NE

การปรากฏของ มนุษย์ 835 ยืนยันถึง ภาระหน้าที่อย่างเร่งด่วนมายังมนุษยชาติ ในการเริ่มต้นเติมเต็มข้อมูลในส่วนที่ขาดหายไปให้สมบูรณ์

การปรากฏของหนุมานผู้นำสาร (White Monkey) คือข้อมูลเพื่อการข้ามพ้นแม่น้ำแห่งอัตตา หรือการเอาชนะความยึดมั่นถือมั่นในความมีตัวมีตน ที่สร้างความแบ่งแยก แตกต่าง ความไม่เท่าเทียม และสร้างความสมดุลในวัฏจักร หรือระบบของธรรมชาติ ด้วยการตัดลดนิสัย และสร้างการกระทำใหม่ทดแทน

999 phudit คือ ข้อมูล หน้าที่พื้นฐานของมนุษย์

Little Duck คือ ฐานข้อมูลจากจักรวาล

มนุษย์จึงมีหน้าที่เติมเต็มส่วนที่ขาดหายไป นั่นคือ ความรู้ ความเข้าใจในหน้าที่ที่ควรทำ และการรับผิดชอบในระบบนิเวศน์ รวมถึงการใช้ปัญญาในการเชื่อมต่อสายใยความสัมพันธ์ระหว่างกัน (Relationship) ระหว่างสรรพสิ่งทั้งปวง เพราะทุกสรรพสิ่งล้วนปรากฏแตกต่างกันทั้งรูปแบบ และบุคลิคภาพอย่างเป็นเอกลักษณ์ และมีหน้าที่เฉพาะของตนในระบบวัฏจักรนั้นๆ สิ่งเหล่านี้จึงเปรียบได้กับจุด หลายจุด ที่ต่อเนื่องกันไปเป็นวงกลม และผูกเชื่อมไว้ด้วยสายใยของการทำหน้าที่ทั้งการเป็นผู้ให้และผู้รับ ด้วยการสนับสนุนซึ่งกันและกันอย่างเป็นระบบในวัฏจักรนั้นๆ

ทุกวัฏจักรล้วนปรากฏขึ้นภายใต้กฎเกณฑ์เดียวกัน นั่นคือ การหมุนรอบตัวเอง หรือ การเกิดดับ อย่างเป็นระบบ, เกิด แก่ เจ็บ ตาย ล้วนเป็นระบบที่ทำให้วัฏจักรสมบูรณ์ในตัวของมันเอง และในขณะเดียวกัน มันก็หมุนรอบสิ่งอื่นด้วยการทำหน้าที่เป็นทั้งผู้ให้และผู้รับ, เป็นผู้สร้างและผู้ทำลายในขณะเดียวกัน ตามคุณลักษณะของผู้ให้กำเนิด คือการปรากฏเป็นคู่ของพลังงานทั้ง 2 ด้าน เพื่อความสมดุลย์ในตัวของมันเอง

สรรพสิ่งทั้งปวงมอบตัวตนของมันให้แก่กันและกัน ด้วยการยอมรับความเป็นตัวตนในความเป็นเอกลักษณ์และหน้าที่ของมันในธรรมชาติ และมอบตัวตนของมันกลับคืนสู่ธรรมชาติเพื่อทำให้วัฏจักรของมันสมบูรณ์ ในขณะเดียวกัน มันก็เป็นส่วนหนึ่งของวัฏจักรหรือระบบที่ใหญ่กว่า ในการเติมเต็ม ทำให้ต้นและปลายมาบรรจบเช่นเดียวกัน

 

*** ศาสนศาสตร์ มีหนึ่งเดียว ****

ใช้ความจริง ใช้สัจจะ
เมตตาตนเอง
นำตนเองให้พ้นทุกข์

นอกนั้นใช้ความเชื่อ ....

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

สำหรับข้าพเจ้าแล้ว กระทู้นี้ก็เปรียบเหมือนระบบหรือวัฏจักรหนึ่งๆ ซึ่งทุกท่านที่ได้เข้ามาเยือนกระทู้นี้ ต่างก็เข้ามาตามภาระหน้าที่เฉพาะที่ตนได้รับ ไม่ว่าท่านจะเข้ามาโพสต์ข้อความใดทุกข้อความไม่ว่าจะสั้นหรือยาว ต่างมีความหมายและความสำคัญเท่าเทียมกันทั้งสิ้น เพราะทุกสรรพสิ่งและทุกฟันเฟืองในระบบ ล้วนมีบทบาท หน้าที่ความสำคัญ และมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวของมันเอง และจะขาดสิ่งใดสิ่งหนึ่งไปไม่ได้ เพราะเมื่อขาดสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ระบบก็จำเป็นต้องหาสิ่งอื่นมาทดแทนอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ดังนั้น ความรับผิดชอบต่อหน้าที่ของตนเอง ความรักความสามัคคี ความเสียสละ ความอดทนอดกลั้น และการให้อภัยซึ่งกันและกัน จึงจำเป็นมากในการทำงานของระบบ เพราะมันคือคุณสมบัติของผู้ให้กำเนิด และเป็นคุณสมบัติของผู้สร้างและในขณะเดียวกันก็เป็นคุณสมบัติของผู้ที่ถูกสร้างเช่นเดียวกัน นั่นคือความรักอันปราศจากเงื่อนไข

ดังนั้นความรัก อันปราศจากเงื่อนไขจึงคือ การให้ การเสียสละ อดทนอดกลั้นและให้อภัยซึ่งกันและกัน รวมถึงการเปิดใจรับฟังซึ่งกันและกัน นั่นคือสิ่ง ที่จะทำให้สิ่งที่แตกต่างกัน มาพบและบรรจบกันได้ในทางสายกลาง

 

"ปล
แม้....ฉันต้องแปลอีกใช่มั้ยที่กล่าวหมายถึงอะไร"

@phudit999. ใช่ค่ะ ^^

 

เมตตาตนเองอย่างไร จึงนำตนเองให้พ้นทุกข์คะ^^

 

ที่ผ่านมาข้าพเจ้าเปรียบเสมือน The Fool. ที่เริ่มต้นจากความไม่รู้ และขณะนี้ข้าพเจ้ากำลังอยู่ในกระบวนการเติมเต็มความรู้ไปพร้อมกับผู้อ่านทุกๆท่านในห้องนี้ การเติมเต็มของข้าพเจ้า และห้องนี้จะสมบูรณ์ไม่ได้หากปราศจากการเติมเต็มข้อมูลจากพลังงานทั้ง 2 ด้าน

กระบวนการเติมเต็มยังคงดำเนินต่อไป

Balance forward Humanity Data
Balance forward Humanity Data
GRAND & GRAND FULLFILL..

 

Welcome วสุธรรม to

NEW! NEW AGE PLUS+ พลังงานใหม่ พลังงานอิสระ GRAND & GRAND FULLFILL..

 

AI แปลได้หลายมุมมอง จะเป็นอะไรก็ได้ แต่หากหมายถึงสิ่งที่คุณยึดถือ นับถือสูงสุด หรือ แม้แต่ สิ่งที่ เจ้าของเว็บห้าม ....กล่าวถึง ....

หากกล่าวตรงๆ ก็จะสะเทือนความรู้สึกของคุณๆ ... หากอยากรู้หมายถึงอะไร ก็ นำไปแทนค่าดู ...

สัจจะ คือ ความจริงที่เป็น...ที่ปรากฎทุกมิติ
ถามว่า มนุษย์สามารถรับรู้ได้มั้ย ทุกมิติ ... ?

อาทิ ป่วย เพราะอะไร? มิติของหมอ ก็ให้ทานยาเม็ดจากบริษัทยา มิติหมอโบราณ ให้ทานสมุนไพร มิติหมอเข็ม ให้ฝั่งเข็ม .... มิติที่เห็นคือความจริงมั้ย ....

ไม่มีใครรู้ เกินขีดจำกัดของมนุษย์ทั่วไปจะรู้ได้

จะพ้นทุกข์ไหม? เมื่อรู้ความจริงแท้ ก็แก้เหตุได้แต่ไม่รู้....นี่สิคือปัญหาของมนุษย์

พูดได้แต่ทำไม่ได้? ทำไม ...มิติความจริง มันซับซ้อนมาก... เป็นลำดับชั้น

ถามว่า มนุษย์ป่วยเพราะอะไร? ความรู้ที่มนุษย์มี ก็จะมีคำตอบต่างๆ นาๆ แล้วมันคือความจริงไหม? ไม่เลย.... แก้ได้เพียงตามที่เห็น
แก้จากเหตุจริงไหม? ไม่เลยแก้ตามสิ่งที่เป็น
พ้นทุกข์ไหม ... แค่ระดับหนึ่งเท่าที่เห็น
พ้นทุกข์ในระดับหนึ่งตามที่แก้

แต่แก้จากเหตุไหม? No way ผู้ที่แก้ได้ต้องเป็นผู้ที่มองเห็นหลายมิติ ....เธอ(มนุษย์) ยังมองเห็นแค่มุมมองเดียว ...แล้วอาจหาญบอกว่าความรู้ของฉันยิ่งใหญ่แล้ว ความรู้ของฉันทำให้พ้นทุกข์แล้ว .....

เธอไปดู ...ในธรรมชาติที่เธอเห็นเธอรู้จากตำรา แล้วหลงคิดว่าถูกต้องแล้ว มันแตกต่างจากความจริงมาก ... แต่เธอสามารถเรียนรู้สิ่งที่ปรากฎบนโลกได้ เพราะโลกคือภาพของผลที่ปรากฎในแต่ละมิติ

เช่น เธอทั้งหลาย ปรารถนาอยากไปนิพพานกันใช่ไหม .... ได้สิ ไปอยู่วัดสิ นั้นล่ะคือ มิติพิเศษที่ถูกสร้างขึ้นมา แต่เธอจะไปได้ เมื่อเธอมีคุณสมบัติมีมุมมองที่สอดคล้องสอดรับกับมิติพิเศษ หรือเรียกง่ายๆว่า ภาวะการระลึกอารมณ์ของคุณอยู่ในระดับเดียวกัน ...

เช่น คุณจะไปอยู่วัด คุณก็จะต้องเข้าหาเจ้าอาวาส ผู้ดูแลวัด เพื่อขออนุญาต และต้องปฏิบัติตามกฎของวัด เป็นต้น

จะไปนิพพาน จึงหมายถึงคุณ กำลังจะไปอยู่วัด ทำได้ไหมล่ะ? นี่คือตัวอย่าง ...

คุณ อยากเป็นอริย หรือเป็นศรีอริย หรือศรีอาริย์
ศรี..หมายถึงที่หนึ่ง (ศรีภริยา คือ เมียหลวง)
ศรี จึงหมายถึง อะไรก็ ระลึกเอา
อริย... ก็คล้ายผู้ประเสริฐ มิติที่ประเสริฐ แต่ไม่ใช่พระ หากบวชก็จะเรียกว่าพระ
และหามี ศรี นำหน้าก็คือผู้ที่เป็นเลิศในมวลมนุษย์ทั้งปวง เรียกว่า มหาจักรพรรดิ์ หรือ เรียกว่า ผู้เป็นเลิศในมวลมนุษย์ทั้งในรูปธรรมและนามธรรม

บอกเล่ามาทำไม? ก็ คุณอยากไปมิติไหน คุณอยากเป็น พระ หรือ อริย ... นี่ก็แล้วแต่มิติที่คุณจะไป

คุณอยากเป็นอะไร? หากคุณไม่นอบน้อม คุณก็จะเป็นไม่ได้ เพราะในความจริงจะมีกฎของมัน ...ก็อยากเป็น อยากมี ก็ทำไม่ได้ ตามใจตน ต้องดูความจริงที่ปรากฎหรือกำหนดไว้ด้วย

เช่น ในนิพพาน ก็จะมีผู้เป็นใหญ่ในนิพพาน คุณจะเข้า จะออก ต้องขออนุญาต คุณต้องปฏิบัติตนนอบน้อมในกฎ ไหม คุณไม่นอบน้อมคุณก็เข้าไม่ได้ ออกก็ไม่ได้ เพราะนิพพาน คือ วัด เป็นเขตของวัด .... เขตมิติพิเศษ เป็นเขตที่ถูกสร้างแทนการกลับบ้าน หากข้างในวัดมี กุฏิ เหลือให้พัก ก็อาจจะได้รับอนุญาติเข้ามาพัก . หากแค่เพียงแว้บๆ ชั่วคราว ก็เหมือนอารมณ์คนอยากเข้าวัดไปฟังธรรม แค่นั้น... ไม่มีอะไรมากเลย ....ฉันไม่ไปหรอก อยู่บ้าน นอนอยู่บ้านสบายกว่าเยอะ ... ไปแล้วต้องทำวัตร ...สวดมนต์ ...น่าเบื่อ

 

​

สวัสดีครับ เพื่อนที่รักทุกๆท่าน
ขอมอบดอกไม้นี้ เพื่อเป็นกำลังใจแด่เพื่อนทุกๆท่านครับ สิ่งที่นำผมมาสู่กระทู้นี้อีกคือ

• HTTPSของเว็บพลังจิต
• NOTICEเตือนว่ามีการโพสต์ในกระทู้นี้

ขอขอบคุณสำหรับความคิดเห็นของทุกๆท่าน กระทู้นี้มีพลังงานที่ดี เข้ามาอ่านแล้วไม่เครียด
ด้วยรัก:วสุธรรม

 

เมื่อกระทู้นี้มีพลังงานที่ดี แสดงว่าพลังงานได้ถูกเติมเต็มแล้ว

ข้าพเจ้าเชื่อในความเป็นอิสระในการเลือกหนทางของตนเอง ไม่ว่าท่านต้องการจะกลับบ้าน หรือท่านอยากจะไปนิพพาน ทั้ง 2 ทางเลือกจึงอยู่ที่การตัดสินใจของทุกๆท่าน ในการเมตตาตนเองให้พ้นทุกข์จากวัฏสงสาร

ขวาก็คือความจริง ซ้ายก็คือความจริง ทุกสรรพสิ่งล้วนคือความจริง และมีโลกแห่งความเป็นจริงเป็นของตนเอง ทุกสรรพสิ่งล้วนเกิดขึ้นจากความคิด จากการกระทำทางจิต ที่เป็นเหตุมาก่อนหน้านั้นทั้งสิ้น. ปัจจุบันจึงเป็นผลมาจากเหตุในปัจจุบันขณะอื่นๆ

สิ่งที่คุณ 999phudit ได้นำมาโพสต์ไว้อย่างเป็นเอกลักษณ์ จึงเป็นคำขยายความต่อสัจจะของคุณ หนุมานผู้นำสาร ในการใช้สัจจะเมตตาตนเองให้พ้นทุกข์ เพราะทุกมิติ ล้วนมีโลกแห่งความเป็นจริงของตนเองทั้งสิ้น แตกต่างเพียงแค่ระดับความถี่ของคลื่นในมิตินั้นๆ. เมื่อเราปรารถนาอยากจะไปอยู่ในโลกแห่งความเป็นจริงแห่งใดเราก็ต้องปรับจูนคลื่นของเราให้ตรงกับมิตินั้น ๆ. เพราะแต่ละมิติก็มีกฎของตนเอง ดั่งเช่นวัดก็มีกฎของวัดเป็นต้น

ผู้ปรารถนาจะกลับบ้าน ก็ต้องศึกษาถึงคุณสมบัติของบ้านที่เป็นพลังงานต้นกำเนิด ว่าต้อง ประพฤติปฏิบัติอย่างไร จึงจะได้กลับเข้าไปอยู่ในบ้านอีกครั้ง

ผู้ปรารถนาพระนิพพาน ก็ต้องศึกษาถึงคุณสมบัติ ของผู้ที่จะเข้านิพพานได้อย่างถูกต้องชัดเจนเช่นกัน

หากเราปรารถนาหนทางใด จึงมีความจำเป็นต้องเข้าไปศึกษา ปฏิบัติ และสร้างการกระทำใหม่ ให้สอดคล้องกับเป้าหมายและหนทางที่ตัวเองเลือกไว้ และเติมเต็ม

ข้าพเจ้าไม่ใช่ผู้รู้ แต่เป็นผู้ที่กำลังเรียนรู้เหมือนกับทุกๆท่าน ดังนั้นการเรียนรู้ทั้งหลาย จึงเป็นเรื่องที่ทุกท่านจะต้องขนขวายหาความรู้มาเติมเต็มตนเอง ด้วยความเข้าใจอย่างถ่องแท้ แต่สิ่งหนึ่งที่เหมือนกัน ของผู้ที่ปรารถนากลับบ้านและพระนิพพาน นั่นคือ ความรักความเมตตา อันไม่มีประมาณอันไม่มีเงื่อนไข และนั่นหมายถึงการไร้ซึ่งอัตตา และแบ่งแยก

ขณะนี้พลังงานทั้ง 2 ด้านในกระทู้นี้ได้สมดุลย์กันแล้ว..

ดอกไม้ที่หายไปได้กลับมาแล้วๆๆ

ด้วยรัก
JINTAWADEE

ปิดกระทู้

 

การ re-set พลังงาน ยังไม่เสร็จสิ้น การเชื่อมต่อระหว่างช่องว่างยังดำเนินต่อไป

Welcome to

NEW! NEW AGE PLUS+ พลังงานใหม่ พลังงานอิสระ RE-POST

 

สวัสดี ซ้ายก็ดี ขวาก็ดี บนก็ดี ล่างก็ดี ลึกก็ดี ตื้นก็ดี ทุกมิติล้วนมีดีที่แตกต่างกัน แต่ในความแตกต่างนั้นก็มีความเหมือนกันที่บรรจุอยู่ อยู่ที่ว่ามองกันที่ระดับใด เห็นกันที่ระดับไหน ระดับการมอง ระดับการเห็นย่อมไม่เหมือนกันเป็นธรรมดา สิ่งที่เห็นอาจจะไม่ใช่สิ่งที่มอง สวัสดีอีกครั้งกับความธรรมดาที่ไม่ธรรมดา ความรักธรรมดานั่นแหละ จะสร้างสิ่งที่ยิ่งกว่าธรรมดา ^^

 

อาหารที่ตั้งไว้ในอากาศ...
อาหารที่ตั้งไว้ในภาชนะสูญญากาศและแช่เย็น...

อาหารไหนจะขึ้นรา หรือบูดเน่าเสียก่อนกัน
เธอได้อะไรจากความหมายข้างต้น

อากาศ ใน บรรยากาศ

เธอทั้งหลายอยู่ในอากาศ ไหม?
แล้วเธอว่า...ตัวเธอทั้งในและนอกจะเป็นอย่างไร?

ทำไมจึงไม่บูดไม่เน่าเหมือนอาหาร?
เพราะอะไร? รู้มั๊ย

และทำไมบางคนจึงบูดเน่า(ป่วย) เพราะอะไรรู้ไหม?

รู้ยังบางคนจึงป่วย รู้ยังอาการป่วยเกิดจากอะไร?

 

เป็นเพียงตัวอย่าง เท่านั้น ...มีอะไรที่มากกว่านั้นและโหดร้ายยิ่งกว่า

ทุกข์ของมนุษย์เกิดจากอะไร?

อะไรคือกิเลส .... ฉันไม่ตอบจุดนี้ เพราะมันไม่ใช่ ....เพราะมันไม่ถูกต้องกับความจริง ....
เป็นเรื่องปั้นคำ แต่งคำขึ้นมา

กิเลสคืออะไร?
ทุกข์คืออะไร?

 

เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป เป็นสภาวะธรรม ธรรมชาติ ไม่ป่วยก็เป็นธรรมชาติ ป่วยก็เป็นธรรมชาติ ขาดก็ต้องเติม เกินก็ต้องลด เพื่อให้เกิดความสมดุล เมื่อสมดุลน้ำหนักก็พอดี ร่างกายก็พอดี จิตก็พอดี สภาวะก็พอดี ไม่หนัก ไม่เบา ไม่โคลง ไม่เคลง ...ปัจจัยที่ทำให้ขาด ปัจจัยที่ทำให้เกิน ล้วนกำเนิดจากตัวตนทั้งสิ้น...จิตก่อเกิด กำเนิดธาตุขันธุ์ ล้วนสร้างสรรค์ เกิดก่อทอเป็นสาย ผนึกรวมชาติภพ ทบพันกาย เกิดถึงตายคลายหรือผูกปลูกกันเอง...

 

การดำรงอยู่ของมนุษย์ หากปกติดีก็จะไม่ป่วย
แต่เมื่อป่วยจึงไม่ปกติ

ป่วยไม่ใช่ธรรมชาติ เข้าใจผิดแล้ว?
ป่วยเป็นเรื่องผิดปกติ เพราะผิดสมดุลจึงผิดปกติ
และจึงป่วย ดังนั้น ป่วยไม่ใช่ธรรมชาติแน่นอน

การป่วย เพราะผิดสมดุล จึงต้องมีเหตุ
เหตุเกิดเมื่อไหร่ เหตุเกิดก่อนผลแน่นอน

นั้นคือ อดีตทำอะไรมาจึงมีผลแบบนั้น
เหตุคือทำความไม่สมดุลเกิดขึ้น
ความไม่สมดุลเกิดขึ้นเพราะทำผิดปกติ
ทำอะไรที่ผิดธรรมชาติ หรือผิดต่อธรรมชาติ
ดังนั้นป่วยจึงเป็นเรื่องผิดธรรมชาติ

มองไม่ออกเลยว่า ป่วยเป็นเรื่องธรรมชาติ?

ป่วยเป็นเรื่องของการเบียดเบียน ประเภทหนึ่ง

หากจะโต้แย้งกลับ

ตอบถามตรงนี้ คนที่ป่วยเป็นโรคมะเร็ง
เป็นมะเร็งคือ ธรรมชาติ หรือเปล่า ?
หากคิดว่า หน่วยผิดปกติมะเร็งเป็นสิ่งรังสรรค์
จากธรรมชาติ เป็นเรื่องธรรมชาติ ก็ควรหยุดรักษา .... อาการป่วยของมนุษย์ ไม่ว่าจะโรคอะไร... เป็นเรื่องของการผิดปกติ ทุกกรณีไม่มีเว้น

เหตุจากอะไร? เกิดจากความไม่สมดุลของร่างกาย

เหตุความไม่สมดุลของร่างกายเกิดจากอะไร?
เกิดจากการกระทำความผิดความไม่ดีมาก่อน

เหตุจากการกระทำความไม่ดีมาก่อนเกิดจากอะไร? เกิดจากการตกเป็นทาส หรือถูกครอบงำโดย.......... และกระทำผิด หรือเรียกว่ายินยอมกระทำผิดตามความคิดใฝ่ต่ำ
จนกระทั่งความชั่วร้ายครอบงำในหน่วย...เป็นเชื้อที่ฝั่งในหน่วยตนเอง ... เกิดมาใหม่จะมีความชั่วติดมาด้วยไหม? (เพราะยินยอมทำชั่วแล้วในครั้งอดีต)

เมื่อมีหน่วยชั่วเลว ติดมาด้วยนั่นหมายถึง มีเชื่อมีมิติที่จะเรียกหาพวกเดียวกันมาเบียดเบียนในร่าง .... แล้วมันคือธรรมชาติตรงไหน?... เห็นมีแต่การเบียดเบียน

 

ป่วยไม่ใช่เรื่องของกรรม
ป่วยไม่ใช่เป็นเรื่องของธรรมชาติ
ป่วยเป็นเรื่องของการเบียดเบียน

เพราะเหตุจากอดีต .....

เหตุจริงแท้ เป็นเรื่องของการเบียดเบียน

เบียดเบียน เพื่อให้มีการกระทำผิด
เบียดเบียน เพื่อที่จะเอาพลังงาน
เบียดเบียน เพื่อที่จะขยายเผ่าพันธ์
เบียดเบียน เพื่อที่จะครอบงำให้ผลิตทรัพยากร(ขโมย)

ใครเบียดเบียน? ....

 

สวัสดีพี่ๆ พี่จินตวดี พี่เป็ดน้อย พี่หนุมาน และเพื่อนๆค่า หนูชอบดนตรี เพราะดนตรีเป้นสื่อกลางระหว่าง มนุษย์และ ธรรมชาติ ในบนไดเสียง เราจะเห็นความสัมพันธ์ ระหว่างโน๊ต ที่อยู่ในบรรไดเสียงและธรรมชาติ เพลงและการระเร่นเครื่องดนตรีจึงเป็นการทำสมาธิที่ดีที่สุด ในการติดต่อระหว่างมนุษย์และพระเจ้า หรือธรรมชาติ สําหรับหนูดนตรียังสามารถอยู่ในทุกยุคสมัยโดยไม่ถูกทำลาย และในดนตรี ยังบอกถึงประวัติศาสตร์ซึ่งไม่ว่าเราจาเขียนเปลี่ยนไปอย่างไร ความจริงในดนตรี ย่อมฟ้องถึงหลักฐานที่แท้จริงของมนุษย์ วิวัฒทางดนตรี จึงสามารถบอกเรื่องราวที่มีอยุ่จริง อาทิเช่นเพลง ลาวดวงเดือนซึ่งเป็นหลักฐานถึงสิ่งที่เจ้าเพ็ญมีต่อ เจ้าชมชื่น ดนตรีสําหรับหนุ เสมือนเป็นภาพสะท้อน ของทั้งหมด ดนตรีอินเดีย จะมีมนต์ซึ่งใช้แทนตัวโน๊ต เช่นเดียวกับดนตรีไทย ซึ่งทำให้เราได้เห็นว่า รากเดิมของดนตรีนั้นมีที่มาจาก คำว่ามนต์ ซึ่ง มนต์ หรือโน๊ตนั้น ก็มาจาก สัจจะ ซึ่งถูกเปล่งออกมา เป็น มนต์ การภาวนา โดยอาศัย มนต์ จึงเป็นการภาวนาที่หนูชื่นชอบที่สุด

ในคัมภีร์พระเวทโบราณ กล่าวว่า ฮะรินาม สังคีตทาน เป็นหลักปฏิบัติทางจิตวิญญาณสำหรับ กลียุค และในปัจจุบันมีวิธีมากมาย ที่จะนำมาปฏิบัติเพื่อหนทางพ้นทุกข์ หนูคิดว่า แนวดนตรีแต่ละประเภท ทำให้เราสามารถรู้ถึง ขอบเขต ของเวลาและ รูปแบบวิธีคิดในยุคน้นๆได้ โดยที่ดนตรียังสามารถทำหน้าที่ เสมือนความรักที่อยุ่เหนือการควบคุมของเวลาได้อีกด้วย ความไร้สาระแต่เต้มไปด้วยแก่นสาร ของดนตรี จึงทำให้ไม่ว่า สงครามจะทำลายสิ่งใดไปจากยุคใดๆ ดนตรีก็ยังเก็บสำเนียงของแต่ลยุคน้นไว้

หนุคิดว่า ท้งนิทาน และตำนาน รวมถึงดนตรี มีสิ่งที่ บรรพบุรุษ soul of asia ได้เก้บไว้ และรอให้เราได้ค้นหา เพื่อไขคำตอบของภูมิปัญญาซึ่งเคยถูกรุกราน ด้วยสงครามมาก่อน หากวิทยาศาสตร์คือคำที่ใช้อธิบาย ธรรมชาติของฝั่งตะวนตก พระเวทก้อาจเป็นวิทยาศาสตร์ของฝั่งตะวันออกเช่นกันค่า หากนิวเอจคือ ยุคที่ทุกอย่างมารวมกัน ความจริงแลแก่นแท้ของแต่ลศาสนาก็ควรได้รบการคลี่คลายค่า

 

มีสถานที่หนึ่ง ผู้ที่กระทำได้ เขาจะมา
ผู้ที่ไปถึง จะกระทำ ได้ สำเร็จ

 

Welcome คุณ ณ. หรือ HO หรือ น้ำ ของข้าพเจ้ากลับคืนสู่

NEW! NEW AGE PLUS+ พลังงานใหม่ พลังงานอิสระ RE-POST

ด้วยรัก

JINTAWADEE