) เป็น สามเณรน้อย ขึ้นมาบิณฑบาตใน วันเป็งปุ๊ด หรือ เพ็ญพุธ (วันเพ็ญที่ตรงกับวันพุธพอดี) เริ่มตั้งแต่ตีหนึ่งของวันพุธ ผู้คนจึงมักเห็นสามเณรน้อยเดินบิณฑบาตไปตามถนน ทางสี่แพร่งสามแพร่ง ตลอดจนถนนหนทางตามริมน้ำท่าน้ำต่างๆ จนกระทั่ง ตี๋นฟ้ายก หรือแสงเงินแสงทองออกมา จึงเนรมิตกายหายไป เชื่อกันว่า หากผู้ใดมีบุญบารมีได้ใส่บาตรพระอุปคุต มักทำให้ร่ำรวยเงินทอง ปราศจากภัยทั้งปวง มีสมาธิจิตดี ไม่หลงลืม ชีวิตเป็นสุข ด้วยเหตุนี้ จึงมีผู้สร้าง พระอุปคุต ปางต่างๆ ที่นิยมกันมากได้แก่ ปางล้วงบาตร หมายถึง กิ๋นบ่เสี้ยง หรือกินไม่หมด ให้คุณทางทรัพย์สินเนืองนอง มากมาย ร่ำรวย พระอุปคุต ปางห้ามมาร ให้คุณในทางคุ้มครองป้องกันภัยต่างๆ ปางสมาธิ หรือ พระบัวเข็ม ให้คุณในด้านสติปัญญาดี จิตใจผ่องใส ดำเนินชีวิตเป็นสุข ด้วยปัญญาบารมี ด้วยประวัติอันทรงฤทธิ์ดังกล่าว พุทธศาสนิกชนจึงสร้างรูปพระอุปคุตขึ้นบูชา โดยมีความเชื่อว่า จะสามารถปกป้องคุ้มครองภยันตรายต่างๆ อันอาจจะเกิดขึ้น ดังจะเห็นได้ว่า ในปัจจุบัน เมื่อจะจัดงานพิธีสำคัญต่างๆ ขึ้น มักจะมี พิธีอธิษฐานบูชาพระอุปคุต เป็นเบื้องต้น เพื่อให้ช่วยคุ้มครองให้งานนั้นๆ สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี รูปลักษณะของพระอุปคุต ที่เป็นรูปเคารพโดยทั่วไป มักทำเป็นรูปองค์พระนั่งอยู่ภายในหอยสังข์ มีขนาดศีรษะค่อนข้างใหญ่ เน้นส่วนคิ้ว ตา จมูกให้เห็นชัดเจน และเนื่องจากที่อาศัยจำพรรษาของพระอุปคุตอยู่ในปราสาทแก้วกลางมหาสมุทร จึงมักทำรูปสัตว์น้ำเป็นสัญลักษณ์ประกอบอยู่ด้วยเสมอ พระอุปคุตทวีทรัพย์ รุ่นดวงดีทวีทรัพย์ สัมฤทธิ์ชุบทอง ปี53 ครูบาเจ้าดวงดี สุภัทโท วัดท่าจำปี จ.เชียงใหม่ ครูบาเจ้าดวงดี สุภัทโท ศิษย์รูปสุดท้ายครูบาเจ้าศรีวิชัย อายุวัฒนมงคล 104 ปี สงฆ์รัตตัญญูแห่งนครเชียงใหม่ หน่อเนื้อนาบุญผู้มีศีลาจริยวัตรงดงามยิ่ง วัตถุประสงค์ เพื่อสมสบทุนสร้างอาคารกุฏิรับรองสงฆ์ วัดท่าจำปี จ.เชียงใหม่ และสมบททุนสร้างศาลาการเปรียญเอนกประสงค์ สำนักสงค์เขาสามล้าน จ.ชุมพร ครั้งแรกในประวัติศาสตร์พิธีกรรมวันมหามงคลศักดิ์สิทธิ์ พิธีเทวาภิเษก,พุทธาภิเษกวาระที่ 1 วันยี่เป็ง จันทร์ซ้อนจันทร์ 2 พฤศศจิกายน 2552 พิธีหุงสีผึ้งอิ่นแก้วมหาเสนห์ ณ วิหารวัดท่าจำปี พิธีมหาพุทธาภิเษกวาระที่ 2 วันเป็งปุ๊ด วันพุธที่ 2 ธันวาคม 2552 วันที่มหาเถระพระอุปคุตออกจากนิโรธกรรมใต้มหาสมุทร โดย 12 เกจิอาจารย์แห่งล้านนา ณ มณฑลพิธีมหาเจดีย์บรรจุพระธาตุ 9 ยอด วัดท่าจำปี พระอาจารย์สายกรรมฐาน และ พระเกจิอาจารย์ ร่วมปลุกเสกทั้งเทวาภิเษก และ พุทธาภิเษก อาทิ 1. หลวงปู่ครูบาดวงดี วัดท่าจำปี� 2. พ่อครูพราหมณ์ ป. เลี่ยมเพ็ชรรัตน� 3. พระอาจารย์ทอง วัดพระธาตุศรีจอมทอง� 4. ครูบาน้อย วัดศรีดอนมูล� 5. หลวงปู่เณร คำภีโร� 6. ครูบาจันทรังษี วัดกู่เ้ต้า� 7. ครูบาสุบิน วัดทองสะอาดและอาจารย์ท่านอื่่นๆอีกมาย พระอุปคุต ผู้เป็นพระอรหันตสาวก ที่ทรงมหิทธานุภาพ ชอบความวิเวกวังเวง และอยู่ตามลำพังผู้เดียว ไม่ชอบเกี่ยวข้องกับผู้อื่น เป็นพระอรหันต์หลังสมัยพุทธกาล เพราะไม่พบประวัติของท่านในพระไตรปิฎก แต่ปรากฏอยู่ใน จารึกพระเจ้าอโศก ซึ่งเขียนขึ้น เมื่อร้อยกว่าปีหลังพุทธปรินิพพานและยังปรากฏอยู่ใน พระปฐมสมโพธิกถา ซึ่งเป็นพระนิพนธ์ กรมสมเด็จพระปรมานุชิตชิโนรส โดยอยู่ปริจเฉทที่ ๒๘ ที่มีชื่อว่า มารพันธ-ปริวรรต ตามประวัติกล่าวว่า พระอุปคุต เกิดในตระกูลวานิช บิดาประกอบอาชีพค้าเครื่องหอม อยู่ที่เมืองมถุรา มีพี่น้องทั้งหมดรวมทั้งตัวท่านเองสามคนเดิมบิดาของท่านได้ให้คำสัญญากับ พระสาณวารี (สาณสัมภูติ) ไว้ว่า หากมีบุตรชายจะให้อุปสมบทในพุทธศาสนา แต่ก็บ่ายเบี่ยงเรื่อยมา โดยอ้างว่า จะต้องเอาไว้ช่วยกิจการของครอบครัวจนกระทั่งมีบุตรคนที่สาม คือ ตัวท่าน ซึ่งได้มีโอกาสฟังพระธรรมจากพระสาณวารี จนเกิดดวงตาเห็นธรรม ประสงค์จะอุปสมบท บิดาท่านจึงต้องจำยอมอนุญาตเมื่อพระอุปคุตบวชแล้ว ก็ได้เจริญวิปัสสนาญาณโดยลำดับ จนบรรลุพระอรหันต์ผล และได้เป็นอาจารย์สั่งสอนทางสมถกัมมัฏฐาน และวิปัสสนากัมมัฏฐาน ที่มีชื่อเสียงโด่งดังที่สุด ในสมัยนั้น ดังปรากฏมี พระอรหันต์ที่เป็นศิษย์ของพระอุปคุตถึง 18,000 รูป นอกจากนี้แล้ว พระอุปคุตยังสำเร็จอภิญญาต่างๆ จนสามารถแสดงอภินิหาร เป็นที่เล่าลือมาจนทุกวันนี้ มีปฏิปทาดำเนินไปในทางสันโดษ มักน้อย นัยว่า ท่านเนรมิตเรือนแก้ว (กุฏิแก้ว) ขึ้นในท้องทะเลหลวง (สะดือทะเล) แล้วก็ลงไปอยู่ประจำที่กุฏิแก้วตลอดเวลา เมื่อมีเหตุเภทภัยเกิดขึ้นในพระศาสนา หรือเมื่อมีพิธีกรรมใหญ่ๆ หรือมีผู้นิมนต์ ท่านก็จะขึ้นมาช่วยเหลือ ด้วยความเต็มใจเสมอ คติความเชื่อเกี่ยวกับพุทธคุณ ของผู้ที่บูชา พระอุปคุต เชื่อว่า มีพุทธโดดเด่นด้านโชคลาภ และคุ้มกันภัยภิบัติอันตรายทั้งปวง วิธีบูชา ให้หาภาชนะใส่น้ำสะอาดไว้ให้เกือบ่ต็มภาชนะ แล้วนำอุปคุตไปตั้งคอยดูแลอย่าให้น้ำแห้ง จุดธูปอธิษฐาน ด้วยพระคาถาพระอุปคุต ตั้งนะโม 3 จบ มหาอุปคุตโต จะมหาเถโร นานาบารมี สัมปันโน มหาลาโภ มหาเตโช มหาชัยยะสิทธิ สัพพะสิทธิ ประสิทธิเม 3 จบ วิธีสวดขอลาภ ให้จุดธูปเทียนบูชา พร้อมกับดอกไม้หอม เครื่องหอม น้ำหอมต่างๆ เทหยดใส่ในขันน้ำมนต์ ณ ที่บูชาพระ ในร้านค้าขาย หรืออาคารสำนักงาน แล้วอธิษฐานขอให้กลิ่นควันธูปเทียน ลมพัดไป
    ปิดครับ
    IMG_20181012_064633.jpg
    IMG_20181012_064439.jpg IMG_20181012_064429.jpg unnamed (1).jpg unnamed (2).jpg unnamed (3).jpg unnamed (7).jpg unnamed (8).jpg U15023846358579350507982142.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 มีนาคม 2019
  19. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่452 ลูกแก้วรัตนะมณี หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี สวยเดิมๆ
    วิธีการใช้ลูกแก้ว คัดจาก "หนังสือสมบัติพ่อ" ให้หน้า ๑๒๑ ดังนี้ครับ

    "ก่อนที่จะภาวนาคาถาให้มองดูลูกแก้วเสียก่อน จำภาพแก้วได้ ก็หลับตานึกถึงภาพแก้วนั้นแล้วก็ภาวนา นี่ทำเป็นกรรมฐาน จะภาวนา "พุทโธ" หรือ "นะมะพะทะ" ว่าได้ทุกอย่างเพราะว่าแก้วเป็นอาโลกกสิณ สำหรับอาโลกสิณนี่เป็นกสิณพื้นฐานของทิพจักขุญาณ หากว่าขณะที่หลับตาภาวนา ภาพลูกแก้วเลือนไปจากใจ ให้ลืมตาดูใหม่ จำภาพลูกแก้วแล้วภาวนาต่อไป จนกระทั่งภาพลูกแก้วติดตาติดใจ

    คราวหลังเราไม่ต้องมองดูลูกแก้ว แต่นึกภาพลูกแก้วได้เป็นปกติอย่างนี้ท่านเรียกว่า "อุคหนิมิต" อุคหนิมิตนี่เป็น "อุปจารสมาธิ" เป็นผลของทิพจักขุณาณ เมื่อทำอย่างนี้เรื่อยๆ ไปจนกระทั่งภาพลูกแก้วติดตาติดใจอยู่เสมอ

    ต่อมาก็อธิฐานให้ลูกแก้วโตขึ้น ก็จะเห็นภาพลูกแก้วโตขึ้น อธิฐานให้เล็กลงก็จะเล็กลง ให้อยู่สูงก็อยู่สูง ให้อยู่ต่ำก็อยู่ต่ำ อยู่หน้าก็ได้ อยู่หลังก็โด้ตามชอบใจ อย่างนี้เป็น ปฏิภาคนิมิต ถือว่าเป็นนิมิตสูงสุดส่วนหนึ่ง..."

    "ในเมื่อเห็นลูกแก้วชัดเจนแจ่มใสดีเท่าไหร่ ความเป็นทิพจักขุญาณของท่านพุทธบริษัทที่จะเห็นภาพอื่นก็จะเห็นชัดเจนเท่า นั้น แต่ว่าถ้าเห็นลูกแก้วชัดเจนดีแล้ว ต่อไปก็อธิฐานขอให้ภาพลูกแก้วหายไป ขอภาพของพระพุทธเจ้าจงปรากฏ ในเมื่อเห็นภาพของพระพุทธเจ้าปรากฏแทน ขอให้อธิฐานให้พระองค์โตขึ้น ภาพของพระพุทธเจ้าโตขึ้น ขอให้พระองค์ทรงเล็กลง ก็เล็กลง ให้สูงให้ต่ำได้ตามความต้องการ อย่างนี้ถือว่าถึงที่สุดของ "มโนมยิทธิ"

    ถ้าทำมโนมยิทธิได้ตามนี้แล้วจึงเคลื่อนออก ถ้าเคลื่อนไปไหนจิตกับกายจะตัดกันเด็ดขาด คือว่าไปสุดตัว ถ้าไปสุดตัวก็จะได้พบทุกอย่าง จะพบเทวดา จะพบพรหมก็ดี พบพระอรหันต์ก็ดี เราก็จะมีสภาพไปนั่งคุยกันอย่างสบาย เหมือนนั่งคุยกันอยู่นี่ ถือว่าเป็นการเต็มมโนมยิทธิที่ศึกษา เพราะมโนมยิทธิที่ศึกษากันอยู่เวลานี้ เราใช้กำลังครึ่งเดียว..."

    "แต่ว่าเพื่อผลประโยชน์ของบรรดาท่านพุทธบริษัทว่า

    "ทุกคนยังต้องกินต้องใช้ พระพุทธเจ้าก็ทรงห่วงเหมือนกัน ท่านถือว่าถ้าทุกคนยากจนเสียจริงๆ ไม่มีกินมีใช้ การเจริญสมาธิก็ไม่มีผล เพราะมีความเดือดร้อน"

    ฉะนั้นท่านจึงแนะนำว่า ถ้าทำสมาธิในด้านของกรรมฐานครบถ้วนพอใจแล้ว หลังจากนั้นให้ต่อด้วย คาถาพระปัจเจกพุทธเจ้า (คาถาเงินล้านปัจจุบัน) และเวลาที่เจริญพระกรรมฐานทรงฌาณเท่าไร คาถาพระปัจเจกพุทธเจ้าก็จะทรงฌาณเท่านั้น เมื่อคาถาพระปัจเจกพุทธเจ้าทรงเป็นฌาณ การเงินของท่านพุทธบริษัทจะมีการคล่องตัวดีมาก ถ้าปฏิบัติได้เป็นฌาณจริงๆ คือ เห็นภาพชัดจริงให้สังเกตุดูว่า หลังจากทำไป ๓ เดือน ผลการปฏิบัติลาภสักการะจะเกิด การเงินไม่ฝืดเคือง ยิ่งทำนานมากเงินก็จะยิ่งขังตัว..."

    "เงินเดือนที่ไม่ค่อยพอเดือน มันก็จะเริ่มพอเดือน เดือนหน้ากับเดือนหลัง มันสวัสดีกันได้ก็พอตัวแล้ว ต่อมาเจ้าเดือนหน้ามันไม่ยอมไป เดือนใหม่ก็ยังมีมาอีก มันเริ่มขังตัว มันเริ่มขังตัวแน่นะ รวมความว่า มันนอนคุยกันในกระเป๋าได้ ทำตามนี้มีผลจริงๆ นะ และวิธีที่ใช้เงินในคาถาพระปัจเจกพุทธเจ้าก็มีแบบหนึ่ง ซึ่งเคยได้กล่าวไว้แล้ว.."

    ปิดครับ(ม)

    unnamed (4).jpg
    ชุดที่1. IMG_20181012_231409.jpg
    ชุดที่2. IMG_20181012_231359.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 ธันวาคม 2019
  20. กันทิมา@บุญ

    กันทิมา@บุญ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2018
    โพสต์:
    569
    ค่าพลัง:
    +401
     

แชร์หน้านี้

Loading...