เรื่องเด่น นานาเรื่องราวหลวงพ่อพระราชพรหมยาน

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย Wannachai001, 16 กันยายน 2014.

  1. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,844
    กระทู้เรื่องเด่น:
    110
    ค่าพลัง:
    +225,701
    DSC05175ห.jpg 111-2.jpg

    มีอยู่คราวหนึ่ง พระตอนเย็นนั้นจะฉันพวกน้ำปานะ ก็เอากระติกน้ำร้อนมาวางไว้ที่บันไดคิดว่าหลังกรรมฐานแล้วขากลับจะเอากระติกกลับกุฏิด้วย เมื่อท่านจะสอนพระกรรมฐานก็จะต้องเดินผ่านทางนั้น

    เมื่อท่านเห็นกระติกน้ำร้อน สมัยก่อนเป็นแก้วข้างในถ้าหล่นก็จะแตก เมื่อท่านขึ้นไปเทศน์ท่านก็จะบอกเทศน์เรื่องกระติกเลย เรื่องสติสัมปชัญญะว่าอะไรควรไม่ควร ของนั้นยังไม่เสียหาย แต่อาจเสียหายเมื่อภายหน้า

    คือกระติกอาจไว้ที่เชิงบันได สุนัขเดินผ่านไปผ่านมาอาจจะกระทบกระทั่ง ทำให้ล้มได้ จะเกิดของเสียหายของญาติโยมถวายเป็นของส่วนตัวก็ดี ด้วยเงินที่เขาต้องแลกด้วยแรงกายมันสมอง เอาทรัพย์ส่วนนี้ไปซื้อวัตถุมาถวาย

    เพื่อให้พระได้ใช้ได้ฉันด้วยความสะดวกสบาย แต่พระนั้นขาดสติขาดสัมปชัญญะ ไม่รู้ค่าของของว่า เขาถวายด้วยความเคารพรัก ด้วยศรัทธาด้วยแรงกายและแรงใจ แต่เราไม่รู้จักว่าจะรักษาของนั้นให้นาน เรียกว่าขาดปัญญา ขาดความคิด ขาดสติสัมปชัญญะ ไม่ดูแลว่ามันจะเสียหาย

    ท่านบอกว่าถ้าขาดสติอย่างนี้ก็คงไม่ใช่พระ ฆราวาสชั้นเลวเขายังไม่ทำกัน พอเทศน์จบพระที่อยู่ในอาคารตึกเสริมศรีก็นั่งกันเหงื่อแตก ทำให้พระได้เข็ด เข็ดขั้นอายญาติโยม เพราะญาติโยมก็อยู่ในตึกด้วย นั่งกรรมฐานร่วมกัน การสอนของท่านมีหลายแบบ หลายแบบมาก สอนให้เราระมัดระวังว่าจะเสียหายหรือเป็นอะไรอีก มาอยู่กับท่านนานๆ เราทั้งรักและเกรงกลัวว่า ครูบาอาจารย์นั้นจะตำหนิอีก ก็ระมัดระวังจิตระวังกาย เพราะครูบาอาจารย์นั้นรู้จริง เราจะไปทำผิดที่ไหนโดยไม่ต้องบอกใคร เมื่อท่านขึ้นเทศน์หรืออบรมกรรมฐานก็จะเอามาเทศน์มาสั่งสอน

    มีอยู่คราวหนึ่ง พระผู้ซึ่งบวชใหม่ห่วงโลก คือโลกเขาคุยกันยังไง พระก็คุยกันอย่างนั้น คุยกันสารพัด โดยที่ครูบาอาจารย์ไม่อยู่ก็ดี หรืออยู่ห่างไกลก็ดี พวกเราก็จะคุยกันสารพัดเรื่อง พอตอนเย็นก็มานั่งกรรมฐานกันปรกติ วันดีคืนดีท่านก็จะอบรมพิเศษสักครั้งหนึ่ง แต่นี่ก็บ่อยนะ บ่อยครั้งแต่ว่าเป็นพิเศษนั้น

    ท่านพูดให้ฟังว่า พระก็ดี ญาติโยมก็ดี พระถือว่าเป็นผู้ประเสริฐ ท่านก็อบรมไปเรื่อยๆ ประเสริฐก็อยู่ที่มีศีลดีบริสุทธิ์ มีใจสงบระงับจากนิวรณ์ มีปัญญาลดละกิเลส มีสังโยชน์ 3 เป็นต้น

    ได้ก็ถือว่าเป็นผู้ประเสริฐแล้ว แต่พระของเราหรือผู้ห่มผ้าเหลือง หัวโล้นห่มผ้าเหลืองยังทำตัวเหมือนฆราวาส คือชอบพูดสิ่งที่ไม่เกิดประโยชน์ กับการปฏิบัติธรรม เรียกว่าเดรัจฉานคาถา อย่างนี้จะเรียกว่าเป็นผู้ประเสริฐไม่ได้ แม้นจะห่มผ้าเหลืองก็ถือว่าไม่ใช่พระเป็นผู้ขวางแห่งธรรม พูดเป็นเชื้อโรคก็พูด พูดเหมือนสัตว์เดรัจฉาน จะเป็นพระได้ยังไง เห็นหัวก็รู้แล้ว ได้ยินชื่อก็รู้แล้วว่าเป็นสัตว์นรก ตายแล้วก็ต้องไปตกนรก เมื่อครูบาอาจารย์พูดเฉียดหัวไป ภาษาชาวบ้านเขาเรียกว่า เฉียดหัวใกล้ตัวเข้ามาทุกที นี่เราคุยกันอยู่ที่ไหน ในป่าในที่ทำงานครูบาอาจารย์ก็รู้

    กลางคืนเทศน์ท่านก็จะเอาที่เราพูดนั้นมาสอนเราว่าพูดอย่างนี้มันไม่ดี ฝึกจิตต้องภาวนาอย่างนั้นอย่างนี้ถึงจะดี เมื่อเทศน์ตำหนิบ่อยๆความเกรงกลัวก็เกิดกลัวครั้งหนึ่งแล้วก็ไม่ได้กลัวตลอดไป ครั้งใหม่ก็จะทำอีก ทำในนี้หมายความว่าระงับนิวรณ์จากใจไม่ได้

    เมื่อครูบาอาจารย์ตำหนิอย่างนี้ก็ไม่ค่อยเข้าหน้าท่าน เพราะวัวมันสันหลังหวะเสียแล้ว พอครูบาอาจารย์เข้ามาใกล้ ก็ต้องหลบเพราะแผลมันใหญ่ กลัวท่านจะตำหนิอีก เป็นการกลัวกันจริงๆ เมื่อครูบาอาจารย์ตำหนิอย่างนี้แล้ว รุ่งขึ้นเราก็คุยกันใหม่ว่าผมบอกแล้วว่า ท่านนี่คุยอย่างนี้โดนเลยเห็นไหม เมื่อคืนโดนเลยอย่าทำอีกเลยอย่างนั้นอย่างนี้ เราก็คุยกันภายในไม่ได้บอกใคร

    พอตกคืนที่สองท่านก็เทศน์ใหม่อีก ท่านก็บอกว่าที่พูดไปนี่ไม่ได้หวังเพื่อความตำหนิ หวังว่าจะเอาไปเพื่อแก้ตัวหรือประพฤติปฏิบัติ ถ้าพูดอย่างนี้แล้วก็คิดว่าเป็นสิ่งตำหนิคนนั้นคนนี้นี่ไม่ถูก ถ้าคิดอย่างนี้ก็เลวที่ถูกจริงๆต้องดูตัวเอง

    เมื่อพูดไปแล้วให้ไปประพฤติปฏิบัติก็ต้องดูตัวเอง ไม่ใช่โทษคนนั้นคนนี้เลว ตัวเราน่ะเลวแล้วดูตัวเองเสียบ้างว่านี่มีศีลไหม ศีลครบบริบูรณ์ไหม วันนี้นิวรณ์กินใจหรือเปล่า ระงับนิวรณ์ได้ขนาดไหน วันนี้พยายามละสังโยชน์ตัวไหนบ้างไหม ให้คิดโจทย์ความผิดของตัวเอง ไม่ใช่ไปโจทย์คนอื่น โจทย์ความผิดของคนอื่นแล้วมันเลวหาที่สุดไม่ได้

    เพราะมันไม่เกิดประโยชน์กับตัวเอง ถ้าจะเกิดประโยชน์ก็ต้องโจทย์ความผิดของตัว และแก้ความผิดนั้นทันทีถึงจะถูกต้อง ไอ้คนที่โจทย์ความผิดของผู้อื่นนะมันเลวหาที่สุดไม่ได้อยู่แล้ว คืน 2 ท่านก็เทศน์ซ้ำเข้าไปอย่างนั้น ตานี้พวกเราจะเรียกพวกอะไรดี

    เรียกว่าพวกลูก ลูกลิงก็คงจะถูก เพราะลอกแลกมาก เคารพท่านเหมือนพ่อ ก็ให้หงอยอย่างกะอะไรละ ลิงเป็นไข้ (หัวเราะ) เหมือนกับสัตว์ไก่เป็นไข้ หัวตกไปไหนก็คุยกันไม่ค่อยออก มาอยู่กับครูบาอาจารย์นี่ท่านรู้จริง ฉะนั้นเราจะคิดอะไร คิดสิ่งที่ไม่ดีไม่งาม ท่านจะคอยประคับประคอง ตำหนิติเตียนให้เราลดละ


    หลวงพ่อพระราชภาวนาโกศล(อนันต์ พทฺธญาโณ)

    (จากหนังสือประวัติหลวงพ่อพระราชพรหมยาน หน้า 65-67)

    IMG_20180211_074923.jpg IMG_20180211_074707.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 เมษายน 2018
  2. แพน119

    แพน119 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2013
    โพสต์:
    166
    ค่าพลัง:
    +10,122
    พระคำข้าว 1.jpg พระคำข้าว 2.jpg พระหางหมาก 1.jpg พระหางหมาก 2.jpg หลวงปู่ปาน 1.jpg หลวงปู่ปาน 2.jpg
     
  3. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,844
    กระทู้เรื่องเด่น:
    110
    ค่าพลัง:
    +225,701
  4. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,844
    กระทู้เรื่องเด่น:
    110
    ค่าพลัง:
    +225,701
    DSC03808.jpg IMG_20170524_132758.jpg IMG_20170524_132828.jpg
     
  5. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,844
    กระทู้เรื่องเด่น:
    110
    ค่าพลัง:
    +225,701


    วิหาร100ม..JPG

    เรื่องพระศพพระเดชพระคุณหลวงพ่อท่านช่วยต่ออายุได้



    เมื่อต้นเดือนมีนาคม 2536 ข้าพเจ้าไปรดน้ำศพคุณสนิทเจ้าของร้าน "สนิทพานิช" ในตลาดปากเกร็ด ที่วัดปากเกร็ด รดน้ำศพแล้วนั่งคุยกับเจ้าภาพบ้าง ผีที่วัดบ้าง คอยเวลาอันสมควรที่จะลากลับบ้าน นั่งคุยกับผีในใจเรื่อยๆ กำหนดถามหลวงพ่อท่านบ้างและองค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านด้วย คือทำใจสบายๆขึ้นมโนมยิทธินั่นแหละ ดูใจคนที่เขาไปรดน้ำศพกราบศพ ดูว่าใจเขาเป็นอย่างไร ถ้าตายตอนนี้จะเป็นอะไรอยู่ที่ไหน ตัวเราเองต้องตาย ตายเมื่อไรเราสบายเมื่อนั้น ขึ้นพระนิพพานเลย ขณะที่กราบศพหรือไปงานศพข้าพเจ้าจะนึกถึงที่หลวงพ่อท่านคุยให้ฟังว่า ท่านถามหลวงปู่ปานว่าศพผู้หญิงคนนั้นที่พระไปกราบศพพร้อมหลวงปู่ปาน หลวงปู่ปานจะกราบทุกศพ ท่านกราบด้วยหรือคล้ายๆ ไม่น่าจะกราบอะไรงี๊ (ในหนังสือหลวงปู่ปานมี) หลวงปู่ปานบอกว่า ฉันไม่ได้กราบศพ ฉันกราบสัจจธรรมองค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่ว่าคนทุกคนเกิดมาต้องตายเหมือนกันหมด

    กำลังนั่งเพลินๆ สำรวมกิริยาด้วย เพราะนั่งเก้าอี้ข้างหน้าที่เขาสำหรับให้แขกผู้ใหญ่นั่ง เรานั่งต้องทำเป็นผู้ใหญ่ที่ดีด้วย เสียงพระท่านบอกว่าต่อจากศพคุณสนิทนี้ก็จะเป็นคนนั้น ชี้มือไปที่คุณเหม มณีจักร เจ้าของร้านขายของทุกชนิด "กุลปราณี" ในตลาดปากเกร็ดใกล้ๆร้านคุณสนิท

    ข้าพเจ้าถามว่าถ้าตายจะไปไหน ท่านบอกว่าเป็นสัมภเวสี (หมายถึงคนตายที่ยังไม่หมดอายุ ส่วนมากจะเป็นตายโหง)

    เรียนถามท่านว่ามีวิธีแก้ไหม ?

    ท่านว่ามีโดยให้เจ้าตัวเขาเองไปกราบศพหลวงพ่อท่านที่มหาวิหาร 100 เมตร ให้ทำสังฆทาน ให้บูชาธูปแพเทียนแพ ขอขมาพระรัตรตรัยด้วย

    คนอื่นทำแทนไม่ได้ ที่วิหาร 100 เมตรวัดท่าซุง มีธูปเทียนแพจัดไว้จำหน่ายให้บูชาขอขมาพระรัตนตรัย ขอขมาพระศพหลวงพ่อด้วย แล้วแต่ใครจะให้เท่าไรก็ได้ เอาเงินใส่ตู้ที่ตั้งไว้ มีทั้งที่หน้าพระประธานและที่หน้าพระศพของพระเดชพระคุณหลวงพ่อท่าน รู้แบบนี้แล้วทำไงดี ถ้าไม่บอกเกิดเขาตายจริงๆ จะเสียใจ จะบอกเขาว่าเราเห็นผีพระพุทธเจ้าได้ คุยได้มันอายปาก

    พอดีเห็นคุณประไพ พงศ์เจริญ เจ้าของร้านทำผมติดกับวัดบ่อกำลังช่วยจัดน้ำเลี้ยงพระเลี้ยงคน เคยรู้และคุยกับข้าพเจ้าเรื่องผีเรื่องคนตายมาแล้ว ก่อนหน้าที่คุณสนิทจะตายประมาณ 4-5 วันข้าพเจ้าไปตัดผม อาไพ(เรียกตามลูก)ถามข้าพเจ้าว่าคุณสนิทจะตายเมื่อไร ป่วยเป็นปีๆแล้ว เข้าโรงพยาบาลบ่อยด้วย ตายก็ไม่ตาย หายก็ไม่หาย ข้าพเจ้าว่าวันตายท่านห้ามถาม ห้ามบอกไม่ได้ แต่รู้ว่าอยู่โรงพยาบาลครั้งนี้ตายแน่ไม่ได้กลับบ้าน ถ้าหมอเขาเอาสายยางออกเมื่อไรตายเมื่อนั้น จึงบอกว่าขอท่านพญายมราชช่วยสงเคราะห์เอาไป(ตาย)เร็วๆ อยู่แบบนั้นทรมาณทั้งคนป่วยและคนดี พี่จะช่วยกราบเรียนท่านพญายมให้ ไม่รู้ว่าท่านจะช่วยหรือไม่ ไม่รู้นะ

    อีก 3-4 วันข้าพเจ้านั่งสมาธิที่ห้องพระที่บ้านตอนหัวค่ำ เห็นคุณสนิทมาแล้ว ถามออกมาได้แล้วหรือ ดีนะที่ไม่ตกนรก จงโมทนาบุญที่ข้าพเจ้าทำแล้วทั้งหมดไปด้วยก็แล้วกัน รุ่งขึ้นหมอโกศลกลับจากบ้านริมน้ำ ปากเกร็ดซึ่งอยู่ไม่ไกลร้านคุณสนิท บอกว่าคุณสนิทตายแล้ว ให้เตรียมไปรดน้ำศพด้วยกัน เมื่อไปแล้วดันรู้ชะตาชีวิตคุณเหมขึ้นมาอีก อาประไพรับจะไปบอกให้เอง เมื่อบอกมีคนรับเรื่องไปแล้วก็วางเฉยได้

    วันที่ 13 มีนาคม 2536 คุณเหมไปทำบุญตามที่ข้าพเจ้าสั่ง พอเหมาะพอดีวันนั้นที่มหาวิหาร 100 เมตร มีการสรงน้ำพระบรมสารีริกธาตุของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ปฐม เสด็จมาประทานให้หลวงพ่อท่านเมื่อยังไม่สิ้น เพื่อบรรจุในพระเศียรของพระพุทธรูปองค์ปฐมในวันรุ่งขึ้น คือวันที่ 14 มีนาคม 2536 ซึ่งเป็นวันทำบุญประจำปีของวัดท่าซุง และสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ วัดสามพระยา เป็นองค์ประธานบรรจุ

    ถ้าใครพูดว่าพระพุทธรูปที่ไหนสวย ขอให้ไปดูพระพุทธรูปองค์ปฐมที่วัดท่าซุงก่อน รับรองไม่ผิดหวัง สวยที่สุด ข้าพเจ้าไปกราบทีไรเป็นปลื้ม นึกถึงว่าเราเคยช่วยช่างติดเพชรติดกระจกที่ฐานนั้นด้วย ติดไปได้พอสมควร คุณเนียรหัวหน้าช่างมาบอกว่าคุณป้าติดไม่ค่อยตรง ให้เด็กช่างจริงๆเขาติดดีกว่า งั้นหรือตอนนั้นไปกราบตอนกลางคืนเด็กช่างเขากำลังเร่งงานจะให้เสร็จทันงานวัด เราตั้งใจจะช่วยเด็กด้วยเอาบุญด้วย เด็กๆช่างรู้จักข้าพเพราะไปเป็นประจำ บางครั้งให้เงินเขาไปซื้อขนมเลี้ยงกัน ถ้างานยุ่งงานเร่ง วัดท่าซุงสร้างเสร็จเร็วไง อันไหนทำได้เราก็ช่วยเขาจะได้บุญด้วย ฝากฝืมือไว้บ้าง

    เมื่อคุณเหม มณีจักร ได้ไปทำบุญตามที่ข้าพเจ้าแนะนำแล้ว คือขอพระศพองค์หลวงพ่อท่านต่ออายุให้ อีกวันเดียวเกิดอุบัติเหตุ โดยนั่งอยู่บนเบาะรถมอเตอร์ไซด์จอดแล้ว มีรถเก๋งเบรคแตกพุ่งเข้าชนรถมอเตอร์ไซด์ คุณเหมกระเด็นตกจากรถ มีถลอกนิดหน่อยที่ไหล่ นอกนั้นไม่เป็นอะไรเลย รู้ข่าวโล่งอกไปที ช่วยชี้แนะให้เขารอดชีวิตมาได้ ถ้าไม่ไปกราบขอต่ออายุกับพระศพหลวงพ่อท่าน ป่านนี้ตายโหงเป็นสัมภเวสี พเนจรแถวตลาดปากเกร็ด ดีไม่ดีมาหลอกข้าพเข้าถึงบ้านด้วยว่ารู้แล้วไม่บอกกัน เราก็จะกลัวผี ขึ้นชื่อว่าผีหลอกใครจะไม่กลัว เก่งจริงซะเมื่อไร

    คุณเหมบอกว่าเห็นวัดท่าซุงใหญ่โตสวยงามมาก เห็นวัดอื่นเล็กๆ แล้วนึกสงสาร ข้าพเจ้าเป็นปลื้ม เพราะได้ร่วมสร้างร่วมทำบุญกับพระเดชพระคุณหลวงพ่อท่านมาเรื่อย ตั้งแต่ท่านอยู่กุฏิริมน้ำหลังเล็กๆ จนบัดนี้ท่านสิ้นก็ยังทำกับท่านพระครูปลัดอนันต์ เจ้าอาวาสต่ออีกจนกว่าจะตาย เพราะเห็นว่าที่วัดท่าซุงเป็นเนื้อนาบุญที่ดินดี ปุ๋ยดี น้ำดี หว่านเมล็ดข้าวเปลือกลงไปขึ้นได้งอกงามเร็วทันใจ รับรองไม่ใช่นาดอน นาหิน

    ขอทุกๆท่านจงโมทนาบุญกับข้าพเจ้า ข้าพเจ้าได้บุญอย่างไรขอท่านจงได้เช่นกัน


    (จากหนังสือบันทึกชาโดว์ เล่ม 5 หน้า 97 )

    IMG_20171212_150422.jpg IMG_20170919_133150.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 เมษายน 2018
  6. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,844
    กระทู้เรื่องเด่น:
    110
    ค่าพลัง:
    +225,701
    553835.jpg
    เรื่องศพหลวงพ่อ

    ดร.ปริญญา ถามว่า "ศพขององค์หลวงพ่อเป็นอย่างไรครับ เป็นองค์แก้วหรือยังครับ"

    เอ้อ นี่มีพระผู้ใหญ่ก็ถามเหมือนกัน วันนั้นไปวัดโพธิ์ ไปกราบท่าน ไปขอนิมนต์ท่าน ท่านก็ถามว่า เฮ้ย..นันต์ ได้ข่าวว่าหลวงพ่อแกเป็นแก้วแล้วเหรอ ครับ แก้วนอกครับ (หัวเราะ)

    เป็นแก้วนอกอยู่ตอนนี้ ในยังไม่เป็น แต่ว่าอยากจะให้คนที่มั่นใจว่า บางคนก็เสียใจว่า เอ๊ะ ร่างกายหลวงพ่อไม่เห็นเป็นพระธาตุ ไม่เห็นเป็นแก้วอย่างเขาว่ากันเลย อะไรอย่างนี้ ไหนว่าเป็นพระอะไรต่ออะไร ก็จะพูดกันไป แต่จริงๆ ฟังที่ท่านพูดไว้เก่าๆ แล้วนี่ พระพุทธเจ้ามาบอกแล้วว่า ร่างกายของคุณ ไม่ได้เผานะ ไม่ได้เผา ฉะนั้นร่างกายของคุณจะไม่รับรองว่าจะเป็นแก้วหรือเป็นพระธาตุ แต่ว่าพระธาตุของหลวงพ่อนี่เสด็จมาก่อนนั้นแล้ว อย่างน้ำหมากก็ดี อะไรก็ดี เป็นพระธาตุมาแล้ว ไม่ได้เป็นที่วัด ถ้าเป็นที่วัดก็จะมีคนเขาหาว่าอุปโลกน์ขึ้นมา นี่มันเป็นที่อื่นที่บ้านชาวบ้านเขา แล้วท่านก็ยังมีชีวิตอยู่ แต่เป็นของที่ว่า พูดภาษาก็เรียกว่า พิเศษกว่าธรรมดา ที่ร่างกายยังไม่มรณภาพนี่ น้ำหมากเป็นพระธาตุขึ้นมาแล้ว แม้ว่าท่านมรณภาพแล้วนี่เห็นท่านพูดไว้ในเทปเหมือนกันว่า สมเด็จท่านมาบอกว่า ร่างกายของคุณไม่ได้เผา แต่ว่าจะไม่ได้รับรองว่าเป็นพระธาตุหรือไม่เป็นพระธาตุ

    ดร. ปริญญา พูดเสริมว่า

    "แต่ว่าท่านเคยบอกผมนะฮะ พูดกันตรงไปตรงมาเลยดีกว่า สองเรื่องด้วยกัน คือ ท่านบอกว่าท่านนี่เสกกระดูกท่านทุกวัน แล้วท่านก็บอกว่า กระดูกฉันนี่ไม่เป็นพระธาตุนะ ไม่เป็น บอกไว้เลย บอกว่า เสกไว้ให้คนบูชา อันนี้พูดไว้ตั้งนาน นานเต็มทีแล้ว"


    แต่เดี๊ยวนี้คนไปบูชามากผิดปกตินี่

    คนไปไหว้กันเยอะ เสาร์ อาทิตย์ อย่างกับมีงานเลย อย่างวันสงกรานต์นี่ไปดูได้เลย อย่างกับมีงานวัด รถเข้ามาทุกระยะเลย น่ากลัวจะต้องหยุดกรรมฐานสัก 2-3 วันเหมือนกัน ให้โอกาสคน

    "เอ๊ะ ถ้าหากว่าของหลวงพ่อเสกแล้ว ยังไม่เป็นพระธาตุใช่ไหม ก็แสดงว่าพระธาตุจะเป็นต่อไปก็จะเป็นเจ้าอาวาสองค์ถัดจากหลวงพ่อไปหรือเปล่า นี่"

    เป็นธาตุ แล้วก็เป็นเถ้า

    "แหม ยืนยันรับรองเลยนะ"

    ไม่ได้ เดี๊ยวจะไปแข่งครูบาอาจารย์ลำบาก เลยอธิษฐานให้เป็นเถ้า (หัวเราะ)

    หลวงพ่อพระราชภาวนาโกศล(อนันต์ พทฺธญาโณ)

    (จากคำบอกเล่า ธัมมวิโมกข์ พฤษภาคม 2538)

    0.00.jpg
     
  7. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,844
    กระทู้เรื่องเด่น:
    110
    ค่าพลัง:
    +225,701
    02.jpg
    คนตายโกหกคนเป็น



    เมื่อวันที่ 2 ธันวา 2537 ได้รับโทรศัพท์จากชลบุรี ขอรบกวนท่านผู้หญิงหน่อยหรือคุณหญิงอะไรเนี่ย ว๊าย ! อย่าเรียกอย่างนั้น ให้เรียกพี่ก็แล้วกัน ถือว่าเป็นรุ่นพี่ลูกหลวงพ่อเหมือนกัน ครับๆ เมียตายอยากรู้ว่าไปดีหรือมีความทุกข์อยู่ที่ไหน จะเล่ารายละเอียดให้ฟัง จึงบอกไม่ต้องบอกจะดูเองเดี๊ยวนี้เลย เธอขอให้นั่งสมาธิตรวจดู ไม่ต้องขี้เกียจ ดูง่ายๆ ไม่ยาก ขณะที่พูดใจขอเห็นคนตาย ทำใจสบายๆ เบาๆ เหมือนมโนมยิทธิครึ่งกำลัง เห็นโผล่มาแล้ว จึงบอกว่าเมียใบหน้าแป้นๆ ผมยาวแค่คอผิวสองสีรูปร่างสันทัด นิสัยกินอาหารง่ายๆ อะไรๆก็กินได้คือไม่เลือกมาก ถ้าไม่สังเกตุจะไม่รู้ว่าเธอชอบกินอะไรมากกว่ากัน ถามตอนนั้นว่าจริงๆแล้วชอบกินพวกปลาๆนึ่ง ปลาปิ้ง สามีบอกใช่


    ขอถามว่าเมียตอนจะตายมีอาการอย่างไร จึงบอกไปว่าก็คุณรู้อยู่แล้วจะมาถามทำไม ผมจะได้แน่ใจ จึงบอกว่าคุณกำลังพูดหน้าผากกว้างๆ ไม่ใช่หัวล้านนะ คางแหลมๆ ครับๆเชื่อ 100 เปอร์เซ็นต์ครับ


    จึงดูและบอกไปว่าเมียคุณอยู่ชั้นยามาเห็นแต่งชุดขาว นับถือหลวงพ่อมาก(พระราชพรหมยาน) แต่ไม่ได้ทำตามคำสอนอย่างจริงๆจังๆ ทำบ้างไม่ทำบ้าง อยากไปพระนิพพาน ตายแล้วจึงอยู่ยามา จะทำบารมีต่อบนนั้นไม่กลับมาเกิดอีก ถ้าทำจริงๆมากๆก็จะถึงนิพพานชาตินี้ ผมก็ได้ถวายสังฆทานให้แล้วที่วัดท่าซุงหรือบ้านสายลม ญาติพี่น้องฝันเห็นเมียไปหาแล้วร้องไห้ บอกว่าไม่มีเสื้อผ้าใส่แบบอดอยากอะไรงี๊


    ถามผีว่าทำไมทำอย่างนั้น ผีบอกว่าอยากจะให้ญาติพี่น้องเข้าวัดทำบุญบ้าง เป็นบุญของผู้ทำเอง ม่ายงั้นเขาไม่ทำบุญกัน จึงโกหกเขา นี่เป็นอีกหลายๆรายที่เคยพบ


    อีกรายหนึ่งรู้จักดีมาก เป็นคนดีทำราชการเป็นนายตำรวจใหญ่ ไม่กินไม่โกง ป่วยนาน ข้าพเจ้าไปเยี่ยมท่าน ท่านก็รู้จักหลวงพ่อดี เพราะอยู่บ้านใกล้ๆสายลม แต่ไม่ได้ไปทำบุญปฏิบัติด้วยที่บ้านสายลม ทำเองที่บ้าน


    ท่านรู้ว่าข้าพเจ้าเป็นครูสอนมโนมยิทธิของพระเดชพระคุณหลวงพ่อ เมื่อข้าพเจ้าไปเยี่ยมเมื่อไรก็พูดถึงธรรมะง่ายๆ ขอให้ตัดร่างกายอย่างเดียวว่าเราเบื่อแน่นอนไม่อยากกลับมาเกิดอีก โลกมนุษย์ทุกข์ทั้งนั้น บอกท่านเป็นคนดีใจดีเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ไม่เบียดเบียนใคร ไม่ทำให้ใครเดือดร้อน อันนี้เป็นบุญมากแล้ว ฉะนั้นอธิษฐานขอผลบุญได้เลย ภาวนาไปเรื่อยๆ ฯลฯ

    เมื่อตายแล้วไปเป็นพรหมชั้นที่ 7 แล้วก็ไปเข้าฝันลูกบ้าง ญาติบ้าง แบบว่าตายแล้วไม่สบาย ให้ลูกหลานทำบุญอุทิศส่วนบุญให้ เขาก็ทำกัน

    ข้าพเจ้าถามผี ท่านก็บอกว่าอยากให้เขาทำบุญได้บุญเข้าวัดบ้าง บุญจะได้สนองผู้กระทำเอง เรียกว่าคนตายโกหกคนเป็น เพื่อผลดีแด่ผู้ทำเอง

    สวัสดี


    ชาโดว์


    25 ธันวาคม 2537


    (จากหนังสือบันทึกของชาโดว์ เล่ม 5 หน้า 143-144)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 พฤศจิกายน 2019
  8. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,844
    กระทู้เรื่องเด่น:
    110
    ค่าพลัง:
    +225,701
    26872431_152209072108023_8523917186564096000_n.jpg

    ผีพุ่มพวง


    หลวงพ่อท่านพระราชพรหมยานไปจันทบุรี พักที่บ้านคุณสมบูรณ์ เวสารัชชานนท์เกือบทุกปี ถ้าท่านไม่ติดธุระที่อื่นหรือป่วยมากๆ ปีนี้ท่านไปวันจันทร์ที่ 15 พวกเราพี่น้อยกานดา พี่ชอ คุณแดง คุณปิ่นอนงค์ คุณนิภา ข้าพเจ้า เสริมทรัพย์ ติ๊ก จี๊ ไทร มณี วิชัย ไปก่อน 1 วันเพื่อจัดเตรียมที่พัก อาหาร ช่วยเจ้าของบ้านเช่นเคยทำมาทุกครั้ง รถ 2 คันเต็มพอดี ก่อนเดินทางหลายคนเพิ่งหายป่วยไม่ค่อยแข็งแรง เพราะปีนี้อากาศร้อนจัด ความดันโลหิตไม่ตีหน้ามืดง่ายๆ เพราะว่าโดนร้อนเส้นเลือดขยายตัวทำให้ความดันเลือดขึ้นไปเลี้ยงสมองไม่พอ จึงทำให้หน้ามืดหรือ งงๆ เวียนๆ ถ้านอนเลือดฉีดขึ้นเลี้ยงสมองได้ไม่เป็นไร พูดแบบชาวบ้านฟังง่ายๆ พวกเข้าวัดใจเย็นมักจะมีความดันโลหิตต่ำมากกว่าความดันสูง พบกันเลยรู้ว่าพุ่มพวง ดวงจันทร์ ดารานักร้องลูกทุ่งตายแล้ว ไปกราบพระพุทธชินราชก่อนตายด้วย ข้าพเจ้าไม่ได้ดูว่าตอนนั้นอยู่ไหน นึกว่ากราบพระก่อนตายคงได้ขึ้นสวรรค์ได้แล้ว จึงไม่สนใจ อาชีพเขาทำใหคนมีความสุขด้วยท่าเต้นเสียงเพลง ไม่ได้เลี้ยงชีวิตด้วยเอาชีวิตผู้อื่น เช่นเลี้ยงหมู ไก่ ปลา กุ้ง ฯลฯ ขาย

    คืนแรกที่บ้านคุณสมบูรณ์ คุณนิภา คงสุข ซึ่งนอนห้องเดียวกับข้าพเจ้า พี่น้อยกานดา พี่ชอ ฝันว่าไปที่โบสถ์พระพุทธชินราช พิษณุโลก เห็นผู้หญิงคนหนึ่งนั่งก้มหน้าซบกับแขนตัวเองร้องไห้ คุณภาถามว่าใคร ตอบว่าพุ่มพวงเอง ตื่นเช้าเล่าความฝันให้ฟัง ข้าพเจ้ากำหนดจิตดูบ้าง เพราะสงสัยว่าทำไมยังร้องไห้อยู่ตรงนั้น ได้คำตอบว่ายังตายไม่หมดอายุ เรียกว่าเป็นสัมภเวสี ตอนกราบพระนั้นกำลังทุกข์หนัก เรียกว่ากลุ้มใจตรงกว่า ทุกข์มันทุกข์ทั้งนั้น ถ้ายังมีขันธ์ 5 และป่วยด้วย พุ่มพวงกลุ้มใจมากเห็นพระเอาเป็นที่พึ่งความคับแค้นใจมันก็พุ่งขึ้นมา สิ่งที่นึกได้ขณะนั้นก็ขอแต่ให้พระช่วยหลุดพ้นจากความทุกข์คับแค้นใจเรียกว่าร้องให้ในใจ ตายแล้วจึงยังร้องไห้อยู่ตรงนั้น ข้าพเจ้ากับคุณนิภาเลยบอกจะทำสังฆทานให้ หลวงพ่อท่านไปถึงคืนแรกรับแขกและมีสอนกรรมฐานแบบมโนมยิทธิ ข้าพเข้าถวายสังฆทานเจาะจงให้พุ่มพวง 1 ชุดเลยมีพระพุทธรูป ผ้าไตร ของอื่นๆ อีกพอสมควร


    เคยเกี่ยวเนื่องกันถึงจะรับโมทนาบุญได้

    ถ้าคนตาย ตายแบบไม่หมดอายุหรือลำบาก ต้องเจาะจงทำบุญให้โดยเฉพาะคนเดียว อย่าบอกให้หลายๆคนที่เราคิดให้ จะไม่ได้รับหรือได้น้อย เพราะกำลังน้อยสู้คนอื่นทีมีกำลังมากกว่าแย่งเอาไปหมด

    หลายผีเคยฟ้องข้าพเจ้าว่า ญาติทำบุญให้ไม่เจาะจงเฉพาะเขา เขายังลำบากอยู่ ถามญาติจะเป็นเช่นนั้นจริงๆ การโมทนาบุญหรือช่วยกันได้จะต้องเคยสืบเนื่องกันมาก่อนในอดีตชาติหรือปัจจุบันชาติหรือสายเดียวกัน ไม่เช่นนั้นช่วยกันไม่ได้ อย่างเปรตญาติพระเจ้าพิมพิสาร มาร้องขอส่วนบุญ พระพุทธองค์บอกพระเจ้าพิมพิสารทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้จึงจะได้รับ แม้แต่พระพุทธเจ้ายังช่วยไม่ได้(คำพูดหลวงพ่อท่านเอง)

    ทีนี้พุ่มพวงทำไมพวกเราถึงให้ได้ เอาแค่ชาตินี้ร้องเพลงให้เราฟังชอบใจเป็นบุญแล้ว เมื่อพุ่มพวงป่วยที่โรงพยาบาลศิริราช หลวงพ่อท่านป่วยอยู่ห้องใกล้ๆ ห้องพุ่มพวง ห่างกัน 2 ห้อง ข้าพเจ้าไปกราบเยี่ยมหลวงพ่อท่าน ยังเห็นห้องและญาติพุ่มพวง นึกสงสารคิดว่าถ้าบุญเรามีเพียงใด เจ้ากรรมนายเวรของเขาพอจะเอาไปได้เอาไปเลย วันที่หลวงพ่อท่านจะกลับพุ่มพวงได้ออกจากห้องไปกราบและรับพรหลวงพ่อท่านด้วย

    เมื่อพวกเราเจอกันอีกหลายๆคนก็คุยถึงผีพุ่มพวง และหลายคนได้ทำบุญให้พุ่มพวงด้วย ผีพุ่มพวงจึงมีฤทธิ์มีกำลังสามารถไปไหนๆ ได้คล่องตัวหลอกคนก็ได้ หนังสือพิมพ์ลงข่าวทุกวัน ข่าวใหญ่ตัวโตด้วย ขณะที่เขียนนี้เป็นวันที่ 26 มิถุนายน 2535 ยังมีข่าวว่า "เก็บศพพุ่มพวงแฟนเพลงนับแสนร่วมไว้อาลัย ชวนเป็นประธานสวดมนต์ทุกเสาร์ แพทย์ยันติดเชื้อฉับพลัน ส่วนมรดกยังตกลงกันไม่ได้"

    ข้าพเจ้ากลับถึงบ้านปากเกร็ดแล้ว มีเพื่อนลูกอุ๋ยไปที่บ้านคุยถึงพุ่มพวงอีก ข้าพเจ้าว่ามีฤทธิ์แล้วทีนี้หลอกเก่งใครนึกถึงไปหาได้ คืนนั้นอุ๋ยลูกสาวข้าพเจ้าก่อนนอนสวดมนต์ว่าคาถาชินบัญชรหลายจบ แล้วแผ่ส่วนบุญให้พุ่มพวง คืนนั้นเองรู้สึกเหมือนครึ่งฝันครึ่งผีอำ เห็นพุ่มพวงเข้าไปหาบอกว่าคนนี้ไม่ค่อยสบาย แล้วเอามือลูบที่หน้าอุ๋ย 3 ที คล้ายๆช่วยรักษาให้ อุ๋ยไม่สบายจริงๆกำลังกินยา หมอรักษาอยู่ อุ๋ยบอกว่าไม่รู้สึกกลัวเลย ทีนี้หายกลัวผีพุ่มพวงแล้ว



    (จากหนังสือบันทึกของชาโดว์ เล่ม 5 หน้า 18)


    poompuang_2.jpg
     
  9. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,844
    กระทู้เรื่องเด่น:
    110
    ค่าพลัง:
    +225,701
    2a.jpg

    เรื่องถูกผีหลอก

    (เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2538 ท่านพระครูปลัดอนันต์ พทฺธญาโณ ได้เดินทางไปจังหวัดจันทบุรี เนื่องในงานบรรจุกระดูกคุณสมบูรณ์ เวสารัชชานนท์ ซึ่งเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อ ในการไปครั้งนี้ได้มีประสบการณ์ของชีวิต ท่านนำมาเล่าสู่กันฟังดังต่อไปนี้)

    ไปจันทบุรีมาก็ผีหลอก เดี๊ยวเล่าเรื่องผีหลอกให้ฟังหน่อย หลอกจริงๆ

    "เป็นยังไงหรือครับ"

    หลอก โอ้โฮ ความจริงหลอกที่วัดน่ะ ไม่กลัว รู้จักกัน แต่ที่นอกวัดนี่กลัว ขนลุกจ้าไปจ้ามา จะเล่าให้ฟัง

    ไปก็ไม่ได้ไปที่บ้านคุณสมบูรณ์นี่ งานบ้านคุณสมบูรณ์มีจริง แต่ว่าเราไปพักที่บ้านหนึ่ง บ้านนี้เขาจะมีคลองล้อมรอบบ้าน เขาเรียกว่าห้วยน่ะ ก็ปลูกกระท่อมไว้ในสวน สวนเงาะ สวนทุเรียน ปลูกกระท่อมพระไว้ห่างๆกัน พระธุดงค์อย่างนี้น่ะ ทีนี้ไปก็เอากลดไปด้วย ไปถึงก็ไปเลือกที่มันลับตาคน ที่มันเงียบๆ หน่อย อยู่ท้ายคลอง เจ้าของเขาก็พาไปส่ง บอกหลวงพี่ ต้นกล้วย 3-4 ต้นนี่น่ะเป็นร้อยปีแล้ว หมายความว่าคงจะเป็นหน่อเป็นต้นๆ ก็อยู่ตรงนี้ เป็นร้อยปีแล้วนี่คือกล้วยตานี

    เราก็รับปากเขาแล้วว่าจะอยู่ตรงนี้ จะถอนกลดก็ไม่ใช่ที่ ก็ต้องมีศักดิ์ศรี เอ๊ะ ผีวันนี้มันจะหลอกกูหรือเปล่าวะนี่ (หัวเราะ) ทีนี้ก็ตอนเย็นเข้าไปอาบน้ำเสร็จก็เข้าไปสวดมนต์เสียก่อน เดี๊ยวดึกมันจะขี้เกียจสวด สวดมนต์สวดอะไรให้พงให้พร เมตตัญจะ สัพพโล ก็สวดกันหมดแล้วใช่ไหม ว่าไม่ได้ทำอะไรนะ มาแค่อาศัยภาวนาแค่นั้นเอง ถ้าจะมีความดีบ้างก็ขอให้โมทนา ขออาศัยหลับนอนแค่ 2-3 คืน สวดเสร็จสัก 2 ทุ่มก็ไปคุยกับเจ้าของบ้าน สามทุ่มครึ่งก็กลับมานอน พอเปิดประตูก็เข้ากลด รูดซิป แล้วก็สวดมนต์นิดหน่อยก็นอนเลย

    นอนไปสัก 15 นาทีได้ พวกมาทุบข้างฝาเลย "ปังๆๆ" พอมาทุบปังๆๆ เราก็เฮ้ย ใครวะ ทีนี้ตื่นมาเลย พอใครวะ มันยังทุบปังๆๆ อีก เฮ้ยใครวะ เงียบ พอเงียบเราก็นึกแล้ว ผีล่อกูแล้ววันนี้ (หัวเราะ)

    คือธรรมดาปรกติเจ้าของบ้านเขาจะไม่มาทุบเจ้าอาวาสนี่ ใครมาทุบข้างฝาเรียกล่ะ พระไปด้วยกันเขาก็ไม่มีใครมาทุบข้างฝาเรียกหรอก เขาต้องเรียกเฉยๆ นี่ทุบข้างฝานี่ ตื่นแล้วมันยังทุบอีก แหม พอนึกว่า โอผีล่อกูเข้าแล้วนี่หว่านี่ ขนลุกจ้า ลุกขึ้นไปขึ้นมา เฮ้ย นี่มันกลัวผีนี่หว่านี่ เราก็รูดซิปออกไปเดินดู เขามีไฟเหมือนกัน ใครๆไม่มี ขนก็ลุกกลับไปกลับมา เอ๊ะ ผีหลอกกูจริงๆ นี่หว่านี่

    เราก็สำรวจตัวเราว่าเราทำผิดอะไร ทำผิดอะไรวะนี่ ผีถึงหลอก มันขนลุกแล้ว มันดึกแล้วนี่ ก็เงียบน่ะ มันอยู่ในป่า จะเรียกใคร จะไปหาใครก็น่าเกลียด ใช่ไหม พระก็ปักอยู่ห่างๆกัน

    ผลสุดท้ายก็แข็งใจเข้ามุ้งนอน เอ๊ กูทำอะไรว๊ะ อ๋อ ประตูนี่เขามีฝาแผงน่ะ มันไม่ได้ใส่กลอน เราไม่ปิดประตู เราเข้านอนเลย เปิดประตูปั๊บก็เข้ามุ้งนอน อ้อ ตามพระวินัยเขาเรียกเป็นอาบัติ ผิดพระวินัยอยู่ข้อหนึ่ง นอนไม่ปิดประตู

    สมัยพระพุทธเจ้าพระนอนไม่ปิดประตู ผู้หญิงขึ้นหา เอ้าจริงๆ นะ ไม่ใช่เรื่องตลก มันมีผู้หญิงขึ้นหานี่เกิดอาบัติกันขึ้นมา นี่เรานอนมันไม่มีใครขึ้นหา เขาทุบประตูอยู่ข้างนอก ไอ้เราก็อ๋อ นี่เราผิดเองนี่หว่านี่ เรานอนไม่ปิดประตู นี่เป็นความผิดของเราเอง เราก็นึกขอบคุณท่านนะ ที่เตือนเราน่ะ ผีนี่รู้วินัยมากกว่าเราอีก เรารู้เหมือนกันแต่ลืม เรียกว่าผีช่วย

    ทีนี้พระอาจารย์ไปเยอะนี่ พระอาจารย์ไปเยอะที่นี่ อาจารย์พลตรีศรีพันธ์ ก็ไป อาจารย์น้อย กานดาก็ไป พวกอาจารย์ใหญ่ทั้งนั้น ไอ้จิตรลาดานี่ไป โอ้โฮ พวกเซียน พวกอาจารย์ทั้งนั้นนี่ จอมยุทธทั้งนั้น ก็ดูกันสิ

    "หลวงพี่สีเขียวป๋อเลย" เราบอกสีเขียวอะไร ใบไม้หรืออะไร "ไม่ใช่ สไบสีตองอ่อนนี่" อ้อบอกไม่มีอะไรหรอก ไม่ได้ทำอะไร แต่เราก็หวาดเหมือนกัน ไม่ใช่พูดให้มันตลกนะ ขนมันลุก แสดงว่ามันกลัวแล้วละ

    คืนหลังสวดมนต์ใหญ่เลย คืนแรกก็สวดแล้ว ภาวนาเรื่อย กลัวผีหลอกอีกเที่ยวหนึ่งที่จริงผีนี่ก็ช่วยได้ เพราะความกลัว สังเกตดูไม่ต้องใคร ทุกคนน่ะ ถ้ากลัวปั๊บมันจะภาวนา เราเคยฝึกกันบ้างนี่นะ ภาวนากันผี พระเขาถึงบอกว่า ถ้าเราปักกลด ไปไหนก็ตามเถอะ ถ้ามันชินที่ให้ย้าย อย่าไปอยู่จนชินที่เดี๋ยวมันไม่กลัว ไม่กลัวแล้วการภาวนามันจะน้อย ถ้าไปกลัวๆ สักหน่อยสังเกตดูเหอะ ที่วัดเคยสวดบทเดียวนะ พอไปบทนี้ดี บทนู้นดี ต้องสวดมาก เอ้ามันจริงๆนะ มันต้องสวด

    เมตตัญฯ นี่ไม่ได้ขับผีหรอก แต่ว่าเป็นการขออยู่ สมัยพุทธกาลที่หลวงพ่อสอนว่า ผีก็หลอกสมัยพุทธกาลเหมือนกันนี่ เทวดา รุกขเทวดาที่รักษาต้นไม้อยู่ เขาเห็นพระอยู่ข้างล่าง เขาอยู่ข้างบน เขาก็กลัวว่า เอ๊ะ จะมาอยู่นานเกินไป การอยู่ของเราจะไม่สะดวก คือเกรงใจพระสงฆ์ จะทำยังไงถึงจะไปไวๆ ก็มาทำหลอกนู่นบ้างหลอกนี่บ้าง อะไรบ้างอย่างนี้ พระก็ปักกลดแล้วถอนไม่ได้นี่ จำเป็นจะต้องอยู่ พออยู่หนักเข้าผีมันก็หลอกอยู่นั่นแหละ หลอกกันจนชินหรือไงก็ไม่รู้

    ตอนหลังๆ ออกพรรษามากราบพระพุทธเจ้า "เป็นยังไงสบายดีไหมไปธุดงค์"

    ไม่สบายพระพุทธเจ้าข้า ผีหลอกตลอดพรรษา

    "เธอไม่ได้เอาอาวุธไปเหรอ"

    ไม่ได้พกปืนไป ไม่ได้เอาอาวุธไปเหรอ อาวุธคืออะไร เมตตัญจะ สัพพโล สวดบทนี้

    ถ้าสวดบทที่สัตว์อะไรต่ออะไรไม่กัด ไม่ปองร้ายก็ วิรูปปักเขฯ

    วิรูปักเขหิ เม เมตตัง เมตตัง นี่สมัยก่อนหลวงพ่อบอก ไปสวดยังไงไม่รู้ พระเขาสวดมนต์เย็น สวดมันคงจะเฮี้ยนจัดหรือไงไม่รู้ วิรูปักเขหิ เม เมตตัง เมตตังๆๆ นี่ ลงอย่างนี้นะ ท่านบอกว่าผีเต้นอยู่บนยอดไม้น่ะ เต้นเหยาะๆๆ อยู่ ท่านเล่าให้ฟังนะ เต้นไปตามจังหวะ จังหวะไม่เหมือนเขา

    นี่เกิดปักกลดธุดงค์รุ่นที่แล้วนี่ สวดไม่ได้ โพยไม่ได้เอาไป เอ๊ะ กูว่ากูใส่ย่ามมาแล้วโพยไม่เห็นมาเลย (หัวเราะ) ก็สวดไม่ได้ มดตะนอยลองคาถาเข้ามาในกลด มดตะนอยมันมีเยอะในป่าเรา ไอ้มดตะนอยพอถูกตัวจะต่อย อยู่เฉยๆไม่ต่อย ถ้าถูกตัวต่อยเลย ต่อยแป๊กเราก็เออ มันคงไปไหนแล้ว ถูกอีกแป๊ปอีก ทีนี้ตาสว่างเลย มึงต่อยกุเหรอไอ้นี่ ไฟฉายต้องหาตัวให้ได้ พอจับได้ต้องเอาผ้าจับมัน ไม่งั้นมันต่อยทั้งคืน เราไม่ได้หลับหรอก วันหลังพกโพยมาอย่างดี ใส่ย่ามกลัวจะลืม (หัวเราะ) รูดซิบให้แน่น

    ฉะนั้นบทสองบทนี่ไปหัดสวดกัน ถ้าจะธุดงค์นะ


    หลวงพ่อพระราชภาวนาโกศล(อนันต์ พทฺธญาโณ)

    (จากคำบอกเล่า ธัมมวิโมกข์ สิงหาคม 2538 หน้า 91-93)

    IMG_20180310_091054.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 พฤศจิกายน 2020
  10. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,844
    กระทู้เรื่องเด่น:
    110
    ค่าพลัง:
    +225,701
    ยันต์มงกุฏพระพุทธเจ้า.jpg

    ปล่อยผีเป็นอิสระ


    สามีภรรยาชาวไต้หวันคู่หนึ่งมาทำมาหากินที่เมืองไทย สามีนอกใจภรรยามีความทุกข์มาก ลูกน้องพาไปสำนักหนึ่งให้สะเดาะเคราะห์ให้ เขาช่วยแก้แล้วให้เอารูปใบหนึ่งติดตัวไว้ตลอดจะช่วยได้ ต่อมามีทุกข์อีกแก้ทุกข์ได้บ้าง สุขบ้างทุกข์บ้างจนหมดเงินไปมากมาย

    เมื่อต้นเดือน กรกฏาคม 2537 ภรรยาชื่อเพ็ญจะไปฝึกมโนมยิทธิที่บ้านสายลมโดยคุณบุษบาพาไปพบข้าพเจ้าก่อน จึงบอกให้ไปนั่งคอยชั้นบนแล้วจะไปสอนให้พร้อมกับคนอื่นๆ ปรากฏว่าเธอทนอยู่ไม่ได้ปวดเมื่อยไปหมด ซ้ำหูได้ยินเสียงไล่ออกไปมึงออกไปนะ ออกไปๆ จนต้องกลับบ้านก่อนจะถึงเวลาสมาทานพระกรรมฐาน ผีไล่

    อีกประมาณ 10 กว่าวันโทรปรับทุกข์และเล่าเรื่องให้ฟัง ข้าพเจ้ารู้เห็นขณะพูดโทรศัพท์ว่าที่ตัวเขามีผีตายโหงผู้ชายบังคับหรือคุมตัวเขาอยู่ เขาจึงบอกว่ามีรูปใบหนึ่งคนทรงให้เอาติดตัวไว้ บอกว่าจะช่วยหรือแก้ทุกข์ได้ ข้าพเข้าจึงบอกให้ทำสังฆทานให้ผีเจ้าของรูปพันบาท ให้สร้างปราสาททองคำพันบาท แล้วฉีกรูปนั้นทิ้งหรือเผาไฟไปเลย เธอบอกไม่กล้าทำจึงบอกให้ไปทำที่วัดท่าซุง ตอนเข้าพรรษาอีกไม่กี่วันนี้ แล้วเอารูปให้ข้าพเจ้าๆจะจัดการให้

    วันทำบุญเข้าพรรษาคุณเพ็ญไปกับแม่และหลานซึ่งมาจากไต้หวัน จัดการทำบุญเจาะจงให้ผีเจ้าของรูปโดยเฉพาะตามที่บอกไว้ ข้าพเจ้ารับรูปมาจัดการ ดูแล้วมันเห็นเป็นกระโหลกคนตากลวงโบ๋ ถ้าดูปรกติจะเป็นรูปอะไรบอกไม่ถูกหน้าคนก็ไม่ใช่ ข้างหลังมีตัวหนังสือ 2-3 ตัว เป็นหนังสือขอม ข้าพเจ้ารับมาด้วยใจมั่นคงทำอะไรเราไม่ได้เราทำดีให้เขาพ้นจากสภาพผีลำบาก ถูกบังคับให้ทำชั่วบ้างดีบ้างแล้วแต่หมอผีจะสั่ง พวกผีลำบากสัมภเวสีผีตายโหง ผู้ที่มีฤทธิ์สามารถเลี้ยงแล้วบังคับได้ ถ้าได้รับส่วนบุญมาพอมีฤทธิ์ก็จะหลุดพ้นจากอำนาจหมอผีได้ (เคยเขียนไว้ในบันทึกชาโดว์ เล่ม 1 เรื่องพบหมอผีเขมร)


    เมื่อผีเจ้าของรูปได้รับส่วนบุญที่คุณเพ็ญทำให้ก็โมทนาบุญได้ แล้วข้าพเจ้าให้บุญของข้าพเจ้าที่ทำมาแล้วทั้งหมดอีกด้วย จึงเป็นเทวดาพ้นอำนาจมืดนั้น ข้าพเจ้ารับรูปมาแล้วไปเลี้ยงพระเพลที่หอฉันริมน้ำซึ่งมีต้นโพธิ์ใหญ่และศาลพระภูมิเล็กๆอยู่ติดหอฉันทางที่ลงไปแพเลี่ยงปลา เอารูปนั้นไปฝากไว้กับต้นโพธิ์ จะฉีกทิ้งเขาอัดพลาสติกแข็ง จะเผาก็จะประเจิดประเจ้อมากไป บอกให้ผีลำบากซึ่งกลายเป็นเทวดามีฤทธิ์แล้วให้ช่วยคุ้มครองคุณเพ็ญผู้มีพระคุณด้วย ถ้าไม่เกินวิสัยที่จะช่วยได้


    เมื่อท่านพระครูปลัดอนันต์ไปฉันเพล ข้าพเจ้าไปเอารูปให้ท่านดูเพราะท่านทราบเรื่อง ได้บอกท่านที่เขาค้อแล้ว ท่านว่า อ๊ะ ! จะเอาผีมาใส่หรือไง ท่านดูแล้วเอาไปไว้ที่เก่ายังไว้ในผ้าที่ห่มต้นโพธิ์จะได้ไม่มีใครเห็น ข้าพเจ้าถวายเพลแล้วกราบลาท่านพระครูเจ้าอาวาส บอกท่านว่าท่านเป็นประกันให้โยมแล้วนะท่าน รีบลุกไปเลย เป็นอันว่าปลอดภัยหมดเรื่อง ขึ้นชื่อว่าผีใครจะไม่กลัว จริงไหมท่าน

    วันนั้นคุณเพ็ญให้หลานชายอายุประมาณ 5-6 ขวบ มาไหว้ข้าพเจ้าๆ ลูบหัวเด็กแผ่เมตตาแล้วว่าคาถามงกุฏพระพุทธเจ้า คือ "อิติปิโส วิเสเสอิ อิเสเส พุทธะนาเมอิ อิเมนา พุทธะตังโสอิ อิโสตัง พุทธะปิติอิ" ขอให้เป็นเด็กดี


    หลวงพ่อท่านเคยบอกข้าพเจ้า 20 ปีกว่าแล้วว่า ถ้าเป่าหัวใครให้ว่าคาถาบทนี้ นึกขอให้เขาดีแบบไหนก็จะเป็นแบบนั้น

    ข้าพเจ้าทำมาเรื่อย เป่าหัวหมา หัวแมว หัวเด็ก ผู้ใหญ่ ถ้ามีโอกาสจะว่าบทนี้ วันนั้นเมื่อลูบหัวเด็กไต้หวันจิตรู้ว่าเด็กคนนั้นเคยเป็นลูกคุณเพ็ญในชาติปัจจุบันนี้ด้วยซึ่งตายเมื่ออายุขวบกว่าๆ ชาตินี้เกิดเป็นลูกน้องสาว ถามว่านิสัยเหมือนชาติก่อนไหม ? ตอบไม่ได้เพราะตายอายุน้อยมาก จึงบอกนิสัยปัจจุบันนี้ให้ว่าชอบทำอะไร ชอบกินอะไรมาก คุณเพ็ญส่งภาษาไต้หวันถามไปแล้วก็แปลเป็นไทยให้ข้าพเจ้า บอกว่าถูกทุกอย่าง แม่เก่าพ่อเก่าเมื่อพบเด็กคนนั้นจะนึกรักเป็นพิเศษกว่าเด็กคนอื่น และพ่อชาติก่อนจะมองเด็กทำท่าแปลกๆ

    เป็นการยืนยันได้เลยว่าคนหรือสัตว์มักจะติดที่อยู่ ตายแล้วก็มักจะเกิดใกล้ๆที่เดิมเป็นญาติเกี่ยวพันกันไม่ห่าง เหมือนพระเดชพระคุณหลวงพ่อท่านเกิดช่วยประเทศไทยมาแล้วหลายชาติอย่างที่พวกเราทราบๆกัน และพวกเราก็เกิดเป็นคนไทยมานับชาติไม่ถ้วนเหมือนกัน ชาติสุดท้ายนี้แล้วก็จงทำดีเพื่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์บ้างตามโอกาสอำนวยให้ เช่นเราปลูกป่าต้นไม้ถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องจากจะครองราชย์ครบ 50 ปี ในปี 2539 พวกเราก็ได้ไปทำแล้วเป็นต้น


    สวัสดี

    ชาโดว์

    30 กรกฏาคม 2537


    (จากหนังสือบันทึกของชาโดว์ เล่ม 5 หน้า 81)


    opiopy.jpg
     
  11. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,844
    กระทู้เรื่องเด่น:
    110
    ค่าพลัง:
    +225,701
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 เมษายน 2018
  12. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,844
    กระทู้เรื่องเด่น:
    110
    ค่าพลัง:
    +225,701
    1w111wre.jpg

    เรื่อง ตั้งศาล

    "เรื่องที่ว่าไปจันทบุรี เขาว่าตั้งศาลอะไร อยากจะฟังครับ"

    ที่นี่น่ะใครไปก็ว่าแรง เจ้าของบ้านที่เขาอยู่นี่ เขาว่าเป็นที่วัดเก่า โบสถ์วัดเก่า อะไรอย่างนี้ ใครไปดูก็ว่า โอ้โฮ ที่แรงมากอะไรต่ออะไร เราก็ไม่ค่อยรู้เรื่องอยู่แล้ว ทีนี้ก็ให้เจ้าของเตรียมตัวมาปีหนึ่ง อาจารย์โน้นก็ว่าอย่างโน้น อาจารย์นี้ก็ว่าอย่างนี้ เขายังไม่เคลียร์ เขาก็มาปรึกษาเรา เราก็บอกเออๆๆ ถ้าไปวันนี้แกก็ตั้งศาลได้ แต่เราไม่เป็นเรื่องเป็นราวอะไรหรอก

    ที่นี้เขามาขอจดที่ตั้งศาลเป็นยังไง ทำยังไง บอกเอาอย่างนี้ก็แล้วกัน ตะวันออกมันขึ้นตรงไหนแกชี้ให้ดูซิ เขาก็ชี้ให้ดู เราก็บอกตั้งแต่นี่ไปนี่ 90 องศานี่ ระหว่างนี้ตั้งได้หมด หันหน้าไปทางทิศตะวันออก ซ้ายมือก็หันไปทางทิศเหนือใช่ไหม เขาก็ทำพิธีตั้ง ไปหาพระบรรจงนั่นเจ้าพิธี เจ้าพิธีเรื่องตั้งศาล เราไม่ได้ติดตาม หลวงพ่อพูดอะไรเราไม่ได้ตามนี่ พระนี่มันมีไม่เหมือนกัน องค์นี้สนใจเรื่องวัตถุมงคล องค์นี้สนใจเรื่องพิธีกรรม เขาจะถามเขาจะจำของเขา เราไม่สนใจอะไรเลย มันไม่จำ ทีนี้ก็เรื่องตั้งศาลก็บอก เอ้า ไปหาพระบรรจงนะ พระบรรจงก็ไปด้วย เข้าไปคุยกัน ก็ให้จด เขาก็ทำกันไป

    ทีนี้ก็เกิดจะตั้งศาลขึ้นมา เราก็บอก เออ พี่แดง มาบ้านคนนี้นะ เขาไม่เชิญแต่ฉันเชิญมา บอกอยากให้พี่แดงมาจัง แต่ไม่รู้ เกรงใจพี่แดง เพราะเขาเป็นผู้ใหญ่นี่ ก็บอกฝากเขาไป เชิญโยมน้อยด้วย พวกผู้ใหญ่ไป พวกบริวารก็มากันหมดสิ ลูกศิษย์หลวงพ่อก็มา

    เช้าตั้งศาลพอตั้งศาลปุ๊บ พระบรรจงเขาก็ให้เอาพระพุทธรูปองค์ปฐมให้ไปไว้ในศาล พวกคณาจารย์เราก็ เอ กูไม่เคยเห็นสักทีวะนี่ มันจะอุตตริอะไรวะมาตั้งศาลมีพระพุทธรูปอยู่ในศาลนี่ วิจารณ์กันละสิทีนี้ โอ้โฮ พอเราวิจารณ์ปุ๊บ เจ้าของบ้านเขาก็ต้อง เอ๊ะ จะเอาพิธีกรรมไหนกันแน่ เขาก็ชักใจคอไม่ดีใช่ไหม เราก็บอก จงๆ มานี่ มาคุยกับพวกคณาจารย์เสียเลย มาอธิบายให้เขาฟังเสียก่อน

    พระบรรจงเขาก็อธิบาย เขาบอกว่าตั้งศาลนี่ ถ้าที่ไหนแรง ถ้าคนภายในทำไม่ดี ไม่เคารพสถานที่นี่มันจะทำให้วิบัติ เขาก็ว่าอย่างนั้น แต่ถ้าเอาพระพุทธรูปไปไว้ในศาลเสียแล้วนี่ เทวดาหรือพรหมก็ต้องเกรงใจ ก็ต้องไหว้ ไปไหนก็ปกปักรักษา ทีนี้ก็อธิบายความกันไป คณาจารย์ก็บอกผมไม่เคยเห็นหลวงพ่อทำสักทีนะ บอกพระพุทธรูปมาไว้ในนั้นนะ อากาศเทวดาก็ดี ภุมมเทวดาก็ดี รุกขเทวดาก็ดี ก็ต้องเคารพ ต้องไหว้ต้องรักษา เป็นพระพุทธเจ้านี่ จะเกเรก็ไม่ได้ เพราะพระพุทธเจ้าอยู่ในพื้นที่นี้ พูดก็พูดกันไป พอพูดไม่ทันขาดคำเลย ฝนปรอยเม็ดลงมาเป็นละอองมา บอก จง โม้เบาๆหน่อย พอแล้วพอ บวงสรวงได้แล้ว (หัวเราะ) พระบรรจงก็จะโม้ต่อไปอีก ผมทำมาแล้วนะที่เชียงใหม่นี่ กู้เขามาสองล้านแปดล้านนี่ภายในสองสามเดือนหมดเลยหนี้ เราบอกหมดอะไร หมดตัวหรือหมดหนี้ (หัวเราะ) บอกหมดเลย หมดหนี้เลย

    พอไปบวงสรวงพระอาจารย์ก็ดูละสิ อาจารย์ใหญ่ทั้งนั้นนี่ อาจารย์น้อย อาจารย์แดง อาจารย์จิตลดา คนนู้นก็ว่าพระมา พรหมมา เทวดามา เท่านั้นเท่านี้ เจ้าของบ้านก็ชื่นใจหน่อย เลยรอดตัวไป จบกัน เรื่องจะเป็นยังไงก็เรื่องข้างหน้าใช่ไหม เจ้าของบ้านเขาไหว้หรือเปล่า ก็เป็นเรื่องของเขา

    เรื่องตั้งศาลต้องเอาอาจารย์ใดอาจารย์หนึ่ง เพราะมันมีหลายครูนี่ ทีนี้ก็ไปโคราช ไอ้บ้านนี้จะถวายเงินหลวงพ่อตั้งแต่นานนมมาแล้ว ไม่ได้ถวายสักที บ้านแตกสาแหรกขาด อย่าไปเอาลงหนังสือนะเดี๊ยวเขาจะอ่านเจอเข้า ไอ้ผัวก็ไปมีเมียน้อย เงินก็มี ลูกก็ไปอยู่คนละที่คนละทาง ทีนี้เราไปฉันเพลที่โคราช ก็แวะเข้าไปดู ศาลพระภูมิอยู่ทิศตะวันตกจริงๆ

    จำไว้ถ้าบ้านใครศาลพระภูมิอยู่ทิศตะวันนตก หลวงพ่อบอกไม่เกิน 2 ปี 2 ปีแรกจะให้ผลดี หลังจาก 2 ปีแล้วจะฉิบหายตายโหง ทิศตะวันตกนะ

    ทีนี้เราก็ เอ เขาก็ตั้งทิศตะวันตกจริงๆตรงเลย อาจารย์ไหนมาตั้งก็ไม่รู้ พระบรรจงเขาก็บอกว่า โยม พรุ่งนี้ฉันมาละก็ เอาผ้าขาวใส่พานนะ เชิญพระภูมินี่ เชิญพระภูมิท่านออก เราก็บอก จง เชิญพระภูมิท่านออกนี่จะเอาท่านไปไว้ที่ไหน แล้วจะเอาเทวดาไปไวที่ไหนล่ะ ก็ตอบ ไม่ได้ไปไว้ที่ไหน (หัวเราะ) เชิญใส่พานแล้วจะไปไว้ที่ไหน เราก็ต้องรีบขึ้นรถ เดี๊ยวจะไปขัดคอพวกเดียวกันวงแตก ใส่พานแล้วไม่รู้จะไปไว้ที่ไหนดี เทวดา แบกไปได้เหรอ

    ไอ้เรื่องพวกนี้โยมเขาจะมาถามอะไรล่ะ ใครเขาจะมาซัก เราต้องซักพวกเราก่อน ก็ปล่อยให้เขาคุยไป จะไปไว้ไหนก็ช่างเขา เราก็ขึ้นรถ รุ่งขึ้นไปเขาสวดถอนกันใหญ่ เขาไม่เอาเราเข้าไป เพราะเดี๊ยววงแตก (หัวเราะ) สวดถอนกันเพียบไปหมด บอกเออๆ ไปทำกันเถอะ เราไม่ต้องไป สวดถอนย้ายของเก่า เราก็ไม่ค่อยรู้พิธีกรรม เราก็ซักอยู่นั่นแหละ เขาไปตั้งกันเรียบร้อยแล้ว เป็นยังไงก็ไม่รู้

    "แต่ว่าที่แน่ๆ คือตะวันตกนี่ห้ามเด็ดขาดนะครับ"

    เฉพาะบ้าน แต่ว่าวัดนี่ต้องทิศตะวันตก

    หลวงพ่อพระราชภาวนาโกศล(อนันต์ พทฺธญาโณ)

    (จากคำบอกเล่า ธัมมวิโมกข์ สิงหาคม 2538 หน้า 93-35)

    11951515_466782916832499_6366543007523179220_o.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 เมษายน 2018
  13. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,844
    กระทู้เรื่องเด่น:
    110
    ค่าพลัง:
    +225,701
    00.jpg

    เสาร์ขึ้น 5 ค่ำ

    วันเสาร์ที่ 22 กันยายน 2554 ทีวัดท่าซุงมีฝึกมโนมยิทธิเต็มกำลัง 2 วัน วันเสาร์กับวันอาทิตย์ ตอน 6 โมงเย็น เสาร์ขึ้น 5 ค่ำมีพิธีพุทธาภิเษกที่ในโบสถ์ คนเต็มบริเวณหมด ข้าพเจ้าเห็นว่าคนเต็มไม่มีที่นั่งเลยชวนแก้ว เอ๋ จี๊ดและอีก 4-5 คนขึ้นไปนั่งบนหน้าประตูโบสถ์ เพื่อจะให้คนอื่นนั่งที่เราแทนได้ มีสวดอิติปิโสฯ พร้อมกันทั้งพระและฆราวาส

    ข้าพเจ้าดูว่าพระที่ท่านมาท่านอยู่แบบไหน เ
    ป็นว่าสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าลอยอยู่บนสุด ถัดลงมาพระปัจเจกพระพุทธเจ้ามีมากกว่าพระพุทธเจ้า ต่ำลงมาเป็นพรหม มีมากกว่าพระปัจเจกพุทธเจ้า ต่ำลงมาหน่อยเทวดานางฟ้ามีมากกว่าพรหม ล่างสุดมีผีมีเทวดานางฟ้าเยอะ นั่งติดๆ คนก็มีแน่น พวกสัมภเวสี เปรต อสุรกายก็มี ดูไกลๆ แบบพระเจดีย์คือบนเล็กล่างใหญ่แบบเจดีย์ เพิ่งจะเห็นและได้ความรู้วันนั้นเอง วันอื่นๆ ไม่เห็นแบบนั้น เพิ่งจะวันนั้น
    5_5.jpg
    00000000000000000000.jpg

    สวดมนต์เสร็จนั่งสมาธิต่ออีกจึงดูแบบไกลๆ ภาพออกมาแบบเจดีย์ไม่รู้ว่าผิดหรือถูก คนโบราณท่านทำอะไรมีเหตุมีผล เย็นนั้นแสงสว่างมากเป็นทางยาวแบบรุ้งและแบบร่มคันใหญ่ปกคลุมได้ทั้งประเทศ เป็นว่าที่กรุงเทพฯสมเด็จพระสังฆราชและพระผู้ใหญ่ก็มีพิธีสวดมงคลคุ้มครองประเทศชาติด้วย เพราะเป็นวันเสาร์ขึ้น 5 ค่ำ ถือว่าเป็นวันสำคัญมากๆ วันช๊อกโลกเพิ่งจะเกิด


    วันช๊อคโลกที่เครื่องบินบินชนตึกเวิลด์เทรดที่นิวยอร์คและเพนตากอนที่วอชิงตัน กำลังห่วงว่าสงครามจะเกิดทั่วโลกเพราะพวกเรียกว่าสงครามศักดิ์สิทธิ์ ไทยเราก็ศักดิ์สิทธิ์ทำพิธีป้องกันภัยแบบของเรา จงช่วยกันไหว้พระสวดมนต์แผ่ส่วนบุญค้มครองป้องกันภัยสงครามให้ไทยรอดพ้นอันตรายด้วย พลังจิตที่ดีมากๆ ช่วยคุ้มครองได้นะ ไทยเราจะปลอดภัยเพราะศาสนาพุทธจะอยู่จนสิ้นอายุศาสนาพุทธ ใครทำเป็นช่วยกันทำให้มากๆ เป็นพิเศษหน่อย แบบที่ว่าทำดีผีคุ้มครอง ขอให้คุ้มครองทั่วไปหมด สำหรับคนดี คนชั่วเป็นไปตามเวรกรรมของเขาเอง เราไม่ยุ่งด้วย คิดเป็นทำเป็นอยู่ในร่องรอยที่ดี บางวัดไม่มีการสอนธรรมะเลย วัดเงียบแต่พระดังตามข่าวหรือหน้าหนังสือพิมพ์ อยากให้ทุกคนช่วยกันเสียสละ เห็นแก่ชาติบ้านเมือง บันเทิงหรือบาร์ผับถ้าไม่จำกัดเขตกำจัดเวลา สังคมจะเสื่อม ศาสนาเสื่อมด้วย ถ้าทำจิตสะอาดจะเป็นผู้รู้ ผู้ตื่นเป็นลักษณะธรรมควบความเป็นจริง รู้ละอะไรได้ ไม่รู้จักวางเฉยจะเดือดร้อน


    บริสุทธิ์ด้วยปัญญายากง่ายอยู่ที่เราเป็นผู้เลือกทำ ทำแต่ความดีง่าย อริยทรัพย์ผลจะติดตามดีตลอด สงบนิ่งแบบรู้ดีรู้ชอบ ให้รู้แจ้งในธรรมะให้มีสติรู้ อาศัยเหตุปัจจัยทำให้หมดสังโยชน์และมีบารมี 10 ครบ มีสัจจะรู้ตามความเป็นจริง เว้นเหตุแห่งทุกข์ ต้องมีศรัทธาก่อนถึงจะทำให้มีความสุข แล้วทำตามบุญมากจะถูกทาง ถ้าบุญน้อยหรือไม่มีบุญจะรู้ผิดทาง ทุกข์กายเข้าใจง่าย ทุกข์ใจเข้าใจยาก ต้องปฏิบัติเองเข้าใจเอง รู้เอง ทำเอง

    เมื่อสมัยก่อนข้าพเจ้านึกว่าผีปั้นคนได้เก่งมาก ไม่เหมือนกัน บุญก็ไม่เท่ากัน เดี๋ยวนี้รู้แล้วว่าเป็นเพราะจากกรรมเวร ธรรมชาติสถานที่ที่ไปเกือบทั่วโลกก็ไม่เหมือนกัน ผีก็ไม่เหมือนกัน คนรูปร่างหน้าตาอวัยวะไม่เหมือนกัน ธรรมชาติมีภูเขา ต้นไม้ แผ่นดิน แม่น้ำ ฯลฯ ไม่เหมือนกันอีก สวยไปแห่งละแบบ ต้องทำได้ฌาน 4 เป็นพระอนาคามีถึงจะเรียกว่านิโรธสมาบัติ ถ้าไม่เป็นอนาคามีขึ้นไป หรือไม่ถึงฌาน 4 เรียกฌานสมาบัติ คิดเองทำเอง คิดเป็นทำเป็น คิดใหม่ทำใหม่ การจัดระเบียบสังคม อดพูดถึงการเมืองไม่ได้ ก็เพราะเราอยู่ในบ้านเมืองด้วย ม.ท. 1 ปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์มีชื่อว่า ปุๆ ยิงเป้า บางฉบับเรียกไม้บรทัด ทำตามกฏหมายที่มีอยู่ นายกทักษิณจะทำประเทศชาติไปได้ดีถึงไหน ขอให้ดีจริงๆ ตามที่ประชาชนกำลังชื่นชมกันมาก ขอให้เจริญๆ ยิ่งขึ้นไปเถอะ

    บุญคุณต้องทดแทนแค้นต้องอภัยนะท่าน ถึงจะถูกต้อง ไม่ใช่แค้นต้องชำระ กรรมชั่วที่เขาทำไว้ชำระเขาเอง

    ดูน้ำป่าน้ำท่วมทลายบ้านเมืองยับเยินนั่นก็เพราะตัดไม้ รุกขเทวดาอยู่เยอะรู้ว่าผิดยังทำอีก กรุงเทพฯ เราไม่มีใครตัดไม้ใหญ่น้ำเลยไม่ท่วม คิดแบบเด็กๆ ปัญญานิ่ม หลับตานอก ตาในกำหนดดูอยู่กับจิตภายใน รักษาจิตอย่าให้เสื่อม กาลเวลาพิสูจน์คนมีน้ำยาน้ำอดน้ำทนตั้งมั่นขนาดไหน อย่าเป็นม้าตีนต้นๆ ปลายๆ แย่ ทุกอย่างทำได้ด้วยปัญญา

    ทำอะไรย่อหย่อนมักได้ผลน้อย แบบมีบุญน้อยอธิษฐานขอมักจะไม่สำเร็จ

    เมื่อวันศุกร์ขึ้น 4 ค่ำที่ 21 กันยายน ตอนเย็นๆ เดินจงกรมแบบเล่นๆ ที่วัดท่าซุง ไม่ให้ใครรู้ พบกลุ่มหมาให้พรเขา เขาเป็นสัตว์มีบุญมากนะเฝ้าของสงฆ์ จงเอาบุญฉันไปให้หมดแล้วหาทางพ้นเกิดด้วยนะ อย่าเห่าอย่าเสียงดังคน เขามาทำบุญกันทั้งนั้นเดี๋ยวจะเป็นบาป เขานิ่งฟังมีนกเอี้ยงเกาะบนเสาไฟร้องดังไม่เห็นตัว บอกออกมาให้ดูหน่อย เขาออกมาเกาะที่สายไฟ คุยกับนกหน่อยเดินไปที่เขากองทรายหินเยอะแยะ จะซ่อมใต้ถุนศาลาวัด นึกดูวัตถุนี่เปลี่ยนซ่อมแซมให้แข็งแรงต่อไปอีก นึกถึงตัวเองไม่รู้จะเอาอะไรเปลี่ยนซ่อมได้เหมือนใต้ถุนศาลาก็ดี พบพระที่วัดท่าซุง 3 องค์ยืนอยู่ทางขึ้นศาลา 3 ไร่ เลยคุยกันเรื่องการบำรุงซ่อมแซมวัด ว่าวัตถุยังซ่อมเป็นได้ คนนี่ซ่อมไม่ได้ แก่ก็ต้องแก่ เอาอะไรมาเปลี่ยนให้หนุ่มไม่ได้อีก ทนเอา ! มีพระองค์หนึ่งถามถึงหนังสือเลยบอกวิธีเขียนให้ มีขึ้ผึ้งสีปากหลวงพ่อเอาป้ายปากก่อนถ้าไม่ลืม แล้วเขียน นึกอะไรได้เขียนไป ดีชั่วอย่างที่เห็น

    ขณะที่พระนั่งทำพิธีในโบสถ์ เสาร์ขึ้น 5 ค่ำ นอกโบสถ์ฆราวาสนั่งทำสมาธิกันเต็มหมด ข้าพเจ้าเห็นเป็นแสงขาวใหญ่มากแบบร่มกางกันแดดกันฝนแต่ยอดแหลม ร่มสีขาวใหญ่แบบคลุมทั่วไปหมดเลย ประเทศไทยคงไม่มีภัยอันตรายใดๆ นอกจากเศรษฐกิจตกไปบ้างเท่านั้น ถ้าไม่ขี้เกียจไม่มีทางอดอาหาร วันนี้ตอนเย็นเห็นในทีวีมีการให้นักเรียนนั่งสมาธิกัน ขยันทำบุญเข้าประเทศชาติจะได้พ้นภัย ตัวเราเองจะมีความสุขเด็กวัยรุ่นหันมาทางทำสมาธิกันมากแล้วนะ เห็นแล้วดีใจ ไทยรอดจากภัยสงครามแน่ หมายถึงสงครามอาวุธนะ

    มีสมาธิอะไรๆ ก็ดีหมด เรียนหนังสือ แข่งกีฬา ทำอะไรๆ ก็ต้องมีสติมีสมาธิคุมทั้งนั้น ดูจากนักกีฬาในทีวีเขาจะทำใจสบายๆ ก่อนแสดงเสมอ

    คุมจิตไม่ผิดธรรม อบรมจิตวิปัสสนาอย่าเผลอสติ ถ้าสติไม่ดีเหมือนไฟเป็นทุกข์กัดกินชีวิตให้หายนะ คนบ้ามีสติไหม ดูสิ่งรอบกายแล้วน้อมให้เข้ามาทางธรรมะเข้าไว้ ต่อไปจะชินเอง เก่งต้องหมดทุกข์จริง โง่ไม่เก่งไม่หมดทุกข์จริงต้องเกิดอีก ไม่ทำบาปทำชั่วทั้งปวง ทำความดีให้เป็นคุณ ทำใจให้ผ่องใส ทำสมาธิวิปัสสนาไม่ว่าร้ายไม่เบียดเบียนกัน ถือศีล ทำสมาธิ มีปัญา เห็นแจ้งตามชำระจิตใจให้สะอาด


    (จากบันทึกของชาโดว์ เล่ม 7 หน้า 20-23)

    321812_3153565960915_1318149757_3087894_1079094045_o.jpg 323355_3144771621062_1318149757_3083114_1674388007_o.jpg
     
  14. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,844
    กระทู้เรื่องเด่น:
    110
    ค่าพลัง:
    +225,701
    เอาตามความเห็นส่วนตัวนะครับคุณกิตติคุณก็หาตี่จู้เอี๊ยะมาตั้งให้ถูกทิศในห้องคอนโดซิครับ

    ส่วนเรื่องผ้ายันต์ฯใส่กรอบผมเชื่อว่าโดยปรกติทั่วไปศิษย์วัดท่าซุงเขามักจะเอามาบูชาพร้อมพระบูชาจากวัดท่าซุงมาไว้ที่บ้านเสมออยู่แล้วทั้งผ้ายันต์พิชัยสงครามหรือผ้ายันต์เกราะเพชรหรือทั้งสองอย่าง
     
  15. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,844
    กระทู้เรื่องเด่น:
    110
    ค่าพลัง:
    +225,701
    936401FB-6361-40E2-8A2E-00F347D1B5CD_zpsbhsyguqf.jpg

    โทษเจ้าที่

    ผู้ถาม : กราบเท้าหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง เนื่องจากที่บ้าน ภรรยา…คุณแม่ของลูก ไม่ทราบว่าเป็นเพราะเหตุใด ปัจจุบันนี้มีแต่เรื่องไม่ค่อยดีอยู่เสมอ แต่ลูกมีความรู้สึกทางจิตว่า นี่เป็นเพราะเจ้าที่ท่านทำโทษอย่างแน่นอน ดังนั้นก็ไม่มีทางจะแก้ไขได้ ขอคำแนะนำจากหลวงพ่อได้โปรดสงเคราะห์ด้วยเถิดเจ้าข้า

    หลวงพ่อ : ไปโทษเจ้าที่ท่าน อะไรๆ ก็โทษเจ้าที่ท่าน โทษเทวดาบ้าง…โทษผีบ้าง…โทษพระบ้าง…สะดวกดี !

    ผู้ถาม : แต่ท่านก็ไม่เถียงนะครับ

    หลวงพ่อ : ไม่เถียง…แต่จะเอาเรื่องในเวลาตายน่ะซิ ไปรวมบัญชีไว้ตอนนั้นน่ะซิ ระวังให้ดีนะ…ก็รวมความว่า ถ้าเป็นเรื่องของเจ้าที่จริง เอาอย่างนี้ดีกว่า เวลาเจริญกรรมฐานก็มาทำกับเขาด้วย แล้วก็บอกครูผู้แนะนำว่า ต้องการดูเรื่องนี้ ถ้าเป็นเจ้าที่จริง เขาจะเอายังไงบ้าง ก็คุยกับเขาโดยตรง



    โทษพระภูมิ

    ผู้ถาม : ที่บ้านของลูกเมื่อประมาณ 10 ปีที่ผ่านมา พี่ชายกับพี่สะใภ้ 2 คน ไปจ้างคนทรงมาเชิญศาลพระภูมิที่บ้าน ต่อมาพี่ชายแต่งงาน พี่ชายกับพี่สะใภ้ก็ย้ายออกไป ตั้งแต่เขาไปแล้ว ที่บ้านของลูกเดือดร้อนต่างๆนานา คนนี้ตาย…คนโน้นเจ็บ ให้คนทรงเขานั่งดู เขาบอกว่า เป็นเพราะพี่ชายเอ็งไม่ได้บอกเอาพระภูมิไปด้วย พระภูมิเลยโกรธ เลยทำให้เหตุร้ายเกิดขึ้นในบ้าน ลูกอยากจะเรียนถามหลวงพ่อว่า ถ้าหากลูกไปหาพี่ชายบอกให้เอาพระภูมิติดไปด้วย แกไม่ยอมเอาไปแล้วจะทำยังไงดีเจ้าคะ…?

    หลวงพ่อ : นี่แสดงว่าพระภูมิว้าเหว่ เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน ภูมิเทวดาย้ายท่านไม่ได้ ท่านมีสิทธิ์รักษาอาณาเขตแค่ไหน…เขตไหน…ท่านทรงอยู่ ใครย้ายไม่ได้ นอกจากท้าวมหาราชจะสั่งย้าย ท่านจึงจะย้ายได้ พวกเราย้ายไม่ได้
    ทีนี้เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นกฎของกรรมตัวเองมากกว่า พระภูมิทำไม่ได้หรอก

    (จากหนังสือหลวงพ่อตอบปัญหา เล่ม 5 หน้า 17-19)

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 เมษายน 2018
  16. jj85

    jj85 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    1,754
    ค่าพลัง:
    +7,607

    ตั้งไม่ได้หรอกครับ พอดีพื้นที่คอนโดไม่มากพอด้วยครับ แล้วตี่จู้ปกติตามศาสตร์เค้าไม่ตั้งบนคอนโดกันนพครับเพราะต้องติดพื้นดินหรือใกล้ชิดกับพื้นดินตามศาสตร์ฮวงจุ้ยการตั้งตี่จู้นะครับ
     
  17. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,844
    กระทู้เรื่องเด่น:
    110
    ค่าพลัง:
    +225,701
    ตี่จู้ ตี่จู่เอี๊ย ( ศาลเจ้าที่จีน ) ตามหลักฮวงจุ้ย


    ตี่จู้ เจ้าที่จีน เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ิ์ที่คนจีนในไทยนิยมตั้ง เพื่อให้เกียรติและแสดงความเคารพต่อ เจ้าที่
    การตั้ง ตี่จู้เอี้ย ศาลเจ้าที่จีน จะต้องพิจารณา 4 องค์ประกอบดังนี้

    ชัยภูมิ - ตี่ลี่
    • ตี่แปลว่าดิน จู้แปลว่าเจ้า ดังนั้น ตี่จู้ ต้องติดดินจึงจะมีพลัง
      หากยกฐาน ฐานนั้นต้องเป็นดินหรือหินและทึบตัน
      ตี่จู่เอี๊ยะ ตั้งได้เฉพาะชั้นล่าง คอนโดที่สูงกว่าชั้นหนึ่งไม่ต้องตั้ง ชั้นดาดฟ้าไม่มีความหมาย
    • ศาลพระภูมิ คือ เจ้าที่ ( ภูมิ - ดิน ) มีความหมายและการปฏิบัติเช่นเดียวกัน
      พระภูมิ ต้องอยู่ติดดิน
    • ศาลพระพรหม ( มาจากสวรรค์ ) สามารถตั้งบนดาดฟ้าได้

    นำบทความส่วนหนึ่งมาจาก http://www.fengshuitown.com/fengshui/fengshui-tip-shrine-tee-chu.htm

    ......................................................................................................................................

    ตั้งศาลพระภูมิเอง

    ผู้ถาม : พวกลูกๆ จะตั้งกันบ้างนี่ ขอบารมีหลวงพ่อช่วยแนะนำบ้างครับ

    หลวงพ่อ : พวกนี้ช่วยเก็บบารมีไว้ซิ ทำไง…เอายังงี้วิธีง่ายๆ ใช้ เทปบวงสรวงใช้ได้นึกเอาตามนั้นนะ

    อันดับแรก จุดธูปเทียน อาราธนาบารมีพระพุทธเจ้าก่อน ทีหลังก็เปิดเทป แล้วน้อมใจไปตามเสียงนั้นนะ ในเทปนั้นเขาอัญเชิญท้าวมหาราชทั้ง 4 มี ท้าวธตรฐ ท้าววิรุฬหก ท้าววิรูปักษ์ ท้าวเวสสุวัณ พร้อมด้วยอินทกะและบริวาร ขอมาช่วยคุ้มครอง ว่าเรื่อยเฉื่อยไปก็แล้วกัน แต่ว่าถ้าจะตั้งแบบนั้น ยังมี ปลาแป๊ะซะ 1 ตัวเติมนะ เรื่องของพระภูมิพอจะใช้ได้นะ ตั้งไว้เยอะแล้ว”

    ผู้ถาม : หลวงพ่อครับ หลังจากวันตั้งแล้วนี่นะครับ ปลาแป๊ะซะจะมีถวายอีกไหมครับ ?

    หลวงพ่อ : ท่านไม่ว่าหรอก เอาอย่างนี้ดีกว่า เวลาตรุษสารทนะ ถวายให้ครบถ้วนดีกว่านะ เพื่อความสบายใจของเรา คือว่าท่านไม่ทวงเราแน่ แต่เพื่อความสบายใจของเราเอง เพราะเราทำครบแล้ว ใช่ไหม…เอายังงั้นดีกว่านะ

    ผู้ถาม : ของคาวและเหล้า ก็หมายถึงว่าสมควรตั้งอย่างเดียว อย่างหลังไม่ต้องตั้งใช่ไหมครับ

    หลวงพ่อ : ถมเถิดไป ฉันก็เคยใช้ เทวดาไม่เคยต่อว่า เหล้านะ ของคาวนะมีได้แต่เหล้าไม่ควรจะมี เทวดาเขาเลิกแล้ว ไอ้ที่ต้องใช้เหล้าน่ะ เทวโด่ไม่ใช่เทวดา จริงๆนะ ฉันไม่ใช้เลยนะ

    ผู้ถาม : ถ้าสมมติจะตั้ง ควรจะหันหน้าศาลไปทางทิศไหนครับ?

    หลวงพ่อ : หันหน้าใคร

    ผู้ถาม : โอ หลวงพ่อนี่ลึกซึ้งละเอียดเหลือเกินนะ

    หลวงพ่อ : อ้าว…เดี๋ยวตอบไป ไม่ใช่ๆ หน้าผมครับ หน้าศาลหรือหน้าคน ?

    ผู้ถาม : หน้าศาลครับ

    หลวงพ่อ : หน้าศาลเขาไม่จำกัด เอาแค่เราเข้าบูชาสะดวก แต่ว่าทิศที่ตั้งศาลนี่จำกัด ที่ว่าพระภูมิก็ ไม่ควรตั้งทิศตะวันตก ถ้าตั้งทิศตะวันตกเอาจริงๆ หลวงพ่อปานท่านเคยบอกว่า ทิศนี้ฉิบหายแล้วตายโหง ฉันเคยไปพบที่จังหวัดอุทัยธานี กับจังหวัดชัยนาท เป็นความจริงตามนั้น เศรษฐีนะพังไป 2 ราย และพังในเหตุที่ไม่ควรจะพัง ไม่น่าจะพัง

    และอีกทิศหนึ่งก็ ทิศใต้ไม่ควรตั้งนะ ทิศใต้นี่ก็เป็นแต่เพียงท่านบอกว่า จะเก็บสตางค์ไว้ไม่อยู่ ทิศที่ควรตั้ง คือ ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ หรือทิศเหนือ หรือทิศตะวันออก 3 ทิศนี้นะ

    แต่ว่าถ้าบ้านมีดาดฟ้า ตั้งดาดฟ้าเลยดีกว่า สบายใจนะ

    ผู้ถาม : หมายถึงส่วนของดาดฟ้านี่นะครับ เราก็ตั้งช่วงที่อยู่ด้านทางทิศตะวันออก

    หลวงพ่อ : ใช่ๆ ให้ถูกทิศ

    ผู้ถาม : หันหน้าไปทางไหนก็ได้ ใช่ไหมครับ ?

    หลวงพ่อ : หันหน้าไม่จำเป็น หันหน้าแค่เราบูชาได้สบายนะ แต่ว่านึกถึงตำรา แต่มันก็ไม่มีตำราเขียน หลวงพ่อปานท่านเคยสั่ง ก็เลยบอกคนเขาเขียนไว้ พอถึงปีจริง มีเรื่องตัวเองก็ต้องตาย เงินทองก็เสียหายมาก เสียอย่างมากเลยนะ ไม่ใช่อย่างน้อย

    (จากหนังสือหลวงพ่อตอบปัญหา เล่ม 5 หน้า 5-7)



     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 พฤศจิกายน 2019
  18. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,844
    กระทู้เรื่องเด่น:
    110
    ค่าพลัง:
    +225,701
    DSC_0013 (4).JPG
    ตั้งศาลไว้ในบ้าน

    ผู้ถาม : ถ้าตั้งไว้ในบ้านเลยนี้ได้ไหมครับ ?

    หลวงพ่อ : ไม่เป็นไรๆ ที่คุณถามนี่ดี มีอยู่ครั้งหนึ่งที่ฉันยังตั้งศาลอยู่นะ เจ๊กที่จังหวัดอุทัยธานี แกก็นิมนต์ไปตั้งศาล พอไปถึงบ้านแล้วก็หาที่ตั้งไม่ได้ ร้านค้าในตลาดนี่นะ ด้านหลังมันชนกัน เรียกว่าเป็นห้องแถวทั้งสองด้านนะ สมัยก่อนเขามุงจาก มุงสังกะสี หลังชนกัน ข้างหลังก็มีหลังคาปิด ด้านหน้าเป็นฟุตบาทก็ตั้งไม่ได้

    พอไปถึงเข้าแล้ว ก็ปรากฏว่า ฉันก็อั้นเหมือนกัน แกถามว่าตั้งที่ไหน…ฉันก็นิ่งเขาถามว่าที่นั่นได้ไหม…ที่นี่ได้ไหม…มันก็ไม่ได้ ไปๆ มาๆ ก็ไม่มีตำราจะพลิก ก็ถามพระภูมิที่นั่นว่า จะตั้งไหนดี…นี่เขาเคารพนับถือ เขาจะตั้งศาลเป็นเครื่องบูชา แล้วก็สถานที่มันไม่เหมาะ ท่านจะเอาตรงไหน…ท่านตัดสินใจเอาหัวนอนก็แล้วกัน ได้เรื่องเลย ก็ตั้งศาลที่หัวนอน

    เมื่อเชิญเสร็จเรียบร้อยแล้ว ต่อมาเจ๊กคนนั้นก็ถูกนินทา เจ๊กคนนั้นบ้า ไม่มีใครเขาตั้งศาลในบ้าน ใช่ไหม…ตั้งไว้บนที่นอน

    พระภูมิโมโห งวดนั้นเลยให้ตานั่น ถูกล๊อตเตอรี่รางวัลที่สอง แหม…น่าโมโหบ่อยๆ นะ เจ๊กคนนั้นแกขายหมู ต่อมาเวลาบวงสรวง หัวหมูกี่หัวก็ตามแกเอาให้ฟรีหมด เวลานี้แกตายไปแล้ว ลูกชายแกทำต่อ ได้ผลแล้วก็รวยขึ้นนะ


    ก็เป็นอันว่า ถ้าจะเป็นที่ไหนก็ได้นะ ใช่ไหม…เป็นการแสดงความยอมรับนับถือกัน…ใช้ได้

    (จากหนังสือหลวงพ่อตอบปัญหา เล่ม 5 หน้า 8)
     
  19. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,844
    กระทู้เรื่องเด่น:
    110
    ค่าพลัง:
    +225,701
    Untitled-1.jpg

    ตั้งหิ้งพระในห้องนอนกลัวบาป


    ผู้ถาม : อยากเรียนถามหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง คือว่าลูกมีความจำเป็นจึงต้องทำหิ้งพระไว้ในห้องนอน แต่มีคนบอกว่าการที่ทำหิ้งพระไว้ในห้องนอนจะมีบาปมีกรรม เพราะเวลาผัดหน้าแต่งหน้าหรือนอนทำให้พระพุทธรูปกำลังใจเสีย ทีนี้จะย้ายไปก็ไม่สะดวก จะทำจิตทำใจอย่างไรเมื่อมีความจำเป็นอย่างนี้เจ้าคะ

    หลวงพ่อ : ปัดโถ่เอ๋ย ท่านมีเนื้อมีท่านยังไม่เสียเลย ดี เป็นมงคลใหญ่ไม่เป็นไร ทำตามปกติ พระพุทธเจ้าท่านว่าใครล่ะ ดิ้นเป็นเรอะ ถ้าพระพุทธเจ้าดิ้นเป็นสงฆ์ไม่เหลือแล้ว

    ดี พระอยู่ในห้องนอนน่ะดี เห็นทุกวัน ตื่นขึ้นมาก็มองเห็น ไปทำงานก็มองเห็น จิตเป็นพุทธานุสสติ อันนี้มันลงนรกไม่ได้อยู่แล้ว จะแก้ผ้าแก้ผ่อนอย่างไรก็ตามเถอะ นิมนต์พระดูด้วยก็ได้ นานๆ ที (หัวเราะ)


    ( จากหลวงพ่อตอบปัญหา ธัมมวิโมกข์ สิงหาคม 2538)


     
  20. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,844
    กระทู้เรื่องเด่น:
    110
    ค่าพลัง:
    +225,701
    เรื่อง ร.8 มาเกิด

    เออ มีข่าวอีกข่าวหนึ่ง แน่...ทีนี้ข่าวจริงข่าวดี จะเล่าถึงเรื่องหนึ่ง นี่มันมีความสงสัยของเรา แต่มันเรื่องของเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดิน ใครเกิดหลัง พ.ศ. 2489 นี่น่ะ มันก็จะสงสัยใช่ไหมเพราะเกิดไม่ทัน ร. 8 สวรรคต เกิดไม่ทันนี่ ไอ้ความสงสัยของเรา เดี๋ยว ร. 8 ไปเกิดที่นู่น เดี๋ยวร. 8 ไปเกิดที่นี่ เอ๊ะ มันยังไงกันแน่โว้ย

    เอาอย่างง่ายๆเลย หลวงพ่ออะไรนะ หลวงพ่อดาบส คนก็ว่าท่านเป็น ร. 8 อีก มันเป็นอย่างนั้น เราก็เอ๊ มันยังไงกันแน่วะนี่ เดี๋ยวร. 8 ไปเกิดทางอีสานอีกแล้ว ไม่ได้เกิดหมายความว่าท่านไม่ตาย เอาตัวไปไว้ที่นู่นที่นี่ ไอ้เรื่องนี้เขาไม่พูดกันว่าเป็นยังไงนี่ เขาว่าเป็นร. 8 ทำยังไงถึงจะเชื่อ

    ทีนี้ก็ไปงานคุณสมบูรณ์นี่ หลวงปู่วัย นี่ท่านไปด้วย ก็ไปกราบท่าน ก็คุยกัน ค่อยๆกระซิบ กลัวมันจะเอิกเกริกไป หลวงปู่ครับ จริงไหมครับ หลวงปู่วัยก็เล่าให้ฟังบอกผมก็เคยเจอเหมือนกัน ร. 8 ที่นู่นที่นี่ผมก็เคยเจอ ผมก็ถามบอกว่าท่านนี่มาอยู่เป็น ร. 8 นี่ท่านรู้ไหมว่าตอน ร. 8 ยังเป็นเด็กอยู่ครองราชย์น่ะ ใครเป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ถามไอ้คนที่เป็นร. 8 น่ะ ก็ตอบไม่ได้ พอตอบไม่ได้ ท่านก็บอกว่ามึงหยุดเสียเลยนะ เดี๋ยวกูเอาตำรวจมาลากคอเสียเลย มึงไม่รู้เหรอใครเป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ แสดงว่ามึงปลอมมาแล้วนี่ มึงไม่เลิกพฤติกรรมกูจะให้ตำรวจมาจับ กูนี่เป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ท่านว่า

    เราก็บอกหลวงปู่ครับร.8 ตายจริงหรือเปล่าครับ ไม่รู้ ตายจริงหรือเปล่าผมไม่ค่อยรู้ แต่โดนปืนตรงนี้แล้วก็ทะลุนี่ (หัวเราะ) ท่านชี้มาที่หน้าอก แล้วท่านเป็นคนแต่งพระศพ เราก็โอ๊ ไม่ต้องไปถามใครอีกแล้ว ท่านเป็นหมอนี่ สำเร็จราชการแทนพระองค์ด้วย ท่านเป็นคนแต่งศพนี่ เรื่องอื่นเราไม่พูดถึงเรื่องนี้พอว่าตายจริงแน่ ไม่อย่างนั้นก็คนก็ลือ เราก็เกิดไม่ทันใช่ไหม เดี๋ยวไปเกิดที่นู่นเดี๋ยวไปเกิดที่นี่ อุปโลกณ์กันอยู่เรื่อย นี่ท่านอยู่ในวังเองนี่ ก็เลิกไปเลยทีนี้ ไม่ต้องไปสงสัยที่ไหนแล้ว ถ้าเขาสงสัยเราก็สงสัยไปด้วย ต่างคนต่างไม่รู้ โกหกกันไปโกหกกันมาอยู่อย่างนั้นแหละ

    หลวงพ่อพระราชภาวนาโกศล(อนันต์ พทฺธญาโณ)

    (จากคอลัมภ์ "จากคำบอกเล่า" ธัมมวิโมกข์ สิงหาคม 2538 หน้า 96-97)

    11949492_524740987683895_3058297091800389914_n.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 พฤษภาคม 2019

แชร์หน้านี้

Loading...