ธรรมหลังกึ่งกลางพุทธกาลเป็นต้นไป เป็นธรรมบัวบาน จะเปิดเผยครั้งแรกในยุคนี้นะ

ในห้อง 'Black Hole' ตั้งกระทู้โดย anakarik, 12 พฤษภาคม 2016.

  1. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722
    ~ หัวใจที่เต็มเปี่ยมรัก ไม่มีที่ว่างให้ความทุกข์ ~


    ในความรักนั้น แม้ความทุกข์ก็กลายเป็นความซาบซึ้ง
    แม้น้ำตาก็กลายเป็นความว่างเปล่าจากความทุกข์

    คุณสามารถร้องไห้เท่าไรก็ได้ โดยไม่มีความทุกข์เลย
    เพราะในหัวใจของคุณเต็มไปด้วยความรัก ไม่ใช่ความทุกข์

    คุณสามารถเผชิญหน้ากับความเศร้าโศกเท่าไรก็ได้
    เพราะความรักได้ครอบครองหัวใจคุณไว้หมดแล้ว

    หัวใจของคุณไม่ได้ว่างเปล่า แต่มันบริบูรณ์ด้วยความรัก
    และมันไม่เคยมีที่ว่างให้ความทุกข์หรือความเศร้าโศกเลย

    เมื่อนั้น คุณจึงเผชิญหน้ากับความทุกข์และความเศร้าโศก
    โดยไร้ซึ่งความหวาดหวั่นพรั่นพรึง นี่คือ พลานุภาพแห่งรัก

    เมื่อนั้น คุณจึงกล้าเผชิญหน้ากับความตายได้โดยไม่หวาดกลัว
    เพราะหัวใจของคุณไม่มีที่เหลือให้ความหวาดกลัวอีกต่อไป

    ความรักส่องสว่างอยู่ในหัวใจของคุณอย่างเติมเปี่ยมบริบูรณ์
    และมันแปรเปลี่ยนความทุกข์, ความเศร้าโศกให้หมดสิ้นไป

    ~ เมื่อนั้นคุณจะโหยหาความทุกข์และความเศร้าโศก ~
     
  2. คนโง่โง่

    คนโง่โง่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2012
    โพสต์:
    483
    ค่าพลัง:
    +302
    ขอบคุณมากครับผม ไม่ต่อละเดี๋ยวยาว
     
  3. คนโง่โง่

    คนโง่โง่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2012
    โพสต์:
    483
    ค่าพลัง:
    +302
    รู้สึกน้ำตาจะไหลง่ายกว่าเดิมหรือเปล่าครับเมื่อสัมผัสอะไรซึ้งๆ :'(
    เรียกว่าอ่อนโยนซินะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 พฤษภาคม 2016
  4. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722
    ยุค "อภิญญาสาธารณะ"


    คำนี้เป็นคำที่ "หลวงพ่อฤษีลิงดำ" กล่าวไว้ครับ จริงๆ น่าจะใช้คำว่า "ฤทธิ์สาธารณะ" ก็จะตรงกว่า เพราะมันยังไม่ถึงขั้นเป็นอภิญญา มันไม่ใช่ผลที่เกิดขึ้นจากการปฏิบัติของเขาจริงๆ แต่เป็นเพราะผลบุญ คนกลุ่มใหญ่ปรารถนาอยากมีฤทธิ์ แล้วสร้างบุญกุศลมา จึงมาได้กันชาตินี้ ถามว่าคนพวกนี้เป็นใคร? ก็พวกที่ชอบปฏิบัติธรรมนี่ละ มักจะไม่รวยนะ เพราะตอนทำบุญในอดีตชาติไม่ได้หวังเอารวย แต่หวังเอาฤทธิ์เอาเดช ทีนี้ พอผลบุญออกดอกออกผลก็ทำให้เกิดฤทธิ์เดช เก่งขึ้นมาได้ ไม่ใช่เพราะผลการปฏิบัตินะ บอกแล้วเป็นผลบุญ จึงเป็นโลกียะนะ มีได้ มีเสีย เคยมีก็เสื่อมได้ อนิจจังนะ และจะได้กันเยอะเลยละ เก่งกันไปหมดเลยละ พอเก่งมากๆ เข้าก็ยิ่งมีอีโก้ มีอัตตาตัวตนนะ ต้องรอให้หมดบุญก่อน พอหมดบุญแล้ว ม่านมายาการแห่งบุญที่หลอกเรา มันก็หมดไปด้วย เขาก็จะรู้ตัวเองว่าเขายังปฏิบัติไม่ได้มรรคผลอะไรหรอก ที่ได้มามันเป็นเพราะผลบุญ

    ในยุคอภิญญาสาธารณะนี่ยังเป็นอภิญญาเล็กๆ อย่างที่บอกมันเป็นแค่ฤทธิ์ ยังไม่ใช่มรรคผลของจริง แต่พอผ่านไประยะหนึ่ง มันเริ่มมีคนที่ปฏิบัติได้มรรคผลจริงแล้ว อันนี้ หลวงพ่อฤษีลิงดำใช้คำเรียกว่า "อภิญญาใหญ่" มันจะตามมาทีหลัง อภิญญาใหญ่ก็เป็นพวกผลทางธรรมนี่แหละ ปฏิบัติแล้วได้มรรคผลจริง ไม่ใช่พวกได้เพราะผลบุญ เช่น ปฏิสัมภิทาญาณ จะเริ่มมีให้เห็น ซึ่งมันจะปนกันหมดนะ คนดูไม่ออก อย่างในอินเตอร์เน็ตเนี่ย มีงานเขียนธรรมะเยอะแยะเลย แย่งกันเขียนเต็มไปหมด คนภูมิจิตภูมิธรรมต่ำๆ ดูไม่ออกแยกไม่ได้ว่าอันไหนของจริงของเท็จ อันไหนเป็นพวกมีบุญได้อภิญญาสาธารณะ อันไหนเป็นพวกได้มรรคผลจริง อันไหนเป็นพวกใช้สมองคิด อันไหนเป็นพวกพูดออกมาจากจิตแบบเซน ฯลฯ ปนกันหมดนะ แล้วแต่เวรแต่กรรม ของจริง ของปลอมอะไร ตัวใครตัวมันละ 555 ทีนี้ คำว่า อภิญญาสาธารณะนี่ หมายความว่า ถ้าคุณมี ผมก็เอาของคุณมาได้เหมือนกัน ถ้าคุณมีหูทิพย์ตาทิพย์ คุณก็เสียให้คนอื่นได้เหมือนกัน นี่ได้เพราะผล เสียไปเพราะหมดบุญแค่นั้นเอง

    อภิญญาจึงไม่เที่ยง อนิจจัง และ "ถูกเก็บ" ได้ ถ้าใช้ไม่ถูกทางนะ
     
  5. คนโง่โง่

    คนโง่โง่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2012
    โพสต์:
    483
    ค่าพลัง:
    +302
    แต่เอาจริงๆไม่ต้องใช้อภิญญาจะดีกว่าไม่ใช่เหรอครับ ใช้แล้วเผลอๆติดเป็นนิสัยติดกรรมอีกต่างหาก ขอผู้ดูแลสมมุติน่าจะดีกว่านะครับเพราะเราไม่ต้องติดอะไร
    โชคดีที่ไม่มีอะไรซักอย่าง เอามาแค่ความเป็นมนุษย์อย่างเดียว ทำหน้าที่ตัวเองในรอบนี้เสร็จก็เหลือแต่เก็บตกตัวตนที่เหลือๆ แถมได้คุยกับท่านดอกไม้อีก โชคดีจริงๆ
    บางทีถ้าไม่ได้คุยกับท่านดอกไม้อาจจะเก็บช้ากว่าเดิมเยอะเลยครับกว่าธรรมจะเดินถึง
    ขอบคุณนะครับ
     
  6. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722
    ต่างดาวไม่มีผู้หญิง?


    ผู้หญิงมีอยู่แต่ในบางโลก เช่น โลกของเรานี้ จริงๆ แล้วเป็นสิ่งที่ถูกสร้างขึ้นมาครับ เพราะมนุษย์เดิมมีแต่บุรุษเท่านั้น พระศิวะได้ลงมาสร้างผู้หญิงขึ้นในโลกนี้ ท่านเตือนว่าผู้หญิงจะนำมาซึ่งหายนะนะ แต่ว่าโลกจำเป็นต้องมีผู้หญิงมาอุ้มท้องให้กำเนิดบุตรแล้ว เทพองค์อื่นจึงบอกว่าสร้างเถิด ท่านก็เลยต้องสร้างครับ จากนั้นมา บุรุษที่เคยรักใคร่กันดี ก็ทะเลาะกัน เข่นฆ่ากันเพื่อแย่งผู้หญิง และโลกจึงเริ่มเกิดสงครามขึ้นมาครับ เรียกได้ว่าตราบใดที่โลกยังมีผู้หญิง ตราบนั้นโลกก็จะต้องมีสงครามเป็นของคู่กัน หากย้อนกลับไปเมื่อครั้งโลกนี้ยังไม่มีผู้หญิง โลกก็ไม่มีสงคราม เรามีแต่บุรุษที่รักกัน ความรักในโลกเป็นความรักขั้นเทพแบบ "ชายรักชาย" ครับ ไม่มีใครอยากเป็นผู้หญิง และไม่มีเกย์กระเทยนะครับ เป็นความรักขั้นเทพแบบชายรักชายจริงๆ

    ทีนี้ มนุษย์ต่างดาวพวกหนึ่ง ที่ยอมลงมาเกิดในโลกนี่ก็เพราะผู้หญิงเลยครับ คือ พวกเขาอยากลองมี sex กับผู้หญิง เพราะโลกของเขา ไม่มี พวกนี้จะเกิดมาหน้าตาดีมากๆ แต่จะไม่รู้จักการมีครอบครัว จะเหมือนเด็ก (เป็นพวกต่างดาวอายุน้อยแบบเทพกุมาร) จะกลายเป็น "คาสโนว่า" มี sex ไปเรื่อยๆ ครับ นี่ต่างดาวเหมือนกันนะ และพวกเขาจะได้มีโอกาสทำแบบนั้นเต็มเหนี่ยวเลย แบบว่ารูปหล่อ พ่อรวย ค... 555 ครบสูตร คือ เกิดมาเพื่อทำแบบนี้ born to be เลยครับ เขาจะมาเรียนรู้ sex กับผู้หญิง ทำผิดประเวณี และไม่ได้กลับคืนสู่ดาวแม่ไปหลายพันปี ส่วนอีกพวกอยากมาเกิดเป็นผู้หญิง อยากรู้ว่าผู้หญิงเป็นอย่างไร พวกนี้จะเป็นกระเทยเก่ง ไม่ใช่ขี้ๆ ไม่ใช่กากๆ มีพรสวรรค์ขั้นเทพครับ อีกพวกก็คือ พวกที่จะกลับดาวแม่ให้ได้ ไม่ยอมมี sex กับผู้หญิง ก็จะยังมีรักขั้นเทพกับผู้ชายด้วยกันได้ แต่ก็ต้องระวังไม่ให้ผิดประเวณีนะครับ

    อดีตมนุษย์ไม่ได้กำเนิดจากครรภ์มารดา แต่เป็นโอปปาฏิกะครับ
     
  7. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722
    มนุษย์ต่างดาวในมุมพุทธศาสนา


    พุทธศาสนากล่าวถึงจักรวาลและโลกธาตุต่างๆ ไว้มากมาย เช่น พรหมโลกธาตุ, สุขาวดีโลกธาตุ ฯลฯ แสดงให้เห็นว่าพุทธศาสนา ไม่ได้ปฏิเสธเรื่องสิ่งมีชีวิตนอกโลก แต่กลับกล่าวถึงอย่างละเอียด เช่น ใน "สุขาวดียุวสูตร" และพระสูตรอื่นๆ อีกมากมาย ในกระทู้นี้ ชายจะขออธิบายเรื่องของ "มนุษย์ต่างดาว" จากความเข้าใจ จากประสบการณ์ และจากจิตใจข้างในของชายเอง ซึ่งบางส่วนอาจจะไม่ได้อิงตำราใดๆ ดังต่อไปนี้

    สิ่งมีชีวิตในอนันตจักรวาลนี้ สามารถเวียนว่ายตายเกิดไปสู่โลกธาตุต่างๆ ได้อย่างไม่มีจำกัด ขึ้นอยู่กับเหตุปัจจัยเช่น บุญกรรม, บารมี ฯลฯ เป็นต้น หมายความว่ามนุษย์โลกนี้จะไปเกิดพรหมโลกก็ได้ ไปเกิดสุขาวดีโลกธาตุก็ได้ ฯลฯ เขาก็จะกลายเป็นสิ่งมีชีวิตต่างดาวทันที และสิ่งมีชีวิตต่างดาวเหล่านี้ สามารถลงมาเกิดในโลกได้ ในการมาของเขาอาจมาเพื่อเรียนรู้ แต่ไม่ใช่ชาติเดียวหรือแค่หนึ่งช่วงชีวิตของมนุษย์ บางรอบของการเรียนรู้อาจมีเวลานานถึง 5,000 ปีก็มี มนุษย์ต่างดาวอาจมาเกิดในท้องมนุษย์โลกแล้วมีชีวิตอยู่แบบ "ลูกเทวดา" จากนั้นเมื่อเขาตายจากมนุษย์จะไม่ได้กลับคืนสู่ดาวแม่ แต่จะติดค้างอยู่ในโลกนี้เป็นพันๆ ปี ซึ่งการอยู่ในโลก จะต้องอยู่ "ภายใต้สังกัดของเจ้าองค์ใดองค์หนึ่ง" เช่น เจ้าแห่งสวรรค์ชั้นหนึ่ง, ชั้นสอง, ชั้นสาม หรือบางคนโชคร้าย ต้องไปอยู่กับลูซิเฟอร์ ซึ่งเป็นเจ้าแห่งโลกมืดที่กบดานอยู่ในโลกมนุษย์ จนต้องมีชีวิตที่มืดมนเหมือนลูซิเฟอร์

    จักรวาลมีสมดุลเสมอ เมื่อสิ่งมีชีวิตต่างดาวลดจำนวนลง ก็จะมีที่ว่างพอรอรับ "ผู้กำเนิดใหม่" มนุษย์จำนวนหนึ่งจะมีโอกาสได้ไปเกิดเป็นมนุษย์ต่างดาว ประจำดาวต่างๆ แล้วแต่ความสามารถจะพาไป นี่คือ การปรับเปลี่ยนหมุนเวียนกันในจักรวาล อย่าเสียใจถ้าใครไม่เชื่อวิถีแห่งการหลุดพ้นจากโลก เพราะพวกเขาจะอยู่ในโลกแทนเรา และเราจะไปสู่ดาวที่เจริญกว่า

    จงเป็นเดือนดาวที่สุกสกาวสว่างไสว ส่องนำทางโลกนี้เถิดครับ
     
  8. Higtmax

    Higtmax เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    2,342
    ค่าพลัง:
    +4,818
    คล้ายพวกพรหมเลยสินะครับ
     
  9. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722

    จะเรียกว่าคล้ายพรหม ไม่น่าจะตรง
    เรียกว่า "พรหมมาคล้ายพวกเรา"
    จะตรงกว่า เพราะอะไร?


    เพราะพรหมจำนวนมาก ได้รวบรวมธรรม
    จักรวาลเอาไว้ ธรรมจากดาวต่างๆ ไว้
    แล้วนำไปถ่ายทอด ไปสอนมนุษย์
    (มนุษย์ต่าวดาวอิื่นๆ ไม่สอนใคร)


    มนุษย์จึงถือพรหมเป็นครู
    พรหมโลกคือ ดาวครู (พฤหัส) นั่นเอง
     
  10. คนโง่โง่

    คนโง่โง่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2012
    โพสต์:
    483
    ค่าพลัง:
    +302
    เอ๋มีเซ็กไปเกี่ยวกับการกลับด้วยเหรอครับเพราะผมมองว่าเซ๊กมันก็มีส่วนดีในแบบของมัน ไว้ผ่อนคลายมันก็เหมือนธรรมตัวหนึ่งเท่านั้นเองใช้ให้ดีมันก็ดี เพียงแต่ใช้ไม่ดีมันก็เกิดทุกข์เท่านั้นเอง ก็เหมือนการใช้ x ล่อลวงคนเลวให้มาทำแต่สิ่งดีๆมันก็ใช้ได้นี่ครับแต่ต้องไปฝึกให้คล่องก่อน -0-
     
  11. คนโง่โง่

    คนโง่โง่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2012
    โพสต์:
    483
    ค่าพลัง:
    +302
    งั้นผมน่าจะพอเล่าภารกิจแบบคร่าวๆให้ท่านดอกไม้ฟังได้ ท่านน่าจะพอทราบแล้วว่าเมื่อพุทธะออกจากวัดหมายถึงอะไร หน้าที่ผมคือเก็บกวาดสถานที่ของพุทธะในอดีตให้หมด แล้วสร้างสถานที่ใหม่ให้ลูกวัดเรียนรู้ต่อไปครับ จึงต้องเก็บซัน เก็บลูซี่ ไปด้วยเดือดร้อนพระบิดาของโลกต้องคืนธาตุให้ลูซี่ ขืนออกมาทั้งอย่างนั้นแย่เลย
    อ่าความฝันนี้เป็นความลับนะครับช่องทางยังไม่ได้เปิดออกท่านดอกไม้น่าจะใช้ญานตรวจสอบได้นะครับ อ่าฝันเป็นตุเป็นตะอีกแล้ว ไม่รักไม่บอกความฝันให้ฟังนะครับนี่
     
  12. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722

    ต่างดาวกับการไม่ยึดติด คนละเรื่องกัน
    ต่างดาวมีลักษณะเฉพาะในการดำรงความเป็นตัวตน
    หรือความเป็นมนุษย์แห่งดาวนั้นๆ ไม่เกี่ยวกับการมี sex โดยไม่ยึดติด
     
  13. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722

    คนที่มาทำหน้าที่แบบนี้ก็เยอะครับ
    เพียงแต่หลายคนยังไม่ตื่นก็เท่านั้นเอง
     
  14. คนโง่โง่

    คนโง่โง่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2012
    โพสต์:
    483
    ค่าพลัง:
    +302
    ครับมันก็ไม่เชิงไม่ตื่นนะครับแต่มันเหมือนจิ้กซอ ค่อยๆประกอบทีละชิ้นๆโดยไม่ให้รู้ไม่บอกอะไรด้วย(น้อยใจตั้งหลายรอบ) แต่ต้องดำรงค์ความเป็นมนุษย์ธรรมดาให้ได้เป็นหลักโดยไม่มองว่าอดีตเป็นใคร ถ้าหลงตัวตนในอดีตก็เสร็จเลยค้างเติ่ง แถมคิดอะไรมากก็ไม่ได้ด้วย พวกนี้ไปจัดการเสร็จสรรพ เพราะรักตัวเองและรักทุกตัวตนมากพอเราปราถนาอะไรใจมันสื่อถึงกัน นี่ก็ยังไม่รู้เลยครับต้องไปทำไรต่อหรือเปล่าดันไปสร้างเกมแบบฮาร์ดคอร์เอาไว้ซะด้วย แต่ยังไม่เปิดนะครับรอประธานเปิดงานก่อน
    แต่ถือว่าโชคดีได้เรียนรู้อะไรเยอะแยะเลยมาทำงานรอบนี้ เป็นมนุษย์นี่โชคดีจริงๆนะครับ
     
  15. คนโง่โง่

    คนโง่โง่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2012
    โพสต์:
    483
    ค่าพลัง:
    +302
    ยิ่งได้ฟังธรรมท่านดอกไม้โชคดีหลายๆ ครับ
     
  16. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722

    จริงๆ ผมยังไม่ได้ธรรมบัวบานจริงๆ หรอก
    ยังต้องเรียนรู้และผ่านการทดสอบอีกมาก

    แต่ใช้ธรรมพระจันทร์ สะท้อนแสงธรรม
    จากต้นธาตุต้นธรรมของธรรมบัวบาน
    มาส่องให้ชาวโลกอีกที

    ของผมยังมีความแข็งแบบวัชระเยอะ
    เหมือนกระจกแข็ง ยังไม่เหมือนดอกไม้

    แต่ของคุณ "คนโง่โง่" นี่เข้าลักษณะธรรมบัวบานครับ
     
  17. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722
    ธรรมบัวบาน มันเหมือนไม่มีธรรม


    บางครั้ง ราบเรียบ เกินไปจนเหมือนหาอะไรไม่เจอ
    บางครั้ง นุ่มนวลเกินไป จนไม่รู้ว่าอะไรผิด จะแก้ที่ไหน
    บางครั้ง เบาสบายเกินไป จนไม่รู้ว่าจะเน้นอะไร สำคัญตรงไหน
    บางครั้ง กลมกลืนมากเกินไป จนเหมือนว่าไม่มีธรรมะ และอธรรมใดๆ


    และเพราะเหตุนี้ ผมจึงใช้ธรรมพระจันทร์ส่องสว่างให้เกิดความกระจ่างขึ้นก่อน
    และบางครั้งก็ใช้ธรรมวัชระ เหมือนกระบี่ แยกแยะและทิ่มแทงจุดสำคัญ
    เพราะชาวโลกยากที่จะเข้าใจธรรมบัวบาน จึงต้องทำแบบนี้ครับ
     
  18. มนุษย์835

    มนุษย์835 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    163
    ค่าพลัง:
    +182
    หากเกิดแบบโอปะ...แล้วไฉนเลย ยังต้องสร้างมาอุ้มท้องล่ะท่าน งงๆ
     
  19. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722

    การเกิดแบบโอปปาติกะ เป็นการเกิดได้ยาก
    ทำให้ได้มนุษย์ไม่ถึง 1% ของจิตญาณทั้งหมด
    ที่จะต้องลงมาเกิดเป็นมนุษย์ การเกิดผ่านครรภ์จะมากพอ


    ส่วนการเกิดจากไข่ จะได้มากกว่าเกิดจากครรภ์ไปอีก 10-100 เท่าครับ
     
  20. คนโง่โง่

    คนโง่โง่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2012
    โพสต์:
    483
    ค่าพลัง:
    +302
    ผมโชคดีมากกว่าครับมีผู้ดูแลอบรมสั่งสอนเยอะครับองค์ท่านแต่ละองค์ก็มีธรรมแตกต่างกัน เกิดอะไรขึ้นก็นอบน้อมไว้ก่อนครับคือผมใช้ความรู้สึกรับความรู้สึกครับ เช่นช่วงเวลาขณะธรรมกระทบกัน โดยเราเป็นผู้รู้ถ้าเราเคยใช้ธรรมใดเราก็สามารถใช้ธรรมนั้นแก้ทางได้หรือให้มันผ่านออกไปได้ถ้าเราเคยฝึกกลืนกับธรรมชาติบ่อยๆจะสบายครับ ยิ่งถ้าเรามองทุกสิ่งคือธรรม และรู้สึกจริงๆว่านั่นคือธรรม มันก็จะกลืนหรือผ่านไปเองครับ ที่ยังไม่ผ่านไปเพราะยังมองว่าเป็น มืด สว่าง ดี เลว ชั่ว เพราะเรายังแยกเป็นส่วนๆอยู่นะครับถึงได้กล่าว วางธรรมเดิมมันยากต้องค่อยๆโดนค่อยๆคลาย
    ถ้าท่านดอกไม้กล่าวว่าธรรมบัวบานเกิดจากโคลนตมก็คงเป็นอย่างที่่ท่านกล่าวเพราะว่าถ้าทำตัวเป็นเจ้าสำนักเป็นพระปฏิบัติดีชอบมีวัตรน่าเลื่อมใสคงไม่มีทางรู้ธรรมนี้ได้เลย เพราะมีแต่คนเคารพ ต้องทำตัวเป็นคนธรรมดาเป็นมนุษย์ธรรมดาที่พร้อมจะน้อมรับธรรมทุกอย่างเพื่อเรียนรู้และพัฒนาตัวเองจึงกล่าวได้ว่ายิ่งคุณรู้มากเท่าไหร่ คุณยังจะสามารถทำตัวเป็นอะไรธรรมดาได้เหมือนเดิมหรือเปล่า เพราะถ้าคุณทำตัวพิเศษคุณก็แทบจะหมดโอกาสละ
    อ่าขอโทษครับอธิบายเป็นตุเป็นตะเลย กล่าวอะไรผิดก็ขอโทษด้วยนะครับผม
     

แชร์หน้านี้

Loading...